เครื่องเสียงที่ใช้เป็นฟร้อนท์แบบโมดูล ฝังไปกับแผงคอนโซล พร้อมลำโพง 4 จุด
งวดนี้ใจดี มีให้ทั้ง 4 รุ่น ก็เลยมีเสียงแอบบ่นเล็กๆจากคนที่ชอบดัดแปลง
เครื่องเสียงมาพอสมควร เพราะมันถอดแล้ว ขายยากกว่าตัว 2-Din ตัว08
แถมต้องหาหน้ากาก 2Din มาใส่เพื่อจะฝังจอ DVD ซึ่งฮอนด้า ก็ใจดีอีก
มีหน้ากากเบิกเป็นพาร์ทไปใส่กับวิทยุ 2DIN ได้ ราคาประมาณ 2,500 บาท
(แหม ขายของเก่งนะเนี่ยเรา -*-)
ด้านคุณภาพเสียง ค่อนข้างแห้ง ไร้อารมณ์ แม้จะปรับเบสกับแหลมให้เต็มเหนี่ยวแล้ว
ไม่ว่าจะเพลงร็อค เพลงฮิปฮอบ ป็อบ อคูชติก ออเครสตร้า ก็หาความไพเราะไม่เจอ
หรือให้เปิดแนวผับตื้ดๆ ก็ไม่ชวนให้ลุกขึ้นมาเต้นแร้งเต้นกาจนเป็นที่น่าอับอาย
ต่อผู้มาพบเห็นว่า แมร่งลูกใครวะ ดิ้นเพื่อชาติอยู่ในรถเนี่ย
แต่บนความแย่ของเสียง กลับมีข้อดีหลายข้อ
ไม่ว่าจะรองรับทั้ง FM/AM CD MP3 AUX เร่งเสียงตามความดังในห้องโดยสาร
แถมมีช่องต่อ USB ซึ่งรองรับได้หมดไม่ว่าจะ ไอพ็อด ไอโฟน เครื่องเล่น MP3
โทรศัพท์มือถือทุกระบบปฏิบัติการ แม้แต่เสียบ USB Flashdrive ก็ยังเล่นได้
เพียงแต่ถ้าคุณโหลด mp3 เถื่อนๆ มา มันอาจจะขึ้น No info เท่านั้นเอง
สำหรับรุ่น S จะไม่มีปุ่มมัลติฟังชั่นมาให้ มีเฉพาะรุ่น V SV แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะ
การจัดวางอุปกรณ์นั้นง่ายต่อการเอื้อมมือไปกด ปุ่มไฟฉุกเฉิน ก็อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเช่นกัน
การค้นเพลงจากโฟลเดอร์ก็ไม่ยุ่งยาก ปุ่มควบตรงกลางชวนให้นึกถึงระบบ
ไดร์ฟๆทั้งหลายในรถยุโรปเป็นยิ่งนัก
ระบบปรับอากาศ เป็นแบบบิดหมุน ตามมาตรฐานรถระดับนี้ จัดวางไว้ใกล้มือซ้ายคนขับอย่างมาก
และจัดปุ่ม A/C ไล่ฝ้า ตัวปรับการไหลเวียนอากาศ ซึ่งผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญน้อยที่สุด
ไปที่ใต้วิทยุแทน ความเย็นอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ แต่ถ้าหากจอดกลางแจ้ง ก็จะระบายความร้อนนานกว่า
รถอื่นๆมากหน่อย เพราะกระจกบานใหญ่และลาดทำมุมป้านรับแสงแดดระดับ 35-38 องศาเซลเซียส
อันเป็นอุณหภูมิที่เย็นที่สุดของสยามประเทศในช่วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม ไปเต็มๆ
ด้านการกระจายแรงลม กลับทำได้แย่กว่ารุ่นเก่า
แอร์ที่มาจากช่อง บขส. ด้านซ้าย-ขวา ไม่ค่อยแรงเท่าที่ควรนัก