ผู้เขียน หัวข้อ: สงสัยครับ ความเชื่อที่ว่าMBเหมาะสำหรับใช้นานๆBMWหมดประกันแล้วขายทิ้งเปลี่ยนใหม่  (อ่าน 11038 ครั้ง)

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
เวลาคุยกับใครเรื่องรถยุโรปมักจะมีคำตอบประมาณนี้ เวลาบอกว่า BMW มีประกัน5ปี พวกก็บอกว่าหมดประกันก็ซ่อมกันอาน MB ดีกว่า ช่างซ่อมเก่งๆหาได้ง่าย อะไหล่ถูกกว่า BMW แม้แต่ในรีวิวพี่จิมมี่ก็บอกประมาณว่าBMWใช้หมดประกันแล้วคงขายทิ้งเหมือนกัน เชิญคนใช้ MB&BMWมาแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ

ออฟไลน์ pongisra

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,459
เคยคุยกับคนขายรถมือสอง

เขาบอกว่า BMW นี่หลังสี่ห้าหกปีแล้วเสียจุกจิก ซ่อมแพงนี่เรื่องจริง แต่ก็ใช่ว่า MB จะถูก จริงๆก็แพงเหมือนกัน แพ่แพงน้อยกว่า และเสียน้อยกว่า

เขาบอกมาว่า Audi ยังเสียน้อยกว่า BMW เลย

ผิดถูกยังไงไม่รู้นะครับ ไม่ได้ประสบมากับตัวเอง

ส่วนตัวมองว่า BMW เสียเยอะกว่า ซ่อมแพงกว่าจริง แต่ก็ไม่ได้มากกว่าขนาดซ่อมไม่ไหว จะต้องขายทิ้ง

ออฟไลน์ osment

  • Internship
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 791
ตอนนี้ผมไม่ได้ใช้รถ MB และ BMW น่ะครับ เคยแต่ใช้ W124 และขายไปแล้ว
จากความคิดของผม ผมคิดว่าความเชื่อนี้มันมาจากสมัยก่อนครับ
จากเท่าที่รู้มารถ MB เมื่อก่อนคุณภาพโดยรวมและความทนทานของรถ วัสดุภายในจะมีคุณภาพที่ดีกว่า BMW
ทำให้รถ MB เมื่อก่อนไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิก ราคาอะไหล่หลายๆตัวก็ไม่แพงเวอร์และมีความทนทานที่เหมาะสมกว่า BMW
BMW เมื่อก่อนเป็นรถที่ค่อนข้างทันสมัยกว่า MB และเริ่มมีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบไฟฟ้าต่างๆ เข้ามาใช้กับตัวรถ
อาจจะทำให้ช่างสมัยก่อนไม่ค่อยคุ้นเคยกับระบบมากนัก การซ่อมจึงไม่จบ และตอนนั้นประชากร MB มีอยู่เยอะ จึงจำให้ช่างที่คุ้นมือ MB ก็มีเยอะตามรถไปด้วย
เลยทำให้รถ MB กลายเป็นรถที่ซ่อมง่าย ทนทานตามอายุ ราคาอะไหล่ไม่เวอร์นัก ชื่อเสียงเหล่านั้นจึงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้
(แต่ MB สมัยนี้ก็ใช่ย่อยแล้วน่ะ ^v^ )
ตอนนี้ถ้าถามพ่อผม พ่อก็ยังมีความคิดฝังมาจากอดีตเลยครับ... MB ทน ขายต่อดี BM เปราะ จุกจิก ขับดี ราคาตก
ผิดพลาดตรงไหน ขออภัยด้วยครับ  รอผู้รู้จริงด้วยครับ

ออฟไลน์ นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,873
  • เส้นขอบฟ้า
มันคงเป็นอย่างนั้นแหละครับ ผู้ใหญ่หลายๆคนที่ผมรู้จักก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกันแต่ผมไม่ได้ซีเรียดอะไร หมดประกันก็ซ่อมอู่นอก
แต่แค่ MB เป็นรถที่ช่างคุ้นเคยและได้รับความนิยมและอะไหล่ถูกกว่า  

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
น้าผมขับ BMW E36 มาตั้งแต่จบป.โท จนตอนนี้ เพิ่งซื้อ C250 AV ไปหมาดๆ เท่าที่ทราบก็ซ่อมไม่วุ่นวายนะครับ

