ค่ายรถระดมเพิ่มกำลังผลิต รับเป้าตลาดในประเทศ-ส่งออก 3 ล้านคันในอีก 5 ปี "นิสสัน" เล็งผุดโรงงาน 2 ปลายปี "มิตซูบิชิ" ขยายไลน์มิราจอีก 5 หมื่นคัน ขณะที่ "โตโยต้า" จ้องผุดเกตเวย์และบ้านโพธิ์เฟส 2 เสริมเขี้ยว "อีซูซุ" เท 6.5 พันล้านปั๊มดีแมคซ์เป็น 2.9 แสนคันต่อปี
นางเพียงใจ แก้วสุวรรณ นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สัญญาณการเพิ่มกำลังผลิต และขยายการลงทุนในประเทศไทยของค่ายรถต่าง ๆ ช่วงนี้เริ่มชัดเจนขึ้น
"วันนี้ทุกคนมองอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยยังไปได้อีกไกล และเชื่อว่าภายใน 5 ปีจากนี้จะมีการลงทุนเพิ่มเติมจากผู้ประกอบการอย่างแน่นอน แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าใครจะลงทุนมากน้อยเพียงใด เพราะถ้าแบรนด์ไหนมีความแข็งแกร่งก็พร้อมที่จะเดินหน้าได้ทันที ส่วนแบรนด์รอง ๆ อาจจะต้องใช้ระยะเวลาคิดเล็กน้อย มีหลาย ๆ ปัจจัยมาเป็นส่วนประกอบในเรื่องของการลงทุน ซึ่งไม่เฉพาะแต่ค่ายรถยนต์ ยังหมายรวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนด้วย"
แหล่งข่าวจากแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ อยู่ระหว่างการศึกษา และปรับแผนงานเพื่อเพิ่มกำลังผลิตรองรับตลาดที่จะมีการเติบโตในอนาคตที่ 2.5-3 ล้านคัน
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศ) จำกัด เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้นิสสันเตรียมแผนการขยายเพิ่มโรงงานแห่งใหม่ จากปัจจุบันโรงงานเดิมมีกำลังผลิตที่ค่อนข้างแน่น
สำหรับการขยายโรงงานแห่งที่ 2 ในเร็ว ๆ นี้จะใช้โรงงานในพื้นที่ถนนบางนาตราด กม.22โรงงานแห่งนี้คาดว่าจะผลิตรถปิกอัพขนาด 1 ตัน ที่ปัจจุบันนิสสันได้จ้างให้มิตซูบิชิผลิตกระบะนิสสัน นาวารา
ก่อนหน้านี้นายทาคายูกิ คิมูระ ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นิสสันมีแผนที่จะแนะนำรถยนต์รถใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด หลังจากล่าสุดได้ส่งนิสสัน ซิลฟี ใหม่ไปแล้ว
ส่วนความร่วมมือระหว่างนิสสันและมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยนั้น คาดว่าการผลิตรถยนต์นิสสัน นาวารา รุ่นใหม่ ที่ได้มีการว่าจ้างมิตซูบิชิผลิตเป็นระยะเวลา 3 ปี
ขณะนี้นิสสันเตรียมแผนงานเพื่อจะลงทุนขยายโรงงานผลิตรถยนต์นิสสันในประเทศไทย เพิ่มเติมจากเป้าหมายในปีงบประมาณนี้ นิสสันจะมีกำลังผลิตทั้งสิ้นที่ 280,000 คัน
นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันมิตซูบิชิมีกำลังผลิตอีโคคาร์ มิตซูบิชิ มิราจอยู่ที่ 122,000 คันต่อปี แบ่งเป็นการผลิตในประเทศ 51,000 คัน ส่งออกไปยังญี่ปุ่น 37,000 คัน และประเทศอื่น ๆ 34,000 คัน
ขณะที่โรงงานแห่งที่ 3 ที่ผลิตมิราจนั้นสามารถรองรับได้สูงสุดที่ 150,000 คัน ซึ่งคาดว่าราวปีหน้าบริษัทน่าจะใช้กำลังผลิตตรงนี้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายเพิ่มกำลังผลิตอีก 50,000 คัน เพื่อเพิ่มกำลังผลิตเป็น 200,000 คัน ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนอีกไม่น้อยกว่า 1,000-1,200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ราวเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2556
ขณะที่กำลังผลิตรวมของมิตซูบิชิจะอยู่ที่ 460,000 คันต่อปี จากทั้ง 3 โรงงาน โดยโรงงานแห่งที่ 1 และ 2 ซึ่งผลิตรถปิกอัพ ไทรทัน ปาเจโรสปอร์ต แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ และแลนเซอร์ รวมทั้งการรับจ้างประกอบให้กับนิสสัน นาวารา ทั้ง 2 โรงงานมีกำลังผลิตรวมที่ 310,000 คัน
ด้านนายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มั่นใจว่าปีนี้จะสามารถผลิตได้เต็ม 100% ของกำลังการผลิตคือ 240,000 คัน และล่าสุดได้ปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายในประเทศจาก 150,000 คัน เป็น 170,000 คัน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งการทำงานล่วงเวลา
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า มาสด้าอยู่ระหว่างปรับเพิ่มกำลังผลิตของรถยนต์มาสด้า 2 ขึ้นมาอีก 20% เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ขณะที่รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 บริษัทพยายามดึงสัดส่วนการผลิตระหว่างตลาดในประเทศและตลาดส่งออก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
โดยก่อนหน้านี้มาสด้าได้ลงทุนเพิ่ม 800 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรถปิกอัพ นอกจากนี้ก็โยกโควตาการส่งออกเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าภายในประเทศก่อน
แหล่งข่าวฝ่ายบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า เร็ว ๆ นี้โตโยต้าจะเพิ่มกำลังผลิตรถเก๋ง โดยจะเพิ่มไลน์ผลิตที่โรงงานเกตเวย์ซึ่งถือเป็นเฟสที่ 2 และอีกไม่นานจะเพิ่มไลน์ผลิตปิกอัพที่โรงงานบ้านโพธิ์ เพื่อรองรับความต้องการตลาดทั้งในและนอกประเทศ
ก่อนหน้านี้ เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ประเมินตลาดรถยนต์ว่า เนื่องจากตลาดเติบโตค่อนข้างรวดเร็ว โดยเฉพาะตลาดในประเทศที่
วันนี้มียอดจองค่อนข้างสูง ค่ายรถยนต์ต่างต้องพยายามเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว และปีนี้โตโยต้าตั้งเป้าจะผลิตให้ได้ 800,000 คัน โดยพยายามปรับเพิ่มคุณภาพการผลิต การลดเวลาประกอบรถลง
ด้านนายเอช นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ กล่าวว่าบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2.1 แสนคันตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเพิ่มกำลังแบบเต็มกำลังการผลิตแล้ว เพื่อให้เพียงพอต่อการส่งมอบให้กับลูกค้า แต่ที่ผ่านมายังไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยในเดือนตุลาคมนี้ บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานใหม่จำนวน 8 หมื่นคันต่อปี ซึ่งส่งผลให้กำลังการผลิตรวมจะเพิ่มเป็น 2.9 แสนคันต่อปี เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศและเพื่อการส่งออก โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ส่งออก 30-40% และในประเทศ 60-70% โดยใช้เงินลงทุนกว่า 6.5 พันล้านบาทก่อนหน้านี้
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในช่วงเดือน สิงหาคม-กรกฎาคมที่ผ่านมา มีบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ได้ขอรับการส่งเสริมขยายกิจการจำนวนทั้งสิ้น 6 โครงการ โดยคิดเป็นมูลค่าการลงทุนสูงถึง 13,467.5 ล้านบาท และโตโยต้าได้ขอรับการส่งเสริมการลงทุนไปแล้วสูงถึง 22,630 ล้านบาท เพื่อขยายกิจการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีกำลังผลิตปีละประมาณ 100,000 คัน และชิ้นส่วนรถยนต์อีกปีละ 1,026,700 ชิ้น
โดยในส่วนของโรงงานสำโรง หรือโรงงานไทยออโต้ เวิร์คส (TAW) ซึ่งจะผลิตรถยนต์โมเดลที่ยังไม่เคยมีการผลิตในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตได้รวมปลายปี 2555 นี้ ส่วนการลงทุนที่โรงงานเกตเวย์นั้น คาดว่าจะเริ่มผลิตได้รวมไตรมาส 3 ของปี 2556
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1349070031&grpid=&catid=08&subcatid=0800