คิดว่าท่านจะซื้อรถไฟฟ้าใช้คันแรกเมื่อไหร่ และต้องเป็นเหตุผลอะไร?

jame894561

อีก 1-2 ปีครับ รอขายอีแก่ที่บ้านก่อน เล็ง m3 highland ไว้น่าจะตัวนี้ เหตุผลก็คือถึงรอบเปลี่ยนรถพอดีและมีรถน้ำมันสำรองอีกคันอยู่แล้วครับ



Hut Chew

ง่าย ๆ เลยครับคือยังไม่เจอรถไฟฟ้าดีไซน์ที่ถูกใจเลย ฮ่า ๆ ส่วนเรื่องระยะทาง การชาร์จต่าง ๆ เตรียมพร้อมหมดละครับ



Teera

1 เมื่อมีเงิน ผมซื้อรถ เงินสด ไม่ผ่อน ไม่ชอบเป็นหนี้
2 เมื่อรถที่ใช้อยู่ เก่า ไปต่อไม่ไหว จำเป็นต้องซื้อ ก็ซื้อ
3 เมื่อ ชาวบ้านเค้า ใช้ไฟฟ้ากัน เป็น ส่วนใหญ่ สถานีชาร์ท สถานที่ Service และซ่อมบำรุง น่าจะมากตามๆกันไป
ถึงเวลา ก็รู้เองแหละครับ นี่ก็ว่าจะ ไปลองเช่า มาขับก่อน ดูซิว่า มันจะดีอย่างที่เค้าว่ากันหรือไม่



Labrador bok bok

ซื้อรถไฟฟ้าคันแรกเมื่อไหร่ ? และต้องเป็นเหตุผลอะไร : คงจะซื้อก็ต่อเมื่อรัฐออกกฎหมายบังคับใช้ ว่าห้ามใช้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปบนท้องถนนหละมั้งครับ



SM.

อยู่คอนโด ไม่ค่อยสะดวกนักกับเรื่องการชาร์จไฟ ผมว่าหลายๆท่านที่ใช้ EV ล้วนๆ เพราะอยู่บ้าน ติด wall box กัน

หรือ เมื่อใช้เวลาชาร์ตไฟน้อยลง หรืออาจจะไม่ต้องชาร์จเลย (เปลี่ยนแบตเอา)

หลักๆ คงประมาณนี้ เรื่องการดูแลรักษา หรือค่าเบี้ยประกัน หรือราคาขายต่อ ผมว่าเมื่อมันอยู่ในจุดที่ผมคาดหวังไว้ เรื่องพวกนั้นมันคงดีขึ้นตามไปเอง



Nott

ซื้อมาลองใช้ครับ ไม่เวิร์กก็ไม่ใช้ ถ้าเวิร์กก็ใช้ต่อ ถ้าต่อไปมีรุ่นที่จองไว้เข้ามาก็ซื้อมาลองใช้ครับ



moobarn

แบ่งออกเป็นสองปัจจัย
ปัจจัยภายใน เป็นเรื่องความพร้อมของงบประมาณของตัวเองนะครับ รุ่นที่น่าสนใจก็ยังล้านปลาย
ปัจจัยภายนอก เป็นเรื่องความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับรถไฟฟ้า หลักๆ คือ จำนวนจุดชาร์จไฟครับ

ของผมก็ประมาณนี้ครับ



Odrecranon

รูปแบบการใช้งานของผม ตอนนี้รถไฟฟ้า ตอบโจทย์ครับ
ถ้าเอาเหตุผล และตัวเลขเป็นหลัก
ขับวันละไม่เกิน 100 km, ไม่ค่อยออกเที่ยวต่างจังหวัด

ข้อดีของรถไฟฟ้าที่เอาชนะเครื่องสันดาปได้คือ
ตัวเลขอัตราเร่งตั้งแต่ออกตัว, การบริโภคพลังงาน และการปล่อยมลพิษขณะใช้งาน
แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสนใจพวกเรื่องพวกนี้ คนส่วนใหญ่บนท้องถนน เขาก็ขับกันปกติ
ผมว่าส่วนใหญ่จะเน้นไปทางประหยัด มากกว่าบ้าพลัง