ไม่มีปัญหาอะไรคาราคาซัง ถามว่าอะไหล่แพงไหมก็พอสมควรอะคับตามราคารถ :P

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
เบนซ์ซ่อมแพง แต่ซ่อมตามระยะ เปลี่ยนแล้วจบ ไม่ได้จุกจิก
ในขณะที่ BMW ซ่อมไม่จบ จุกจิก เจอปัญหาเดิมซ้ำซ้ำอยู่นั่นครับ

ออฟไลน์ tyong

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 244
BMW ซ่อมไม่ได้ยากไปกว่่า MB ครับ เพียงแต่หาอู่ที่เก่งๆยากกว่า ถ้าเจออู่เก่งๆก็จบเหมือนกันครับ  :)
2019-now: BMW 320D G20
2018-now: MB C250 Coupe AMG
2017-2019: MB GLA200 Urban
2014-2018: BMW F30 328i M Sport
2012-2017: Mini Cooper S R56 look 2

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
BMW จุกจิกกว่า แต่อะไหล่ถูกกว่า MB
ผมรู้จักอู่ช่างวิวตรงซอยนวลจันทร์ ถูกมากมาย อีกที่นึงตรงรพ.เปาโลฯ ถูกพอกัน
ใครจะเล่น BMW ถ้ารู้จักอู่ดีๆ สนิทกับช่าง ขับได้อีกนาน

ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองมั้ย แต่แถวบ้านผม มีแต่อู่ BMW ซะส่วนใหญ่

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,546
ผมว่าไม่จำเป็นเสมอไปครับ มีปัจจัยอีกหลายอย่าง ผมมี e90 w210 w211 ผมว่าแพงหมดอะครับ
เบนซก็จุกจิกใช้ได้ แอร เครื่อง เกีย กระจกไฟฟ้า เฟืองท้าย เครื่องเล่น cd เครื่องสั่น
บีเอ็ม กลอนประตู เครื่อง พวงมาลัย

สรุป แพงหมด ถ้าเสีย ซ่อมห้าง

ออฟไลน์ XL_SiZe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,041
ถึงตอนนี้ยังมีคนบอกว่า อะหลั่ยมิตซู หายาก  :D
ความเชื่อเมื่อ 20 ปีก่อน

อะหลั่ย BMW น้องคนนึงขับ E90 อยู่บอกว่า
ถ้าหมดประกัน อยากได้อะหลั่ยตัวไหนบอก เอาแบบถูกจนตกใจเลย
แต่ของเทียบนะครับ ถูกกว่าญี่ปุ่นบางยี่ห้ออีก เทียบด้วยกัน

ใส่แล้วก็วิ่งปกติ แต่เสียไวหน่อย ราคาซ่อมทีก็เบา ๆ
แต่ต้องหูตากว้างครับ
ที่บอกว่าซ่อมจุกจิก ขอแนะว่า หาอู่ใหม่ดีกว่า

ออฟไลน์ golf32

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
นิสัยคนไทยอย่างหนึ่งคือยังไม่เสียก็ยังไม่เปลี่ยน แต่บางครั้งอะไหล่บางอย่างก็มีเวลาเปลี่ยนไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้นะครับทีนี้พอไม่เปลี่ยนมันก็พาลเสียไปถึงส่วนอื่นด้วยคราวนี้เสียเงินหลายต่อเลย

ที่ผมพุดแบบนี้เพราะที่บ้านผมใช้ทั้ง ญี่ปุ่นและยุโรป ก็ไม่จุกจิกนะครับ ขอแค่เปลี่ยนอะไหล่ตามระยะเวลาที่กำหนด แต่รถญี่ปุ่นเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่จุกจิก แถมอะไหล่เองก็ใช่ว่าจะถูก

ผมเคยใช้ซีวิค ES 2.0 พวงมาลัยไฟฟ้าเสีย ต้องเปลี่ยนแรคพวงมาลัยพร้อมกับโช๊คคู่หน้ารวมกัน 60,000บาท ก็ไม่ถูกนะครับสำหรับรถญี่ปุ่น :P แต่ผมทำที่ศูนย์ใช้อะไหล่เบิกใหม่ อย่างน้อยๆก็มีการรับประกันอะไหล่แท้อยู่

