สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ ชาว Headlightmag ทุกท่าน ผมเล่นเว็บนี้มาเกือบปีแล้วครับ นั่งอ่านอย่างเดียว ก็คันไม้คันมืออยากลอง Review ดูบ้าง
วันนี้มา รีวิวเจ้า Chevrolet Cruze 1.8 LTZ รุ่นรองท็อป สีดำครับ พึ่งได้รถมาช่วงต้นเดือนนี่เอง
ไปจองมาช่วง Motor Show ตอนแรกก็เกือบจะเลือกเจ้า All New Mazda 3 แล้วครับ ทางบ้านบางท่านก็เชียร์ Accord ตัว 2.0 แต่สุดท้ายก็มาลงที่เจ้านี่ครับ
โอเค เรามาดู Spec พื้นฐานกันก่อน
ตัวรถ 1.8 LTZ A/T
มิติภายนอก ยาวxกว้างxสูง (มม.) 4600x1790x1475
น้ำหนักรถเปล่า 1315กก. (หนักพอดูทีเดียว)
ทดสอบการชนได้มาตรฐาน 5 ดาว จาก EuroNcap
ด้านหน้าค่อนข้างติดกลิ่นอาย อเมริกันเลยทีเดียว ดูบึกบึน ดีครับ
ด้านข้างสังเกตุ ลายเส้นจะไม่ออกสวยงามแบบรถญึ่ปุ่น คันนี้จะดูออกแนวแข็งๆ ตรงๆ ครับ
ด้านหลัง บางคนบอกก็อปไฟซีวิค โอเค ยอมรับก็อปก็ก็อป แต่สวยเป็นพอสำหรับผม 555
Spec เครื่องยนต์
DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว Double CBC
หัวฉีด Multi-Point Injection
แรงม้าสูงสุด 141 ที่ 6200 รอบ
แรงบิด 177 Nm ที่ 3800 รอบ
ปริมาตรกระบอกสูบ 1796 cc
สังเกตุว่าห้องเครื่องค่อนข้างเหลือพื้นที่ค่อนข้างเยอะ
มีช่างบอกว่า คันนี้เมื่อเกิดการชนจะทิ้งเครื่องลงพื้นเพื่อป้องกันแรงอัดสู่คนขับครับ
ระบบช่วงล่าง ด้านหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท
ด้านหลังเป็น คาร์ทอร์ชั่น บีม <---เจ้านี่แหล่ะครับ ที่ทำให้หลายคนเบือนหน้าหนี เดี๋ยวผมจะพูดถึงอีกทีครับ
รูปเจ้าช่วงล่าง Torsion Bean
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้าพร้อมครีบระบายความร้อน ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกธรรมดา
ล้อ อัลลอย์ 17 นิ้ว <--- ให้ตั้ง 17 นิ้ว ขอลายดีกว่านี้หน่อยเหอะ นะๆๆๆ
ยาง 215/50 R17 ยี่ห้อ Kumho <---ยางจากเกาหลี ไม่ทราบดีหรือเปล่าครับ โดนเพื่อนแซวประจำ 555
เข้ามาดูในรถบ้างครับ กุญแจเป็นแบบ Keyless ทั่วไป
การเข้าออก ตัวผม 184 cm ก็ต้องมีหัวหลบ ยกขาข้ามขอบประตูไปครับ ตามปกติของรถเล็ก
เบาะหน้าค่อนข้างกระชับเลยทีเดียว ปรับสูงต่ำ เข้าออกได้ ถ้าปรับต่ำสุด ถอยหลังสุด ขาผมไม่ถึงแป้นเบรคเลยครับ บางคนบ่นว่าเบาะค่อนข้างแข็ง แข็งจริงครับ แต่ส่วนตัวชอบนะ รู้สึกไม่เมื่อยตรูดดี เวลาขับไกลๆ ไม่น่าจะมีปัญหา
อันนี้ประตูหลังครับ
ตัวเบาะ นั่งไม่สบายครับ ไม่สบายจริงๆ ปัญหาไม่อยู่ที่ Leg Room หรือ Head Room ครับสำหรับคน 180 up
แต่มันอยู่ที่ตัวเบาะรองนั่ง มันทั้งเตี้ย ทั้งแบนครับ ใครสนใจคันนี้ ลองนั่งหลังก่อนครับ
ส่วนตัวให้นั่งใกล้ๆ พอไหว นั่งไปต่างจังหวัด ขอบายครับ ไม่ไหวจริงๆ
มาดู Console กันบ้าง
ความรู้สึกแรก แบบมัน ว้าวววว ชอบมากครับ เป็นเหตุผลแรกๆ ที่ตัดสินใจจองเจ้านี่เลย
ในพิกัดรถ Compact ราคาป้วนเปื้ยนแถวล้านบาท ผมว่าเจ้านี่ภายในน่าคบหามากที่สุดแล้วครับ ยิ่งเป็นตัว LTZ ขอบเข็มวัดความเร็ว แบบโครเมี่ยม เรียกได้ว่าแอบหรูเลย
มาดูกันทีละส่วน
อันนี้เข็มความเร็ว เข็มรอบ ได้กลิ่นรถ Muscle Car เลยครับ แต่ตัวความเร็ว สวยครับ แต่อ่านยากกกก อันนี้ต้องปรับกันนิดนึง
ตรงกลางเป็นหน้าจอ แสดงเลขไมล์ อัตราสิ้นเปลือง บลาๆ ควบคุมจากก้านตีไฟเลี้ยว ขวามือครับ
ฝั่งขวามือ เป็นสวิตซ์เปิดปิดไฟต่างๆครับ ปกติจะ Auto แต่ถ้าเราจะปิดก็บิดมาทางซ้าย ถ้าจะเปิดเองก็บิดไปทางขวาปกติ
อันเล็กๆด้านซ้าย เป็นไฟ หน้าปัดครับ
นิดนึงใครซื้อรุ่นนี้ กระจกหน้าอย่าลงฟิล์มเข้มนะครับ ไม่งั้น 4-5 โมงรถคุณจะเปิดให้อัตโนมัติ
ซ้ายมือปุ่ม สตาร์ทและดับเครื่อง
Chevy แก้ไขด่วนนะครับ นึกว่าปุ่มเปิดไฟอะไรซะอย่าง มันดูไม่เร้าใจซะเลย
Consoleกลาง
เกียร์ Auto 6 Speed มีโหมดบวก-ลบครับ
ถัดขึ้นมาเป็นสวิตซ์ควบคุม แอร์ดิจิตอล แสดงผล ทางจอหลักข้างบนสุด
ขึ้นมาก็เป็นเครื่องเสียง เล่น CD 1 แผ่น (ถาด 6-7 แผ่นไม่มีครับ)
Aux USB FM AM ปรับEQ ได้
นอกจากนี้ยังสามารถปรับค่าต่างๆของรถ เช่น Central Lock ไฟนำทาง ระบบเพิ่มเสียงเมื่อความเร็วสูงอะไรก็ว่าไป
ทุกอย่างแสดงผลผ่านจอเล็กๆข้างบนครับ ทั้งนาฬิกา อุณภูมิภายในภายนอก
อันนี้ช่อง Aux USB บริเวณที่วางแขนครับ
เรื่องเสียง ผมฟังผ่าน USB ตอนยังไม่ปรับ EQ ไม่ค่อยดีเท่าไรครับ พอปรับก็ดีขึ้นมาหน่อย ถ้าหูทอง หูเทพ เปลี่ยนแน่นอนครับ รู้สึกเสียงมันยังไม่ค่อยอิ่ม ยังแข็งๆยังไงไม่รู้
ที่วางแขนค่อนข้างสั้น แต่เลื่อนออกมาได้ครับ แต่ปัญหาเล็กน้อยคือ พอเลื่อนออกมาแล้วมันไม่ล็อค ศอกไปโดนมันก็กลับไปที่เดิม ก็ต้องนั่งเลื่อนออกมาใหม่
พวงมาลัย Multi Function ด้านขวามือเกี่ยวกับเครื่องเสียง
ด้านซ้ายมือเป็น Cruise Control ครับ ป็อกแป๊กนิดนึง ใช้ยากด้วย
วิธีใช้ ต้องกดปุ่มขวาสุดให้สัญลักษณ์ Cruise ขึ้นบนจอ จากนั้นขับให้ได้ความเร็วที่ต้องการ แล้วโยกปุ่มตรงกลาง ขึ้นหรือลงก็ได้ 1 ที สัญลักษณ์ Cruise จะเป็นสีเขียว ใช้งานได้เลยครับ เพิ่ม-ลดก็จากตัวโยกๆเนี่ย ถ้าจะหยุดการใช้งาน Cruise ชั่วคราว กดปุ่มซ้ายสุด ถ้าจะยกเลิกก็แตะเบรค ไม่ก็กดให้ปุ่มขวาสุดกลับมาเรียบๆเหมือนเดิมครับ
ขวามือตรงประตูเป็นเป็นที่ปรับกระจกมองข้าง ปรับกระจกจังหวะลง Auto ทุกบานครับ
ที่ใส่ของฝั่งคนนั่ง เล็กมากๆๆ สมุดคู่มือรถผมยังต้องเอียงๆใส่เลย ด้านซ้ายที่ว่างๆเป็นกล่องฟิวส์ครับ
บริเวณหัวคนขับ เป็นกล่องใส่แว่นครับ ผมว่าตรงนี้ชอบนะ ยังไงคนขับก็ไม่ได้ใช้ก็ทำเป็นกล่องแว่นซะเลย
ข้างบนเป็นที่ใส่ของครับ วางมือถือได้ ส่วนหัว R2D2 ด้านหน้าเป็น Sensor แสงครับ
คันเร่ง และ แป้นเบรคครับ ไม่มีที่วางเท้ามาให้ ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไม เมื่อย!!!
มุมมองหน้าคนขับครับ
ด้านหลัง
มาพูดถึงการขับบ้าง
เครื่องยนต์ เกียร์ คันเร่ง : คันเร่งไฟฟ้าคันนี้ตอบสนองช้าครับ ไม่ทราบว่าเป็นช่วง Run in รึเปล่า ECU ยังไม่จดจำ
แต่เวลาเหยียบไปเนี่ย Delay ค่อนข้างนานพอตัวกว่าจะพุ่งออกไป และน้ำหนักคันเร่งยังแปลกๆครับ
เมื่อคุณต้องการเพิ่มความเร็วเพียงเล็กน้อย การเหยียบเพิ่มไปเล็กน้อยนั้น ไม่ช่วยให้รถเร็วขึ้นตามเท้าแต่อย่างใด ต้องเหยียบลึกลงไปเยอะนิดนึงครับ
เครื่องยนต์กำลังผมว่าเพียงพอต่อการใช้งานนะ 0-100 ลองจับดูเล่นๆ ประมาณ 11 วิ-11วิครึ่ง จากเครื่อง 1.8
อัตราการกินน้ำมัน ในเมือง ผมทำได้ 7.5-8 โลลิตร นอกเมืองวิ่ง 100-120 ทำได้ 13-13.5
ในช่วง Run-in ครับ ต้องดูต่อไปว่าถังๆต่อไปจะดีขึ้นรึเปล่า (อาจจะมีเหตุจากล้อที่ใหญ่เกินตัว หรือ น้ำหนักรถด้วยครับ)
ช่วงล่าง : บางคนหยีเจ้านี้เพราะ Torsion Bean คานด้านหลัง
ผมอยากให้ลองไปขับดูก่อนครับ มันไม่ได้แย่นะ ดีเป็นอันดับต้นๆ ใน Segment เลยนะครับ
Traction Control และ ESP มีให้ครบ
รถ Set มาติดแข็งหนึบๆนิด บางคนอาจจะชอบ หรือ ไม่ชอบ ต้องไปลองครับ
ความปลอดภัย : ผมคงไปชนให้ดูไม่ได้ แต่คันนี้ก็ Degree 5 ดาวจา EuroNCap
เอาสั้นๆ คือรุ่นนี้ถุงลมนิรภัย 4 ใบ และเสียงปิดประตูแน่นครับ เป็นเหตุผลหนึ่งเลยที่เลือกเจ้านี่
จบละครับ
ขอบคุณผู้ติดตามอ่านทุกท่าน
ขอบคุณเว็บ Headlightmag ครับ
สุขสันต์วันปีใหม่ไทยครับ ^_^