« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มกราคม 24, 2025, 16:29:33 »
altis รุ่นแบตลิเธี่ยมอัตราเร่งดีขึ้นแบบ cross ไหมครับ ไม่เห็นผลทดสอบเลย
ยังไม่เห็นตัวเลขแบบชัดๆเหมือนกันครับ แต่ประหยัดขึ้นกว่าแบตเดิมครับ
ถ้าคันเก่าใข้ Hybrid แสดงว่าน่าจะมีเรื่องความประหยัดเข้ามาคำนึงด้วยรึป่าวครับ
ถ้าใช่ แนะนำไป Altis Hybrid เลยดีกว่าครับ ยังไงเรื่องค่าน้ำมันก็ประหยัดกว่าแน่ๆ ถึงจะขับทางไกลก็ตาม
แต่ถ้าไม่อยากได้ Hybrid และรับได้กับค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ก็ไป Mazda3 ครับ
ถึง Altis โฉมนี้จะทำช่วงล่างมาดีกว่าตัวก่อนและขับดีกว่าเดิมมาก แต่ยังไม่ใช่รถที่ขับสนุกครับ พวงมาลัยจะออกเบาๆ ไม่ได้คมอะไรเลย ซึ่งถ้าบอกอยากได้รถที่ขับสนุกหน่อยก็ไป Mazda ครับ
แต่ Mazda3 จากประสบการณ์ ถ้าเจอรถติดหนักๆ ขับในเมือง ค่อนข้างกินน้ำมันนะครับ ได้ไม่ถึง 10km/l แน่ๆ และถ้าสาหัสจริงๆอาจจะอยู่ประมาณ 5-7 km/l เลย
ถ้าวิ่งทางไกลแล้วขับแบบปกติ จะอยู่ 14-16 km/l ซึ่ง Altis Hybrid ก็น่าจะประหยัดกว่าอยู่ดี
ส่วนตัวผมวิ่งชานเมืองประจำ และขับแบบซัดโหดๆเป็นบางข่วง ได้อยู่ประมาณ 11-13 km/l ซึ่งเอาจริงๆอัตราสิ้นเปลืองดีกว่า Altis 1.6 โฉมที่แล้วซะอีกครับ (คันนั้นอัตราสิ้นเปลืองได้ 10กลาง-11ต้น)
ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ เรื่องค่าประกัน Mazda3 ประมาณปีละ 18000-20000 บาท ส่วน Altis ผมจำไม่ได้แล้ว
ค่า maintenance ตามระยะทางไม่ได้ห่างกันมาก
ถ้าเช็คระยะรอบเล็ก เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง รวมรอบนึง Mazda3 ประมาณ 27xx (นมค สังเคราะห์แท้) Altis ประมาณ 23xx (นมค กึ่งสังเคราะห์) แต่ถ้า Altis อยากใส่ นมค สังเคราะห์แท้ ต้องจ่าย 3000+ ครับ
ส่วนถ้าเช็คระยะรอบใหญ่ มี 4-7พัน ทั้งคู่ แล้วแต่รอบครับ
เรื่องปัญหาที่เจอและความทนทาน
Mazda ใช้มา 6 ปี ผมเจอเรื่องกระจกข้างพับ-กางไม่สุด ซึ่งเป็นทั้ง 2 ข้าง กับเบ้าโช๊คหน้ามีเสียงดังกุกๆ โชคดีที่อยู่ใน warranty เลยเคลมได้
Altis ตอนอายุไม่เกิน 4 ปี เจอพวงมาลัยลอก ยางขอบประตูเสื่อมสภาพเสียงดังกรอบแกรบ เสียงเอียดอาดในห้องโดยสารตอนเจอพื้นไม่เรียบ (แก้ไม่จบ) ไดชาร์จพัง รวมๆเป็นเรื่องวัสดุไม่ทนมากกว่า
ประมาณนี้ครับ
อัตราสิ้นเปลืองต้องยอม hybrid ครับ ผมขับเดินทางแบบไม่เกิน 120 ได้ประมาณ 19-20 km/l ครับ แต่ถ้าวันไหนขับแบบรีบๆ ก็อยู่ที่ประมาณ 16-18 km/l
เรื่อง maintenance ถ้าไม่จุกจิกบ่อย แบบดับกลางทาง , แบตหมดเร็ว , หัวฉีดเสีย อันนี้พอรับได้ครับ
Mazda 3 เคยใช้สั้นๆ เป็นรถที่ผมชอบมากครับ 2.0 na + 6at ช่วงล่างดี พวงมาลัยกระชับ ขับสนุก เดินทางไกลยาวๆ16-18km/l ภายในดูดี ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมมากกว่าค่ายอื่น
ข้อเสียคือ ใช้งานทุกวันไม่ได้สบายครับ ภายในแคบ อึดอัด ช่วงล่าง/ยางขอบ 18 บางครั้งรู้สึกว่ามันตึงตังเกินไป แตกไปสองเส้นแล้วครับต้องระวังหน่อย
