ผู้เขียน หัวข้อ: ชวนคุยเรื่อง น้ำหนักตัวรถ และความคมของ Chassis  (อ่าน 1258 ครั้ง)

ออฟไลน์ Steve_Davis

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 114
สวัสดีครับ  ทุกท่านครับ
พอดีช่วงนี้ไล่ดู รีวิว d segment อยู่ครับ เลยอยากชวนคุยเรื่อง
ความรู้สึก firm ของ chassis ในรถที่เบากว่า จะให้ความรู้สึกบิดตัวน้อย
กว่าไหมครับ? ตย. เข่น camry hybrid กับ camry 2.5
เหมือน camry 2.5 จะให้ความรู้สึกที่คมกว่ารุ่น hybrid
เหตุผลน่าจะเกิดจาก นน.ที่มากกว่า ส่งผลให้ chassis บิดตัว
มากกว่าใช่ไหมครับ?  เราควรให้ความสำคัญ
กับ นน ตัวรถ ให้เทียบเท่ากับ แรงม้า หรือแรงบิดไหมครับ?

ส่วนตัวผมเคยลอง bmw f30 320d กับ 330e ผมว่า 320d
ถึงจะแรงน้อยกว่า แต่ความ balance ในการบังคับควบคุม
ดีกว่าแบบรู้สึกได้เลยครับ

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,618
Re: ชวนคุยเรื่อง น้ำหนักตัวรถ และความคมของ Chassis
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2023, 14:59:10 »
เรื่องน้ำหนักรถกับความรู้สึกในการขับ ในการควบคุม ผมมีมุมมองในแบบอื่น อาจจะไม่ค่อยตรงกับหัวข้อสักเท่าไหร่คับ

แน่นอนว่า ความแข็งแรงของโครงสร้างตัวรถและการให้ตัว มีผลกับความรู้สึกในการบังคับรถ
แต่เรื่องของน้ำหนักรถ มันจะมีผลต่อโมเมนต์ของรถโดยตรง ยกตัวอย่างว่ารถที่มีน้ำหนักมากหน่อยเวลาวิ่งไปตรงๆมันจะนิ่ง แต่เมื่อมีการเปลี่ยนทิศทางเมื่อไหร่มันจะเกิดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ขึ้น
ยิ่งรถมีน้ำหนักมาก แรงตรงนี้็ยิ่งมาก มันจะเป็นตัวฝืนให้รถเปลี่ยนทิศทางได้ยากขึ้น ซึ่งมีผลกับความคล่องตัว ความคมในการเลี้ยวโดยตรง

การที่ตัวถังรถ รวมไปถึงระบบช่วงล่างต่างๆ มีการให้ตัวได้เล็กน้อย บางทีมันก็แอบเป็นข้อดีตรงที่ในกรณีเราขับรถหักเลี้ยวกะทันหันหรือเข้าโค้งไวๆ การให้ตัวพวกนี้มันช่วยถ่ายเทแรงเหวี่ยงบางส่วนให้ค่อยเป็นค่อยไป
ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นข้อดีสำหรับรถใช้งานทั่วไปนะ  แต่กับรถแข่งหรือรถ Performance หลักการที่โครงสร้างรถให้ตัวตัวได้แบบนี้มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่

ออฟไลน์ saran_1st

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 233
Re: ชวนคุยเรื่อง น้ำหนักตัวรถ และความคมของ Chassis
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2023, 15:01:14 »
ถ้าในรถ รุ่นเดียวกัน แต่ต่างเครื่องยนต์/Option น้ำหนักที่เพิ่มมา ไม่น่าจะทำให้บิดมากขึ้นขนาดนั้น เว้นแต่ว่า มันจะเป็นน้ำหนักก้อนใหญ่ ที่อยู่ส่วนปลายรถ เช่น เทียบระหว่างตัว 4 ประตู กับตัว 5 ประตู หรือ Estate ครับ อันนี้น่าจะเห็นผลครับ ว่ามันบิด แล้วทำให้อุ้ยอ้าย

ผมคิดว่า อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก แล้วก็ อัตราทดพวงมาลัย มีผลกับความสนุกในการขับขี่ชัดเจน ครับ
ทีนี้สำหรับรถที่น้ำหนักเยอะ แล้วรู้สึกว่า ขับไม่ดี เลี้ยวไม่คม ที่ผมรู้สึกได้จะมาจาก น้ำหนักที่ลงที่ล้อหน้า มากเกินไป ทั้งเวลาเบรคและเลี้ยว ทำให้หน้ามันดื้อ เลี้ยวไม่ค่อยเข้า

ถามว่าถ้า Chassis แข็งเป็นกระดานเลยจะดีไหม ผมคิดว่าไม่ ครับ ผมลองเทียบรถคันเดียวกัน ตอนที่ใส่ Roll Cage (ภาษาบ้านเราก็ โรลบาร์) กับตอนที่ถอด ผมกลับชอบความรู้สึกการขับขี่ตอนถอด Roll Cage ออกมากกว่า ตอนที่ใส่มันเหมือนรถแข็งเป็นแผ่นเดียวกัน พอเลี้ยวบิดน้อย กลายเป็นภาระไปลงที่หน้ายางแทน แล้วถ้ายางไม่หนึบจริง โช้คไม่ดีจริง ก็พาลไม่เกาะไปอีก
'95 Subaru Impreza EJ20 auto
'95 Subaru Legacy EJ25
'01 Subaru Impreza Bugeye GDB
'19 Subaru Levorg 1.6 GT-S

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,596
  • may the force lead your way ...
Re: ชวนคุยเรื่อง น้ำหนักตัวรถ และความคมของ Chassis
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2023, 15:10:04 »
เรื่องน้ำหนักตัวรถ ส่วนตัวก็ให้ความสำคัญมากระดับนึงเพราะจากที่เรียนมาสมัยวัยรุ่น
โมเมนตัม = น้ำหนัก(มวล) x ความเร็ว

ยิ่งโมเมนตัมมาก ความปราดเปรียวก็จะลดลงไปเรื่อยๆ ต้องชดเชยด้วยช่วงล่างที่เทพขึ้นต้องมาบาลานซ์ในส่วนนี้

ส่วนตัวเพิ่งรับรถ tesla my lr มาก็ยังรู้สึกถึงโมเมนตัมที่เยอะ 19xx kg
แต่ยังดีอยู่เมื่อเทียบกับ .. คลิปที่ชัดเจนในฟีลลิ่งขับขี่ก็ bz4x 22xx kg
หลายๆคนก็ชอบแค่ตอนขับทางตรงแต่พอจะมุดก็ .. ตามนั้นครับ  :-X

ความรู้สึกส่วนตัวพอโมเมนตัมเยอะ เลยต้องจัดขับ 4 อย่างเดียวถึงจะรู้สึกปลอดภัยในทุกสภาพอากาศ  :-[
ซึ่งคิดว่าโมเมนตัมที่เริ่มต้องให้ความสำคัญคือช่วงน้ำหนักรถแถวๆ 2 ตัน+- ขึ้นไป
แถวๆ 1500 +- ลงไปช่วงล่างตลาดก็เริ่มเอาอยู่ไม่ยาก เลยคิดว่ายังไม่ต้องกังวลขนาดนั้น

ปล.ที่เลือก tesla ก็มาจากหัวข้อที่จขกทตั้งมาเลยครับ น้ำหนักที่น้อยที่สุด
กับ chassis ที่แข็งแรงที่สุดในรุ่นพิกัดเดียวกัน รวมถึงช่วงล่างที่โอเครองรับการปรับปรุงได้ในราคาที่ไม่เยอะ
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ

ออฟไลน์ เนื้อน่องไม่หนัง

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,738
Re: ชวนคุยเรื่อง น้ำหนักตัวรถ และความคมของ Chassis
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2023, 15:21:24 »
ความ stiff ของ chassis น่าจะมีผลครับ ทำให้การใส่ rollcage ค้ำโชค กันโคลงมีผลที่ชัดเจน

อีกอย่างคือน้ำหนักของรถทั้งคันกับการกระจายน้ำหนักครับ มันทำให้น้ำหลัง load ลงโช๊คคู่หน้าหลังไม่เท่ากัน
รถจะมีการตอบสนองเปลี่ยนไปได้ประมาณนึงเลย สำหรับผมการมีคนนั้งเบาะหลัง กับมีข้าวสารสัก 20 kg วางไว้ท้ายรถ ฟิลลิ่งต่างกันมากเลยครับ

ออฟไลน์ samaklen

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,922
Re: ชวนคุยเรื่อง น้ำหนักตัวรถ และความคมของ Chassis
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2023, 16:00:49 »
ขับหน้า กับขับหลัง การกระจายน้ำหนักต่างกันครับ
ยังมีเรื่องน้ำหนักตกที่เพลาหน้าอีก
และยังเรื่องมุมของแขนแร็ค ที่ส่งผลถึงฟีลพวงมาลัยอีก

ออฟไลน์ Steve_Davis

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 114
Re: ชวนคุยเรื่อง น้ำหนักตัวรถ และความคมของ Chassis
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2023, 23:35:21 »
เรื่องน้ำหนักตัวรถ ส่วนตัวก็ให้ความสำคัญมากระดับนึงเพราะจากที่เรียนมาสมัยวัยรุ่น
โมเมนตัม = น้ำหนัก(มวล) x ความเร็ว

ยิ่งโมเมนตัมมาก ความปราดเปรียวก็จะลดลงไปเรื่อยๆ ต้องชดเชยด้วยช่วงล่างที่เทพขึ้นต้องมาบาลานซ์ในส่วนนี้

ส่วนตัวเพิ่งรับรถ tesla my lr มาก็ยังรู้สึกถึงโมเมนตัมที่เยอะ 19xx kg
แต่ยังดีอยู่เมื่อเทียบกับ .. คลิปที่ชัดเจนในฟีลลิ่งขับขี่ก็ bz4x 22xx kg
หลายๆคนก็ชอบแค่ตอนขับทางตรงแต่พอจะมุดก็ .. ตามนั้นครับ  :-X

ความรู้สึกส่วนตัวพอโมเมนตัมเยอะ เลยต้องจัดขับ 4 อย่างเดียวถึงจะรู้สึกปลอดภัยในทุกสภาพอากาศ  :-[
ซึ่งคิดว่าโมเมนตัมที่เริ่มต้องให้ความสำคัญคือช่วงน้ำหนักรถแถวๆ 2 ตัน+- ขึ้นไป
แถวๆ 1500 +- ลงไปช่วงล่างตลาดก็เริ่มเอาอยู่ไม่ยาก เลยคิดว่ายังไม่ต้องกังวลขนาดนั้น

ปล.ที่เลือก tesla ก็มาจากหัวข้อที่จขกทตั้งมาเลยครับ น้ำหนักที่น้อยที่สุด
กับ chassis ที่แข็งแรงที่สุดในรุ่นพิกัดเดียวกัน รวมถึงช่วงล่างที่โอเครองรับการปรับปรุงได้ในราคาที่ไม่เยอะ

ผมว่านี่อาจจะเป็นปัญหาที่ท้าทาย สำหรับรถไฟฟ้า เมื่อเทียบกับรถสันดาปเลยครับ
คือถ้าอยากให้ได้ระยะทางวิ่งไกลๆ ก็เลี่ยงปัญหาเรื่อง นน ตัวไม่ได้ Dynamic ของตัวรถ
เลยจะเป็นรอง รถสันดาปหน่อยๆ

