อ่ะ เล่านิทานกันอีกกระทู้ ข้างล่างเพิ่งเล่าไปกับอแวนซ่ามาหมาดๆ
ในยุค 1980 จนถึงราวๆ ต้น ยุค 1990 โตโยต้า ทำตลาดรถยนต์ซีดานขนาดกลาง สองรุ่น
คือ แคมรี ที่ทำตัวเป็น Family Value Sedan For Young Exectuive อย่างที่เป็นมาตลอด ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่
และ Cressida เอาไว้ทำตลาด Family More Near Luxury Seadn for Senior Executive
แต่ยะงไม่ถึงขั้นที่จะปีนขึ้นไปซื้อ Lexus ซึ่งเครสซิด้า ก็คือ การเอา Mark-II เวอร์ชันตัวถัง ซีดาน 4 ประตู ส่งเข้าไปขาย
ในอเมริกาเหนือ เพื่อจะเอาไว้ต่อกรกับรถอย่าง Buick เจาะตลาด ตาเฒ่าวัยใกล้เกษียณ อยากได้ความหรู
รถรุ่นเครสซิด้า นั้น ผมเคยลองขับมาแล้ว ทั้ง 2 เจเนอเรชัน สุดท้าย ก่อนจะเลิกส่งออกไปขายในตลาดโลก
และยุติบทบาทเครสซิด้าไป ขอบอกเลยว่า พี่จะมหาย้วยไปถึงไหนเนี่ย? นุ่ม จน นิ่ม ย้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไปเลย
ทั้งที่เป็รถสภาพดี ไมล์เลจไม่เยอะนัก และเป็นรถ UN มาก่อน
แต่ ขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไปได้เรื่อยๆ เป็นรถเก๋งโตโยต้าขับล้อหลัง รุ่นเกือบสุดท้าย ที่หายไปจากตลาดอเมริกาเหนือ
(รุ่นสุดท้ายคือ MR-S)
ทีนี้ โตโยต้ามองว่า สิ่งที่คนอเมริกันต้องการหนะ คืออะไร คนกลุ่มครอบครัว ระดับผู้บริหารองค์กรนั้น
อยากใช้ชีวิต แบบ "ครอบครัวชาวอเมริกัน พ่อแม่ลูก 4 คน" เหมือนที่เราเคยเห็นในหนังฮอลลีวูด พอนึกภาพออกใช่ไหมครับ
โตโยต้าเอง อยากจะพัฒนารถให้เอาใจคนอเมริกัน ก็เลยทำรถ อวาลอน ออกมา เป็นรถขับล้อหน้า
เปิดตัวครั้งแรกในปี 1994 ในฐานะรถรุ่นปี 1995
ขายได้ในระดับเรื่อยๆ เอาใจคนแก่
และไม่มีทางทับไลน์ แคมรี เพราะวาง ตำแหน่งการตลาดไว้สูงกว่าแคมรี นิดหน่อย เพราะตัวรถจะใหญ่กว่าแคมรี
อีกทั้งไม่มีทางทับไลน์ คราวน์ เพราะ อวาลอน นั้น ตำแหน่งการตลาด ต่ำกว่าคราวน์ ซึ่งเป็นซีดานขับล้อหลังขนาดใหญ่กว่า
ผมเคยเห็น อวาลอน คันจริง รุ่นแรก และรุ่น ที่สอง ในชื่อ Pronard ขอบอกเลยว่า
ขนาดตัวถัง ถ้าเทียบกับคราวน์รุ่นปีเดียวกัน มันยังเล็กกว่าคราวน์ครับ
อีกทั้งตอนนี้ โตโยต้า ไม่เอา อวาลอน หรือ โพรนาร์ด ส่งออกจากโรงงานในอเมริกาเหนือ
ไปขายในญี่ปุ่นอีกแล้วครับ เข็ด เพราะแม้มันจะพอขายได้เรื่อยเปื่อยในอเมริกา
แต่ว่า มันแป๊กสนิทในตลาดญี่ปุ่นครับ