น่าจะเพราะขยับตัวช้า กับทรัพยากรแบตจำกัดเลยคุมต้นทุนลำบาก
ในมุมเราๆอาจจะคิดว่าแบตก็เหมือนๆกัน มอเตอร์ก็เหมือนๆกัน
แต่จริงๆแล้วแต่ละอย่างมันก็ลึกซึ้งมากเลยนะครับ
เหมือนจะบอกว่าที่ญี่ปุ่นหาบะหมี่กินง่าย เหมือนๆกันแหละ
ไปจังหวัดไหนก็มี แต่ถ้าท่านไหนพอรู้ เส้นต้องทำด้วยอันนี้ ผักนี้ต้องมาจากจังหวัดนั้น
สูตรลับแต่ละอย่างกว่าจะมาเป็นบะหมี่สักชามในญี่ปุ่น
อย่างแบตแค่ส่วนผสม li nmc ก็มีสูตรลับของแต่ละรุ่นแต่ละเวอร์ชั่น
bms ตัวคุมแบตอีก คือต้องเข้าใจธาตุของแบตและส่วนผสม
ถึงจะสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อายุยาวนาน
ก็พูดไปนั่น
รถ bev จริงๆแล้วมันก็เหมือนศาสตร์ใหม่เหมือนกัน
น้ำหนักรถก็เพิ่มกว่าเดิมเยอะ จะต้องบาลานซ์โครงสร้างให้รับแรงที่เกิดแล้วยังต้องขับดีไม่แพ้รถสันดาปเดิมอีก
มอเตอร์นี่ก็ตัวดี มีหลายชนิด หลายวิธีการผลิตมาก ยิ่งกำลังสูงๆยิ่งต้องมีลิขสิทธิ์เยอะ
-----
สุดท้าย โครงสร้างตัวถัง ทั้งๆที่แต่ละรายก็มีเทคนิคของตัวเองที่ทั้งโลกก็ยอมรับ แต่
โตโยต้าจะเริ่มใช้กิกะคาสต์ ประมาณ 2028-29 วอลโว่ใช้กิกะ 2024-2025
มอเตอร์ของเทสล่าก็ประหยัดพลังงานสุดๆ ในต้นทุนผลิตที่ต่ำมากๆ
ทั้งสองอย่างนี้ยังมีการแซวเล่นๆกันว่าเป็นเทคโนฯเอเลี่ยน
นี่คือการขยับตัวที่ช้าของทางญี่ปุ่นถูกพันธนาการไว้กับเครื่องสันดาป เพราะต้องกระจายการผลิตออกหลากหลาย
แต่เทสล่าจะคอนเวอร์เจนท์รวมศูนย์จะผลิตเองทุกอย่างให้ได้ในอนาคตเพื่อปรับตัวได้เร็ว
คือตั้งแต่แนวคิดที่มันต่างกันมากก็เลยทำให้ภาพออกมาอย่างที่เห็นครับ
ปล.ทำไมแบรนด์จีนโตเร็ว ก็เพราะว่ามีข้อแลกเปลี่ยน know how ของรถไฟฟ้าจากเทสล่า
ถึงยอมให้มาตั้งโรงงานกิกะแฟคทอรี่ที่จีนนี่หละครับ