รบกวนถามหน่อยครับว่า Model Y ให้ feeling การขับคล้ายไปทางรถยุโรป หรือ ญี่ปุ่นครับ
พอดีไม่เคยลองขับครับ

ออฟไลน์ punn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,596
  • may the force lead your way ...
Re: ชวนคุยเรื่อง น้ำหนักตัวรถ และความคมของ Chassis
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2023, 15:08:43 »
เรื่องน้ำหนักตัวรถ ส่วนตัวก็ให้ความสำคัญมากระดับนึงเพราะจากที่เรียนมาสมัยวัยรุ่น
โมเมนตัม = น้ำหนัก(มวล) x ความเร็ว

ยิ่งโมเมนตัมมาก ความปราดเปรียวก็จะลดลงไปเรื่อยๆ ต้องชดเชยด้วยช่วงล่างที่เทพขึ้นต้องมาบาลานซ์ในส่วนนี้

ส่วนตัวเพิ่งรับรถ tesla my lr มาก็ยังรู้สึกถึงโมเมนตัมที่เยอะ 19xx kg
แต่ยังดีอยู่เมื่อเทียบกับ .. คลิปที่ชัดเจนในฟีลลิ่งขับขี่ก็ bz4x 22xx kg
หลายๆคนก็ชอบแค่ตอนขับทางตรงแต่พอจะมุดก็ .. ตามนั้นครับ  :-X

ความรู้สึกส่วนตัวพอโมเมนตัมเยอะ เลยต้องจัดขับ 4 อย่างเดียวถึงจะรู้สึกปลอดภัยในทุกสภาพอากาศ  :-[
ซึ่งคิดว่าโมเมนตัมที่เริ่มต้องให้ความสำคัญคือช่วงน้ำหนักรถแถวๆ 2 ตัน+- ขึ้นไป
แถวๆ 1500 +- ลงไปช่วงล่างตลาดก็เริ่มเอาอยู่ไม่ยาก เลยคิดว่ายังไม่ต้องกังวลขนาดนั้น

ปล.ที่เลือก tesla ก็มาจากหัวข้อที่จขกทตั้งมาเลยครับ น้ำหนักที่น้อยที่สุด
กับ chassis ที่แข็งแรงที่สุดในรุ่นพิกัดเดียวกัน รวมถึงช่วงล่างที่โอเครองรับการปรับปรุงได้ในราคาที่ไม่เยอะ

ผมว่านี่อาจจะเป็นปัญหาที่ท้าทาย สำหรับรถไฟฟ้า เมื่อเทียบกับรถสันดาปเลยครับ
คือถ้าอยากให้ได้ระยะทางวิ่งไกลๆ ก็เลี่ยงปัญหาเรื่อง นน ตัวไม่ได้ Dynamic ของตัวรถ
เลยจะเป็นรอง รถสันดาปหน่อยๆ

รบกวนถามหน่อยครับว่า Model Y ให้ feeling การขับคล้ายไปทางรถยุโรป หรือ ญี่ปุ่นครับ
พอดีไม่เคยลองขับครับ

ต้องขออภัย ไม่มีดวงกับรถยุโรปเลยครับ  :-[

เคยขับแต่รถญี่ปุ่น เก๋ง กระบะ พีพีวี ครอสโอเวอร์
ก็ไม่รู้สึกว่าคล้ายญี่ปุ่นนะครับ  ::)

ตัว my ตัวนี้สารภาพว่าไม่เคยได้แตะไม่เคยได้จับสักครั้ง จนเพิ่งได้แตะได้จับก็วันรับรถเลยครับ
เป็นการซื้อรถที่ passion ล้วนๆ และไม่ทำให้ผิดหวังเลยครับ นอกจากบางจังหวะรู้สึกกระด้างไปนิด
เตรียมไปจัดโช๊คสักชุดก็น่าจะถูกใจตามการคาดเดาเหมือนเดิม :-*
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