ผู้เขียน หัวข้อ: BYD Seal vs Volvo S60 อยู่ต่างจังหวัด ตัวไหนน่าเล่นกว่ากันครับ  (อ่าน 3856 ครั้ง)

ออฟไลน์ Marcsirasit

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
ตอนแรกสนใจเล็ง S60 ไว้ แต่ยังไม่ได้ออก ด้วยเหตุผลด้านการเงินครับ แต่ปัจจุบันพร้อมแล้ว แต่ตอนนี้่เห็น BYD Seal กำลังจะเปิดตัวก็แอบสนใจครับ ราคาสบายกระเป๋ากว่าด้วย เลยอยากทราบความเหนพี่ๆครับ ว่าคิดเหนเช่นไร

ออฟไลน์ solo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 525
    • อีเมล์
จังหวัดคุณมีศูนย์วอลโว่หรือ BYD ไหมครับ?

ออนไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,405
เป็นผมเอาเรื่องความสวยงาม Seal ชนะขาดลอย ทั้งภายนอก&ใน

คู่นี้ผมเอา Seal ครับ แต่ถ้า Seal VS BMW G20 ผมเอา BMW แต่ราคามันห่างกันเยอะครับ

Seal ถือว่าคุ้มค่าในราคาที่จะมา

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,479
ผมจอง tasla  y อยู่  สองเดือนแล้วยังไม่ได้  รอ  byb seal u  อีกคัน 

ตอนนี้คิดหันหลังให้กับรถน้ำมันแล้ว

ออฟไลน์ bennieT8

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 644
    • อีเมล์
ตอบตามตรงคือความที่ตอนนี้ผมใช้ XC60 อยู่  ผมปิดหูปิดตาไม่สนใจรถจีนหรือ Tesla เลยครับ  จริงๆไม่ถึงกับปิดการรับรู้ข้อมูลหรอก  แต่เท่าที่ตามอ่านดูมันยังไม่เข้าเกณฑ์ประเด็นสำคัญในการเลือกรถของผมครับ  ผมเน้นความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตในการขับรถในทุกๆวันของชีวิตครับ  แค่เบาะสั้นผมก็ไม่เลือกแล้ว

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,737
ลองดูก่อนไหมครับว่าชอบอะไรของ volvo แล้วถ้าไม่ใช้ volvo เรายังโอเคไหม

ปัจจุบันเหมือน byd ศูนย์เยอะกว่า น่าจะขยายศูนย์ได้เร็วกว่า
Volvo ศูนย์ไม่เยอะครับ ถึงช่วงนี้จะบูมขึ้นมาก แต่คงไม่โตเร็วแบบ byd

ผมมองว่า คุณภาพและความน่าเชื่อถือของแบรน volvo ยังเป็นต่อครับ ไม่ใช้ byd ไม่ดีนะ แต่ volvo มันอยู๋กับเรามานานกว่าครับ

ถ้าเอาเรื่องความคุ้มค้า seal ที่ถูกกว่า และแรงกว่า ได้เปรียบเห็นๆครับ
อัตราเร่งยังไง phev ก็สู้ bev ไม่ได้ครับ แต่ก็ได้เปรียบถ้าต้องวิ่งทางไกล

คหสต
ถ้า seal vs s60 ผมเอา seal ครับ แต่ถ้ามี v60 มาด้วย ผมจะไป volvo เพราะความชอบล้วนๆ
ชอบมาตั้งแต่ 850van > v70 > xc70 > v60

ออฟไลน์ spn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,721
ผมอยู่ ตจว นะ ศูนย์ BYD ขยายไปรวดเร็วมากกกก
ศูนย์ chevrolet nissan ford หลายที่ยุบ หรือ ลดพื้นที่ลงเปิด byd แทน ซึ่งการดูแลอาจจะสะดวกกว่า volvo (ไม่นับคุณภาพ)

