ผู้เขียน หัวข้อ: กริดไทย คนติดไปเองว่า EV คลีน (ไม่คลีนหรอกครับ หมกเม็ด)  (อ่าน 9156 ครั้ง)

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
ใช่ครับ ผมติดตามแผนพลังงานมา 'สามสี่รัฐบาล' แล้ว
รอทีมท่านเศรษฐา

แต่ ระดับทักษิณ ยังเอาไม่อยู่นะครับ
คือ แผนว่าจะได้ Renew เท่านี้ ทำจริงได้ 1/4 ครับ

จากแผนทุกรัฐบาล เราจะไม่คลีนไปอีกนาน ครับ
มีรัฐบาลนึงก่อนหน้าพักนึง จะกลับไปใช้ถ่านหินในอนาคต!

ส่วน กังหัน ลมเราไม่ถือว่าเบา ทุกที่ แต่ชาวบ้านประท้วงถ้าตั้งในที่นั้น ๆ ครับ
พอทำประชาพิจารณ์ เขาบอก แสงสะท้อนของกังหัน ส่งผลต่อปศุสัตว์เขา

โซล่าเซลล์ ค่าล้าง มหาศาลครับ ไม่ล้าง ประสิทธิภาพไม่คุ้มค่าติดตั้ง
หัวหน้าผม เป็นที่ปรึกษาติดตั้งพลังงานสะอาดมาเป็นสิบปี บ้านเขาเอง เขาไม่ติด โซล่าเซลล์ ครับ เขาบอกไม่คุ้ม

ส่วนโรงงานไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในไทย
โรงค่อนข้างเก่า ประสิทธิภาพ เทียบให้ชัด ๆ เลยนะครับ ต่ำกว่ารถ ICE เครื่องประสิทธิภาพสูงครับ
; โรงไฟฟ้าเก่า ประสิทธิภาพ ต่ำกว่า 50%
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 20, 2023, 22:55:31 โดย nobody123 »

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
[quote author=Weetting link=topic=87099.msg1509796#msg1509796 date=1697809226

ก็แพงอยู่ดีครับ​  เอาว่าถ้าล้านกลางก็ต้องผ่อน​ 20000​

กับเงินแค่​ 7.5 แสนเลือกได้ทั้งไฮบริด​  อีวี​  น้ำมัน​
ผ่อนแต่ละเดือนเหลือ​ 7-9​ พัน​   มันต่างกันมากนะครับ

ซึ่งถ้างบเท่านี้รักโลก​ ก็ไปเลือกไฮบริดน่าจะเหมาะกว่า
[/quote]

ถ้ายี่ห้อจีน ไม่ถึงล้าน ครับ
ถ้ายี่ห้อญี่ปุ่น ล้านนึงครับ
ถูกกว่า เทียบง่าย ๆ พึ่งออก หน้าคลาสสิกมาก 'Accord' แต่แรงเท่า ๆ กัน (หรือ PHEV แรงกว่าด้วย)

แล้ว คิดขับระยะยาว แล้วจะพบว่า

1. แบต PHEV ถูกกว่า BEV แบบมีนัยยะสำคัญ ทั้งที่ขับในเมืองอาจขับระยะเท่ากัน แต่การเสียค่าแบตมากกว่าเท่าตัว (กว่า) นั้น น่าเสียดาย ครับ

2. ค่าพลังงานถูกกว่า ICE Euro 4 ผม กม.ละ 6 บาท ทั้งในเมืองและชานเมือง
เมื่อขับไปสองแสนโลในเมืองและชานเมือง เซฟ 200,000*6 = 1,200,000 บาท ครับ เกินค่าแบตไปเยอะ

3. ค่าพลังงานยังถูกกว่า HEV ใหม่ ๆ วิ่งจริง เอาตัวเลขกลมเว็บฮอนด้า 15 กม./ล. (ไม่เอาตอนดีสุด รถไม่ได้วิ่งดีสุดตลอดเวลา)

ลองดูภาพด้านล่าง รถผม ไม่คิดภาคไฟฟ้า คิดเฉพาะภาคน้ำมัน 3.3-3.4 ล./100 กม. หรือ 33 กม./ล.
เฉลี่ยหลังพ้นรันอินมา 2x,xxx กม.
(วิ่งแบบเต็มที่ แซงรถแช่ขวาเป็นปกติ โดนใบสั่งที่ 12x กม./ชม. เป็นต้นสามสี่รอบ)

= PHEV คือรถที่เหมือนซื้อขาด บำรุงรักษาฟรีตลอดชีพครับ
กล่าวคือ แม้ต้องเปลี่ยนแบตรอบนึง เหลือเงินไปบำรุงรักษา เกือบแปดแสน จากตัวเลขด้านบน 1,200,000 นะครับ

ถ้าซื้อ BEV ขับระยะเท่ากัน 1,200,000 ได้แค่จ่ายค่าแบต StealthEV 16 โมดูล ยังไม่รวมค่าแรง
BEV เหมาะกับคนขับเยอะ ๆ ในเมือง+ชานเมือง ถึงจะคุ้มครับ

ประกันถูกกว่า BEV ด้วย ผมได้ปีที่สาม 34,400 บาท
BEV เจ้าเดียวกับผมที่แรงเกือบเท่าผม 60,000 ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 20, 2023, 23:38:20 โดย nobody123 »

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,955
    • อีเมล์
          ปัญหาหลักของ EV ที่จะสร้างมลภาวะต่อโลกเราน่าจะอยู่ที่การกำจัดแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพหรือหมดสภาพที่จะใช้งาน  จะกำจัดยังไงครับ  มีโรงงานกำจัดแบตเตอรี่มั๊ย

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
มีการศึกษาวิจัย ตั้งแต่หาวัตถุดิบ / ขับ / ซ่อม / กำจัด ในจีน แล้วครับ
รถที่คาดได้ว่า คือ Long range ปล่อย CO2e มากกว่า ICE โดยเฉลี่ย นิดนีง

โดยย้ำว่าเขาพิจารณารถแบตใหญ่สองมอเตอร์คันนี้เทียบ ICE โดยรวมนะครับ
(3xx ก. CO2e/กม.)

ดังนั้น ที่ถามมา ถ้าเปรียบเทียบกับรถที่แรงเท่ากัน PHEV
คาดได้ว่า จากขนาดแบตเตอรีที่เล็กลงอย่างมีนัยยะสำคัญ PHEV ปล่อย CO2e น้อยกว่า ICE โดยเฉลี่ย ต่อโลก ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2023, 08:04:35 โดย nobody123 »

ออฟไลน์ Myprecious

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 163
Phevนี่ถ้าวิ่งไฟฟ้าล้วน แต่ถึงรอบเช็คระยะต้องมีเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องของเหลวของเครื่องยนต์เหมือนรถปกติมั้ยครับ

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
มีครับ แต่อย่างผมขับน้อย ผมยืดเวลานำรถเข้า เพราะเกณฑ์นำเข้า คือ หนึ่งปี หรือ 20,000 กม.น้ำมัน
ผมยืดไปปีกว่ากว่าจะเข้า

และรถ PHEV หลายคัน ฉลาด ตรงที่ ถ้าไม่ยอมขับน้ำมันเลย มันจะบังคับขับน้ำมัน กันน้ำมันเก่า

ขับน้ำมันด้วยไปเถอะครับเพราะ Consumer Reports สหรัฐสำรวจรถ 'แสนกว่าคัน' แล้ว
ค่าบำรุงรักษา BEV = PHEV < ICE หนึ่งเท่าตัว ครับ
ตรงนี้ก็เป็นอีกเรื่อง ที่คนไทย เข้าใจผิดว่า PHEV ค่าบำรุงรักษาแพงกว่า ICE
ในคลับนี้ หลายคนรู้กัน เพราะใช้จริง สองระบบช่วยกันขับ แต่ละระบบไม่ค่อยเสีย
https://advocacy.consumerreports.org/wp-content/uploads/2020/10/EV-Ownership-Cost-Final-Report-1.pdf

ส่วนถ้าไม่เปลี่ยนแบตเลย ค่าบำรุงรักษารถรัฐบาลสหรัฐ ที่รัฐบาลสำรวจรถตัวเอง (คาดว่าแทงจำหน่ายเลยก่อนเปลี่ยนแบต) เรียงอย่างนี้
BEV < PHEV < HEV < ICE
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2023, 16:23:16 โดย nobody123 »

ออฟไลน์ -nu-

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 168
[quote author=Weetting link=topic=87099.msg1509796#msg1509796 date=1697809226

