ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องเบนซิน VS เครื่องดีเซล ในแง่ของค่าใช้จ่ายและการซ่อมบำรุง  (อ่าน 37644 ครั้ง)

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
มีหัวข้อมาให้คิดเล่นๆ สำหรับเครื่องเบนซินและดีเซลครับ

หลายๆคนพูดถึงความทนทาน ความอึด ของเครื่องยนต์ดีเซลกันมามากมาย
วันนี้ ผมขอสอบถามและขอความเห็นเกี่ยวกับ"ค่าใช้จ่าย" ที่เกิดขึ้นบ้างนะครับ


ผมขอเอารถยนต์ 2 รุ่น ที่มีเครื่องยนต์ต่างกัน มาเปรียบเทียบดูนะครับ

- สมมุติในงบ 850,000 บาท
ผมเอา อัลติส 1.6 G มาเทียบกับ วีโก้ 3.0G ขับสอง ตัวเตี้ย ล่ะกัน
ด้วยความที่รถเป็นเกียรออโต้เหมือนกัน ราคาพอๆกัน

คิดว่า เจ้า 2 คันนี้ หากคิดค่าซ่อมบำรุง และค่าบำรุงรักษาในระยะยาวแล้ว
คันไหน จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า(หรือต่ำกว่า) ครับ??
ปล. คิดเฉพาะ เครื่องยนต์และส่วนที่เกี่ยวข้องนะครับ เรื่องแอร์ ช่วงล่าง ระบบอื่นๆ ไม่นับ


- สมมุติใหม่ ถ้าเป็นรถรุ่นเดียวกัน แต่เครื่องต่างกันล่ะ??
ถ้าผมเอา วีโก้ เบนซิน2.7 ลิตร มาเทียบกับวีโก้ ดีเซล 3.0 ลิตร
ทุกท่านคิดว่า ถ้าเป็น 4 ประตูทั้งคู่ ขนไม่หนักมาก และใช้งานทั่วๆไปแล้ว
คันไหน จะมีค่าซ่อมบำรุงแพงกว่ากัน??



ส่วนตัวผม คิดว่า ข้อแรก(สีแดง) อัลติส น่าจะซ่อมบำรุง และบำรุงรักษาถูกกว่า
เพราะดีเซล ใช้น้ำมันเครื่องตั้งหลายลิตร(แค่นี้ เช็คระยะแต่ละรอบ ก็แพงต่างกันแล้ว)
ไหนจะค่าภาษีจากเครื่องยนต์ 3 พันซีซี ค่าประกันและปั้มคอมมอนเรล
ผมเคยได้ยินมาว่า ระบบคอมมอนเรล รางหัวฉีด หรือปั้ม ถ้ามันเสียขึ้นมาก็แพงน่าดูเหมือนกัน
ในขณะที่เบนซิน หัวเทียนไม่แพงมาก ลูกสูบ หัวฉีด อะไรๆก็ไม่ต้องเปลี่ยน ไม่ซับซ้อน
ไม่ทราบว่า ผมเข้่าใจในจุดนี้ถูกมั้ยครับ??

ในข้อสอง(สีฟ้า) ผมคิดว่า เบนซิน ก็น่าจะมีค่าใช้จ่ายที่พอๆกับดีเซลนั่นล่ะ(ไม่นับเรื่องแก๊ส)
ปล. ผมได้ยินมาว่า ยางแท่นเครื่อง เครื่องดีเซล ต้องเปลี่ยนบ่อย เพราะมันสั่น ยางเลยสึกไว จริงหรือเปล่า??

ผมกำลังคิดว่า เบนซินสมัยนี้ ก็ไม่ได้อ่อนแอกว่าดีเซลมากมายนิครับ?
รถเซลล์ของบริษัทผม ซีวิึึึคFD แค่ 5 ปี วิ่งไป 4 แสนกว่าโล(ติดแก๊สด้วย)
ไหนจะรถเพื่อนผม วีออสเก่า ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียน ใช้ทั้งบ้าน วิ่งไป 5 แสนกว่าโล ยังวิ่งฉิ่วเลย
ข้างบ้านผม ลุงคนนึงใช้ Mitsu E-Car เป้น 10 ปีแล้ว ไมล์ตีกลับไปแล้ว แกยังโม้ให้ฟังว่าวิ่ง 170 ยังไหว

