ผู้เขียน หัวข้อ: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30  (อ่าน 3386 ครั้ง)

ออฟไลน์ Majorchanges

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« เมื่อ: ธันวาคม 12, 2023, 15:11:20 »
ถ้าให้เลือกระหว่าง Honda Civic e:HEV และ Mazda CX30 (ตัวท็อปทั้งคู่) ทุกคนมีความเห็นยังไงกันบ้างคะ
ผู้ชายอายุ 35 ปี ขับในเมืองกทม.เป็นหลัก ส่วนใหญ่ขับไปทำงานกับไปห้างค่ะ ระหว่าง 2 รุ่นนี้เป็นทุกคนจะเลือกรุ่นไหนคะ พอดีชอบ 2 รุ่นนี้แม้จะเป็นคนละ segment กันค่ะ ขอทราบความคิดเห็นทุกคนด้วยค่ะ

รวมถึงเรื่องราคาขายต่อ ความสวยงาม (luxury สำหรับผู้ชาย) ค่าบำรุงรักษา และถ้าเจอน้ำขัง/น้ำท่วมที่ถนนต่างกันมากมั้ยคะ 2 รุ่นนี้

หรือมีรุ่นอื่นแนะนำมั้ยคะ

ขอบคุณมากค่ะ :)

ออฟไลน์ nnss

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 578
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2023, 16:24:37 »
เรื่องน้ำท่วมนี่ผมว่า cx30 พื้นรถก็สูงกว่านิดนึง
แต่ใช้ในกทมเป็นหลักไป civic hybrid เลยครับประหยัดกว่ากันเยอะ(มาก) ออฟชั่นก็ครบๆแล้ว ตอนนี้ส่วนลดจัดเต็มด้วย

ออฟไลน์ ๑ ๒ ๓

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,023
    • ร้าน เอที คอมสำโรง
    • อีเมล์
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2023, 18:03:09 »
CX30 ในเมือง 8-10 กม./ลิตร ถ้ารับได้ก็จบ
ส่วน Civic HEv ประหยัดกว่าแน่นอน ขับโฉบกว่าแน่นอนครับ

CX30 ช่วงล้าง เป็นสิงห์ทางเรียบครับ กลัวเนินเต่ามากๆ ร่อนทีแทบบิน กระแทกแรงเกินไป ซับแรงกระแทกไม่ได้ครับ
รับซื้อ ขาย ซ่อม แลกเปลี่ยนคอมพิวเตอร์,โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,862
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2023, 18:41:42 »
น้องสาวผมขับ civic ภรรยาผมขับ cx30

ส่วนตัว ไม่ได้นิดเรื่องค่าน้ำมัน cx30 ภรรยาขับไปส่งลูกดาวคะนอง-สมุทรสาคร​ ติดบ้างโล่งบ้าง อยู่แถวๆ 11-12โลลิตร

ผมไม่ขับรถเก๋งมา 20ปีแล้วครับ เวลาขับ civic มันจะไม่เห็นการจราจร​ข้างหน้าเลย แถมที่นั่งเตี้ยครับ ขึ้นลงลำบาก ส่วน cx30 ยังพอขึ้นลงสะดวกกว่า ทัศนวิสัย​มองไปข้างหน้าได้มากกว่า

ความเงียบ เครื่องเสียง cx30 ทำให้นั่งขับแล้วสงบกว่าครับ

ถ้าเน้นประหยัด ไป civic เลยครับ ไม่ต้องไปลอง cx30 เลยครับ
แต่ถ้ารับที่ประมาณ 10โลลิตร +- ได้ แนะนำไปลองขับทั้งคู่ครับ

ออฟไลน์ helloweentz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 358
    • รถขนของ
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2023, 20:28:20 »
Honda Civic e:HEV ประหยัดกว่ามากๆ

รถมันคนละแบบ ต้องไปลองเองเลยครับ

เงียบภายใน สูงกว่า CX30 ส่วน civic ประหยัดกว่า สปอร์ตกว่า สวยกว่า
BRV 2016
Mileage :  173,583
รายการซ่อม :
เกียร์
แอร์
โช๊คหลัง
ลูกยางยึดท่อ
เพลาขับ

ออฟไลน์ spn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,721
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2023, 21:52:31 »
ถ้าเป็นผมซึ่งชอบรถใหญ่ สบายๆ ไป accord g10 ตัวท็อป / camry ปัจจุบัน MC มือสองครับ แต่ราคาต้องไม่ควรเกิน 1,ฝ0,000 ไมล์ไม่เกิน 60,000 กม.  ภาพลักษณ์ดีกว่า ใช้แค่ในเมือง ถ้า accord เครื่องเดียวดัน อัตราสินเปลืเงและค่าบำรุงรักษาไม่น่าต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

ส่วนกลับมาที่ 2 ตัวเลือกนี้ ผมชอบ CX-30 เพราะ ตำแหน่งนั่งกำลังดี เครื่องชง แต่ซื้อจริงไป civic ครับ  ::) ::)
E220d W213
Camry 2.5 HV Premium
BT50 Free Style Cab Hi racer
Revo 2.8J B cab 4x4
March 1.2 CVT
KIA Jumbo 1JZ-GE AT

