ผู้เขียน หัวข้อ: คิดว่าท่านจะซื้อรถไฟฟ้าใช้คันแรกเมื่อไหร่ และต้องเป็นเหตุผลอะไร?  (อ่าน 5110 ครั้ง)

ออฟไลน์ jame894561

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 539
อีก 1-2 ปีครับ รอขายอีแก่ที่บ้านก่อน เล็ง m3 highland ไว้น่าจะตัวนี้ เหตุผลก็คือถึงรอบเปลี่ยนรถพอดีและมีรถน้ำมันสำรองอีกคันอยู่แล้วครับ

ออฟไลน์ AZMVI

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 211
ง่าย ๆ เลยครับคือยังไม่เจอรถไฟฟ้าดีไซน์ที่ถูกใจเลย ฮ่า ๆ ส่วนเรื่องระยะทาง การชาร์จต่าง ๆ เตรียมพร้อมหมดละครับ

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,380
    • อีเมล์
1 เมื่อมีเงิน ผมซื้อรถ เงินสด ไม่ผ่อน ไม่ชอบเป็นหนี้
2 เมื่อรถที่ใช้อยู่ เก่า ไปต่อไม่ไหว จำเป็นต้องซื้อ ก็ซื้อ
3 เมื่อ ชาวบ้านเค้า ใช้ไฟฟ้ากัน เป็น ส่วนใหญ่ สถานีชาร์ท สถานที่ Service และซ่อมบำรุง น่าจะมากตามๆกันไป
ถึงเวลา ก็รู้เองแหละครับ นี่ก็ว่าจะ ไปลองเช่า มาขับก่อน ดูซิว่า มันจะดีอย่างที่เค้าว่ากันหรือไม่

ออฟไลน์ Labrador bok bok

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 75
ซื้อรถไฟฟ้าคันแรกเมื่อไหร่ ? และต้องเป็นเหตุผลอะไร : คงจะซื้อก็ต่อเมื่อรัฐออกกฎหมายบังคับใช้ ว่าห้ามใช้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปบนท้องถนนหละมั้งครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
อยู่คอนโด ไม่ค่อยสะดวกนักกับเรื่องการชาร์จไฟ ผมว่าหลายๆท่านที่ใช้ EV ล้วนๆ เพราะอยู่บ้าน ติด wall box กัน

หรือ เมื่อใช้เวลาชาร์ตไฟน้อยลง หรืออาจจะไม่ต้องชาร์จเลย (เปลี่ยนแบตเอา)

หลักๆ คงประมาณนี้ เรื่องการดูแลรักษา หรือค่าเบี้ยประกัน หรือราคาขายต่อ ผมว่าเมื่อมันอยู่ในจุดที่ผมคาดหวังไว้ เรื่องพวกนั้นมันคงดีขึ้นตามไปเอง

ออฟไลน์ Nott

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 137
ซื้อมาลองใช้ครับ ไม่เวิร์กก็ไม่ใช้ ถ้าเวิร์กก็ใช้ต่อ ถ้าต่อไปมีรุ่นที่จองไว้เข้ามาก็ซื้อมาลองใช้ครับ

ออฟไลน์ moobarn

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 31
แบ่งออกเป็นสองปัจจัย
ปัจจัยภายใน เป็นเรื่องความพร้อมของงบประมาณของตัวเองนะครับ รุ่นที่น่าสนใจก็ยังล้านปลาย
ปัจจัยภายนอก เป็นเรื่องความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับรถไฟฟ้า หลักๆ คือ จำนวนจุดชาร์จไฟครับ

ของผมก็ประมาณนี้ครับ

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
    • อีเมล์
รูปแบบการใช้งานของผม ตอนนี้รถไฟฟ้า ตอบโจทย์ครับ
ถ้าเอาเหตุผล และตัวเลขเป็นหลัก
ขับวันละไม่เกิน 100 km, ไม่ค่อยออกเที่ยวต่างจังหวัด

ข้อดีของรถไฟฟ้าที่เอาชนะเครื่องสันดาปได้คือ
ตัวเลขอัตราเร่งตั้งแต่ออกตัว, การบริโภคพลังงาน และการปล่อยมลพิษขณะใช้งาน
แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสนใจพวกเรื่องพวกนี้ คนส่วนใหญ่บนท้องถนน เขาก็ขับกันปกติ
ผมว่าส่วนใหญ่จะเน้นไปทางประหยัด มากกว่าบ้าพลัง

แต่ถ้าเอาอารมณ์มาตัดสิน
ยังไงเครื่องยนต์สันดาป ก็ดีกว่าแน่นอนครับ

ผมมองว่ามันเหมือนนาฬิกา จุดประสงค์มันเหมือนกัน คือจาก A ไป B
แต่ระหว่างทาง ความรู้สึกไม่เหมือนกัน สำหรับคนชอบรถ
มันไม่มีศิลปะมากพอในความเป็น digital
ขาดความเป็นธรรมชาติ ความเป็นกลไก

สำหรับไทย ผมมองว่าเรายังต้องการ PHEV แบบ long range
เพราะการขนส่งมวลชนระยะไกลเรายังต้องใช้เวลาอีกนาน ให้ทัดเทียมต่างชาติ
การต้องมารอชาร์จ แบ่งแท่นชาร์จ ยังสร้างความกังวลใจให้ผม

ทุกวันนี้ผมก็ยังมีความสุขกับการใช้เครื่องสันดาป อัตราเร่งมันสู้ EV ไม่ได้แน่นอน
แต่มันให้ความรู้สึกว่ามันเป็นรถ มากกว่าอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ชิ้นนึง

ออฟไลน์ caton

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 498
    • อีเมล์
1. ซื้อใช้แล้ว
2. อยากได้
TESLA Model Y Performance
BMW X1 F48 20D M sport
BMW 320D F30 M sport HIFI Stage 1

ออฟไลน์ bobsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,609
    • อีเมล์

กังวลเฉพาะราคาขายต่อเท่านั้นจริงๆ
ซึ่งเรื่องนี้มันไปผูกกับราคาแบตเตอรี่
คงรอจนกว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ดีกว่านี้

แต่ถ้ารอไม่ไหวว่าจะหวด model 3 highland ไปก่อน

เท่าที่สังเกตในนี้ไม่ค่อยมีคนตอบแบบโลกสวย (รักษ์โลก) เลยแฮะ


ออฟไลน์ Tsengok

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 30
เคยลองเช่ามาขับ 3 คัน MG EP, Tesla M3 RWD, MG4 เคยจอง CRV ehev RS ไว้ แล้วยกเลิกเพราะโดนป้ายยาให้ไปดู M Y RWD แต่สุดท้ายก็ล้มเลิกไปจอง Innova zenix แทน สรุป เป็นข้อๆ ก็ประมาณว่า

1. เทคโนโลยีรถไฟฟ้า ยังไม่นิ่ง สามารถพัฒนาได้อีกในอีกไม่กี่ปี อารมณ์จะคล้ายมือถือที่ผ่านไป 5 ปี ต่อให้เป็นเรือธง ของค่ายก็ขายมือสองลำบาก เพราะเทคพัฒนาไว

2. ยังไม่เหมาะกับคนไม่มี Wall charge วันนึงผมเอาไปพัทยา ต้องชาร์จสามรอบ รอบแรก เติมให้ได้สัก 80% ขับไปถึงพัทยา เติมอีก เพื่อขับกลับ และพอกลับมาก็ต้องเติมอีก เพราะวันรุ่งขึ้นมีธุระหลายที่ แต่ละครั้งที่เติม 30-40 นาที (อันนี้สาเหตุหลักที่ล้มเลิกการจะซื้อรถไฟฟ้า)

3. ขับเร็วไม่ประหยัด ถ้าจะประหยัดต้องชาร์จไฟบ้าน OFF-Peak แบบติดตั้ง มิเตอร์ TOU ซึ่งเบิกบริษัทไม่ได้ ถ้าจะเบิกต้องไปชาร์จข้างนอก แทน