ก็แพงอยู่ดีครับ​  เอาว่าถ้าล้านกลางก็ต้องผ่อน​ 20000​

กับเงินแค่​ 7.5 แสนเลือกได้ทั้งไฮบริด​  อีวี​  น้ำมัน​
ผ่อนแต่ละเดือนเหลือ​ 7-9​ พัน​   มันต่างกันมากนะครับ

ซึ่งถ้างบเท่านี้รักโลก​ ก็ไปเลือกไฮบริดน่าจะเหมาะกว่า

ถ้ายี่ห้อจีน ไม่ถึงล้าน ครับ
ถ้ายี่ห้อญี่ปุ่น ล้านนึงครับ
ถูกกว่า เทียบง่าย ๆ พึ่งออก หน้าคลาสสิกมาก 'Accord' แต่แรงเท่า ๆ กัน (หรือ PHEV แรงกว่าด้วย)

แล้ว คิดขับระยะยาว แล้วจะพบว่า

1. แบต PHEV ถูกกว่า BEV แบบมีนัยยะสำคัญ ทั้งที่ขับในเมืองอาจขับระยะเท่ากัน แต่การเสียค่าแบตมากกว่าเท่าตัว (กว่า) นั้น น่าเสียดาย ครับ

2. ค่าพลังงานถูกกว่า ICE Euro 4 ผม กม.ละ 6 บาท ทั้งในเมืองและชานเมือง
เมื่อขับไปสองแสนโลในเมืองและชานเมือง เซฟ 200,000*6 = 1,200,000 บาท ครับ เกินค่าแบตไปเยอะ

3. ค่าพลังงานยังถูกกว่า HEV ใหม่ ๆ วิ่งจริง เอาตัวเลขกลมเว็บฮอนด้า 15 กม./ล. (ไม่เอาตอนดีสุด รถไม่ได้วิ่งดีสุดตลอดเวลา)

ลองดูภาพด้านล่าง รถผม ไม่คิดภาคไฟฟ้า คิดเฉพาะภาคน้ำมัน 3.3-3.4 ล./100 กม. หรือ 33 กม./ล.
เฉลี่ยหลังพ้นรันอินมา 2x,xxx กม.
(วิ่งแบบเต็มที่ แซงรถแช่ขวาเป็นปกติ โดนใบสั่งที่ 12x กม./ชม. เป็นต้นสามสี่รอบ)

= PHEV คือรถที่เหมือนซื้อขาด บำรุงรักษาฟรีตลอดชีพครับ
กล่าวคือ แม้ต้องเปลี่ยนแบตรอบนึง เหลือเงินไปบำรุงรักษา เกือบแปดแสน จากตัวเลขด้านบน 1,200,000 นะครับ

ถ้าซื้อ BEV ขับระยะเท่ากัน 1,200,000 ได้แค่จ่ายค่าแบต StealthEV 16 โมดูล ยังไม่รวมค่าแรง
BEV เหมาะกับคนขับเยอะ ๆ ในเมือง+ชานเมือง ถึงจะคุ้มครับ

ประกันถูกกว่า BEV ด้วย ผมได้ปีที่สาม 34,400 บาท
BEV เจ้าเดียวกับผมที่แรงเกือบเท่าผม 60,000 ครับ


[/quote]

จากข้อ 2 พี่ขับรถ ICE อะไรครับ?
ถึงกินน้ำมัน km ละมากกว่า 6 บาท (ผมขับแถวสาทรทุกวัน รถ ICE ตก 11-12km/l อยู่เลย) 

PHEV พี่ขับใช้น้ำมัน 33km/L
อันนี้ชาร์จไฟด้วยใช่ไหมครับ




ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140

จากข้อ 2 พี่ขับรถ ICE อะไรครับ?
ถึงกินน้ำมัน km ละมากกว่า 6 บาท (ผมขับแถวสาทรทุกวัน รถ ICE ตก 11-12km/l อยู่เลย) 

PHEV พี่ขับใช้น้ำมัน 33km/L
อันนี้ชาร์จไฟด้วยใช่ไหมครับ

BMW 318i Euro 4 ซึ่งเป็น Euro ต่ำสุดตามมาตรฐานไทยรับได้ครับ หนักประมาณ 1500 กก.
ทางคุณใช้รถอะไรครับ ถึงได้ 11-12 กม./ล.?
(วัดจากการเติมน้ำมันจริง หรือ วัดจากหน้าจอ บางหน้าจอมันไม่บอกการกินน้ำมันตอนความเร็วต่ำหรือตอนอยู่นิ่งนะครับ อย่างคันรูปด้านล่างบอก เช่น ออกตัวมีแว้บนึงใช้ 40 ล./100 กม. ก็บอกตามนั้น)

