สนใจอยากทราบข้อมูลเรื่องรถไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กแบบละเอียดครับ

PKS8

ปฎิเสธไม่ได้จริงๆครับว่าช่วงนี้รถใหม่ออกมารัวๆน่าสนใจมากๆ ผมพยายามหาข้อมูลแต่ยิ่งหายิ่งงงครับ แล้วไม่กล้าตัดสินใจ สมาชิกท่านไหนพอจะช่วยให้เข้าใจเพื่อประกอบการตัดสินใจได้บ้างครับ

1. หัวชาร์จ มีกี่แบบครับ แต่ล่ะยี่ห้อใช้แบบไหน แบบไหนคือมาตราฐานหรือจริงๆไม่มีมาตราฐานแต่ล่ะยี่ห้อไม่เหมือนกัน แล้วแบบไหนน่าใช้ที่สุดครับ และแบบไหนควรหลีกเลี่ยง

2. อัตราค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร เมื่อเทียบกับรถน้ำมัน และค่าไฟฟ้าบ้าน ไฟฟ้าประหยัดกว่าจริงมั้ยครับ แล้วประหยัดกว่าคร่าวๆประมาณกี่ % คุ้มค่าในการเปลี่ยนรถมั้ยครับ

3. ต่อจากข้อ 2 ถ้าจะให้คืนทุนไว ต้องวิ่งอย่างน้อยเดือนล่ะกี่กิโลเมตร ครับ

4. ณ ปัจจุบัน ซื้อรถแล้วมียี่ห้อไหนบ้างที่แถมตัวชาร์จบ้านให้บ้างครับ มีเจ้าไหนติดตั้งฟรี แล้วเจ้าอื่นๆถ้าไม่ฟรีคิดราคาเท่าไหร่ครับ

สมาชิกท่านใดมีทำข้อมูลไว้ รบกวนช่วยแชร์นิดนึงครับ



Winmax

ลงทุนอีกหน่อย แต่มากอยู่ วางระบบโซล่าเซล์ เพื่อชาร์จแบตให้กับรถพวกนี้
ตอนนี้ที่ผมเจอ ช่องจอดรถที่สามารถชาร์จแบตได้ในห้าง ไม่เคยว่างเลย



TCP

ไม่ขอยืนยันว่า เข้าใจถูกต้องหรือเปล่านะครับ แต่น่าจะ

1. หัวชาร์จไม่น่าจะมีมาตรฐาน เพราะมันต้องมีระบบแปลงไฟจากกระแสสลับ 220V (หรือจะ 110V ในต่างประเทศ) มาเป็นไฟตรง
    อีกทั้ง ขนาดแบตเตอรี่รถแบบนี้แต่ละคัน ก็ไม่ได้เท่ากัน จะใหญ่ จะเล็ก ก็แล้วแต่ขนาดรถและต้องรองรับ 3 ลักษณะการชาร์จ คือ
       Normal Charge = กระแสด่ำ ใช้ไฟบ้านได้ แต่ต้องนาน 6-8 ชั่วโมง กว่าจะเต็ม ,
       Quick Charge   = กระแสสูง ต้องมีระบบการชาร์จไฟแรงรองรับด้วย ชาร์จแค่ไม่ถึงชั่วโมง ก็ไฟเต็มแล้ว ,
       Emergency Charge = กระแส..(ไม่รู้ครับ) แต่รู้แค่ว่า มีติดรถไว้ เอาไว้ปั่นไฟกรณีฉุกเฉินป้อนรถ ให้รถวิ่งต่อได้อีกซักไม่กี่ กม.
    จากทั้งหมด ผมเลยรู้มาว่า เครื่องที่แปลงไฟบ้านมา Normal Charge มันจะมากับรถเลยครับ แต่ต้องติดตั้งที่บ้าน ไม่ใช่ชุดเคลื่อนย้ายได้สะดวกๆ
2. จากที่ผมประมาณการมา ... น่าจะถูกกว่า ค่าน้ำมันราวๆ 3-5 เท่าครับ  สมมติ รถ ECOCAR เติม E20 กินโลละ 1 บาท
    รถเก๋งไฟฟ้า จะจ่ายเหลือแค่โลละ 0.2-0.3 บาท  ประหยัดกว่าโลละ 0.7-0.8 บาท
3. สมมติ เปรียบเทียบระหว่าง  MG ZS 1.5 ราคาเกือบ 8 แสน vs MG ZS EV ราคาเกือบ 1.12 ล้าน  เท่ากับว่า แพงกว่ากัน 330,000 บาท
    ถ้าใช้ไฟฟ้า แล้วจ่ายแพงกว่าตอนซื้อ 330,000 แต่มาประหยัดได้ 0.75 บาท/โล ...
    กว่าจะคุ้มค่าเงินที่จ่ายเพิ่ม .. ก็ต้องวิ่งใช้งานไป  330,000 / 0.75 = 440,000 โล ล่ะครับ
4. เอ .. ปกติ รถเก๋งไฟฟ้าแบบเสียบชาร์จได้ มันน่าจะรวมชุดชาร์จแบบติดตั้งที่บ้าน มาให้ในราคารถแล้วนะครับ ไม่น่าจะขายแยกกันอ่ะ
    แต่อันนี้ ไม่แน่ใจ 100% เพราะไม่เคยถามใครเรื่องนี้เลย เพราะผมคิดมาว่า .. ถ้าซื้อรถแบบนี้ ราคาแพงกว่ารถเก๋งปกติหลายแสนแล้ว .. แล้วยังต้อง
    มาเสียค่าแท่นชาร์จติดบ้านอีกชุดนึงอีก .. ผมว่า มันแทบจะตัดโอกาสขายรถแนวนี้ ไปเกือบหมดเลยครับ

