ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ  (อ่าน 3361 ครั้ง)

ออฟไลน์ ho-mannie

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 350
เพราะอะไรถึงไม่เร่งพัฒนา  หรือว่าต้องการจะขายเครื่องสันดาปทั้งหลายให้คุ้มๆก่อน หรือยังมองว่าไฟฟ้าไม่ใช่คำตอบซะทีเดียว ดูจีนเปิดตัวเอาๆคนก็เริ่มกล้าใช้มากขึ้นเรื่อยๆ  ราคาน้ำมันก็ขึ้นเอาๆ

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,752
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 13:05:36 »
นั่นสิครับทั้งๆที่ตัวเองเริ่มไฮบริดมานานมากผลิตขายจริงเมื่อยี่สิบปีที่แล้วโน่น ถ้าจริงจังพัฒนาเป็นรถไฟฟ้าเต็มตัวตั้งปต่ตอนนั้นรถจีนไม่ได้เกิดหรอก เหมือนย่ามใจว่าไม่มีใครแย่งตลาดตัวเองไปได้
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออนไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,720
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 13:11:36 »
เพราะอะไรถึงไม่เร่งพัฒนา  หรือว่าต้องการจะขายเครื่องสันดาปทั้งหลายให้คุ้มๆก่อน หรือยังมองว่าไฟฟ้าไม่ใช่คำตอบซะทีเดียว ดูจีนเปิดตัวเอาๆคนก็เริ่มกล้าใช้มากขึ้นเรื่อยๆ  ราคาน้ำมันก็ขึ้นเอาๆ

รถไฟฟ้าหนึ่งคัน มูลค่าอยู่ที่แบตเตอรี่แทบจะประมาณ 50% ของราคารถแล้ว

มองที่ตัวแบตเตอรี่ วัตถุดิบของแบตที่ใช้เทคโนโลยีปัจจุบันมันคือแร่ธาตุ
ที่ค่อนข้างจะมีจำนวนจำกัด (ไม่ต่างจากน้ำมัน)
ผมคิดว่าตรงนี้มีประเทศที่ได้เปรียบด้านแหล่งเหมืองแร่อยู่ไม่กี่แห่ง

มีความรู้ มีเทคโนโลยี แต่ไม่มีวัตถุดิบก็จบ

ทางออกคือเร่งพัฒนาแบตแบบใหม่ที่ไม่ใช้วัตถุดิบหายาก
หรือพัฒนาพลังงานอื่นครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 03, 2023, 13:13:15 โดย Symphonic »

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,908
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 13:18:00 »
ถ้าเร่งแล้ว แบตเตอรี่ที่จีนคุมอยู่ เขาไม่ขายให้ หรือขายแพงกว่า แล้วญี่ปุ่นจะทำยังไงครับ???

ตอนเป็นน้ำมัน ตะวันออกกลางคือคนกลาง
แต่พอเป็นแบตเตอรี่แล้ว จีนคุมเบ็ดเสร็จนะครับ

จะอยู่กับที่ พัฒนาเครื่องสันดาป ก็โดนทั่วโลกตั้งค่ามลพิษไอเสียสูงปรี๊ด
จะไปรถไฟฟ้าเต็มตัว ก็สู้จีนเรื่องแบตเตอรี่ไม่ได้ ทั้งๆที่เทคโนโลยีขับเคลื่อลำๆก็ทำได้

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,012
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 13:29:08 »
เค้ากำลังพัฒนารถเครื่องยนต์ไฮโดรเจน ที่ชูจุดเด่นว่าเดิมไวกว่า และสะอาดกว่ารถไฟฟ้า
แต่จะขายแบบ Mass ในประเทศไทย ในราคาที่เอื้อมถึงได้เมื่อไหร่ อันนี้ไม่มีใครตอบได้ครับ
รถไฟฟ้าญี่ปุ่นก็มีแต่แพงครับ ราคาไปไกลเลย เร่งผลิตมาก็คงสู้จีนไม่ได้ครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,284
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 13:33:41 »
จริงๆ เขาทำแล้วนะครับ

ตัวอย่างเช่น Honda Fit EV ออกมาตั้งแต่สมัย Jazz GE แล้ว แต่ขายเฉพาะในญี่ปุ่น

หรือ Nissan Leaf เองก็ด้วย

แต่ปัญหาคือ ค่ายยี่ห้อ (ผมเดาเองล้วนๆ) คือ แบตเตอรี่ ที่ทางญี่ปุ่นเองพึ่งค่ายญีปุ่นเองอย่างยี่ห้อ Pa......

ขนาด Tesla เอง ก็ยังพึ่งพิง ยี่ห้อนี้ในแรกๆ จนทาง Tesla เอง บอกเองว่า แบตเตอรี่ค่ายนี้โตไม่ทันตลาด ผลิตไม่ทัน ทำให้ Tesla เอง ต้องมาคิดค้นแบตเตอรี่ของตัวเอง ยันมาพึ่งทาง CATL นั้นละครับ

แล้วพอ ปัญจัยหลักๆ คือ แบตเตอรี่ มันเลยทำให้เกิดคอขวดตรงนี้ เพราะ ระบบไฟฟ้า ระบบอื่นๆ รวมไปถึง มอเตอร์เตอร์เอง ไม่ใช่ปัญหา

ค่ายจีนเอง ถ้าเคยไปลอง search ดู จะเห็นว่า ยี่ห้อเกิดใหม่ ทำรถไฟฟ้า มีมากกว่า 50 ยี่ห้อ แต่เหลือรอดมาเป็นยูนิคอนประมาณ 10 กว่ายี่ห้อเอง ทั้งที่ รัฐเขาอุดหนุนอุตสาหกรรมนี้เต็มที่

จุดแข็งของค่ายจีนเองเขาคือ แบตเตอรี่ และ วัตถุดิบ ครับ ที่ Tesla และ ค่ายยุโรป ยังต้อมาพึ่งพิง

คหสต.ล้วนๆ นะครับ หาสาระไม่ได้

ออฟไลน์ หมับเข้าให้

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 443
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 13:35:25 »
ส่วนตัวคิดว่ายังพัฒนาไม่นิ่งครับ

ถ้าปล่อยขายแล้วมีปัญหา เสียชื่อหมดครับ

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,393
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 13:58:53 »
แบต ที่รถจีนใช้อยู่มันล้าสมัย ทำไปได้อีกไม่นาน ก็ต้องเปลี่ยน
ก็เลยยังพัฒนาแบตใหม่กันอยู่

ทำก่อน ขายก่อน โดนด่าก่อน
ทำทีหลังแต่ยั่งยืน ตามประสาญี่ปุ่ง

ออฟไลน์ Zephyrs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 915
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 13:58:55 »
ตามที่ด้านบนบอก รถถ่านมันคือมอเตอร์ติดถ่านเหมือนทามิย่า
ไอตัวมอเตอร์ไม่มีปัญหา ผลิตกันได้สบายอยู่แล้ว แต่ตัวแบตเนี่ยแหละตัวปัญหา
และเป็นตัวปัญหามานานมากแล้ว

ที่จีนไปได้เร็วกว่าส่วนนึงเพราะตัวเองเป็นเจ้าของเหมืองและเป็นไม่กี่ที่บนโลกที่มีวิทยาการเรื่องนี้สูง
และรัฐบาลก็ส่งเสริมอย่างมากด้วย (แทบจะเรียกว่าเทเงินทิ้งเลยมั้ง)
ในขณะที่น้ำมันยังมีการต่อรองกันได้เพราะหลายประเทศ/หลายกลุ่มคุม
แร่ลิเธียมมีแค่จีนที่มีทั้งเหมืองและวิทยาการการผลิต (เทียบกับน้ำมันก็เหมือนมีทั้งบ่อทั้งโรงกลั่น)
ญี่ปุ่นจะทำอะไรก็ยาก และด้วยวัฒนธรรมที่โคตรอนุรักษ์นิยม
ระหว่างทุ่มสุดตัวไปเรื่องรถไฟฟ้าแล้วโดนจีนเอาเปรียบ (ก็ผูกขาด) จนเสี่ยงขาดทุน แถมยังต้องแข่งกับรถจีน
หรือทำรถน้ำมันพ่วงไฮบริดไปเรื่อยๆ รอจนวิทยาศาสตร์ทั้งเรื่องแบตหรือพลังงานอื่น Breakthrough ได้
ผมว่าก็ไม่แปลกนะที่เขาจะไปแบบหลังกันหมดน่ะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังไงมนุษย์ก็ต้องพึ่งพาน้ำมันเป็นพลังงานหลักไปอีกนานแสนนาน
ไม่ว่าพลังงานสะอาดอันไหน (ลม/แสงแดด) ยังไงก็ต้องเก็บไว้ในแบตก่อนจะไปใช้อยู่ดี

ออฟไลน์ Level Zero

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 768
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 14:08:05 »
ญี่ปุ่นทำมานานแล้วครับ และก็ส่งขายไปทั่วโลกนานแล้วด้วย แบรนด์ TAMIYA

TheRealMeaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 15:12:37 »
ผมยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นะ...

หลายท่านที่กำลังสงสัยเกี่ยวกับประเด็นนี้ ได้ซื้อรถ BEV ไม่ว่าจากชาติไหนก็ตาม มาขับแล้ว หรือว่าพร้อมที่จะออกไปซื้อพรุ่งนี้เลยไหมครับ?

เรื่องรถ BEV จากค่ายจีน ในตอนนี้มันเป็นทางเลือกที่ดีกว่าแล้วจริง ๆ หรือว่าความสนใจมันเกิดขึ้นจากกระแสในสื่อพูดถึงกันเยอะ?

คนที่ซื้อรถจีนเหล่านี้มา เขาพร้อมที่จะซื้อคันที่ 2 ต่อไป ในสัดส่วนตอนนี้มีกี่เปอร์เซ็น? มีใครเคยทำวิจัยหรือยัง?

และในเมื่อแทบทุกบริษัทมีนโยบายรักษาความลับภายในกันอย่างเข้มงวดมาก ท่านทราบชัวร์แล้วเลยเหรอครับว่าตอนนี้ R&D ค่ายรถต่าง ๆ ทำอะไรกันอยู่?

ถ้ารถค่ายญี่ปุ่นเจ๊งหายไปหมดทุกบริษัท ชีวิตของพวกเราทุกคนจะแย่ลง หรือว่าดีขึ้นเหรอครับ?

ในความเห็นของผม มองว่าคำถามต่าง ๆ เหล่านี้ สำคัญกว่าว่าเมื่อไหร่ญี่ปุ่นจะขายรถ BEV อย่างจริงจังนะครับ

ออฟไลน์ Magl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,560
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 16:06:34 »
รถไม่ได้ผลิตยาก มอเตอร์กับแบตเตอรี่ คือส่วนหลัก หากหมดยุคน้ำมันจริงๆก็คงไม่ยาก แต่แบตเตอรี่ยังมีข้อจำกัด ถ้าวิ่งได้ไกลกว่านี้ ชารจ์เร็วกว่านี้ น่าจะผลิตจริงจัง

ออฟไลน์ Ty ESC

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,787
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 16:12:29 »
ที่ไม่ทำเพราะทำไม่เป็นครับ

คือแค่ทำให้วิ่งได้นะทำได้ แต่มำให้ดีให้แข่งขันได้ มันยังทำไม่ได้

ใครบอกว่า รถไฟฟ้าแค่ เอาเคร่องออกใส่มอเตอใส่ถ่าน นี่ผิดแล้ว

หลายๆคนตกม้าตายมาก็เรื่องนี้แหละ ไม่ใช่แค่ เครื่องใช้ไฟฟ้า มันเป็นองความรู้ใหม่นะครับ

ปรับจูนยังไง ให้มันได้ แข่งขันได้ ดูที่เทสล่า ขับได้ ระยะมากกว่าเค้า แรงกว่สชาวบ้าน มันไม่ใช่จู่ๆก็ทำได้นะ

มันผ่านการทำใาเปนสิบปี ปรับกระบวนการออกแบบและผลิต ให้มันได้สิ่งเหล่านี้

ถ้าวันนี้ ยังไม่เริ่มหรือเพิ่งเริ่ม มันก็ไม่ได้ตามทันกันง่ายๆนะครับ


ออฟไลน์ axister

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,214
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 17:08:15 »
ทั้งเรื่องค่าแบต และ know how น้อยกว่าครับ เนื่องจากไม่ได้เน้นพัฒนาเรื่องนี้

เดาล้วนๆ อาจจะเพราะ toyota เคยจับมือกับ tesla เมื่อนานมาแล้ว คาดเดาว่ารถไฟฟ้าไปไม่รอดแน่ๆ ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง เลยไม่มี r&d เรื่องนี้เลยทำให้ญี่ปุ่นล้าหลัง เพราะค่ายอื่นๆก็คงเชื่อพี่โตกันหมด

ต่างจากจีนที่เอารถญี่ปุ่นมา reverse engineering เป็นสันดาปแล้วเน่าแล้วเน่าอีก แต่ก็ทำ r&d ด้านไฟฟ้าไปด้วย และด้วยความซับซ้อนที่มันน้อยกว่า ICE ทำให้เกิด รวมถึงในประเทศก็มีแร่ที่ทำแบตเยอะด้วยครับ

อย่าง leaf เองที่มีการทำผมว่าหลักๆก็มาจากการที่ nissan จับมือกับ renault เพราะในยุโรปให้ค่าเรื่องพลังงานสะอาดมากกว่าเยอะครับ เพราะถึงจะมีโมเดลไฟฟ้า แต่ก็ไม่ได้ขายดีในญี่ปุ่นเลย รถน้อยมาก กลับกันในยุโรปมีทั้ง leaf และ zoe ได้เห็นทั่วไปในเมืองมาเป็น 10ปีแล้วครับ

ส่วนที่ชอบบอกว่าญีปุ่นมีรถไฟฟ้ามานานแล้ว ผมงงตรรกะนี้หน่อยๆ ก็เค้ามีแต่เค้าไม่ได้เน้นขายอะครับ จะด้วยเหตุผลไม่ได้ด้วย economy scale คืออะไรก็ตามก็คือเค้าไม่ได้ขาย ไม่ใช่เอารุ่นเดียวผลิตมาปี 1998 ที่มีมาเทียบกับทุกรุ่นที่จีนทำออกมามันก็ปะหลาด พอบอกญี่ปุ่นทำดีไม่เท่าจีนก็จะกลายเป็นติ่งรถจีนเฉย

สำหรับตอนนี้ผมว่าเค้าเร่งแล้วนะ แต่เค้าไปได้ไวสุดเท่านี้แหละครับ เพราะว่าเพิ่งเริ่ม ในขณะที่ค่ายยุโรปทะยอยจับมือกับจีนเพื่อแชร์ know how ญี่ปุ่นเค้าคงอาจจะ originate ขึ้นมาเองมั้ง เลยยิ่งช้าเข้าไปใหญ่


ผมว่า ยานยนต์ disrupt ยากกว่าพวกเครื่องใช้ไฟฟ้ากับอิเล็คทรอนิกนะ แต่ถ้าเทรนด์มันมาแล้วญี่ปุ่นไม่ขยับเลยจริงๆ ก็จะเหมือนอย่างว่าจริงๆครับ เพราะตอนนี้อิเล็คทรอนิกของจีนเองหลายๆอันก็คุณภาพดีกว่าญี่ปุ่นแล้ว

ยกตัวอย่างไฟฟ้าจำแลงพวก hrv / ux / chr ที่เป็นรถไฟฟ้าเหมือนถูกข่มขืนมายัดแบตกันโต้งๆ สภาพออกมาก็อย่างที่เห็นอ่ะครับ วิ่งได้น้อยสมรรถภาพต่ำ

ขนาด bz4x ที่เกิดมาเป็นรถไฟฟ้า effiency ยังโหลยโท่ยหนัก (แต่ก็ฟังเค้ามายังไม่มีโอกาสได้ลองเอง)

ส่วน ux ไปลองเช่าขับใน evme ได้ครับ ถ้าไม่นับหัว chademo ที่หัวชาร์จแทบจะไม่มีให้เสียบแล้ว ความแรงก็ถือว่างั้นๆสำหรับรถไฟฟ้า แบตพร่องจากที่แจ้งแบบสุดๆ mini-e ยังขับได้มากกว่าเลย

ถ้าตาม timeline toyota ผมว่า 2025 คงได้เห็นคันจริงๆซักอันนะครับ เพราะ lexus IS จะออกไฟฟ้าปีนั้น ส่วนตอนนี้ก็มีตัวที่จับมือกับ byd bz3 มาขายไปก่อน แต่คงไม่เข้าไทยหรอกครับ ราคาทำยาก อย่าง seal เองผมว่าเข้ามายังเหนื่อย เพราะโดนเทียบกับ tesla จังๆ วันไหน tesla ลงมาเล่นตลาด eco compact ญี่ปุ่นตุยแน่ครับถ้าขยับตัวช้ากว่านี้

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,591
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 17:26:56 »
ตอนนี้เค้าคงมองเทนด์ออกล่ะครับ หลังจากยื้อมานาน
แต่จุดอ่อนของเค้าก็อยู่ที่ ลิเทียม มันมีจำกัด และ ส่วนใหญ่ ก็อยู่ในมือของทุนจีน
เห็นtoyota กำลังพัฒนาsolid stage อยู่เห็นว่าอีกไม่กี่ปีก็ จำหน่ายได้ น่าจะแก้จุดอ่อนเรื่องเวลาชาร์ทได้ด้วยถ้าสำเร็จ ผู้บริโภคอย่างเราๆน่าจะได้ประโยชน์ ครับ

ออฟไลน์ KTN88

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,214
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 17:43:50 »
ทั้งเรื่องค่าแบต และ know how น้อยกว่าครับ เนื่องจากไม่ได้เน้นพัฒนาเรื่องนี้

เดาล้วนๆ อาจจะเพราะ toyota เคยจับมือกับ tesla เมื่อนานมาแล้ว คาดเดาว่ารถไฟฟ้าไปไม่รอดแน่ๆ ด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง เลยไม่มี r&d เรื่องนี้เลยทำให้ญี่ปุ่นล้าหลัง เพราะค่ายอื่นๆก็คงเชื่อพี่โตกันหมด

ต่างจากจีนที่เอารถญี่ปุ่นมา reverse engineering เป็นสันดาปแล้วเน่าแล้วเน่าอีก แต่ก็ทำ r&d ด้านไฟฟ้าไปด้วย และด้วยความซับซ้อนที่มันน้อยกว่า ICE ทำให้เกิด รวมถึงในประเทศก็มีแร่ที่ทำแบตเยอะด้วยครับ

อย่าง leaf เองที่มีการทำผมว่าหลักๆก็มาจากการที่ nissan จับมือกับ renault เพราะในยุโรปให้ค่าเรื่องพลังงานสะอาดมากกว่าเยอะครับ เพราะถึงจะมีโมเดลไฟฟ้า แต่ก็ไม่ได้ขายดีในญี่ปุ่นเลย รถน้อยมาก กลับกันในยุโรปมีทั้ง leaf และ zoe ได้เห็นทั่วไปในเมืองมาเป็น 10ปีแล้วครับ

ส่วนที่ชอบบอกว่าญีปุ่นมีรถไฟฟ้ามานานแล้ว ผมงงตรรกะนี้หน่อยๆ ก็เค้ามีแต่เค้าไม่ได้เน้นขายอะครับ จะด้วยเหตุผลไม่ได้ด้วย economy scale คืออะไรก็ตามก็คือเค้าไม่ได้ขาย ไม่ใช่เอารุ่นเดียวผลิตมาปี 1998 ที่มีมาเทียบกับทุกรุ่นที่จีนทำออกมามันก็ปะหลาด พอบอกญี่ปุ่นทำดีไม่เท่าจีนก็จะกลายเป็นติ่งรถจีนเฉย

สำหรับตอนนี้ผมว่าเค้าเร่งแล้วนะ แต่เค้าไปได้ไวสุดเท่านี้แหละครับ เพราะว่าเพิ่งเริ่ม ในขณะที่ค่ายยุโรปทะยอยจับมือกับจีนเพื่อแชร์ know how ญี่ปุ่นเค้าคงอาจจะ originate ขึ้นมาเองมั้ง เลยยิ่งช้าเข้าไปใหญ่


ผมว่า ยานยนต์ disrupt ยากกว่าพวกเครื่องใช้ไฟฟ้ากับอิเล็คทรอนิกนะ แต่ถ้าเทรนด์มันมาแล้วญี่ปุ่นไม่ขยับเลยจริงๆ ก็จะเหมือนอย่างว่าจริงๆครับ เพราะตอนนี้อิเล็คทรอนิกของจีนเองหลายๆอันก็คุณภาพดีกว่าญี่ปุ่นแล้ว

ยกตัวอย่างไฟฟ้าจำแลงพวก hrv / ux / chr ที่เป็นรถไฟฟ้าเหมือนถูกข่มขืนมายัดแบตกันโต้งๆ สภาพออกมาก็อย่างที่เห็นอ่ะครับ วิ่งได้น้อยสมรรถภาพต่ำ