PHEV ต้องชาร์จสิครับ ใช้ย่าน 0-80 สลับกับน้ำมันช่วง 90-120 อย่างนี้ จะประสิทธิภาพสูงทั้งสองระบบขับเคลื่อน
(120 กม./ชม. เครื่อง ICE ผมวิ่งเพียว ๆ ยังไม่ถึง 2,000 รอบเลย)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2023, 19:38:47 โดย nobody123 »

ออฟไลน์ Kanarath

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 398
รถเก่าโบราณไม่แปลกที่กินขนาดนั้น
ICE 10-12 โล/ลิตร ก็เยอะแยะ อย่าง 320i f30, z4 e89 ในอดีตผมก็ 10-11 แม้แต่ X7 40d ในเมืองยัง 10-11สบายๆ
PHEV หลายคนก็ไม่ชาร์จ ที่ซื้อเพราะ option ไม่ได้สนอัตราบริโภค เช่นผม

PS ตอนนั้นผมก็เข้าใจผิดว่าใช้ 530e ที่เป็น PHEV (เห็นบอกว่ามีรถแบบผม) จริงๆแล้วคือ V60 กับ e90 318i
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 22, 2023, 09:45:09 โดย Kanarath »

ออฟไลน์ muff

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 44
รถมันไม่ปล่อยมลพิษตอนขับ เลยบอกเป็นzero emissionได้ แต่ไม่ได้บอกว่า ไฟที่ชาร์จไม่มีมลพิษ แค่ว่าเขาออกกฏหมายให้ใช้รถไฟฟ้าในเมืองไม่ให้รถสันดาปเข้าเมืองเพื่อให้ลดมลพิษในเมือง ส่วนของโรงไฟฟ้ามันมีข้อกำหนดกฏหมายมหาศาลต้องมีการบำบัดก๊าซก่อนปล่อย บำบัดนู้นนี่นั่นอีกมากมาย และที่สำคัญโรงไฟฟ้ามักจะตั้งอยู่บริเวณที่ไม่มีคนอยู่อาศัย ทำให้มลพิษมีผลกระทบน้อยกว่า และที่สำคัญอีกอย่างคือประเทศอื่นๆเขาหันไปใช้โรงไฟฟ้าพลังานสะอาด เยอะขึ้น และโรงไฟฟ้านิวเคลีย ที่ต่อต้านกันนักหนา วึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าถ่านหิน มลพิษไม่มี ในขั้นตอนผลิตไฟฟ้า มีอย่างเดียวคือกากยูเรเนียม หลังหมดอายุขัย ซึ่งมันก็มีขั้นตอนของมันในการเก็บรักษาเพื่อรอให้มันค่อยๆสลายไปตามครึ่งชีวิตของมัน

สุดท้าใช้รถแบบไหนมันก็เรื่องของเขา ทั้งโลกที่ใช้ ev มันก็มีไม่ถึง10%ที่มานั่งแคร์โลก แต่ใช้เพราะมันคือยุคของมันแล้วลดค่าใช้จ่าย อันไหนลดค่าใช้จ่ายได้ก็เลือกใช้แค่นั้นอันไหนคุ้มค่ากับคุณก็เลือกอันนั้น ยุคหลังจากนี้ คนที่ใช้รถอายุเกิน 10ปีมันก็จะลดลงไปเรื่อยๆ

PHEV ในประเทศที่ evมาก่อนก็ขายดีขึ้นเนื่องจากข้อจำกัดของ ev และพอหมดการสนับสนุนของรัฐบาลในรถevราคามันก็แพงขึ้นทำให้ไม่คุ้ม และPHEVจึงเป็นรถที่คุ้มค่ามากกว่า สุดท้ายถ้ายังหาอะไรมาแทนลิเทียมได้ยังไงevก็ยังมาไม่สุดเพราะลิเทียมมีจำกัด
อย่าลืมโจทย์รถเก่าๆเกิน10ปีหรือรถดีเซลเข้าไปด้วยก็คงต้องคิดให้รอบด้านแล้วว่าจะวางนโยบายอย่างไร เกี่ยวกับมลพิษ ice เก่าๆนี่ตัวดีจอดติดเครื่องเป็นชั่วโมงไม่เห็นใจคนอื่นเลย เจอบ่อยนั่งสบายใจอยู่ในรถไม่สนคนเดินถนนเลย ppv นี่ก็ไม่น้อยนึกว่าจ่ายค่าดีเซลถูกเลยติดเครื่องแช่ตรงไหนก็ได้ ปวดหัวมานั่งเถียงกันเรื่องมลพิษรถใหม่ รถ10-20ปีวิ่งเต็มถนนยังแก้กันไม่ได้เลย

