จนกระทั่งถึงเวลารถเสร็จ ก็ถึงขั้นตอนค่าใช้จ่าย
น้ำมันเครื่อง 0W-20 จากเดิมถ่าย 3.4 เป็น 3.6 ลิตร 936 บาท
แหวนรองน็อตถ่ายขนาด 11 มิลลิเมตร 12 บาท
ไส้กรอง 224 บาท
ค่าแรงไส้กรอง 88 บาท
สลับยาง ตั้งศูนย์ฟรี
รวม 1,260 บวกภาษี 7% จบลงที่ 1,348 บาท
หลังจากมุดใต้รถ
น้ำมันเครื่อง เปลี่ยนจริง
ไส้กรอง เปลี่ยนจริง ล้อก็สลับจริง
แถมจากการขับปล่อยมือที่ความเร็วประมาณ 80
ตั้งศูนย์แม่นยำกว่าร้านยางอีก(ฮา) เพราะก่อนหน้านี้ ผมเอารถไปใส่สปริงโหลดมา
ว่าด้วยเจ้าน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 0W-20 ตัวนี้ อัตราเร่งลื่นไหลดีเลยทีเดียว น้ำมันใสหนืดกลางๆกำลังดี
เหมาะสำหรับรถใหม่ ขับแบบ Everyday Use ใช้ได้ทั้งสภาพเมืองจราจรติดขัด หรือออกต่างจังหวัดเป็นประจำ
แต่ไม่ได้เป็นคนตีนหนัก เน้นใช้ความเร็วคงที่ แค่บู๊เต็มคันเร่งบ้างเป็นบางกรณีเท่านั้น
ถ้าใครใช้รถฮอนด้า เลขวิ่งยังไม่ขึ้นหลักแสน แล้วนึกไม่ออกว่าจะเอาตัวไหน
อย่าไปคิดให้เยี่ยวเหนียว เอาตัวนี้แหล่ะครับ ง่ายสุดสำหรับทุกคน
สำหรับใครที่รถเก่า วิ่งได้เลขหมื่นปลายๆ หรือทะลุหลักแสนไปแล้ว
ทางศูนย์ยังมี 5W-30 ลิตรละ 190 ขายอยู่นะครับ
ส่วนถ้าใครคิดว่า ชีวิตนี้ต้องสังเคราะห์เท่านั้น เอาเป็นว่าถ้าการเปลี่ยนถ่าย
ของท่านไม่กระทบเงินในกระเป๋าตัวเองและ ผู้อื่น ก็ใช้ไปเถอะ เพราะยังไงซะ
การถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลากำหนด มันก็ดีสำหรับเครื่องยนต์แน่นอน
แต่สำหรับผม กึ่งสังเคราะห์ พอแล้ว
สรุปแล้วสำหรับที่นี่
มารยาทพนักงาน ดี สุภาพ แต่งกายสะอาดสะอ้าน ช่างแต่งตัวรัดกุม
ใส่ถุงมือ รองเท้าหุ้มส้น มีความ Safety สูง
สิ่งอำนวยความสะดวก ก็ดีใช้ได้ ครบครัน ฆ่าเวลาได้เยอะ
ค่าใช้จ่าย ถ้ายังไม่รวมค่าแรง ถือว่าถูกเลยแหล่ะสำหรับรถญี่ปุ่น แต่เมื่อพ้นช่วงฟรี แล้วคิดชั่วโมงละ 400 ค่าเซอร์วิส 40 บาท
เป็น 440 ล่ะก็ โหดใช่ย่อย อนาคตยังไม่แน่ใจว่าจะเอายังไงดี หากค่าแรงยังสูงอย่างนี้อยู่
อาจจะพิจารณาหาซื้อแม่แรงแบบตะเข้ แล้วยกรถเพื่อเปลี่ยนถ่ายเองเลยดีกว่า
แต่นั้นก็ต้องแลกมาด้วยการไม่ได้ลายเซ็นต์และการบันทึกข้อมูลจากศูนย์บริการ
"ส่วนที่ติมากที่สุดคือ ระยะเวลาในการรับบริการ ยาวนานมากเกินไป
การโทรนัดล่วงหน้าไม่ได้ช่วยให้ได้รถเร็วขึ้นแต่อย่างใดเลย
เพราะตอนที่เอา Toyota Prius ไปเช็ค 10000 โล ศูนย์ที่ไปเข้า รถเยอะกว่ามาก
แถมเนื้อที่ก็น้อยกว่า แต่พอตัดเวลาพักกินข้าวของช่างออกไป เบ็ดเสร็จ เอารถเข้าศูนย์แค่ 2 ชั่วโมงเอง
สิ่งที่พบในศูนย์โตโยต้าครั้งนั้นคือแม้รถเยอะ ก็ยังสามารถจำแนกได้ว่า ลูกค้าคนไหน
ใครจองล่วงหน้า ก็ได้เช็คตามคิว ใครมาโดยไม่นัด ก็ต้องไปรออยู่อีกโซนนึง โดยทิ้งรถเป็นวัน"ล่าสุดฝ่ายบริการโทรมาสอบถาม ก็ได้ทำการติติงไปเรื่อง
การจัดเวลาไป แต่ไม่รู้ว่าจะถูกนำไปแก้ไขในอนาคตไหม
สุดท้ายรวมๆ สำหรับศูนย์นี้ เต็ม 10 ให้ 7.5 ครับ หัก 2.5 คะแนนเรื่องเวลา
แต่อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่เจอแบบผมก็เป็นได้ บางคนเข้าศูนย์นี้ ได้รับการบริการชนิดปูพรมแดง
ในขณะที่อีกคนเข้าศูนย์เดียวกันกับคนแรก แต่ดันซวยเจอพนักงานมารยาทแย่ หรือเอารถไปทำแล้วไม่สมบูรณ์ก็มีเหมือนกัน
แต่รวมๆเฉลี่ยกันแล้วมารยาท การบริการ การวิเคราะห์อาการ ยังอยู่ในเกณฑ์หัวแถวเมื่อเทียบกับดีลเลอร์หลายๆเจ้า
มีที่โผล่แย่ๆ ถึงขั้นขึ้นบัญชีหนังหมากันประมาณ 3-4 แห่ง ซึ่งยังถือว่าน้อย พอหลบเลี่ยงได้
ก็เลยทำให้ลูกค้าฮอนด้าหลายคนที่ไม่สันทัดหรือมีความรู้เรื่องรถก็ตาม
ยินดีที่จะเข้ารับบริการกับศูนย์แม้ค่าแรงจะมหาโหดถึง 440 บาทต่อชั่วโมง
และด้วยค่าแรงที่สูงเกินเหตุนี้ ก็ทำให้มีบ้าง ที่ลุกค้าบางรายยอมทนเสียตังจนครบอายุรับประกัน 3 ปี
แล้วโบกมือลาศูนย์ฮอนด้าไปทำข้างนอกแทน
บางคนยังไม่ทันถึงหมื่นโลเปลี่ยนข้างนอกก็มี(อันนี้ส่วนมากจะลูกค้าบ้ารถหน่อยๆ)
ยังไงก็ขอให้ปรับปรุงเรื่องค่าแรงนิดนึง ส่วนตัวที่ 300-350 บาทยังถือว่ารับได้สำหรับผม
สุดท้าย เหตุที่ผมสามารถควมคุมค่าใช้จ่ายรถคันนี้ได้ เพราะได้เว็บนี้ช่วยเหลือครับ
http://www.honda.co.th/owner/main.php?m=periodicalมีบอกหมด ที่ระยะทางเท่านี้ เช็คอะไรบ้าง อยากให้ตัดหรือเพิ่มอะไรเราก็ไปบอกช่างอีกทีนึง
และนี่คือสิ่งที่บริษัทรถหลายๆเจ้ายังไม่ยอมทำกันซักที เท่าที่ดูตอนนี้ มีแค่ Honda กับ Ford
เท่านั้นที่มีตารางเช็คระยะให้ศึกษาก่อนเข้ารับบริการ
อ่อ แล้วก็เท่าที่ดูมา มีเพียง HONDA เจ้าเดียวเท่านั้นที่ขายน้ำมันเครื่องแบบใช้ถังใหญ่ 200 ลิตร
เปลี่ยนถ่ายตามปริมาณจริง
เจ้าอื่นยังคงใช้การเบิกน้ำมันเป็นแกลลอนๆ อยู่ ถ้าเหลือ ก็เอาไปทำอะไรไม่ได้
แต่ถ้าขาดไปอีก 0.1-0.2 ลิตร ก็ต้องจ่ายสำหรับซื้อกระป๋องเล็ก 1 ลิตรเพิ่ม
ก่อนหน้านี้ โตโยต้า พรีอุส ที่บ้านผม เครื่อง 1.8 เปลี่ยนถ่าย 4.2 ลิตร
ใช้แบบกึ่งสังเคราะห์ 4 ลิตร ขนาด 800 บาท กับ 1 ลิตร 210 บาท
เท่ากับว่า ผมต้องเสียเงินไป 157.5 บาท ไปฟรีๆ และทางศูนย์ ไม่ส่งกระป๋องน้ำมันที่เหลือมาให้
ผมก็ลองจินตนาการภาพเอาว่า มีพรีอุส 5 คันเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน
เปลี่ยนถ่าย 4.2 ลิตร โดยทั้ง 5 คัน ต้องจ่ายคนละ 210 บาท สำหรับการซื้อน้ำมันเครื่องเพิ่ม 1 ลิตร
แต่ศูนย์อาจใช้วิธีลักไก่คือ เก็บเงินลูกค้าทั้ง 5 คน รวมเป็น 1050 บาท
และเบิกมาแค่ขนาด 1 ลิตร กระป๋องเดียว แบ่งจ่ายคันละ 200ซีซี ก็เติมได้ครบถ้วนหน้าทุกคันพอดี
ฟันกำไรเข้ากระเป๋าไป 787.5 บาท สบายๆ
ที่เขียนมานื้ ยอมรับว่างกและหวาดระแวงศูนย์บริการ ณ ปัจจุบันนี้ แต่ผมเป็นลูกค้าของท่าน
ผมมีสิทธิ์ที่จะระมัดระวังตัวและป้องกันการศูนย์เสียค่าใช้จ่ายที่เกินจำเป็นครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกัน