ผู้เขียน หัวข้อ: คนขับรถยุโรปป้ายแดง ปกติเค้ามีรายได้เท่าไหร่กันครับ  (อ่าน 35952 ครั้ง)

promt

  • บุคคลทั่วไป
มีแต่คนเงินเดือนเยอะๆ ทั้งนั้นเลยครับ

เงินเดือนตามวุฒิ

เป็นข้าราชการจนๆ ครับ ได้แต่มอง E-Class, S-Class ชาตินี้ไม่มีปัญญา

ออฟไลน์ Gamo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 405
ผมรายได้ประมาณ 7 หลักครับไม่รวมโบนัส ค่าใช้จ่ายระหว่างปีไม่เท่าไหร่ครับ เพราะรถใหม่มีประกัน แต่ค่าประกันภัยก็พอตัวนะครับ ตกปีละ 6 - 7 หมื่นบาทต่อคันครับ ค่าน้ำมันก็ปรกติครับ
7 หลัก ต่อเดือนรึเปล่าครับ โหดมากกกก
ขนาดผมทำธุรกิจส่วนตัวยังไม่เคยได้ถึงเดือนละ 7 หลักเลยครับ  :'(

ค่าจ้างต่อเดือนครับ เป็นงานสัญญาจ้างครับ เลยได้ค่าตอบแทนสูง แต่หมดสัญญาแล้วไม่ได้ต่อก็จะมีเงินก้อนให้อีกครับ

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
0 บาท

ออฟไลน์ PPete

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 107
0 บาท

พ่อ เอ้ย แม่ ไม่ได้ให้เงินเดือนเหรอครับ หรือว่ารับเป็นรายปีครับ?  :P


ผมว่า พี่เค้าคงถามคนที่ทำงานใช่ไหมครับ ไม่ใช่พวกขอเงินพ่อแม่มาซื้อรถรึเปล่าครับ?  ไม่งั้นคงต้องตอบรายได้ของพ่อแม่

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 16, 2012, 02:15:07 โดย PPete »
ทำตัวแต่พอเพียง (พูดโม้น้อยๆ หน่อย) แค่นี้ก็เป็นศรีกับชีวิตมากพอแล้ว

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
แม่ให้ใช้เดือนละ 2 หมื่น +- นิดหน่อยครับ แหะๆ

ส่วนเงินเดือนแม่ประมาณ 300k ครับ :P

ออฟไลน์ deaw2011

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,898
    • http://metrosystems-des.com/
ส่วนใหญ่ก็คง 5 หมื่นขึ้นละครับ
เดี๋ยวนี้รถยุโรปราคาเริ่มใกล้เคียงรถญี่ปุ่นบางรุ่นแล้ว
แต่บางคนเขาก็ทำงานเงินเดือนไม่เท่าไรแต่ถ้าเขาเก็บเงินสะสมเรื่อยๆ เขาก็สามารถซื้อได้ครับ ;)

ออฟไลน์ poramasuan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 106
  • โตขึ้น หนูจะเป็น E-Coupe ^^
    • อีเมล์
อายุ 30 ครับ รายได้ 300,000-400,000 ต่อเดือน

ใช้ C200 Standard ครับ ... เน้นประหยัดเงิน แต่ได้ภาพลักษณ์ครับ

ดาวน์เอง ผ่อนเอง ไม่รบกวนที่บ้าน

เรื่องการเงินไม่เดือดร้อนครับ ถ้าบริหารเงินดีดี ก็ผ่อนสบายๆ

ควรมีเงินเก็บไว้ซักก้อนเผื่อฉุกเฉิน เช่น ซ่อมรถหนักๆ หรือมีปัญหาสุขภาพ

แค่นี้ก็ผ่อนสบาย อยู่สบายแล้วครับ  ;) ;) ;)

ออฟไลน์ time traveler

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 120
ของผมผ่อนไม่เกิน 10% ของรายได้ต่อเดือนครับ แต่จริงๆเอาดอกเบี้ยเงินฝากผ่อนเอา :D เพราะรถก็แค่รถ ไม่เป็นภาระดีกว่า :D

ออฟไลน์ -nu-

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 168
ถามตรงๆครับ

ท่านๆที่ขับรถยุโรปแพงๆ รายได้สูงๆ หรือทำธุรกิจส่วนตัว

ท่านเสียภาษีกันปีละเท่าไหร่ครับ?

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
ถามตรงๆครับ

ท่านๆที่ขับรถยุโรปแพงๆ รายได้สูงๆ หรือทำธุรกิจส่วนตัว

ท่านเสียภาษีกันปีละเท่าไหร่ครับ?
ของแม่ผมรู้สึก 30เปนเซนครับ อ่วมเลยหละ

ออฟไลน์ XL_SiZe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,041
ผมชอบรูปทรง X1 2.149 ขับมา 8 เดือน
รายได้ 6-8 หมื่นบาทต่อเดือน

ใช้จ่ายธรรมดาไม่ฟุ่มเฟือย
ก็บริหารได้ครับ ด้วยเพราะเก็บเงินมาเกือบ 5 ปีด้วย จึงได้เงินดาวน์มากหน่อย
ผ่อนสบาย ๆ แต่ก็คิดว่า คงไม่ซื้อแพง ๆ กว่านี้แล้ว

รู้สึกว่ามันขับดีกว่า ดูมั่นใจกว่าทั้งต่อความปลอดภัยและภาพลักษณ์

ออฟไลน์ poramasuan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 106
  • โตขึ้น หนูจะเป็น E-Coupe ^^
    • อีเมล์
ถามตรงๆครับ

ท่านๆที่ขับรถยุโรปแพงๆ รายได้สูงๆ หรือทำธุรกิจส่วนตัว

ท่านเสียภาษีกันปีละเท่าไหร่ครับ?

2xx,xxx ครับ หลังลดหย่อนทั้งประกันชีวิต ดอกเบี้ยบ้าน LTF RMF เงินบริจาค ... แทบทรุด  :'( :'( :'(

ออฟไลน์ MJunior

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 343
    • อีเมล์
ถามตรงๆครับ

ท่านๆที่ขับรถยุโรปแพงๆ รายได้สูงๆ หรือทำธุรกิจส่วนตัว

ท่านเสียภาษีกันปีละเท่าไหร่ครับ?

ทำธุรกิจส่วนตัวครับ
เสียภาษีปีหนึ่งก็เกือบล้านครับ ไม่ได้ขายยาบ้านะครับที่ไม่ต้องเสียภาษี  ;D

ออฟไลน์ Nyquist

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,031
มีแต่คนเงินเดือนเยอะๆ ทั้งนั้นเลยครับ

เงินเดือนตามวุฒิ

เป็นข้าราชการจนๆ ครับ ได้แต่มอง E-Class, S-Class ชาตินี้ไม่มีปัญญา

มีโอกาสนะครับ ขอยกตัวอย่างบริษัทพลังงานแห่งหนึ่ง

มีรถประจำตำแหน่งของผู้บริหาร รวมถึงรถที่ใช้งานประจำหน่วยงาน ซึ่งเช่ามาจากบริษัท Leasing เกือบพันคัน

ซึ่งระยะสัญญาเช่าจากบริษัท Leasing ของรถแต่ละคันมีระยะเวลา 4 ปี

พอจบสัญญาพนักงาน(ผู้บริหารหรือหน่วยงานของรถประจำตำแหน่งนั้น) สามารถซื้อรถคันดังกล่าวได้ในราคา 20% ของราคาขายเริ่มต้น

เลิศมั้ยหละ รถคันละ 5 ล้านใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง 4 ปีแล้วก็ซื้อมาใช้เองได้ในราคาล้านเดียว


ออฟไลน์ paphonsan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 131
    • อีเมล์
ถามตรงๆครับ

ท่านๆที่ขับรถยุโรปแพงๆ รายได้สูงๆ หรือทำธุรกิจส่วนตัว

ท่านเสียภาษีกันปีละเท่าไหร่ครับ?
คุณลุงผมเสียภาษีเงินได้ต่อปี ปีละ 7-8 ล้านบาทอะครับ แต่ลุงผมก็ยังคงขับแคมรี่กะแจ๊สอยู่เลย  :D

ออฟไลน์ KLANG MR-S

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 382
ถ้าพูดถึงเรื่องภาษี บางคนจะคิดแต่ว่าเสียภาษีเงินได้เท่าโน้นเท่านี้

แต่จริง ๆ ภาษีเงินได้ถือเป็นสัดส่วนน้อยของภาษีที่รัฐจัดเก็บครับ

ไม่ต้องกลัวว่าคนรวยเค้าจะไม่เสียภาษีหรอกครับ

ทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาษีตั้งแต่เกิดยันตายครับ

คุณแม่ทำคลอด ซื้อนมซื้อผ้าอ้อมก็ต้องจ่าย Vat คุณพ่อขับรถไปรับแม่ก็ต้องเติมน้ำมันก็ต้องมี Vat มีภาษีสรรพสามิตอีก

ตอนจะตายแม้แต่โลงศพที่ซื้อก็มี Vat นะครับ ร้านทำโลงเค้าก็ต้องเสียภาษีอีก

ผมมักจะได้ยินคนทำงานกินเงินเดือนบ่นน้อยออกน้อยใจที่ตัวเองโดนหักภาษีทุกเดือนในขณะที่เจ้าของกิจการมีวิธีสารพัดที่จะหลบเลี่ยงภาษี

แต่จริง ๆ แล้วสุดท้ายไม่มีใครหนีภาษีพ้นแน่นอนตราบใดที่ทุกคนยังต้องกินต้องใช้ มีกิเลสอยู่ครับ

ปล.ระหว่างพนักงานเงินเดือน 30,000 กับเจ้าของกิจการที่ซื้อรถเบนซ์จิบไวน์คุณว่าใครจะเสียภาษีมากกว่ากัน ความเป็นคนดีรักชาติไม่สามารถวัดได้ด้วยจำนวนภาษีที่จ่ายให้กับประเทศชาติครับ

Tor_AAS

  • บุคคลทั่วไป
แม่ให้ใช้เดือนละ 2 หมื่น +- นิดหน่อยครับ แหะๆ

ส่วนเงินเดือนแม่ประมาณ 300k ครับ :P

แม่เก่งมากเลยครับ เงินเดือน 3 แสน แต่ออกรถ 528i ให้ลูกได้ สงสัยคุณพ่อต้องได้เยอะกว่านี้แน่ๆ เลยครับ

แม่ผมเงินเดือนสองแสนพอดีเป๊ะ แต่บังคับให้ลูกๆ ออกรถเองหมด แกเชื่อในความพยายามส่วนตัวครับ ผมเลยหงอยเลย กว่าจะทำงานออกรถเองได้ ตอนนี้เงินเดือนก็เกือบๆ เท่าแม่หล่ะ  :D

ออฟไลน์ maxillofacial surgeon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 998
    • อีเมล์
เดือนละแสนน่าจะพอซื้อได้แล้วมั้งครับ
แต่ถ้าที่บ้านรวยนี่ก็สบายเลย น่าอิจฉามากมายครับ
ส่วนตัวเราก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บตังเองต่อไป 555
ผมว่าแล้วแต่ความชอบด้วยนะครับ คนไข้ผมรวยๆ หลายคน ขับรถธรรมดา ราคาไม่แพง ขับกระบะนี่รวยๆกันทั้งนั้น เจ้าของบ่อกุ้ง เจ้าของฟาร์มหมู
เค้าอาจจะชอบเอาตังค์ไปทำอย่างอื่นมากกว่าเล่นรถครับ แล้วแต่รสนิยม ส่วนตัวเรารสนิยมสูง  แต่ยังไม่มีกะตังพออิๆ

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,487
    • อีเมล์
ซื้อรถแพงๆแล้วอย่าลืมค่าประกันภัยชั้น 1 ด้วยนะครับ
ปีนึง ก็ประมาณ 2.5% ของราคารถ

เช่นๆ
E-class 4.5 ล้าน ค่าประกันภัยประมาณ 112,500 บาทต่อปี
เฉลี่ยเดือนละ 9,500 บาท

อย่าง Volvo S40 ราคา 1.69 ล้าน
ประกันชั้น1 ประมาณ 45,000 บาทครับ

อย่ามัวแต่ไปคิดค่าผ่อนรถอย่างเดียวนะครับ
ไหนจะค่าเข้าเช็คตามระยะอีก ไหนจะค่ายาง อีก ฯลฯ

ออฟไลน์ Carrera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,340
ที่บ้านผม 1 แสนกลางๆ  แบบมนุษย์เงินเดือน   แต่เค้าใช้ยี่ปุ่นป้ายแดง D Seg แล้วเปลี่ยนทุกสามสี่ปีครับ  ;D

ถามว่าซื้อไหวมั้ย   ถ้าดูแล้ว  จริงๆเก็บเงินแล้วดาวน์แล้วผ่อนสักพัก เค้าเคยคำนวนแล้วนะว่าไหว
แต่พอดีตัดสินใจไปลงทุนซื้อเป็นพวกอสังหา บ้าน  ที่ดินเก็บไว้เยอะๆแทนมากกว่านะ   ;D ;D  กรณีบ้านผม  

ซื้ออสังหาเก็บไว้มากๆ   ผ่านมาไม่นาน   ตอนนี้  ผมรู้ตัวอีกทีจากตอนที่เค้าพูดวันนั้น   สินทรัพย์ของบ้านผมมีราคารวมกันพอๆกับ S Class ป้ายแดงได้แล้วมั้งครับตอนนี้  :P
(ผ่อนบ้านค่าเช่าบ้านมันก็เหมือนผ่อนตัวมันเอง  แล้วเงินเดือนก็เอาไปตัดบ้านพวกนั้น แล้วหาซื้อหลังใหม่  วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ที่บ้านเริ่มหามองคอนโดเปิดใหม่หลายๆที่  ให้เช่าได้ราคาจะเกือบเท่าบ้านเลยละ  ;D  ;D)

เค้ามองว่า รถยุโรปมันได้ภาพลักษณ์จริง  แต่ไม่คุ้มค่าเงินส่วนต่างจาก D Seg ครับ   แต่ถ้ายุโรปมือสอง  พ่อผมเค้าบอกว่าคุ้มนะ   ใช้สลับกันดูแลถึงมันก็ไม่จุกจิกนะครับ  ;D
แต่รถยุโรปวอลโว่ผมว่าคุ้มมากนะ  แต่ขอรอดูราคาขายต่อ  กับบริการอีกพักนึง  นี่ก็ใกล้ช่วงเปลี่ยนรถของที่บ้านผมละ  ;)

แต่ถ้าเป็นผม  ก็คงทำแบบพ่อผมนั้นละครับ   ผมมองว่ารถยุโรปเมืองไทย  มันแพงเกินไปเพราะภาษีด้วยครับ  ไม่คุ้มค่าที่จะเพิ่มเงิน  (แต่ถ้ามือสองมาใช้สำรอง แก้เบื่อ อันนี้ก็น่าสน  ;D)   แต่เห็นว่าแม่ผมเค้าจะยอมให้คันต่อไปเป็น ยุโรปได้แล้ว เผื่อพ่อผมเค้าจะได้ให้รางวัลตัวเองบ้างอะไรบ้าง  แต่พ่อผมเค้าติดใจค่าซ่อม D Seg ตอนเข้า 0 ไปแล้วเนี่ยสิ  จากเคยเข้า 0 BMW หลักหมื่น  เจอหลักพัน ถึงกับยิ้ม   ;D  ตอนนี้เค้าถามว่า LEXUS นี่ซ่อมไม่แพงแบบ Camry ไหม  ทนทานใช้อย่างเดียวได้แบบ Camry ไหม   :P (เค้าชอบขับรถ สาดโค้งกับ Camry บ่อยๆ มันเสียว ;D ;D ;D)

ปล. D SEG ราคา 1.8 ตัวท็อป  กับ Midsize Premium  ราคา 3.8 -4.5  ส่วนต่างสองล้าน กว่า  ซื้อคอนโดหรูๆดีๆได้ที่นึง  ไม่งั้นก็บ้านทำเลดีๆหลังนึงแถว ตจว เลยนะนั้น  :o
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 16, 2012, 15:17:23 โดย Butterzai »

ออฟไลน์ swan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 901
ผมกลับมองว่ารายได้เท่าไหร่ไม่สำคัญเท่ากับว่าเมื่อซื้อมาแล้วมันทำให้เราเดือดร้อนหรือเปล่า เพราะรถคันนึงมีค่าใช้จ่ายแฝงเยอะมากๆ เช่นค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน ค่าประกัน ภาษีสังคม และอีกจิปาถะ หากเมื่อคิดคำนวณสิ่งต่างๆเหล่านี้ดูแล้วเราไม่เดือดร้อน นั่นแหละผมว่าเหมาะแล้วที่จะมีไว้ครอบครอง

บางคน อย่างญาติๆผมเค้ามีเงินสดในบัญชี และทรัพย์สินต่างๆเป็นเงินมหาศาล แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีรถยนต์ ยังขับมอเตอร์ไซด์ป๊อบขนาด 50 cc อยู่เลย  ;D ;D

ออฟไลน์ Nioka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,038
อันไหนเรียกปกติอะครับ

บ้านรวยพ่อแม่ซื้อให้
(ไม่ต้องมีรายได้)

ทำงานกินเงินเดือน จนเงินเดือนสูง
(100k ก็พอ)

เป็นวัยรุ่น หลายล้าน ทำเอ็ง กินเอง ไม่ได้พึ่งใคร
(200k ครับ ปีแรกๆที่ได้ 100k คงนำเงินไปซื้อสินทรัพย์มากกว่าทรัพย์สิน)

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
รถ 1 คัน มี FIx+variable cost เยอะแยะกว่า "ค่าผ่อน"อีกมากมายนะครับ
น้ำมัน ประกัน บำรุง ซ่อม แต่ง (แมก, body parts, เครื่องเสียง, ท่อ, ช่วงล่าง)

สำหรับผม ถ้าจะออกยุโรปป้ายแดง ผมจะต้องมีธุรกิจส่วนตัว ที่มีความมั่นคงพอสมควร และมีรายได้
อย่างน้อยที่สุด 200,000 บาทต่อเดือน ถึงผมจะบ้ารถ แต่ชีวิตผมมีเรื่องอะไรอีกเยอะ

ถ้าให้ผมเลือก ระหว่าง BMW X1 18i กะ Camry Hybrid ผมเลือก Camry Hybrid
ถ้าให้ผมเลือก รถหว่าง Cruze 2.0 LTZ กะ Camry 2.0G ผมก็เลือก Cruze
ชอบซื้อรถรุ่นทอปๆ เครื่องแรงๆ ขับดีๆ มากกว่า รถที่ดูดี แต่วิ่งอืด ขับไม่ดี
แล้วเหลือเงินไว้แต่งบ้าง หรือไม่ก็ ยุโรปมือสองก็ได้




ออฟไลน์ Kubota

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 207
    • .
อันไหนเรียกปกติอะครับ

บ้านรวยพ่อแม่ซื้อให้
(ไม่ต้องมีรายได้)

ทำงานกินเงินเดือน จนเงินเดือนสูง
(100k ก็พอ)

เป็นวัยรุ่น หลายล้าน ทำเอ็ง กินเอง ไม่ได้พึ่งใคร
(200k ครับ ปีแรกๆที่ได้ 100k คงนำเงินไปซื้อสินทรัพย์มากกว่าทรัพย์สิน)
เรียกว่าส่วนมากละกันครับ
จริงๆที่ตั้งคำถามอาจจะดูงี่เง่านิดนึงอะครับ แต่บางทีผมไปนั่งตามร้านเหล้าแถวอยู่ ขอนแก่น ก็อดสงสัยไม่ได้ เพราะมันเกลื่อนจริงๆ ไม่ได้หมายถึงว่าไม่เชื่อนะครับว่าเค้าน่าจะมีเงินมากกว่าราคารถหลายเท่า แค่อยากรู้ว่าคนทั่วๆำไปถ้าจะออกรถราคา 3 ล้าอัพ สภาพทางการเงินเค้าเป็นยังไงในตอนนั้น พอดีผมอยากจะเทียบกับตัวเองอะครับ ว่าผมเกินตัวรึเปล่า

แต่ที่แปลกใจกว่าคือตอนนี้รถเบสิคมาตรฐานน่าจะเป็น c segment ไปแล้วอะครับ ราคาค่างวดก็ไม่เบาเลย ต่ำๆก็หมื่นนึง ซึงสมัยผมทำงานประจำอยู่กรุงเทพสามปีที่แล้ว เงินเดือนสตาร์ทก็สองหมื่นกว่าเอง ตอนนี้ก็แทบไม่เปลี่ยนแปลง
จากที่ก่อนหน้านี้สมัยผมเรียน ป.ตรี ประมาณ 7 - 8 ปีที่แล้ว ใครขับล c segment นี่ก็ป๋ามากๆแล้ว รถ benz นานๆเจอตามท้องถนนที

ออฟไลน์ Nioka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,038
เอาส่วนมากที่ผมเจอในรุ่นๆเดียวกันนะครับ 25-30 คนขับรถยุโรป

บ้านรวยอยู่ก่อนแล้วครับ

ส่วนคนที่สร้างฐานะเองผม เจอ1คนครับ ตอนนี้ฝันจะเล่นแลมโบแล้ว

คงหลายแสนต่อเดือน

ส่วนเพื่อนๆที่เรียนพร้อมกันยังไม่เห็นใครออกรถยุโรปด้วยตัวเองเลย

ผมจะเป็นคนแรก 555

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
เรื่องภาษี อย่าเอามาเป็นประเด็นเลยครับ


พ่อผมเป็นข้าราชการ ซี10 แม่ผมก็ระดับใกล้ๆกัน ขับแคมรี่ตาเหยี่ยว
เงินเดือนพ่อกับแม่ รวมๆกัน ทั้งเบี้ยประชุม เงินประจำตำแหน่ง ค่านู้นนี่ รวมๆก็เกือบ 2 แสน
ผมกับน้องก็ทำงาน เพิ่งจบ เพิ่งทำงานได้ไม่นาน รายได้พี่น้องรวมๆกันเกือบ 5 หมื่น

ผมเคยถามคำถามนี้ ว่าทำไมป๊าไม่ขับรถยุโรป ทำไมไม่ขับ BMW Volvo
ทั้งๆที่ราคาใกล้ๆกันแล้ว ภาระที่บ้านก็ไม่มี ค่ารักษาพยาบาลก็หายห่วง สวัสดิการเพียบ

ป๊าผมบอกว่า ถ้าจะซื้อรถใหญ่ระดับแคมรี่ ต้องเป็นซีรี่ห์5 หรือ S80 หรือ E Class
บ้านผม มองความใหญ่โตของห้องโดยสารเป็นหลัก
ถ้ารถราคา 2-3 ล้าน ขับดี ขับสนุก แต่โครตแคบก็นั่งกันไม่สบาย
จะให้นั่งสบายก็ต้อง 3.5-4 ล้านขึ้นไป เพราะบ้านผมร่างกายสูงใหญ่ แข้งขายาว
เทียบกับเจ้าแคมรี่ที่บ้าน ราคาแค่ 1.4 ล้าน แต่นั่งกัน 4-5 คนได้สบายๆ
วันๆก็ขับแค่ในเมือง วิ่งไม่ถึง 100 ออกตจว. ก็วิ่งแค่ 120-140 เลยไม่รู้จะขับรถยุโรปไปทำไม

ส่วนคำถามของ จขกท.
ผมว่า อย่ามองที่เงินเดือนครับ
ให้มองที่ รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย เป็นหลัก
บางคนเงินเดือน 2 แสน แต่ภาระเยอะ ส่งลูกเรียนอินเตอร์ ให้เงินเดือนลูก เลี้ยงดูำพ่อแม่
เหลือเก็บจริงๆเดือนล่ะ 2-3 หมื่น เอาเงินไปซื้อ C หรือ D Segment ดีกว่า
บางคนเงินเดือน 7 หมื่น แต่ไม่มีภาระ ไม่ต้องผ่อนบ้าน ไม่มีลูก หรือลูกหาเลี้ยงตัวเเอง
แบบนี้ จะถอยรถยุโรป มาผ่อนเดือนละ 4-5 หมื่น ก็ยังสบายๆครับ

ออฟไลน์ -nu-

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 168
ถ้าพูดถึงเรื่องภาษี บางคนจะคิดแต่ว่าเสียภาษีเงินได้เท่าโน้นเท่านี้

แต่จริง ๆ ภาษีเงินได้ถือเป็นสัดส่วนน้อยของภาษีที่รัฐจัดเก็บครับ

ไม่ต้องกลัวว่าคนรวยเค้าจะไม่เสียภาษีหรอกครับ

ทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาษีตั้งแต่เกิดยันตายครับ

คุณแม่ทำคลอด ซื้อนมซื้อผ้าอ้อมก็ต้องจ่าย Vat คุณพ่อขับรถไปรับแม่ก็ต้องเติมน้ำมันก็ต้องมี Vat มีภาษีสรรพสามิตอีก

ตอนจะตายแม้แต่โลงศพที่ซื้อก็มี Vat นะครับ ร้านทำโลงเค้าก็ต้องเสียภาษีอีก

ผมมักจะได้ยินคนทำงานกินเงินเดือนบ่นน้อยออกน้อยใจที่ตัวเองโดนหักภาษีทุกเดือนในขณะที่เจ้าของกิจการมีวิธีสารพัดที่จะหลบเลี่ยงภาษี

แต่จริง ๆ แล้วสุดท้ายไม่มีใครหนีภาษีพ้นแน่นอนตราบใดที่ทุกคนยังต้องกินต้องใช้ มีกิเลสอยู่ครับ

ปล.ระหว่างพนักงานเงินเดือน 30,000 กับเจ้าของกิจการที่ซื้อรถเบนซ์จิบไวน์คุณว่าใครจะเสียภาษีมากกว่ากัน ความเป็นคนดีรักชาติไม่สามารถวัดได้ด้วยจำนวนภาษีที่จ่ายให้กับประเทศชาติครับ

ถูกต้องครับ VAT เป็นภาษีที่เก็บจากฐานการบริโภค ดังนั้นถ้าทำทุกอย่างถูกต้องยังไงทุกคนก็ต้องเสีย
แต่ก็เป็นที่รู้กันไม่ใช่เหรอครับช่องทา่งเลี่ยง VAT มีอยู่มากมาย
ที่สำคัญ คนจะรวย จะจน โดย VAT เท่ากัน คนมีเงินร้อยล้าน กับขอทาน ถ้าซื้อของชิ้นเดียวกัน เสีย VATเท่ากันนะครับ

ที่ยกเรื่องจำนวนเงินที่เสียภาษีมาเปรียบเทียบ ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ผิดครับ
ระหว่างพนักงานเงินเดือน 3หมื่นกับเจ้าของกิจการของท่าน คิดว่ามีความสามารถในการเสียภาษีมากกว่ากัน?
ระหว่างพนักงานเงินเดือน 3หมื่นกับเจ้าของกิจการของท่าน คิดว่าใครเสียภาษีต่อรายได้มากกว่ากัน?
ระหว่างพนักงานเงินเดือน 3หมื่นกับเจ้าของกิจการของท่าน คิดว่าหลังเสียภาษีแล้วใครมีเงินเหลือมากกว่ากัน?
ระหว่างพนักงานเงินเดือน 3หมื่นกับเจ้าของกิจการของท่าน คิดว่าใครมีช่องทางเลี่ยงหรือจะเรียกว่าบริหารภาษีก็ได้ มากกว่ากัน ?

ความเป็นคนดีรักชาติไม่สามารถวัดได้ด้วยจำนวนภาษีที่จ่ายให้กับประเทศชาติครับ... ถูกต้องครับ
แต่การเสียภาษีมันเป็นหน้าที่ครับ คุณจะรักชาติหรือไม่ แต่ถ้ามีรายได้ที่เกิดในประเทศไทย คุณมีหน้าที่ต้องเสียภาษีครับ

ที่ผมถามเรื่องภาษีที่จ่าย ไม่ได้จะบอกว่าคนซื้อรถแพงจะเลี่ยงภาษี
แต่ผมเห็นสลิปเงินเดือน กับภาษีที่จ่ายแล้วกลุ้มใจ
ก็เลยสงสัยว่าด้วยรายได้ที่มีปัญญาแค่รถญี่ปุ่น B segment  ยังโดนภาษีเงินได้ขนาดนี้
พวกที่มีรายได้พอซื้อรถแพงๆ หลายๆล้าน เขาเสียภาษีกันเท่าไหร่แค่นั้นเอง



ออฟไลน์ yoyoland

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 320
เก่งๆ กันทั้งนั้นเลย ทำงานยังไงไม่ทราบได้เดือนละเป็นแสนๆๆ

งานประเภทไหนครับ และ ความสามารถ คุณสมบัติอย่างไร ถึงได้รายได้แบบนี้

อยากทราบครับ 

ออฟไลน์ a-k-e

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 167
ผมขับ BMW X3 F25 ครับ ประมาณ 3.5 ล้านบาท
แนวคิดการซื้อรถคือ ราคารถต้องไม่เกิน 10% ของสินทรัพย์ทั้งหมด และไม่เกินรายได้ 1 ปี
พอคำนวณสินทรัพย์ที่ผมมี และรายได้ต่อปี ก็พอดีกับรถคันนี้ที่ต้องการพอดีครับ รายได้ผมเดือนละประมาณ 3 แสนกว่าบาท
แต่ไม่ได้เป็นเงินเดือนทั้งหมดนะครับ เงินเดือนมีแค่ 60,000 ที่เหลือเป็นกำไรจากธุรกิจส่วนตัว และเงินปันผลจากเงินลงทุนในสินทรัพย์

X3 เป็นคันที่ 3 ที่ผมขับ แต่เป็นคันแรกที่ซื้อด้วยเงินตัวเอง ต่อจาก City Type Z และ CRV G3 ก่อนหน้า
แต่ว่าถ้าถามว่ารักรถคันไหนมากที่สุด ทุกวันนี้ X3 คันล่าสุดยังไม่เทียบ City Type Z คันแรกได้
เพราะเรื่องราวในรถที่ผ่านเข้ามา มันเยอะ :)

ใครจะขับรถแพง รถถูก มันขึ้นอยู่กับความชอบครับ อย่าแขวะกันเลย
คนที่ชอบนาฬิกา เค้าก็ซื้อของดี ๆ ... คนที่ชอบบ้าน เค้าก็เอาเงินไปลงกับบ้านดี ๆ แต่งสวย ๆ
คนที่ชอบรถ เค้าก็เอาเงินมาลงกับรถที่ชอบ รถในฝัน
อย่าดูถูกดูแคลนความชอบของกันและกันเลยครับ

ออฟไลน์ a-k-e

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 167
อ้างถึง
ที่ยกเรื่องจำนวนเงินที่เสียภาษีมาเปรียบเทียบ ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ผิดครับ
ระหว่างพนักงานเงินเดือน 3หมื่นกับเจ้าของกิจการของท่าน คิดว่ามีความสามารถในการเสียภาษีมากกว่ากัน?
ระหว่างพนักงานเงินเดือน 3หมื่นกับเจ้าของกิจการของท่าน คิดว่าใครเสียภาษีต่อรายได้มากกว่ากัน?
ระหว่างพนักงานเงินเดือน 3หมื่นกับเจ้าของกิจการของท่าน คิดว่าหลังเสียภาษีแล้วใครมีเงินเหลือมากกว่ากัน?
ระหว่างพนักงานเงินเดือน 3หมื่นกับเจ้าของกิจการของท่าน คิดว่าใครมีช่องทางเลี่ยงหรือจะเรียกว่าบริหารภาษีก็ได้ มากกว่ากัน ?
คุณพูดแบบนี้ มันเหมือนเอาข้อเสียของรายได้ช่องเงินเดือน มากล่าวหารายได้ช่องธุรกิจส่วนตัวนะครับ
หากคุณเคยเป็นพนักงานเงินเดือน และผันตัวเองกลับมามีบริษัทของตนเอง คุณจะไม่มีความคิดหรือกล่าวอ้างอะไรแบบนี้แน่นอน

ผมตอบให้คุณแต่ละข้อเลยก็ได้

1. เจ้าของกิจการ มีความสามารถในการเสียภาษีมากกว่าอยู่แล้ว ลองคิดดูว่า มีบุคคลธรรมดากี่รายในประเทศ ที่มีรายได้ 100 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่บริษัทที่มีกำไร 100 ล้านบาทต่อปี หาได้ไม่ยากเลย และบริษัทนั้น จะต้องเสียภาษีประมาณ 23% ของกำไรที่ได้

2. คุณเอารายได้มาคุยไม่ได้ เพราะธุรกิจเค้ามีต้นทุนสินค้า การจ้างงาน อื่น ๆ ถึงแม้คุณจะกล่าวอ้างว่า คุณก็มีต้นทุนค่ารถ ค่าเสื้อผ้า ค่า ฯลฯ แต่มันคนละเรื่องเดียวกัน แต่แน่นอน ในกฏหมายปัจจุบัน บุคคลธรรมดาที่มีรายได้เท่ากับกำไรของบริษัท ๆ หนึ่ง ... บุคคลผู้นั้นจะต้องเสียภาษีมากกว่าแน่นอน เพราะภาษีบุคคลธรรมดาสูงสุดที่ 37% ในขณะที่ภาษีนิติบุคคลตอนนี้อยู่ที่ 23%

3. ผมว่าข้อนี้ไม่ใช่ประเด็นเลย

4. ช่องทางเลี่ยงภาษี หรือบริหารภาษี สุดแล้วแต่คุณจะกล่าว แน่นอนว่านิติบุคคลมีช่องทางมากกว่า ทั้งถูกและผิดกฏหมาย แต่หากคุณลองคิดดูว่า ถ้าพนักงานกินเงินเดือนตอนเช้าไปขายหมูปิ้งได้เงินเดือนละ 3 หมื่น กับตอนเย็นขายของตลาดนัดได้เงินเดือนละ 3 หมื่น รวมเงินเดือนเป็น 9 หมื่น คุณคิดว่าพนักงานคนนั้นจะนำรายได้ 9 หมื่นไปเสียภาษีเต็มจำนวน หรือว่ารายงานไปแค่รายได้ 3 หมื่นที่ได้จากงานประจำ และเป็นเงินที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว?

ภาษีมันเป็นหน้าที่ ถูกต้องครับ
แต่คุณไม่มีสิทธิที่จะกล่าวหาว่า อาชีพไหนเอาเปรียบอาชีพไหน เพราะว่าประเทศเราไม่ได้ห้าม ไม่ให้คนที่มีบริษัท ไปทำงานเป็นพนักงานเงินเดือน
และที่สำคัญที่สุด ไม่มีใครห้ามไม่ให้พนักงานเงินเดือน ไปเปิดบริษัทมีกิจการของตนเองเช่นกัน

คุณเห็นสลิปเงินเดือนตัวเองแล้วคุณกลุ้มใจ
แต่คุณอย่ามองแค่เรื่องของตัวเอง ลองไปถามนายจ้างคุณดูบ้าง ว่าตอนเค้าเห็นตารางค่าใช้จ่ายเงินเดือนพนักงานคุณ ๆ และบิลเรียกเก็บเงิน
คุณแค่กลุ้มใจ แต่นายจ้าง อาจจะเอาเท้าก่ายหน้าผากก็ได้นะครับ .. 5555

ส่วนเรื่องภาษีรถ ไม่ต้องห่วงครับ
คนที่ซื้อรถยุโรปซักคันนึง แค่ภาษีสรรพสามิต ยังไม่รวม VAT 7% นะ
เค้าก็เสียมากกว่าภาษีที่พนักงานเงินเดือน 30,000 จ่ายต่อปี ... มากกว่าเป็นสิบปีแล้วครับ
ไม่ต้องกลัวว่าคุณจะเสียเปรียบไปครับ