ผู้เขียน หัวข้อ: นายกฯ เศรษฐา ลั่นไม่ลืมพระคุณญี่ปุ่น ขอเป็นศูนย์กลางสุดท้ายรถสันดาป  (อ่าน 5750 ครั้ง)

ออฟไลน์ Cafe1n

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 81




นายกฯ เศรษฐา ลั่นรัฐบาลนี้ไม่ลืมพระคุณรัฐ-เอกชนญี่ปุ่น ที่เป็นแถวหน้าลงทุนในไทย เตรียมโรดโชว์ญี่ปุ่นดึงลงทุนเล็งให้สิทธิประโยชน์เพิ่ม ดันไทนเป็นศูนย์กลางช่วงสุดท้ายของการผลิตรถยนต์สันดาป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวทีสัมมนา “ถอดรหัสลงทุน ก้าวข้ามวิกฤต” ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566  โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ “Next Chapter ประเทศไทย” ในตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยต้องไม่ลืมว่ามีมหาอำนาจอีกหนึ่งประเทศคือ “ญี่ปุ่น” ถือเป็นประเทศที่มีการลงทุนสูงที่สุดในประเทศไทย

“เราเป็นคนไทยเราต้องไม่ลืมต้นน้ำที่ใครทำอะไรดี ๆ ให้กับเรา ญี่ปุ่นมีความกังวลเรื่องรถอีวีว่า เข้ามาแล้วทำให้เขาเสียเปรียบในเเง่ธุรกิจ เพราะเขาอาจจะช้าไปนิดหนึ่ง สำหรับเรื่องอีวีหลายคนเข้าใจ”

นายเศรษฐายังกล่าวต่อไปว่า ตนเองจะเดินทางไปญี่ปุ่นในเดือนธันวาคมนี้ และยืนยันกับเจ้าหน้าที่บีโอไอว่า รัฐบาลนี้ไม่ลืมต้นน้ำ ไม่ลืมพระคุณที่รัฐบาลญี่ปุ่นหรือเอกชนญี่ปุ่นที่ช่วยเหลือประเทศไทยมาโดยตลอด ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเคยเป็นดีทรอยต์ออฟเอเชียมีโรงงานประกอบรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเยอะมาก ถึงแม้วันนี้ประเทศไทยจะสนับสนุนด้านอีวี แต่เราต้องสนับสนุนเครื่องยนต์สันดาปต่อไปด้วย การมาดูแลธุรกิจเดิม ๆ ยังต้องดำเนินต่อไป และรถที่เครื่องยนต์สันดาปยังต้องมีต่อไปอีก 10-15 ปี ทำอย่างไรให้ภาคอุตสาหกรรมนี้อยู่ต่อไปได้

เนื่องจากมีซัพพลายเชนเยอะมากในประเทศไทยหากอยู่ดี ๆ หายไป หรือไม่ได้รับการสนับสนุน คนไทยที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์จะเดือดร้อน  รัฐบาลคำนึงถึงเรื่องนี้ และเสนอว่าจะมีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง เราจะมีการหารือกับสมาคมยานยนต์เพื่อทำอย่างไรให้ไทยเป็นศูนย์กลางของช่วงสุดท้ายของการผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องสันดาป

โดยจะมีการให้สิทธิประโยชน์บางประการเพื่อส่งเสริมการผลิตให้เข้ามาในประเทศไทย เพื่อส่งออก ทำให้ซัพพลายเชนรถสันดาปมีอนาคตยาวต่อไปได้อีก และมีช่วงเวลาปรับตัว ให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,956
    • อีเมล์
           รถไฟฟ้าเป็นเพียงอุตสาหกรรมคั่นกลางระหว่างเชื้อเพลิงน้ำมันกับเชื้อเพลิงไฮโดรเจน  รถพลังงานไฟฟ้าอาจจะอยู่ไม่นานถ้าเทคโนโลยีไฮโดรเจนมาเร็ว

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,537
ถ้าค่ายญี่ปุ่นกับยุโรปจะเร่งดัน Fuel Cell ผมก็ไม่ขัดข้องนะ ปล่อยค่ายจีนดันไฟฟ้าล้วนไป ใครชอบแบบไหนก็เลือกเอา แต่แนวโน้มตอนนี้เหมือนจีนกับยุโรป (และอาจรวมเกาหลี) จะไปทางไฟฟ้าล้วนเป็นหลัก
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ Floppy-T

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 969
เชื่อว่าญี่ปุ่นเค้าก็มีเทคโนโลยีแหล่ะ แต่พี่ไทยไปอำนวยให้พี่จีนหนักไปหน่อย รถนำเข้าจากญี่ปุ่น ภาษาพี่ไทยเก็บสุดโหด

ออฟไลน์ nmd

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 175
ผมคิดว่าในโลกของธุรกิจไม่มีคำว่าบุญคุณนะ
ที่ญี่ปุ่นเลือกมาลงทุนในไทย เพราะในอดีตประเทศไทยเหมาะสมที่สุด
ไม่มีภัยพิบัติ แรงงานมีฝีมือ ค่าจ้างเหมาะสม อยู่ติดอ่าวไทย
สามารถส่งรถยนต์ทางเรือไปได้ทั้งภูมิภาค
ในบริษัทรถยนต์ตำแหน่งผู้บริหารระดับ C level ก็ยังเป็นคนญี่ปุ่น
ไม่ยอมให้คนไทยมีปากมีเสียง เราถึงได้รถที่ออฟชั่นง่อยๆ แบบนี้
ถ้ามีประเทศที่ดีว่าหรือมีเงื่อนไขที่เหมาะสมเค้าพร้อมย้ายครับ
นายกถึงต้องออกมาพูดแบบนี้
อีกอย่างตอนนี้บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น เช่น toshiba panasonic ก็ไปเวียดนามกันหมดแล้ว
เพราะค่าแรงถูกกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 02, 2023, 14:35:09 โดย nmd »

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
มันต้องแบบนั้นแหละครับ พูดจาต้องโลกสวยนิดนึง
แต่ของจริงตามเวรตามกรรมครับ

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,599
  • may the force lead your way ...
ถ้าถึงยุคกรีนไฮโดรเจนจริง ผมว่ามันน่าจะเป็นได้แค่ปั๊มสถานีชาร์จที่แปลงไฮโดรเจนเป็นไฟฟ้าแล้วก็เสียบเข้ารถอยู่ดีนะครับ  :-\
ด้วยอายุถัง แรงดันก๊าซ ความสะดวกทั้งหลาย มันห่างไกลจาก bev มากๆจนไม่น่าแข่งกันได้เลย สำหรับรถโฮมยูสทั่วไป
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,002
           รถไฟฟ้าเป็นเพียงอุตสาหกรรมคั่นกลางระหว่างเชื้อเพลิงน้ำมันกับเชื้อเพลิงไฮโดรเจน  รถพลังงานไฟฟ้าอาจจะอยู่ไม่นานถ้าเทคโนโลยีไฮโดรเจนมาเร็ว

จริงๆรถไฮโดรเจนมาแล้วครับ
ตปท. ใช้กันแล้ว แต่ไม่นิยม ไม่แพร่หลายอยู่ดี

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,470
    • อีเมล์
ปัญหาของรถญี่ปุ่นไม่ใช่รถไฟฟ้า
แต่เป็นตัวเองที่มี Hybrid /Phev แท้ๆแต่ไม่ได้เอามาประกอบร่างใน body ที่ดี ใส่ spec ที่ดี ให้ความปรานีตกับวัสดุภายใน

รถ hybrid/phev ที่ประหยัดน้ำมัน 15-20km/L
ที่วิ่งไปไหนก็ได้ที่มีปั๊มน้ำมัน ขับไป 8-10ปี ไม่พังไม่เสีย ผมยินดีซื้อแล้วครับ ไม่ต้อง 4วิร้อยหรอก

ออฟไลน์ city552

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 552
อยากได้ RAV4 PHEV หรือ Camry PHEV แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับผมนะ รถทน เคลมอะไหล่ไม่ยาก ประหยัดน้ำมัน ไปไหนได้หมด ไม่กลัวไฟหมด จากใจคนที่ขับรถทั้งวันทุกวัน สำหรับวันทำงาน ยังไม่ค่อยอยากไป EV เท่าไหร่
2015   Mazda BT50 Pro 2.2 Hi-racer
2019   Toyota Altis Hybrid Hybrid Mid
2020   Mercedes-Benz C220d W205
2020   Toyota Fortuner 2.4V 2WD
2021   Honda Civic gen11(FE) 1.5 EL+

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,643
    • อีเมล์
ผมคิดว่าในโลกของธุรกิจไม่มีคำว่าบุญคุณนะ
ที่ญี่ปุ่นเลือกมาลงทุนในไทย เพราะในอดีตประเทศไทยเหมาะสมที่สุด
ไม่มีภัยพิบัติ แรงงานมีฝีมือ ค่าจ้างเหมาะสม อยู่ติดอ่าวไทย
สามารถส่งรถยนต์ทางเรือไปได้ทั้งภูมิภาค
ในบริษัทรถยนต์ตำแหน่งผู้บริหารระดับ C level ก็ยังเป็นคนญี่ปุ่น
ไม่ยอมให้คนไทยมีปากมีเสียง เราถึงได้รถที่ออฟชั่นง่อยๆ แบบนี้
ถ้ามีประเทศที่ดีว่าหรือมีเงื่อนไขที่เหมาะสมเค้าพร้อมย้ายครับ
นายกถึงต้องออกมาพูดแบบนี้
อีกอย่างตอนนี้บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น เช่น toshiba panasonic ก็ไปเวียดนามกันหมดแล้ว
เพราะค่าแรงถูกกว่า

ผมเห็นด้วยกับเม้นท์นี้ครับ ยุ่นไม่มีคำว่าบุญคุณ ผลประโยชน์ต่างตอบแทน และความได้เปรียบที่ควบคุมได้ เท่านั้นที่เขาสนใจ

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,818
แล้ว Net Carbon Zeroจะหายจากนโยบายประเทศไทยไหมเนี่ย 55
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ KTN88

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,196
           รถไฟฟ้าเป็นเพียงอุตสาหกรรมคั่นกลางระหว่างเชื้อเพลิงน้ำมันกับเชื้อเพลิงไฮโดรเจน  รถพลังงานไฟฟ้าอาจจะอยู่ไม่นานถ้าเทคโนโลยีไฮโดรเจนมาเร็ว

จริงๆรถไฮโดรเจนมาแล้วครับ
ตปท. ใช้กันแล้ว แต่ไม่นิยม ไม่แพร่หลายอยู่ดี

รถไฟฟ้าก็มีทำตลาดมาเกือบ 30 ปีแล้วครับ แต่เพิ่งมาแพร่หลายช่วง 5 ปีหลังนี้เอง

พอเทคโนโลยีมันดีขึ้นมันก็จะแพร่หลายขึ้นเองครับ

ออฟไลน์ GT3

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 500
           รถไฟฟ้าเป็นเพียงอุตสาหกรรมคั่นกลางระหว่างเชื้อเพลิงน้ำมันกับเชื้อเพลิงไฮโดรเจน  รถพลังงานไฟฟ้าอาจจะอยู่ไม่นานถ้าเทคโนโลยีไฮโดรเจนมาเร็ว

จริงๆรถไฮโดรเจนมาแล้วครับ
ตปท. ใช้กันแล้ว แต่ไม่นิยม ไม่แพร่หลายอยู่ดี

รถไฟฟ้าก็มีทำตลาดมาเกือบ 30 ปีแล้วครับ แต่เพิ่งมาแพร่หลายช่วง 5 ปีหลังนี้เอง

พอเทคโนโลยีมันดีขึ้นมันก็จะแพร่หลายขึ้นเองครับ

ความพร้อมของ Infrastructure สำคัญที่สุด
รถไฮโดรเจนเนี่ย ปัญหามันคือคนลงทุนสร้างปั๊มก็กลัวจะขาดทุนเพราะรถออกมาไม่มากพอ
คนซื้อก็ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวไม่มีปั๊มเติม มันเลยวนกันอยู่แบบนี้
ถึงแม้ว่ารถไฟฟ้ามันจะชาร์จนาน แต่ทุกที่สามารถต่อไฟมาชาร์จได้ รวมถึงที่บ้านด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 03, 2023, 11:54:15 โดย GT3 »

ออฟไลน์ KTN88

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,196
           รถไฟฟ้าเป็นเพียงอุตสาหกรรมคั่นกลางระหว่างเชื้อเพลิงน้ำมันกับเชื้อเพลิงไฮโดรเจน  รถพลังงานไฟฟ้าอาจจะอยู่ไม่นานถ้าเทคโนโลยีไฮโดรเจนมาเร็ว

จริงๆรถไฮโดรเจนมาแล้วครับ
ตปท. ใช้กันแล้ว แต่ไม่นิยม ไม่แพร่หลายอยู่ดี

รถไฟฟ้าก็มีทำตลาดมาเกือบ 30 ปีแล้วครับ แต่เพิ่งมาแพร่หลายช่วง 5 ปีหลังนี้เอง

พอเทคโนโลยีมันดีขึ้นมันก็จะแพร่หลายขึ้นเองครับ

ความพร้อมของ Infrastructure สำคัญที่สุด
รถไฮโดรเจนเนี่ย ปัญหามันคือคนลงทุนสร้างปั๊มก็กลัวจะขาดทุนเพราะรถออกมาไม่มากพอ
คนซื้อก็ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวไม่มีปั๊มเติม มันเลยวนกันอยู่แบบนี้
ถึงแม้ว่ารถไฟฟ้ามันจะชาร์จนาน แต่ทุกที่สามารถต่อไฟมาชาร์จได้ รวมถึงที่บ้านด้วย

มันก็กรณีเดียวกับรถไฟฟ้า BEV เลยครับ ก่อนหน้านี้มันยังไม่แพร่หลายเพราะคนซื้อกลัวขับไปแล้วไม่มีที่ชาร์จ พอปั๊มชาร์จมีเยอะขึ้นก็ค่อยมีคนซื้อมากขึ้น

ถ้าไฮโดรเจนมันพัฒนาถึงจุดนึงที่ราคามันถูกลง ก็จะมีคนลงมาสร้างจุดเติมเพิ่มขี้นเอง

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
หวังว่าญี่ปุ่นจะไม่ทำตามนายกขอแค่สันดาปนะครับ

ถ้าทำตาม เศรษฐกิจเราจะหดลงเรื่อย ๆ

คือ อย่าง Toyota วางแผนใหม่แล้ว

'ตอนนี้ โตโยต้ามีแผนงานใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า บริษัทกำลังจะกลับมาแข่งขันและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้ 3.5 ล้านคันภายในปี 2573 โดยเริ่มต้นจากการพัฒนาแบตเตอรี่ของตนเองใน 4 รูปแบบ

1.แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอิเล็กโทรไลต์เหลว มีแผนจะเปิดตัวในปี 2569 ชาร์จเต็มเร็วภายใน 20 นาที สามารถเดินทางได้ไกลเกือบ 800 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และมันจะมีต้นทุนที่ถูกถูกกว่าเซลล์แบตที่ใช้ใน bZ4x ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

2.แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต ออกแบบมาเพื่อใช้กับรถยนต์ Eco car ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นแบตที่ได้รับความนิยมในจีน และ Tesla เองก็กำลังใช้แบตชนิดนี้อยู่เหมือนกัน (แต่ทำไมเพิ่งทำนะ)

3.LFP cells หรือ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตอีกชนิดหนึ่ง ซึ่ง Toyata ตั้งใจจะพัฒนาเพื่อให้สามารถลดต้นทุนได้ 40 เปอร์เซ็นต์รวมทั้งทำให้มันได้ระยะการวิ่งที่ไกลกว่าเดิม แต่ข้อเสียของ LFP คือมันชาร์จช้า โดยการชาร์จแบบ DC 10–80 เปอร์เซ็นต์ใช้เวลาประมาณ 30 นาที Toyota คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2570

4.แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนโซลิดสเตต เป็นประสิทธิภาพสูงมากที่สุด อาจจะใช้ในรถยนต์ที่ต้องการวิ่งในระยะไกล แต่ข่าวร้ายคือมันยังไม่พร้อมใช้งานจนถึงปี 2571 แต่ถ้าทำสำเร็จ จะสามารถลดต้นทุนในการผลิตลง 10 เปอร์เซ็น และทำให้วิ่งได้ไกลมากถึง 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง'

[https://www.techhub.in.th/toyota-4-battery-platform/]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 03, 2023, 13:34:56 โดย nobody123 »

ออฟไลน์ ab4u

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 266
เห็นว่าญี่ปุ่นโวยวาย ไม่รู้ว่าเขาจะโวยวายทำไม ก็เห็นอยู่ว่าจีนขายรถEVแบบเทน้ำเทท่า ก็น่าจะเอามาขายด้วยสิ ทำในจีนแล้วเอาเข้ามาแบบเทสล่าก็ได้

จะมีที่ขายมานานก็ NISSAN LEAF รุ่นเดียว แต่แพงจัง

เห็นโตโยต้าเอาต้นแบบรถ ev มาโชว์ 10 กว่ารุ่น แต่มีขายแค่BZ4Xรุ่นเดียว แถมขายแพงอีก

รถที่เป็นไฟฟ้าจากญี่ปุ่นก็มี แต่สงวนขายที่ประเทศตัวเอง

ออฟไลน์ KTN88

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,196
เห็นว่าญี่ปุ่นโวยวาย ไม่รู้ว่าเขาจะโวยวายทำไม ก็เห็นอยู่ว่าจีนขายรถEVแบบเทน้ำเทท่า ก็น่าจะเอามาขายด้วยสิ ทำในจีนแล้วเอาเข้ามาแบบเทสล่าก็ได้

จะมีที่ขายมานานก็ NISSAN LEAF รุ่นเดียว แต่แพงจัง

เห็นโตโยต้าเอาต้นแบบรถ ev มาโชว์ 10 กว่ารุ่น แต่มีขายแค่BZ4Xรุ่นเดียว แถมขายแพงอีก

รถที่เป็นไฟฟ้าจากญี่ปุ่นก็มี แต่สงวนขายที่ประเทศตัวเอง

เค้าโวยตรงที่ไปเปิด FTA ไทย-จีน ภาษีนำเข้ารถไฟฟ้า 0% ครับ มันไปทำให้รถนำเข้าจากจีน 100% มันทำราคาสู้รถประกอบในประเทศได้

อย่างล่าสุดก็มีข่าวว่า GWM เริ่มโวยโครงการ FTA บ้างแล้ว เพราะอุตส่าห์ลงทุนทำโรงงานประกอบในไทยตั้งหลักพัน-หมื่นล้าน แต่ดันมี FTA ให้นำเข้ามาถูกๆ ทำให้พวก Tesla ทำราคาสู้รถประกอบในประเทศได้

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,740
ผมคิดว่าในโลกของธุรกิจไม่มีคำว่าบุญคุณนะ
ที่ญี่ปุ่นเลือกมาลงทุนในไทย เพราะในอดีตประเทศไทยเหมาะสมที่สุด

เห็นด้วยครับใช้คำว่า บุญคุณ แล้วดูยิ่งใหญ่มาก
ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นบุญคุณกันนะ เราได้งานได้เศรฐกิจ เขาก็ได้กำไร ทุกอย่างมันลงตัวเข้าถึงมาลงทุน
ทางเราเองก็มีการปรับภาษี ทำอะไรหลายๆอย่างเอื้อเขาอยู่แล้วด้วย

ผมเองก็นึกไม่ออกเลยว่าจะสนับสนุน ค่ายญี่ปุ่นยังไง ให้โรงงานเขาผลิตรถในไทยต่อไปได้
ในเมื่อรถไฟฟ้าจีน ได้ fta ราคาใกล้เคียงกัน แต่สมรรถณะ ดีกว่า ติดก็แค่ที่ชาร์จกับความน่าเชื่อถือของแบรน
จะปรับ fta ก็ไม่ได้ จะลดภาษีรถผลิตในประเทศเราก็ไม่ได้อะไรอีก
ถึงญี่ปุ่นเอารถที่ผลิตจากจีนมาขายเรา โรงงานประกอบ กับโรงงานชิ้ส่วนในไทยก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรอีก

คิดว่าทำได้แต่ส่งเสริมให้เขาผลิตที่เราแล้วส่งออกไปมากกว่า จนกว่าเขาจะมีสินค้าที่น่าสนใจมากกว่านี้มาขายเรา
อาจต้องสนับสนุนเขา ผลิต Hybrid จะลดภาษีแบต(สำหรับรถ Hybrid ก็ได้) แล้วรอให้ราคาน้ำมันลงมา แล้วค่าเชื้อเพลิงของ Hybrid คนอาจเลือก BEV น้อยลง
เพราะถ้าราคาน้ำมันไม่โหดขนาดนี้ e10 สัก 25-30บาท แล้วใช้พวก Hybrid ที่วิ่งทางไกลได้ 20kml หรือสัก 1-1.5 บาท/km มันก็จะดูน่าสนใจมากขึ้นเอง

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,435
รอดูว่าจะทำยังไง

เรื่องธุรกิจ ผมว่ามันก็เป็นไปตามการดำเนินธุรกิจนะครับ ถ้าเราไม่น่าลงทุน เค้าก็ไม่มาลงทุนหรอกครับ อีกอย่างเราก็เอื้อให้เค้ามาลงทุนด้วย