โพลล์

ระหว่างรถญี่ปุ่นป้ายแดงกับรถยุโรปมือสอง

Honda Civic 2011 1.8 S
BMW e46 323iSE 2003
รบกวนสอบถามครับ ระหว่างรถญี่ปุ่นป้ายแดงกับรถยุโรปมือสอง

K.pawat

ปกติจะชอบอ่านความคิดเห็นของคนในนี้เป็นส่วนมากวันนี้เลยอยากจะขอถามเพื่อนๆในที่นี้ว่า
ระหว่างรถญี่ปุ่นป้ายแดงกับรถยุโรปมือสองตัวไหนน่าเล่นมากกว่ากัน

ญี่ปุ่นป้ายแดง Honda Civic 2011 เครื่องยนต์ 1.8 S A/T(AS) 5A/T 836,000 บาท<<รถใหม่ป้ายแดงยังไงก็ไม่ปวดหัว
VS
ยุโรปมือสอง BMW e46 323iSE 2003 750,000 บาท(รวมVAT7%+ภาษีประมาณ 850,000บาท)<<ขับสนุุก ในใจคิดอยากจะเอามาดมแก๊ส ที่สำคัญหล่อขึ้น10%
แต่อาจมีภาระค่าบำรุงรักษา

ส่วนตัวชื่นชอบไปทางฝั่งยุโรปเพราะยังไงรถยุโรป10ปีก็แลดูไม่เก่า การใช้รถคิดว่าจะใช้แค่5ปีแล้วจะเปลี่ยนซึ่งตอนนั้นซีวิคคงราคาตกยังไม่มากแต่e46ราคาอาจต่ำกว่านี้
และอยากได้รถที่ประหยัดขับไปไหนก็ได้ ขับสนุก ความรู้เรื่องรถมีบ้างแต่น้อยมากก เลยอยากจะถามเพื่อนๆว่าหากมีรถ2คันให้เลือกจะเลือกประเภทไหน
ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆความคิดเห็นด้วยครับ ^^"



civicferio

เอ่อ เอาหมูสับไปเทียบ ขาหมู ??

ริงโกะ เชียร์ บีเอมค่ะ ถ้า คุณสามารถ ดูแลหลังจากนี้ และหาสภาพดีได้ค่ะ....



YIM

ปัจจัยที่จะทำให้เล่นรถยุโรปมือสองได้

1. ขับรถมานาน รู้เรื่องรถพอควร
2. มีเงินดูแลรักษา เพราะรถยุโรปอะไหล่แพงกว่ารถญี่ปุ่นแน่นอน และรถเก่ายังไงก็ต้องมีซ่อม

ถ้า 2 ข้อนี้ผ่าน คุณก็เล่น BMW ได้ครับ ถ้าไม่ก็ไป Civic
JDM เท่านั้น จะครองโลก!



GreenG

รถใหม่ญี่ปุ่น ใช้ง่าย ขับง่าย จบง่าย ;)



nuTTy

โหวตให้แล้วครับ



Cross MPV

สำหรับผมนี่แล้วแต่การใช้งานครับ

ถ้าใช้งานบ่อยๆ ผคงเลือกรถญี่ปุ่นป้ายแดง เพราะรถเก่าเราต้องบวกอายุที่เขาใช้งานมาด้วย
แถมด้วยความที่เป็นรถยุโรปด้วยแล้ว อะไหล่แพงแน่ แม้จะหาไม่ยากก็ตาม

แต่ถ้าใช้งานไม่มาก มีไว้ขับชิลๆ ในทำนองประมาณ Mini, Beetle หรือรถญี่ปุ่นมือสองกินลมชมวิวแบบ Mx-5
แบบนี้ถ้าจะซื้อมือสองมา ผมว่าน่าสนใจกว่า

ทั้งนี้ทั้งนั้นคือมุมมองของผมนะครับ ^^



udis

ไม่ชอบแย่งข้าวลิงกินข้างทาง ขอกลับไปต้มมาม่าหมูสับกินที่บ้านดีกว่า สบายใจ!
 ;D ;D ;D



Envil

Civic ได้ข่าวว่า ปลายปีอีกหน่อยเขาจะออกตัวใหม่แล้วน้า
ลองหาๆศึกษาอ่านก่อนดูนะ



civicferio

Civic ได้ข่าวว่า ปลายปีอีกหน่อยเขาจะออกตัวใหม่แล้วน้า
ลองหาๆศึกษาอ่านก่อนดูนะ

แต่ใส่หมูสับเหมือนเดิม (มั้ง)ลงกะละมัง  คงอร่อยเหาะค่ะ



YIM

ไม่ชอบแย่งข้าวลิงกินข้างทาง ขอกลับไปต้มมาม่าหมูสับกินที่บ้านดีกว่า สบายใจ!
 ;D ;D ;D

ผมสงสัยอยู่อย่างหนึ่งครับ

แล้วจะรู้ได้ยังไง สับไป สับไป เขียงไม่แตก?? ;D
JDM เท่านั้น จะครองโลก!



YenChar

กรณีนี้

มือหนึ่ง ป้ายแดงครับ

ใช้ 5 ปี เปลี่ยน ขายก็ไม่เจ็บตัวมาก

ค่าซ่อมบำรุง E46 มือสอง ภายในเวลา 5 ปี ผมว่าเยอะอยู่นะ
ไม่นับว่าต้องเข้าเช็คระยะตามกำหนดอีก



HYDE--

ถ้าคิดว่าสามารถหาคันที่สภาพดีๆได้ หรือมีคนรู้จักจะขาย หรือ มีช่างที่น่าเชื่อถือดูรถให้

ทำใจได้กับค่าซ่อมที่แพงกว่าเยอะ และซื้อมาก็อาจจะต้องซ่อมก่อนใช้ หรือ ใช้ไปซ่อมไป ซ่อมใหญ่ทีนึงก็หลายหมื่น หรือไม่ก็เป็นแสน

แต่แลกกับสมรรถนะที่เหนือกว่า ภาพลักที่ดีกว่า ความปลอดภัย ความแ่น่น ฟีลลิ่งการขับที่ดีกว่า

น่าจะกินน้ำมันกว่า Civic พอสมควรครับ โดยเฉพาะเวลาขับในเมือง

แต่ดมแกสก็ต้องดูแลนะครับ คอยเชค คอยจูน ระวังเรื่องความร้อน ไม่งั้นไม่จบแน่นอน รวนจนลืมไปเลยว่ารวน เพราะรถยุโรปทุกรุ่น มีโอกาสที่จะมีปัญหาเรื่องความร้อนมากกว่าอยู่้แล้ว

ผมเชียร์ E46 อีกเสียงครับ ชอบมากๆ ราคาไม่แรงด้วย ส่วนเรื่องราคา 5 ปีผ่านไป มันตกทั้งซีวิค ทั้ง E46 อยู่แล้วครับ คงตกเป็นแสนทั้งคู่ แต่ที่สำคัญคือระหว่างที่เราใช้แล้วมีความสุขรึเปล่า



jaesz

หารถมือสอง อายุ 10 ปี ถามตัวเองว่ารู้เรื่องรถแ่ค่ไหน

คุณจะโชคดีเจอเจ้าของที่รักษารถมา 10 ปี ไม่ค่อยวิ่ง ไม่ค่อยใช้ ถ่ายของเหลวตามอายุปี ไม่เคยลุยน้ำ ไม่เคยตากแดด เรียกว่า ไ่ม่มีอะไรจะเสียน่ะ ?

ถ้าเป็นผม จะขายรถคันนึง ก็คือ ต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมันแล้วล่ะ เว้นแต่ว่าต้องใช้เงิน อย่างน้อย ๆ ก็คงไม่ชอบหน้าตาเก่าๆ หน้าเบื่อมัน

ถ้าเป็นรถคันเดียว ผมแนะนำ เอา CIVIC ไปเถอะครับ ขับกันทั่วบ้านทั่วเมือง สมรรถนะ ถึงจะดีจะร้ายก็พากันไปได้ทั่วประเทศ รู้จักรถ รู้จักปรับตัวเข้ากับมันแค่ทำใจนิดหน่อย



แต่ถ้าเป็นตัวผมเอง ถ้ามีรถแค่คันเดียว ขอรถขับเคลื่อนล้อหลังแบบBENZ BMW เท่านั้นครับ นี่แหละจุดยืนของผม



HYDE--

เออจิงด้วยแหะ ผมว่าถ้าจะเอา Civic รอตัวใหม่ดีกว่าครับ อีกไม่กี่เดือนเอง

อีกอย่าง ตัว civic fd คงราคาตกเยอะเหมือนกันครับ ถ้าตัวใหม่ออกมา เดี่ยวจะมาเสียดายทีหลัง



Satanic za'

เป็นผม ผมเลือกซีวิคครับ



neuro

ยุโรปมือสองถือเป็นเอาวรนุชเข้าบ้านเลยครับ
ขนาดใช้มือหนึ่งยังปวดหัวกับความจุกจิกของรถยุโรป
ถ้าท่านกำลังหารถคันแรกกรุณาออก ญป. ป้ายแดงเถอะครับ
แต่ถ้าท่านมีรถหลายคัน ไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน อันนี้ไม่ว่ากันครับ



methus zaa

ผมไม่แนะนำทั้งคู่ครับ เพราะซีวิคก็ยังคงมีปัญหาเสียงต๊อกๆอยู่แล้วรุ่นใหม่ก็กำลังจะมาแล้วด้วย
ส่วน bmw ต่อให้สภาพดีขนาดไหน ถ้าเสียขึ้นมาละ จะเสียดายตังมากครับ มันแพงจริงๆ พี่ชายคนโตผมผ่าน bmw มาเยอะ เข็ดไปหลายดอกแล้ว ทั้ง 3 5 7  ไม่แนะนำเลยครับ ถ้าจะเล่นรถยุโรปจริงๆผมว่า benz ดูจะเข้าท่ากว่านะครับ อะไหล่ถูกกว่าเยอะ
รถญี่ปุ่นผมเลือก altis 1.6 G ครับ
รถยุโรปมือสอง ผมเลือก c-class ครับ ;D แต่ในโพลผมโหวตให้ bmw ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 15, 2011, 23:15:46 โดย Tan Everything Beyond »



YenChar

ลองคิดดู


รถพ่อผม 8ปี จะเข้าปีที่ 9
มีโรงจอดรถอย่างดี ไม่ปล่อยตากแดดตากฝนเลย  นานๆๆๆครั้งจริงๆ อาจจะปีล่ะไม่ถึง 3 ครั้ง
พลาสติกคอนโซลไม่มีแตก เบาะหนังยังดี ไม่แตกลาย   ล้างแอร์ ดูดฝุ่นตลอด
คุณพ่อผม เข้าศูนย์บริการตลอด อะไรเสีย เปลี่ยนใหม่หมด น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ๆ
ยาง เปลี่ยนตามระยะตลอด  ดูแลยิ่งกว่าลูกอีกมั้ง  - -''

ขณะนี้ ยังเริ่มรู้สึกว่ามันเ่ก่าแล้ว เริ่มดูแลมันมากขึ้น
แต่ก็คิดว่าจะขายปลายปีนี้แล้วเพราะไม่อยากเป็นภาระ
และคิดว่าใช้รถใหม่ สบายใจกว่า


ถ้าหารถมือสองที่ดูแลได้ดีระดับนี้ เอาไปเลยครับ
แต่ถ้าไม่ ใช้ทิ้งๆขว้างๆ ไม่ดูแล เราจะรับภาระค่าซ่อมค่าบำรุงรักษาไปอีกนาน



crucifixzz

รถเก่า เริ่มไม่มั่นใจแล้วครับ liability เริ่มน้อยลงเรื่อย ขับรถใหม่สบายใจกว่า ถ้าวิ่ง120 ญี่ปุ่นกับยุโรปแทบไม่ต่างกันเลย จะต่างต่อเมื่ออัดจริงๆครับ ลองดู



mongolias

ถ้าจะเล่น BMW สิ่งแรกที่คุณจะต้องมีคืออู่คู่ใจครับ
ถ้าเอาเข้าศูนย์ล่ะเลือดอาบแน่
ซึ่งอู่ BMW มีเยอะแยะ อะไหล่มีให้เลือกทั้งแท้ เทียบ มีหลายระดับราคา
และถ้าจะเล่น ต้อง 6 สูบ ขึ้นไปเท่านั้่น ซึ่งตัว 323 ถือว่าโอเคมากๆเลย
สำหรับงบซ่อมบำรุงนั้น หลังจากได้รถมา ถ้ากันงบไว้สักแสนนึง เพื่อปรับสภาพ เพราะ BMW ไม่ใช่รถที่ขับไปซ่อมไปได้
ต้องเป็นประเภทอะไร เสื่อม หมดสภาพ ต้องเปลี่ยนทันที มิฉะนั้นจะลามไปสู่ระบบอื่นอีก
จากนั้น ปีที่สองและสาม อาจจะกันเงินค่าซ่อมหยอดกระปุกไว้เดือนละสัก 3000 - 5000 บาท ก็น่าจะพอเลี้ยงดูได้ครับ

2 ตัวนี้ ถ้ามีรถสำรองอีกคัน ผมไป BMW แบบไม่ต้องคิดมากเลยครับ รถราคา 2.8 ล้าน เทียบกับคันละ 8 แสนกว่าบาท แค่เสียงปิดประตูมันก็ต่างกันโขแล้ว
 
ปล.E46 ถ้าจะเทียบกับ MB คงต้องเป็น W203 ซึ่ง MB ตัวนี้ จุกจิก + ซ่อมแพง ไม่แพ้ BMW เลยล่ะครับ



yod artstu

ถ้าเป็นรถคันแรก  หรือมีรถคันเดียว หรือใช้เป็นประจำคันเดียว
อย่างไรก็แนะนำให้เลือกป้ายแดงอยู่ดีแหละครับ
ถึงแม้ว่า BMW จะหล่อกว่าก็ตาม

สำหรับ E46 นี่เคยอยู่ในตัวเลือกผมเหมือนกัน แต่มองไว้เป็น 323i E46 ปีใหม่ที่สุด
เอาไว้ขับเที่ยว ขับเล่น ไม่ได้ใช้ประจำ - กะว่าได้มาจับเข้าอู่ restore ให้ใหม่หมดทุกอย่าง
แต่ติดขัดอะไรหลายอย่างๆ ซึ่งเรื่องหลักๆก็เป็นเรื่องเต้นท์ที่ขาย

ไปๆมาๆ หวยมาออกที่ camry hybrid ป้ายแดง แล้วก็จบเลย  :)

คิวต่อไป ก็ Restore E34 แต่ติดขัดว่า ที่บ้านปลวกรับประทานฝาบ้าน เพดานบ้านเก่า
ต้องรื้อเป็นการใหญ่ ซ่อมไปซ่อมมา เป็นแสน เลยจบโครงการไว้ก่อน
ปลายปีค่อยว่ากันถ้าเก็บตังค์ได้ทัน  :)
: )



popdemonic

ถ้ามีความรู้เรื่องรถยนต์ มีช่องทางเรื่องอะไหล่ ก็ใช้ยุโรป ถ้าไม่เช่นนนั้นไป ญี่ปุ่นป้ายแดง เซฟกว่าครับ

ของผมพอมีความรู้ เรื่องรื้อแงะแกะเกา มีคอนเนคชั่นในระดับหนึ่ง เพราะเป็นimporterอยู่แล้ว

 ก็เลยใช้ยุโรปครับ ไม่ค่อยกังวลเรื่อง

อะไหล่มากนักครับ



HYDE--

ว่าแต่ สมมุติว่าจะเอาป้ายแดง ไม่ลองดู C-segment ตัวอื่นๆดูบ้างหรอครับ อย่าง Cruze กะ Lancer Ex
ก็จะได้ฟิลลิ่งแบบแน่นๆ ใกล้เคียงกะรถยุโรปเหมือนกันนะครับ

แต่ถ้าจะเอา E46 จริงๆผมว่าลองคำนวนดูว่าสามารถทำแบบที่คุณ mongolias แนะนำได้รึป่าว

จะห่วงก็ตอนซื้อนั่นแหล่ะ จะหาสภาพดีๆได้รึป่าวก็ไม่รู้ หรือซวยๆเข้าไปเจอรถชนหนักมาอีก

บางคันเคย over heat มา เครื่องมันก็ไ่ม่เหมือนเดิม



K.pawat

ที่ผมมองe46ไว้ก็เพราะพี่ในคลับเค้าพูดคุยกันดี คอยชี้แนะ แนะนำต่างๆให้
แต่ก็อย่างที่หลายคนว่า เราจะหารถดีๆสักคันจะเจอไหม ซึ่งหากซื้อมาก็คงใช้คันนี้เป็นหลักอะครับ
ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆในที่นี้มากที่ให้คำแนะนำดีๆมากมายหลายๆอย่าง หากเป็นเช่นไรจะมารายงานความคืบหน้าให้ทราบอีกที
ขอบคุณมากครับบ ^__^



burutrad

 ใช้ fd อยู่ครับขับดีครับวันนี้วิ่งลงใต้ 700 กว่าโลไม่มีปัญหาใดผมเติมน้ามันเต็มถังวิ่งถึงสุราษฯได้ครับเอาเป็นว่าขับแล้วสบายใจครับติดอยู่อย่างเดียวเบาะแข็งไปหน่อยครับอย่างอื่นผมว่า ok นะครับขับ 130-150 ตลอดทางขับมันส์กว่า j32 อีกคันอีกครับ... :) :)
 ส่วนตัวเคยมีประสบการณ์ไม่ดีกับ bmw มาก่อนเลยไม่อยากแนะนำครับ :-\ :-\



5thAvenue

เลือก  CIVIC  ;D

จะเลือก BMW เพราะ  :o

1. มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์พอสมควร พอจะแก้ไขปัญหาได้ หรือไม่ตกใจกระต่ายตื่นตูมทำอะไรไม่ถูกถ้ามันเสียกลางทาง  ::)

2. ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์แต่พร้อมที่จะเรียนรู้ และมีเวลามากพอ ที่จะรอรถยกรถลากได้ โดดเรียนได้ ไม่ต้องมาห่วงว่า
    ไปประชุมไม่ได้ โดนเจ้านายด่า เพราะรถเสีย  :-[

3.1  มีกำลังทรัพย์ก้อนโต พอที่จะเสียค่าซ่อมยามที่อะไหล่อันถึงกาลจะต้องเปลี่ยน หลังเหตุการณ์ข้อ 1 และ 2  ไม่ว่าจะหลักหมื่น หรือ ครึ่งแสนบาท
      (ไม่เหมือนกับค่าผ่อนรถ ที่เราต้องเสียเป็นเดือนๆ อยู่แล้ว ซึ่งเอาสบายๆ ดาวน์เยอะ ผ่อน 5 ปี บางทีแค่เดือนละแปดเก้าพันบาท)

3.2  ทนรับสภาพ 1 หรือ 2 และ 3.1 ครั้งแล้วครั้งเล่าได้ แม้บางทีจะเป็นเรื่องเดิมๆ แก้ไม่หายซะที  :'(

4. เป็นรถยนต์คันที่สองของบ้าน ส่วนอีกคัน ไม่ค่อยมีใครใช้ จะเอาไปใช้ทดแทนเมื่อไรก็ได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ 3.1

5. ยุโรปเข้าเส้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นเล็ก เส้นใหญ่ หรือ จะเป็นหมี่หยกก็ตาม ;D

6. น้าชายเป็นช่างซ่อม BMW หรือ รู้จักช่างที่สามารถไว้ใจได้ ไว้รับมือกับสถานะการณ์ 3.1 และช่างผู้นั้น
    จะต้องไม่ถือดาบซามูไรคุยกะเราตลอดเวลา(ทั้งๆที่ไม่ได้ซ่อมรถญี่ปุ่น)  8)

7. คันนี้ต้องมี"ยำยำ" แน่นอน คือ มีโปรเจค ติดแกส เปลี่ยนเครื่องเสียง ลงแม็กวงโต เปลี่ยนสีฉูดฉาด งัดซุ้มตีโป่ง ฯลฯ
    อันไม่กระทบต่อวารันตี 100,000 ปี หรือ 3 กิโล (ยังไม่ถึงบ้าน วารันตีหมดแระ 55+)

8. "มาม่า"ปลื้ม (ปลื้ม นิสสัน ทีด้า 5+) ต้นตระกูลไม่ได้เป็นญาติกะ H ไม่ก็ T ทั้งบ้าน เพราะถ้าเป็นแบบนั้น
     ขืินซื้อมา เมื่อเกิดเหตุการณ์ 1,2 และ 3.1 ก็โดนซ้ำย่ำยี ให้เราช้ำใจทุกวัน

9. คุณชอบขับรถ "ไวไว" ช่วงล่าง หนึบหนึบ

10. คุณกลัวปัญหา "กุ๊งกิ๊ง" จริงๆ ก็ไม่กิ๊งซักเท่าไร ต้องเรียก ต๊อกๆ ดังที่เกิดขึ้นกับ FD บางราย
      ง่ายๆ  สมการของคุณคือ "รถใหม่ ≠ ซ่อม"


ไม่มี 10 ข้อนี้ กรุณากลับไปเลือก CIVIC

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 16, 2011, 02:14:37 โดย 5thAvenue »



SignifeR

คือเจ้าของกระทู้ต้องการคือ รถที่ช่วงล่างดี แฮนด์ริ่งดี ปลอดภัย แข็งแรง หล่อ

ผมว่ายอมเก็บเงินอีกนิด ออก อิมป้ายแดงครับ ตรงตามสเปกทุกอย่าง
เอา 2.0 auto ก็ได้ เสียบฟิวซ์ตัวเดียวเป็นขับหน้า ถอดฟิวซ์ออกขับสี่ สบายเลยได้สองระบบ

อิมเป็นรถที่ช่วงล่างโอเคเลย ขับสบาย ไม่จุกจิก ไม่ปวดหัวเรื่องอะไหล่เพราะรถใหม่
แม้จะเกินวารันตี อะไหล่มือสองเพียบ ถูก  ถ้ากลัวเปลืองเสียบฟิวซ์เป็นขับสองล้อหน้า
กินน้ำมันไม่ต่างจากบีเอ็มหรอกครับ ฟิลลิ่งน่าจะใกล้เคียง E46 เพราะเคยขับของกิ๊กอยู่ 318I
อัตราเร่งผมว่าถ้าเป็น 318I VS EJ20 น่าจะไม่หนีกันมากครับ EJ แฟลชกล่องก็พุ่งแล้ว
ช่วงล่างถ้ายังไม่พอใจ ของเล่นเพียบ ไม่แพงเหมือน บีเอ็มด้วย

โอเคในแง่ของเงินจ่ายแพงกว่า แต่ถ้าคิดระยะยาวแล้ว ผมเชื่อว่า มันไม่ได้หล่อน้อยกว่า บีเอ็มเลยจริงๆ

ตอบไม่ถูกคำถามต้องขออภัย แต่ FD เดี่ยวก็ตกรุ่นแล้ว แต่อิมตัวใหม่เข้าปลายปี มีเวลาคิดอีกหลายเดือน

ปล. หนึ่ง ส่วนตัว ผมมองตัวเก่าคือตัวที่ผมใช้ หน้าแมวเนี่ย สวยกว่านะ
ปล. สอง ถ้าตัวสี่ประตู ช่วงนี้ลองเช็คราคาดู น่าจะมีราคาสวยๆอยู่
In Garage Subaru Impreza GDG WRX  y2008 // Nissan March 1.2E y2011



IncarRus

เอ่อ เอาหมูสับไปเทียบ ขาหมู ??

ริงโกะ เชียร์ บีเอมค่ะ ถ้า คุณสามารถ ดูแลหลังจากนี้ และหาสภาพดีได้ค่ะ....

ขาหมูค้างคืนนะครับเจ๊  ???

แต่ผมก็เลือก 323i นะ หล่อดี
แต่ดูจากช่วงอายุ ปี 2003
น่าจะอยู่ในช่วง เริ่มซ่อม เลยหละมั้งครับ
น่ากลัว จะได้ซื้อมาซ่อมเหมือนกันนะ  :-\



470127

ความเห็นผมนะ
ถ้าจะซื้อมาเป็นรถใช้งานหลักๆ คงเลือก honda อะครับเพราะเป็นรถใหม่
แต่ถ้าจะซื้อมาเป็นคันที่สอง คงเลือก bmw e46 เพราะถึงจะซ่อมก็ยังมีรถคันหลักใช้อยู่

bmw อย่างที่เพื่อนๆหลายคนบอก ถ้ามีอู่ดีไว้ใจได้ และตัวเรามีเวลาเอารถไป check ไปซ่อมดูแลมัน
bmw ก็ถือเป็น choice ที่ดีเลย เป็นรถที่ขับดีจริงๆ ยิ่งเป็นรุ่น 6 สูบ ผมว่าขับสบายสนุก แรงพอใช้ได้เลย



WTF

ผมว่าคุณพูดผิดไปอย่างที่บอกว่าใช้5ปีแล้วซีวิคราคาไม่ตกนะ
ซีวิค 8แสนกว่า(ไม่เอารุ่น top นะ ไม่งั้นตกกว่านี้อีก) อีก5ปี ผมว่าขายได้เต็มที่ก็ 5แสน แบบสวยๆนะ หายไป 3แสนห้า-4แสนแน่นอน
ส่วน BMW 750000 อีก 5ปี ผมว่าเหลือประมาณ 5แสนกว่า หายไป 2แสนครับ
แต่ระหว่างทางที่ใช้นั่นแหละ ที่ BMW อาจต้องเสียค่าซ่อมบานตะไท ถ้าโชคร้ายหรือว่าเลือกผิดคัน