เท่าที่ทราบ ตอนนี้ Euro5 มีเฉพาะพรีเมี่ยมของ ปตท. และพรีเมี่ยมของ บางจาก นอกนั้นยัง Euro4
เรื่องพุ่ง ลื่น แรง กับ มลพิษหรือสะอาด มันคนละเรื่องกันนะครับ ค่ามาตรฐาน Euro ของน้ำมัน ไม่เกี่ยวกับความแรง ต้องไปดูการให้พลังงาน ซีเทน และ additive ที่เขาผสมลงไป ว่าเพื่อมุ่งเน้นหรือหวังผลเป็นเรื่องๆ ไป
ถ้าหมายถึงเรื่องมลพิษ ตามท่านล่างนี้
ที่ผมเข้าใจคือ น้ำมันดีเซลที่ได้มาตรฐานยโร5จริงๆ ในเมืองไทยมีแค่2ยี่ห้อคือ ปตท. กับ บางจาก
ส่วน วีเพาเวอร์ดีเซลของShell นี่ได้แค่มาตรฐานยูโร4เท่านั้น แต่เพิ่มหัวเชื้อตามสูตรของเค้าเข้าไป
ทำให้เวลาขับรู้สึกว่าแรงขึ้น ลื่นขึ้น คนจึงนิยมเติมกัน
..ถ้ามันแค่ยูโร4+หัวเชื้อ มันจะดีกว่า ปตท.กับ บางจากได้อย่างไร สำหรับรถที่มีระบบ DPF
...อันนี้ผมเข้าใจผิดหรือเปล่าครับ
นำมันยูโร5จะมีค่ากำมะถันน้อยกว่ายูโร4 10เท่า ดังนั้นจึงทำให้รถยนต์ที่มีDPFสามารถใช้งานโดยDPFไม่ต้องRegenบ่อยๆ ซึ่งการRegenทำให้เพิ่มการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและจะมีน้ำมันส่วนเกินจากการRegenได้ครับ
ส่วนตัวผมเติมHyforce Diesel Euro5 มาเป็นเวลา7ปีแล้วยังไม่เคยเจอปัญหาใดๆเลยครับ
ผมก็คิดแบบนั้น เรื่อง ลื่น แรง มันคนละเรื่องกับความสะอาด
เพราะลองบางจากแล้วรู้สึกมันแรงน้อยกว่า เชลล์ คาล์เท็กซ์ เอสโซ่
ส่วนเรื่องความสะอาดยังไง ยูโร่ 5 สะอาดกว่าอยู่แล้ว อันนี้ไม่ต้องเถียงกัน ไม่ใช่ประเด็นแล้ว
แต่ที่เห็นเป็นประเด็นทุกครั้งคือ ยูโร 5 แรงกว่า ยูโร 4 จริงหรือไม่
จุดนี้น่าจะมีผลทดสอบในแลบ ดีกว่าใช้ความรู้สึกกัน ใครมีผลทดสอบบ้าง เอามาลงหน่อยก็ดีครับ
เอาเฉพาะเรื่องความแรง -> ว่ากันด้วยความแรงล้วนๆ เลยนะ
ก่อนอื่นนะ ยังไม่ต้องอ้างอิงหรือพาดพิงค่ายหรือยี่ห้อใดๆ นะ ผมขออธิบายแบบนี้
- ในน้ำมันที่เป็น Euro4 ด้วยกันเอง ก็มีค่ายหรือยี่ห้อ A4 แรงกว่ายี่ห้อ B4,C4,D4,...... จริงไหม
- นั้นหมายความว่า ในน้ำมัน Euro5 ด้วยกันเอง ก็ต้องมีค่ายหรือยี่ห้อ A5 แรงกว่า B5,C5,D5,.... เหมือนกัน จริงไหม
ดังนั้น ความแรง ไม่เกี่ยวกับมาตรฐาน Euro ของน้ำมันเชื้อเพลิง(ผมเอ่ยไว้แล้วข้างบน) ซึ่งนั้นหมายความว่าน้ำมัน Euro4 บางตัวอาจจะแรงกว่า Euro5 บางตัว และในทางกลับกัน น้ำมัน Euro5 บางตัวก็แรงกว่าน้ำมัน Euro4 บางตัวเช่นกัน
มันขึ้นกว่ากับว่าเขาจะเติมสาร หรือ additive อะไรเข้าไปในตัวน้ำมันนั้นต่างหาก(ผมก็เอ่ยไว้แล้วข้างต้น) ทั้งเพื่อชะล้าง ทำความสะอาด เคลือบ เพิ่มออกเทน เป็นต้น
ซึ่งสาร additive ที่เติมเข้าไปแล้วหวังผลหรือเป้าหมายเพื่อความแรงนั้น ส่วนมากเท่าที่รู้ จะเป็นพวก ออกเทนบูสเตอร์ (Octane Booster) ซึ่งบางตัวทำให้ ออกเทนสูงขึ้นกว่าเดิม เช่น แก๊ซโซฮอล 95 บางค่าย เป็นต้น
การเติม ออกเทนบูสเตอร์ (Octane Booster) บางชนิดมีผลดี คนอาจจะชอบว่า เฮ้ย ทำไมมันดูแรง ดูพุ่งกว่า อีกยี่ห้อ แต่ผลเสียที่บางคนหรือหลายๆ คนไม่รู้คือ มันมีสารตกค้างหรือปนปื้นกับน้ำ ซึ่งคนไม่สนใจจุดนี้ เช่นเดียวกับแต่ก่อนน้ำมันเป็นแบบมีสารตะกั่วผสม แต่ปัจจุบันเขาก็เป็นน้ำมันไร้สารตะกั่วหมดแล้ว
และการเพิ่มความแรง หรือ แรงม้า นั้น มันเพิ่มจริงครับ แต่.....มันเพิ่มแรงม้า 1-2% เช่น 100HP -> 102HP หรือ 200HP->202-204HP ซึ่งผมว่ามันแทบไม่เห็นผลอะไรเลยกับการใช้งานทั่วไป
ถามเพิ่มเติมครับ ถ้าเครื่องดีเซล มาตรฐานยูโร4 เติมดีเซลยูโร5 จะทำให้เครื่องสะอาดขึ้นใช่ไหมครับ
หรือเฉพาะสำหรับเครื่องดีเซลมาตรฐานยูโร5เท่านั้น
ถ้าถามว่า รถ Euro4 เติมน้ำมัน Euro5 แล้วสะอาดขึ้นไหม = สอาดขึ้น กว่ารถ Euro4 เติมน้ำมัน Euro แต่ไม่ถึงขั้นจนกลายเป็น Euro5 (มันจะมีตารางการปล่อยมลพิษของ Euro อยู่) เพราะ Euro5 ต้องมี DPF เข้ามาช่วยบำบัดไอเสียเพิ่มเติมอีก