ออฟไลน์ kamphola

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 182
ไม่จริงหรอกครับ ความเชื่อนี้น่าจะหมดไปได้นานแล้ว
ถ้าจะให้ชี้ชัด ก็ต้องว่ามาเป็นรุ่นๆไป
ไม่ว่าจะ MB หรือ BM ถ้าให้เข้าศูนย์ตอนนี้ราคาพอๆกันแน่นอนครับ ขึ้นกับชิ้นไหนถูก-แพงกว่ากัน
และต้องเทียบให้ถูกคู่ด้วย เช่น 3-C , 5-E
คนที่ใช้่กันจนเก่าก็หาอู่นอกก็ save ไปได้เยอะ อะไหล่หลังวัดโสมทั้ง MB,BM มากมายมหาศาลราคาไร่เรี่ยกันแหละครับ
จะอะไหล่เก่ามือสองก็มีมากมายหลายร้านทั้งที่มีหน้าร้านทั้งขายใน Net

ผมว่าที่ MB ยังมีเปรียบ BM คือราคาขายต่อ (จริงๆราคาตั้งตอนป้ายแดงมันก็แพงกว่านะ) และดูดีกว่าเมื่อเทียบกัน Gen ต่อ Gen
เช่น W202 ดูดีกว่า E36 นิดๆ , W124 ดูดีกว่า E34 นิดๆ , W210 ดูดีกว่า E39 นิดๆ
ซึ่งไอ้คำว่าดูดีของผม ผมก็นิยามไม่ถูกเหมือนกัน  ;D

ออฟไลน์ menglovekai

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • อีเมล์
โลกมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ความคิดคนมันเปลี่ยนยาก

รถก็แพง คนขับน้อย ไม่ค่อยมีใครมาแชร์ข้อมูล ข้อมูลที่ได้ยินมาก็ ปากต่อปาก

แต่ทุกวันนี้ มีอินเตอร์เน็ต มี คลับ มีชมรม มีช่างเกิดใหม่ มีอู่นอก มีอะไหล่เทียบ

ผู้ขับ ควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน  การลงทุนมีความเสี่ยง  ;)

ออฟไลน์ JIRATH

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,782
    • อีเมล์
X5 ทีบ้านเข้าปีที่ 7 แล้วมีอาการหนักคือระบบไฟรวนแค่ครั้งเดียวครับ ส่งผลให้ไฟขึ้นเต็มหน้าปัด เหยียบคันเร่งไม่ขึ้น

เข้าอู่รีเซ็ตใหม่ปุ๊ปหายเหมือนเดิม

เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเองตามระยะทางก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ วิ่งมา 80,000 ไมล์แล้ว

แต่กำลังดู X3 กับ E60 ไว้อีกอย่างละคัน ติดใจ BMW
2008 Mazda CX-9 (SOLD)
2008 BMW X5 3.0si E70 (SOLD)
2010 Volkswagen CC R-Line (SOLD)
2014 Subaru BRZ Limited (SOLD)
2016 Subaru STi (SOLD)
2016 Honda Accord Sport
2016 BMW 328d F31 Xdrive
2015 Lexus CT200h F-Sport
2006 BMW 330i E90 6M/T

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,368
ถ้าเป็นสมัยก่อนล่ะ ก็ใช่ครับ
W124 ทน อะไหล่ถูก ไม่จุกจิก เพราะระบบไฟฟ้ามันน้อยกว่า E34 เยอะ
W202 กับ E46 ก็เหมือนกัน E46 ระบบไฟฟ้าเยอะกว่าย่อมมีจุดซ่อมเยอะกว่า

พอเป็น W210 กับ E39 ยิ่งเห็นชัด ก็ BM sensor มันเยอะกว่ายุบยับเลย ช่วงล่างก็เป็นอลูมิเนียม ความทนย่อมสู้ W210 ไม่ได้แน่ๆ แต่แน่นอน E39 การขับขี่ การทรงตัว ก็เยี่ยมกว่า W210

แต่พอเป็น W203 กับ E90 ,W211 กับ E60 แล้ว มันก็ไม่ได้ต่างกันมากมายนัก สมัยนี้ราคาแทบจะไม่ต่างกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น MB , BM หรือแม้แต่ Volvo

เพียงแต่เมื่อ Benz มีคนใช้มากกว่า ช่างก็มีมากกว่า รถเยอะกว่าช่างย่อมจะเคยถอด ประกอบมากกว่า BM ที่มีรถน้อยกว่า ก็เลยดูเหมือนว่าความจุกจิก BM จะมากกว่า

เดี๋ยวนี้ อู่นอกเก่งๆเยอะแยะครับ BM ถ้าหาอู่เฉพาะได้ มันก็ไม่ได้น่ากลัวมากมายนัก หยอดกระปุกเดือนละ 5,000 อย่าให้ขาด ก็พอเลี้ยงดูได้แล้ว (หยอดไว้แล้วห้ามแคะออกมาใช้นะ ให้เงินมันเพิ่มไปเรื่อยๆ) 

ออฟไลน์ templeboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,280
ผมมองว่า BM ซ่อมจุกจิกไม่ได้อยู่ที่ตัวรถ แต่อยู่ที่ช่างไม่รู้จริง...ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ยังไม่ถึง วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาไม่ขาด เปรียบก็เหมือนหมอจบใหม่ หรือนักบินชั่วโมงบินต่ำ ย่อมจัดการกับเคสยากๆไม่ค่อยได้ครับ....ขนาดช่างศูนย์ซึ่งมีทรัพยากรต่างๆพร้อม บางครั้งยังเอาไม่อยู่เลย ถึงว่าบางท่านเลยคิดว่าซื้อเกรย์ แล้วไปหาช่างเก่งๆอู่นอกยังดีซะกว่า  ::)
ถ้าทำอะไรดีๆ แล้วคนมองว่าสร้างภาพ...ก็ช่างเขา อย่างน้อยเราก็ยังได้ทำดี ไม่เหมือนเขา...ที่แค่ "คิดดี" ยังทำไม่ได้
ว.วชิรเมธี

ออฟไลน์ PoLiTE!!

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 90
  • I wasn't me!!
สมัยนี้ ผมว่า ไม่ต่างกันหรอกครับ ขึ้นอยู่กับช่าง
ทุกวันนี้ เห็น Handheld เป็นพระเจ้าแล้ว เอะอะไรเสีย ก็จิ้มเอาแล้วก็เชื่อมัน เปลี่ยนอย่างเดียว ไม่มีแกะซ่อมแล้ว

อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆก็ Seal อย่างดี แกะแล้วประกอบได้เหมือนเดิมป่าวก็ไม่รู้

สรุปใครถนัด และมีพรรคพวก เล่นค่ายไหน ก็ไปค่ายนั้นแหละครับ

ส่วนเรื่องราคา ผมว่าเทียบเป็นอัตราส่วนแล้ว น่าจะตกพอๆกัน สำหรับมือ1 แต่ถ้าซื้อมือ 2 Benz ภาษีดีกว่า เนื่องจากระยะยาว ราคายืนดีกว่า (เทียบ E30/190E, E34/124)

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
จากที่เคยใช้มาทั้ง Audi Benz BMW นะครับ

ความจุกจิกในการซ่อม Audi จุกจิกและบ่อยสุดเลยครับ ขนาดซ่อมอู่นอกที่ขึ้นชื่อว่าเจ๋งๆแล้ว ยังซ่อมแก้แล้วแก้อีก บางทีอยุ๋กับเราเป้นไปหาช่างไม่เป้นซะงั้น แล้วก็เอากลับมาก็เป้นอีก แก้ไม่หายซักที ส่วน Benz กับ BMW ไม่จุกจิกพอๆกันครับครับ

ค่าซ่อม Audi แพงสุดครับ ขนาดปีเก่ากว่า อะไหล่บางตัวแพงมากๆ แล้วยิ่งมันเสียบ่อย ค่าใช้จ่ายมากขึ้นเป็นเงา ส่วน Benz กับ BMW แพงเหมือนกัน แต่ไม่จุกจิกเท่า Audi ครับ เสียตรงไหน แก้ตรงนั้นแล้วหายไปหลายปีเลยครับ

สุดท้าย ผมเก็บ BMW ไว้ขับเอง เพราะมันขับสนุกที่สุดในสามยี่ห้อ แล้วเก็บ Benz ไว้ให้คนขับรถขับ เพราะมันนุ่มนวลและยวบยาบ ส่วน Audi ขายทิ้งครับ

ปล Benz หลังๆมาจุกจิกกว่า BMW นะครับ แล้วอู่นอก BMW เก่งๆ เก่งกว่าศูนย์มีอยุ๋หลายแห่งครับ ถ้าขับเองยังไง (หรือนั่งหลังบ้าง) ผมก็ยังเชียร์ BMW ครับ ใช้แล้วติดใจจริงๆ

ออฟไลน์ pite

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 342
ส่วนตัวผมนะครับ มันเกิดจากว่า มี ระบบ BSI เข้ามานี่แหละ ทำให้เวลาใช้ไปจนใกล้ๆครบกำหนดก็จะเอาไป Turn เอารุ่นใหม่มาขับ ครับผม

ขับอย่างเดียว มีอะไรเสียก็ เคลมๆๆๆ - -" จนเป็นนิสัยไปละครับ ช่างเขาก็ดูแลดีด้วยส่วนนึง เช็คละเอียดยิบ! (จนตอนนี้ข้างในบางจุดเหมือนตอนออกห้างใหม่ๆละเนี่ย) วนๆกันแบบนี้แหละครับ อีกอย่าง บางจุดในรถมันเกิดปัญหาลอกบ้างเยิ้มบ้างเหนียวบ้างและอื่นๆ...... จนทำให้เมื่อเก่าไปละมันไม่น่าใช้ ส่วน Benz ที่บ้านออก E220 Sedan/Van รุ่นโลงจำปา เมื่อนานมาแล้วมันใช้ทนจริงครับ หลังนั้นไปออก CLK240 รุ่นหลังสุดมามันไม่ทนทานแบบมะก่อนละนี่สิ ก่อนขายไปถ้าจะซ่อมให้แจ่มโดนอีก 100000 กว่า -- --" ทำให้ตอบไม่ได้เต็มปากว่าใช้นานๆได้คุ้มหรือเปล่า

เล่าให้ฟังเนอะไม่ได้จะ Discredit ทั้ง 2 ฝ่ายนะ
แค่คนบ้ารถฝรั่งเศสคนนึง ^^ ช่วงนี้มันสวยจริงนี่นา!
Review ขำๆครับ
Citroen DS3
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,19461.0.html
Peugeot RCZ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,19785.0.html

ออฟไลน์ panithanks

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 80
ผมใช้ BMW 323i E46 อยู่ครับ อายุก็ 10 ปีแล้ว แต่ใช้น้อยมากๆขับแค่ 70,000กิโลเอง ยอมรับว่าเป็นรถที่ดีในแง่การขับขี่มากๆ แต่เรื่ิองระบบไฟฟ้านี่จุกจิกพอสมควร อยู่ๆก็เป็นโดยไม่มีสัญญาณมาก่อนโดยไม่รู้จะระวังยังไง แถมบางอย่างเป็นแล้วถึงกับขับไม่ได้อีกต่างหาก ผมเคยขับรถไปรพ.จุฬาโดยจอดรถไว้ที่สวนลุม แล้วพอทำธุระเสร็จกลับมาสตาร์ทรถเครื่องติดขึ้นมาแล้วก็ดับ เป็นอย่างนี้ตลอดขับไปไหนไม่ได้เลย ต้องเรียกรถลากไปอู่อย่างเดียว สรุปคือเซนเซอร์วาล์วไอดีเสีย....โห >:( นี่ถ้าขับไปตจว.รถตายบนเขาทำไงเนี่ย หลังจากนั้นไม่กล้าขับทางไกลอีกเลย ถ้าเป็นพวกเล็กๆน้อยๆอย่างกระจกไฟฟ้ารวน ไฟเตือนขึ้น (ซึ่งก็เป็นบ่อยเหมือนกัน) ยังไม่ซีเรียสมากนะ หลังๆนี้ผมซ่อมอู่นอกแต่ใช้อะไหล่แท้ตลอดครับ เข้าศูนย์โดนรายการเปลี่ยนแหลกเลยแพงมากๆ หาอู่นอกที่ช่างเก่งๆเอาไว้สบายใจครับ แต่ยังไงเรื่องค่า maintenance ก็หนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกันขนาดรถผมใช้น้อยมากๆแล้วนะเนี่ย

คราวหน้าถ้าจะซื้อรถยุโรปคงจะเลือก MB ดูบ้างครับ เมื่อก่อนไม่เคยคิดจะซื้อ MB เลยเพราะดูเป็นรถคนแก่ แต่ดีไซน์เดี๋ยวนี้ดูดีขึ้นมาก บุคลิกอาจจะไม่ดูสปอร์ทเท่า BMW แต่ผมไม่ซีเรียสเพราะมีรถสปอร์ทอยู่อีกคันแล้ว ;D