สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้มีของฝากกันเช่นเคย
หลังจากที่ COVID-19 ทำเอาวงการรถปั่นป่วน Event ต่างๆถูกยกเลิก หรือไม่ก็เปลี่ยนรูปแบบการจัดกันเป็นแถว ก็มีทาง MG นี่ล่ะครับที่ยังจัดงานให้สื่อมวลชนได้ลองขับ ZS รุ่นไมเนอร์เชนจ์กัน ผมได้รับหมายเชิญประมาณสองสัปดาห์ก่อน และตกลงใจเข้าร่วมขับ ในครั้งนี้ เขาให้ขับแยกคันละคนไปเลย ซึ่งเป็นผลดีในการทดสอบอัตราเร่ง เพราะใน ZS รุ่นปี 2017 ผมก็ได้มีโอกาสนำรถไปขับทดสอบอัตราเร่งคนเดียว ภายในสภาพอากาศที่ร้อน (แต่ไม่ร้อนเท่าวันที่ทดสอบคันไมเนอร์เชนจ์แน่ๆ)
หลายท่านที่อยู่ตาม Social ต่างๆคงรู้ว่าผมถูกตราหน้าว่าชอบหาเรื่องแบรนด์ MG ซึ่งจริงๆแล้ว ผมไม่หาเรื่องใครหรอก รถมันก็คือสิ่งของ มีจุดดีก็พูด มีจุดเสียก็พูด ผมไม่เข้าข้างใครนอกจากตัวเอง บางคนบอกผมตัวหนักรถเลยอืด ..โชว์โง่อีก ยังกะตอนผมทดสอบรถคันอื่นผมลดน้ำหนักตัวเองชั่วคราวได้งั้นแหละ (ขอระบายหน่อยเหอะคันมานานละ)
ดังนั้น สิ่งที่ผมเขียนในรีวิว ก็ตามนั้นแหละครับ บางท่านยังอุตส่าห์หลังไมค์มาถามว่าจริงๆแล้วเป็นยังไง ..คือจริงๆแล้วมันก็เป็นไปตามที่เขียนนั่นล่ะครับ
เกียร์ CVT บวกเครื่องเดิม อัตราเร่งเร็วขึ้น 0-100 ยังท้ายตารางเหมือนเดิม แต่ช่วงเร่งแซงที่เราได้ใช้ในชีวิตจริงนั้น ตัวเลขใกล้เคียง Xpander รุ่นปกติมาก และผมคาดว่าถ้าหากได้มีโอกาสทดสอบในมาตรฐานเดียวกัน เวลาเดียวกัน มันจะทำตัวเลขได้ดีกว่า Xpander Cross
ที่สำคัญคือ เวลาขับในเมือง CVT ลูกนี้ทำงานกับเครื่องได้ราบรื่นกว่าที่คิด ..มันยังมีนิสัย CVT อยู่ แต่ไม่ยึกเย่อเด้าเท่าพี่ๆที่ใช้เกียร์คลัตช์คู่ครับ และอาการดีกว่าเกียร์ของ Swift ECO ของพี่สาวผมที่ผมขับประจำแน่ๆ ถือว่าดีนะ เพราะปกติเหมือน MG จะไม่ค่อยแคร์ที่จะจูนรถให้ใช้งานความเร็วต่ำได้เนียนเท่าไหร่
อุปกรณ์ต่างๆที่เพิ่มให้มาก็ไม่น้อยเลย ผมไม่ชอบก็แค่หน้าปัดที่ดูเหมือนทำมาเอาใจคนชอบแสงสี แต่คนรักการขับบอก มาตรวัดอะไรวะ ดูยากโดยเฉพาะวัดรอบที่ขึ้นเป็นตัวเลขดิจิตอล แล้วมีแถบสีข้างๆที่ขึ้นทีละดวงเป็น effect เฉยๆเนี่ย คิดได้ไง
นอกนั้น ทำได้ดีมาก รถแปดแสน มีเบาะไฟฟ้าด้านคนขับให้ มีกล้องรอบคัน กดเลือกมุมมองจากตัวรถออกไป หรือกดเลือกให้เห็นรถเป็นคันเหมือนมองจากมุมบนเข้ามา คล้ายๆกล้องของ BMW ตัวแพงๆก็ได้ (แม้คุณภาพของภาพจะไม่ดีเท่าไหร่) ภายในพยายามบุนุ่มมากขึ้น เพิ่มจุดเสียบ USB เหมือน Ford ที่กระจกมองหลัง เพิ่มที่เท้าแขน ให้จอกลางขนาด 10 นิ้วและยังแยกบางฟังก์ชั่นออกมาให้มีสวิตช์แบบปุ่มปกติด้วย
เรียกได้ว่า ถ้าไม่กลัวเรื่อง Defect ของรถ และไม่เกี่ยงเรื่องอัตราเร่ง 0-100 แล้วล่ะก็ วินาทีนี้ ZS มีสิ่งดีๆให้เยอะมาก แล้วพอมาคิดว่าราคามันแพงขึ้นกว่าเดิมแค่หมื่นบาท ผมงี้ขนลุกเลยว่า MG ทำได้ไง พยายามไล่ดูอุปกรณ์ทุกจุด ก็ไม่พบว่าแอบไปตัดอะไรออกด้วย
MG ZS ใหม่ ยังไม่ใช่รถแบบที่ผมจะซื้ออยู่ดีแหละ แต่ผมเห็นความพยายามของ Product planing กับอุปกรณ์และราคาที่ให้แล้ว ก็ยังรู้สึกนับถืออยู่ในใจ ว่าใจถึงจริงๆ เหลือแค่การสร้างความมั่นใจใน Reliability ของรถ และทำระบบ Infotainment ให้มันตอบสนองไวหน่อย ทำระบบสั่งการผ่านเสียงให้มันไม่เอ๋อ ผมว่ามันต่อยอดไปได้อีก
ลองอ่านดูได้ครับ
http://www.headlightmag.com/first-impression-review-mg-zs-1-5x-minorchange/