เลยสงสัยนิดหน่อยว่า ตกลงแล้ว เครื่องเบนซิน  ถ้าดูแลรักษาดี เปลี่ยนถ่ายของเหลว
มันก็อึด ทน ถึก ไม่แพ้เครื่องดีเซล ใช่มั้ยครับ?
ค่าใช้จ่าย ก็ไ่ม่ได้แพงกว่า อย่างที่เราๆท่านๆ และใครหลายๆคน เข้าใจ ใช่มั้ยครับ??

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
ในแง่การบำรุงรักษาระยะยาวแล้วยังไงดีเซลก็จ่ายน้อยกว่าครับ เพราะ

- ไม่มีชุดหัวเทียนและคอยล์จุดระเบิด คอยล์จุดระเบิดรถเบนซินสมัยนี้เจ๊งมาราคาก็เอาเรื่องอยู่หรอก

- น้ำมันเครื่องที่บอกว่าใช้เยอะกว่าเบนซินมันก็จริงครับ แต่น้ำมันเครื่องดีเซลถูกกว่าเบนซินครับ ลองไปดูได้เลย

- ระบบคอมเมนเรล อันนี้จริงๆแล้วรถเบนซินสมัยนี้ระบบจ่ายน้ำมันก็คล้ายๆเครื่องดีเซลแล้วครับเพียงแต่แรงดันไม่สูงเท่าดีเซล  ตัวนี้ถ้าเจ๊งขึ้นมาอ่วมพอๆกัน

- ยางแท่นเครื่องทรุดเร็วผมว่าไม่นะ รถผม6ปี 150,000 โลมันก็ยังปกติอยู่เลย

สำหรับผมข้อดีของเครื่องดีเซลคือมันประหยัดน้ำมันกว่า ยิ่งนั่งเต็มรถพร้อมสัมภาระแล้ววิ่งขึ้นทางชันจะเห็นชัดเลยครับ แอคคอร์ด G8 2.4 ผมนั่ง4คนพร้อมสัมภาระเต็มท้ายรถได้7โล/ลิตร แต่เชฟ4ประตูขับสี่ออโต้ผม สภาพเดียวกันมันได้เกือบ 10โล/ลิตร แถมขึ้นได้ชิวๆเลี้ยงรอบได้แถว 2500 ก็สบายแล้ว แต่แอคคอร์ดผมต้องเลี้ยงไว้ 3500-4000 มันถึงจะมีแรง
แต่ตอนนี้ทั้ง2คันเข้าศูนย์ก็เหมือนๆกันนะ ค่าใช้จ่ายแทบจะไม่ต่างกันเลย แอคคอร์ดต้องรอแสนโลหรือ5ปีโน่นถึงจะได้เปลี่ยนหัวเทียน แต่เช็คราคาแล้วเอาเรื่องเหมือนกันเพราะมันเป็นหัวเทียนอิริเดี่ยม

ออฟไลน์ birm@productive

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395
อ่านแล้วผมก็งงต่ออีกหน่อย เพราะถามเรื่องค่าใช้จ่ายบำรุงเครื่องยนต์ แล้วก็เข้าเรื่องภาษี

ผมมองว่าในประเด็นสีแดง แม้เอามาเทียบกันได้ แต่ก็ไม่ควร เนื่องจากเป็นรถคนละประเภทกันครับ และมันก็จะเป็นตามที่คุณ Yenchar พูดเรื่องการบำรุงรักษาประจำระยะ ภาษีประจำปี (ยกเว้น Vigo เป็นตัว Single หรือมี Cab ซึ่งทำให้ภาษีต่อปีเหลือประมาณพันห้าร้อยบาท) ค่าเชื้อเพลิง ค่าอะไหล่ ที่จะแตกต่างกันไปครับ ถ้าอะไหล่ที่เสียยาก นานๆเปลี่ยนที อย่างนี้อะไรก็แพงครับ

