ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมคนไทยถึงคาดหวังว่ารถ EV ต้องราคาถูกกว่ารถนน้ำมัน  (อ่าน 7781 ครั้ง)

Gunther

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ต้องห่วงครับ เรามีโอกาสที่จะรอรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย……Mine SPA1 ที่จะมาผลิตในไทยเร็วๆนี้

เพราะตอนนี้ Mine น่าจะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่งเสร็จ (เผลอๆน่าจะมาก่อนรถยนต์ไฟฟ้า Foxconn) ในอนาคต คนไทยนิยมรถยนต์ไฟฟ้าของไทย (น่าจะนิยมมากกว่า Ora Good Cat) เหมือนคนญี่ปุ่นนิยมรถยนต์ญี่ปุ่นอย่าง Toyota/Mazda/Honda/Mitsubishi/Nissan

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,665
ลูกค้าจำนวนไม่น้อย ที่อยากได้รถที่ประหยัด ไม่ว่าจะประหยัดทั้งค่าตัว และค่าเชื้อเพลิง

แต่ถ้ารถที่ประหยัดเชื้อเพลิง ค่าตัวมันแพงไม่คุ้มที่จะไปออกตัวน้ำมันธรรมดา คือซื้อรถน้ำมันธรรมดาแล้วส่วนต่างเอาไปเติมน้ำมันได้หลายปี เขาก็คงไปเอาอย่างหลัง

จริงๆ รถไฟฟ้าเล็กราคาถูกแบบ Fomm one ก็ดูคุ้มค่าตัวอยู่ แต่คนไทยไม่นิยมรถเล็ก ความต้องการคนไทย สวนทางกับความเป็นจริงเสมอ

Forty Five

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ต้องห่วงครับ เรามีโอกาสที่จะรอรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย……Mine SPA1 ที่จะมาผลิตในไทยเร็วๆนี้

เพราะตอนนี้ Mine น่าจะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่งเสร็จ (เผลอๆน่าจะมาก่อนรถยนต์ไฟฟ้า Foxconn) ในอนาคต คนไทยนิยมรถยนต์ไฟฟ้าของไทย (น่าจะนิยมมากกว่า Ora Good Cat) เหมือนคนญี่ปุ่นนิยมรถยนต์ญี่ปุ่นอย่าง Toyota/Mazda/Honda/Mitsubishi/Nissan




โชว์ในงานมาแล้ว 3 ปี ไม่เห็นมาเลยครับพี่ Mine SPA1

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,713
ผมตอบไม่มีความรู้ หรือ อ้างอิงใดๆ ได้

เฉพาะตัวระบบเครื่องยนต์ vs motor

เครื่องยนต์มีชิ้นส่วนนับหมื่นๆ ชิ้น แต่ motor มีแค่หลัก 10 ชิ้น แค่นี้ก็บอกแล้วว่า อะไรแพงกว่า หรือ ถูกว่า

ชิ้นส่วนระดับหมื่นชิ้น กว่าจะ R&D ให้ได้มา และ ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ มันยากกว่าเยอะ เสียทั้งเงินและเวลา

รถ EV ราคา หรือ ต้นทุนหลักๆ น่าจะมาจาก Battery เป็นหลักเลย

เพราะออฟชั่นความปลอดภัย อินโฟเทนเมนท์ และ อื่นๆ มันก็ไม่ได้ต่างกันเลย มีพอๆ กัน อยู่แล้ว

้สุดท้าย ถ้าเทียบราคา คัน ต่อ คัน ผมว่า EV มันควรจะถูกกว่ารถเครื่องยนต์ พอสมควรเลยนะ ยิ่งถ้า Battery ถูกลง ราคามันยิ่งจะต้องถูกลงด้วย

           :-*
ใช่ครับ ชิ้นส่วนน้อยกว่ากันมากๆ R&Dก็ง่าย ก็วรจะถูกกว่าอยู่แล้วครับ

หมายถึงรถเปล่าไม่รวมแบตเตอรี่ใช่มั้ยครับ
ลองสืบๆ ราคาแบตเตอรี่ดูสิครับ แล้วถอดราคาแบตออก
จะเห็นว่า Good Cat ถูกกว่า Civic 1.5T แบบถอดราคาถังน้ำมันออกอ่ะครับ

เพราะชิ้นส่วนที่มีราคาแพงใน EV คือตัวแบตเตอรี่ แต่เรากลับไม่ให้ราคามัน

หุหุหุ

ออฟไลน์ รถจักรไอน้ำ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,795
ไม่ต้องถูกกว่าก็ได้ครับ แค่ให้ราคาเท่ากันแต่ประหยัดค่าเชื้อเพลิงค่าบำรุงรักษามากกว่าผมว่าก็มีคนสนใจแล้ว

แต่ถ้าคาดหวังจะให้เป็น game changer การที่รถไฟฟ้าถูกกว่ารถน้ำมัน มันก็เป็นไปได้มากกว่าไงครับ
Current cars:
2018 - Volvo XC60 T8 R-design (Stock)
2020 - Mercedes C43 Sedan FL (tuned)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79186.0)
2021 - BMW 530e M sport LCI (Stock)
(Review https://community.headlightmag.com/index.php?topic=79736.0)

ออฟไลน์ ABUSEz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 612
    • อีเมล์
ผมตอบไม่มีความรู้ หรือ อ้างอิงใดๆ ได้

เฉพาะตัวระบบเครื่องยนต์ vs motor

เครื่องยนต์มีชิ้นส่วนนับหมื่นๆ ชิ้น แต่ motor มีแค่หลัก 10 ชิ้น แค่นี้ก็บอกแล้วว่า อะไรแพงกว่า หรือ ถูกว่า

ชิ้นส่วนระดับหมื่นชิ้น กว่าจะ R&D ให้ได้มา และ ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ มันยากกว่าเยอะ เสียทั้งเงินและเวลา

รถ EV ราคา หรือ ต้นทุนหลักๆ น่าจะมาจาก Battery เป็นหลักเลย

เพราะออฟชั่นความปลอดภัย อินโฟเทนเมนท์ และ อื่นๆ มันก็ไม่ได้ต่างกันเลย มีพอๆ กัน อยู่แล้ว

้สุดท้าย ถ้าเทียบราคา คัน ต่อ คัน ผมว่า EV มันควรจะถูกกว่ารถเครื่องยนต์ พอสมควรเลยนะ ยิ่งถ้า Battery ถูกลง ราคามันยิ่งจะต้องถูกลงด้วย

           :-*
ใช่ครับ ชิ้นส่วนน้อยกว่ากันมากๆ R&Dก็ง่าย ก็วรจะถูกกว่าอยู่แล้วครับ

หมายถึงรถเปล่าไม่รวมแบตเตอรี่ใช่มั้ยครับ
ลองสืบๆ ราคาแบตเตอรี่ดูสิครับ แล้วถอดราคาแบตออก
จะเห็นว่า Good Cat ถูกกว่า Civic 1.5T แบบถอดราคาถังน้ำมันออกอ่ะครับ

เพราะชิ้นส่วนที่มีราคาแพงใน EV คือตัวแบตเตอรี่ แต่เรากลับไม่ให้ราคามัน

หุหุหุ

มันต้องเทียบระหว่างรถ ev ถอดแบตเตอรี่ กับรถสันดาปถอดเครื่องยนต์สิครับ ถึงจะเทียบกันได้
ไม่ใช่รถสันดาปถอดถังน้ำมันครับ

ออฟไลน์ Symphonic

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,713
ผมตอบไม่มีความรู้ หรือ อ้างอิงใดๆ ได้

เฉพาะตัวระบบเครื่องยนต์ vs motor

เครื่องยนต์มีชิ้นส่วนนับหมื่นๆ ชิ้น แต่ motor มีแค่หลัก 10 ชิ้น แค่นี้ก็บอกแล้วว่า อะไรแพงกว่า หรือ ถูกว่า

ชิ้นส่วนระดับหมื่นชิ้น กว่าจะ R&D ให้ได้มา และ ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ มันยากกว่าเยอะ เสียทั้งเงินและเวลา

รถ EV ราคา หรือ ต้นทุนหลักๆ น่าจะมาจาก Battery เป็นหลักเลย

เพราะออฟชั่นความปลอดภัย อินโฟเทนเมนท์ และ อื่นๆ มันก็ไม่ได้ต่างกันเลย มีพอๆ กัน อยู่แล้ว

้สุดท้าย ถ้าเทียบราคา คัน ต่อ คัน ผมว่า EV มันควรจะถูกกว่ารถเครื่องยนต์ พอสมควรเลยนะ ยิ่งถ้า Battery ถูกลง ราคามันยิ่งจะต้องถูกลงด้วย

           :-*
ใช่ครับ ชิ้นส่วนน้อยกว่ากันมากๆ R&Dก็ง่าย ก็วรจะถูกกว่าอยู่แล้วครับ

หมายถึงรถเปล่าไม่รวมแบตเตอรี่ใช่มั้ยครับ
ลองสืบๆ ราคาแบตเตอรี่ดูสิครับ แล้วถอดราคาแบตออก
จะเห็นว่า Good Cat ถูกกว่า Civic 1.5T แบบถอดราคาถังน้ำมันออกอ่ะครับ

เพราะชิ้นส่วนที่มีราคาแพงใน EV คือตัวแบตเตอรี่ แต่เรากลับไม่ให้ราคามัน

หุหุหุ

มันต้องเทียบระหว่างรถ ev ถอดแบตเตอรี่ กับรถสันดาปถอดเครื่องยนต์สิครับ ถึงจะเทียบกันได้
ไม่ใช่รถสันดาปถอดถังน้ำมันครับ

ICE Engine + transaxle = Electric motor + Transaxle
สิครับ เพราะเป็นตัวแปลงพลังงานให้เป็นงาน

Fuel Tank = Battery เพราะเป็นส่วนที่บรรจุและกักเก็บพลังงาน

Fuel / Gas = Electricity เพราะเป็นพลังงานสิ้นเปลืองที่ใช้แล้วหมดไป

ถ้ารถสันดาปถอดเครื่องยนต์ มันก็จะเหลือแต่บอดี้ ช่วงล่าง และส่วนตกแต่ง
เปรียบกับ BEV คือการถอด Electric motor drive ออกครับ


ออฟไลน์ Akrachai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 350
    • อีเมล์
ผมเรียนตามตรงเลยครับคนไทยส่วนมากส่วนใหญ่ ต้องมองรถจีนถูกครับมันก็อาจจะยังงั้นเพราะ MG มาตีตลาดรถแมร่งโครตถูก

แต่ว่าอย่าลืมนะ MG ZS EV ก็ราคาประมาณนี้นะครับ......ผมกล้าพูดตรงนี้เลยนะว่าถ้าเป็นค่ายรถญี่ปุ่นแล้วราคานี้ ถ้า honda ทำมาขาย toyota ทำมาขายนะคนไทยจะมองว่าราคานี้ถูกนะ ตลกจัดๆเลยครับคนความคิดแบบนี้....คือมันต้องถูกขนาดไหนอะครับถึงจะถูกใจครับ

มันนำเข้าทั้งคันนะ บางคนอาจจะบอกว่าภาษีจีน 0% แต่มาโดนภาษีที่ไทยไงครับ
(คุณต้องไปโทษการคิดภาษีนู้นไม่ใช่ไปโทษค่ายรถเขา เขาทำมาเพื่อกำไรไม่ใช่ผลิตมาทำทานครับ 55555)

ออฟไลน์ คุณ นมๆ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 716
ผมตอบไม่มีความรู้ หรือ อ้างอิงใดๆ ได้

เฉพาะตัวระบบเครื่องยนต์ vs motor

เครื่องยนต์มีชิ้นส่วนนับหมื่นๆ ชิ้น แต่ motor มีแค่หลัก 10 ชิ้น แค่นี้ก็บอกแล้วว่า อะไรแพงกว่า หรือ ถูกว่า

ชิ้นส่วนระดับหมื่นชิ้น กว่าจะ R&D ให้ได้มา และ ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ มันยากกว่าเยอะ เสียทั้งเงินและเวลา

รถ EV ราคา หรือ ต้นทุนหลักๆ น่าจะมาจาก Battery เป็นหลักเลย

เพราะออฟชั่นความปลอดภัย อินโฟเทนเมนท์ และ อื่นๆ มันก็ไม่ได้ต่างกันเลย มีพอๆ กัน อยู่แล้ว

้สุดท้าย ถ้าเทียบราคา คัน ต่อ คัน ผมว่า EV มันควรจะถูกกว่ารถเครื่องยนต์ พอสมควรเลยนะ ยิ่งถ้า Battery ถูกลง ราคามันยิ่งจะต้องถูกลงด้วย

           :-*
ใช่ครับ ชิ้นส่วนน้อยกว่ากันมากๆ R&Dก็ง่าย ก็วรจะถูกกว่าอยู่แล้วครับ

หมายถึงรถเปล่าไม่รวมแบตเตอรี่ใช่มั้ยครับ
ลองสืบๆ ราคาแบตเตอรี่ดูสิครับ แล้วถอดราคาแบตออก
จะเห็นว่า Good Cat ถูกกว่า Civic 1.5T แบบถอดราคาถังน้ำมันออกอ่ะครับ

เพราะชิ้นส่วนที่มีราคาแพงใน EV คือตัวแบตเตอรี่ แต่เรากลับไม่ให้ราคามัน

หุหุหุ

มันต้องเทียบระหว่างรถ ev ถอดแบตเตอรี่ กับรถสันดาปถอดเครื่องยนต์สิครับ ถึงจะเทียบกันได้
ไม่ใช่รถสันดาปถอดถังน้ำมันครับ

ICE Engine + transaxle = Electric motor + Transaxle
สิครับ เพราะเป็นตัวแปลงพลังงานให้เป็นงาน

Fuel Tank = Battery เพราะเป็นส่วนที่บรรจุและกักเก็บพลังงาน

Fuel / Gas = Electricity เพราะเป็นพลังงานสิ้นเปลืองที่ใช้แล้วหมดไป

ถ้ารถสันดาปถอดเครื่องยนต์ มันก็จะเหลือแต่บอดี้ ช่วงล่าง และส่วนตกแต่ง
เปรียบกับ BEV คือการถอด Electric motor drive ออกครับ

รถ EV ชิ้นส่วนน้อยกว่า ICE จริงแต่ต้นทุนสูงกว่าแน่นอน

ขณะที่เครื่องยนต์ใช้บล็อคอลูมินเนียนหรือเหล็กหล่อที่หาได้ทั่วไปในโลกมาหล่อหรือกลึงให้ออกมาเป็นชิ้นส่วนต่างๆ แต่แบตรถev ใช้ทั้งโคบอล แรร์เอิร์ธ ลิเทียม ซึ่งเป็นแร่ที่หายากมีไม่กี่ที่ที่มีแร่พอซัพพลายผลิตรถ แค่ต้นทุนวัตถุดิบก็ไม่เท่ากันแล้ว ยังไม่ต้องพูดกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่าเครื่อง อะไหล่เครื่อง ใครๆก็ทำได้งานเทียบ งานOEM งานไทย งานไต้หวัน งานโลกที่3มีหมด แต่แบตเตอร์รี่ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย โลกนี้ทำได้อยู่กี่เจ้าเอง นี่แหละครับ EV ชิ้นส่วนน้อยกว่าแต่ทำไมต้นทุนมันแพงอยู่

ออฟไลน์ iLLuSion

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 69
แนะนำลองดูคลิปนี้ครับ เกี่ยวกับเรื่องราคา


ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 685
เปิดเวบที่โน้นพูดง่ายไปมั้ง สเปคแต่ละประเทศต่างกัน
สื่ออาชีพต้องอ้างถึงราคาขายส่ง อุปกรณ์เสริม แต่จะเข้าถึงได้ไหมก็ลำบาก
เอาแค่ตู้อัดไฟac หมื่นห้าก็มี ฝรั่งสั่งไปชงไฟกับเทสล่าตามบ้านเยอะมาก
ไม่ต้องใช้ตู้ใหญ่แต่กล่องไส้ในนิดเดียวพอกัน

สั่งรถมาทีเป็นร้อยเป็นพันคัน ไม่มีราคาส่งเลยเหรอ ตลก
นี่เป็นสาขาจากบ.แม่ ไม่ใช่ตัวแทนที่ซื้อสิทธิ์มาขายแบบดาวลูกไก่ ลูกศร
ต้องมีราคาส่ง วัตถุดิบผลิตในประเทศจากต้นน้ำยันปลายน้ำทั้งหมด
แล้วทำไมราคาเครื่องขับไล่ จรวดต่อต้านอากาศยานถูกกว่าเจ้าตลาดครึ่งๆ
ดีพอกัน ชาวบ้านก็ซื้อไป ของรัสเซียแพงกว่าดีกว่า

เมืองจีนใหญ่โตมาก และพื้นที่อุดมสมบูรณ์มีครึ่งหนึ่งของประเทศ
จากเจียงหนานไปปักกิ่งนั่งเครื่องบินไอพ่นโดยสาร4ชม.
ไกลพอๆกับไป เฉิงตู เสฉวน,บางกอก หรือบางกอกไปฮ่องกง
ค่าขนส่งเท่าไหร่ ไปทางไหน ยังไง ผ่านด่านอะไร อธิบายหน่อย

เอาแค่ขนส่งเครื่องกระเบื้องกังไสหรือจินเต๋อเจิ้น ที่ดีที่สุดในแผ่นดิน
ฝรั่งโบราณเรียกเครื่องกระเบื้องเปลือกไข่นี่ว่า ไชน่า เป็นที่มาของชื่อจีนในภาษาฝรั่ง
สาวผู้ดีไหนจะแต่งผัว พ่อแม่ต้องซื้อเครื่องกระเบื้องน้ำชากังไสเป็นของให้ฝ่ายชาย
ถ้าจนขนาดไม่มีเงินซื้อไม่ต้องแต่ง เหม็นสาบคนจน ตามประสาฝรั่งศักดินา ไม่ใช่ฝรั่งขี้นก

กังไสเป็นเมืองเล็กๆ อยู่มณฑลเจียงซี เวลาส่งเครื่องกระเบื้องหลายสิบตันต่อปี
จะมีท่าเรือสำเภาไม่ไกลจากหมู่บ้านที่ผลิต สำเภาเล็กล่องไปตามแม่น้ำสาขา
ออกสู่ฉางเจียงแล้วเข้าคลองจักรพรรดิ์สร้างมาพันกว่าปี
สมัยสุ่ยหยางตี้ ตรงเข้าสู่ปักกิ่งได้