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2023, 23:17:26 »
ehev สิครับ ขับในเมืองเป็นหลักด้วย ประหยัดกว่าแน่นอน

ออฟไลน์ Chris Evn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,155
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 12, 2023, 23:48:35 »
Civic eHEV ทั้งประหยัด และแรงกว่า

ออฟไลน์ Majorchanges

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2023, 00:40:48 »
เรื่องน้ำท่วมนี่ผมว่า cx30 พื้นรถก็สูงกว่านิดนึง
แต่ใช้ในกทมเป็นหลักไป civic hybrid เลยครับประหยัดกว่ากันเยอะ(มาก) ออฟชั่นก็ครบๆแล้ว ตอนนี้ส่วนลดจัดเต็มด้วย

ส่วนลดประมาณเท่าไหร่คะช่วงนี้ ถ้ารับ Honda Exclusive Care (5y/5y) ด้วยค่ะ

ออฟไลน์ ThisIsYuTh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 291
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2023, 07:55:18 »
สำหรับผม
ราคาขายต่อ > Civic
ความสวยงาม (luxury สำหรับผู้ชาย) > CX-30
ค่าบำรุงรักษา = พอๆ กัน มาสด้าจะแพงกว่าที่ค่าแรงนิดหน่อย ส่วนค่าอะไหล่สำหรับผมก็พอๆ กัน มีถูกกว่าแพงกว่าสลับกัน
และถ้าเจอน้ำขัง/น้ำท่วมที่ถนน = ต่างนิดหน่อย CX-30 มั่นใจมากกว่าหน่อยนึง แถมขับขึ้นลงเนินไม่ต้องระวังมาก

เอาจริงๆ รถสองคันนี้คนละแนวเลย ให้คนขับเลือกดีกว่าครับ
2020 - Mazda CX-5 2.5T (KF)
2016 - Subaru XV (GP)
2013 - Mitsubishi Pajero Sport (KG)
2010 - Honda Civic (FD)
2006 - BMW 3 Series (E36)

ออฟไลน์ tswift

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2023, 09:24:53 »
เหตุผลเดียวจริงๆ (ถ้าไม่นับเรื่องรูปโฉม) ที่จะเอา CX30 คือพื้นที่ที่ขับประจำมีน้ำท่วมบ่อยๆครับ

ตอนนี้มีแคมเปญเทกระจาดจากทั้งสองค่ายเลย ยังไงลองไปขับเทสดูก่อนนะครับ

ออฟไลน์ Dante Haversham

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 136
    • อีเมล์
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2023, 11:29:05 »
Civic ครับ

ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปเลือก cx-30 เลยครับ

แค่ขึ้นลงง่ายกว่า เรื่องทัศวิสัยกับลุยน้ำผมว่ามันต่างกันไม่เยอะขนาดนั้นครับ

แต่สิ่งที่ได้มา เรือนไมล์ full digital, พื้นที่ห้องโดยสาร, พื้นที่เก็บของ, ช่วงล่างอิสระ, ความประหยัด

ออฟไลน์ Magl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,559
    • อีเมล์
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2023, 13:17:59 »
Cx30 ได้เปรียบแค่ความสูง ความเนี้ยบห้องโดยสาร เงียบกว่า และเครื่องเสียงดีกว่า ช่วงล่างแข็งกว่า ไฟหน้าสูงต่ำหลบหลีกออโต้ ซันรูฟ แค่นี้ละมั้ง กินน้ำมันมากกว่า ผมเบิกได้ไม่ค่อยซีเรียส ปัญหาประจำตัวมี กันชนฉีก กระจกข้างกางไม่สุดบ้าง

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,240
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2023, 14:05:30 »
Civic ehevครับ เหยียบพุ่งกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า(มากก)
ช่วงล่างmultilinkก็ดีเลยนะครับ ไม่ดีดแบบ30

ออฟไลน์ Naeky

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 160
    • อีเมล์
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2023, 14:51:29 »
ถึงกับต้อง Login เข้ามาตอบเลย ผมเป็นผู้ใช้งานที่ขาย CX-30 มาซื้อ Civic eHEV เมื่อปีที่แล้วถ้าให้เปรียบเทียบกับระหว่าง 2 รุ่นนี้