ลองเทียบตามประเด็นสีฟ้าดีกว่าครับ จะเห็นภาพได้ชัดเจนกว่า
Vigo 2.7vvti vs 3.0G ใช้ไม่หนัก ค่าใช้จ่ายก็ผมประมาณว่าพอๆกัน บวกลบต่างกันไม่มาก ถ้าเบนซินติด LPG ยังงัยเสียก็มีวาระที่ต้องดูแลเครื่องยนต์ถี่กว่าปกติหน่อยนึงครับ ภาษีถ้าเป็นรถ Double Cab นั้น ก็ดีเซล 3.0 ดีเซลจะแพงกว่า แต่ถ้าเป็น 2.5 ภาษีก็ถูกกว่าแน่นอนครับ อะไหล่ที่เสียยาก ดีเซลอาจจะราคาไม่แพงจำนวนอะไหล่ที่ผลิตออกมามากมายให้พอเพียงกับจำนวนรถยนต์ในตลาดครับ

สมมติว่าเก๋ง Ford Focus 2.0si กับ 2.0TDci มาเจอกัน จะเป็นอย่างไร?
ภาษีเท่ากัน ค่าน้ำมันดีเซลทิ้งขาดเป็นทุ่ง อะไหล่ที่เสียยากอาจจะแพงกว่าหน่อยครับ

สรุป ใกล้เคียงกันครับ อยากรู้เจาะละเอียดก็ต้องศึกษาลงไปถึง price list ของอะไหล่และของเหลวสิ้นเปลืองของรถแต่ละรุ่นและอะไรที่เปลี่ยนกันในแต่ละปีครับ
ประวัติ
รถ 11 คัน
ยาง 14 รุ่น

ออฟไลน์ wip

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 199
    • อีเมล์
ถ้าเอาเก๋งกับกระบะมาเทียบกันคงไม่ได้..เพราะมีหลายปัจจัยจากประสบการณ์พนักงานรับรถ
อันน้อยนิดของค่ายสามห่วง.....กระบะเบนซิลกับกระบะดีเซล..เบนซินแพงกว่าเพราะราคากรองเบนซิน
ที่แพงกว่าและมีค่าหัวเทียนอีก...ทั้งนี้ต้องเอารุ่นเกียวกะนด้วยน่ะขับ4 ขับ 2ราคาจะร่างกันมาก

อื่นๆ...ใครมีข้อสงสัยอันใดมาแชร์ก้นครับ

ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,672
    • อีเมล์
ระหว่าง Altis 1.6 auto กับ vigo 3.0D4D auto
ถ้า้เทียบแค่ค่าดูแลรักษา ผมว่า เครื่องดีเซล ถูกกว่า และไม่จุกจิก
แค่อัตราการกินน้ำมัน พอกัน แต่ ดีเซลค่าเชื้อเพลิงถูกกว่า ทำให้เติมน้ำมัน แล้ว เติมดีเซลประหยัดกว่านิดหน่อยเองนะครับ
แต่สิ่งที่ต่างกันชัดเจนก็คือ อัตราเร่ง Vigo ดีกว่าเยอะ กดเป็นมา altis 1.6 อืดกว่าพอควร ยิ่งตอนเร่งแซงต่างกันเยอะครับ
ความกระด้าง vigo กระด้างกว่าเยอะครับ
ความเอนกประสงค์ vigo ดีกว่า
ลุยน้ำ vigo ลุยได้ดีกว่า
รูปลักษณ์ altis ดูดีกว่าเพราะเป็นรถเก๋ง

ผมว่าถ้านับข้อดี Vigo น่าจะดีกว่า ในกรณีที่ไม่ติด gas ครับ
แต่ถ้าติด gas คำตอบน่าจะเปลี่ยนไป เพราะ Altis ตอบในเรื่องประหยัดดีกว่าเยอะครับ
ส่วนจะเลือก vigo 2.7 vvti มาติด gas แต่ไม่เน้นขนของ ผมว่า ออก altis ไปติด gas ดีกว่าครับ
Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ

ใครอยากจะเสริมเพิ่มเติม ก็รบกวนนะครับ เป็นความรู้ แชร์กัน

ออฟไลน์ banch

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,214
ดีเซลสมัยใหม่

ค่าบำรุงรักษาไม่น้อยหน้า เบนซินแล้วครับ

ออฟไลน์ tap-mzr

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 484
    • อีเมล์
รอ คำตอบด้วยคนครับ
คน ... รัก ... รถ ..   .. รถ ... รัก ... เจ้าของ

ออฟไลน์ benzd

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 262
    • อีเมล์
ถ้าเอามาติดแก๊ส ที่ผมใช้ ไม่เห็นเป็นอย่างที่หลายคนบอกเลยครับ ว่าค่าบำรุงรักษาจะเพิ่มขึ้น เข้าศูนย์ตามระยะเหมือนเดิม แต่การสึกหรอเพิ่มขึ้นจริงครับ เพราะติดแก๊สแล้วอยากเที่ยวอย่างเดียวเลย จากรถตอนใช้น้ำมัน วิ่งน้อยมาก พอเปลี่ยนเป็นแก๊สต่างกันมากเลยครับ

ออฟไลน์ mckyparty

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 748
    • อีเมล์
คอยล์จุดระเบิดตัวละพันกว่า ทั้งเบนซ์ท้ั้งโตโยต้า นานแสนนานกว่าจะเสียนะครับ

ตอนนี้ผมว่า ดีเซลคอมม่อนเรล ช่วงหลัง 5-7 ปี จะเริ่มเข้าสู่ภาวะ สูบเลือดเจ้าของแล้วครับ แค่เค้าไม่มีหัวเทียน ไม่มีระบบจุดระเบิดใช่ว่าราคาจะถูกไปหมด มีเทอร์โบ อินเตอร์ EGR วาล์ว SCV วาล์ว (บางคันเปลี่ยนกันเป็นโหล ถ้ายังไม่เจอตัวใหม่แก้ปัญหาแล้ว) ที่มันพร้อมจะพังทีเป็นหมื่นได้ตลอดเหมือนกัน
 
ถ้าจะเอาทน ประหยัด ค่าดูแล ต้องยุคก่อนคอมม่อนเรลนั่นล่ะครับ

สมัยนี้ การบำรุงรักษาดีเซลไม่ได้ประหยัดกว่าอย่างมีนัยสำคัญอีกแล้ว ลองห่างอู่ซักหน่อยก้อไปไม่เป็นเหมือนกัน
เพียงแต่เทคโนโลยีเบนซินมาถึงจุดตันแล้ว แต่คอมม่อนเรล ยังฉีดให้แรง ยังอัดได้แรงได้อีก

ออฟไลน์ HME

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 719
เข้ามาโหวตเบนซิน
(สาวกเบนซิน)

นมค ความจริงๆจะใช้รวมกันก็ได้นะ ถ้าต้องการ
คอยล์จุดระเบิดก็เปลี่ยนประมาณทุกแสนกิโลเมตร ราคาไม่แรงมาก แล้วแต่จำนวนด้วยฮะ
และถ้าจะเอาแรงเท่าๆกัน เบนซินไม่จำเป็นต้องใช้เทอร์โบก็มีแรงเท่าๆดีเซลแล้ว และนันทำให้ไม่ต้องใช้ นมค สังเคราะห์ หรือเกรดดีๆ

(ลำเอียงสุดๆ)

ออฟไลน์ edward

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 243
ดูรวมๆแล้ว จริงๆดีเซลมีข้อดีกว่ามากมาย (หรือเปล่า) แต่ทำไมคนชอบเบนซินล่ะครับ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร

ดีเซล
- เครื่องอึดกว่า
- อัตราสิ้นเปลืองน้อยกว่า
- แรงบิดดีกว่า ลากของได้ดีกว่า
ฯลฯ

เบนซิน ดีแค่เรื่อง เสียงเครื่องที่เบากว่า แล้วมันมีอะไรดีอีกอะครับ

ออฟไลน์ vellcap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,984
สมัยก่อน ดีเซล ทนกว่า ค่าใช้จ่ายถูกกว่า
แต่ปัจจุบันนี้ ให้เท่ากันครับ ไม่ใช่เปราะบางนะ ทนทานทั้งคู่ เท่าที่ผมได้เจอมาครับ

ออฟไลน์ [J]e[w]

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,376
ดูรวมๆแล้ว จริงๆดีเซลมีข้อดีกว่ามากมาย (หรือเปล่า) แต่ทำไมคนชอบเบนซินล่ะครับ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร

ดีเซล
- เครื่องอึดกว่า
- อัตราสิ้นเปลืองน้อยกว่า
- แรงบิดดีกว่า ลากของได้ดีกว่า
ฯลฯ

เบนซิน ดีแค่เรื่อง เสียงเครื่องที่เบากว่า แล้วมันมีอะไรดีอีกอะครับ


ติดแก๊สไงครับ
Don't waste time grieving over past mistakes, learn from them and move on!