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
และข้อนึงที่หลายคนคงนึกไม่ถึง สำหรับการสำรวจ 29 จังหวัดในจีน ข้อมูลปีที่แล้ว แล้วโปรเจคไปปี 2030 ครับ

‘we find that improved fuel efficiency of gasoline cars collectively reduces more CO2 emissions than that of vehicle electrification, mainly because most of (∼81%) the vehicle stock in 2030 are powered by gasoline.’

[https://pubs.acs.org/doi/10.1021/acs.est.1c06148?fbclid=IwAR0KOV9hFwiYO_Z2sfHO4u_Mr4WIkk4HlmC8H4MTsuDnREwdSYVHrfLFfaM#]

ออฟไลน์ -nu-

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 168

BMW 318i Euro 4 ซึ่งเป็น Euro ต่ำสุดตามมาตรฐานไทยรับได้ครับ หนักประมาณ 1500 กก.
ทางคุณใช้รถอะไรครับ ถึงได้ 11-12 กม./ล.?
(วัดจากการเติมน้ำมันจริง หรือ วัดจากหน้าจอ บางหน้าจอมันไม่บอกการกินน้ำมันตอนความเร็วต่ำหรือตอนอยู่นิ่งนะครับ อย่างคันรูปด้านล่างบอก เช่น ออกตัวมีแว้บนึงใช้ 40 ล./100 กม. ก็บอกตามนั้น)

PHEV ต้องชาร์จสิครับ ใช้ย่าน 0-80 สลับกับน้ำมันช่วง 90-120 อย่างนี้ จะประสิทธิภาพสูงทั้งสองระบบขับเคลื่อน
(120 กม./ชม. เครื่อง ICE ผมวิ่งเพียว ๆ ยังไม่ถึง 2,000 รอบเลย)



ผมใช้ GLC220D  วัดจากเติมเต็มถังตลอด 11-12
บนเส้นทางเดียวกับ เงื่อนไขต่างๆเหมือนกัน Model3 LR ผมกินไฟราวๆ 200wh/KM. ไฟหนึ่งหน่วยได้ 5 km

FYI วิ่ง 120km/h Model3LR กินไฟราวๆ 156wh/KM ไฟหนึ่งหน่วยได้ 6.4km.
ถ้าวิ่ง 100km/h Model3LR กินไฟราวๆ 140wh/KM ไฟหนึ่งหน่วยได้ 7.1km.


ถ้าพี่ชาร์จไฟด้วย เคยวัดไหมครับ ว่าจริงๆ  ไฟ1 หน่วยของ Phev วิ่งได้ไกลแค่ไหน?  (คิดว่ายังไงก็ไม่เท่ารถ EV เพียวๆแน่ๆ)
แล้วเวลาไฟหมด รถกินน้ำมันกี่ km/l กันแน่ (คิดว่ายังไงก็มากกว่ารถน้ำมันเพียวๆแน่ๆ)
แต่อยากรู้ว่าจริงๆแล้วเวลารวมทั้ง 2 ระบบ  Phev ต้องจ่ายค่าพลังงานเชื้อเพลิง (น้ำมัน + ไฟฟ้า)ตกเท่าไหร่ต่อ km กันแน่

ออฟไลน์ OXYGEN2

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,492
    • เครื่องปั่น
    • อีเมล์

BMW 318i Euro 4 ซึ่งเป็น Euro ต่ำสุดตามมาตรฐานไทยรับได้ครับ หนักประมาณ 1500 กก.
ทางคุณใช้รถอะไรครับ ถึงได้ 11-12 กม./ล.?
(วัดจากการเติมน้ำมันจริง หรือ วัดจากหน้าจอ บางหน้าจอมันไม่บอกการกินน้ำมันตอนความเร็วต่ำหรือตอนอยู่นิ่งนะครับ อย่างคันรูปด้านล่างบอก เช่น ออกตัวมีแว้บนึงใช้ 40 ล./100 กม. ก็บอกตามนั้น)

PHEV ต้องชาร์จสิครับ ใช้ย่าน 0-80 สลับกับน้ำมันช่วง 90-120 อย่างนี้ จะประสิทธิภาพสูงทั้งสองระบบขับเคลื่อน
(120 กม./ชม. เครื่อง ICE ผมวิ่งเพียว ๆ ยังไม่ถึง 2,000 รอบเลย)



ผมใช้ GLC220D  วัดจากเติมเต็มถังตลอด 11-12
บนเส้นทางเดียวกับ เงื่อนไขต่างๆเหมือนกัน Model3 LR ผมกินไฟราวๆ 200wh/KM. ไฟหนึ่งหน่วยได้ 5 km

FYI วิ่ง 120km/h Model3LR กินไฟราวๆ 156wh/KM ไฟหนึ่งหน่วยได้ 6.4km.
ถ้าวิ่ง 100km/h Model3LR กินไฟราวๆ 140wh/KM ไฟหนึ่งหน่วยได้ 7.1km.


ถ้าพี่ชาร์จไฟด้วย เคยวัดไหมครับ ว่าจริงๆ  ไฟ1 หน่วยของ Phev วิ่งได้ไกลแค่ไหน?  (คิดว่ายังไงก็ไม่เท่ารถ EV เพียวๆแน่ๆ)
แล้วเวลาไฟหมด รถกินน้ำมันกี่ km/l กันแน่ (คิดว่ายังไงก็มากกว่ารถน้ำมันเพียวๆแน่ๆ)
แต่อยากรู้ว่าจริงๆแล้วเวลารวมทั้ง 2 ระบบ  Phev ต้องจ่ายค่าพลังงานเชื้อเพลิง (น้ำมัน + ไฟฟ้า)ตกเท่าไหร่ต่อ km กันแน่
1 หน่วยของ 530e ไปได้ประมาณ 3.5 กม.ครับ รถกินไฟประมาณ 300 วัตต์ต่อกิโลครับ
ส่วน Tesla Model Y PF ขับในเมือง เส้นทางเดียวกัน กินไฟประมาณ 180 วัตต์ต่อกิโลครับ
2021 - BMW 530e
2023 - Tesla Model Y Performance
2023 - Tesla Model Y RWD

My website~ :) ;) :D 8)

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140

ผมใช้ GLC220D  วัดจากเติมเต็มถังตลอด 11-12
บนเส้นทางเดียวกับ เงื่อนไขต่างๆเหมือนกัน Model3 LR ผมกินไฟราวๆ 200wh/KM. ไฟหนึ่งหน่วยได้ 5 km

FYI วิ่ง 120km/h Model3LR กินไฟราวๆ 156wh/KM ไฟหนึ่งหน่วยได้ 6.4km.
ถ้าวิ่ง 100km/h Model3LR กินไฟราวๆ 140wh/KM ไฟหนึ่งหน่วยได้ 7.1km.


ถ้าพี่ชาร์จไฟด้วย เคยวัดไหมครับ ว่าจริงๆ  ไฟ1 หน่วยของ Phev วิ่งได้ไกลแค่ไหน?  (คิดว่ายังไงก็ไม่เท่ารถ EV เพียวๆแน่ๆ)
แล้วเวลาไฟหมด รถกินน้ำมันกี่ km/l กันแน่ (คิดว่ายังไงก็มากกว่ารถน้ำมันเพียวๆแน่ๆ)
แต่อยากรู้ว่าจริงๆแล้วเวลารวมทั้ง 2 ระบบ  Phev ต้องจ่ายค่าพลังงานเชื้อเพลิง (น้ำมัน + ไฟฟ้า)ตกเท่าไหร่ต่อ km กันแน่
PHEV ผม ผมวางแผนการใช้งาน โดยระบุจุดหมายให้ไฟหมดพอดีปลายทาง หลายครั้ง ครับ
บอกเป็นตัวเลขหลักบาทเลย หนึ่งกม. 0.6 บาท ครับ เพราะ รถวิ่งด้วยไฟบ้าน 55 กม.ผมชาร์จ 3x บาท

เพราะอะไร?
เพราะความเร็ว 90 ขึ้นไป ผมตัดใช้น้ำมัน ซึ่ง ICE มีประสิทธิภาพสูงย่าน 90-120 ครับ

ดังนั้น ทริปยาว ๆ เช่น กาญจนบุรี 4xx กม. หน้าปัดได้ 20 กม./ล. แบบรวมไฟบ้าน
คิดแบบตัดไฟบ้านทิ้ง ผมได้รถที่เสมือน HEV 17 กม./ล. เป๊ะ ทั่วไทย ขับอัดแล้วครับ 120 กม./ชม. และพอมีรถแช่ขวา 100 กม./ชม. เป็นต้น (ซึ่งเขาก็ไม่ผิดอะไร) ผมแซงรถแช่ขวาได้แซงเลย

ถ้าขับไม่อัด ตัวเลขตอนประพฤติตัวเสมือนเป็น HEV จะใกล้เคียง Toyota Camry ที่คุณ JIMMY! ขับทดสอบ ครับ
ขอย้ำว่า นี่ไม่คิดไฟที่ชาร์จจากบ้าน ครับ
(ถ้าเฉลี่ยไฟจากบ้านด้วย ได้ 20-25 กม./ล. แล้วแต่ทริปสั้นหรือยาว)

ส่วนค่าเชื้อเพลิง 'แพง' กว่า BEV ครับ
แต่ค่าเปลี่ยนแบตถูกกว่า ครึ่งนึง เป็นต้น

จากหลายโพสต์ด้านบนของผมเอง ถ้าจะให้เสนอ สำหรับคนซื้อรถใหม่
ขับ < 25,000 กม./ปี เลือก PHEV หรือ HEV หรือ ถ้าวิ่งข้ามจังหวัดก็เลือกเครื่อง ICE ประสิทธิภาพสูง เช่น ลดจำนวนลูกสูบลงเมื่อความเร็วคงที่
ขับ > 30,000 กม./ปี เน้นในเมืองและชานเมือง เลือก BEV ครับ

เพราะอะไร?
เพราะช็อยส์ในการซื้อรถใหม่ที่ต่างกัน จะเกิด 'ส่วนต่าง' CO2e ในการ 'ผลิตอาหาร' เลี้ยงครอบครัวนึงพอดี เป็นต้น
นั่นคืออาหารของ :
1. คุณพ่อที่กำลังจะมีลูกกับคุณแม่ กำเนิดขึ้นมาในโลก จนโตมาพบรักกับคุณแม่ คำนวณไปถึงเวลาลูกเลี้ยงตัวเองได้
+
2. คุณแม่ที่กำลังจะมีลูกกับคุณพ่อ กำเนิดขึ้นมาในโลก จนโตมาพบรักกับคุณพ่อ คำนวณไปถึงเวลาลูกเลี้ยงตัวเองได้
+
3. ลูกของทั้งสอง ตั้งแต่คุณแม่คลอด คำนวณจนจบปริญญาเลี้ยงตัวเองได้
ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 23, 2023, 02:51:53 โดย nobody123 »

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
ส่วนตัวไม่คิดว่าจะมีอะไรได้มาโดยไม่เสียอะไรไปเลยนะครับ เพียงแต่ต้องคิดว่าโดยรวมแล้ว เปรียบเทียบกับแบบปัจจุบัน อะไรน่าจะดีกว่ากัน คราวนี้ก็จะมายากหน่อยตรงที่ว่า "โดยรวม" ของแต่ละคน จะมีอะไรอยู่บ้าง

ออฟไลน์ nobody123

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
เพิ่มข้อมูลให้ งานปีล่าสุดด้านบน ซึ่งคนหลายชาติทำร่วมกัน (อันที่สำรวจและประเมินจีน 29 จังหวัด)
‘PHEVs and BEVs have similar carbon footprints under the current situation in China.’
‘76% of kilometers traveled by PHEV are powered by a battery’
‘In the northern and northeastern provinces such as Inner Mongolia, Jilin, Hebei, and Shanxi, the carbon footprints of BEVs exceed those of HEVs by more than 10%; this is due to the fact that the power grids in these regions rely heavily on fossil fuels (mostly coal). ’
‘On the other hand, BEVs driven in the southwestern provinces where hydropower accounts for a significant portion in the electricity mix, such as Yunnan, Sichuan, Hubei, Guizhou, and Qinghai, emit about 30% less CO2 compared to HEVs.’
‘Importantly, in the provinces that currently lead in EV sales, EVs do not have noticeably greater climate benefits than HEVs.’