4. ด้วยอายุที่มากขึ้น จะใส่ใจเรื่อง ความสบายในการขับขี่ ช่วงล่างที่ไว้ใจได้ อัตราเร่งเร้าใจ จริงๆ ถ้าไปลองที่ศูนย์ต้องโดนตกแน่นอน เพราะขับระยะใกล้ๆ แต่พอเช่ามาขับเป็นอาทิตย์เลยพบว่า วันท้ายๆ ก็เฉยๆ แล้ว เดี๋ยวนี้ขับทางไกล ไม่เกิน 120 ไม่ได้แช่ 140-160 เหมือนสมัยก่อนแล้ว

5. จุดชาร์จอื่นๆ ยังน้อย อย่างปตท มี ตู้เดียว 2 หัว (หัว AC ไม่น่ามีคนชาร์จยกเว้นจะสายชิลรอ 2-3 ชม.) ซึ่งอนาคตไม่พอแน่นอน
Tesla สักพักน่าจะเก็บตังค์

ก็เป็นสาเหตุที่พับแผน ไป รอดู M Y ตัวใหม่ ที่จะออกอีก สองปี ค่อยว่ากัน หรือรอ ให้ เจ้าอื่นๆ ในตลาดไทย นิ่งๆ การบริการ การซ่อมบำรุง ราคาอะไหล่ ราคาขายต่อซากหลัง 10 ปี

ออฟไลน์ eakapan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 142
ซื้อไปแล้วครับ BYD Dolphin Ext. หลักๆคือราคาเทียบกับสิ่งที่ได้ ยอมรับได้ก็จัดไป ใช้งานหลักๆในเมือง รถน้ำมันจอดยาวเลยทีนี้

เรื่องความแรง ต่อให้เป็น Tesla ไปลองมาก็ไม่รู้สึกว่าอยากเอามาซิ่งเลย ขับเรื่อยๆมันฟินกว่าเยอะ คันเดียวที่อยากซิ่งคือ MG4 แต่ราคาแรงไปนิด (ก่อนจะลด 1 แสน) แถมซอฟต์แวร์ MG ไม่โอเคกับผม

โดยรวมเหนื่อยน้อยกว่าขับรถน้ำมัน เพราะระบบช่วยขับขี่ (ที่ไม่ได้ perfect) ความนุ่มนวลของ powertrain ถ้ายอมรับเรื่อง handling ได้ ก็ปรับตัวได้ ใช้งานเหมาะสมตามสภาพรถ ตามราคา ตอนนี้ก็ Happy ครับ

เอาจริงๆ เงื่อนไขแต่ละคนเยอะแยะ สุดท้ายผมว่ามันจบที่ราคา กับสิ่งที่อยากได้มากกว่า ว่ารับได้ที่จะเอามาลองซักคันมั้ย เพราะมันเหมือนกับซื้อ iPhone ยุคแรกๆ ประมาณ iPhone 2, 3, 4 ที่เป็นของเล่นราคาแพงมาก
Subaru 1.8 GR / Subaru Legacy BC
Honda Jazz GE / Nissan Frontier ZD30
Honda CRV Gen4 / BMW 3GT
Suzuki Swift GLX-Navi / Mini Cooper S F56 Paddy
BMW E36 / Mini Cooper S F55
VW Golf MK3 Cabriolet / BYD Dolphin Extended Range

ออฟไลน์ GOBBS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,033
ผมอาจจะเป็นคนสุดท้ายของเวป
1.ผมใช้รถน้อยมาก...ถ้าไม่ได้ไปเที่ยวไหน สัปดาห์ละหน mz2ล่าสุดคือ 6เดือน 4000กว่าโล วันๆขี่แต่จักรยาน ทำงานที่บ้าน
2.ผมใช้รถเที่ยวแบบวิ่งยาว เติมน้ำมันทีไปได้ 800-1000โล(mz2ดีเซล) ถ้ารอชาร์ทรู้สึกเสียเวลา ถ้าจะใช้ไฟฟ้าต้องรอการชาร์ทที่เร็วและได้ระยะทางที่น่าพอใจกว่านี้ รวมถึงจุดชาร์ทที่ไม่ต้องแย่งกันดุเดือดอย่างช่วงเทศกาล อย่างน้อยๆต้องพอๆกับ หัวจ่ายรถน้ำมันได้แล้ว(เพราะชาร์ทใช้เวลามากกว่า)
3.ผมไม่ได้เสพความเร็ว แรง เสียง อะไรเลยจากการขับรถ แค่พาไปจุด A-B แบบปลอดภัยก็จบ
4.ในที่ห่างไกล น้ำมันยังหาปั้มชาวบ้านได้หรือพกถังน้ำมันสำรองไปเพิ่มก็ได้ แต่ถ้ากลางดอยคงหา fast charge ลำบาก ก็รอชาร์ทฉุกเฉินกันไป แต่เคยเห็น goodcat ขอไฟจนท.เขาใหญ่ชาร์ทฉุกเฉินอยู่นะ
5.รถที่ใช้มันก็ประหยัดอยู่แล้ว ยิ่งใช้รถน้อยมากด้วยยิ่งรู้สึกว่า จะไปเสียเงินซื้อรถใหม่ทำไม บางคนชอบบอกว่ารถไฟฟ้ารักโลก แต่คนรักโลกจริงๆจะใช้เท่าที่จำเป็นและไม่เพิ่มการผลิตโดยไม่จำเป็นครับ
6.ยังไม่มั่นใจอนาคต เพราะรถไฟฟ้ารุ่นแรกๆ อายุยัง 4-5ปีอยู่เลย สัก 8-9ปี ปัญหา+การแก้ปัญหาน่าจะเริ่มมีข้อมูลมาให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น
7.รีสอร์ท ที่พักกลางทาง หรือที่พักในเขตห่างไกล ยังไม่มี wall box สำหรับคนชอบเดินทางไปที่ประหลาดๆ(ขนาดในตัวจังหวัด หลายๆที่ก็ไม่มี) จะชาร์ทตอนกลางคืนก็ยากอยู่ ต้องรอแพร่หลายกว่านี้ และทางรีสอร์ทจะลงทุนให้ไหม คิดค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ยังหาเรทมาให้ตัดสินใจไม่ได้
สรุป ยังหาเหตุผลซื้อรถไฟฟ้าในวันนี้ยังไม่ได้เลยครับ
.....2006 honda jazz idsi
.....2015 mazda2 skyD
..ใช้รถเท่าที่จำเป็นกันเถอะครับ...รถมันติด

ออฟไลน์ peanutbutter

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 102
รอรถยนต์ไฟฟ้าที่ price range เดียวกับ neta v คือรู้สึกไม่เสียดาย ถ้าขายต่อไม่ได้ ไม่มีอะไหล่ หรือพัง หลังจาก8-10ปี
ประกอบกับใช้รถน้อย จุดที่จะคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายต่อระยะทาง+ค่าบำรุงรักษามันยิ่งนาน
ถ้าจะซื้อรถยนต์ที่แตะ 1 ล้านบาท ยังเชื่อใจ hybrid ค่ายญี่ปุ่นมากกว่า

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,333
 8) 8) 8)......ยังใช้ รถ ICE ไปก่อน  รอให้รถ EV วิ่งได้ 1,000 km/charged เมื่อไหร่ ค่อยตัดสินใจอีกทีครับ เพราะไม่ใช่เรื่องด่วน :-X

ออฟไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 233
เมื่อ รถ Taxi บนถนนเป็น EV ซัก 30% ครับ  :P

หรือ

เมื่อ น้ำมันแก๊สโซฮอล ราคาเกินกว่า 50 บาท/ลิตร
'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

ออฟไลน์ panupong508

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 680
    • อีเมล์
อยากใช้เหมือนกัน แต่ติดปัญหาเรื่องที่ชาร์จ และยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย ขอดูไปซักระยะ ค่อยตัดสินใจอีกทีครับ

ออฟไลน์ shipcake

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 679
    • อีเมล์
เมื่อค่าน้ำมันเกินลิตรละ 50 แบบไม่มีทางลงแน่นอน 

เพราะผมใช้รถเดือนละ 1,000 กิโลเอง

ลิตรละ 50 บาท ผมว่าไม่นานเกินรอครับ คอนเฟิร์ม เพียงแต่ว่า ปตท กับ กระทรวงการคลัง จะอุ้มได้แค่ไหน ซึ่งผมเดาว่าอุ้มได้แค่ดีเซล เพราะส่งผลต่อการขนส่งประเทศมหาศาล