ออฟไลน์ นครอัญมณี

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,181
    • นครอัญมณี
    • อีเมล์
ตอบโจทย์ตรงๆ ไม่อ้อม
ในแง่ของค่าใช้จ่ายและการซ่อมบำรุง

กำหนดให้เครื่องยนต์ 2,000 ซีซี เท่ากัน

ความทนทาน ดีเซล ชนะ
เครื่องยนต์ออกแบบให้หนากว่า ทนกว่า เพราะต้องทนต่อแรงอัดที่สูงมากกว่าเครื่องเบนซิน เนื่องจากต้องใช้แรงอัดเป็นตัวจุดระเบิด

ค่าใช้จ่ายน้ำมัน ดีเซลชนะ
ค่าน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตร รถกระบะทั่วไปใช้งานจริงวิ่งเฉลี่ย 10-12 กม./ลิตร (ไม่บ้าเหมือนพวกโฆษณา 30-40 กม./ลิตร)
ค่าน้ำมันเบนซิน 40 บาท +/- แล้วแต่เกรด รถทั่วไปวิ่งเฉลี่ย 10-12 กม./ลิตร

การซ่อมบำรุง ดีเซลชนะ
เปิดฝากระโปรงมา ไม่มีระบบไฟ จานจ่าย คอยล์ หัวเทียน ECU จุดระเบิด อะไรให้ตรวจเช็คเลย


วิศวกรทั่วโลก หลายค่ายเครื่องยนต์ เขาทดสอบมากันเยอะแล้ว

จึงเห็นได้ว่า
รถยนต์เกรดสูงหลายค่ายปัจจุบัน เช่น Benz, BMW, Audi, Volk จึงหันมานิยมเครื่องดีเซลมาใส่ไว้ในรถเกรดสูงของตนเองแทบทั้งสิ้น
ถ้ารถยนต์ตระกูล Hybrid ทั้งหลายแหล่ ไม่แคร์เรื่องความนิ่ง,เงียบ ในห้องโดยสาร ป่านนี้มีเครื่องดีเซล+มอเตอร์ไฟฟ้า ออกมากันเยอะแล้ว

รถที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม-เกษตรกรรม จึงเน้นเครื่องดีเซลเป็นหลัก
นอกจากได้แรงบิด-แรงม้าที่ดี ในรอบต่ำแล้ว
เกษตรกรที่อยู่ในฟาร์ม ไม่ต้องดูแลอะไรมาก แค่เปิดฝาน้ำมัน เติมน้ำมันดีเซล ดูว่าน้ำมันเครื่องยังอยู่สภาพดีหรือเปล่า...จบ..แค่นี้ก็เครื่องติดได้แล้ว


แต่ถ้าดูคำถามสีฟ้า
Vigo เบนซิน 2.7 กับ Vigo ดีเซล 3.0
ตอบได้ทันทีว่า ดีเซลดูแลง่ายกว่ามาก ยิ่งใช้นาน ยิ่งปวดหัวน้อยกว่ามาก
อีกทั้งการกินน้ำมัน ดีเซล 3.0 กินน้อยกว่า เบนซิน 2.7 อยู่เกือบ 20%
เมื่อคูณค่าน้ำมันดีเซลที่ถูกว่าน้ำมันเบนซินแล้ว Vigo เบนซิน 2.7 แพ้ Vigo ดีเซล 3.0 กระจาย

ยอดขายตัว 2.7 กับ 3.0 ก็เป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่ง

แต่ทางเลือกที่ 2.7 จะชนะ 3.0 ได้คือ นำไปติดแก๊ส LPG หรือ NGV ครับ
รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด