ผู้เขียน หัวข้อ: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++  (อ่าน 89639 ครั้ง)

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 13:42:28 »
      การขับขี่นอกเมืองด้วยความเร็วเดินทางครับ เจ้า civic es นี่จะตลอดสนองดีขึ้นมากมายเลยครับ ความเร็ว 100kph ที่เกียร์ 4 ใช้รอบเครื่อง 2700 rpm ครับ ขับตามปกติเกียร์จะเปลี่ยนที่ประมาณ 3000 rpm แต่ถ้าเหยียบลึกก็จะลากรอบเครื่องยนต์ให้ครับตามน้ำหนักเท้า วิ่งทางไกลขับสบายพอสมควรครับ อยากจะแซงก็ไม้ต้องกดคันเร่งลึกมาก ไม่จำเป็นต้องคิกดาวน์เลยด้วยซ้ำก็สามารถแซงได้สบาย ถนนสองเลนรถสวนกันก็สามารถแซงได้โดยไม่ต้องลุ้นครับ นี่เป็นข้อดีอีกข้อของรถคันนี้ที่ผมชอบมากครับ ทำให้ขับทางไกลสบายขึ้นมาก กดคันเร่งลงไปนิดเดียวก็แซงขาดได้สบาย ในสถานการณ์เหมือนๆกัน altis 1.6 กะ mazda3 1.6  ต้องกดคันเร่งลึกกว่ามากครับถึงจะแซงขาด ถ้าให้คะแนนเล่นๆดู เต็ม 10 ผมให้ civic ES=8.5---new vios=8--- 2003 altis 1.6=7---2006 mazda3 1.6=6 ครับ

     อัตราเร่งครับ อาจจะเพี้ยนบ้างเพราะทดสอบคนเดียว ขับเองจับเวลาเอง (แถมคนขับฝีมือแย่อีกตะหาก) 0-100kph ได้ที่ 12.5s ครับ 80-120kph ได้ 9.7 วินาที สำหรับความเร็วสูงสุดนั้นไม่ได้ทดสอบมาครับ ไม่เคยทำได้ถึงความเร็วสูงสุดสักครั้งเลยด้วยซ้ำ ต้องขอโทษด้วยครับ เนื่องจากผมคิดว่าด้วยอายุรถ ช่วงล่าง สภาพถนน การจราจร ยางติดรถ ยังไม่ดีพอจะทำให้ผมมั่นใจที่จะทำความเร็วระดับนั้นครับ และที่สำคัญคือเจ้าของรถฝีมือไม่ถึงครับ ใจไม่แข็งพอด้วย กลัวตายครับผม(แหะแหะ) ความเร็วสูงสุดเท่าที่เคยขับคือ 160 kph ครับ ช่วง 120-140-160 ความเร็วไหลได้ต่อเนื่องดีเรื่อยๆครับ ทั้งๆที่ยังเหยียบคันเร่งไม่สุดด้วยซ้ำ คาดว่าสูงสุดน่าจะได้ 185-190 kph ที่เกียร์ 4 ครับ ตามที่เพื่อนๆหลายคนรวมทั้ง magazine หลายๆเล่มเคยทดสอบไว้ (สำหรับตัวเกียร์แมนน่วลทราบว่าได้ถึง 205 kph ครับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 02, 2009, 13:43:59 โดย tfirst01 »

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 13:45:07 »
     อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงครับ เท่าที่เคยจับดูแบบคร่าวๆนะครับ ไม่เคยเขย่าตัวถึงกรอกน้ำมันแบบละเอียดๆเหมือนพี่จิมมี่นะครับ ในเมืองทำได้ดีกว่า 10 km/l เกือบตลอด ส่วนมากจะอยู่ที่ 10.2-10.5 ครับ แต่ต้องขอบอกก่อนว่านี่เป็นตัวเลขจากการทดสอบในเมืองของต่างจังหวัด ตัวเลขอาจจะดูดีกว่าที่ควรเป็น คิดว่าถ้าสภาพจอดๆเร่งๆแบบเมืองกรุงกินจุกว่านี้หน่อย ส่วนการเดินทางด้วยความเร็ว 110-120 kph ตามปกตินะครับ ไม่ได้ตั้งใจขับเนียนๆเน้นตัวเลขจะได้ 14.5 km/l ครับ ถ้าตั้งใจเหยียบประมาณ 100 kph ให้สม่ำเสมอก็ได้สวยกว่า 16 km/l ง่ายๆครับ ประหยัดพอตัวดีเดียว เดินทางไกลประหยัดกว่า new vios แบบรู้สึกได้(แต่ในเมือง vios ก็ประหยัดกว่าชัดเจนเช่นกัน)  แต่ก็พอๆกะ altis ส่วน mazda3 เคยทำได้ดีสุดแค่ 12.5 km/l แรงสุดประหยัดสุดต้องยอมรับครับ vtec เค้าเด็ดจริง อย่างไรก็ตามถ้าขับแบบตะบี้ตะบันคันเร่งระดับ 140-160 kph ตลอดทางแถมค้างอยู่ที่เกียร์ 3 บ่อยๆก็ไม่ยากเช่นกันที่เจ้าจอมประหยัดจะซดเก่งขึ้นมาระดับ 10 km/l เลยล่ะครับ

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 13:46:51 »
     อีกอย่างนึงที่ต้องชมเชยสำหรับเครื่องยนต์ตัวนี้คือเสียงเครื่องครับ ฟังแล้วให้อารมณ์รถสปอร์ทดี ยิ่งเกิน 4500 rpm ขึ้นไปล่ะหวานหูดีแท้ เป็นข้อดีอีกอย่างของเครื่องสี่สูบสไตล์ฮอนด้าเขาล่ะครับ (อันนี้จริง mazda3 ก็เสียงดีพอกัน เสียก็แต่มาแค่เสียง กำลังไม่มาตามเสียงเลย) อย่างไรก็ตามอย่าแปลกใจนะครับถ้าคุณจะพบว่ากำลังที่เพิ่มขึ้น 10 แรงม้ากะ 5 Nm ของระบบ vtec จะไม่ได้แรงกว่าเครื่องหัวฉีดธรรมดาๆในตัว exi อย่างมีนัยสำคัญเลยครับ(อ้าวไหนว่า vtec เด็ดจริงไง)  อันนี้รู้มาจากคำบอกเล่าของเพื่อนๆรวมทั้งประสบการณ์ตรงที่เคยสัมผัสนะครับ ในการใช้งานทั่วไปลากไปจนถึงการเดินทางด้วยความเร็วสูงระดับ 140 kph คุณจะไม่สามารถสัมผัสความแตกต่างระหว่างเครื่องหัวฉีดธรรมดากะเครื่อง vtec ได้เลย ซึ่งความจริงแล้วมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องเหลือเชื่อแต่อย่างใดเนื่องจากเมื่อดูตัวเลขกันจริงๆแล้วกำลังที่เพิ่มขึ้นมานั้นมาเอาที่รอบเครื่องยนต์สูงกว่า  200-300 rpm ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าที่รอบสูงๆเครื่อง vtec น่าจะวิ่งดีกว่า อย่างไรก็ตามผมยังไม่มีโอกาสได้ทดสอบสมมติฐานนี้นะครับ ใครเคยลองแล้วช่วยบอกที และอีกอย่างนึงก็คือระบบ sohc vtec นี้เกิดมาเพื่อเน้นเรื่องการประหยัดน้ำมันครับ ซึ่งลองขับแบบผิวเผินก็พอสัมผัสได้ครับว่าตัว exi กินน้ำมันมากกว่าหน่อย อีกอย่างจำได้ว่าตอนเปิดตัวมาใหม่ๆเคยอ่าน review ของ thaidriver ปรากฏว่าตัว vtec ประหยัดกว่า 2-3 km/l ที่ความเร็วทดสอบ 110kph  ครับแต่ในการใช้งานจริงผมไม่แน่ใจว่ามันจะต่างกันขนาดนั้นนะ

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 13:48:54 »
     ช่วงล่างของรถรุ่นนี้ด้านหน้าเป็น โทคอนโทรลลิงค์สตรัท ด้านหลังเป็นรีแอคทีฟลิงค์ดับเบิลวิชโบน พร้อมเหล็กกันโคลงทั้งหน้าหลังในรุ่น vti ครับ พวงมาลัยเป็นแบบแรคแอนด์พิเนียน ล้อขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 185/65R15 ครับ(ตอนนี้ผมเปลี่ยนมาใช้ 195/60R15 แทน รู้สึกไม่แตกต่างจากเดิมนะ) รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของฮอนด้าที่ไม่ใช้ช่วงแล้วแบบดับเบิลวิชโบนทั้งสี่ล้อ แต่สำหรับการตอบสนองก็ถือว่าใช้ได้ครับ แต่บางทีขับในเมืองก็รู้สึกว่าแข็งไปนิด ด้านหน้าก็กระชับดีแต่ด้านหลังนี่เด้งไปหน่อย ขับเร็วๆเจอ speed hump สูงๆมีสะดุ้งครับ ส่วนพวงมาลัยน้ำหนักกำลังดีครับ ออกจะหนืดๆหน่อยแต่ก็ขับในเมืองได้ไม่เหนื่อยครับ แต่อันที่จริงชอบแบบเบาหวิวแบบโตโยต้ามากกว่า หมุนด้วยนิ้วได้เลยสะดวกดี แต่ในความเร็วสูงแล้วน้ำหนักขนาดนี้กำลังดีเลยครับ หนักแน่นดี แถมตอบสนองไวด้วยครับ จิกโค้งได้สบายๆ แต่รู้สึกว่าการตอบสนองของพวงมาลัยจะเหนือกว่าช่วงล่างอยู่หน่อย คือช่วงล่างนี่กระชับ เหมือนจะเกาะแต่ก็ไม่เกาะที่เท่าที่ควรครับ ความเร็วเดินทางที่ทำได้โดยไม่เสียวคือไม่เกิน 140 kph ครับ นอกจากนั้นเริ่มจะไม่ค่อยนิ่งแล้วล่ะ แต่เท่าที่ขับมาก็ยังไม่เคยเจออาการเบาๆร่อนๆเหมือนจะบินนะ แค่เริ่มไม่นิ่งไม่ค่อยมั่นใจแค่นั้น เทียบกับ mazda3 แล้วรายนี้จะแข็งกว่า เด้งกว่าทั้งหน้าและหลัง(ล้อ 16 นิ้วยางแก้มเตี้ยคงมีผลส่วนหนึ่ง) แต่เกาะกว่าชัดเจน ขับ 160 แล้วยังสบายๆ พวงมาลัยในเมืองจะหนักพอกันแต่วิ่งทางไกลแล้ว mazda3 จะนิ่งกว่า จิกกว่าครับ สำหรับเรื่องนี้เต็ม 10 ให้ mazda3=9 คะแนน, civic=8 คะแนน,altis=6.5 คะแนน

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 13:50:23 »
     สำหรับระบบเบรกครับ ในรุ่น vti จะเป็นแบบดิสก์เบรกทั้งสี่ล้อ มีครีบระบายความร้อนในล้อหน้า ตัวโลว์ออปชั่นก็ไม่มีเอบีเอสตามคอนเซปล่ะครับ แป้นเบรกตื้นครับ เหยียบไประยะแรกๆนี่จะหยุ่นๆ เป็นนัยๆว่าออกแบบมาให้สามารถหยุดรถได้อย่างนุ่มนวลในสภาพการขับขี่ในเมืองที่ต้องขับๆหยุดๆ แต่ถ้าเหยียบแค่นั้นแล้วเริ่มไม่พอ ทันทีที่เราเหยียบลึกเจ้าไปอีกนิดแป้นเบรกจะเปลี่ยนบุคลิกเป็นกระชับขึ้นมามากเลย เหยียบอีกนิดก็ทำให้เบรกจนหยุดกึกหัวทิ่มกันได้ง่ายๆ ตอนได้รถมาใหม่ๆนี่หยุดกึกหัวทิ่มกันบ่อยมากมาย เพราะยังไม่ชินกันแป้นเบรกตื้นๆแบบนี้ครับ ต้องอาศัยปรับตัวให้ชินกะรถ หลังจากนั้นก็สามารถหยุดแบบสมูทได้ตามปกติครับ ขับเร็วๆเบรกแรงๆก็หยุดได้มั่นใจดี สำหรับความสามารถในการหยุดรถนี่คิดว่าแต่ละคันก็ทำได้เหมือนๆกันนะ ต่างๆกันที่บุคลิกของแป้นเบรกมากกว่า ต้องปรับตัวให้ชินกะคันนั้นๆก็หยุดได้อย่างปลอดภัยครับ สำหรับรถผมถึงแม้จะไม่มีเอบีเอสมาให้แต่ก็ยังไม่เคยเบรกจนล้อล็อคตายเลยสักครั้ง แต่เวลาขับถนนลื่นๆก็ยังหวั่นๆเหมือนกัน ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นครับ ถ้าขับคันอื่นที่มีเอบีเอสก็จะทำให้มั่นใจกว่าครับ

