ผู้เขียน หัวข้อ: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก  (อ่าน 9782 ครั้ง)

ออฟไลน์ Clint Barton

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
เกริ่นก่อนว่าไม่ใช่คนรีวิวรถ แต่มีโอกาสได้จองและรองขับจึงนำความคิดเห็นส่วนตัวและสิ่งที่พบเจอมาเล่าสู่กันฟัง
ปกติแล้วไม่เคยจับรถจีนยี้ห้อใดๆเลยจึงถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้จับ ได้นั่งและได้ขับรถ EV จีน (ปกติที่บ้านใช้อยู่จะเป็นรถยุโรป และมีเก๋งญี่ปุ่น 1 คันเอาไว้ใช้ขับจ่ายตลาดในเมือง)

ภายนอก และภายใน
ครั้งแรกที่เจอหน้า BYD SEAL AWD Performance (หลังจากนี้ขอเรียกแค่ BYD SEAL) ภายนอกดูสวยใช้ได้เลยรู้สึกประทับใจแรก หลังจากนั้นลองเปิดประตูเข้าไปในห้องโดยสารฝั่งคนขับแล้วชมภายในออกแบบได้เรียบหรู ดูดี แต่เบาะนั่งคนขับจากที่ลองนั่งแล้วตัวเบาะสั่นไปนิดนึงสำหรับผม (ผมสูง 185 cm หนัก 75 kg) หลังจากปรับเบาะอยู่นานก็นั่งสบายอยู่แต่คิดว่าถ้าขับทางไกลน่าจะเมื่อเหมือนกัน ในส่วนของพวงมาลัยปรับขึ้นลงเข้าออกได้ แต่เป็นระบบ manual (ทำไมถึงไม่ใส่ระบบไฟฟ้ามานะ) วัสดุบุนิ่มทั้งขอบประตูและคอนโซนมีผ้ากำมะหยี่ แต่วัสดุจับๆดูแล้วน่าจะไม่คงทน (อาจจะคิดไปเอง) ให้ wireless change มา 2 ช่อง ถือว่าดีมาก แต่เมื่อได้เดินออกไปนั่งเบาะหลังดูแล้วพบว่าเข้าออกลำบากมาก ติดหัว จังหวะก้าวเข้า ก้าวออกมันแปลกๆ ติดขัดไปหมด ส่วนเบาะนั่งด้านหลังได้ลองนั่งสั่นๆนิ่มดีสบายในช่วงแรก แต่ถ้านั่งทางไกลน่าจะเมื่อแน่ๆสำหรับผม ในส่วนของเครื่องเสียงไม่ได้ฟัง

หน้าจอกลาง และระบบ sensor ต่างๆ
เป็นสิ่งที่ไม่ชอบที่สุด สัมผัสแล้วมีหน่วง ตอบสนองช้า เมื่อเจอแสงแดดหน้าจอสะท้อนมากๆฝั่งคนขับนั่งแล้วจะดูข้อมูลที่อยู่ฝั่งซ้ายลำบากเมื่อปรับจอเป็นแนวนอน แต่พอปรับเป็นแนวตั้งเหมือนจะช่วยลดจุดอ่อนตรงนี้ไปได้แต่ก็ยังใช้งานได้ยากอยู่ดี และจะปรับอะไรต้องละสายตาออกจากถนนซึ่งในส่วนนี้ถือว่าอันตรายมาก (อาจจะยังไม่ชินกับ menu ต่างๆ ถ้าปรับตัวได้อาจจะไม่ใช่ปัญหาก็ได้) ในส่วนของระบบ sensor ต่างๆทำงานได้ยังไม่ดีพอและแอบแปลกใจตอนทดสอบรถเซล (ที่นั่งมาด้วย) แจ้งว่าระบบ lane keep และระบบตามรถคันหน้ายังไม่ให้ใช้ ผมก็งงว่าทำไมเพราะเรามาทดสอบก็อยากจะรู้ทั้งหมดว่าใช้งานจริงเป็นอย่างไร ก็ต่อรองคุยกันไปว่าเราเคยใช้กับรถคันอื่นมาแล้วจนเซลยอม หลังจากให้เซลช่วยเปิดระบบทั้งหมดเพื่อให้ sensor ทุกตัวทำงานได้อย่างเต็มที่ก็พบว่า ระบบตามรถคันหน้ายังไม่เนียนเท่าที่ควรในจังหวะการผ่อนความเร็วเนื่องจากรถจะเบรคจนหัวทิ่มแล้วก็ไต่ความเร็วใหม่ตอนแรกผมคิดว่าเป็นที่ระยะห่างก็เลยปรับให้ครบทุกระยะเลยก็เป็นเหมือนกันหมด ในส่วนนี้ผมมองว่าอันตรายรถคันหลังอาจทิ่มตูดได้เลย (คิดว่าในอนาคต Software น่าจะแก้ไขได้แหละ) ส่วนระบบ lane keep ก็เช่นกันแค่เส้นไม่ชัดหน่อยเดียว (ตาเรายังมองเห็น) ระบบก็เอ๋อแล้ว แล้วเอ๋อไปพักนึงเลยจนกว่าจะกลับมาใหม่ บางทีเส้นชัดก็มีเอ๋อคือไม่หักกลับเข้าเลยให้

การขับขี่
โดยรวมถ้าขับด้วยความเร็วปกติเป็นรถที่ดีเลยขับในเมืองสบาย นุ่ม แต่พอมันมาเป็น Performance ในราคาที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงรถ 500 แรงม้าได้ มันกลับเป็นรถที่น่ากลัวทันทีในความคิดของผม (ประสบการณ์เคยเรียน skill driving ของ BMW) เมื่อลองกดในถนน (ในตอนที่รถน้อย) แล้วพบว่าจังหวะที่เข้าโค้งท้ายรถจะออกถึงจะเป็น AWD ก็ออกคิดว่าเป็นเพราะโครงสร้างแบตและตัวรถที่ balance น้ำหนักมาไม่ดี แล้วพอถึงความเร็วเกิน 120 รถรู้สึกลอยๆ ไม่เกาะ มันหวิว ผมขับไปแตะที่ 150 ต้องยอมยกออกแล้วไม่กล้าไปต่อ จากนั้นลองขอเซลเข้าไปในลานที่โล่งๆเพื่อลอง slalom แบบไม่มีกรวยนะ และลองเบรคก็ทำให้เข้าใจรถได้มากขึ้นว่าอยากขับกันเกิน 140 เลย ที่จริง 120 ก็น่ากลัวแล้วแหละ