ออฟไลน์ boogie2020

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,041
    • อีเมล์
เมื่อตอนนี้แหละคับ  ค่าน้ำมันแพงเกินละ

ที่จริงถ้า Atto3 มีรุ่น 7 ที่นั่งผมก็คงซื้อไปละ   400-500 โลสำหรับการใช้งานของผม ชาร์จวีคละครั้ง ผมไม่ได้ติดปัญหาอะไร


ว่าไป ผมก็กะติด Solarcell ongrid ซัก 5kw ไว้ใช้ในบ้านด้วย ชาร์จรถตอนกลางวันที่ไม่ได้ออกไปไหนด้วย  ก็น่าจะประหยัดได้เยอะอยู่
-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------

ออฟไลน์ bia

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 63
วิ่งปีล่ะห้าหมื่นโลค่อยซื้อเพราะแบตมันเสื่อมแน่ๆ ตามอายุ

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,863
ขนาดผมขับรถน้ำมัน ยังไม่ค่อยจะประหยัด(ระยะทาง)เลย

อาทิตย์ที่แล้วลองทำชาเลนจ์​กับตัวเองเล่นๆดู ขับ cx30 ทางไกลได้ 16โลลิตร คือแบบหงุดหงิดมาก ปกติขับตามใจเท้าโดยไม่ให้โดนใบสั่งก็จะอยู่แถวๆ 11-12โลลิตร

เรื่องค่าพลังงานยังไม่เดือดร้อน แต่ถ้าขับตามใจเท้าแล้วต้องมาหาที่เติมไฟแบบวางแผนไม่ได้จะหงุดหงิดแค่ไหน

สำหรับผม ไว้รอรถที่ชาร์จเร็วแบบ 10 นาทีเกือบเต็มในราคาที่จับต้องได้ และมีที่ให้ชาร์จเยอะๆแบบปั๊มน้ำมันก่อนครับ ขับให้สนุก ไฟหมดตรงไหนก็แวะเติม ฟินสุดละ

ออฟไลน์ Sacrifice

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 591
ราคาเท่ากับ หรือน้อยกว่ารถน้ำมัน  ที่ยี่ห้อเดียวกัน และรุ่นใกล้เคียงกัน

เช่น HRV EV ราคาถูกกว่า e:HEV

เรื่องระยะผมไม่ซีเรียส เพราะไม่ค่อยไปเที่ยวไหนไกล แล้วก็ชาร์จที่บ้านอยู่แล้ว

300 กม. ไปกลับ พัทยาได้สบายๆ

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
ถ้าไม่นับรถยนต์

ผมใช้รถไฟฟ้า (มอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า) มานี่เกิน 5 ปีแล้วนะครับ

ทำไมต้องใช้รถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า ทั้งๆ ที่ ก็มีรถมอเตอร์ไซต์น้ำมันอย่าง Wave อยู่คันนึง

เพราะว่า

อย่างแรก ชาร์จไฟทีนึง วิ่งได้ 40-50km

อย่างที่ 2 มันเงียบ (รถยนต์จะมีเสียงครางๆ เหมือนยานอวกาศนิดๆ ไม่ถึงขั้นเงียบกริ๊บ)

อย่างที่ 3 ไม่ต้องดูแลรักษาใดๆ (รถยนต์ก็ไกล้เคียงกัน ดูแลแค่สลับยางถ่วงล้อ)

สุดท้าย ถ้าเป็นรถยนต์ น้ำมันที่เติม ต่อ km ต่อ บาท มันต่างกันมาก ยังไม่รวมค่าบำรุงรักษาตามรอบเช็คระยะอีกนะ เคยคำนวณดูแล้ว รถไฟฟ้า มันคุ้มกว่าจริงๆ

ออฟไลน์ Guille

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 78
ราคาน้ำมันเป็ขหลักเลยครับสำหรับผม ตอนขึ้นไป 38 บาทกว่าๆ เริ่มไม่ไหวเพราะวิ่งต่อวันเยอะ ตอนนั้น BYD ยังไม่มา เลยได้ออก EP+ แทน ปัจจุบันก็ใช้งานได้ปกติ ไม่ดับ ชาร์จบ้านเป็นหลัก ข้างนอกมีบ้าง เสาร์-อาทิตย์ขับใน กทม นี่รถน้ำมันจอดยาวๆ แรกๆกังวลราคาขายเหมือนกัน แต่ขอลดค่าใช้จ่ายไปก่อน ส่วนถ้าไปไหนไกลๆจะเอารถน้ำมันอีกคันไปครับ

ออฟไลน์ eaklego

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 169
ให้คนอื่นลองๆใช้ไปก่อน[ขอบคุณคนที่เป็นแนวหน้าให้ตอนนี้] ยังคิดว่าเทคโนโลยีมันน่าจะไปได้มากกว่านี้ ตอนนี้เหมือนพึ่งเริ่มiphoneรุ่นแรกๆอยู่

หรือถ้าผมมีเงินเหลือกินเหลือใช้พอตัว ก็ซื้อพรุ่งนี้เลยก็ได้

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,192
    • อีเมล์
มีจุดชาร์จเยอะและเพียงพอ ตามปั้มกับห้าง กับจำนวนรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปี
เทคโนโลยีชาร์จรวดเร็วขึ้น ต่อ 800กิโล
การซ่อมบำรุง มีอะไหล่รองรับ
ด้วยราคาทำจุดชาร์จที่บ้าน ราคายังแรงอยู่ ครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ Floppy-T

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 969
1. สถานีชาร์จมากพอที่จะไม่ต้องตบตีแย่งชิงกันชาร์จ
2. ความเร็วใจการชาร์จเร็วหรือใกล้เคียงกับการเติมน้ำมัน
3. รอญี่ปุ่นทำ (ยังไม่ค่อยเชื่อใจกับแบรนด์แผ่นดินใหญ่)
4. ราคา สมเหตุ สมผล กว่านี้ ส่วนตัวคิดว่า ยังแพงไป

ออฟไลน์ Aleister TJ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,005
  • มีเงินเป็นล้านก็ซื้อเมื่อวานไม่ได้ แต่ถ้าร้อยล้านก็ช่างเมื่อวานมันเถอะ
    • อีเมล์
ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามาครบ 1 เดือน ยอมรับว่าไปเที่ยวไกลๆเสียเวลาชาร์จพอสมควร ขอแค่เทคโนโลยีชาร์จไวแบบ 20 นาทีเต็มก็พอแล้วครับ แบตใหญ่ผมไม่ค่อยมายด์เท่าไหร่
My Car History ~

Honda City ZX
Toyota Yaris 1.2E
Mazda3 Skyactive 2.0S
Mazda 2 SkyActiv 1.5 High Plus L
Mitsubishi Pajero Sport 2.4 Elite

ออฟไลน์ kingcomsystem

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 27
    • อีเมล์
เท่าที่สังเกต มาหลายปี

1. ราคา น้ำมัน เป็นเหตุผลแรกเลยครับ (ยุค LPG, ยุค CNG)

2. ราคารถไฟฟ้า + ประสิทธิภาพ (ตอนนี้ราคาดีมาก และ วิ่งได้ไกลขึ้น)

ผมเองรอ กระบะไฟฟ้า เพื่อธุรกิจ เท่านั้นเอง ไม่รู้สึก แอนตี้ อะไรมาก ...ถ้าลดต้นทุนค่า น้ำมันลง กำไร ก็เยอะขึ้น..ส่วนอายุการใช้งาน แบตเตอรี่ ผมยังเชื่อว่า 8ปี ++ น่าจะยังไหวครับ

ออฟไลน์ zionzz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 196
ผมรอเทคโนโลยีอย่างเดียวเลยครับ
กล่าวคือ การพัฒนาต่อปีค่อนข้างช้า ดูทีท่าซัก2-3ปีแล้วไม่มีอะไรประกาศใหม่แบบก้าวกระโดด

จังหวะนั้นแหละผมจะซื้อรถ EV