แต่ถ้าเป็นผม ถ้ามีกำลัง ก็เอา volvo ครับ เพราะความน่าเชื่อถือของตัวรถ และภาพลักษณ์ ไม่อยากเดินทาง ตจว แล้วต้องเสี่ยง หรือ ผ่อนไป จอดซ่อมไป ตอนนี้รถไฟฟ้าออกมามากมาย ก็ยังไม่มีคันไหนเข้าตาเลย

E220d W213
Camry 2.5 HV Premium
BT50 Free Style Cab Hi racer
Revo 2.8J B cab 4x4
March 1.2 CVT
KIA Jumbo 1JZ-GE AT

ออฟไลน์ อีกนิดก็แรง

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 972
เชียร์ seal เพราะเห็นว่าสบายกระเป๋ากว่า  ค่าตัวต่างกันเกือบล้าน  และค่าซ่อมบำรุงต่ำกว่า
อีกปัจจัยอยากให้เลือกรถไฟฟ้าล้วน หรือสันดาปล้วน phev ไม่เชียร์ครับ

ออฟไลน์ Winnie_The_Poom

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 499
    • อีเมล์
Volvo ครับ ส่วนอีกค่าย ใหม่เกินที่จะเล่น แม้จะนิยมที่จีน แต่ที่ไทยนี่รอดูสัก 2 ปี รุ่นแรกทีขายส่วนตัวก็งั้นๆ Volvo รุ่นนี้ไม่ค่อยมีปัญหา คนต่างจังหวัดก็ใช้กันเยอะ ราคาถูกกว่ากันก็จริง แต่ตำแหน่งที่วางก็ต่างกัน รถไฟฟ้าเวลามีปัญหาเข้าศูนย์อย่างเดียว  ไม่ได้มีอะไรการันตีว่าจะซ่อมถูก ใครที่ตามข่าวก็จะเห็นตลอดรถไฟฟ้าเวลาต้องซ่อม ขั้นตอนวุ่นวายพอสมควร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 19, 2023, 16:58:19 โดย Winnie_The_Poom »

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,999
ผมไป Seal ครับ

ออฟไลน์ หมับเข้าให้

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 433
เห็นศูนย์ BYD เปิดเยอะ ๆ ดูก่อนนะครับว่าเป็นศูนย์ขายอย่างเดียวหรือเซอร์วิสด้วย


ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
ถ้าคุณชะลอการออก S60 ได้ แสดงว่า BYD Seal มีอิทธิพลในตัวเลือกของคุณมากพอสมควร

เพราะถ้าเป็นผม ก็คงออก S60 ไปแล้ว ไปรอรถที่ยังไม่ได้เปิดตัว ยังไม่รู้เลยว่ามันจะหมู่ หรือ จ่า รวมทั้งราคา และ ศูนย์บริการ

เพราะถ้าจะเทียบเอาสิ่งที่เห็นๆ ด้วยตา เทียบกับ Model3 ผมว่ามันยังจะเข้าใจง่ายกว่าอีก

แสดงว่า คุณรอ BYD Seal เป็นโจทย์หลัก มากกว่า S60 อีกนะครับ

ดังนั้น คำตอบสำหรับคุณ ก็น่าจะ BYD Seal ครับ น่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง

ออฟไลน์ wibul10

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 189
    • อีเมล์
ตอนแรกสนใจเล็ง S60 ไว้ แต่ยังไม่ได้ออก ด้วยเหตุผลด้านการเงินครับ แต่ปัจจุบันพร้อมแล้ว แต่ตอนนี้่เห็น BYD Seal กำลังจะเปิดตัวก็แอบสนใจครับ ราคาสบายกระเป๋ากว่าด้วย เลยอยากทราบความเหนพี่ๆครับ ว่าคิดเหนเช่นไร

ประเด็นจะซื้ออะไร ถ้าไม่ใช่ราคาเป็นเกณฑ์ ผมคิดว่าเกณฑ์พิจารณาสำคัญคือ คุณขับรถมากไหม และ ศูนย์บริการเป็นปัจจัยสำคัญครับ เพราะ ถ้าคุณาขับรถมาก และในเมืองที่คุณอยุ่ไม่มีศูนย์ มันอาจจะจำให้การเข้าศูนย์ของคุณลำบาง ถ้าศูนย์อยู่ระยะ ไม่เกิน 100 กิโล การเปรียบเทียบสองรุ่นนี้ จะมาอยู่ที่ ราคา กับ ระยะทางการขับครับ ในสองสามปี นี้ ผมยังเชื่อว่า การหาสถานีชาร์จ ยังไม่สะดวกสบาย แต่อาจจะดีกว่าปัจจุบันเล็กน้อย การชาร์จรถต้องเสียเวลาหลีกเลี่ยงไม่ได้ การขับขี่ทางไกล ต้องมีการวางแผน แต่ในขณะวอลโว่ ราคาอาจจะแพงกว่า แต่ได้ความปลอดภัยและความรู้สึกในการขับขี่ ระยะ 5 ปีแรกผมเชื่อว่าดีกว่า BYD SEAL แน่นอนครับ S60 ตัวปัจจุบัน ผ่านการแก้ไขมาพอสมควร และ ถ้าขับไม่ไกลมาก ระยะ 40 กฺิโล ขับเสร็จกลับบ้านชาร์จไฟตลอด คุณก็จะได้การขับประหยัด แบบ รถไฟฟ้า ผมขับ XC60 แต่ทุกวันของผมเป็นการขับระยะสั้นไม่เกิน 30 กิโล ผมกลับบ้าน ก็เสียบปลั๊ก แถมที่บ้านผมใช้ โซล่าเซลล์ด้วยครับ ง่ายๆ จากแต่ก่อนผมไม่มีโซล่า ค่าไฟเดือนนึ่ง 11000 บาท พอใส่เข้าไปเหลือ 7000 ครับ แถมค่าน้ำมันปกติเดือนละ 4000 ก็แค่ เดือนละ 1000 ถึง 1000กว่าบาท เพราะพอผมขับรถออกนอกบ้านกลับมา ผมก็เสียบปลั๊กเลยครับ ไมล์ในรถเขียนว่าผมใช้น้ำมันเฉลี่ยน1.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเองครับ ผมเติมน้ำมันบางเดือน 2000 บางเดือน 1000 เดียวครับ เพราะพฤติกรรมการขับครับ
ผมเลยไม่แน่ใจว่าการขับรถของคุณเป็นแบบไหน แต่รถไฟฟ้า ต่อกิโล ประหยัด กว่ารถน้ำมันแน่นอน ครับ เพราะขับไฟฟ้าบ้าน กิโลนึงไม่ถึงบาทครับ แถมผมใช้ไฟ โซล่าเซลล์ด้วยครับ มีอะไรเพิ่มเติมสอบถามได้ครับ แต่วอลโว่ ขับแล้ว ดีแน่นอนครับ ผมคิดว่าจะซื้อรถไฟฟ้า อีก สัก 3 ปี จากนี้ครับ ตอนนี้ เวลาเดินทางไกล ยังอยากใช้รถน้ำมันก่อนครับ

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
    • อีเมล์
ถ้าความชอบส่วนตัว คงเลือก Volvo ครับ แต่เอาเป็นแวน

การดูแลหลังจากซื้อมาแล้ว ผมมองว่ายังไง volvo น่าจะหนักกว่าแน่ ชิ้นส่วนมากกว่า มีอะไรต่อมิอะไรที่เสียจุกจิกมากกว่าแน่ ยิ่งอายุเยอะๆ ในขณะที่รถไฟฟ้าล้วน ถ้าเสียชิ้นหนักๆก็อิ่มเอมแน่นอนเช่นกัน