ปิดท้าย
สุดท้ายใครคิดว่าจะเอารถราคานี้มาทำเปลี่ยนช่วงล่าง เปลี่ยนเบรคเพื่อให้มันเทียบเท่ากับ Performance ยี้ห้อยุโรปหรือญี่ปุ่นที่มาจากโรงงานอย่าเลย ผมว่ามันไม่ช่วยด้วยการวาง balance ของน้ำหนักแบตเตอรี่ต่างๆรวมถึงโครงสร้างรถ และถ้าผมเจอ BYD SEAL ผมก็จะออกห่างให้เขาไปก่อนเลย จะไม่ให้เขามาตามท้ายเราหรืออยู่หน้าเราแน่ๆ และเสียงไฟเลี้ยวไม่ชอบมากๆมันเหมือนเสียง warning แจ้งว่าอะไรจะเสียมากกว่า (แต่เซลแจ้งว่าสามารถเปลี่ยนเสียงได้นะ ยังไม่ได้ลองเช่นกัน) สุดท้ายรถไฟฟ้าระดับ 500 แรงม้าผมมองว่ามีได้แต่ราคาก็ควรขยับไปให้คนที่เฉพาะกลุ่มเข้าถึงจะดีกว่าครับ

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,953
    • อีเมล์
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2023, 11:29:29 »
เรื่องช่วงล่าง ผมดูรีวิวหลายเจ้าเลยใน youtube บางคนบอกแน่นกำลังดี บางคนบอกโยนไม่มั่นใจ

ก็ไม่รู้ว่าตกลงมันยังไงกัน 5555

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2023, 11:50:10 »
เกริ่นก่อนว่าไม่ใช่คนรีวิวรถ แต่มีโอกาสได้จองและรองขับจึงนำความคิดเห็นส่วนตัวและสิ่งที่พบเจอมาเล่าสู่กันฟัง
ปกติแล้วไม่เคยจับรถจีนยี้ห้อใดๆเลยจึงถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้จับ ได้นั่งและได้ขับรถ EV จีน (ปกติที่บ้านใช้อยู่จะเป็นรถยุโรป และมีเก๋งญี่ปุ่น 1 คันเอาไว้ใช้ขับจ่ายตลาดในเมือง)

ภายนอก และภายใน
ครั้งแรกที่เจอหน้า BYD SEAL AWD Performance (หลังจากนี้ขอเรียกแค่ BYD SEAL) ภายนอกดูสวยใช้ได้เลยรู้สึกประทับใจแรก หลังจากนั้นลองเปิดประตูเข้าไปในห้องโดยสารฝั่งคนขับแล้วชมภายในออกแบบได้เรียบหรู ดูดี แต่เบาะนั่งคนขับจากที่ลองนั่งแล้วตัวเบาะสั่นไปนิดนึงสำหรับผม (ผมสูง 185 cm หนัก 75 kg) หลังจากปรับเบาะอยู่นานก็นั่งสบายอยู่แต่คิดว่าถ้าขับทางไกลน่าจะเมื่อเหมือนกัน ในส่วนของพวงมาลัยปรับขึ้นลงเข้าออกได้ แต่เป็นระบบ manual (ทำไมถึงไม่ใส่ระบบไฟฟ้ามานะ) วัสดุบุนิ่มทั้งขอบประตูและคอนโซนมีผ้ากำมะหยี่ แต่วัสดุจับๆดูแล้วน่าจะไม่คงทน (อาจจะคิดไปเอง) ให้ wireless change มา 2 ช่อง ถือว่าดีมาก แต่เมื่อได้เดินออกไปนั่งเบาะหลังดูแล้วพบว่าเข้าออกลำบากมาก ติดหัว จังหวะก้าวเข้า ก้าวออกมันแปลกๆ ติดขัดไปหมด ส่วนเบาะนั่งด้านหลังได้ลองนั่งสั่นๆนิ่มดีสบายในช่วงแรก แต่ถ้านั่งทางไกลน่าจะเมื่อแน่ๆสำหรับผม ในส่วนของเครื่องเสียงไม่ได้ฟัง

หน้าจอกลาง และระบบ sensor ต่างๆ
เป็นสิ่งที่ไม่ชอบที่สุด สัมผัสแล้วมีหน่วง ตอบสนองช้า เมื่อเจอแสงแดดหน้าจอสะท้อนมากๆฝั่งคนขับนั่งแล้วจะดูข้อมูลที่อยู่ฝั่งซ้ายลำบากเมื่อปรับจอเป็นแนวนอน แต่พอปรับเป็นแนวตั้งเหมือนจะช่วยลดจุดอ่อนตรงนี้ไปได้แต่ก็ยังใช้งานได้ยากอยู่ดี และจะปรับอะไรต้องละสายตาออกจากถนนซึ่งในส่วนนี้ถือว่าอันตรายมาก (อาจจะยังไม่ชินกับ menu ต่างๆ ถ้าปรับตัวได้อาจจะไม่ใช่ปัญหาก็ได้) ในส่วนของระบบ sensor ต่างๆทำงานได้ยังไม่ดีพอและแอบแปลกใจตอนทดสอบรถเซล (ที่นั่งมาด้วย) แจ้งว่าระบบ lane keep และระบบตามรถคันหน้ายังไม่ให้ใช้ ผมก็งงว่าทำไมเพราะเรามาทดสอบก็อยากจะรู้ทั้งหมดว่าใช้งานจริงเป็นอย่างไร ก็ต่อรองคุยกันไปว่าเราเคยใช้กับรถคันอื่นมาแล้วจนเซลยอม หลังจากให้เซลช่วยเปิดระบบทั้งหมดเพื่อให้ sensor ทุกตัวทำงานได้อย่างเต็มที่ก็พบว่า ระบบตามรถคันหน้ายังไม่เนียนเท่าที่ควรในจังหวะการผ่อนความเร็วเนื่องจากรถจะเบรคจนหัวทิ่มแล้วก็ไต่ความเร็วใหม่ตอนแรกผมคิดว่าเป็นที่ระยะห่างก็เลยปรับให้ครบทุกระยะเลยก็เป็นเหมือนกันหมด ในส่วนนี้ผมมองว่าอันตรายรถคันหลังอาจทิ่มตูดได้เลย (คิดว่าในอนาคต Software น่าจะแก้ไขได้แหละ) ส่วนระบบ lane keep ก็เช่นกันแค่เส้นไม่ชัดหน่อยเดียว (ตาเรายังมองเห็น) ระบบก็เอ๋อแล้ว แล้วเอ๋อไปพักนึงเลยจนกว่าจะกลับมาใหม่ บางทีเส้นชัดก็มีเอ๋อคือไม่หักกลับเข้าเลยให้

การขับขี่
โดยรวมถ้าขับด้วยความเร็วปกติเป็นรถที่ดีเลยขับในเมืองสบาย นุ่ม แต่พอมันมาเป็น Performance ในราคาที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงรถ 500 แรงม้าได้ มันกลับเป็นรถที่น่ากลัวทันทีในความคิดของผม (ประสบการณ์เคยเรียน skill driving ของ BMW) เมื่อลองกดในถนน (ในตอนที่รถน้อย) แล้วพบว่าจังหวะที่เข้าโค้งท้ายรถจะออกถึงจะเป็น AWD ก็ออกคิดว่าเป็นเพราะโครงสร้างแบตและตัวรถที่ balance น้ำหนักมาไม่ดี แล้วพอถึงความเร็วเกิน 120 รถรู้สึกลอยๆ ไม่เกาะ มันหวิว ผมขับไปแตะที่ 150 ต้องยอมยกออกแล้วไม่กล้าไปต่อ จากนั้นลองขอเซลเข้าไปในลานที่โล่งๆเพื่อลอง slalom แบบไม่มีกรวยนะ และลองเบรคก็ทำให้เข้าใจรถได้มากขึ้นว่าอยากขับกันเกิน 140 เลย ที่จริง 120 ก็น่ากลัวแล้วแหละ

ปิดท้าย
สุดท้ายใครคิดว่าจะเอารถราคานี้มาทำเปลี่ยนช่วงล่าง เปลี่ยนเบรคเพื่อให้มันเทียบเท่ากับ Performance ยี้ห้อยุโรปหรือญี่ปุ่นที่มาจากโรงงานอย่าเลย ผมว่ามันไม่ช่วยด้วยการวาง balance ของน้ำหนักแบตเตอรี่ต่างๆรวมถึงโครงสร้างรถ และถ้าผมเจอ BYD SEAL ผมก็จะออกห่างให้เขาไปก่อนเลย จะไม่ให้เขามาตามท้ายเราหรืออยู่หน้าเราแน่ๆ และเสียงไฟเลี้ยวไม่ชอบมากๆมันเหมือนเสียง warning แจ้งว่าอะไรจะเสียมากกว่า (แต่เซลแจ้งว่าสามารถเปลี่ยนเสียงได้นะ ยังไม่ได้ลองเช่นกัน) สุดท้ายรถไฟฟ้าระดับ 500 แรงม้าผมมองว่ามีได้แต่ราคาก็ควรขยับไปให้คนที่เฉพาะกลุ่มเข้าถึงจะดีกว่าครับ

ระบบ ACC เขาไม่ให้เปิด ผมเดาว่า เขากลับมันชน ครับ

ผมไปทดสอบยี่ห้ออื่น และ แม้กระทั้งในสนามทดสอบ(งาน driving experience เขาก็ให้ข้าม station test จุดนี้ไป ตอนโชว์ก็โชว์ให้ดู แต่ตอนขับเอง เขาไม่ให้เข้า station นี้)

เรื่องช่วงล่าง ผมดูรีวิวหลายเจ้าเลยใน youtube บางคนบอกแน่นกำลังดี บางคนบอกโยนไม่มั่นใจ

ก็ไม่รู้ว่าตกลงมันยังไงกัน 5555

เรื่องช่วงล่าง สื่อหลายช่องที่ปล่อยคลิปหลังจากเปิดตัว ก็เห็นไม่ตรงกันครับ ผมว่า มันน่าจะเป็นความชอบ และ ความคาดหวังของแต่ละคน

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2023, 12:13:40 »
1.8ล้าน ถ้าเป็น model3 long range มันจะเป็นแบบที่ว่ามั๊ยครับ

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,862
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2023, 12:20:34 »
เรื่องช่วงล่าง ผมดูรีวิวหลายเจ้าเลยใน youtube บางคนบอกแน่นกำลังดี บางคนบอกโยนไม่มั่นใจ

ก็ไม่รู้ว่าตกลงมันยังไงกัน 5555
น่าจะแล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนที่เคยเจอมาล่ะครับ

ออฟไลน์ albacore

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 164
    • อีเมล์
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2023, 12:29:50 »
ลองที่สาขากาญจนาภิเษกตลิ่งชันป่าวครับ เห็นทดลองอัตราเร่งอยู่คันนึง แว๊บเดียวไปโน่นเลย

ออฟไลน์ Superpong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 315
    • อีเมล์
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2023, 12:43:02 »
เรื่องช่วงล่างคงต้องลองเอง หลายช่องในยูทูป คอมเม้นไม่เหมือนกัน

ออฟไลน์ Chicken Wings

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 270
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2023, 14:06:41 »
1.8ล้าน ถ้าเป็น model3 long range มันจะเป็นแบบที่ว่ามั๊ยครับ

น้าเต้ยบอกตอนขับเร็วโยนพอๆกัน แต่ seal ได้นุ่มกว่า ส่วน model 3 จะออกกระด้าง

ออฟไลน์ nmd

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2023, 14:37:31 »
500 แรงม้า กับ ขับเกิน 120 แล้วน่ากลัว
เป็น 2 ประโยคที่ไม่ควรมาจากรถคนเดียวกันเลย

ออฟไลน์ Odrecranon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
    • อีเมล์
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2023, 15:04:39 »
ผมไปดูมาแต่ไม่มีโอกาสได้ทดสอบครับ

การออกแบบผมว่าทำได้ดี ทั้งภายนอก และภายใน
ติดที่อยากให้
1. DRL เป็น light tube แทนที่จะเป็นจุด ๆ
2. เบาะหลังสอดเท้าไม่ได้ ตัวเบาะสบาย แต่ที่วางขามันติดปลายเท้า
3. จอ infotainment มันเหมือน tablet android  ราคาประหยัด ทั้ง processor และคุณภาพจอ
    รวมถึง UI เหมือนเอา android OS เป็น base แล้วครอบด้วย UI ของทางแบรนด์เอง
     ซึ่งมันให้ประสบการณ์การใช้ที่ไม่น่าประทับใจ ผมคิดว่า  Tesla ทำส่วนนี้ได้ดีกว่า

ส่วนลองขับ ผมคงหาโอกาสไปลองอีกที

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2023, 15:06:36 »
1.8ล้าน ถ้าเป็น model3 long range มันจะเป็นแบบที่ว่ามั๊ยครับ

ผมเทียบกับ Y ละกันนะครับ มันจะเป็นแนว Y ออกกระด้าง(คล้ายกับ 3) และ Seal ออกนุ่ม ครับ

500 แรงม้า กับ ขับเกิน 120 แล้วน่ากลัว
เป็น 2 ประโยคที่ไม่ควรมาจากรถคนเดียวกันเลย

ผมว่าอันนี้ก็เวอร์ไปหน่อยครับ รถ Ecocar ขับเกิน 120km/h เยอะแยะ ไม่เห็นมีใครจะโอดโอยอะไรขนาดนั้น

Seal ผมว่าช่วงล่างดีกว่ากระบะในขายในไทยอีก ยิ่งตัว performance ด้วย (ผมทดสอบก็ก็ตัว performance เช่นกัน เพราะตัวอื่นไม่มีให้ทดสอบ)

ขนาดในสนาม ผมว่าเขายังได้รับคำชมเยอะ ทั้งจากสื่อไทย และ สื่อนอกช่องยุโรปกำลังมีคลิปออกมาเื่อยๆ (ให้ข้ามสื่อจีนไปนะ เพราะจะได้ตัดเรื่องอวยและโฆษณาชวนเชื่อทิ้งไป)

ลองถามพี่จิมมี่ดู ว่าช่อง HLM ได้ไปทดสอบในสนามมาหรือป่าว (ถ้าไป ผมขอโทษที ไม่ได้ตามคลิปของช่อง HLM)

เทียบกับ Y (ผมตอบได้ชัดกว่า 3) ผลมันจะเป็นแนว Y ออกกระด้าง และ Seal ออกนุ่ม ครับ

ออฟไลน์ Kanarath

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2023, 17:54:10 »
ขอบคุณจขกทสำหรับข้อมูล ผมว่าเรื่องรถขับดีไม่ดีมันอยู่ที่ประสบการณ์ของแต่ละท่านจริงๆ
บางท่านขับรถสมรรถนะสูง รถยุโรปจนชิน ก็จะรู้สึกอย่างนึง
บางท่านชินกับรถญี่ปุ่นขนาดเล็ก ก็จะรู้สึกอีกอย่างนึง

เหมือนวันก่อนผมจำเป็นต้องขับ fortuner ของเพื่อนออกตจว. โฉมปัจจุบัน แต่ไม่รู้รุ่นย่อยอะไร ราวๆ 150กิโล ก็เข้าใจเลยว่าช่วงล่างมันไม่ไหวในความรู้สึกผม ขนาดเป็นคนขับยังปวดหัวเลย ถึงแม้หลายท่านอาจจะไม่รู้สึก หรือกำลังเครื่องที่หลายท่านว่าเร่งดีติดเท้า แต่ผมว่ามันอืดไป

ไม่ใช่รถไม่ดีนะครับ มันแค่อยู่ที่ประสบการณ์ของแต่ละคนแค่นั้นเอง

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,198
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2023, 21:15:24 »
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ครับ

ผมคิดเหมือนกันว่าระบบ infotainment ยังต้องปรับปรุง แม้เทสล่าจะยัดทุกอย่างไว้จอกลางยิ่งกว่า BYD แต่ผมว่าใช้งานง่ายกว่า ทั้งการออกแบบ UI แล้วก็การตอบสนองจอทำได้ดีกว่าเยอะ
ระบบช่วยเหลือผมไม่ได้ใช้เลยตอนลองขับ แต่จากที่ดูรีวิวก็ดูเหมือนจะไม่ดีเท่าไหร่ พอมาอ่านกระทู้นี้ก็ยิ่งยืนยันว่าไม่ดีจริงๆ จุดนี้ก็น่ากังวลเพราะมีประสบการณ์ระบบ driving assist ที่ไม่ค่อยดี = ปิดทิ้งไม่ใช้ = มีไว้ทำไมให้เสียประโยชน์เปล่าๆ
ช่วงล่างกับเบรกส่วนตัวผมไม่ได้ถือว่าน่ากลัว แต่ก็รู้สึกว่าไม่ได้รองรับกำลังระดับนี้ อารมณ์เดียวกับ V60 T8 ช่วงล่างก็ไม่ได้รองรับแรงม้าเหมือนกัน แม้กระทั่ง Model 3 LR ก่อนไมเนอร์ผมว่าขับเร็วก็หวิว
แล้วงงมากที่เป็นรถไฟฟ้าแต่ไม่มี one pedal mode ส่วนตัวหักคะแนนไปเยอะเลยจุดนี้

ส่วนตัวตอนเปิดราคาก็สนใจมากเหมือนกัน แต่พอไปลองแล้วมาตกผลึกแล้วยังมีจุดที่ไม่ชอบพอสมควร ซึ่งไม่สามารถไปแก้เองได้ (infotainment, ระบบช่วยขับ และไม่มี one pedal) เลยคิดว่ายังก่อนดีกว่า
รอ 3 Highland ขายไปสักพัก ลดราคาอีกรอบ ค่อยว่ากัน  ::)
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ Superpong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 315
    • อีเมล์
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2023, 09:21:53 »
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ครับ

ผมคิดเหมือนกันว่าระบบ infotainment ยังต้องปรับปรุง แม้เทสล่าจะยัดทุกอย่างไว้จอกลางยิ่งกว่า BYD แต่ผมว่าใช้งานง่ายกว่า ทั้งการออกแบบ UI แล้วก็การตอบสนองจอทำได้ดีกว่าเยอะ
ระบบช่วยเหลือผมไม่ได้ใช้เลยตอนลองขับ แต่จากที่ดูรีวิวก็ดูเหมือนจะไม่ดีเท่าไหร่ พอมาอ่านกระทู้นี้ก็ยิ่งยืนยันว่าไม่ดีจริงๆ จุดนี้ก็น่ากังวลเพราะมีประสบการณ์ระบบ driving assist ที่ไม่ค่อยดี = ปิดทิ้งไม่ใช้ = มีไว้ทำไมให้เสียประโยชน์เปล่าๆ
ช่วงล่างกับเบรกส่วนตัวผมไม่ได้ถือว่าน่ากลัว แต่ก็รู้สึกว่าไม่ได้รองรับกำลังระดับนี้ อารมณ์เดียวกับ V60 T8 ช่วงล่างก็ไม่ได้รองรับแรงม้าเหมือนกัน แม้กระทั่ง Model 3 LR ก่อนไมเนอร์ผมว่าขับเร็วก็หวิว
แล้วงงมากที่เป็นรถไฟฟ้าแต่ไม่มี one pedal mode ส่วนตัวหักคะแนนไปเยอะเลยจุดนี้

ส่วนตัวตอนเปิดราคาก็สนใจมากเหมือนกัน แต่พอไปลองแล้วมาตกผลึกแล้วยังมีจุดที่ไม่ชอบพอสมควร ซึ่งไม่สามารถไปแก้เองได้ (infotainment, ระบบช่วยขับ และไม่มี one pedal) เลยคิดว่ายังก่อนดีกว่า
รอ 3 Highland ขายไปสักพัก ลดราคาอีกรอบ ค่อยว่ากัน  ::)

ผมก็อยากไป 3 นะครับ แต่ตอนนี้คิวสะสมที่นัดเข้า service ยาวเหยียดเกือบ 160 คิวแล้ว (ตัวเลข ณ วันที่ 9 ตุลา) นี่ยังไม่รวมคิวทำสีซ่อมตัวถังที่ต้องไปต่อคิวแยกต่างหากอีกนะครับ ขายรถได้หลายพันแต่ศูนย์มีที่เดียว 😥
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 10, 2023, 14:58:56 โดย Superpong »

ออฟไลน์ panjap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,259
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2023, 11:36:41 »
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ครับ

ผมคิดเหมือนกันว่าระบบ infotainment ยังต้องปรับปรุง แม้เทสล่าจะยัดทุกอย่างไว้จอกลางยิ่งกว่า BYD แต่ผมว่าใช้งานง่ายกว่า ทั้งการออกแบบ UI แล้วก็การตอบสนองจอทำได้ดีกว่าเยอะ
ระบบช่วยเหลือผมไม่ได้ใช้เลยตอนลองขับ แต่จากที่ดูรีวิวก็ดูเหมือนจะไม่ดีเท่าไหร่ พอมาอ่านกระทู้นี้ก็ยิ่งยืนยันว่าไม่ดีจริงๆ จุดนี้ก็น่ากังวลเพราะมีประสบการณ์ระบบ driving assist ที่ไม่ค่อยดี = ปิดทิ้งไม่ใช้ = มีไว้ทำไมให้เสียประโยชน์เปล่าๆ
ช่วงล่างกับเบรกส่วนตัวผมไม่ได้ถือว่าน่ากลัว แต่ก็รู้สึกว่าไม่ได้รองรับกำลังระดับนี้ อารมณ์เดียวกับ V60 T8 ช่วงล่างก็ไม่ได้รองรับแรงม้าเหมือนกัน แม้กระทั่ง Model 3 LR ก่อนไมเนอร์ผมว่าขับเร็วก็หวิว
แล้วงงมากที่เป็นรถไฟฟ้าแต่ไม่มี one pedal mode ส่วนตัวหักคะแนนไปเยอะเลยจุดนี้

ส่วนตัวตอนเปิดราคาก็สนใจมากเหมือนกัน แต่พอไปลองแล้วมาตกผลึกแล้วยังมีจุดที่ไม่ชอบพอสมควร ซึ่งไม่สามารถไปแก้เองได้ (infotainment, ระบบช่วยขับ และไม่มี one pedal) เลยคิดว่ายังก่อนดีกว่า
รอ 3 Highland ขายไปสักพัก ลดราคาอีกรอบ ค่อยว่ากัน  ::)

ผมก็อยากไป 3 นะครับ แต่ตอนนี้คิวสะสมที่นัดเข้า service ยาวเหยียดเกือบ 160 คิวแล้ว นี่ยังไม่รวมคิวทำสีซ่อมตัวถังที่แยกต่างหากอีกนะครับ ขายรถได้หลายพันแต่ศูนย์มีที่เดียว 😥
นี่แหละ คือสิ่งที่น่ากังวล การบริการศูนย์เดียว รอคิวกันนานมาก

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,012
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2023, 20:49:16 »
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ  ;) ;) ;)

เหมือนว่าความเห็นของท่านที่เคยได้ลอง หรือใช้จริง ก็ยังคงเป็นเรื่องระบบ Adaptive Cruise Control และ Lane Keep Assist จะยังทำงานได้ไม่เนียนเท่ารถ ICE ญี่ปุ่นหรือยุโรป
จอกลางที่รวมทุกอย่างก็ยังคงไม่เสถียร ใช้งานยาก

ส่วนตัวยังไม่เคยไปลองขับรถ BEV รุ่นใดใดเลยครับ จนถึงตอนนี้
เพราะเกรงว่าลองแล้วจะติดใจในอัตราเร่ง แล้วก็จะทำให้รู้สึกแย่ลงกับรถที่ใช้อยู่ (อยากจะผ่อนรถ 2 คันที่ใช้อยู่ให้หมดก่อน  ::) ::) แล้วค่อยคิดอีกที)


ป.ล.ทุกวันนี้ก็ศึกษาเรื่องระบบไฟฟ้าสำหรับการชาร์จไฟที่บ้านให้เหมาะสมและปลอดภัยรอไว้ก่อนครับ
อยากรู้ทั้งเรื่องมิเตอร์ TOU, ไฟฟ้า 3 เฟส หรือจะพ่วงระบบไฟฟ้า Solar Cell ใช้ไฟกลางวันในบ้าน กลางคืนก็ใช้ไฟการไฟฟ้า บลาๆๆๆ
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2023, 20:57:07 »
1.8ล้าน ถ้าเป็น model3 long range มันจะเป็นแบบที่ว่ามั๊ยครับ

ผมเทียบกับ Y ละกันนะครับ มันจะเป็นแนว Y ออกกระด้าง(คล้ายกับ 3) และ Seal ออกนุ่ม ครับ

500 แรงม้า กับ ขับเกิน 120 แล้วน่ากลัว
เป็น 2 ประโยคที่ไม่ควรมาจากรถคนเดียวกันเลย

ผมว่าอันนี้ก็เวอร์ไปหน่อยครับ รถ Ecocar ขับเกิน 120km/h เยอะแยะ ไม่เห็นมีใครจะโอดโอยอะไรขนาดนั้น

Seal ผมว่าช่วงล่างดีกว่ากระบะในขายในไทยอีก ยิ่งตัว performance ด้วย (ผมทดสอบก็ก็ตัว performance เช่นกัน เพราะตัวอื่นไม่มีให้ทดสอบ)

ขนาดในสนาม ผมว่าเขายังได้รับคำชมเยอะ ทั้งจากสื่อไทย และ สื่อนอกช่องยุโรปกำลังมีคลิปออกมาเื่อยๆ (ให้ข้ามสื่อจีนไปนะ เพราะจะได้ตัดเรื่องอวยและโฆษณาชวนเชื่อทิ้งไป)

ลองถามพี่จิมมี่ดู ว่าช่อง HLM ได้ไปทดสอบในสนามมาหรือป่าว (ถ้าไป ผมขอโทษที ไม่ได้ตามคลิปของช่อง HLM)

เทียบกับ Y (ผมตอบได้ชัดกว่า 3) ผลมันจะเป็นแนว Y ออกกระด้าง และ Seal ออกนุ่ม ครับ

ผมว่าอีโคคาร์ที่แล้วกันทุกวันนี้คือฝืนสมรรถนะตัวรถไปมากนะครับ คนไทยนี่แปลกยิ่งรถราคาถูกยิ่งพยายามขับกันแบบท้าตายหนักหน่วงมากขึ้น เหมือนอยากคุยข่มกันว่าอีโคคาก็ซิ่งได้ แต่มันเป็นการขับขี่แบบไม่มีคุณภาพเลยสักนิด วันนี้ผมเพิ่งเจอมาเองแอททราจลงทางลงใต้ดินต่อท้ายผมมาแล้วจี้ท้ายแบบน่าเกลียดจี้กระชั้นชิดมากๆ จี้ชนิดที่ไระจกหลังมองไม่เห็นไฟหน้าเค้าแล้ว จี้เพื่อจะเข้าจอดรถ ซึ่งสภาพรถก็บ่งบอกสันดานคนขับได้อย่างดีว่าอยากจะอวดว่าข้าแต่งซิ่งนะข้าขับเร็วนะ คือถ้ากระสันจะขับรถสปอร์ตขนาดนั้นเก็บเงินไปซื้ออีโวลูชั่นเหอะอย่าเอารถอีโคคาร์มาขับระดับรถสมรรถนะสูงเลย แต่ถ้าไม่มีเงินก็ควรเจียมตัวขับแบบคนปกติทั่วๆไป
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ S6

