ผู้เขียน หัวข้อ: เข้าใจแล้วว่าแคมรี่2.0บ้าพลังมันเป็นยังไงCamry 3.5 VS Camry2.0(บ้าพลัง)  (อ่าน 13197 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nioka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,038
วิธีเล่นดีๆนั้นถ้าจะให้อธิบายเป็นรูปธรรมค่อนข้างยาก แต่โดยทั่วไปแล้วขาซิ่งทั้งหลายมักจะจับสารที่อีกคันต้องการสื่อได้ง่ายๆ มันมักจะมีอาการแสดงบ่งบอกออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่นเราแล่นเร็วๆมาแล้วคันอื่นอยากจะเล่นด้วยก็ใช้วิธีกระพริบไฟจากข้างหลังเราสักสองทีในระยะที่ห่างๆแล้วไปตีคู่ข้างๆบีบแตรเบาๆสักสองที ซึ่งก็น่าจะเป็นที่เข้าใจกันแล้วว่า "มาเล่นกันเหอะนายยยย" หรือที่ผมเคยเจอมาก็คือค่อนข้างจะรีบแล้วมีรถคันนึงไต่ความเร็วมาเรื่อยๆแล้วก็แซงข้างหน้าแบบไม่หวาดเสียวและเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 ช่วงคันรถแล้วปิดเปิดระบบไฟหนึ่งครั้ง(ตอนกลางคืนถ้าปิดไฟหน้าไฟหลังก็จะดับไปด้วย) ซึ่งก็แปลได้อีกล่ะว่า "มามันส์กันไหมพวก" แต่ผมไม่ได้แข่งอะไรกับเค้าก็เปิดไฟเลี้ยวเลี่ยงไปและชลอตัวลงซึ่งเค้าก็ไม่ตอแยผ่านไปตามทางแต่โดยดี ถ้าจะพูดให้สั้นๆก็คล้ายๆกับเราไปสนามซ้อมมวยชกกระสอบทรายไปเรื่อยๆ การตอบโต้ระหว่างการเชิญชวนจากคนแปลกหน้าจะไม่เหือนกัน 1. นายดูเชี่ยวชาญจังมาซ้อมกับผมได้ไหม? กับ 2. เก๋าเหรอวะมาต่อยกับกรูป่าว? แน่นอนว่าแบบที่สองถ้ามีโอกาสก็อยากจะซัดให้ลงไปกองเลือดอาบหน้าเพราะไม่ได้เข้าหาเราแบบดีๆเลย


ผมเคยอ่านมาจากประสบการณ์ของคนที่ชอบอะไรตื่นเต้นเค้าก็จะเล่นกันบนถนนบ่อยๆตามทางโล่งๆต่างจังหวัด ชักชวนกันดีๆ เล่นกันพอใจแล้วก็เปิดกระจกบ๋ายบายหรือเจอกันที่ปั๊มก็ขอดูในเครื่องเลยพี่ใส่อะไรมาทำไมแรงจัง พูดคุยถูกปากถูกคอกันไป ไม่ใช่ปาดกันไปปาดกันเอาปืนยิงขู่กัน ผมเดาเอานะว่าส่วนใหญ๋ของอุบัติเหตุที่เกิดจากการเล่นกันแล้วพลาดมันเกิดมาจากมีโมโหกันนี่แหละ พอเลือดขึ้นหน้าแล้วมันยอมกันไม่ได้ใจมันแรงเกินกว่าที่รถจะเอาไหว สุดท้ายก็พลาดลงไปกองข้างทางหรือฟาดตอหม้อเสาไฟฟ้า หรือถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังไม่พลาดก็จะเริ่มอารมณ์พลุ่งพล่านหนักข้อกันรื่อยๆปาดกันไปปาดกันมา เหยียบเบรคใส่ หรือแม้กระทั่งวาดมิดกันถึงตาย แนวคิดแบบไม่ยอมคนอื่นหรือเข้าไปหาเรื่องท้าแข่งนี่เป็นที่แพร่หลายกันมากนะครับในสมัยนี้ เพราะยี่ห้อรถและรุ่นที่มันแพร่หลายมากขึ้นทำให้แบ่งพรรคแบ่งพวกกันเป็นยี่ห้อเป็นรุ่นมาเขม่นกัน อย่างต้นตอของกระทุ้นี้ก็คล้ายๆกันที่แคมรี่รี่เหมือนรุ่นเดียวกันแท้ๆแล้วจะแข่งกันให้ได้อะไรขึ้นมา? ตัวเลขอายุของคนทีมีรถขับมันลดลงเรื่อยๆแต่วุฒิภาวะในการควบคุมตัวเองกลับไม่ได้สูงขึ้นกลับต่ำลงสวนทางกัน ซึงผมก็ไม่เข้าใจว่าตกลงแล้วคนพวกนี้แต่งรถเพื่อความรื่นรมย์ในการขับขี่หรือเอาไว้เปิดทางหาเรื่องให้ตัวเองไปอยู่ในคุกกันแน่ มันดูโง่มากที่โตมาร่ำเรียนมาตั้งหลายปีแต่คึกเกินเหตุจนต้องมีคดีติดตัวเพียงแค่เพราะแข่งรถบนถนนแล้วคุมตัวเองไม่อยู่


ป.ล. การซื่งบนถนนหลวงถือเป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่นไม่สมควรทำนะจ้ะ   :)

ผมเคยเจอแถวหน้าออฟฟิศเก่า แข่งกันมา ตั้งแต่ไฟแดง เหมือนกับว่าหน้าออฟฟิศผมเป็นเส้นชัย

สุดท้าย ได้ผู้ชนะ เค้าก็เปิด กระจกมาพร้อมยกมือ ขอบคุณด้วยนิวกลาง - -"

ต่อไปจะเป็นอย่างไรผมไม่ทราบเพราะ มันเลยหน้าออฟฟิศผมไป

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
วิธีเล่นดีๆนั้นถ้าจะให้อธิบายเป็นรูปธรรมค่อนข้างยาก แต่โดยทั่วไปแล้วขาซิ่งทั้งหลายมักจะจับสารที่อีกคันต้องการสื่อได้ง่ายๆ มันมักจะมีอาการแสดงบ่งบอกออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่นเราแล่นเร็วๆมาแล้วคันอื่นอยากจะเล่นด้วยก็ใช้วิธีกระพริบไฟจากข้างหลังเราสักสองทีในระยะที่ห่างๆแล้วไปตีคู่ข้างๆบีบแตรเบาๆสักสองที ซึ่งก็น่าจะเป็นที่เข้าใจกันแล้วว่า "มาเล่นกันเหอะนายยยย" หรือที่ผมเคยเจอมาก็คือค่อนข้างจะรีบแล้วมีรถคันนึงไต่ความเร็วมาเรื่อยๆแล้วก็แซงข้างหน้าแบบไม่หวาดเสียวและเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 ช่วงคันรถแล้วปิดเปิดระบบไฟหนึ่งครั้ง(ตอนกลางคืนถ้าปิดไฟหน้าไฟหลังก็จะดับไปด้วย) ซึ่งก็แปลได้อีกล่ะว่า "มามันส์กันไหมพวก" แต่ผมไม่ได้แข่งอะไรกับเค้าก็เปิดไฟเลี้ยวเลี่ยงไปและชลอตัวลงซึ่งเค้าก็ไม่ตอแยผ่านไปตามทางแต่โดยดี ถ้าจะพูดให้สั้นๆก็คล้ายๆกับเราไปสนามซ้อมมวยชกกระสอบทรายไปเรื่อยๆ การตอบโต้ระหว่างการเชิญชวนจากคนแปลกหน้าจะไม่เหือนกัน 1. นายดูเชี่ยวชาญจังมาซ้อมกับผมได้ไหม? กับ 2. เก๋าเหรอวะมาต่อยกับกรูป่าว? แน่นอนว่าแบบที่สองถ้ามีโอกาสก็อยากจะซัดให้ลงไปกองเลือดอาบหน้าเพราะไม่ได้เข้าหาเราแบบดีๆเลย