แต่ถ้าเอาอารมณ์มาตัดสิน
ยังไงเครื่องยนต์สันดาป ก็ดีกว่าแน่นอนครับ

ผมมองว่ามันเหมือนนาฬิกา จุดประสงค์มันเหมือนกัน คือจาก A ไป B
แต่ระหว่างทาง ความรู้สึกไม่เหมือนกัน สำหรับคนชอบรถ
มันไม่มีศิลปะมากพอในความเป็น digital
ขาดความเป็นธรรมชาติ ความเป็นกลไก

สำหรับไทย ผมมองว่าเรายังต้องการ PHEV แบบ long range
เพราะการขนส่งมวลชนระยะไกลเรายังต้องใช้เวลาอีกนาน ให้ทัดเทียมต่างชาติ
การต้องมารอชาร์จ แบ่งแท่นชาร์จ ยังสร้างความกังวลใจให้ผม

ทุกวันนี้ผมก็ยังมีความสุขกับการใช้เครื่องสันดาป อัตราเร่งมันสู้ EV ไม่ได้แน่นอน
แต่มันให้ความรู้สึกว่ามันเป็นรถ มากกว่าอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ชิ้นนึง



caton

1. ซื้อใช้แล้ว
2. อยากได้
TESLA Model Y Performance
BMW X1 F48 20D M sport
BMW 320D F30 M sport HIFI Stage 1



bobsan


กังวลเฉพาะราคาขายต่อเท่านั้นจริงๆ
ซึ่งเรื่องนี้มันไปผูกกับราคาแบตเตอรี่
คงรอจนกว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ดีกว่านี้

แต่ถ้ารอไม่ไหวว่าจะหวด model 3 highland ไปก่อน

เท่าที่สังเกตในนี้ไม่ค่อยมีคนตอบแบบโลกสวย (รักษ์โลก) เลยแฮะ




Tsengok

เคยลองเช่ามาขับ 3 คัน MG EP, Tesla M3 RWD, MG4 เคยจอง CRV ehev RS ไว้ แล้วยกเลิกเพราะโดนป้ายยาให้ไปดู M Y RWD แต่สุดท้ายก็ล้มเลิกไปจอง Innova zenix แทน สรุป เป็นข้อๆ ก็ประมาณว่า

1. เทคโนโลยีรถไฟฟ้า ยังไม่นิ่ง สามารถพัฒนาได้อีกในอีกไม่กี่ปี อารมณ์จะคล้ายมือถือที่ผ่านไป 5 ปี ต่อให้เป็นเรือธง ของค่ายก็ขายมือสองลำบาก เพราะเทคพัฒนาไว

2. ยังไม่เหมาะกับคนไม่มี Wall charge วันนึงผมเอาไปพัทยา ต้องชาร์จสามรอบ รอบแรก เติมให้ได้สัก 80% ขับไปถึงพัทยา เติมอีก เพื่อขับกลับ และพอกลับมาก็ต้องเติมอีก เพราะวันรุ่งขึ้นมีธุระหลายที่ แต่ละครั้งที่เติม 30-40 นาที (อันนี้สาเหตุหลักที่ล้มเลิกการจะซื้อรถไฟฟ้า)

3. ขับเร็วไม่ประหยัด ถ้าจะประหยัดต้องชาร์จไฟบ้าน OFF-Peak แบบติดตั้ง มิเตอร์ TOU ซึ่งเบิกบริษัทไม่ได้ ถ้าจะเบิกต้องไปชาร์จข้างนอก แทน

4. ด้วยอายุที่มากขึ้น จะใส่ใจเรื่อง ความสบายในการขับขี่ ช่วงล่างที่ไว้ใจได้ อัตราเร่งเร้าใจ จริงๆ ถ้าไปลองที่ศูนย์ต้องโดนตกแน่นอน เพราะขับระยะใกล้ๆ แต่พอเช่ามาขับเป็นอาทิตย์เลยพบว่า วันท้ายๆ ก็เฉยๆ แล้ว เดี๋ยวนี้ขับทางไกล ไม่เกิน 120 ไม่ได้แช่ 140-160 เหมือนสมัยก่อนแล้ว

5. จุดชาร์จอื่นๆ ยังน้อย อย่างปตท มี ตู้เดียว 2 หัว (หัว AC ไม่น่ามีคนชาร์จยกเว้นจะสายชิลรอ 2-3 ชม.) ซึ่งอนาคตไม่พอแน่นอน
Tesla สักพักน่าจะเก็บตังค์

ก็เป็นสาเหตุที่พับแผน ไป รอดู M Y ตัวใหม่ ที่จะออกอีก สองปี ค่อยว่ากัน หรือรอ ให้ เจ้าอื่นๆ ในตลาดไทย นิ่งๆ การบริการ การซ่อมบำรุง ราคาอะไหล่ ราคาขายต่อซากหลัง 10 ปี



eakapan

ซื้อไปแล้วครับ BYD Dolphin Ext. หลักๆคือราคาเทียบกับสิ่งที่ได้ ยอมรับได้ก็จัดไป ใช้งานหลักๆในเมือง รถน้ำมันจอดยาวเลยทีนี้

เรื่องความแรง ต่อให้เป็น Tesla ไปลองมาก็ไม่รู้สึกว่าอยากเอามาซิ่งเลย ขับเรื่อยๆมันฟินกว่าเยอะ คันเดียวที่อยากซิ่งคือ MG4 แต่ราคาแรงไปนิด (ก่อนจะลด 1 แสน) แถมซอฟต์แวร์ MG ไม่โอเคกับผม

โดยรวมเหนื่อยน้อยกว่าขับรถน้ำมัน เพราะระบบช่วยขับขี่ (ที่ไม่ได้ perfect) ความนุ่มนวลของ powertrain ถ้ายอมรับเรื่อง handling ได้ ก็ปรับตัวได้ ใช้งานเหมาะสมตามสภาพรถ ตามราคา ตอนนี้ก็ Happy ครับ

เอาจริงๆ เงื่อนไขแต่ละคนเยอะแยะ สุดท้ายผมว่ามันจบที่ราคา กับสิ่งที่อยากได้มากกว่า ว่ารับได้ที่จะเอามาลองซักคันมั้ย เพราะมันเหมือนกับซื้อ iPhone ยุคแรกๆ ประมาณ iPhone 2, 3, 4 ที่เป็นของเล่นราคาแพงมาก
Subaru 1.8 GR / Subaru Legacy BC
Honda Jazz GE / Nissan Frontier ZD30
Honda CRV Gen4 / BMW 3GT
Suzuki Swift GLX-Navi / Mini Cooper S F56 Paddy
BMW E36 / Mini Cooper S F55
VW Golf MK3 Cabriolet / BYD Dolphin Extended Range



GOBBS

ผมอาจจะเป็นคนสุดท้ายของเวป
1.ผมใช้รถน้อยมาก...ถ้าไม่ได้ไปเที่ยวไหน สัปดาห์ละหน mz2ล่าสุดคือ 6เดือน 4000กว่าโล วันๆขี่แต่จักรยาน ทำงานที่บ้าน
2.ผมใช้รถเที่ยวแบบวิ่งยาว เติมน้ำมันทีไปได้ 800-1000โล(mz2ดีเซล) ถ้ารอชาร์ทรู้สึกเสียเวลา ถ้าจะใช้ไฟฟ้าต้องรอการชาร์ทที่เร็วและได้ระยะทางที่น่าพอใจกว่านี้ รวมถึงจุดชาร์ทที่ไม่ต้องแย่งกันดุเดือดอย่างช่วงเทศกาล อย่างน้อยๆต้องพอๆกับ หัวจ่ายรถน้ำมันได้แล้ว(เพราะชาร์ทใช้เวลามากกว่า)
3.ผมไม่ได้เสพความเร็ว แรง เสียง อะไรเลยจากการขับรถ แค่พาไปจุด A-B แบบปลอดภัยก็จบ
4.ในที่ห่างไกล น้ำมันยังหาปั้มชาวบ้านได้หรือพกถังน้ำมันสำรองไปเพิ่มก็ได้ แต่ถ้ากลางดอยคงหา fast charge ลำบาก ก็รอชาร์ทฉุกเฉินกันไป แต่เคยเห็น goodcat ขอไฟจนท.เขาใหญ่ชาร์ทฉุกเฉินอยู่นะ
5.รถที่ใช้มันก็ประหยัดอยู่แล้ว ยิ่งใช้รถน้อยมากด้วยยิ่งรู้สึกว่า จะไปเสียเงินซื้อรถใหม่ทำไม บางคนชอบบอกว่ารถไฟฟ้ารักโลก แต่คนรักโลกจริงๆจะใช้เท่าที่จำเป็นและไม่เพิ่มการผลิตโดยไม่จำเป็นครับ
6.ยังไม่มั่นใจอนาคต เพราะรถไฟฟ้ารุ่นแรกๆ อายุยัง 4-5ปีอยู่เลย สัก 8-9ปี ปัญหา+การแก้ปัญหาน่าจะเริ่มมีข้อมูลมาให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น
7.รีสอร์ท ที่พักกลางทาง หรือที่พักในเขตห่างไกล ยังไม่มี wall box สำหรับคนชอบเดินทางไปที่ประหลาดๆ(ขนาดในตัวจังหวัด หลายๆที่ก็ไม่มี) จะชาร์ทตอนกลางคืนก็ยากอยู่ ต้องรอแพร่หลายกว่านี้ และทางรีสอร์ทจะลงทุนให้ไหม คิดค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ยังหาเรทมาให้ตัดสินใจไม่ได้
สรุป ยังหาเหตุผลซื้อรถไฟฟ้าในวันนี้ยังไม่ได้เลยครับ
.....2006 honda jazz idsi
.....2015 mazda2 skyD
..ใช้รถเท่าที่จำเป็นกันเถอะครับ...รถมันติด



peanutbutter

รอรถยนต์ไฟฟ้าที่ price range เดียวกับ neta v คือรู้สึกไม่เสียดาย ถ้าขายต่อไม่ได้ ไม่มีอะไหล่ หรือพัง หลังจาก8-10ปี
ประกอบกับใช้รถน้อย จุดที่จะคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายต่อระยะทาง+ค่าบำรุงรักษามันยิ่งนาน
ถ้าจะซื้อรถยนต์ที่แตะ 1 ล้านบาท ยังเชื่อใจ hybrid ค่ายญี่ปุ่นมากกว่า



youngbear

 8) 8) 8)......ยังใช้ รถ ICE ไปก่อน  รอให้รถ EV วิ่งได้ 1,000 km/charged เมื่อไหร่ ค่อยตัดสินใจอีกทีครับ เพราะไม่ใช่เรื่องด่วน :-X



saran_1st

เมื่อ รถ Taxi บนถนนเป็น EV ซัก 30% ครับ  :P

หรือ

เมื่อ น้ำมันแก๊สโซฮอล ราคาเกินกว่า 50 บาท/ลิตร
'97 Subaru Impreza WRX Sti Ver.3
'97 Subaru Impreza WRX EJ20 Auto
'95 Subaru Legacy EJ25 NA
'02 Subaru Impreza Bugeye GDB Type UK
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

Long-term Review: Subaru Levorg 1.6 GT-S



panupong508

อยากใช้เหมือนกัน แต่ติดปัญหาเรื่องที่ชาร์จ และยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย ขอดูไปซักระยะ ค่อยตัดสินใจอีกทีครับ



shipcake

เมื่อค่าน้ำมันเกินลิตรละ 50 แบบไม่มีทางลงแน่นอน 

เพราะผมใช้รถเดือนละ 1,000 กิโลเอง

ลิตรละ 50 บาท ผมว่าไม่นานเกินรอครับ คอนเฟิร์ม เพียงแต่ว่า ปตท กับ กระทรวงการคลัง จะอุ้มได้แค่ไหน ซึ่งผมเดาว่าอุ้มได้แค่ดีเซล เพราะส่งผลต่อการขนส่งประเทศมหาศาล



boogie2020

เมื่อตอนนี้แหละคับ  ค่าน้ำมันแพงเกินละ

ที่จริงถ้า Atto3 มีรุ่น 7 ที่นั่งผมก็คงซื้อไปละ   400-500 โลสำหรับการใช้งานของผม ชาร์จวีคละครั้ง ผมไม่ได้ติดปัญหาอะไร


ว่าไป ผมก็กะติด Solarcell ongrid ซัก 5kw ไว้ใช้ในบ้านด้วย ชาร์จรถตอนกลางวันที่ไม่ได้ออกไปไหนด้วย  ก็น่าจะประหยัดได้เยอะอยู่
-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------



bia

วิ่งปีล่ะห้าหมื่นโลค่อยซื้อเพราะแบตมันเสื่อมแน่ๆ ตามอายุ



kiwiwi

ขนาดผมขับรถน้ำมัน ยังไม่ค่อยจะประหยัด(ระยะทาง)เลย

อาทิตย์ที่แล้วลองทำชาเลนจ์​กับตัวเองเล่นๆดู ขับ cx30 ทางไกลได้ 16โลลิตร คือแบบหงุดหงิดมาก ปกติขับตามใจเท้าโดยไม่ให้โดนใบสั่งก็จะอยู่แถวๆ 11-12โลลิตร

เรื่องค่าพลังงานยังไม่เดือดร้อน แต่ถ้าขับตามใจเท้าแล้วต้องมาหาที่เติมไฟแบบวางแผนไม่ได้จะหงุดหงิดแค่ไหน

สำหรับผม ไว้รอรถที่ชาร์จเร็วแบบ 10 นาทีเกือบเต็มในราคาที่จับต้องได้ และมีที่ให้ชาร์จเยอะๆแบบปั๊มน้ำมันก่อนครับ ขับให้สนุก ไฟหมดตรงไหนก็แวะเติม ฟินสุดละ



Sacrifice

ราคาเท่ากับ หรือน้อยกว่ารถน้ำมัน  ที่ยี่ห้อเดียวกัน และรุ่นใกล้เคียงกัน

เช่น HRV EV ราคาถูกกว่า e:HEV

เรื่องระยะผมไม่ซีเรียส เพราะไม่ค่อยไปเที่ยวไหนไกล แล้วก็ชาร์จที่บ้านอยู่แล้ว

300 กม. ไปกลับ พัทยาได้สบายๆ



DiKiBoyZ

ถ้าไม่นับรถยนต์

ผมใช้รถไฟฟ้า (มอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า) มานี่เกิน 5 ปีแล้วนะครับ

ทำไมต้องใช้รถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า ทั้งๆ ที่ ก็มีรถมอเตอร์ไซต์น้ำมันอย่าง Wave อยู่คันนึง

เพราะว่า

อย่างแรก ชาร์จไฟทีนึง วิ่งได้ 40-50km

อย่างที่ 2 มันเงียบ (รถยนต์จะมีเสียงครางๆ เหมือนยานอวกาศนิดๆ ไม่ถึงขั้นเงียบกริ๊บ)

อย่างที่ 3 ไม่ต้องดูแลรักษาใดๆ (รถยนต์ก็ไกล้เคียงกัน ดูแลแค่สลับยางถ่วงล้อ)