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,134
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2023, 22:23:43 »
เรื่องการขับขี่ การ setting รถมาในลักษณะ ความเร็วต่ำนุ่ม ส่งผลความเร็วสูงก็ทำให้เกิดความไม่มั่นใจได้

ส่วนตัวผมขับความเร็วสูงแล้วรู้สึกไม่มั่นใจคือ รถที่ชนมาหนักแล้วซ่อม เมื่อความเร็วเกิน 140 จะมีอาการรถไปทางพวงมาลัยไปทาง หรือรถกับพวงมาลัยไม่สื่อสารกัน และมีอาการแถๆไปมาบ้าง

แต่ถ้ารู้สึกโยนๆ ขับแล้วไม่มั่นใจ ผมจะเฉยกับมันครับก็แค่ไม่มั่นใจ แต่รถไม่แถไปมาเป็นพอ นอกจากจะเป็นรถที่เคยขับ อย่าง Gti โช๊คเดิมที่ความเร็ว 200 เหมือนกับขับรถทั่วไป 80 จริงๆ

ออฟไลน์ Boattamon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 513
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2023, 09:38:04 »
https://youtu.be/BDcfXiniGt8?si=GhsxY6ZUPleHg2S0

นี่เลย AKA Carwow Thailand

ก็ยังจะทำ sound check รถ ev แบบทำเสียงต่างๆตามเค้าเป๊ะเลยอีกนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 11, 2023, 16:41:48 โดย Boattamon »

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2023, 10:04:08 »
1.8ล้าน ถ้าเป็น model3 long range มันจะเป็นแบบที่ว่ามั๊ยครับ

ผมเทียบกับ Y ละกันนะครับ มันจะเป็นแนว Y ออกกระด้าง(คล้ายกับ 3) และ Seal ออกนุ่ม ครับ

500 แรงม้า กับ ขับเกิน 120 แล้วน่ากลัว
เป็น 2 ประโยคที่ไม่ควรมาจากรถคนเดียวกันเลย

ผมว่าอันนี้ก็เวอร์ไปหน่อยครับ รถ Ecocar ขับเกิน 120km/h เยอะแยะ ไม่เห็นมีใครจะโอดโอยอะไรขนาดนั้น

Seal ผมว่าช่วงล่างดีกว่ากระบะในขายในไทยอีก ยิ่งตัว performance ด้วย (ผมทดสอบก็ก็ตัว performance เช่นกัน เพราะตัวอื่นไม่มีให้ทดสอบ)

ขนาดในสนาม ผมว่าเขายังได้รับคำชมเยอะ ทั้งจากสื่อไทย และ สื่อนอกช่องยุโรปกำลังมีคลิปออกมาเื่อยๆ (ให้ข้ามสื่อจีนไปนะ เพราะจะได้ตัดเรื่องอวยและโฆษณาชวนเชื่อทิ้งไป)

ลองถามพี่จิมมี่ดู ว่าช่อง HLM ได้ไปทดสอบในสนามมาหรือป่าว (ถ้าไป ผมขอโทษที ไม่ได้ตามคลิปของช่อง HLM)

เทียบกับ Y (ผมตอบได้ชัดกว่า 3) ผลมันจะเป็นแนว Y ออกกระด้าง และ Seal ออกนุ่ม ครับ

ผมว่าอีโคคาร์ที่แล้วกันทุกวันนี้คือฝืนสมรรถนะตัวรถไปมากนะครับ คนไทยนี่แปลกยิ่งรถราคาถูกยิ่งพยายามขับกันแบบท้าตายหนักหน่วงมากขึ้น เหมือนอยากคุยข่มกันว่าอีโคคาก็ซิ่งได้ แต่มันเป็นการขับขี่แบบไม่มีคุณภาพเลยสักนิด วันนี้ผมเพิ่งเจอมาเองแอททราจลงทางลงใต้ดินต่อท้ายผมมาแล้วจี้ท้ายแบบน่าเกลียดจี้กระชั้นชิดมากๆ จี้ชนิดที่ไระจกหลังมองไม่เห็นไฟหน้าเค้าแล้ว จี้เพื่อจะเข้าจอดรถ ซึ่งสภาพรถก็บ่งบอกสันดานคนขับได้อย่างดีว่าอยากจะอวดว่าข้าแต่งซิ่งนะข้าขับเร็วนะ คือถ้ากระสันจะขับรถสปอร์ตขนาดนั้นเก็บเงินไปซื้ออีโวลูชั่นเหอะอย่าเอารถอีโคคาร์มาขับระดับรถสมรรถนะสูงเลย แต่ถ้าไม่มีเงินก็ควรเจียมตัวขับแบบคนปกติทั่วๆไป

คือผมพูดตามความจริงครับ ไม่ได้ bias หรือ รังเกียจ หรือ ดูถูกใดๆ Ecocar นะครับ ผมเทียบให้เห็นภาพ

ลองมองย้อนกลับไปในอดีต สัก 10-20 ปีที่แล้ว

รถแรงม้าไม่ถึง 100 แรงม้า ขับกันที่ความเร็ว 120-150km/h ก็ขับได้

ทั้งที่ไม่ได้มีระบบช่วยเหลือใดๆ เลย เขาก็ยังขับกันได้

ปัจจุบัน รถ Ecocar มีแรงม้าก็ 100 กว่าแล้ว (บางคันไม่ถีง 100 ก็มี) แถมด้วย ระบบความช่วยเหลือเยอะแยะ ขับ เกิน 120km/h ได้ ผมว่าเป็นเรื่องปกติมาก (ถึงมีบางคันจะเคย Lock ไว้ 145-150km/h ก็ตาม)

แล้ว พอท่านบ่น หรือ จขกท. บอกว่า SEAL ขับเกิน 120 แล้วรู้สึกไม่ดี ไม่ไว้ใจ

ผมเลยว่า ดูเกินความเป็นจริงไปแบบมากๆ เลย เพราะด้วยลักษณะ กำลัง ช่วงล่าง โช้คอัพ เบรค โดยรวมเขาไม่ได้ขี้เหร่เลย ดีกว่ารถ C-Seg หลายๆ รุ่นด้วยซ้ำ

มันทำให้รู้ว่า เหมือนคิดไปเอง มากกว่า ผมก็เลยบอกไปแบบบนั้น

อย่างทีผมเทียบกับ Y ผมว่า SEAL ขับมั่นใจกว่า Y ด้วยซ้ำ เพราะ Y มันกระด้าง(เหมือนจะเฟิร์มก็จริง) แต่พอความเร็วสูง(จริงๆ) มันเริ่มจะร่อน

แต่ถ้าความเร็วใช้งาน หรือ ไม่เกิน 150-160km/h มันไม่ได้มีอะไรที่เลวร้ายเหมือนที่บางท่านว่าไว้ขนาดนั้นหรอกครับ

ไม่อย่างงั้น คนที่ขับ Ecocar หรือ Spec โดยรวมเทียบกับ Ecocar จะไม่ต้องขับกันแค่ที่ 60-80 km/h เหรอครับ จริงไหม

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,737
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2023, 10:27:55 »
1.8ล้าน ถ้าเป็น model3 long range มันจะเป็นแบบที่ว่ามั๊ยครับ

ผมเทียบกับ Y ละกันนะครับ มันจะเป็นแนว Y ออกกระด้าง(คล้ายกับ 3) และ Seal ออกนุ่ม ครับ

500 แรงม้า กับ ขับเกิน 120 แล้วน่ากลัว
เป็น 2 ประโยคที่ไม่ควรมาจากรถคนเดียวกันเลย

ผมว่าอันนี้ก็เวอร์ไปหน่อยครับ รถ Ecocar ขับเกิน 120km/h เยอะแยะ ไม่เห็นมีใครจะโอดโอยอะไรขนาดนั้น

Seal ผมว่าช่วงล่างดีกว่ากระบะในขายในไทยอีก ยิ่งตัว performance ด้วย (ผมทดสอบก็ก็ตัว performance เช่นกัน เพราะตัวอื่นไม่มีให้ทดสอบ)

ขนาดในสนาม ผมว่าเขายังได้รับคำชมเยอะ ทั้งจากสื่อไทย และ สื่อนอกช่องยุโรปกำลังมีคลิปออกมาเื่อยๆ (ให้ข้ามสื่อจีนไปนะ เพราะจะได้ตัดเรื่องอวยและโฆษณาชวนเชื่อทิ้งไป)

ลองถามพี่จิมมี่ดู ว่าช่อง HLM ได้ไปทดสอบในสนามมาหรือป่าว (ถ้าไป ผมขอโทษที ไม่ได้ตามคลิปของช่อง HLM)

เทียบกับ Y (ผมตอบได้ชัดกว่า 3) ผลมันจะเป็นแนว Y ออกกระด้าง และ Seal ออกนุ่ม ครับ

ผมว่าอีโคคาร์ที่แล้วกันทุกวันนี้คือฝืนสมรรถนะตัวรถไปมากนะครับ คนไทยนี่แปลกยิ่งรถราคาถูกยิ่งพยายามขับกันแบบท้าตายหนักหน่วงมากขึ้น เหมือนอยากคุยข่มกันว่าอีโคคาก็ซิ่งได้ แต่มันเป็นการขับขี่แบบไม่มีคุณภาพเลยสักนิด วันนี้ผมเพิ่งเจอมาเองแอททราจลงทางลงใต้ดินต่อท้ายผมมาแล้วจี้ท้ายแบบน่าเกลียดจี้กระชั้นชิดมากๆ จี้ชนิดที่ไระจกหลังมองไม่เห็นไฟหน้าเค้าแล้ว จี้เพื่อจะเข้าจอดรถ ซึ่งสภาพรถก็บ่งบอกสันดานคนขับได้อย่างดีว่าอยากจะอวดว่าข้าแต่งซิ่งนะข้าขับเร็วนะ คือถ้ากระสันจะขับรถสปอร์ตขนาดนั้นเก็บเงินไปซื้ออีโวลูชั่นเหอะอย่าเอารถอีโคคาร์มาขับระดับรถสมรรถนะสูงเลย แต่ถ้าไม่มีเงินก็ควรเจียมตัวขับแบบคนปกติทั่วๆไป

คือผมพูดตามความจริงครับ ไม่ได้ bias หรือ รังเกียจ หรือ ดูถูกใดๆ Ecocar นะครับ ผมเทียบให้เห็นภาพ

ลองมองย้อนกลับไปในอดีต สัก 10-20 ปีที่แล้ว

รถแรงม้าไม่ถึง 100 แรงม้า ขับกันที่ความเร็ว 120-150km/h ก็ขับได้

ทั้งที่ไม่ได้มีระบบช่วยเหลือใดๆ เลย เขาก็ยังขับกันได้

ปัจจุบัน รถ Ecocar มีแรงม้าก็ 100 กว่าแล้ว (บางคันไม่ถีง 100 ก็มี) แถมด้วย ระบบความช่วยเหลือเยอะแยะ ขับ เกิน 120km/h ได้ ผมว่าเป็นเรื่องปกติมาก (ถึงมีบางคันจะเคย Lock ไว้ 145-150km/h ก็ตาม)

แล้ว พอท่านบ่น หรือ จขกท. บอกว่า SEAL ขับเกิน 120 แล้วรู้สึกไม่ดี ไม่ไว้ใจ

ผมเลยว่า ดูเกินความเป็นจริงไปแบบมากๆ เลย เพราะด้วยลักษณะ กำลัง ช่วงล่าง โช้คอัพ เบรค โดยรวมเขาไม่ได้ขี้เหร่เลย ดีกว่ารถ C-Seg หลายๆ รุ่นด้วยซ้ำ

มันทำให้รู้ว่า เหมือนคิดไปเอง มากกว่า ผมก็เลยบอกไปแบบบนั้น

อย่างทีผมเทียบกับ Y ผมว่า SEAL ขับมั่นใจกว่า Y ด้วยซ้ำ เพราะ Y มันกระด้าง(เหมือนจะเฟิร์มก็จริง) แต่พอความเร็วสูง(จริงๆ) มันเริ่มจะร่อน

แต่ถ้าความเร็วใช้งาน หรือ ไม่เกิน 150-160km/h มันไม่ได้มีอะไรที่เลวร้ายเหมือนที่บางท่านว่าไว้ขนาดนั้นหรอกครับ

ไม่อย่างงั้น คนที่ขับ Ecocar หรือ Spec โดยรวมเทียบกับ Ecocar จะไม่ต้องขับกันแค่ที่ 60-80 km/h เหรอครับ จริงไหม

ยังไม่ได้ลอง Seal นะครับ
แต่ก็เห็นด้วยกับกับคุณ DikiBoyZ รถในไทยปัจจุบัน 140 ถ้าถนนดีวิ่งไปถึงอยู่แล้ว แต่เครียดแค่ไหนอิกเรื่องนึงนะ ผมยังคิดว่า ecocar หลายๆรุ่น ช่วงล่างมั่นใจกว่า กระบะใช้งานหลายๆตัวด้วยซ้ำ
ไม่ใช่ว่า Ecocar ขับซิ่ง หรือจี้ไม่ได้นะ แต่ไม่ว่ารถอะไรมันก็ไม่ควรไปขับแบบนั้นมากกว่า...

เคยไปลอง Atto3 ไม่ค่อยชอบช่วงล่าง รุ้สึกว่ามันโคลง รถพยายามจะดูดซับแรกกระแทกแต่เอาไม่อยู่ กลายเป็นโยกแล้วเวียนหัว
อาจจูนมาเพื่อถนนจีน พอเจอถนนไทยเลยแปลกๆ
ส่วนของ Seal ถ้าให้เดา ช่วงล่างอาจติดนุ่มไป แล้วไปคนที่คาดหวังตัวเลข 3.8s กับกลุ่มคนรีวิวรถ ที่คงไม่ใช้คนขับชิลๆอยู่แล้ว
ส่วนตัวยังคิดว่าแพงพอกับการใช้งานและ กด 120 ขับแบบคนปรกติได้ แต่เอาไม่มุด ไม่เหมาะ คล้ายๆ volvo ยุคก่อน

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2023, 11:53:30 »
รถแบตใหญ่ Dynamics ไม่ดีอยู่แล้วครับ
#1 สนาม Nuremberg คือ AMG One PHEV แบตเล็ก ครับ
รถแบตใหญ่ แรง ๆ ได้ที่เกือบ 100
ไม่ใช่ Power-to-weight ratio ที่เป็นปัญหา
ปัญหาคือ การควบคุมรถที่ Dynamics รุนแรงด้วย ECU (ซึ่งมีในรถเกือบร้อยตัว) นั้น ทำได้ยาก และ อาจทำไม่ได้เลยแม้ในอนาคตอันไกล

ECU ตัวหลัก อย่างรถ Toyota ที่ Toyota Tsucho เล่าให้ผมฟัง
เป็นสมการ Laplace ยกกำลังประมาณ 25 ครับ (เยอะกว่าการพิจารณามอเตอร์เดี่ยวหมุนเฉย ๆ เป็นแค่กำลัง 2-3)

ดังนั้น คณิตศาสตร์ และ ฮาร์ดแวร์ มันเอา รถที่แบตเหวี่ยง ไม่อยู่ ครับ

อนาคต ผมเป็นคนนึงที่คาดหวังว่าแบตจะเบาลง ด้วยเทคโนโลยีใหม่

ออฟไลน์ Fragile

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 478
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2023, 14:52:42 »
รถแบตใหญ่ Dynamics ไม่ดีอยู่แล้วครับ
#1 สนาม Nuremberg คือ AMG One PHEV แบตเล็ก ครับ
รถแบตใหญ่ แรง ๆ ได้ที่เกือบ 100
ไม่ใช่ Power-to-weight ratio ที่เป็นปัญหา
ปัญหาคือ การควบคุมรถที่ Dynamics รุนแรงด้วย ECU (ซึ่งมีในรถเกือบร้อยตัว) นั้น ทำได้ยาก และ อาจทำไม่ได้เลยแม้ในอนาคตอันไกล

ECU ตัวหลัก อย่างรถ Toyota ที่ Toyota Tsucho เล่าให้ผมฟัง
เป็นสมการ Laplace ยกกำลังประมาณ 25 ครับ (เยอะกว่าการพิจารณามอเตอร์เดี่ยวหมุนเฉย ๆ เป็นแค่กำลัง 2-3)

ดังนั้น คณิตศาสตร์ และ ฮาร์ดแวร์ มันเอา รถที่แบตเหวี่ยง ไม่อยู่ ครับ

อนาคต ผมเป็นคนนึงที่คาดหวังว่าแบตจะเบาลง ด้วยเทคโนโลยีใหม่

เห็นด้วยครับ
รถไฟฟ้าที่ว่าแรงๆ มาวิ่ง nurburing ไม่เห็นจะสู้รถน้ำมันได้เลย เรื่อง handling ยังห่างชั้นรถน้ำมันมาก เพราะรถมันหนัก ขนาด rimac nevera 1900 ม้า หรือ model s plaid ยังทำเวลาต่ำกว่า 7 นาทีไม่ได้เลยในขณะที่ supercar ยุคปัจจุบันที่มีม้าน้อยกว่าอย่าง 911 gt3, 296 gtb, amg gtr เขาได้เลข 6 กันหมดแล้ว หรือใครเคยดู Grand tour จะมีตอนที่ richard hammond เอารถไฟฟ้า rimac ไปตกเขาจนเกือบตายมาด้วย ทั้งๆ ที่เขาก็เป็นพิธีกรรายการรถมาหลายสิบปี(ถึงแม้ในรายการจะติดตลกว่าชอบขับไปชน) แต่ผมคิดว่าเขาคุ้นชินกับรถแรงๆ พอสมควร แต่รถมัน balance ไม่ดีทำให้ understeer หนักมากจนเอาไม่อยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 11, 2023, 15:42:28 โดย Fragile »

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,012
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2023, 07:15:34 »
รถแบตใหญ่ Dynamics ไม่ดีอยู่แล้วครับ
#1 สนาม Nuremberg คือ AMG One PHEV แบตเล็ก ครับ
รถแบตใหญ่ แรง ๆ ได้ที่เกือบ 100
ไม่ใช่ Power-to-weight ratio ที่เป็นปัญหา
ปัญหาคือ การควบคุมรถที่ Dynamics รุนแรงด้วย ECU (ซึ่งมีในรถเกือบร้อยตัว) นั้น ทำได้ยาก และ อาจทำไม่ได้เลยแม้ในอนาคตอันไกล

ECU ตัวหลัก อย่างรถ Toyota ที่ Toyota Tsucho เล่าให้ผมฟัง
เป็นสมการ Laplace ยกกำลังประมาณ 25 ครับ (เยอะกว่าการพิจารณามอเตอร์เดี่ยวหมุนเฉย ๆ เป็นแค่กำลัง 2-3)

ดังนั้น คณิตศาสตร์ และ ฮาร์ดแวร์ มันเอา รถที่แบตเหวี่ยง ไม่อยู่ ครับ

อนาคต ผมเป็นคนนึงที่คาดหวังว่าแบตจะเบาลง ด้วยเทคโนโลยีใหม่

ขอบคุณครับ เป็นความรู้ใหม่เลย อย่างในการ์ตูน Animation - CARs 3 ที่มีรถไฟฟ้ามาแข่ง Daynota ก็พอเป็นไปได้เพราะวิ่งเป็นวงกลม ไม่ได้มีโค้งเยอะสลับไปมาแบบใน Circuit
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ XMSL

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 831
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2023, 15:10:49 »
ข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักแบตยังเป็นตัวฉุดคุณภาพการขับขี่ของ bev แน่นอน แต่อีกอย่างที่ผมเข้าใจคือด้วยเทคโนโลยีในภาพรวมที่ bev พัฒนาเร็วมาก..มอเตอร์เร็วแรงแต่ทิศทางของแบตก็ยังไม่นิ่ง ทำให้การวิจัยพัฒนาเรื่องการขับขี่ดูจะยังมีความสำคัญรองๆลงไป ประมาณว่าก็ยังไม่เน้นความเร็วครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
Re: BYD SEAL AWD Performance เล่าหลังทดลองนั่งและขับครั้งแรก
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ตุลาคม 14, 2023, 22:28:42 »
เรื่องหน้าจอ ผมก็ไม่ชอบนะครับ หลายๆ อย่างอยู่ในจอมากเกินไป แถมช้าด้วย น่าจะมีการปรับ software ภายหลังได้นะครับ