ประมาณนี้ ครับ  ข้อมูล และความเห็นของผม



Oatsenal1

ไม่ขอยืนยันว่า เข้าใจถูกต้องหรือเปล่านะครับ แต่น่าจะ

1. หัวชาร์จไม่น่าจะมีมาตรฐาน เพราะมันต้องมีระบบแปลงไฟจากกระแสสลับ 220V (หรือจะ 110V ในต่างประเทศ) มาเป็นไฟตรง
    อีกทั้ง ขนาดแบตเตอรี่รถแบบนี้แต่ละคัน ก็ไม่ได้เท่ากัน จะใหญ่ จะเล็ก ก็แล้วแต่ขนาดรถและต้องรองรับ 3 ลักษณะการชาร์จ คือ
       Normal Charge = กระแสด่ำ ใช้ไฟบ้านได้ แต่ต้องนาน 6-8 ชั่วโมง กว่าจะเต็ม ,
       Quick Charge   = กระแสสูง ต้องมีระบบการชาร์จไฟแรงรองรับด้วย ชาร์จแค่ไม่ถึงชั่วโมง ก็ไฟเต็มแล้ว ,
       Emergency Charge = กระแส..(ไม่รู้ครับ) แต่รู้แค่ว่า มีติดรถไว้ เอาไว้ปั่นไฟกรณีฉุกเฉินป้อนรถ ให้รถวิ่งต่อได้อีกซักไม่กี่ กม.
    จากทั้งหมด ผมเลยรู้มาว่า เครื่องที่แปลงไฟบ้านมา Normal Charge มันจะมากับรถเลยครับ แต่ต้องติดตั้งที่บ้าน ไม่ใช่ชุดเคลื่อนย้ายได้สะดวกๆ
2. จากที่ผมประมาณการมา ... น่าจะถูกกว่า ค่าน้ำมันราวๆ 3-5 เท่าครับ  สมมติ รถ ECOCAR เติม E20 กินโลละ 1 บาท
    รถเก๋งไฟฟ้า จะจ่ายเหลือแค่โลละ 0.2-0.3 บาท  ประหยัดกว่าโลละ 0.7-0.8 บาท
3. สมมติ เปรียบเทียบระหว่าง  MG ZS 1.5 ราคาเกือบ 8 แสน vs MG ZS EV ราคาเกือบ 1.12 ล้าน  เท่ากับว่า แพงกว่ากัน 330,000 บาท
    ถ้าใช้ไฟฟ้า แล้วจ่ายแพงกว่าตอนซื้อ 330,000 แต่มาประหยัดได้ 0.75 บาท/โล ...
    กว่าจะคุ้มค่าเงินที่จ่ายเพิ่ม .. ก็ต้องวิ่งใช้งานไป  330,000 / 0.75 = 440,000 โล ล่ะครับ
4. เอ .. ปกติ รถเก๋งไฟฟ้าแบบเสียบชาร์จได้ มันน่าจะรวมชุดชาร์จแบบติดตั้งที่บ้าน มาให้ในราคารถแล้วนะครับ ไม่น่าจะขายแยกกันอ่ะ
    แต่อันนี้ ไม่แน่ใจ 100% เพราะไม่เคยถามใครเรื่องนี้เลย เพราะผมคิดมาว่า .. ถ้าซื้อรถแบบนี้ ราคาแพงกว่ารถเก๋งปกติหลายแสนแล้ว .. แล้วยังต้อง
    มาเสียค่าแท่นชาร์จติดบ้านอีกชุดนึงอีก .. ผมว่า มันแทบจะตัดโอกาสขายรถแนวนี้ ไปเกือบหมดเลยครับ

ประมาณนี้ ครับ  ข้อมูล และความเห็นของผม

หัวชารจ์จมีมาตรฐานสิ มีหลายแบบ ต้องดูว่า AC หรือ DC ถ้าไม่มีมาตรฐานเวลาไปตามสถานี หรือตามห้าง ก็ลำบาก



PREM

ตอบเรื่องหัวชาร์จให้ครับ
ปกติรถไฟฟ้าจะมีหัวชาร์จแบบ AC (ชาร์จปกติ) กับ DC (quick charge)

ซึ่งหัวชาร์จ AC มี 2 แบบคือ type 1 (ใช้ในอเมริกากับญี่ปุ่นเป็นหลัก) กับ type 2 (ใช้ในยุโรป)
ซึ่งเมื่อก่อนเมืองไทย ไม่มีมาตรฐานกำหนด แต่ตอนนี้มีมาตรฐานแล้วว่าจะใช้ type 2
แต่ก็ยังมีรถญี่ปุ่นดื้อด้านใช้ type 1 อยู่ เช่น Nissan Leaf และล่าสุดคือ Mitsubishi Outlander

ส่วนหัวชาร์จ DC ส่วนมากมีเฉพาะ EV ล้วน กำลังชาร์จสูงสุดแล้วแต่รุ่น ส่วนมากจะ 50-150 kW
มีทั้งแบบ CCS (ใช้คู่กับหัว type 1 หรือ type 2) และ Chademo (เป็นหัวแยกอีกหัว ใช้เฉพาะญี่ปุ่น)
ซึ่งเมืองไทยก็ตกลงกันว่าจะเป็น CCS แต่แล้วญี่ปุ่นก็ยังเอา Chademo มาตามเดิม ทั้ง Leaf, Outlander และ Lexus UX

ปัญหาถ้าหัวชาร์จไม่เหมือนชาวบ้าน จะหาที่ชาร์จสาธารณะยาก ยิ่ง full EV ที่มีโอกาสจะต้องพึ่งเครื่องชาร์จสาธารณะบ่อยกว่า PHEV ต้องคำนึงถึงจุดนี้
2013 Mercedes E 63 AMG (W212)
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP



jinkatana

ขอตอบเฉพาะข้อแรกนะครับ

หัวชาร์จจริงๆแบ่งออกเป็น 2 ประเภทครับคือ Normal Charge กับ Quick Charge

ฝั่ง Normal Charge มีใช้หลักๆในบ้านเรา 2 แบบครับคือ
1. Type 1 เช่น Nissan Leaf, BMW PHEV ล็อตแรกๆ
2. Type 2 เช่น MG ZS EV, Benz PHEV, BMW PHEV ล็อตหลังๆ

ในส่วนของ Quick Charge มี 3 แบบหลักๆครับ
1. Chademo เช่น Nissan Leaf
2. CCS เช่น MG ZS EV
3. GB/T อันนี้มาตราฐานของจีนครับ ค่ายรถในบ้านเราไม่มีใครนำเข้ามาขาย

จะสังเกตุได้ว่ารถ EV เพียวๆบางคันจะมี 2 หัวชาร์จแยกกันครับเช่น
Nissan Leaf จะแยกหัว Type 1 กับ Chademo ไว้จากกัน จะชาร์จแบบไหนใช้หัวแบบนั้น

แต่บางคันเช่น MG ZS EV ก็จะใช้หัวเดียวคือ CCS Combo ครับเพราะหัว CCS Combo จะมีหัว Type 2 กับช่องที่เอาไว้ใช้รับไฟ DC สำหรับ Quick Charge ในเต้ารับเดียวกันครับใช้แบบไหนก็เสียบหัวแบบนั้นเข้าไปที่เต้ารับเดียวกันได้เลย

ตัว CCS Combo เองก็ยังมีแบ่ง CCS Type 1 กับ CCS Type 2 อีกด้วยครับต่างกันแค่ หัวของ Nornal Charge เป็นแบบไหน แต่บ้านเราเท่าที่เห็นมีแต่ CCS Type 2 เข้ามาขายกันนะครับ

ส่วนพวกรถ PHEV ส่วนใหญ่จะรับแค่หัว Type 1 กับ Type 2 ครับ ซึ่งตอนนี้ค่ายยุโรปเปลี่ยนไปใช้ Type 2 กันหมดแล้วครับ

ถ้าซื้อพวก EV เพียวหาพวกรถ ที่ใช้ CCS Combo ดีกว่าครับในระยะยาว



PKS8

ขอบคุณทุกท่านมากๆครับ อ่านแล้วเสียวๆ เทคโนโลยีไปเร็วมาก เหมือนหัวชาร์จ USB-A ไป USB-C เลยครับ



tyo00

แล้วไม่มีหัวชาร์จแบบที่เสียบกับเต้าไฟบ้านธรรมดาๆบ้างหรอครับ ้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้ผื่อไปสถานที่ที่ไม่มีสถานีชาร์จ

แล้วมันน่าจะมี adapter แปลงหัวให้ใช้ได้กับอีกแบบขายไหมครับ



sappax

แล้วไม่มีหัวชาร์จแบบที่เสียบกับเต้าไฟบ้านธรรมดาๆบ้างหรอครับ ้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้้ผื่อไปสถานที่ที่ไม่มีสถานีชาร์จ

แล้วมันน่าจะมี adapter แปลงหัวให้ใช้ได้กับอีกแบบขายไหมครับ

ให้มองที่ชาร์จเหมือน adapter คอมก็ได้ครับ ฝั่งนึงเสียบไฟบ้านได้ อีกฝั่งก็เป็น port เสียบเข้าเครื่อง ซึ่งมีหลายแบบ ทั้งแบบกลมๆ แบบ usb-c

สำหรับรถไฟฟ้า ถ้าเสียบไฟบ้าน ก็มี type-1 type-2 เข้ากับตัวรถ



รถจักรไอน้ำ

ถ้าจะเปลี่ยนรถให้คุ้มกับค่าประหยัดน้ำมันน่าจะนานหน่อยครับ

อยากให้คิดค่าเสื่อมของอะไหล่รถสันดาบไปด้วยเพราะรถไฟฟ้าแทบไม่มีอะไรให้เสียจริงๆ สมมติว่าเกียร์พังในรถสันดาปเมื่อใช้ไปสัก 7 ปี แบบนี้อาจทำให้รถไฟฟ้าดูคุ้มค่าขึ้นมาบ้าง หรืออาจมองเรื่องความเงียบของเครื่องยนต์ ฯลฯ จะช่วยให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นครับ
Current cars:
2018 - Volvo XC60 T8 R-design (Stock)
2020 - Mercedes C43 Sedan FL (tuned)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79186.0)
2021 - BMW 530e M sport LCI (Stock)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79736.0)



Level Z3RO

ญี่ปุ่นนี่ดื้อเรื่อง Chademo จริงๆเลยครับ