ถ้าเป็นสินค้าขนาดใหญ่ จะใส่สำเภาใหญ่ออกทะเลที่ซ่างไห่หรือหางโจว
ล่องเรือขึ้นไปตามลมมรสุมประจำฤดู
ผ่านหนิงโป ชิงเต่า เลาะเลียบชายฝั่งไปถึงเทียนจินเมืองท่าสำคัญของภาคเหนือ
เทียนจินมีแม่น้ำเก้าสาย คนเทียนจินมีปูกินทุกวันตลอดทั้งปี
เมื่อเทียบท่าที่เทียนจิน ถ้ามีใบผ่านทางจะเข้าคลองจักรพรรดิ์ตรงไปปักกิ่ง
ถ้าไม่มีต้องลงของถ่ายลงเรือที่มีใบผ่าน เดินทางด้วยรถยนต์ยัง3-4ชม.กว่าจะถึงชายขอบปักกิ่ง

สมัยแมนจูมายึดปักกิ่งเพราะอู๋ซานกุ้ย นำทาง มาเองไม่เป็น ฮ่องเต้หน้าตาเป็นไงไม่เคยเห็น
แต่กบฏชาวนาจากซีอานที่ถึงกู้กงก่อน  บุกไปถึงอุทยานจิงซานกงหยวนท้ายวัง
ก็เจอศพฮ่องเต้หมิงผูกคอตายใต้ต้นไม้ ตายอย่างปริศนา บ้างว่าขันทีหมั่นไส้สบโอกาสเอาคืนซะ
ราชวงศ์หมิงสิ้นสุดตรงนั้น พอแมนจูมาถึงก็ตั้งตนเป็นฮ่องเต้ ตั้งอู๋ซานกุ้ยเป็นอ๋องสี่มณฑล
ผ่านไปไม่กี่สิบปีอู๋ซานกุ้ยไม่พอใจที่เป็นแค่อ๋องปกคลองแค่สี่มณฑล จึงก่อกบฏอยากเป็นฮ่องเต้
แมนจูที่เชื่อใจชุบเลี้ยงอู๋ซานกุ้ยมาอย่างดี ก็กวาดล้างตัดหัว ล้างโคตร ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
อ่านที่คนฮั่นหัวเอียงเขียน ก็ละเลงจนแมนจูไม่เป็นคน ฮ่องเต้แมนจูทำงานหนักเท่าจูหยวนจางเกินห้าคน
คนจีนถึงยอมไว้เปีย เพราะบ้านเมืองสุขสงบต่อเนื่องร้อยปี จนว่างมาแข็งข้อ
 
และญาติฮ่องเต้ปลุกผี โค่นชิง กู้หมิงมาเลื่อยขาเก้าอี้ฮ่องเต้
คนฮั่นที่หลงเชื่อพรรคดอกไม้ ก็ซวยไป
แบบนิยายกำลังภายใน เจ็ดกระบี่เขาเทียนซาน ที่คนแมนจูแต่ง
จนตั้งธนาคารรับฝากเงินคนจนโดยคหบดีผู้มั่งคั่งจากซีอาน เป็นที่แรกในโลก

รถลงเรือจากเจียงหนาน ออกทะเลตงไห่ไปเทียบท่าที่เทียนจินถึงเร็วกว่าแหลมฉบัง1-2วัน
ที่ออกทะเลหนานไห่ ร่องน้ำเดินเรือยากกว่า โจรสลัดชุกชุม ไม่แพ้โซมาเลียบางพื้นที่

ใครก็ว่าขายแพงไป ของแถมราคาเวอร์ไป บางอย่างไม่จำเป็นก็จับยัดในรุ่นล่าง
แล้วภาษีจัดเก็บใหม่จะลดราคารึเปล่า
ถ้าคนไทยไม่ซื้อจะลดราคารึเปล่า ทำไมต้องง้อล่ะ

ถ่านทั้งสองรุ่น วิ่งได้น้อยและลดเร็วกว่าคู่แข่ง
400 วิ่ง100-120 ได้ 270กม.
500 วิ่ง 100-129 ได้350กม.
จ่ายพอกัน ถ่านยังสู้รุ่นที่คู่แข่งขายอยู่ไม่ได้ แล้วโฉมใหม่ไม่แจ๋วกว่ารึ

เงินล้านวันนี้เยอะมากสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ยุคนี้ คนทั่วไปต้องเอาคุ้มไว้ก่อนเป็นธรรมดา
ตกงานเมื่อไหร่ไม่รู้ จะสั่งปิดอะไรอีกตอบไม่ได้ คนไม่มีงานเป็นปีจนต้องเปลี่ยนงาน
ส่วนพวกประสาทแดก ไม่ยอมให้เขาเอาไฟฟ้าช็อกที่สมองแก้บ้าแถวหลังคาแดงจะสนใจทำไม
ขนาดฉีดวัคซีนยังวัดดวง ว่าจะตาย พิการ แพ้จนนอนซมที่รพ. จะคิดอะไรมาก

ไม่แปลกที่คนจะระเบิดใส่ ก็เล่นเคาะกะลาให้หมาดีใจตั้งหลายเพลา
ควรรึที่ทำตัวกะล่อนแบบนี้ ลงทุนเป็นหมื่นล้าน แค่ราคาโยกอยู่นั่น
คนก็ด่าเลิกซื้อแค่นั้น ใครจะซื้อก็ซื้อไปจะกินปูนร้อนท้องทำไม
เงินใครเงินมัน ทุกคนมีสิทธิ์วิจารณ์ได้ตามกม.
ไม่ต้องครอบกะโหลกคิดแทน

แค่ดูทีวีทุกวันยังมีบางคนเผลอเขวี้ยงของใส่จนทีวีพังเลย
ไม่ดูอารมณ์คนไทย แถมยียวนกวนประสาท คงไม่คิดว่าคนจะไม่ดุร้ายขนาดนี้มั้ง
แสดงให้เห็นว่า ที่ออกไปตจว.เป็นละครแหกตา สมควรรับความรู้สึกของคนดูไปเต็มๆ
เปิดราคาแต่แรก ไม่ต้องให้ความหวังเรื่องก็จบ ทำไมไม่ทำปล่อยหน้าม้ามาป้วนเปี้ยนทำไม
คนถามในเพจว่า เปิดราคามาช๊อกแน่ ยังแก้ต่างว่า ราคาไม่ผิดหวัง แล้วนี่อะไร

ไม่ต่างมือถือจีนแดงใช้เลนส์เย ขายแพง โม้ว่าใส่snap dragon ตัวแพงสุด ราคาถูกว่าผลไม้
สื่อเชียร์กันใหญ่เพราะของดีราคาถูก ขนาดจ้าง นาตาชา โรมานอฟ มาขายของ
พอตาแก่เจ้าของมาโม้ที่ไทย เปลี่ยนcpu เป็นที่ทำเองขายราคาเดิม
สื่อช๊อก ถามว่าเปลี่ยนcpuทำไม ตาแก่พูดเอาแต่ได้แบบจีนแดงว่า

"ของเหมือนกัน ใช้ได้เหมือนกัน จะไปเล่นอะไรมาก"

ในห้องที่ตาแก่โม้ มีคนตะโกนด่าพ่อล่อแม่ทันทีเหมือนกัน
ที่โน้นคนจีนแดงก็ด่ากันซึ่งหน้าแบบนี้ กงอันไม่จับ ด่าซึ่งหน้าหนักกว่าคนไทยเยอะ
สันดานพวกแผ่นดินใหญ่ชั่วๆไงก็แบบนี้ เส้นดีหน่อยก็ร่ำรวยปรูดปราด จนฝรั่งขังลูกสาวเป็นปี
คนไทยรู้จักจีนแดงเยอะ ญาติก็ยังอยู่ไปมาหาสู่กันตลอดมีมาก
คนไทยไม่ได้โง่ รู้ทัน และเจ็บมาเยอะ พอมีที่ระบายก็เต็มที่ไม่ใช่เรื่องแปลก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 31, 2021, 17:39:13 โดย bahamu »

ออฟไลน์ pjs6306

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,107
    • อีเมล์
ญี่ปุ่นก็เปิดมาแล้วไงนิสันลีฟลืมไปแล้วเหรอ..

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,950
    • อีเมล์
          รถ EV เป็นของใหม่สำหรับประเทศไทย  ช่วงนี้ราคายังสูง  สถานีชาร์ตยังมีน้อย  คงต้องรอสัก 5-6 ปี ราคาคงจะลงมาให้พอจับต้องได้  สถานีชาร์ตคงจะมีเพิ่มขึ้น  หรือถ้า ป.ต.ท. ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสักไม่กี่ปี ราคารถคงพอจับต้องได้ สถานีชาร์ตไฟคงมีมากพอที่จะทำให้คนใช้รถคลายกังวลเรื่องสถานีชาร์ต 
 

ออฟไลน์ TCP

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 705
ตอบตรงๆ เลยนะ .. " เพราะคนไทยส่วนใหญ่ - โง่ - ครับ "

โลกของธุรกิจ โลกของความเป็นจริง ไม่มีพ่อค้าคนไหน ผลิตสินค้ามาขาย แล้วตั้งราคาขายอิงตามต้นทุนการผลิตครับ

แต่ .. เค้าอิงตามโอกาส / ทางเลือกของผู้บริโภคครับ ว่า ผู้บริโภคมีทางเลือกแค่ไหน , ธุรกิจเค้า มีคู่แข่งแข่งด้วย แค่ไหน

- MG ผลิตรถเก๋งไฟฟ้าแท้ๆ (ไม่มีเครื่องยนต์น้ำมัน) แค่ 2 รุ่น ราคาก็เกือบๆ 1 ล้าน - 1.2 ล้าน
แล้ว GWM / ORA เค้าจะตั้งราคา Good Cat ถูกๆ ไปทำไม  เพื่ออะไร .. จะลดกำไรตัวเองลง เพื่อทำบุญให้ผู้บริโภค ???

- ถ้าตั้งราคาถูกๆ สมใจผู้บริโภคคนไทยจำนวนมากๆ กวาดยอดจองถล่มทลาย .. เค้าก็ไม่มีปัญญาจะผลิตรถจำนวนมากๆ ตอบสนองความต้องการมหาศาลได้ทันอยู่ดี
สุดท้าย ก็จะเกิด .. "ธุรกิจขายใบจอง" มีคนไทยจำนวนนึง รู้แกว รีบจองสร้างยอดให้ดูเยอะๆ แล้วก็ขายใบจองทำกำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง
ส่วน GWM ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย มีแต่เสียโอกาส และเสี่ยงเสียชื่อเสียงจากการบริหาร ไม่ให้เกิดปัญหาขายใบจองอีกตะหาก
มีแต่เสียกับเสีย ไม่มีได้เลยซักนิด .. สู้ตั้งราคาขายแพงๆ แบบนี้แหละ สอดคล้อง เหมาะเจาะกับหลายๆ อย่าง

1. ผลิต/นำเข้ารถมาส่งมอบได้กับลูกค้าเป้าหมายได้ทันตามความต้องการที่แท้จริง
2. ไม่ลดภาพ / ไม่ลดค่าสินค้าตัวเองให้ดู low ดูราคาถูกๆ  มีผลให้ใครที่ซื้อไปใช้ ไปขับ รถมันช่วยเสริมภาพพจน์มากกว่า ว่ามีฐานะ ล้ำหน้า ไฮโซ ฯลฯ
3. สินค้าเค้าเก๋ไก่ มีเอกลักษณ์ เป็นตัวของตัวเอง + มีคุณสมบัติด้านเทคโนโลยี่ใหม่ มันไม่จำเป็นต้องพุ่งเป้าไปยังตลาดระดับ Mass อยู่แล้ว

มันก็เหมือนสมัยที่
- โทรศัพท์มือถือออกใหม่ๆ แบบ Nokia เครื่องแรกๆ ของโลก
- มายุคที่ 2 ที่ I-phone (มือถือ Touchscreen) ก็มือถือเหมือนกัน แต่แค่ไฮเทดด้านหน้าจอ ถึงกับทำให้ Nokia ล้มละลายได้
- มายุคที่ 3 (วันนี้) ที่ Samsung ออกมือถือ Touchscreen แบบจอพับได้  เหมือนเอามือถือ Touchscreen จอเดียว มารวมกับ I-pad ในเครื่องเดียวกันได้

จากตัวอย่างเรื่อง ความก้าวหน้าต่อเนื่องของโทรศัพท์มือถือที่ผมยกมาเปรียบเทียบ ... ตอนเค้าออกขายครั้งแรก มีใครเจ้าไหนมั้ย .. ที่ต้องขายถูกๆ

?? ??
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 31, 2021, 23:03:35 โดย TCP »

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,901
ตอบตรงๆ เลยนะ .. " เพราะคนไทยส่วนใหญ่ - โง่ - ครับ "

โลกของธุรกิจ โลกของความเป็นจริง ไม่มีพ่อค้าคนไหน ผลิตสินค้ามาขาย แล้วตั้งราคาขายอิงตามต้นทุนการผลิตครับ

แต่ .. เค้าอิงตามโอกาส / ทางเลือกของผู้บริโภคครับ ว่า ผู้บริโภคมีทางเลือกแค่ไหน , ธุรกิจเค้า มีคู่แข่งแข่งด้วย แค่ไหน

- MG ผลิตรถเก๋งไฟฟ้าแท้ๆ (ไม่มีเครื่องยนต์น้ำมัน) แค่ 2 รุ่น ราคาก็เกือบๆ 1 ล้าน - 1.2 ล้าน
แล้ว GWM / ORA เค้าจะตั้งราคา Good Cat ถูกๆ ไปทำไม  เพื่ออะไร .. จะลดกำไรตัวเองลง เพื่อทำบุญให้ผู้บริโภค ???

- ถ้าตั้งราคาถูกๆ สมใจผู้บริโภคคนไทยจำนวนมากๆ กวาดยอดจองถล่มทลาย .. เค้าก็ไม่มีปัญญาจะผลิตรถจำนวนมากๆ ตอบสนองความต้องการมหาศาลได้ทันอยู่ดี
สุดท้าย ก็จะเกิด .. "ธุรกิจขายใบจอง" มีคนไทยจำนวนนึง รู้แกว รีบจองสร้างยอดให้ดูเยอะๆ แล้วก็ขายใบจองทำกำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง
ส่วน GWM ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย มีแต่เสียโอกาส และเสี่ยงเสียชื่อเสียงจากการบริหาร ไม่ให้เกิดปัญหาขายใบจองอีกตะหาก
มีแต่เสียกับเสีย ไม่มีได้เลยซักนิด .. สู้ตั้งราคาขายแพงๆ แบบนี้แหละ สอดคล้อง เหมาะเจาะกับหลายๆ อย่าง

1. ผลิต/นำเข้ารถมาส่งมอบได้กับลูกค้าเป้าหมายได้ทันตามความต้องการที่แท้จริง
2. ไม่ลดภาพ / ไม่ลดค่าสินค่าตัวเองให้ดู low ดูราคาถูกๆ  มีผลให้ใครที่ซื้อไปใช้ ไปขับ รถมันช่วยเสริมภาพพจน์มากกว่า ว่ามีฐานะ ล้ำหน้า ไฮโซ ฯลฯ
3. สินค้าเค้าเก๋ไก่ มีเอกลักษณ์ เป็นตัวของตัวเอง + มีคุณสมบัติด้านเทคโนโลยี่ใหม่ มันไม่จำเป็นต้องพุ่งเป้าไปยังตลาดระดับ Mass อยู่แล้ว

มันก็เหมือนสมัยที่
- โทรศัพท์มือถือออกใหม่ๆ แบบ Nokia เครื่องแรกๆ ของโลก
- มายุคที่ 2 ที่ I-phone (มือถือ Touchscreen) ก็มือถือเหมือนกัน แต่แค่ไฮเทดด้านหน้าจอ ถึงกับทำให้ Nokia ล้มละลายได้
- มายุคที่ 3 (วันนี้) ที่ Samsung ออกมือถือ Touchscreen แบบจอพับได้  เหมือนเอามือถือ Touchscreen จอเดียว มารวมกับ I-pad ในเครื่องเดียวกันได้

จากตัวอย่างเรื่อง ความก้าวหน้าต่อเนื่องของโทรศัพท์มือถือที่ผมยกมาเปรียบเทียบ ... ตอนเค้าออกขายครั้งแรก มีใครเจ้าไหนมั้ย .. ที่ต้องขายถูกๆ

?? ??

Nokia พังเพราะ I Phone???

จริงๆเหรอครับ???

Nokia เค้าขายให้ Microsoft
บ.Nokia ได้ตังค์ไปมหาศาล

แต่ Microsoft ตั้งใจจะเปลี่ยนชื่อ Nokia เป็น Windows Phone แต่ระบบ Windows Phone มันไม่ได้เรื่องเอง Deverloper มีแต่ความโลภ ไม่มีใครอยากฝาก Apps ไว้ให้ เพราะเรียกเก็บเงินโหดมาก

ระบบกล้อง 2 ตัวสุดท้ายของ lumia นำห่าง I Phone ไปหลายขุมนะครับ

ที่พังเพราะ Microsoft นะครับ มิได้พังเพราะ Nokia

ทุกวันนี้ Nokia ยังเป็นบริษัทที่ขายอุปกรณ์ Telecom ที่ใหญ่อันดับต้นๆของโลกนะครับ

ออฟไลน์ TCP

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 705
กรณี Nokia กับ Microsoft ..  ผมว่า
- Nokia พลาดไปแล้วรอบแรก แต่สายป่านยาว
- Microsoft โง่เองมากกว่าครับ ที่ยอมจ่ายแพงขนาดนั้น

I-phone รุ่นแรกเปิดตัว ปี 2007
https://www.iphone-droid.net/apple-announced-first-iphone-on-january-9-2007/

Nokia ขายธุรกิจมือถือไปให้ Microsoft ปี 2013
https://www.blognone.com/node/48182

ลองคิดดูละกันว่า กว่า Nokia จะหาทางออกได้ ก็นาน 6 ปีเต็ม

แล้วทาง Microsoft เองสุดท้าย ก็ไปไม่รอด ต้องขายธุรกิจ Smart Phone ที่ซื้อมาแพงสุดกู่ ในเวลาแค่ 3 ปี (2016)
https://www.bbc.com/news/technology-36320329


สรุป  ::  Nokia โชคดีมากแล้ว ส่วน Microsoft อย่างโง่


จบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 31, 2021, 22:43:19 โดย TCP »

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,495
ผมว่าคนติดว่า ของจีน จะต้องถูก นี่แหละครับ ข้อใหญ่สุด