บังเอิญผมกำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่พอดี ผมชอบรถเลยตั้งใจจะเอากำไรจากการลงทุนไปซื้อรถในฝันที่อยากได้
หุ้นรถยนต์ก็ดีสำหรับพวกเราอย่างนึงคือ มันจะพอดูออกว่าตัวไหนน่าจะปัง
ผมมองแบบ top downจากหุ้นทั้งโลก แบบนี้นะครับ
ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าอะไรที่จะทำให้รถ EV แตกต่างจากจ้าวอื่นๆ ซึ่งหัวใจสำคัญคือ
1. Autonomous driving เดี๋ยวจะกล่าวต่อไป
2. Battery efficiency
- Kw/weight
-Kw/distance
-Kw/ prize
ซึ่งผู้นำตลาดด้านแบตเตอรี่ ก็คือ tesla กับบริษัทจีน ที่สามตัวเลขนี้ใกล้เคียง tesla ก็มี BYD, XPENG, NIO ซึ่งทั้งสามบริษัททำได้ถูกกกว่า วิ่งไกลกว่า และบางบริษัท charge ได้เร็วกว่า
ลองเทียบ tesla model s กับ audi etron, porsche taycan ครับ batt พอๆกัน porsche วิ่ง 460 โล tesla ไปไกลกว่า 600 โล
ส่วน xpeng วิ่งได้700 โลในราคาถูกกว่าtesla Nio ก็600++km
ทีนี้มองคร่าวๆจากหุ้นทั้งโลก ผมเลยมาโฟกัสที่ประเทศจีน เพราะ
- จีนมีนโยบายสนับสนุน รถไฟฟ้าที่ดีมาก เช่น บางเมือง รถไฟฟ้าวิ่งได้ทุกวัน รถน้ำมันวิ่งได้ เฉพาะวันคี่ วันคู่ ภาษีถูกกว่า
- จีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และ สนับสนุนให้ใช้ ของประเทศเค้าเอง
ทีนี้ หุ้นรถไฟฟ้าจีน มันมีหลายตัวมาก แบ่งเป็นสองกลุ่มคือ
1. กลุ่มที่เดิมฐานใหญ่มากๆอยู่แล้ว เช่น
BYD, Geely, SAIC เป็นบริษัทที่ฐานกว้างอยู่แล้ว ผลิตได้เป็นแสนคันต่อปี แต่ก็ยังมีโอกาสโตใน ต่างประเทศและ ในประเทศได้อยู่
BYD ทำtaxi ที่swab batteryได้ และน่าสนใจตรงที่มีโรงงานผลิตแบตเอง และเป็นจ้าวแห่ง รถ EV ที่เป็นรถบัส รถบรรทุก ส่วนรถ passenger car ทีเด็ด คือ BYD ถัง BYD ฮั่น
SAIC (บริษัทแม่MGบ้านเรา) จำนวน รถไฟฟ้า มากสุด แต่เป็นคันเล็กๆ ที่จีน ยอดขายดีสุด รุ่นที่น่าสนใจ คือ MG ZS EV, MG marvel R
Geely นี่ก็มีหลายรุ่นที่น่าสนใจ
ข้อดีกลุ่มนี้คือ ถูกมากครับ p/e 8-10 เอง และยังมีโอกาสเติบโตได้ด้วย
แต่ข้อเสียคือ เทคโนโลยี autonomous driving ยังมีจ้าวอื่นที่ดีกว่า และยอดขายเยอะมากๆอยู่แล้ว โตได้แต่อาจไม่โตเร็วมาก
2. กลุ่มที่ เป็นstart up รถไฟฟ้าจีนก็มี3 ทหารเสือ Li-auto, xpeng, Nio
-Liauto ข้อดีคือ back up คือ byte dance งบดูดี gross margin ดีสุด แต่ ลักษณะรถ มันคล้ายๆ nissan kick คือ เอาเครื่องยนต์ไปปั่นไฟ +batt วิ่งได้ 200โล ซึ่งอนาคตต้องลงทุนกับplat form Ev อีก และตัว บริษัท เหมือนไม่ได้เน้น full autonomous driving เท่าไหร่ เมื่อเทียบกับสองบริษัทที่เหลือ
เลยมาโฟกัสที่สองตัว คือ Nio กับ xpeng 2 บริษัทนี้น่าสนใจมาก ตรงที่ เน้น full autonomous driving
ข้อดีของ Nioคือ back โดย tencent ตัวรถพรีเมียมมากๆ ราคาใกล้เคียงtesla มีสถานี swab batteryได้ ใช้เวลา10 นาทีไม่ต้องชาร์จ เน้น full ev
แต่ข้อเสีย คือ ราคาหุ้น แพง P/S ผมนั่งคำณวนเอง ประมาณสองเท่าของ xpeng กับไม่ได้ผลิตรถยนต์เอง จ้างเค้าอีกที และต้องวางโครงสร้างswab batt ซึ่งกระทบกับกำไรอีก
xpeng ข้อดีคือ back โดย baba ขับขี่ดี รุ่นp7 autocar (นิตยสารทดสอบรถยนต์) ให้4ดาว ให้เบรค bremboมา ซึ่งถือว่าพิถีพิถันในการทำรถ เครื่องเสียง Dynaudio ตัวถัง+ช่วงล่าง พัฒนา ร่วมกับporsche กำลังการผลิต ทั้งสามโรงงานดต็มที่ อยู่ที่สามแสนคันต่อปี แะอาจอัดได้ถึง500,000คันต่อปี และมีรุ่นp5 ในQ4 ไซส์ประมาณ bmไ series 3 ซึ่งเสียงตอบรับตลาดค่อนข้างดีเพราะเป็นครั้งแรกในโลก ที่รถผลิตแบบmass จะใส่LiDARมาให้ และราคาก็ไม่ได้แพง 160,000-230,000 rmb/คัน
ล่าสุดบริษัทสามารถทำรายได้ จาก soft ware autonomous driving แล้ว ตัวรถราคาถูกกว่าtesla ประมาณ 20% -30% แต่ข้อเสีย คือ ก็ยังแพงอยู่ดี
market cap ใหญ่กว่า SAIC แต่ผลิตรถได้น้อยกว่า
แต่ทั้งสามบริษัท rev ก็โตเกิน100%Y-o-Y
ถ้ามองในแง่ทคโนโลยี เทียบระหว่าง NiOกับ XPENG ตัวน่าสนใจสุดคือxpeng (xpev)ครับ
เหตุผลนอกจากราคาที่ถูกกว่าคือ
autonomous driving ปัจจุบันมันจะขับเองได้ บนhigh way(level3) แต่ถ้าในเมืองมันจะมีพวกมอเตอร์ไซค์ คนเดิน อะไรอื่นๆ ที่ทำให้ยังขับเองไม่ได้ ครับ
xpeng เป็นจ้าวแรกที่นอกจากจะใช้กล้องรอบคัน แล้วยังใช้ ระบบ LiDAR (เครื่องสแกน3มิติ) สิ่งแวดล้อมรอบคันได้ แม่นยำขึ้น ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน และ ใช้ร่วมกับ high resolution map ที่อยู่บนcloud และ update ตลอด แถมยังมี radar อีก ทำให้ขับในเมืองเองได้มากขึ้น (autonomous level 4) แต่อาจต้องอาศัยการเก็บข้อมูลสักพักจึง fully autonomous(end to end)ได้จริง ตามแผนบริษัทน่าจะใช้ได้เมือง อีก 1-2 ปี
sensor สำหรับขับเอง
ทดลองขับเอง
https://insideevs.com/news/535136/xpeng-p5-ngp-city-drive/นาทีที่ 37-40
XPENG เน้นที่soft ware autonomous driving พนักงาน ประมาณ40% เป็นengineer ที่เกี่ยวกับ ev autonomous car
อีกบริษีทนึง ที่กำลังจะใส่ระบบLiDAR คือ NiO แต่ตามหลัง xpeng อยู่ ประมาณครึ่งถึงหนึ่งปี ครับ
สำหรับหุ้นรถยนต์ EV อีกตัวที่น่าสนใจ คือ VW เพราะ ที่ตามข่าวมาล่าสุด เห็นรุ่น ID ขายดีมากที่ยุโรป และราคาหุ้น ไม่แพงครับ
ถ้า จขกท อยากศึกษาเพิ่มเติม แนะนำ
-website Thai VI ห้อง ไอเดียหุ้นเด้ง กับ ร้อยคนร้อยหุ้น เสียค่าสมาชิกรายปี
-seeking alpha เป็นweb นอก เสียค่าสมาชิกรายปีเช่นกัน แต่ได้ข้อมูลดีๆ เยอะมาก
- พิมพ์ชื่อบริษัทที่สนใจ แล้วต่อด้วย คำว่า investor relation จะได้ข้อมูลมาวิเคราะห์พอสมควร
แต่อย่างไรก็ตาม มุมมองส่วนตัวผมตอนนี้ คือควรศึกษาไว้แต่อย่าพึ่งเข้าซื้อ ตอนนี้เงินเฟ้อมากๆ จากกการพิมพ์เงินมีความเป็นไปได้สูงมากที่ต้องขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วแล้วทำให้ตลาดหุ้นตกอย่างรุนแรง รอให้ทิศทางแน่ชัดซักช่วงกลางปีหน้าค่อยซื้อก็ได้ครับ