ออฟไลน์ MANUS995

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 163
    • อีเมล์
ตอบในฐานะ มีทั้ง BYD และ VOLVO เลือก จากที่แจ้งมา BYD Seal แบบไม่ต้องคิดมากเลยครับ
ความกว้างสบาย อัตาราเร่ง การดูแลรักษาที่ต่ำกว่า อุปกรณ์ เสียหาย ระยะยาวมีน้อยกว่า
ยิ่งได้ใช้รถไฟฟ้าแล้ว ไม่ต้องเข้าปั๊มบ่อยเพราะชาร์จ จากที่บ้านได้ ก็ใช้เพลินดีครับ
ถ้าระยะการเดินทางอยู่ใน Range ที่รถวิ่งได้เรียกได้ว่า ชิวมากๆครับ ฝากไว้จิจารณาครับ
ผมยังแอบสนใจ Seal เลยครับ
2008-Honda City ZX >Sold
2012-Mazda BT50Pro > Sold
2016-BMW 116i > Sold
2018-Toyota Hilux Revo 2.4J AT
2019-Camry 2.5G > Sold
2020-X1 20d M-Sport > Sold
2021-Toyota Corolla CROSS 1.8 Hybrid SAFETY
2021-Volvo S60 T8 R-Design
2023-BMW 530e M-Sport
2023-BYD Atto3

ออฟไลน์ solo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 525
    • อีเมล์
BYD ต้องรอลองดูผลงานประกอบและฝีมือช่างศูนย์ด้วยครับ
https://www.facebook.com/groups/344652060974915/user/1281907134/

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
ถ้าเอาเรื่องความคุ้มค้า seal ที่ถูกกว่า และแรงกว่า ได้เปรียบเห็นๆครับ
อัตราเร่งยังไง phev ก็สู้ bev ไม่ได้ครับ แต่ก็ได้เปรียบถ้าต้องวิ่งทางไกล

1. รถที่เร็วที่สุด ในการแข่งสนาม Nuremberg คือ AMG One เป็น PHEV ครับ
รถ BEV เจ้าตลาด Plaid แล้ว เข้าเส้นชัยที่ประมาณ 100 นะครับ
ช่วงล่าง BEV มีแบตใหญ่ทำให้เข้าโค้งไม่ดีนัก

2. BYD Seal ตัว long range* 0-100 5.9 วิ
Volvo S60 0-100 4.4 วิ นะครับ
VV S60 เร็วกว่า BM i8 / MB C43 Mild hybrid อีก
*เทียบตัวกลาง คือ long range ถ้าเทียบตัวท็อป ควรเทียบ VV สเปค Polestar ซึ่ง S60 ปลดล็อคได้

เสริม ต่างจังหวัด ถ้าปลายทางไม่มีที่ชาร์จ BEV จบครับ
และอย่างไรก็ตาม ถ้าจังหวัดที่อยู่ หรือบริเวณใกล้เคียง ไม่มีศูนย์เจ้าใด ผมก็ไม่ซื้อเจ้านั้น ครับ

อย่างไรก็ตาม S60
ก. ถ้าส่วน ICE เสีย ขับเป็น EV ไปซ่อมได้
ข. ถ้าส่วน EV เสีย ขับเป็น ICE ไปซ่อมได้เช่นกัน
(โบรชัวร์บอกชัดเลย ว่าทำได้ และ คนขับ Hyundai เคยทำอย่างนี้มาแล้ว)
ส่วน Seal ถ้า EV เสีย เช่น Converter ก็ต้องเรียกยานแม่อย่างเดียว
BEV แม้รุ่นสี่มอเตอร์ มนุษย์เลือกขับหน้า/หลัง/สี่แบบ PHEV S60 แทบไม่มีเจ้าใดทำได้ แม้เจ้าตลาด คอมพิวเตอร์มันเลือกชุดขับให้