ผมเคยอ่านมาจากประสบการณ์ของคนที่ชอบอะไรตื่นเต้นเค้าก็จะเล่นกันบนถนนบ่อยๆตามทางโล่งๆต่างจังหวัด ชักชวนกันดีๆ เล่นกันพอใจแล้วก็เปิดกระจกบ๋ายบายหรือเจอกันที่ปั๊มก็ขอดูในเครื่องเลยพี่ใส่อะไรมาทำไมแรงจัง พูดคุยถูกปากถูกคอกันไป ไม่ใช่ปาดกันไปปาดกันเอาปืนยิงขู่กัน ผมเดาเอานะว่าส่วนใหญ๋ของอุบัติเหตุที่เกิดจากการเล่นกันแล้วพลาดมันเกิดมาจากมีโมโหกันนี่แหละ พอเลือดขึ้นหน้าแล้วมันยอมกันไม่ได้ใจมันแรงเกินกว่าที่รถจะเอาไหว สุดท้ายก็พลาดลงไปกองข้างทางหรือฟาดตอหม้อเสาไฟฟ้า หรือถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังไม่พลาดก็จะเริ่มอารมณ์พลุ่งพล่านหนักข้อกันรื่อยๆปาดกันไปปาดกันมา เหยียบเบรคใส่ หรือแม้กระทั่งวาดมิดกันถึงตาย แนวคิดแบบไม่ยอมคนอื่นหรือเข้าไปหาเรื่องท้าแข่งนี่เป็นที่แพร่หลายกันมากนะครับในสมัยนี้ เพราะยี่ห้อรถและรุ่นที่มันแพร่หลายมากขึ้นทำให้แบ่งพรรคแบ่งพวกกันเป็นยี่ห้อเป็นรุ่นมาเขม่นกัน อย่างต้นตอของกระทุ้นี้ก็คล้ายๆกันที่แคมรี่รี่เหมือนรุ่นเดียวกันแท้ๆแล้วจะแข่งกันให้ได้อะไรขึ้นมา? ตัวเลขอายุของคนทีมีรถขับมันลดลงเรื่อยๆแต่วุฒิภาวะในการควบคุมตัวเองกลับไม่ได้สูงขึ้นกลับต่ำลงสวนทางกัน ซึงผมก็ไม่เข้าใจว่าตกลงแล้วคนพวกนี้แต่งรถเพื่อความรื่นรมย์ในการขับขี่หรือเอาไว้เปิดทางหาเรื่องให้ตัวเองไปอยู่ในคุกกันแน่ มันดูโง่มากที่โตมาร่ำเรียนมาตั้งหลายปีแต่คึกเกินเหตุจนต้องมีคดีติดตัวเพียงแค่เพราะแข่งรถบนถนนแล้วคุมตัวเองไม่อยู่


ป.ล. การซื่งบนถนนหลวงถือเป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่นไม่สมควรทำนะจ้ะ   :)

ผมเคยเจอแถวหน้าออฟฟิศเก่า แข่งกันมา ตั้งแต่ไฟแดง เหมือนกับว่าหน้าออฟฟิศผมเป็นเส้นชัย

สุดท้าย ได้ผู้ชนะ เค้าก็เปิด กระจกมาพร้อมยกมือ ขอบคุณด้วยนิวกลาง - -"

ต่อไปจะเป็นอย่างไรผมไม่ทราบเพราะ มันเลยหน้าออฟฟิศผมไป

อีกฝ่ายคงขอบคุณด้วยทีนแน่เลย :) :) :)
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย