ขอตอบแบบความเห็นส่วนตัวนะครับ
Harrier 240 เคยขับของเพื่อนไม่กี่ครั้งแล้วก็เป็นตัวที่ไม่มีออฟชั่นอะไรเลย
มีแค่ฝาท้ายไฟฟ้ามาให้ ขับเส้นมอเตอร์เวย์ กรุงเทพไปพัทยา เครื่องก็อืดหน่อย ต้องใช้รอบสูงตลอด ทำให้บริโภคน้ำมันพอสมควร
ช่วงล่างตัวที่ขับ ปรับได้ 3 หรือ 4 ระดับไม่แน่ใจก็ค่อนข้างดี ออกแนวนิ่มนวล
ภายในเหมือนที่คุณจิมมี่บอกมันดูงง แล้วก็ไม่ค่อยแพรวพราวเลย
แต่รุ่นนี้คนใช้เยอะราคาดี มือสองปีใหม่ๆกับมือหนึ่งออกตามพวกเกรย์ราคาไม่ค่อยต่างกันมาก
เนื่องด้วยคนนิยมใช้มองไปทางไหนเจอขับกันเกลื่อนโดยเฉพาะย่านธุรกิจ
ส่วนตัว Murano 2.5 พอดีคุณพ่อเคยใช้อยู่จึงมีโอกาสขับบ่อยกว่า
ออฟชั่นตัวที่ใช้อยู่มีกล้องข้าง กล้องหลังซึ่งสะดวกดี ส่วนพวก ออฟชั่นอื่นๆเ ช่นเ นวิเ กเ ตอร์ตามสไตล์รถนำเข้าใช้การอะไรไม่ได้เลย เรียกได้ว่าจะใส่มาทำไม
แต่ภายในนั้นเหมือนกับยกตัว 350 Z มาใส่ในรถ SUV ดูสปอร์ตเหมือนที่คุณจิมมี่บอกครับ
การขับขี่ก็คงต้องใช้รอบสูงเช่นกันแบกน้ำหนักพอสมควร ดันใส่เครื่องตัวเดียวกับ xtrail มาให้ การบริโภคน้ำมันบอกได้เลยครับว่าอยู่ในขั้นรับไม่ได้
กล่าวคือ เมื่อกดดูในจอข้อมูลหากใช้ความเร็วต่ำในเมือง แต่การที่ต้องหยุดรถแล้วออกตัวบ่อยๆ ยังไงก็ 8.5 - 9.0 กม / 1 ลิตร หรืออาจจะกินกว่นั้น
เมื่อต้องเดินทางไกลถ้าเราขับ 80 - 100 กม/ชั่วโมง โดยรักษาความเร็วคงที่ ในจอทำได้ 11.5 - 13.0 กม. / 1 ลิตร
ซึ่งในความเป็นจริงเราต้องเร่งแซงและอาจใช้ความเร็วมากกว่านั้นใช้งานจริงก็ ไม่ตำ่กว่า 10 กม. / 1 ลิตรแน่นอน
ช่วงล่างและความรู้สึกเหมือนเอา TEANA J31 มายกสูงครับ การเกาะถนนดีในความรู้สึกส่วนตัว ออกแนวสปอร์ตหน่อยครับไม่ค่อยนุ่ม
แต่ที่พูดว่าความรู้สึกเหมือน TEANA J31 อยากให้คนที่ใช้ TEANA มาลองนั่ง MURANO แล้วปิดตารับรองครับว่า feel เดียวกัน
สรุปว่า ถ้าเน้นครอบครัว กลัวราคาขายต่อก็ Harrier ครับ ไม่ชอบเหมือนใครขับรับสาวก็ MURANO ครับ
แต่ไม่ลองมอง Mazda CX7 เป็นตัวเลือกอีกซักคันเหรอครับ ใหม่ สด กว่า นะผมว่า