ขนาด bz4x ที่เกิดมาเป็นรถไฟฟ้า effiency ยังโหลยโท่ยหนัก (แต่ก็ฟังเค้ามายังไม่มีโอกาสได้ลองเอง)

ส่วน ux ไปลองเช่าขับใน evme ได้ครับ ถ้าไม่นับหัว chademo ที่หัวชาร์จแทบจะไม่มีให้เสียบแล้ว ความแรงก็ถือว่างั้นๆสำหรับรถไฟฟ้า แบตพร่องจากที่แจ้งแบบสุดๆ mini-e ยังขับได้มากกว่าเลย

ถ้าตาม timeline toyota ผมว่า 2025 คงได้เห็นคันจริงๆซักอันนะครับ เพราะ lexus IS จะออกไฟฟ้าปีนั้น ส่วนตอนนี้ก็มีตัวที่จับมือกับ byd bz3 มาขายไปก่อน แต่คงไม่เข้าไทยหรอกครับ ราคาทำยาก อย่าง seal เองผมว่าเข้ามายังเหนื่อย เพราะโดนเทียบกับ tesla จังๆ วันไหน tesla ลงมาเล่นตลาด eco compact ญี่ปุ่นตุยแน่ครับถ้าขยับตัวช้ากว่านี้

ของ Toyota ผมเดาว่าจากประเด็นที่โดนตัดขาให้เลิกขาย BEV ไปเมื่อปี 2000 ต้นๆ ที่โดนบริษัทน้ำมันไปครอบครองสิทธิบัตรแบตแล้วฟ้องให้เลิกขายน่าจะเป็นประเด็นที่ว่า ตราบใดที่ยังไม่มีสิทธิบัตรแบตเป็นของตัวเองเค้าคงจะไม่ผลิตขายจริงจัง

ส่วนตัวผมเข้าใจในมุมของบริษัทนะ แต่ในมุมผู้บริโภคผมก็มองว่าจนวันนี้ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอันมันก็คือสายเกินไปแล้ว

ออนไลน์ Fragile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 492
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 18:42:23 »
ถ้าเปรียบเทียบรถ EV เป็นหุ้น
ญี่ปุ่นก็ตกรถแล้วครับ เพราะมองธุรกิจพลาด
ไม่ยอมลงทุน เพราะคิดว่ามันจะไม่โต

ออฟไลน์ Buffy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,507
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 18:52:18 »
ไม่รู้ เดาเอาน่าจะหัวโบราญ เหมือน k car ที่ขายในประทศเท่านั้น อะไรทำนองนั้น

ออฟไลน์ seeker

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,533
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: สิงหาคม 03, 2023, 19:45:06 »
ผมยังคิดว่ายอดขายรถ bev มี mkt share 50% เมื่อไหร่ รถญี่ปุ่นที่เป็น bev ก็มีขาย

ตอนนี้ bev มี mkt share เท่าไหร่แล้วครับ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,284
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2023, 09:55:58 »
ที่ไม่ทำเพราะทำไม่เป็นครับ

คือแค่ทำให้วิ่งได้นะทำได้ แต่มำให้ดีให้แข่งขันได้ มันยังทำไม่ได้

ใครบอกว่า รถไฟฟ้าแค่ เอาเคร่องออกใส่มอเตอใส่ถ่าน นี่ผิดแล้ว

หลายๆคนตกม้าตายมาก็เรื่องนี้แหละ ไม่ใช่แค่ เครื่องใช้ไฟฟ้า มันเป็นองความรู้ใหม่นะครับ

ปรับจูนยังไง ให้มันได้ แข่งขันได้ ดูที่เทสล่า ขับได้ ระยะมากกว่าเค้า แรงกว่สชาวบ้าน มันไม่ใช่จู่ๆก็ทำได้นะ

มันผ่านการทำใาเปนสิบปี ปรับกระบวนการออกแบบและผลิต ให้มันได้สิ่งเหล่านี้

ถ้าวันนี้ ยังไม่เริ่มหรือเพิ่งเริ่ม มันก็ไม่ได้ตามทันกันง่ายๆนะครับ

อันนี้ผมถามเป็นความรู้นะครับ

ค่ายใหญ่ๆ ญี่ปุ่น อย่าง Honda และ Toyota มี Hybrid ต่างยังไงกับ EV เหรอครับ มันมีแบตเตอรี่ vs มอเตอร์ วิ่งโหมด EV ได้ แค่แบตเตอรี่เล็ก เก็บไฟได้น้อย ระยะวิ่งได้สั้น แถมมีเครื่องยนต์ซับซ้อนกว่าอีก ถ้าขยายแบตเตอรี่ให้ใหญ่ ยกเครื่องยนต์ออก มันก็เป็น BEV เต็มตัวแล้วไหมครับ?

Nissan มี e-Power ต่างยังไงกับ EV เหรอครับ มันมีแบตเตอรี่ vs มอเตอร์ วิ่งโหมด EV ได้ แค่แบตเตอรี่เล็ก เก็บไฟได้น้อย ระยะวิ่งได้สั้น มีเครื่องยนต์ปั่่นไฟเข้าแบตเตอรี่

หรืออย่างค่ายยุโรป แทบทำ BEV คันแรก ก็ทำกันได้ มันซับซ้อนกว่า ICE ยังไงเหรอครับ ถึงแม้บางเจ้าจะพึ่งแบตเตอรี่่จากญี่ปุ่น หรือ จีน หรือแมักระทั้งเกาหลีอยู่ อันนี้เข้าใจกันดี ว่ามันคือข้อจำกัด

อู่ไทย ช่างไทย ยังถอดเครื่องยนต์ออก ใส่มอเตอร์ ใส่แบตเตอรี่เอง ก็มีทำเยอะแยะแล้วครับ ลองดูใน Youtube หรือ Facebook ได้ครับ

ขนาดผมเอง ก็มีรถไฟฟ้า แถม มีรถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าใช้อยู่อีก ที่โม ทำเอง ซ่อมเอง ตามประสา สั่งกล่องคอนโทรล มอเตอร์ แบตเตอรี่(2 ชุดละ ชุดแรกเป็น ฟอสเฟส ชุด 2 เป็น ลิเทียม) ก็ใช้งานแทบทุกวัน

ปล.ผมบอกว่า ผมไม่ใช่ช่างใดๆ แค่อยากลองทำ ก็ทำเอง เพราะอุปกรณ์มันไม่ได้แพง เลยอยากทำดูบ้าง แค่นั้น

ออฟไลน์ Norgaard

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 40
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2023, 10:45:07 »
Supplier บริษัทในเครือ pahtner ทั้ง supply chain ที่ผลิตอุปกรณ์ที่ BEV ไม่จำเป็นต้องใช้จะหายไปหมดครับ คงยื้อ HEV ให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้เพราะยังใช้อุปกรณ์เหล่านี้อยู่ ถ้าหักดิบเลย แค่โรงงานในไทยแต่ละนิคมก็ต้องยุบ plant กันหลายโรงเลยล่ะครับ แรงงานพวกนี้ตกงานกันเพียบแน่ๆ

ออฟไลน์ XMSL

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 842
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2023, 10:52:02 »
ที่เห็นตรงไปตรงมาที่สุดคือ ถ้าทำ ev ให้ออกมาตามกระแส แล้วธุรกิจ ice ที่ทำอยู่และมีหุ้นผลิตอะไหล่ ice จะอยู่ต่อยังงัย? คงยังคิดว่าทำกำไรได้ดีอยู่และยังไม่อยากทุบหม้อข้าว ice ของพวกตัวเอง แต่เท่าที่เห็นลองทำ ev แล้วออกมาดูได้ที่สุดก็มีแค่รุ่นเดียว..นอกนั้นเหมือนยังหัดทำ หรืออาจจะทำไม่เป็นจริงๆอย่างที่หลายท่านว่าครับ

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,908
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2023, 10:54:35 »
ที่ไม่ทำเพราะทำไม่เป็นครับ

คือแค่ทำให้วิ่งได้นะทำได้ แต่มำให้ดีให้แข่งขันได้ มันยังทำไม่ได้

ใครบอกว่า รถไฟฟ้าแค่ เอาเคร่องออกใส่มอเตอใส่ถ่าน นี่ผิดแล้ว

หลายๆคนตกม้าตายมาก็เรื่องนี้แหละ ไม่ใช่แค่ เครื่องใช้ไฟฟ้า มันเป็นองความรู้ใหม่นะครับ

ปรับจูนยังไง ให้มันได้ แข่งขันได้ ดูที่เทสล่า ขับได้ ระยะมากกว่าเค้า แรงกว่สชาวบ้าน มันไม่ใช่จู่ๆก็ทำได้นะ

มันผ่านการทำใาเปนสิบปี ปรับกระบวนการออกแบบและผลิต ให้มันได้สิ่งเหล่านี้

ถ้าวันนี้ ยังไม่เริ่มหรือเพิ่งเริ่ม มันก็ไม่ได้ตามทันกันง่ายๆนะครับ

อันนี้ผมถามเป็นความรู้นะครับ

ค่ายใหญ่ๆ ญี่ปุ่น อย่าง Honda และ Toyota มี Hybrid ต่างยังไงกับ EV เหรอครับ มันมีแบตเตอรี่ vs มอเตอร์ วิ่งโหมด EV ได้ แค่แบตเตอรี่เล็ก เก็บไฟได้น้อย ระยะวิ่งได้สั้น แถมมีเครื่องยนต์ซับซ้อนกว่าอีก ถ้าขยายแบตเตอรี่ให้ใหญ่ ยกเครื่องยนต์ออก มันก็เป็น BEV เต็มตัวแล้วไหมครับ?

Nissan มี e-Power ต่างยังไงกับ EV เหรอครับ มันมีแบตเตอรี่ vs มอเตอร์ วิ่งโหมด EV ได้ แค่แบตเตอรี่เล็ก เก็บไฟได้น้อย ระยะวิ่งได้สั้น มีเครื่องยนต์ปั่่นไฟเข้าแบตเตอรี่

หรืออย่างค่ายยุโรป แทบทำ BEV คันแรก ก็ทำกันได้ มันซับซ้อนกว่า ICE ยังไงเหรอครับ ถึงแม้บางเจ้าจะพึ่งแบตเตอรี่่จากญี่ปุ่น หรือ จีน หรือแมักระทั้งเกาหลีอยู่ อันนี้เข้าใจกันดี ว่ามันคือข้อจำกัด

อู่ไทย ช่างไทย ยังถอดเครื่องยนต์ออก ใส่มอเตอร์ ใส่แบตเตอรี่เอง ก็มีทำเยอะแยะแล้วครับ ลองดูใน Youtube หรือ Facebook ได้ครับ

ขนาดผมเอง ก็มีรถไฟฟ้า แถม มีรถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าใช้อยู่อีก ที่โม ทำเอง ซ่อมเอง ตามประสา สั่งกล่องคอนโทรล มอเตอร์ แบตเตอรี่(2 ชุดละ ชุดแรกเป็น ฟอสเฟส ชุด 2 เป็น ลิเทียม) ก็ใช้งานแทบทุกวัน

ปล.ผมบอกว่า ผมไม่ใช่ช่างใดๆ แค่อยากลองทำ ก็ทำเอง เพราะอุปกรณ์มันไม่ได้แพง เลยอยากทำดูบ้าง แค่นั้น

ใช่ครับ
ทุกวันนี้ผมยังทึ่งกับ planetary gear ของโตโยต้าอยู่เลย
คือคิดให้ซับซ้อนกว่ามอเตอร์เดี่ยว มอเตอร์คู่เสียอีก

เอาเครื่องออก จับยัดแบตเข้าไป จะเป็นรถไฟฟ้าที่ใช้ paddle shift ได้อีกต่างหาก ที่รอบต่ำก็กินไฟน้อย รอบสูงมีอัตราทดให้อีก
ขับๆอยู่เกิดง่วง shift gear เล่นซะเลย

คิดเกินการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าธรรมดาไปอีกสเต็ป

กะอีแค่มอเตอร์ 1 ตัว มันธรรมดาเกินไปแล้วครับ

ปล.ผมก็เอาสามล้อถีบญี่ปุ่น มาใส่มอเตอร์ครบ 3 ล้อ หาซื้อกล่องควคุมและแบตเตอรี่มาประกอบให้ลูกขับส่งของ
มันยากตรงไหนจริงๆ

ออฟไลน์ kbank

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 221
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2023, 17:14:46 »
มองว่า NOKIA
ที่ทำอยู่ก็มีกำไร ดีอยู่แล้ว ของมันขายได้ ยังมีคนใช้อยู่

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,608
  • may the force lead your way ...
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: สิงหาคม 04, 2023, 19:38:27 »
น่าจะเพราะขยับตัวช้า กับทรัพยากรแบตจำกัดเลยคุมต้นทุนลำบาก

ในมุมเราๆอาจจะคิดว่าแบตก็เหมือนๆกัน มอเตอร์ก็เหมือนๆกัน
แต่จริงๆแล้วแต่ละอย่างมันก็ลึกซึ้งมากเลยนะครับ

เหมือนจะบอกว่าที่ญี่ปุ่นหาบะหมี่กินง่าย เหมือนๆกันแหละ
ไปจังหวัดไหนก็มี แต่ถ้าท่านไหนพอรู้ เส้นต้องทำด้วยอันนี้ ผักนี้ต้องมาจากจังหวัดนั้น
สูตรลับแต่ละอย่างกว่าจะมาเป็นบะหมี่สักชามในญี่ปุ่น

อย่างแบตแค่ส่วนผสม li nmc ก็มีสูตรลับของแต่ละรุ่นแต่ละเวอร์ชั่น
bms ตัวคุมแบตอีก คือต้องเข้าใจธาตุของแบตและส่วนผสม
ถึงจะสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อายุยาวนาน

ก็พูดไปนั่น  ::)

รถ bev จริงๆแล้วมันก็เหมือนศาสตร์ใหม่เหมือนกัน
น้ำหนักรถก็เพิ่มกว่าเดิมเยอะ จะต้องบาลานซ์โครงสร้างให้รับแรงที่เกิดแล้วยังต้องขับดีไม่แพ้รถสันดาปเดิมอีก

มอเตอร์นี่ก็ตัวดี มีหลายชนิด หลายวิธีการผลิตมาก ยิ่งกำลังสูงๆยิ่งต้องมีลิขสิทธิ์เยอะ

-----

สุดท้าย โครงสร้างตัวถัง ทั้งๆที่แต่ละรายก็มีเทคนิคของตัวเองที่ทั้งโลกก็ยอมรับ แต่
โตโยต้าจะเริ่มใช้กิกะคาสต์ ประมาณ 2028-29 วอลโว่ใช้กิกะ 2024-2025

มอเตอร์ของเทสล่าก็ประหยัดพลังงานสุดๆ ในต้นทุนผลิตที่ต่ำมากๆ

ทั้งสองอย่างนี้ยังมีการแซวเล่นๆกันว่าเป็นเทคโนฯเอเลี่ยน

นี่คือการขยับตัวที่ช้าของทางญี่ปุ่นถูกพันธนาการไว้กับเครื่องสันดาป เพราะต้องกระจายการผลิตออกหลากหลาย
แต่เทสล่าจะคอนเวอร์เจนท์รวมศูนย์จะผลิตเองทุกอย่างให้ได้ในอนาคตเพื่อปรับตัวได้เร็ว

คือตั้งแต่แนวคิดที่มันต่างกันมากก็เลยทำให้ภาพออกมาอย่างที่เห็นครับ  :-\

ปล.ทำไมแบรนด์จีนโตเร็ว ก็เพราะว่ามีข้อแลกเปลี่ยน know how ของรถไฟฟ้าจากเทสล่า
ถึงยอมให้มาตั้งโรงงานกิกะแฟคทอรี่ที่จีนนี่หละครับ
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ Ty ESC

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,787
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2023, 08:24:23 »
ที่ไม่ทำเพราะทำไม่เป็นครับ

คือแค่ทำให้วิ่งได้นะทำได้ แต่มำให้ดีให้แข่งขันได้ มันยังทำไม่ได้

ใครบอกว่า รถไฟฟ้าแค่ เอาเคร่องออกใส่มอเตอใส่ถ่าน นี่ผิดแล้ว

หลายๆคนตกม้าตายมาก็เรื่องนี้แหละ ไม่ใช่แค่ เครื่องใช้ไฟฟ้า มันเป็นองความรู้ใหม่นะครับ

ปรับจูนยังไง ให้มันได้ แข่งขันได้ ดูที่เทสล่า ขับได้ ระยะมากกว่าเค้า แรงกว่สชาวบ้าน มันไม่ใช่จู่ๆก็ทำได้นะ

มันผ่านการทำใาเปนสิบปี ปรับกระบวนการออกแบบและผลิต ให้มันได้สิ่งเหล่านี้

ถ้าวันนี้ ยังไม่เริ่มหรือเพิ่งเริ่ม มันก็ไม่ได้ตามทันกันง่ายๆนะครับ

อันนี้ผมถามเป็นความรู้นะครับ

ค่ายใหญ่ๆ ญี่ปุ่น อย่าง Honda และ Toyota มี Hybrid ต่างยังไงกับ EV เหรอครับ มันมีแบตเตอรี่ vs มอเตอร์ วิ่งโหมด EV ได้ แค่แบตเตอรี่เล็ก เก็บไฟได้น้อย ระยะวิ่งได้สั้น แถมมีเครื่องยนต์ซับซ้อนกว่าอีก ถ้าขยายแบตเตอรี่ให้ใหญ่ ยกเครื่องยนต์ออก มันก็เป็น BEV เต็มตัวแล้วไหมครับ?

Nissan มี e-Power ต่างยังไงกับ EV เหรอครับ มันมีแบตเตอรี่ vs มอเตอร์ วิ่งโหมด EV ได้ แค่แบตเตอรี่เล็ก เก็บไฟได้น้อย ระยะวิ่งได้สั้น มีเครื่องยนต์ปั่่นไฟเข้าแบตเตอรี่

หรืออย่างค่ายยุโรป แทบทำ BEV คันแรก ก็ทำกันได้ มันซับซ้อนกว่า ICE ยังไงเหรอครับ ถึงแม้บางเจ้าจะพึ่งแบตเตอรี่่จากญี่ปุ่น หรือ จีน หรือแมักระทั้งเกาหลีอยู่ อันนี้เข้าใจกันดี ว่ามันคือข้อจำกัด

อู่ไทย ช่างไทย ยังถอดเครื่องยนต์ออก ใส่มอเตอร์ ใส่แบตเตอรี่เอง ก็มีทำเยอะแยะแล้วครับ ลองดูใน Youtube หรือ Facebook ได้ครับ

ขนาดผมเอง ก็มีรถไฟฟ้า แถม มีรถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าใช้อยู่อีก ที่โม ทำเอง ซ่อมเอง ตามประสา สั่งกล่องคอนโทรล มอเตอร์ แบตเตอรี่(2 ชุดละ ชุดแรกเป็น ฟอสเฟส ชุด 2 เป็น ลิเทียม) ก็ใช้งานแทบทุกวัน

ปล.ผมบอกว่า ผมไม่ใช่ช่างใดๆ แค่อยากลองทำ ก็ทำเอง เพราะอุปกรณ์มันไม่ได้แพง เลยอยากทำดูบ้าง แค่นั้น

ตามที่บอกไปแล้วครับ

ทำให้ขับได้ กับทำให้แข่งขันได้ ในตลาด ทำให้ขายได้ คนละเรื่องกัน ยังไม่ต้องเอาขนาดว่าทำแล้วมีกำไรมั้ยนะ

ก็ถ้า สามค่าย มีโนวฮาว ตามที่ บอกทั้ง โตต้า ฮอนด้า นิสสัน

ทำไม รถอีวีของทั้งสามค่าย ยังขายสู้ชาวบ้านไม่ได้ ทั้งการขับขี่ ระยะทางที่ได้ ตอนนี้ จำนวนยอดขายเทียบกับเทสล่าในประเทศต่างๆ เป็นยังไง แต่ละรุ่นที่ทำออกมาแล้วทำไมมีปัญหา นั่นก็ตอบออกมาแล้วว่า

ยังไม่มีองความรู้พอ Tesla ทำมาจนไปไล่หวดซุปเปอคาร์เล่นๆได้ขำๆเหงื่อซึมๆ  ในราคาเท่านี้ แบบออกจากศูนย์ไม่ได้โมอะไร แต่บางยี่ห้อ ขับความเร็วสูงขนาดแคปความเร็วไว้แบตร้อน เข้าโหมดเต่า

แนวคิดในการทำรถไฟฟ้ามันใช้อีกแนวคิดนึงไปแล้ว 
การที่ บ เก่า ที่ใหญ่กว่า จะปรับตัวใช้เวลา มากกว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก
คำถามคือ ยังทันมั้ย

ออฟไลน์ KTN88

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,214
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2023, 16:21:07 »
ที่ไม่ทำเพราะทำไม่เป็นครับ

คือแค่ทำให้วิ่งได้นะทำได้ แต่มำให้ดีให้แข่งขันได้ มันยังทำไม่ได้

ใครบอกว่า รถไฟฟ้าแค่ เอาเคร่องออกใส่มอเตอใส่ถ่าน นี่ผิดแล้ว

หลายๆคนตกม้าตายมาก็เรื่องนี้แหละ ไม่ใช่แค่ เครื่องใช้ไฟฟ้า มันเป็นองความรู้ใหม่นะครับ

ปรับจูนยังไง ให้มันได้ แข่งขันได้ ดูที่เทสล่า ขับได้ ระยะมากกว่าเค้า แรงกว่สชาวบ้าน มันไม่ใช่จู่ๆก็ทำได้นะ

มันผ่านการทำใาเปนสิบปี ปรับกระบวนการออกแบบและผลิต ให้มันได้สิ่งเหล่านี้

ถ้าวันนี้ ยังไม่เริ่มหรือเพิ่งเริ่ม มันก็ไม่ได้ตามทันกันง่ายๆนะครับ

อันนี้ผมถามเป็นความรู้นะครับ

ค่ายใหญ่ๆ ญี่ปุ่น อย่าง Honda และ Toyota มี Hybrid ต่างยังไงกับ EV เหรอครับ มันมีแบตเตอรี่ vs มอเตอร์ วิ่งโหมด EV ได้ แค่แบตเตอรี่เล็ก เก็บไฟได้น้อย ระยะวิ่งได้สั้น แถมมีเครื่องยนต์ซับซ้อนกว่าอีก ถ้าขยายแบตเตอรี่ให้ใหญ่ ยกเครื่องยนต์ออก มันก็เป็น BEV เต็มตัวแล้วไหมครับ?

Nissan มี e-Power ต่างยังไงกับ EV เหรอครับ มันมีแบตเตอรี่ vs มอเตอร์ วิ่งโหมด EV ได้ แค่แบตเตอรี่เล็ก เก็บไฟได้น้อย ระยะวิ่งได้สั้น มีเครื่องยนต์ปั่่นไฟเข้าแบตเตอรี่

หรืออย่างค่ายยุโรป แทบทำ BEV คันแรก ก็ทำกันได้ มันซับซ้อนกว่า ICE ยังไงเหรอครับ ถึงแม้บางเจ้าจะพึ่งแบตเตอรี่่จากญี่ปุ่น หรือ จีน หรือแมักระทั้งเกาหลีอยู่ อันนี้เข้าใจกันดี ว่ามันคือข้อจำกัด

อู่ไทย ช่างไทย ยังถอดเครื่องยนต์ออก ใส่มอเตอร์ ใส่แบตเตอรี่เอง ก็มีทำเยอะแยะแล้วครับ ลองดูใน Youtube หรือ Facebook ได้ครับ

ขนาดผมเอง ก็มีรถไฟฟ้า แถม มีรถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าใช้อยู่อีก ที่โม ทำเอง ซ่อมเอง ตามประสา สั่งกล่องคอนโทรล มอเตอร์ แบตเตอรี่(2 ชุดละ ชุดแรกเป็น ฟอสเฟส ชุด 2 เป็น ลิเทียม) ก็ใช้งานแทบทุกวัน

ปล.ผมบอกว่า ผมไม่ใช่ช่างใดๆ แค่อยากลองทำ ก็ทำเอง เพราะอุปกรณ์มันไม่ได้แพง เลยอยากทำดูบ้าง แค่นั้น

ตามที่บอกไปแล้วครับ

ทำให้ขับได้ กับทำให้แข่งขันได้ ในตลาด ทำให้ขายได้ คนละเรื่องกัน ยังไม่ต้องเอาขนาดว่าทำแล้วมีกำไรมั้ยนะ

ก็ถ้า สามค่าย มีโนวฮาว ตามที่ บอกทั้ง โตต้า ฮอนด้า นิสสัน

ทำไม รถอีวีของทั้งสามค่าย ยังขายสู้ชาวบ้านไม่ได้ ทั้งการขับขี่ ระยะทางที่ได้ ตอนนี้ จำนวนยอดขายเทียบกับเทสล่าในประเทศต่างๆ เป็นยังไง แต่ละรุ่นที่ทำออกมาแล้วทำไมมีปัญหา นั่นก็ตอบออกมาแล้วว่า

ยังไม่มีองความรู้พอ Tesla ทำมาจนไปไล่หวดซุปเปอคาร์เล่นๆได้ขำๆเหงื่อซึมๆ  ในราคาเท่านี้ แบบออกจากศูนย์ไม่ได้โมอะไร แต่บางยี่ห้อ ขับความเร็วสูงขนาดแคปความเร็วไว้แบตร้อน เข้าโหมดเต่า

แนวคิดในการทำรถไฟฟ้ามันใช้อีกแนวคิดนึงไปแล้ว 
การที่ บ เก่า ที่ใหญ่กว่า จะปรับตัวใช้เวลา มากกว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก
คำถามคือ ยังทันมั้ย

ยอดขายตาม Tesla ที่เป็นเรื่องปกติครับ เพราะ Tesla ทำแต่รถไฟฟ้าอย่างเดียว ทุ่มกำลังการผลิตไปที่รถไฟฟ้า 100% แต่ค่ายญี่ปุ่นยังผลิตรถน้ำมันเป็นส่วนใหญ่

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,284
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2023, 21:20:12 »
ที่ไม่ทำเพราะทำไม่เป็นครับ

คือแค่ทำให้วิ่งได้นะทำได้ แต่มำให้ดีให้แข่งขันได้ มันยังทำไม่ได้

ใครบอกว่า รถไฟฟ้าแค่ เอาเคร่องออกใส่มอเตอใส่ถ่าน นี่ผิดแล้ว

หลายๆคนตกม้าตายมาก็เรื่องนี้แหละ ไม่ใช่แค่ เครื่องใช้ไฟฟ้า มันเป็นองความรู้ใหม่นะครับ

ปรับจูนยังไง ให้มันได้ แข่งขันได้ ดูที่เทสล่า ขับได้ ระยะมากกว่าเค้า แรงกว่สชาวบ้าน มันไม่ใช่จู่ๆก็ทำได้นะ

มันผ่านการทำใาเปนสิบปี ปรับกระบวนการออกแบบและผลิต ให้มันได้สิ่งเหล่านี้

ถ้าวันนี้ ยังไม่เริ่มหรือเพิ่งเริ่ม มันก็ไม่ได้ตามทันกันง่ายๆนะครับ

อันนี้ผมถามเป็นความรู้นะครับ

ค่ายใหญ่ๆ ญี่ปุ่น อย่าง Honda และ Toyota มี Hybrid ต่างยังไงกับ EV เหรอครับ มันมีแบตเตอรี่ vs มอเตอร์ วิ่งโหมด EV ได้ แค่แบตเตอรี่เล็ก เก็บไฟได้น้อย ระยะวิ่งได้สั้น แถมมีเครื่องยนต์ซับซ้อนกว่าอีก ถ้าขยายแบตเตอรี่ให้ใหญ่ ยกเครื่องยนต์ออก มันก็เป็น BEV เต็มตัวแล้วไหมครับ?

Nissan มี e-Power ต่างยังไงกับ EV เหรอครับ มันมีแบตเตอรี่ vs มอเตอร์ วิ่งโหมด EV ได้ แค่แบตเตอรี่เล็ก เก็บไฟได้น้อย ระยะวิ่งได้สั้น มีเครื่องยนต์ปั่่นไฟเข้าแบตเตอรี่

หรืออย่างค่ายยุโรป แทบทำ BEV คันแรก ก็ทำกันได้ มันซับซ้อนกว่า ICE ยังไงเหรอครับ ถึงแม้บางเจ้าจะพึ่งแบตเตอรี่่จากญี่ปุ่น หรือ จีน หรือแมักระทั้งเกาหลีอยู่ อันนี้เข้าใจกันดี ว่ามันคือข้อจำกัด

อู่ไทย ช่างไทย ยังถอดเครื่องยนต์ออก ใส่มอเตอร์ ใส่แบตเตอรี่เอง ก็มีทำเยอะแยะแล้วครับ ลองดูใน Youtube หรือ Facebook ได้ครับ

ขนาดผมเอง ก็มีรถไฟฟ้า แถม มีรถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าใช้อยู่อีก ที่โม ทำเอง ซ่อมเอง ตามประสา สั่งกล่องคอนโทรล มอเตอร์ แบตเตอรี่(2 ชุดละ ชุดแรกเป็น ฟอสเฟส ชุด 2 เป็น ลิเทียม) ก็ใช้งานแทบทุกวัน

ปล.ผมบอกว่า ผมไม่ใช่ช่างใดๆ แค่อยากลองทำ ก็ทำเอง เพราะอุปกรณ์มันไม่ได้แพง เลยอยากทำดูบ้าง แค่นั้น

ตามที่บอกไปแล้วครับ

ทำให้ขับได้ กับทำให้แข่งขันได้ ในตลาด ทำให้ขายได้ คนละเรื่องกัน ยังไม่ต้องเอาขนาดว่าทำแล้วมีกำไรมั้ยนะ

ก็ถ้า สามค่าย มีโนวฮาว ตามที่ บอกทั้ง โตต้า ฮอนด้า นิสสัน

ทำไม รถอีวีของทั้งสามค่าย ยังขายสู้ชาวบ้านไม่ได้ ทั้งการขับขี่ ระยะทางที่ได้ ตอนนี้ จำนวนยอดขายเทียบกับเทสล่าในประเทศต่างๆ เป็นยังไง แต่ละรุ่นที่ทำออกมาแล้วทำไมมีปัญหา นั่นก็ตอบออกมาแล้วว่า

ยังไม่มีองความรู้พอ Tesla ทำมาจนไปไล่หวดซุปเปอคาร์เล่นๆได้ขำๆเหงื่อซึมๆ  ในราคาเท่านี้ แบบออกจากศูนย์ไม่ได้โมอะไร แต่บางยี่ห้อ ขับความเร็วสูงขนาดแคปความเร็วไว้แบตร้อน เข้าโหมดเต่า

แนวคิดในการทำรถไฟฟ้ามันใช้อีกแนวคิดนึงไปแล้ว 
การที่ บ เก่า ที่ใหญ่กว่า จะปรับตัวใช้เวลา มากกว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก
คำถามคือ ยังทันมั้ย

ยอดขายตาม Tesla ที่เป็นเรื่องปกติครับ เพราะ Tesla ทำแต่รถไฟฟ้าอย่างเดียว ทุ่มกำลังการผลิตไปที่รถไฟฟ้า 100% แต่ค่ายญี่ปุ่นยังผลิตรถน้ำมันเป็นส่วนใหญ่

ใช่เลยครับ คนนึงพัฒนาขาเดียว ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อีกกลุ่มมีทั้งรถ ICE , HEV, PHEV ไหนจะ BEV อีก มันต้องคิดและมองในหลายมุม

ผมว่าเขายังไม่ทำ หรือ ยังไม่พร้อมที่จะทุ่มมาทางนี้ เพราะอย่างท่านบนบอกครับ ไหนจะเรื่อง Supplier ชิ้นส่วน ที่ต้องมีทั้งสำหรับรถ ICE และ BEV อีกนะ มันหลายอย่างครับ ซึ่งพอเป็นในรูปแบบองค์กรใหญ่ๆ การจะปรับเปลี่ยนอะไร มันมีความเป็นกรรมการ ผู้บริหาร และ อื่นๆ ร่วมด้วยอีก ไม่ต้องค่ายยี่ปุ่นก็ได้ โดยรวมละกันครับ

เรื่อง know how ผมว่าไม่ใช่ปัญหาเลย ค่ายพวกนี้เขาไม่มีปัญหา ถ้าเปลี่ยนแบตเตอรี่ เป็น น้ำ หรือ อากาศ (ที่ไม่ได้มีแค่บางประเทศ ที่พร้อมกว่า) มันน่าจะเห็นอะไรๆ ในค่ายรถยนต์เหล่านี้ มากกว่านี้ด้วยซ้ำ

เพราะระบบต่างๆ ที่ BEV มี มันก็มีใน ICE แทบทั้งหมดแล้ว มีระบบไหนที่ BEV มี แล้ว ICE ไม่มีเหรอครับ

หลายคนจะชอบมองว่า BEV ต้องมีระบบพิเศษ มากกว่า ICE หรือ ทำยากกว่า ผมกลับมองว่าไม่ใช่ เพราะระบบความช่วยเหลือต่างๆ ในรถ ICE หรือ PHEV พวกนี้ก็มีหมด

ระบบ Autopilot , EAP, หรือ FSD เหรอครับ? (3 แสน ผมยังไม่ได้ซื้อเพิ่มเลย)

อย่างที่บอกครับ ขนาด Tesla เอง ยังต้องมาคิดค้นแบตเตอรี่เป็นของตัวเอง แทนที่จะไปพึ่งคนอื่นเลย (แต่ก็ยังพึ่งอยู่เหมือนเดิม) เพราะเขารู้ว่ามันเป็นคอขวด ที่จุดนี้ครับ เพราะมีช่วงนึงที่เขาผลิตและส่งรถไม่ทัน เพราะแบตเตอรี่ผลิตไม่ทัน(ยี่ห้อแบตที่ผมบอกข้างต้น) กับปริมาณรถครับ

ออฟไลน์ NoName__???

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,156
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2023, 01:29:43 »
อยากรู้คนที่จอง BRZ4 ชองพี่โตไปเป้นไงบ้าง ไม่เห็นมีรีวิวในไทยเลยแปลกจริง

ออฟไลน์ Rayneros

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 48
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่เร่งทำรถไฟฟ้า BEV ออกมาขายครับ
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2023, 09:34:12 »
อยากรู้คนที่จอง BRZ4 ชองพี่โตไปเป้นไงบ้าง ไม่เห็นมีรีวิวในไทยเลยแปลกจริง

เห็นข่าวเพิ่งเริ่มรับรถกันมิถุนาครับ แล้วอาจจะไม่ใช่สายรีวิวหรือวิ่งเก็บข้อมูลกันอยู่
หรืออาจจะยังไม่ได้อัพซอฟแวร์ตามต่างประเทศแล้ววิ่งน้อยกว่าเคลมเยอะเหมือนช่วงก่อนที่คุณตามรีวิว
อะไรแบบนี้เลยยังไม่รีวิวกัน

Mercedes-Benz C300 Cabriolet AMG Dynamic (A205 Pre-Facelift)