ถ้าเป็นคันที่ 2 ผมว่า mazda น่าสนใจครับ
แต่ถ้าคันเดียว ผมอาจเลือก altis ครับ ใช้ยาวทุกวัน ไปทุกที่ ผมว่า altis ลงตัวกว่าครับ
ที่ดู Mazda เป็นตัวเลือกเพราะชอบฟีลลิ่งเกียร์ torque converter เดิมๆ ครับ หลังจากที่ไม่ได้สัมผัสมานาน

พอดีช่วงปีใหม่ ได้ขับรถเกียร์ 8AT ครับ ลากรอบสนุกดี
ถ้าคันเก่าใข้ Hybrid แสดงว่าน่าจะมีเรื่องความประหยัดเข้ามาคำนึงด้วยรึป่าวครับ
ถ้าใช่ แนะนำไป Altis Hybrid เลยดีกว่าครับ ยังไงเรื่องค่าน้ำมันก็ประหยัดกว่าแน่ๆ ถึงจะขับทางไกลก็ตาม
แต่ถ้าไม่อยากได้ Hybrid และรับได้กับค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ก็ไป Mazda3 ครับ
ถึง Altis โฉมนี้จะทำช่วงล่างมาดีกว่าตัวก่อนและขับดีกว่าเดิมมาก แต่ยังไม่ใช่รถที่ขับสนุกครับ พวงมาลัยจะออกเบาๆ ไม่ได้คมอะไรเลย ซึ่งถ้าบอกอยากได้รถที่ขับสนุกหน่อยก็ไป Mazda ครับ
แต่ Mazda3 จากประสบการณ์ ถ้าเจอรถติดหนักๆ ขับในเมือง ค่อนข้างกินน้ำมันนะครับ ได้ไม่ถึง 10km/l แน่ๆ และถ้าสาหัสจริงๆอาจจะอยู่ประมาณ 5-7 km/l เลย
ถ้าวิ่งทางไกลแล้วขับแบบปกติ จะอยู่ 14-16 km/l ซึ่ง Altis Hybrid ก็น่าจะประหยัดกว่าอยู่ดี
ส่วนตัวผมวิ่งชานเมืองประจำ และขับแบบซัดโหดๆเป็นบางข่วง ได้อยู่ประมาณ 11-13 km/l ซึ่งเอาจริงๆอัตราสิ้นเปลืองดีกว่า Altis 1.6 โฉมที่แล้วซะอีกครับ (คันนั้นอัตราสิ้นเปลืองได้ 10กลาง-11ต้น)
ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ เรื่องค่าประกัน Mazda3 ประมาณปีละ 18000-20000 บาท ส่วน Altis ผมจำไม่ได้แล้ว
ค่า maintenance ตามระยะทางไม่ได้ห่างกันมาก
ถ้าเช็คระยะรอบเล็ก เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง รวมรอบนึง Mazda3 ประมาณ 27xx (นมค สังเคราะห์แท้) Altis ประมาณ 23xx (นมค กึ่งสังเคราะห์) แต่ถ้า Altis อยากใส่ นมค สังเคราะห์แท้ ต้องจ่าย 3000+ ครับ
ส่วนถ้าเช็คระยะรอบใหญ่ มี 4-7พัน ทั้งคู่ แล้วแต่รอบครับ
เรื่องปัญหาที่เจอและความทนทาน
Mazda ใช้มา 6 ปี ผมเจอเรื่องกระจกข้างพับ-กางไม่สุด ซึ่งเป็นทั้ง 2 ข้าง กับเบ้าโช๊คหน้ามีเสียงดังกุกๆ โชคดีที่อยู่ใน warranty เลยเคลมได้
Altis ตอนอายุไม่เกิน 4 ปี เจอพวงมาลัยลอก ยางขอบประตูเสื่อมสภาพเสียงดังกรอบแกรบ เสียงเอียดอาดในห้องโดยสารตอนเจอพื้นไม่เรียบ (แก้ไม่จบ) ไดชาร์จพัง รวมๆเป็นเรื่องวัสดุไม่ทนมากกว่า
ประมาณนี้ครับ
+1 ตามความเห็นนี้เลยครับ ผมใช้ mazda 3 ตัวที่แล้วอยู่ เครื่องเดียวกันนี่แหละ เอามาขับในเมืองแล้วท้อใจ 7 โลลิตร นอกเมือง 12-14 โลลิตร
เป็นรถที่ขับสนุกครับหน้าไว อัตราเร่งเป็นธรรมชาติเพราะเกียร์มันเซ็ตมาถูกใจสุดๆ แต่ ณ วันที่ซื้อกับวันนี้การขับรถผมเปลี่ยนไปมาก 10 ปีแล้วตอนนี้เลยอยากได้รถที่ขับสบายๆ แน่นๆ ไม่ซิ่งหน้าไม่ไว ก็เลยยกคันนี้ให้น้องไปแล้ว ปัญหาช่วงล่างดังกุ๊กๆ เจอมาแล้วแก้แล้วก็หายครับ น่าจะเจอกันเยอะ
ใช้งานในเมืองกินดุจริงๆนะครับ ดูจากหลายๆท่านคอมเม้นไว้