สุดท้าย ถ้าเป็นรถยนต์ น้ำมันที่เติม ต่อ km ต่อ บาท มันต่างกันมาก ยังไม่รวมค่าบำรุงรักษาตามรอบเช็คระยะอีกนะ เคยคำนวณดูแล้ว รถไฟฟ้า มันคุ้มกว่าจริงๆ



Guille

ราคาน้ำมันเป็ขหลักเลยครับสำหรับผม ตอนขึ้นไป 38 บาทกว่าๆ เริ่มไม่ไหวเพราะวิ่งต่อวันเยอะ ตอนนั้น BYD ยังไม่มา เลยได้ออก EP+ แทน ปัจจุบันก็ใช้งานได้ปกติ ไม่ดับ ชาร์จบ้านเป็นหลัก ข้างนอกมีบ้าง เสาร์-อาทิตย์ขับใน กทม นี่รถน้ำมันจอดยาวๆ แรกๆกังวลราคาขายเหมือนกัน แต่ขอลดค่าใช้จ่ายไปก่อน ส่วนถ้าไปไหนไกลๆจะเอารถน้ำมันอีกคันไปครับ



eaklego

ให้คนอื่นลองๆใช้ไปก่อน[ขอบคุณคนที่เป็นแนวหน้าให้ตอนนี้] ยังคิดว่าเทคโนโลยีมันน่าจะไปได้มากกว่านี้ ตอนนี้เหมือนพึ่งเริ่มiphoneรุ่นแรกๆอยู่

หรือถ้าผมมีเงินเหลือกินเหลือใช้พอตัว ก็ซื้อพรุ่งนี้เลยก็ได้



Darkart

มีจุดชาร์จเยอะและเพียงพอ ตามปั้มกับห้าง กับจำนวนรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปี
เทคโนโลยีชาร์จรวดเร็วขึ้น ต่อ 800กิโล
การซ่อมบำรุง มีอะไหล่รองรับ
ด้วยราคาทำจุดชาร์จที่บ้าน ราคายังแรงอยู่ ครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์



Floppy-T

1. สถานีชาร์จมากพอที่จะไม่ต้องตบตีแย่งชิงกันชาร์จ
2. ความเร็วใจการชาร์จเร็วหรือใกล้เคียงกับการเติมน้ำมัน
3. รอญี่ปุ่นทำ (ยังไม่ค่อยเชื่อใจกับแบรนด์แผ่นดินใหญ่)
4. ราคา สมเหตุ สมผล กว่านี้ ส่วนตัวคิดว่า ยังแพงไป



Aleister TJ

ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามาครบ 1 เดือน ยอมรับว่าไปเที่ยวไกลๆเสียเวลาชาร์จพอสมควร ขอแค่เทคโนโลยีชาร์จไวแบบ 20 นาทีเต็มก็พอแล้วครับ แบตใหญ่ผมไม่ค่อยมายด์เท่าไหร่
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite



kingcomsystem

เท่าที่สังเกต มาหลายปี

1. ราคา น้ำมัน เป็นเหตุผลแรกเลยครับ (ยุค LPG, ยุค CNG)

2. ราคารถไฟฟ้า + ประสิทธิภาพ (ตอนนี้ราคาดีมาก และ วิ่งได้ไกลขึ้น)

ผมเองรอ กระบะไฟฟ้า เพื่อธุรกิจ เท่านั้นเอง ไม่รู้สึก แอนตี้ อะไรมาก ...ถ้าลดต้นทุนค่า น้ำมันลง กำไร ก็เยอะขึ้น..ส่วนอายุการใช้งาน แบตเตอรี่ ผมยังเชื่อว่า 8ปี ++ น่าจะยังไหวครับ



zionzz

ผมรอเทคโนโลยีอย่างเดียวเลยครับ
กล่าวคือ การพัฒนาต่อปีค่อนข้างช้า ดูทีท่าซัก2-3ปีแล้วไม่มีอะไรประกาศใหม่แบบก้าวกระโดด

จังหวะนั้นแหละผมจะซื้อรถ EV