ถ้าจดทะเบียนป้ายขาวแล้ว กรรมสิทธิ์แท้จริงจะเป็นของไฟแนนซ์หรือธนาคารที่เราผ่อน แต่สิทธิครอบครองจะเป็นของเราครับ
เงินที่เราจะได้รับจะไม่ได้รับเต็มจำนวน ต้องลบเงินที่ค้างไฟแนนซ์พร้อมดอกเบี้ยก่อน (บางที่จะลดดอกเบี้ยให้ครึ่งหนึ่ง)
เช่น ขายรถได้ราคา 500,000 บาท ยังติดไฟแนนซ์พร้อมดอกเบี้ยอยู่ 200,000 บาท เราก็จะได้รับเงินจริงๆ 500,000 - 200,000 = 300,000 บาท ครับ
ที่ผมเขียนคือกรณีเราไปเดินเรื่องเอง (+ ในกรณีชื่อรถเป็นบุคคลธรรมดา) ผมชอบเพราะง่ายและเร็วที่สุด
เอกสารที่ต้องใช้า (เตรียมตัวจริง-สำเนาไปด้วยนะครับ พร้อมเซ็นลายเซ็นรับรองสำเนา)
1. บัตรประชาชนผู้ซื้อ-ผู้ขาย
2. ทะเบียนบ้านผู้ซื้อ-ผู้ขาย
3. สัญญาซื้อขาย (หรือสัญญา จะซื้อจะขาย ด้วยในกรณีจองเราไว้ก่อน)
4. แบบฟอร์มโอนรถของกรมขนส่ง
5. หนังสือมอบอำนาจ พร้อมอากรแสตมป์ (ไม่ทราบกี่บาท ถ้าลืมหาได้ที่ขนส่ง)
ถ้าเราหาคนซื้อได้ก็ง่ายแล้วครับ มีที่ๆต้องไปอยู่ 2 ที่คือ
1. ธนาคารที่เราติดไฟแนนซ์อยู่ (ควรไปสำนักงานใหญ่ หรือ สาขาที่มีกรรมการมีอำนาจลงนาม)
2. กรมขนส่งทางบก เขตที่รถของเรามีที่อยู่ในเขตนั้น (ถ้าไปผิดเขตอาจต้องใช้เวลาหลายวัน)
**ถ้าโอนลอย - ก็ให้เซ็นเอกสารให้ครบ เขาจ่ายเงินมา เราให้รถไป
**ถ้าโอนสด - ให้ผู้ซื้อไปโอนกับเรา พอเสร็จขั้นตอนทั้งหมด ก็ค่อยเอารถไป
ขั้นตอนคือ
1. หาผู้ซื้อ - นัดดูรถแล้วพอใจกัน จะจองก็ให้เซ็นสัญญา "จะซื้อจะขาย" ถ้าจะซื้อจ่ายสดเลยก็ "สัญญาซื้อขาย"
(เขียนรายละเอียดให้ชัดเจน สัญญาจะซื้อวันไหน จะซ่อมอะไรให้ ใครออกค่าโอน ก็เขียนลงไปให้หมดนะครับ มีผลตามกฎหมาย)
2. ขั้นตอนการปิดไฟแนนซ์ - ไปธนาคารที่บอกข้างต้น ดูสาขาดีๆ ไปเช้าๆ จะได้เสร็จภายในวัน เพราะต้องรอเอกสารเซ็นนานมาก
และอาจต้องจ่ายมัดจำในการนำเล่มทะเบียนออกมาดำเนินการเอง ถ้าฝากเขาดำเนินการให้ ก็รออีก1-2วัน (ไม่ชอบเพราะช้า) ยอมมัดจำดีกว่าครับ
3. ไปขนส่งงานทะเบียนรถยนต์ - แนะนำว่าเอกสารเขียนให้พร้อม ถ้าคนซื้อไปด้วยจะเร็ว ถ้าไม่ไปด้วยต้องมีใบมอบอำนาจครับ
ถ้าโชคดีไปธนาคารเช้าแล้วเสร็จก่อนเที่ยงหรือบ่ายนิดๆ เราอาจเสร็จทันในวันครับ ถ้าไม่ทันต้องไปอีกวันนึง (ไม่ชอบเลย)
ถ้าชื่อในเล่มเป็นของเจ้าของใหม่ก็ถือว่าเสร็จสิ้นครับ
เยอะหน่อยนะครับ แต่หวังว่าคงได้ประโยชน์บ้าง ขาดตกอย่างไรช่วยเสริมด้วยนะครับ เป็นวิทยาทานให้แก่คนมือใหม่เริ่มขายรถ