สุดท้าย S60 ตัวท็อป ได้ Semi-autonomous driving ซึ่งได้รับการประเมินความปลอดภัยประมาณ 4 แต้มเต็มของ Euro NCAP ครับ
Auto Pilot ยังได้แค่ 2 จาก 4 แต้ม Euro NCAP
การที่ Pilot Assist ของ VV ทำงานได้ดี เปลี่ยนเลนอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน ซึ่งต่างจังหวัดไทย อันตรายครับ
ยิ่งขับถนนที่เส้น (แค่ค่อนข้าง) ชัด เหมือนมีคนขับให้ สบายมาก คุณภาพชีวิต ส่วนตัว ดีขึ้นเยอะ

ปล. พึ่งไปกาญจนบุรีมา ขอโรงแรมชาร์จ PHEV มันจะได้ประหยัดค่าเชื้อเพลิงหน่อย (ชาร์จเองประมาณ 40 บาทจนเต็ม) โรงแรมคิด 300 บาท เจออย่างนี้ ผมรออีกนานเลยกว่าจะออก BEV ยิ่งชาร์จตามปั๊มแล้วต้องรอเป็นชั่วโมงนี่ ไม่ไหว
ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ชาร์จ วิ่งได้ 20 กม./ล. เป๊ะ ในระยะเกือบ 450 กม. เหมือนทางไกลเป็น HEV ส่วนแถวบ้านเป็น BEV
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 20, 2023, 20:40:21 โดย nobody123 »

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
ถ้าแถวบ้านไม่ใกล้ศูนย์ Volvo ผมว่าอาจจะลำบากหน่อย ถ้าต้อง service อะไรขึ้นมานะครับ

ออฟไลน์ Spada_Valess

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 749
    • อีเมล์
ถ้าเป็นผมไป BYD ครับ จากที่ขับมาชอบ BYD มากกว่า

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
BYD คุ้มราคากว่าเยอะ

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
ถ้ามองว่าใช้รถจนถึงปี 2025 เป็นต้น ที่แต่ละเจ้าจ่อขาย Autonomous Driving level อย่างต่ำ 2 ในไทย
Seal ตัวปัจจุบัน จะกลายเป็นรถตกยุคไปทันที ครับ
S60 ตัวท็อปที่แสดงผลการตรวจจับเส้นบนกระจก คะแนน Euro NCAP ของความปลอดภัย ADAS สูงนะครับ
(ตัวไม่แสดงผลบนกระจก Pilot Assist ได้เท่า Auto Pilot คือ 2 จาก 4 แต้ม)

Volvo ขับเองดูรอบตัวเลย หน้า หลัง ข้าง กันปาดคนอื่นได้ (ปิดระบบได้) เปลี่ยนเลนให้ในวินาทีฉุกเฉิน
และไม่เหมือนเจ้าอื่น เรื่องรถสวนเลน ปัญหาใหญ่ต่างจังหวัดไทย Volvo เห็นล่วงหน้าเร็วกว่าครับ
(ADAS เจ้าอื่น จะเห็น ก็ต่อเมื่อคันที่สวนเลนมา เข้ามาในเลนเราแน่ ๆ แล้ว Volvo เห็นตั้งแต่เริ่มเข้ามาทางที่เราไปเลย)

อย่าว่าแต่รถเลย คน จักรยาน ช้าง ม้า วัว กวาง เป็นต้น Volvo เห็น ครับ

เห็นสิ่งต่าง ๆ ข้างต้น แล้วยังไง แค่เบรกหรือเปล่า?
Volvo จะสร้าง Trajectory planning หลบให้อัตโนมัติถ้าพิจารณาว่ามนุษย์ Take action ช้า ครับ
ถ้าหลบไม่ได้เพราะมีรถเลนอื่นใกล้เคียง ก็ลดความเร็ว ลดแรงปะทะ ปลดคลัชให้เครื่องเสียหายน้อยสุด ครับ

ก็เป็นสิ่งที่ฝากให้คิดถึงระยะยาว ในประเทศที่อัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนต่อประชากร สูง #1 / #2 ของโลก นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 21, 2023, 13:24:43 โดย nobody123 »