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 13:51:50 »
สรุป       

       ตั้งแต่ใช้มาเจ้า civic es นี่ก็ไม่เคยเกเรเลยนะ ไม่มีปัญหากวนใจอะไร เท่าที่จำได้ก็เคยมีสตาร์ทไม่ติดหนึ่งครั้งเพราะแบทหมด เปลี่ยนแบทใหม่แล้วเครื่องเสียงไม่ทำงาน ต้องใส่รหัสกันขโมยใหม่ เคยสามสี่ครั้งที่เสียบกุญแจแล้วบิดสตาร์ทเร็วเกิน immobilizer ก็เกิดติ๊งต๊องไม่สตาร์ทรถให้เราซะงั้น ต้องบิดกลับมาแล้วสตาร์ใหม่ แล้วก็เครื่องเสียงที่คงจะแก่แล้วบางทีก็ไม่อ่านซีดีมันซะเฉยๆ นอกนั้นก็เป็นปัญหาประจำรุ่นอ่ะ อย่างเช่นเสียงรบกวนในห้องโดยสารดังเกินไป อันนั้นคอมเฟิร์มว่าดังจริง ไฟหน้าสว่างน้อยไปหน่อย และโรคพันธุกรรมประจำตระกูลฮอนด้าคือไฟตก ตอนขับอยู่อ่ะสังเกตไม่เห็นหรอก แต่ตอนกลับถึงบ้าน ปิดแอร์ กำลังจะดับเครื่องอ่ะดิ เห็นชัดเลยเลยว่าพอปิดแอร์แล้วไฟหน้ามันสว่างขึ้น พอเปิดแอร์แล้วก็มืดลงนิดนึง อันนั้นทราบมาว่าฮอนด้ารุ่นๆใหม่ก็ยังเป็นอยู่ นอกนั้นก็ไม่พบปัญหาอะไรกวนใจ

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 13:53:51 »
      สุดท้ายนี้อยากบอกว่าในบรรดารถที่ใช้ผ่านมือผมทั้งหมด(ซึ่งก็แค่ไม่กี่คัน แล้วจะพูดทำไม เฮ้อ) รถคันนี้เป็นรถที่ผมรักมันมากที่สุด (ถึงแม้ว่าปัจจุบันผมจำเป็นต้องใช้รถคันอื่นแทนก็เถอะ แต่ได้เลือกได้เมื่อไหร่ผมก็จะคว้ากุญแจเจ้า civic es ทันทีโดยไม่ลังเล) ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนก็เข้ากะตัวผมมากที่สุด ชอบมากกว่ารถรุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ ขนาดที่ว่าถ้าฮอนด้าเกิดบ้าจี้ประกอบเจ้าตัวนี้ขึ้นมาขายอีกครั้ง ผมก็จะบ้าจี้ไปซื้อมาไว้ใช้อีกคันเลยคอยดูสิ  อันนี้พูดจริงๆนะ  อิอิ

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 13:55:01 »
จบแล้วคร้าบบบบ ขอบคุณที่ทนอ่านมาได้จนจบ

ปล.ทุกรูปที่ไม่ใช่รถผมอาศัยรูปจากกูเกิลครับ

ออฟไลน์ BnN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,638
    • อีเมล์
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 14:11:30 »
ละเอียดดีมากๆครับชอบๆ

ออฟไลน์ GUDJA-MAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,648
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 15:00:36 »
รุ่นนี้ผมชอบนะครับ เคยคิดอยากได้มาใช้เหมือนกัน

ผมเคยขับ ES มาทุก gen ตั้งแต่ตัวแรกปี 2000 ยันไปถึงไมเนอร์เชนจ์ตัวสุดท้ายปี 2005
ทุกโฉมมีข้อเสียเรื่องเดียวคือ ระบบกันสะเทือน
ขับแล้วไม่ค่อยประทับใจ กระเด้งมากไปหน่อย
ในย่านความเร็วสูง ถนนเรียบๆ ก็โอเคอยู่

รถรุ่นนี้เป็นอีกรุ่นนึง ที่ฮิตนำมาตกแต่งสไตล์ตัวนอก RS
และทำให้ปีก integra dc2 มือสองตามเซียงกง
ราคาปกติสมัยปี 2004 ของแท้อันละสองพันกว่าบาท ผ่านไปไม่ถึงปี สามารถทำราคาขายปั่นไปได้ถึง 5 พันเศษๆ  :o

ออฟไลน์ flyboy

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 117
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 15:33:12 »
ขอบคุณครับ รุ่นนี้ผมเคยใช้ตัวปี 2000 ซื้อต่อจากเพื่อนพี่สาวแต่บ้านติดกันนี่แหละ เห็นว่าถอยมาลอตแรกเลย ไม่มีแอร์แบคและเอบีเอส พวงมาลัยเป็นสีดำไม่หุ้มหนัง ใช้งานดี เหยียบเป็นมาแล้วก็ประหยัดน้ำมันครับ แต่ช่วงล่างนี่ดิ้นมากๆ สุดท้ายต้องไปโหลดเพื่อแก้ปัญหา แต่ใช้ล้อเดิม อัตราสิ้นเปลืองได้ประมาณ 10-11 โลลิตรในเมืองครับ ถ้าวิ่งต่างจังหวัดไม่เกิน 120 ผมได้อยู่ 14 โลลิตร ค่าบำรุงรักษามาหนักเอาตอนแสนโลแล้วต้องเปลี่ยนพวกลูกหมากต่างๆ หมดไปหมื่นนิดๆ แต่บำรุงรักษาทั่วไปตามระยะก็ประมาณ 2-3000 บาทต่อครั้ง เป็นรถที่เก็บเสียงดีมากครับ เก็บเสียงข้างนอกเข้ามาหมดเลย  ;D แถมเวลาฝนตก เสียงฝนกระทบหลังคาจะดังมากจนแรกๆ ตกใจ เป็นตัวที่น่าน้อยใจเพราะ mugen ไม่ทำชุดแต่งออกมาให้ ผมขายออกไปตอนต้นปี 2007 วิ่งไปแสนสอง ได้มาสี่แสนบาทถ้วนครับ

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,487
    • อีเมล์
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 15:50:46 »
ขอบคุณครับ
สำหรับรีวิวดีๆ

ซีวิคตัวนี้เก็บเสียง"แย่"จริงๆครับ
โดยเฉพาะเสียงยางบดถนนและเสียงลม
มันดังกระหึ่มมากเลยล่ะ

อีกข้อที่ควรระวังอย่างยิ่ง
สำหรับรุ่นนี้ก็คือ เกียร์ รู้สึกว่าจะไปเร็วกว่า
คู่แข่งคันอื่นๆในตลาด

ซีวิคของพี่ผมวีเทคตัวท๊อป
เริ่มเข้าปีที่6 เกียร์พังกลางทางด่วน
เห้ออ เสียไปสองหมื่นกว่าๆ

แต่นอกนั้นถือว่าซีวิคทำได้ดีครับ
แต่มักจะมีคนบอกว่า รุ่นตาโต ทำได้ดีกว่า

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,624
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 16:28:01 »
ถือว่าทำได้ดีเลยครับ สำหรับรีวิวแรก ในครั้งนี้

อันที่จริง จะว่าไปแล้ว ท่านผู้เกินของเรา ก็กำลังเตรียม รีวิวย ซีวิค ไดเมนชัน ครั้งมโหฬารอยู้เหมือนกัน แต่ต้องใช้เวลาอีกสักพัก

จะบอกว่า ไม่ต้องกลัวว่ารถตัวเองจะซ้ำใครเขา นะครับตอนทำรีวิว ทำมาเถอะ

แต่อยากได้ ฟีล ของคนใช้จริงที่ว่า

ซื้อ เพราะอะไร

ประทับใจตรงไหน ไม่ประทับใจตรงไหน อัตราเร่งเป็นอย่างไร อัตราสิ้นเปลืองเป็นอย่างไร

สมรรถนะ โอเคไหม การบริการหลังการขายเป็นอย่างไร

หนะครับ

แต่รีวิวนี้ ผมถือว่า โอเคนะครับใช้ได้เลย

แพนว่าไง?

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 16:51:24 »
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ DENTE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 379
  • ชายใจสะออน
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 16:55:29 »
เคยลองขับรุ่นนี้ถือว่าอัตราเร่งทำได้ดีพอตัว

รีวิวเขียนได้ดีครับ

แต่เว้นวรรคบ้าง  มีช่องไฟเยอะอีกนิดก็จะดีมาก  

ผมอ่านแล้วตาลายครับ  (แต่คนอื่นอาจจะไม่เป็นเหมือนผม)
ตังมีไม่มาก  แต่อยากขับรถดีดี

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 18:10:37 »
รีวิวแน่นจริงครับ

ชอบมากครับ มีความเห็นของผู้ใช้จริงล้วนๆ



รุ่นนี้ผมเคยนั่งอยู่หลายครั้ง
ชอบที่มันสวย ดูกว้าง กำลังเครื่อง(แรงจริง) แถมประหยัดกว่ารถรุ่นน้องอีก

แต่ที่ไม่ชอบ(มากๆ)สำหรับรุ่นนี้คือเสียงแหละครับ
นั่งกับเพื่อน ต้องขึ้นเสียงเวลาคุยกันซักหน่อย ไม่งั้นไม่ได้ยิน

เรื่องอื่นๆ ถือว่าเป็นรถที่ดีครับ

ออฟไลน์ PREM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,190
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 18:57:04 »
ขอบคุณครับ
รีวิวละเอียดดี อ่านเพลินๆ แต่ลายตาไปนิดส์นึงนะครับ

จำได้ว่าตอนที่รุ่นนี้ออกเครื่อง 2.0 ครั้งแรกอยากได้~
พอไมเนอร์เชนจ์ครั้งสุดท้ายยิ่งอยากด้ายยยย~~
แต่ก็ไม่ได้ :D
2014 Mazda CX-5 2.5 S
2016 Volvo XC60 D4 
2019 Honda Jazz RS+
2020 Volvo V60 T8 Inscription
2022 Mazda CX-30 SP

ออฟไลน์ FyGI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,306
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 19:53:28 »
อ่านเพลินดีครับ

Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 20:58:22 »
ละเอียดมากครับ รูปก็เยอะดี เนื้อหาก็มาก ชอบครับชอบอ่านแล้วสนุกดี ;D

ออฟไลน์ frame@kk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,246
    • อีเมล์
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 21:00:59 »
แหล่มเลยครับ

ออฟไลน์ sandjungkub

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 74
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 21:31:26 »
ละเอียดดีมากเลยครับ

ออฟไลน์ Akeem-CLII

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 499
  • ทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 22:07:14 »
civic es นี่เกียร์สูงสุด 5 เกียร์ หรือ 4 เกียร์อ่าคับ เพราะถ้า 5 เกียร์จะถือว่าเป็นรถที่ เจ๋งมาก ๆ ในสมัยนั้นอ่า

กระผมขับ city vtec 2004 เคยลองนั่ง civic รุ่นนี้ ของเพื่อนแล้วชอบมาก ๆ เลยอ่าคับ ลักษณะเบาะคล้าย ๆ กับ city
แต่เหมือนจะเตี้ยกว่า ผมว่าภายในเงียบกว่า city อีกอะคับ และที่ความเร็วสูง ๆ ก็มั่นใจได้มากกว่า city เยอะอ่าคับ

ถ้าเจ้า civic นี่เรียกว่าไม่เงียบ city ผมคงโคตรดังอ่า แต่ยังไม่เคยนั่ง altis ก็เลยไม่รู้ว่าความเงียบเป็นยังไง 55+

ถ้าผมเลือกได้ตั้งแต่ก่อนซื้อ city 2004 ผมคงเลือก civic 2.0 อ่าคับ อยากแรงมั่งจัง

ลักษณะเกียร์แบบ 5 เกียร์ของ honda ผมว่าขับในเมืองแล้วกินน้ำมันเหมือนกันอะคับ เพราะถ้าจะเร่ง มันต้องใช้รอบสูง
และก็ต้องลดเกียร์ รู้สึกกระชาก แต่มันส์

ขอเสริมนิดนึงคับ

โฉม 1 รุ่น exi มีให้เลือกทั้งภายในสีเทา และสีเบจอ่า รู้สึกว่ารุ่นสีเบจจะต้องเพิ่มตังค์นิดนึงมั้ง แต่รุ่น vti มีสีเบจอย่างเดียว
          ในโฉม 1 ยังแบ่งรูปแบบการตกแต่งภายในได้เป็น 2 ลักษณะ คือช่วงแรก ๆ ของรุ่นภายในสีเบจ จะได้พวงมาลัยสีดำ
           และที่จับตอนปิดประตู ตรงแผงประตู จะเป็นสีน้ำตาล ในขณะที่รุ่นปีหลัง ๆ กว่านั้น จะเป็นพวงมาลัยสีเบจ และ ที่จับ
           ตอนปิดประตูก็เป็นสีเบจ ส่วนรุ่น ภายในสีเทานั้น ปีเก่า ๆ ที่จับปิดประตูเป็นสีดำ พอปีหลังกว่านั้น ดันเป็นสีเทา
โฉม 2 รุ่น 2.0 ตกแต่งภายในแบบลายไม้อ่าคับ และพนักพิงศีรษะหลัง ก็ปรับระดับสูงต่ำได้อ่าคับ รุ่นโฉม 1 ยังปรับไม่ได้
โฉม 3 รุ่น 2.0 ตกแต่งภายในแบบสีเงินคับ และมีสีภายนอกให้เลือกเพิ่มคือ สีแดงแปร๋น ๆ แบบ jazz โฉมแรก กับน้ำเงินสว่าง ๆ
          แบบ jazz โฉมแรก

สรุปคือ รุ่นนี้ ขับมันส์ ประหยัดน้ำมัน วัสดุภายในดูดีใช้ได้ นั่งสบายทั้งหน้าและหลัง แต่เด้งสุด ๆ ไปเลยคับ
I will buy Volvo some day.

ออฟไลน์ gateaux

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 615
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 22:13:45 »
ขอบคุณครับ อ่านรีวิว จากคนใช้ แล้วให้ความรู้สึกดีครับ เป็นมุมมองของคนที่รักรถ อ่านแล้วเพลินไปอีกแบบ

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: มิถุนายน 02, 2009, 23:24:36 »
ขอบคุณทุก comment มากๆเลยนะครับ
กลับมาอ่านอีกรอบแล้วรู้สึกลายตาจริงด้วย แถมพิมผ์ผิดเยอะแยะอีกตะหาก ขอโทษด้วยนะคร้าบ

ออฟไลน์ BBOnLY

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,235
    • เพจวิศวะท่องโลกการเงิน
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2009, 01:47:24 »
ขอบคุณรีวิวดีๆนะครับ
ตอนแรกก็เล็งๆเจ้า es เนี่ยเป็นรถคู่ใจเหมือนกันครับ
สวยเรียบๆดี
^^
ติดตามเพจ "วิศวะท่องโลกการเงิน" ได้นะครับ

https://www.facebook.com/engineerinsidefinanceworld

ให้ #แอดบอยดูแล ได้ครับ

ออฟไลน์ gatasila

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 572
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2009, 07:26:08 »
เอารูปนี้มาฝากครับ ;D

ออฟไลน์ saaak

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 80
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2009, 09:37:53 »
 ;)

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2009, 12:27:13 »
อ่านรีวิวนี้จบแล้วดีใจมากว่ามีคนช่วยทำรีวิว ไดเมนชั่นให้แล้ว สบายใจไป 1 ข้อปล้อง

ที่บ้านผมก็มีไดเมนชั่นอยู่  2 คัน รถปี 02 พวงมาลัยเบจ VTI AT ABS/Airbag ของพี่สาว
และรถปี 05 รุ่น VTEC 1.7 ABS/Airbag (ไม่มีป้าย VTiแปะแล้ว)ของแม่

รถรุ่นเจ้าของกระทู้ เห็นบอกว่าหน้าปัดปรับสว่างมืดไม่ได้ ..ปรับได้ครับ สวิทช์ก็อยู่อันเดียวกับตัวรีเซ็ตระยะทางวัดกิโลแหละครับ หมุนซ้ายขวาไปก็ปรับได้เอง

แต่ถ้าเป็นรุ่นก่อนโฉม Excite หรือรถรุ่นที่ใช้หน้าปัดแบบไม่ได้เรืองแสง จะปรับไม่ได้ครับ

หลายอย่างที่เจ้าของกระทู้ได้รีวิวไปนั้นใกล้เคียงกับที่ผมเคยวัดไว้มาก ไม่ว่าจะเป็น 0-100 ที่ตกราว 12วินาทีต้นๆ และ 80-120 ที่ได้ค่า 9วิกลางถึงปลายใกล้เคียงกัน ความเร็วสูงสุด ตามหน้าปัดผมได้ราว 190 แต่ถนนต้องโล่งและยาวชนิดข้ามจังหวัด หาไม่เช่นนั้นแล้วก็จะตันอยู่ที่แค่ 184

ที่แปลกก็คือ รถของพี่สาวผมปี 02 กลับทำความเร็วได้มากกว่า คือ 192 ในที่ที่อีกคันจะทำได้แค่ 184 นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญกว่าคือรถปี 02 นั้นคิกดาวน์เร็วกว่า คันเร่งไวกว่า เกียร์เปลี่ยนคล่องกว่า ทั้งๆที่เครื่องและเกียร์มันก็ชุดเดียวกัน

แต่อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนั้น คัน 05 ประหยัดกว่า ผมเดินทางไกลแบบใช้ความเร็ว 110 วิ่งไปหัวหินและกลับ กินน้ำมันแค่ 15.3 ก.ม./ลิตร ส่วนคัน02 วิ่งทางเดียวกันแถมบรรทุกน้ำหนักน้อยกว่า ยังได้ 14.7เป็นอย่างมาก

ส่วนถ้าวิ่ง 120-140 แบบเดินทางไกลจริงๆ ไม่ใช่ขับนิ่งเอาค่าประหยัดน้ำมัน ก็จะทำได้ 13.7กิโลลิตรครับ

ในความเห็นส่วนตัวผม ผมมองว่า ES เป็นรถที่ทำทุกด้านได้ค่อนข้างเสมอตัว ภายในโอเค อุปกรณ์และดีไซน์ผมก็ว่าโอเค เรื่องเก็บเสียงลมนี้รุ่นปี 02 แย่นะ..เสียงลมเข้าเยอะมาก เสียงยางบดก็เข้าเยอะ แต่รถปี 05 เสียงลมกลับดังน้อยกว่า (ทั้งๆที่รถแม่ผมติดกันสาดด้วยเอ้า) แต่เสียงยางบดก็รบกวนพอๆกัน

ช่วงล่างนี้เป็นจุดที่ไม่ขอชม รุ่น 02 ขับทางตรงมั่นคงดี แต่ท้ายเด้งมากเกินเหตุ ส่วนคัน 05 โช้คนุ่มกว่าแบบรู้สึกได้ แต่ขับเกิน 130แล้วมีหวิวกว่ารุ่นก่อนแบบชัดเจน และยังมีความเด้งอยู่ดี สรุปคือเกาะก็ไม่ได้เกาะดีกว่า EK รุ่นเก่า แถมท้ายเด้งกว่า

แต่พวงมาลัยของมันนั้นผมชอบ เพราะวิ่งทางไกลมีน้ำหนักตึงมือ และขับสบายมาก การเปลี่ยนเลนก็ทำได้โดยไม่ต้องหมุนพวงมาลัยมาก ผมชอบการเซ็ตอัตราทดพวงมาลัยของ ES แม่ผมมากกว่า Tiida หรือ NX ของผมเองซะอีก

การบำรุงรักษาเท่าที่ผ่านมาก็เช็คตามระยะ มีปัญหากับการประกอบพวกคอนโซลไม่แน่นและส่งเสียงน่ารำคาญในคันปี 02 ส่วนคันปี 05 นั้น ในวันส่งมอบรถตอนป้ายแดง ผมขับไป 130โลเพื่อที่จะรู้ว่าฝาถังน้ำมันเปิดไม่ได้ เซ็งเป็ดมาก ดีว่ามีเพื่อนที่รื้อ ES มาแล้วทั้งคันเลยโทรไปถามวิธีเปิดฝาถังฉุกเฉินได้ ไม่งั้นล่ะได้ลากกลับบ้าน

- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ spitfire

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 133
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2009, 14:13:29 »
civic es นี่เกียร์สูงสุด 5 เกียร์ หรือ 4 เกียร์อ่าคับ เพราะถ้า 5 เกียร์จะถือว่าเป็นรถที่ เจ๋งมาก ๆ ในสมัยนั้นอ่า

ถ้าจำไม่ผิดตัว 1.7 จะเป็น 4 speed ครับ

แต่ตัว 2.0 จะเป็น 5 speed
AMG C43 Coupe C205;
 - ECU Tuning by Gettuned
 - BMC Air Filter
 - KW HAS
 - EBC Yellowstuff
 - RENNtech Decklid

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: ++++ my first review "2003 honda civic 1.7 VTEC"++++
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2009, 15:30:04 »
ตายล่ะหว่า ใช้รถมาจนหกปีแล้วเพิ่งรู้ว่าหน้าปัดปรับความสว่างได้!!!!!!!!!!!!!

ไม่เห็นมันมีปุ่มหมุนๆแยกออกมาเหมือน mz3 นี่นา ที่ปรับไปอยู่ตรงที่เซตค่าวัดระยะทางซะได้

ขอบคุณคุณแพนมากครับ เดี๋ยวจะลองไปปรับดู