1.เรื่องของวัสดุที่นำมาตกแต่งและงานประกอบ ใน CX-30 จะมีการใช้ Piano Black หลายส่วนและมีหลายจุดเป็นรอยง่ายเช่นหน้าปัทม์ ทำให้เราต้องติดกันรอยตั้งแต่ออก ภาพรวมไปทางหรูด้วยวัสดุที่นำมาใช้งาน ส่วนงานประกอบจริงๆแล้ว ส่วนตัวผมคิดว่ามันไม่ได้ต่างกับญี่ปุ่นตัวอื่นๆขนาดนั้น สุดท้ายมันก็มีเสียงก็อกๆ แก๊กๆ ที่แผลกระตู จอกลาง และในคอนโซลหน้า ผมก็มารื้อหาเองเพราะศูนย์แก้ให้ไม่ได้ ส่วนที่เด่นแน่ๆ คือการเก็บเสียงครับ มันประเสริฐมากๆ อันนี้คือเรื่องเดียวที่ผมยังรักน้องเสียงจากพื้นเงียบมาก เสียงจากส่วนบนก็เงียบต้องเกิน 130 ขึ้นไปถึงจะเริ่มได้ยินเสียงลม ส่วนใน Civic ก็ตามสไตล์ Honda ครับ มันไม่ได้แย่นะครับ แต่แค่ไม่ได้ออกหรู มันออกแนววัสดุที่ดูเป็นรอยได้ยากกว่า แต่ก็เช่นกันทำให้ดูไม่ได้หรูเท่า เหมือนใช้งานทุกๆ วันได้ดีไม่ต้องคิดไรมาก หรือถนอมมันมาก ไม่ต้องค่อยระวังเป็นรอยอะไรมาก ส่วนเรื่องเก็บเสียงคือตามสไตล์ Honda เลยครับ ในตัว eHEV ได้ ANC มาทำให้ภาพรวมมันไม่ได้ดังมาก ยังมีความเงียบอยู่ไม่ถึงกับรำคาญเสียงข้างๆรอบรถ แต่จากพื้นเนี่ยดังจริงๆ ไม่เข้าใจ Honda ว่าทำไมที่บอกว่าพ่อกันเสียงแล้วแต่ก็ยังดัง จริงๆรถ Honda ก็มีวัสดุที่เป็นเหมือนกำมะหยี่ลดเสียงที่พื้นทั้งคันเลยนะครับ รวมถึงซุ้มล้อหลังด้วย แต่ก็ยังถึงว่าดังกว่าที่ควรจะเป็น

2.เรื่องของพื้นที่ห้องโดยสาร แถวหน้าไม่ได้แคบ แต่ก็ไม่ได้กว้างมากความสูงเบาะนั้นต่ำสุดยังสูงสบายๆ แต่อาจไม่ได้สูงเท่าพวก Crossover รุ่นอื่น เพราะตัวหลังคามันลาดต่ำกว่า แต่ส่วนของเบาะแถวหลังนั้นนั่งค่อนข้างชัน และแอบเมื่อยเวลานั่งนานๆ ที่วางขาพอดีไม่ได้แคบแต่ก็ไม่ได้กว้างแน่ๆ และที่สำคัญแอร์มันไม่ค่อยเย็นครับ ถ้าจะให้เย็นลมก็จะเสียงดังมากยกเว้นจะยกเลิก Auto ปรับเอง ส่วนใน Civic แน่นอนครับมันกว้างกว่าในทุกมิติที่พักขากว้างกว่าเยอะ แต่ด้วยทรงรถซีดาน และ Honda ก็ยังต้องการให้ Head Room เหลือ เบาะนั่งมันเลยต่ำมาก อันนี้ต้องพิจารณาไปลองนั่งส่วนตัวผมชอบนั่งขับรถแบบนอนขับ555 เลยไม่มีปัญหา ส่วนฝั่งคนนั่งผมเลยไปเสริมความสูงที่เขาทำกันในคลับครับ ส่วนเรื่องแอร์ด้วยความที่มันเป็นรถ Hybrid ทำให้คอมแอร์เป็นไฟฟ้า เย็นเร็วและต่อเนื่องกว่าและเสียงลมแอร์เบากว่ากันเยอะเลย

3.เรื่องเทคโนโลยีความปลอดภัย แน่นอนว่ามาสด้าจัดเต็มทุกอย่าง MRCC, Parking Sensor, BSM, RTCA และกล้อง AVM ยกเว้นที่ MRCC ในไทยคือโดนกั้ก Stop and Go ซึ่งก็มีคนปลดได้แล้วในคลับ แต่ก็ยังไม่เนียนเท่าจากที่ผมเคยใช้ของทั้ง CX-5 และ CX-30 รวมถึงการใช้ Radar ทำให้ไม่สามารถจับรถแทรกเข้ามา ในขณะที่ Honda จอมกั้ก มาพร้อม LaneWatch และ Honda Sensing เรื่องนี้ผมขอแยกเป็นแต่ละประเด็น
        ส่วนแรก Adaptive Cruise Controls ส่วนตัวผมรู้สึกว่า Honda พัฒนาเทคโนโลยี Image Processing มาได้โหดมาก ถึงจะโดนว่าลดต้นทุน แต่ในมุมมองด้านเทคโนโลยี การทำให้กล้องจับระยะลึกตื้นได้จะต้องมี Dynamic Calibration Distance ที่เก่งพอตัว ซึ่งเขาทำได้จริงๆ รเพราะทุกอย่างทำงานด้วยกล้องมุมกว้างเพียงตัวเดียว แต่สามารถตรวจจับและควบคุมพวงมาลัยได้เนียน สมูทกว่าหลายๆ ยี้ห้อที่ผมใช้เช่น CX-30, CX-5, C-HR, Good cat , Yaris Ativ และอีกอย่างเลยที่ผมชอบคือการจับรถที่จะแทรกเข้ามา หรือแม้กระทั่งการเปิดไฟเลี้ยวขณะที่ใช้ ACC อยู่ รถมันจะไปจับรถเลนฝั่งที่เราเปิดไปเลี้ยวพร้อมเร่งเครื่องออกไปทำให้ไม่เสียจังหว่ะ อันนี้ส่วนตัวคิดว่าเป็นประโยชน์ของเลนส์มุมกว้างเลยครับ แต่แน่นอนด้วยการที่ถูดลดต้นทุนเอาเรดาร์ออก (Accord มี) มันก็อาจจะไม่สามารถทำงานได้เมื่อมีอะไรมาปิดบังกล้อง (จากการใช้จริงยังไม่เคยเจออาการเพี้ยน ยกเว้นฝนตกแบบเราเองยังขับรถไปต่อแทบไม่ได้อยู่ 1 ครั้ง และพบว่ารถที่มีเรดาร์ส่วนใหญ่ก็จะหยุดทำงานเหมือนกันครับ)
     ส่วน BSM อันนี้ผมมองเป็น 2 ส่วนครับคือแน่นอนมียังไงก็ย่อมดีกว่าไม่มี แต่ด้วยความที่ผมขับรถและมองกระจกตลอด พอใช้รถที่มี BSM ไปนานๆ จนชินในเมืองที่รถมอเตอร์ไซค์คับคั่ง ผมกลับเพิกเฉยต่อสัญญาเตือน เพราะมันเตือนแทบจะตลอดเวลา ส่วนกล้องส่องผี หรือ Lanewatch ที่เขาว่ากัน ผมกลับชอบตรงที่ว่ามันทำให้เรามองเห็นได้จริงๆว่ามีอะไรอยู่ แน่นอนภาพมันห่วยครับ555 แต่มันยังไม่เท่าใน City/HR-V ก็เลยคิดว่ามันยังพอใช้งานได้ ติดที่แค่มันมาข้างเดียว ส่วนเรื่องที่คนบอกรำคาญมันขึ้นจอเวลาดูแผนที่ผมกดปิดเองที่หัวก้านไฟเลี้ยวครับ และอีกอย่างคือกล้องรอบคันไม่มี เซนเซอร์รอบคันไม่มี ผมเห็นด้วยที่จะโดนด่าแต่ก็ยังซื้อ เพราะผมเองขับรถมาหลายปีแล้วชินกับการกะระยะได้เอง เลยไม่ได้ติดเพิ่มครับ

4.เรื่องการขับขี่เครื่องยนต์ และอัตราสิ้นเปลือง ต่างกันแน่นอนครับเพราะ CX-30 ยังเป็น NA ไม่มีเทอร์โบ เป็น 2.0 ที่มีกำลังอัดสูงหน่อยคู่กับเกียร์ 6 Speed ถ้าใช้งานทั่วไปไม่ได้เจอรถติดมันสมูทดีครับ แต่ถ้าเจอรถติดจะมีกระตุกช่วงเกียร์ 1-2 บ้างเพราะลากรอบขึ้นลงบ่อย บางทีผมก็ตบ Peddle Shift เองให้รถขึ้นเกียร์ 2-3 ไป กำลังมันเหลือๆครับ ไม่ได้แรงที่สุด แต่ไม่อืดแน่ๆ ขับสนุกประมาณหนึ่งด้วยการที่มันลากเกียร์เองได้ แต่เครื่องแบบนี้แน่นอนครับอัตราสิ้นเปลืองในเมืองผมขับอยู่ชั้นในเลยได้ที่ 9-12 Km/lนอกเมืองผมเคยปั่นๆได้ 17-19Km/l แต่ขับช้านะครับไม่เกิน 80-90km/hr อันนี้พยายามไปเรื่อยๆ ออกตัวไม่กระชากแล้ว ส่วนช่วงล่างมันไม่ได้ดีสำหรับทุกคนทั่วไปครับ ด้วยความที่มาสด้าโดยปกติจะมีคาแรคเตอร์ช่วงล่างที่ต้องแน่นหนึบมันก็จะมีความแข็งอยู่โดยเฉพาะรุ่นซีดานอย่างมาสด้า 3 พอมาเป็น Crossover แบบกระเดี๊ยดมาทางรถนั่งมากขึ้น ก็ต้องให้ตัวมากขึ้นนุ่มขึ้น กลายเป็นมันนุ่มดีดๆ และเวลาผ่านลูกระนาดแรงๆ คือโช็คกระแทกดังปั้กกเลยครับ ผมเอาไปเปลี่ยนยางเป็น Primacy 4 ดีขึ้นแต่ไม่หายตึงตังถ้ามาเร็วๆ โยนตัวไม่มากแต่ภาพรวมคือนั่งไม่ได้สบายมากครับเทียบกับ CHR ผมอีกคันคือคนละโลก สรุปมันดีทางเรียบ และทางตรง ทางดาวอังคารอุกาบาทใน กทม ประเทศไทยคือสะเทือนถึงตับ
     ส่วนใน Civic แน่นอนครับผมยกให้มันเป็นเครื่องยนต์ Hybrid ที่มีเทคโนโลยีค่อนข้างดีและมี Efficiency ดีตัวหนึ่งที่วางขายในโลกตอนนี้เลยครับ การขับขี่ในเมือง 99% มันทำงานแบบ e-Power ครับ คือเครื่องยนต์ชาร์ทไปเขาแบตและจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ ในขณะที่เมื่อออกถนนที่ได้ความเร็วนิ่งๆ มันจะตัดชุดส่งกำลังจากเครื่องลงล้อด้วยอัตราทด Over drive พร้อมกับแรงที่เหลือก็ปั่นไฟเข้าเก็บในแบตอีกทำให้แทบไม่สูญเสียน้ำมันที่ติดขึ้นมาเลย ทำให้ความกำลังความแรง Honda นับที่ Motor Traction อย่างเดียวคือ 184 แรงม้า หมายความว่าจริงๆมันเหมือนเราขับรถ EV ที่มีคาแรคเตอร์คันเร่งแบบรถน้ำมันครับ ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลือง ในเมืองผมได้ 18-22 Km/l ส่วนนอกเมืองถ้าขับ 90-110 ผมทำได้ 24-27Km/l แบบไม่ต้องพยายามเลยครับ ส่วนช่วงล่างมันคือ Honda Next-Gen ครับ นุ่ม หนึบ เกาะดีกว่ารุ่นเก่าๆ เยอะมาก Body Roll ก็น้อยลง ความเร็วสูงแบบคนทั่วไปไม่เกิน 120-140 มันยังนิ่งได้แบบไม่น่ากลัวครับ ซับแรงสะเทือนดีคนนั่งสบายทุกจุด

       และเรื่องของปัญหาประจำรุ่น ทางฝั่ง Mazda ก็จะเป็นจุกจิกเช่น กระจกข้างไม่พับ กั้นชนหน้าปริแตกเอง แบตหมดง่ายโดยเฉพาะเมื่อไม่ล็อครถ และโช้คหลังรั่ว ปั้มแรงดันสูง สุดท้ายคือผมเจอเองคือน้ำมันเครื่องหาย ก็เริ่มมีให้เห็นกันในกลุ่มครับ,  ส่วนทางฝั่ง Honda ก็จะเป็นเรื่องของ แร๊คพวงมาลัยเจ้าเก่าเจ้าเดิมลากมาตั้งแต่ Civic FC จนตอนนี้เห็นว่าลามไป CR-V , HR-V Accord ตัวล่าสุดก็มา ผมเองก็หวังว่าจะมีพาร์ทแก้กันสักทีเพราะเป็นทั้งโลกเลย เพราะทาง US ก็เริ่มกดดันให้ Honda แก้ปัญหาเรื่องนี้

   ยังไงลองพิจารณาดูความระหว่างความชอบ กับ เหตุผล ส่วนตัวผมถึงแม้จะใช้ทั้งสององค์ประกอบนี้มาตัดสิน ก็ยังไม่เสียใจที่เลือกทั้งคู่มาใช้ครับ แต่สุดท้ายเรื่องค่าใช้จ่ายต่อเดือน รวมถึงศูนย์บริการที่ทาง Mazda ทยอยปิดตัวลง ผมเลยตัดสินใจปล่อยไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 13, 2023, 17:15:20 โดย Naeky »

ออฟไลน์ eaklego

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 169
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2023, 16:51:28 »
อ่านพี่ข้างบนจบสรุปต่อเองได้เลย ชัดเจนจากผู้ใช้จริง

ออฟไลน์ TABO9

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 334
    • อีเมล์
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ธันวาคม 13, 2023, 22:04:46 »
2 รุ่นนี้เข้าไปลองนั่ง ลองขับ จะได้คำตอบแน่นอน มีความต่างเยอะ

ส่วนตัว ดูแล้ว CX-30 สวยกว่า ทั้งภายใน ภายนอก

จากที่ได้ใช้ cX-30 ข้อดี 
1. กล้อง 360 เวลาถอยจอดง่ายดีและชัดมาก 
2. เครื่องเสียงดี ภายในเงียบ  เก็บเสียงดี
3. เบาะกระชับ ปรับได้เยอะ

ส่วนปัญหา ใช้มา 3 ปี เจอแค่กันชนปริ ไม่ซีเรียส ครบ 3 ปี เครมเปลี่ยนเรียบร้อย

ผมไม่ชอบรถเตี้ย ยังไงก็ไป CX-30 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 13, 2023, 22:06:24 โดย TABO9 »

ออฟไลน์ Majorchanges

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2023, 21:47:59 »
ถึงกับต้อง Login เข้ามาตอบเลย ผมเป็นผู้ใช้งานที่ขาย CX-30 มาซื้อ Civic eHEV เมื่อปีที่แล้วถ้าให้เปรียบเทียบกับระหว่าง 2 รุ่นนี้

1.เรื่องของวัสดุที่นำมาตกแต่งและงานประกอบ ใน CX-30 จะมีการใช้ Piano Black หลายส่วนและมีหลายจุดเป็นรอยง่ายเช่นหน้าปัทม์ ทำให้เราต้องติดกันรอยตั้งแต่ออก ภาพรวมไปทางหรูด้วยวัสดุที่นำมาใช้งาน ส่วนงานประกอบจริงๆแล้ว ส่วนตัวผมคิดว่ามันไม่ได้ต่างกับญี่ปุ่นตัวอื่นๆขนาดนั้น สุดท้ายมันก็มีเสียงก็อกๆ แก๊กๆ ที่แผลกระตู จอกลาง และในคอนโซลหน้า ผมก็มารื้อหาเองเพราะศูนย์แก้ให้ไม่ได้ ส่วนที่เด่นแน่ๆ คือการเก็บเสียงครับ มันประเสริฐมากๆ อันนี้คือเรื่องเดียวที่ผมยังรักน้องเสียงจากพื้นเงียบมาก เสียงจากส่วนบนก็เงียบต้องเกิน 130 ขึ้นไปถึงจะเริ่มได้ยินเสียงลม ส่วนใน Civic ก็ตามสไตล์ Honda ครับ มันไม่ได้แย่นะครับ แต่แค่ไม่ได้ออกหรู มันออกแนววัสดุที่ดูเป็นรอยได้ยากกว่า แต่ก็เช่นกันทำให้ดูไม่ได้หรูเท่า เหมือนใช้งานทุกๆ วันได้ดีไม่ต้องคิดไรมาก หรือถนอมมันมาก ไม่ต้องค่อยระวังเป็นรอยอะไรมาก ส่วนเรื่องเก็บเสียงคือตามสไตล์ Honda เลยครับ ในตัว eHEV ได้ ANC มาทำให้ภาพรวมมันไม่ได้ดังมาก ยังมีความเงียบอยู่ไม่ถึงกับรำคาญเสียงข้างๆรอบรถ แต่จากพื้นเนี่ยดังจริงๆ ไม่เข้าใจ Honda ว่าทำไมที่บอกว่าพ่อกันเสียงแล้วแต่ก็ยังดัง จริงๆรถ Honda ก็มีวัสดุที่เป็นเหมือนกำมะหยี่ลดเสียงที่พื้นทั้งคันเลยนะครับ รวมถึงซุ้มล้อหลังด้วย แต่ก็ยังถึงว่าดังกว่าที่ควรจะเป็น

2.เรื่องของพื้นที่ห้องโดยสาร แถวหน้าไม่ได้แคบ แต่ก็ไม่ได้กว้างมากความสูงเบาะนั้นต่ำสุดยังสูงสบายๆ แต่อาจไม่ได้สูงเท่าพวก Crossover รุ่นอื่น เพราะตัวหลังคามันลาดต่ำกว่า แต่ส่วนของเบาะแถวหลังนั้นนั่งค่อนข้างชัน และแอบเมื่อยเวลานั่งนานๆ ที่วางขาพอดีไม่ได้แคบแต่ก็ไม่ได้กว้างแน่ๆ และที่สำคัญแอร์มันไม่ค่อยเย็นครับ ถ้าจะให้เย็นลมก็จะเสียงดังมากยกเว้นจะยกเลิก Auto ปรับเอง ส่วนใน Civic แน่นอนครับมันกว้างกว่าในทุกมิติที่พักขากว้างกว่าเยอะ แต่ด้วยทรงรถซีดาน และ Honda ก็ยังต้องการให้ Head Room เหลือ เบาะนั่งมันเลยต่ำมาก อันนี้ต้องพิจารณาไปลองนั่งส่วนตัวผมชอบนั่งขับรถแบบนอนขับ555 เลยไม่มีปัญหา ส่วนฝั่งคนนั่งผมเลยไปเสริมความสูงที่เขาทำกันในคลับครับ ส่วนเรื่องแอร์ด้วยความที่มันเป็นรถ Hybrid ทำให้คอมแอร์เป็นไฟฟ้า เย็นเร็วและต่อเนื่องกว่าและเสียงลมแอร์เบากว่ากันเยอะเลย

3.เรื่องเทคโนโลยีความปลอดภัย แน่นอนว่ามาสด้าจัดเต็มทุกอย่าง MRCC, Parking Sensor, BSM, RTCA และกล้อง AVM ยกเว้นที่ MRCC ในไทยคือโดนกั้ก Stop and Go ซึ่งก็มีคนปลดได้แล้วในคลับ แต่ก็ยังไม่เนียนเท่าจากที่ผมเคยใช้ของทั้ง CX-5 และ CX-30 รวมถึงการใช้ Radar ทำให้ไม่สามารถจับรถแทรกเข้ามา ในขณะที่ Honda จอมกั้ก มาพร้อม LaneWatch และ Honda Sensing เรื่องนี้ผมขอแยกเป็นแต่ละประเด็น
        ส่วนแรก Adaptive Cruise Controls ส่วนตัวผมรู้สึกว่า Honda พัฒนาเทคโนโลยี Image Processing มาได้โหดมาก ถึงจะโดนว่าลดต้นทุน แต่ในมุมมองด้านเทคโนโลยี การทำให้กล้องจับระยะลึกตื้นได้จะต้องมี Dynamic Calibration Distance ที่เก่งพอตัว ซึ่งเขาทำได้จริงๆ รเพราะทุกอย่างทำงานด้วยกล้องมุมกว้างเพียงตัวเดียว แต่สามารถตรวจจับและควบคุมพวงมาลัยได้เนียน สมูทกว่าหลายๆ ยี้ห้อที่ผมใช้เช่น CX-30, CX-5, C-HR, Good cat , Yaris Ativ และอีกอย่างเลยที่ผมชอบคือการจับรถที่จะแทรกเข้ามา หรือแม้กระทั่งการเปิดไฟเลี้ยวขณะที่ใช้ ACC อยู่ รถมันจะไปจับรถเลนฝั่งที่เราเปิดไปเลี้ยวพร้อมเร่งเครื่องออกไปทำให้ไม่เสียจังหว่ะ อันนี้ส่วนตัวคิดว่าเป็นประโยชน์ของเลนส์มุมกว้างเลยครับ แต่แน่นอนด้วยการที่ถูดลดต้นทุนเอาเรดาร์ออก (Accord มี) มันก็อาจจะไม่สามารถทำงานได้เมื่อมีอะไรมาปิดบังกล้อง (จากการใช้จริงยังไม่เคยเจออาการเพี้ยน ยกเว้นฝนตกแบบเราเองยังขับรถไปต่อแทบไม่ได้อยู่ 1 ครั้ง และพบว่ารถที่มีเรดาร์ส่วนใหญ่ก็จะหยุดทำงานเหมือนกันครับ)
     ส่วน BSM อันนี้ผมมองเป็น 2 ส่วนครับคือแน่นอนมียังไงก็ย่อมดีกว่าไม่มี แต่ด้วยความที่ผมขับรถและมองกระจกตลอด พอใช้รถที่มี BSM ไปนานๆ จนชินในเมืองที่รถมอเตอร์ไซค์คับคั่ง ผมกลับเพิกเฉยต่อสัญญาเตือน เพราะมันเตือนแทบจะตลอดเวลา ส่วนกล้องส่องผี หรือ Lanewatch ที่เขาว่ากัน ผมกลับชอบตรงที่ว่ามันทำให้เรามองเห็นได้จริงๆว่ามีอะไรอยู่ แน่นอนภาพมันห่วยครับ555 แต่มันยังไม่เท่าใน City/HR-V ก็เลยคิดว่ามันยังพอใช้งานได้ ติดที่แค่มันมาข้างเดียว ส่วนเรื่องที่คนบอกรำคาญมันขึ้นจอเวลาดูแผนที่ผมกดปิดเองที่หัวก้านไฟเลี้ยวครับ และอีกอย่างคือกล้องรอบคันไม่มี เซนเซอร์รอบคันไม่มี ผมเห็นด้วยที่จะโดนด่าแต่ก็ยังซื้อ เพราะผมเองขับรถมาหลายปีแล้วชินกับการกะระยะได้เอง เลยไม่ได้ติดเพิ่มครับ

4.เรื่องการขับขี่เครื่องยนต์ และอัตราสิ้นเปลือง ต่างกันแน่นอนครับเพราะ CX-30 ยังเป็น NA ไม่มีเทอร์โบ เป็น 2.0 ที่มีกำลังอัดสูงหน่อยคู่กับเกียร์ 6 Speed ถ้าใช้งานทั่วไปไม่ได้เจอรถติดมันสมูทดีครับ แต่ถ้าเจอรถติดจะมีกระตุกช่วงเกียร์ 1-2 บ้างเพราะลากรอบขึ้นลงบ่อย บางทีผมก็ตบ Peddle Shift เองให้รถขึ้นเกียร์ 2-3 ไป กำลังมันเหลือๆครับ ไม่ได้แรงที่สุด แต่ไม่อืดแน่ๆ ขับสนุกประมาณหนึ่งด้วยการที่มันลากเกียร์เองได้ แต่เครื่องแบบนี้แน่นอนครับอัตราสิ้นเปลืองในเมืองผมขับอยู่ชั้นในเลยได้ที่ 9-12 Km/lนอกเมืองผมเคยปั่นๆได้ 17-19Km/l แต่ขับช้านะครับไม่เกิน 80-90km/hr อันนี้พยายามไปเรื่อยๆ ออกตัวไม่กระชากแล้ว ส่วนช่วงล่างมันไม่ได้ดีสำหรับทุกคนทั่วไปครับ ด้วยความที่มาสด้าโดยปกติจะมีคาแรคเตอร์ช่วงล่างที่ต้องแน่นหนึบมันก็จะมีความแข็งอยู่โดยเฉพาะรุ่นซีดานอย่างมาสด้า 3 พอมาเป็น Crossover แบบกระเดี๊ยดมาทางรถนั่งมากขึ้น ก็ต้องให้ตัวมากขึ้นนุ่มขึ้น กลายเป็นมันนุ่มดีดๆ และเวลาผ่านลูกระนาดแรงๆ คือโช็คกระแทกดังปั้กกเลยครับ ผมเอาไปเปลี่ยนยางเป็น Primacy 4 ดีขึ้นแต่ไม่หายตึงตังถ้ามาเร็วๆ โยนตัวไม่มากแต่ภาพรวมคือนั่งไม่ได้สบายมากครับเทียบกับ CHR ผมอีกคันคือคนละโลก สรุปมันดีทางเรียบ และทางตรง ทางดาวอังคารอุกาบาทใน กทม ประเทศไทยคือสะเทือนถึงตับ
     ส่วนใน Civic แน่นอนครับผมยกให้มันเป็นเครื่องยนต์ Hybrid ที่มีเทคโนโลยีค่อนข้างดีและมี Efficiency ดีตัวหนึ่งที่วางขายในโลกตอนนี้เลยครับ การขับขี่ในเมือง 99% มันทำงานแบบ e-Power ครับ คือเครื่องยนต์ชาร์ทไปเขาแบตและจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ ในขณะที่เมื่อออกถนนที่ได้ความเร็วนิ่งๆ มันจะตัดชุดส่งกำลังจากเครื่องลงล้อด้วยอัตราทด Over drive พร้อมกับแรงที่เหลือก็ปั่นไฟเข้าเก็บในแบตอีกทำให้แทบไม่สูญเสียน้ำมันที่ติดขึ้นมาเลย ทำให้ความกำลังความแรง Honda นับที่ Motor Traction อย่างเดียวคือ 184 แรงม้า หมายความว่าจริงๆมันเหมือนเราขับรถ EV ที่มีคาแรคเตอร์คันเร่งแบบรถน้ำมันครับ ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลือง ในเมืองผมได้ 18-22 Km/l ส่วนนอกเมืองถ้าขับ 90-110 ผมทำได้ 24-27Km/l แบบไม่ต้องพยายามเลยครับ ส่วนช่วงล่างมันคือ Honda Next-Gen ครับ นุ่ม หนึบ เกาะดีกว่ารุ่นเก่าๆ เยอะมาก Body Roll ก็น้อยลง ความเร็วสูงแบบคนทั่วไปไม่เกิน 120-140 มันยังนิ่งได้แบบไม่น่ากลัวครับ ซับแรงสะเทือนดีคนนั่งสบายทุกจุด

       และเรื่องของปัญหาประจำรุ่น ทางฝั่ง Mazda ก็จะเป็นจุกจิกเช่น กระจกข้างไม่พับ กั้นชนหน้าปริแตกเอง แบตหมดง่ายโดยเฉพาะเมื่อไม่ล็อครถ และโช้คหลังรั่ว ปั้มแรงดันสูง สุดท้ายคือผมเจอเองคือน้ำมันเครื่องหาย ก็เริ่มมีให้เห็นกันในกลุ่มครับ,  ส่วนทางฝั่ง Honda ก็จะเป็นเรื่องของ แร๊คพวงมาลัยเจ้าเก่าเจ้าเดิมลากมาตั้งแต่ Civic FC จนตอนนี้เห็นว่าลามไป CR-V , HR-V Accord ตัวล่าสุดก็มา ผมเองก็หวังว่าจะมีพาร์ทแก้กันสักทีเพราะเป็นทั้งโลกเลย เพราะทาง US ก็เริ่มกดดันให้ Honda แก้ปัญหาเรื่องนี้

   ยังไงลองพิจารณาดูความระหว่างความชอบ กับ เหตุผล ส่วนตัวผมถึงแม้จะใช้ทั้งสององค์ประกอบนี้มาตัดสิน ก็ยังไม่เสียใจที่เลือกทั้งคู่มาใช้ครับ แต่สุดท้ายเรื่องค่าใช้จ่ายต่อเดือน รวมถึงศูนย์บริการที่ทาง Mazda ทยอยปิดตัวลง ผมเลยตัดสินใจปล่อยไป

ขอบคุณมากค่ะ เคยเช่า Mazda 2 (1 เดือน) แล้วเจอแบตหมดค่ะ ในส่วนของแบตหมดง่ายโดยเฉพาะเมื่อไม่ล็อครถ Mazda เจอง่ายกว่ายี่ห้ออื่นมั้ยคะ

สำหรับภาพลักษณ์ คิดว่า 2 รุ่นนี้ (ตัวท็อป สีดำ) รุ่นไหนเหมาะกับวัยรุ่นมากกว่ากันคะ และราคาขายต่อต่างกันมากมั้ยคะ อาจใช้ประมาณ 5 ปีแล้วขายต่อค่ะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Dante Haversham

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 136
    • อีเมล์
Re: ระหว่าง Honda Civic hybrid และ Mazda CX30
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ธันวาคม 15, 2023, 13:37:40 »


ขอบคุณมากค่ะ เคยเช่า Mazda 2 (1 เดือน) แล้วเจอแบตหมดค่ะ ในส่วนของแบตหมดง่ายโดยเฉพาะเมื่อไม่ล็อครถ Mazda เจอง่ายกว่ายี่ห้ออื่นมั้ยคะ

สำหรับภาพลักษณ์ คิดว่า 2 รุ่นนี้ (ตัวท็อป สีดำ) รุ่นไหนเหมาะกับวัยรุ่นมากกว่ากันคะ และราคาขายต่อต่างกันมากมั้ยคะ อาจใช้ประมาณ 5 ปีแล้วขายต่อค่ะ ขอบคุณค่ะ

เท่าดูจากกลุ่มเฟซบุ๊ค Mazda มีปัญหานี้มากกว่าครับ แต่รถรุ่นใหม่ๆ แทบทุกค่ายแบตอายุสั้นกันแทบทั้งหมดเลยครับ ปีเดียวก็ต้องเปลี่ยนแล้ว

ส่วนภาพลักษณ์ แล้วแต่ชอบครับ ผมว่าวัยรุ่นทั้งคู่ แต่ผมให้ Civic นำหน่อยๆ

Mazda ราคาตกมากกว่าค่อนข้างแน่นอน โดยเฉพาะตอนนี้แบรนด์ดูน่าเป็นห่วงเรื่องไม่มีรถใหม่มาขายกับศูนย์ทยอยปิด
Civic ด้วยความที่เป็น Hybrid ก็น่าจะราคาตกกว่าตัว Turbo หน่อยนึง แต่น่าจะไม่ตกเท่า Mazda ครับ