ผู้เขียน หัวข้อ: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!  (อ่าน 32628 ครั้ง)

ออฟไลน์ SADAEW

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 181
ปีหน้ามีโครงการจะซื้ออ่ะครับ แต่หวังว่าจะมีดีเซลเครื่องใหม่มาให้ลุ้น เผื่อว่ามันจะประหยัดขึ้น
แต่ตอนนี้นั่งอ่านกระทู้ต่าง ๆ รีวิว ความคิดเห็นเริ่มลังเลและไม่มั่นใจ
ระหว่าง 320d กับ 320i ในเรื่องของค่าใช้จ่าย เรื่องค่าน้ำมันผมเลยมาลองคำนวณดู

ผมวิ่งในกทม.วันละ 30ก.ม. + ต่างจังหวัดระยะทาง 200 ก.ม. ไปกลับก็ 400-500ก.ม.2ครั้งต่อเดือน
รวม กทม.900+ต่างจังหวัด1,000ก.ม. ตีกลม ๆ ก็ เดือนละ 2,000ก.ม.
ปีนึงก็ประมาณ 12*2,000 ตีกลม ๆ ไปที่ 25,000ก.ม. ต่อปี

ถ้าเป็น 320i อัตราเฉลี่ย 16ก.ม.ต่อลิตร
จะใช้น้ำมันเท่ากับ 25,000/16 = 1,562.5 ลิตร/ปี
คิดเป็นเงิน ( เบนซินลิตรละ 40 ) 1,562.5*40= 62,500บาท/ปี

ถ้าเป็น 320d อัตราเฉลี่ย 20ก.ม. ต่อลิตร
จะใช้น้ำมันเท่ากับ 25,000/20 = 1,250 ลิตร/ปี
คิดเป็นเงิน ( ดีเซลลิตรละ 30 ) 1,250*30= 37,500บาท/ปี

ส่วนต่างค่าน้ำมันต่อปีคือ 62,500 - 37,500 = 25,000บาท/ปี
แปลว่าดีเซลประหยัดกว่า 25,000บาท/ปี

ค่าตัวระหว่าง 320d กับ 320i ต่างกันอยู่ที่โดยตัวเบนซินถูกกว่า 220,000บาท
เพราะฉะนั้นถ้าจะใช้ให้คุ้มทุนส่วนต่างก็ต้องใช้ดีเซลให้ได้ 220,000/25,000 = 8.8ปี ( 8ปี กับอีก 10เดือน )

คำถามคือ
1.ถ้าผมสนใจเรื่องอัตราเร่งเพียงเล็กน้อยเพราะผมรู้สึกว่ามันคงต่างกันไม่ถึงกับมากเวอร์ระหว่างสองตัวนี้
   ผมแค่รู้สึกว่าเออ อย่างน้อยมันดีกว่ารถที่ผมขับอยู่ก็พอ ถึงแม้ว่าผมจะชอบดีเซลก็ตามเคยขับตัว F10 520d ถือว่าประทับใจ
   เบนซินกับดีเซลไม่ได้ต่างถึงขั้นรู้สึกได้ใช่มั้ยครับ?? แต่ผมชอบแรงดึงของดีเซลมาก ๆ ไม่รู้เบนซินจะดึงแบบนั้นมั้ย
2.ค่ารักษาดูแล ระหว่างเบนซินและดีเซลมีนัยยะแอบแฝงมั้ย เช่นการดูแลรักษาตัวไหนค่าใช้จ่ายสูงกว่า หรือเท่ากัน?
3.ข้อดีอีกอย่างของเบนซินที่จะโอนเอียงคือ เสียงที่เงียบกว่า นิ่มกว่า และดูเป็นผู้ดีมากกว่า
   แต่ถ้าคำนวณแล้วดีเซลมันมีส่วนต่างค่าน้ำมันที่ประหยัดและดีกว่านั้นผมก็รู้สึกว่า ผมรับเสียงดัง ๆ ของดีเซลได้
   เพราะว่าในห้องโดยสารเงียบมาก ไปทดลองขับมาแล้ว ในข้อนี้ถามว่าเบนซิลกับดีเซลมีข้อดีข้อเสียไหนอีก
   นอกจากเรื่องเสียงครับ??
4.จอดนิ่ง ๆ ระหว่างเบนซินกับดีเซล ดีเซลประหยัดกว่าเยอะมั้ยครับ อย่างเบนซินมันซดเลยรึเปล่าครับ???
5.ถ้าใช้ระยะยาวประมาณ 5-7ปี ตัวไหนขายต่อได้ราคากว่ากัน
   และถ้าตีราคาคร่าว ๆ จะขายได้ถึง 1M มั้ยครับ ทั้งสองตัวเลย??

รบกวนชี้แนะออกความคิดเห็นหน่อยครับ


ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
1.เบนซิน 2.0 เทอโบตัวใหม่ไม่เหมือนอย่างเก่าแล้วครับ ในฐานะที่เคยลองทั้งสองรุ่นแล้วผมว่า ไม่ต่างครับแทบจะเหมือนกันเลย ถ้าไม่มั่นใจไปขอทดลองขับโลด ;)
2.อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันไม่เคยใช้ดีเซลระยะยาวเคยแต่ลองขับ ทั้งบ้านมีแค่คันเดียวที่เป็นดีเซลคือของคุณตาไม่เห็นว่ามีบ่นอะไรนะครับ
3.ดีเซลมีแรงบิดมากกว่า รอบต้นจัดกว่าเบนซิน แต่ปลายๆ แล้วเบนซินจะไหลกว่านิดหน่อยครับ แต่ Twin Scroll Turbo มันช่วยได้เยอะจริงๆ ต้นก็มาไม่แพ้ดีเซลเลย ;D
4.เบนซินไม่ซดนะครับ พอๆ กับ Civic 2.0 นั่นแหละ แต่ดีเซลก็อาจจะประหยัดกว่ากันเล็กน้อยครับ ;)
5.น่าจะอยู่ที่ 1 ล้านบาท บวกลบนิดหน่อยนะครับ แต่ถ้า 4 ปีอาจจะอยู่ที่ ล้านกลางๆ ครับ ราคาขายไม่น่าจะห่างกันมากครับ

ออฟไลน์ SADAEW

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 181
civic 2.0 ได้ข่าวว่าก็ไม่ธรรมดาป่ะคับ ประมาณเท่าไรฮะ

ถ้าเราขับในกทม. วันละ 30-40 โล จอดติดบ้าง ไปได้บ้าง
อัตราเฉลี่ยผมว่า มันจะต่ำกว่า 16 กิโลมั้ยครับ?

ออฟไลน์ sakolsakman

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 158
    ใช้320i มาสองวันแล้วครับ เงียบดีกว่าซีตรองของผม วิ่งมาแล้ว220 บนโทรเวย์ตอนตีสาม ขับสนุก แต่ยังใช้ idrive ไม่เป็นครับ ตอนนี้หน้าจอมืดตึ๊ดตื๋อ ผมไม่รู้ไปกดอะไรเข้าคืนก่อนเมา :'(

    320D เคยขับมาเกือบชั่วโมง ขับสนุกพอกัน ข้างในเงียบพอกัน แต่ข้างนอกเบนซินเงียบกว่าเยอะครับ :D
สรุปผมซื้อเบนซิน เพราะเรื่องถูกกว่าสองแสนครับ  
      

ออฟไลน์ SADAEW

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 181
   ใช้320i มาสองวันแล้วครับ เงียบดีกว่าซีตรองของผม วิ่งมาแล้ว220 บนโทรเวย์ตอนตีสาม ขับสนุก แต่ยังใช้ idrive ไม่เป็นครับ ตอนนี้หน้าจอมืดตึ๊ดตื๋อ ผมไม่รู้ไปกดอะไรเข้าคืนก่อนเมา :'(

    320D เคยขับมาเกือบชั่วโมง ขับสนุกพอกัน ข้างในเงียบพอกัน แต่ข้างนอกเบนซินเงียบกว่าเยอะครับ :D
สรุปผมซื้อเบนซิน เพราะเรื่องถูกกว่าสองแสนครับ  
      

อัตราเฉลี่ยตอนนี้ประมาณเท่าไรครับ เรื่องความแรงผมก็ไม่ถึงกับขับเร็วมากแต่สนใจตรงความประหยัดน่ะครับ
ถ้าได้สัก 15-16ก.ม./ลิตร สม่ำเสมอ ในกทม. ผมว่าโอเคเลยนะครับ กับการถูกกว่า 220,000 บาท แม้จะประหยัดน้อยกว่าดีเซล
แต่ทางยาว บวกลบคูณหารอย่างที่บอกอ่ะครับ อาจจะใช้ได้ไม่ถึง 8ปีครับ

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
ของผม 528i ตัวเลขขึ้นประมาณ 8-9 โลลิตรครับในเมืองจอดแช่ไฟแดง :P

ส่วนดีเซลนี่ไม่ทราบครับ



ปล.ค่าน้ำมันเฉลี่ยนอาทิตย์ละประมาณ 2000 วิ่งประมาณ 70-80 กม. ต่อวันครับ เติม 95 V-Power

ออฟไลน์ sakolsakman

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 158
   ใช้320i มาสองวันแล้วครับ เงียบดีกว่าซีตรองของผม วิ่งมาแล้ว220 บนโทรเวย์ตอนตีสาม ขับสนุก แต่ยังใช้ idrive ไม่เป็นครับ ตอนนี้หน้าจอมืดตึ๊ดตื๋อ ผมไม่รู้ไปกดอะไรเข้าคืนก่อนเมา :'(

    320D เคยขับมาเกือบชั่วโมง ขับสนุกพอกัน ข้างในเงียบพอกัน แต่ข้างนอกเบนซินเงียบกว่าเยอะครับ :D
สรุปผมซื้อเบนซิน เพราะเรื่องถูกกว่าสองแสนครับ  
      

อัตราเฉลี่ยตอนนี้ประมาณเท่าไรครับ เรื่องความแรงผมก็ไม่ถึงกับขับเร็วมากแต่สนใจตรงความประหยัดน่ะครับ
ถ้าได้สัก 15-16ก.ม./ลิตร สม่ำเสมอ ในกทม. ผมว่าโอเคเลยนะครับ กับการถูกกว่า 220,000 บาท แม้จะประหยัดน้อยกว่าดีเซล
แต่ทางยาว บวกลบคูณหารอย่างที่บอกอ่ะครับ อาจจะใช้ได้ไม่ถึง 8ปีครับ




 ขอโทษด้วยครับ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันกี่กิโลต่อลิตร แล้วเค้าเช็คกันยังไงครับ ผมก็ไม่เคยเช็คเลย ใครรู้บอกด้วยครับ

ออฟไลน์ rachod_n

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 23
    • อีเมล์
เกือบ 1 อาทิตย์ที่อยู่กับ 320I F30 ในความเห็นผมชอบและตัดสินใจไม่ผิดทีไม่รอ 320D ทั้ง 2 คัน เคยขับแล้วดึงทั้งคู่แต่ 320D จะออกอาการดึงกว่านิดหนึ่ง
ถ้าเปรียบเป็นเพลง 320D การดึงจะเป็น Rock ส่น 320I ก็ดึงแบบนิ่มๆ Smooth แบบ pop rock
 ขับสนุกครับ ภายในเก็บเสียงค่อนข้างดีทีเดียว ข้างนอกเสียงก็เงียบครับ  แฟนผมใช้ XC60 เป็น Diesel เวลากลับบ้านได้ยินเสียงเครื่องตั้งแต่หน้าประตูบ้าน
ขับในเมืองประมาณ 12-14 กม/ลิตร ที่ 16  BMW แจ้งไว้น่าจะเป็น เฉลี่ยรวมนอกเมืองด้วย
เรื่องราคาขายต่อผมไม่เป็นห่วงเพราะขึ้นชื่อว่ารถราคาคงต้อง ลด ไปแต่ราคาขายในส่วนตัวก็เชื่อว่า 320D น่าจะดีกว่าแต่ไม่รู้เท่าไรครับ แนะนำว่าอย่าตามกระแสเลือกในสิ่งที่ตัวเองชอบและ match กับการใช้งาน รถดีทั้งคู่ครับ :D

ออฟไลน์ maxillofacial surgeon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 998
    • อีเมล์
ผมก็ดูอยู่เหมือนกันครับ
เกรงอย่างเดียวอัตราสิ้นเปลืองผมว่า ขับจิงๆไม่น่าจะถึง เท่าที่ จขกท คาดไว้ครับ ทั้ง ดีเซลและเบนซิน

ออฟไลน์ holahola66

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,798
    • อีเมล์
ไม่เผื่อว่าน้ำมันจะแพงขึ้นเลยหรอคร้าบบ  ::)
Mercedes C-Class W205 CDI
BMW 116i f20
Honda Civic EG 3door D16a turbo MT
Nissan March 1.2 cvt

ออฟไลน์ promay

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 132
    • อีเมล์
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 11:33:20 »
ผมว่าถ้างบถึงเล่นดีเซลดีกว่าระยะยาวใช้งานไม่จุกจิกเหมือนเบนซิน...และเวลาเดินทางไกลบรรทุกน้ำหนักเยอะๆขึ้นเขาหรือเวลาแซงผมชอบดีเซลมากกว่าไม่ต้องเค้นหนักเหมือนเบนซิน ;D
ปล.อนาคตน้ำมันปรับขึ้นราคาไปเรื่อยๆ ผมดูแล้วระยะยาวดีเซลเจ็บตัวน้อยกว่าครับ

ออฟไลน์ NoName__???

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,145
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 11:59:34 »
ตัวเลขจากโรงงานเป็นตัวเลขเฉลี่ย ในและนอกเมือง เอาเข้าจิงไม่ถึงหรอก 16 กับ 20โลลิตร
ใช้งานจริง น่าจะมี 8-9 สำหรับเบนซิล 11-12 สำหรับดีเซล ก็หรูแล้ว

ออฟไลน์ Thor.1

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 557
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 11:59:59 »
   เครื่องดีเซลยุคใหม่ส่วนใหญ่ได้ลองอาการแล้วจะติดใจทุกคน
  แต่ถ้าได้ใช้จริงๆจังๆ หลายคนที่ผมรู้จักที่ใช้แต่เบนซ์-บีเอ็มมาตลอด
  ลองดีเซลแล้วชอบ-ซื้อใช้  แต่หลังๆร้องหา อยากกลับมาใช้เครื่องเบ็นซิลหลายคนเลย
  เขาบอกว่าเสียงมันดังขึ้นเรื่อยๆ กินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (แต่ยังประหยัดกว่าเบ็นซินอยู่ดี)

   ยิ่งได้ไปลองเบ็นซินเทอร์โบรุ่นใหม่ๆยิ่งอยากได้มากกว่าตัวดีเซล
  และส่วนตัวผมเอง รถระดับหรูแบบนี้ผมชอบเบ็นซินมากกว่าครับ....

ออฟไลน์ scotch_fillet

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,520
    • อีเมล์
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 12:44:45 »
เรื่องราคาขายต่อ ผมได้คุยๆกับเซลส์ BMW เขาบอกว่า
ถ้า 4-5 ปี ราคาตัวดีเซลจะราคาดีกว่า ตกน้อยกว่า
แต่ถ้า 7 ปีไปแล้ว คราวนี้ราคาพอๆกัน (แต่เบนซิลซื้อมาถูกกว่า) เพราะคนซื้อจะเอาไปดมแก็สครับ

ออฟไลน์ ChiLun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,382
  • F10 525d M sport
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 13:07:39 »

ซื้อศูนย์เบนซินครับ เพราะส่วนต่างมากไปหน่อย

ผมออก 525d รถนำเข้า เพื่อนผมออก 528i รถศูนย์ msport เหมือนกัน ราคาผมออกถูกกว่าของมันไม่มาก ออปชั่นผมมากว่าสองสามอย่าง
แต่ของมันมี bsi ผมไม่มี ลองคิดกลับกันว่าถ้ารถผมออกศูนย์ตัวดีเซลออปชั่นนี้จะแพงกว่าเบนซินอีกเท่าไหร่ ส่วนตัวเลยคิดว่าออกศูนย์เบนซิน
Okแต่ดีเซลแพงไปครับ

ออฟไลน์ MoJo-JoJo

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 206
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 13:12:36 »
ผมเคยลองคำนวนเหมือนกันครับ เรื่องส่วนต่างน้ำมันของ 320i และ 320d

จะเป็นอย่างที่คุณ SADEAW พูดจริงครับ
ถ้าเราขับได้ 16 และ 20 กิโลเมตร/ลิตร = ประมาณ 8 ปี คืนทุนส่วนต่างที่จ่ายไป
แต่ถ้าเป็นในเมืองหล่ะ หรืออะไรก็แล้วแต่
ถ้าเราขับได้ 8 กับ 12 กิโลเมตร/ลิตร

แม้จะเห็นว่า ต่างกัน 4 กิโลเมตร/ลิตรเท่ากัน
แต่จำนวนปีที่คืนทุนจะลดลงหวบหาบทันทีนะครับ
ผมเคยคำนวนประมาณนี้ คืนทุนที่ 100,000 กิโลเมตรครับ (หรือประมาณ 4 ปี ตามที่คุณ SADEAW คำนวนไว้ครับ)

ผมเลยมองว่า...
จริงๆแล้วถ้าเป็นคนฃอบเอกลักษณ์เบนซิน
ไม่ว่าจะเรื่องเงียบ เรื่องความเร็วในรอบสูง
ก็คงต้องไปเบนซินหล่ะครับ

แต่ถ้าเป็นคนขับไม่เร็วมาก
แต่มีเร่งแซง ใช้ในเมืองเป็นหลัก เหยียบเกิน 140 หรือ 160 แบบนับครั้งได้
ผมว่าดีเซลก็น่าจะดีนะครับ

ปล. ผมไม่เคยขับทั้ง 2 รุ่นนะครับ แต่ว่าศึกษาจากการพูดกล่าวของพี่ๆที่น่าเชื่อถือในเว็บนี้
ไม่ว่าจะเป็นพี่จิมมี่ หรือท่านผู้การ ก็ได้ความรู้มาประยุกต์ใช้
เพราะฉะนั้น ถ้าข้อมูลผิดพลาดก็ขออภัยนะครับ
แต่เรื่องการคำนวน หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย...

ทางการไปป่ะหว่ะเรา....5555+


ออฟไลน์ PJ"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,722
  • Fake Forester
    • อีเมล์
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 13:19:10 »
อย่าลืมคิดราคาน้ำมันเบนซิล กับดีเซลในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้าด้วยนะครับคงไม่หยุดแค่แถวๆ40แน่ๆ

ออฟไลน์ nirvanapoint

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 421
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 13:29:31 »
ผมชอบเบนซินมากกว่าครับ
นุ่มเงียบ แรงพอกันกับดีเซล น้อยกว่านิดหน่อยแค่นั้น
ที่ไม่เลือกดีเซลเพราะเสียงดังนี่แหละครับ แล้วเห็นว่ามันดังขึ้นเรื่อยๆนะครับ
(เห็นมีกระทู้นึงบอกแฟนขับมาทีคิดว่า วีโก้  :'()
ส่วนตัวผมชอบเครื่องเงียบๆอะครับ รถระดับนี้มาเสียงดังเกินก็ไม่ไหว อิอิ
แถมถูกกว่าเอาเงินไปเติมน้ำมันได้ 2-3 ปีเลย
ถ้าไม่ได้วิ่งเยอะจริงๆ เบนซินเป็นคำตอบของผมครับ (คนสต ล้วนๆ)  ;D

ออฟไลน์ holahola66

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,798
    • อีเมล์
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 13:39:14 »
  เครื่องดีเซลยุคใหม่ส่วนใหญ่ได้ลองอาการแล้วจะติดใจทุกคน
  แต่ถ้าได้ใช้จริงๆจังๆ หลายคนที่ผมรู้จักที่ใช้แต่เบนซ์-บีเอ็มมาตลอด
  ลองดีเซลแล้วชอบ-ซื้อใช้  แต่หลังๆร้องหา อยากกลับมาใช้เครื่องเบ็นซิลหลายคนเลย
  เขาบอกว่าเสียงมันดังขึ้นเรื่อยๆ กินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (แต่ยังประหยัดกว่าเบ็นซินอยู่ดี)

   ยิ่งได้ไปลองเบ็นซินเทอร์โบรุ่นใหม่ๆยิ่งอยากได้มากกว่าตัวดีเซล
  และส่วนตัวผมเอง รถระดับหรูแบบนี้ผมชอบเบ็นซินมากกว่าครับ....


อ่าา คิดเหมือนกันแป๊ะเลยครับ. ผมใช้ CDI. ตอนนี้อยากกลับไปขับเบนซินครับ  เวลากดๆเสียงมันเพราะกว่าดีเซล.  จังหวะเครื่องยนต์ก้อดีกว่า. 
Mercedes C-Class W205 CDI
BMW 116i f20
Honda Civic EG 3door D16a turbo MT
Nissan March 1.2 cvt

ออฟไลน์ bump_F10_525d

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 341
    • อีเมล์
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 13:46:24 »
ผมเลือกขับมันส์ ส่วนราคาน้ำมันก็ต้องมาคิดว่า อนาคตน้ำมันอะไรจะแพงกว่ากันอีก พอได้ขับแล้วอดใจไม่ได้ที่จะไม่เหยียบ diesel ของ bmw ผมว่าไม่ดังนะ เสียงเครื่องฟังยังไงก็ไม่เหมือนรถกระบะ ผมว่าเบาที่สุดในทุกรุ่นที่มีขายในไทยละ อาการสั่นสำหรับ 525d มีเล็กน้อย แทบไม่รู้สึก ภายในนี่เก็บเสียงได้ดี ยิ่งตอน auto stop ทำงานนี่เงียบสนิทเลยครัย

ออฟไลน์ Jump

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 721
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 13:54:32 »
ดูงบชัวร์สุด ถ้าผ่อน
ด้วยเอามาหารแล้ว ไม่มากเท่าหร่ น่ากัดฟัน เป็นดีเซลไป
LIKE A BOSS!!


ออฟไลน์ Parinceo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,210
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 14:04:13 »
ครับ ที่บ้านมี F10 520d แล้วก็กำลังรอ F30 320d ของคุณแม่อยู่ครับ เคยเถึยงกับแม่เหมือนกันนะครับว่าอยากได้ตัว 320i เหมือนกัน เพราะอยากลองลากรอบเบนซินของ german บ้าง แต่คำนวณไปๆมาๆ ดีเซลยังไงก็คุ้มกว่าครับ ทั้งราคาน้ำมัน ทั้งค่าบำรุงรักษา(คุณแม่ใช้ยาวเลยครับ น่าจะซัก10ปี)ส่วนเรื่องเสียงดังนั้น รุ่มใหม่ๆดีขึ้นมากครับ ผมว่าถึงมันจะเสียอะไรยังไงมันก็ไม่ดังเท่า Fortuner ที่บ้านแน่ๆ ส่วนภายใน ต้องขอชมว่า การเก็บเสียงดีมากๆ เสียงที่ลอดเข้ามาในรถเวลากระทืบคันเร่งเนี่ย มันจะมาแนวทุ้มๆ ดุๆ ถือว่าเงียบนะครับ ถึงมันจะไม่ได้หวานเหมือนเบนซิน แต่ไม่ครืนๆมาแบบรถกระบะแน่ๆ

แต่ถ้าขับในเมือง บอกเลยว่าเกียร์ฉลาดมาก ไม่เคยเกิน 2200 รอบเลย(ในเมือง) ไม่ได้ยินเสียงแน่นอนประหยัดจริงๆครับ ถ้าไม่ได้อัดกันแบบนี้ เสียงล้อบดถนน เสียงรถคันข้างๆดังกว่าแน่นอนครับ

ลองเอาอันนี้ไปดูละกันครับ เสียงจะทุ้มๆนุ่มๆประมาณนี้แหละครับ(ของจริงจะนุ่มกว่าหน่อย สงสัยเป็นเพราะอัดวีดีโอเสียงมันเลยแบนๆมั้งครับ)


ออฟไลน์ !note!

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 137
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 15:07:46 »
ใช้ยาวๆเบนซิน พอหมด BSI จับดมแก๊ส จบ
320d F30 ใช้งานจริงที่เคยดูในเวปบีเอ็มมันประมาณไม่เกิน 15 เองนะครับ
และคาดว่า 320i ก็คงป้วนเปี้ยนแถวๆ 10 โลลิตร
ดังนั้นดีเซลจะเสียค่าน้ำมันโลละ 2 บาท แต่เบนซินเสียโลละ 4 บาทกว่าๆ
ส่วนต่างกิโลละ 2 บาทนี่เอาไปคิดกันเองว่าคุ้มไหม
ความเห็นส่วนตัวถ้าเป็นผมจะออกรถ 320i เกรย์ไม่เอา BSI แล้วจับติดแก๊สโลด
ขอแค่ได้ส่วนต่างราคาซักสองแสนอัพก็พอไม่ต้องมานั่งคิดค่าน้ำมัน
ตั้งแต่จับ E46 ไปติดแก๊สมาแล้วติดใจจับติดแก๊สหมดแน่นอน March ของแฟนออกมาได้ 3 วันยังจับติดแก๊สเลย
คนเคยใช้แก๊สทำใจเติมน้ำมันล้วนๆไม่ได้แน่นอน  :P

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 16:29:41 »
ดีเซลยังไงก็ประหยัดกว่าครับ

แต่ลองชั่งใจดูในส่วนต่างราคา

ใช้แสนกว่าโลถึงจะคุ้ม ถ้าคิดพวกค่าน้ำมัน ในส่วนของดีเซลนะ

แต่ผมยังชอบเบนซินอยู่ เสียงเงียบ พอกดเค้นมากๆเสียงเครื่องมันชวนหลงใหลกว่าเยอะ

ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 16:30:37 »
   ใช้320i มาสองวันแล้วครับ เงียบดีกว่าซีตรองของผม วิ่งมาแล้ว220 บนโทรเวย์ตอนตีสาม ขับสนุก แต่ยังใช้ idrive ไม่เป็นครับ ตอนนี้หน้าจอมืดตึ๊ดตื๋อ ผมไม่รู้ไปกดอะไรเข้าคืนก่อนเมา :'(

    320D เคยขับมาเกือบชั่วโมง ขับสนุกพอกัน ข้างในเงียบพอกัน แต่ข้างนอกเบนซินเงียบกว่าเยอะครับ :D
สรุปผมซื้อเบนซิน เพราะเรื่องถูกกว่าสองแสนครับ  
      

อัตราเฉลี่ยตอนนี้ประมาณเท่าไรครับ เรื่องความแรงผมก็ไม่ถึงกับขับเร็วมากแต่สนใจตรงความประหยัดน่ะครับ
ถ้าได้สัก 15-16ก.ม./ลิตร สม่ำเสมอ ในกทม. ผมว่าโอเคเลยนะครับ กับการถูกกว่า 220,000 บาท แม้จะประหยัดน้อยกว่าดีเซล
แต่ทางยาว บวกลบคูณหารอย่างที่บอกอ่ะครับ อาจจะใช้ได้ไม่ถึง 8ปีครับ

รถผมออกเสาร์นี้ 320i ครับ จะไปจอง 320d อยู่แล้ว เซลส์บอก มีตัวใหม่ เบนซิน ถูกกว่า 220,000 ผมจองเลย
เพราะ option เท่ากันเป๊ะ 220,000 ต้องใช้ประมาณ 5 ปีจะคุ้มทุน ในส่วนค่าน้ำมัน
แต่ตัดสินใจง่ายเพราะ twin scroll turbo นี่แหละครับ ตอนนี้เมืองนอกเริ่มหันมาเชียร์ เบนซินมากขึ้นแล้วครับ
อีกอย่างคือเสียง เคยได้ยิน bmw e60 รุ่น lci 520d โอโห อายุแค่ 3 ปี เสียงเครื่องดังกว่ากระบะ เขาบอกว่า รุ่นใหม่จะเงียบกว่า
แต่ก็ยังไม่น่าไว้ใจ และคงไม่ค่อยเจอรถติด เพราะให้แฟนใช้ไปส่งลูกแถวบ้าน นอกเมืองครับ เข้าเมืองแค่ 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์

ส่วนเรื่องความประหยัด ผมว่านะ ค่าเฉลี่ยดูไปก็เท่านั้น เบนซินได้ เกิน 10 โลลิตร ผมก็ happy แล้วครับ

S3 - F30
X1 - E84

ออฟไลน์ osment

  • Internship
  • Sr. Member
  • *
  • กระทู้: 791
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 17:02:48 »
ถ้าเป็นผม ผมเอา 320D ดีกว่าครับ ถ้าไม่แคร์สื่อ ไม่แคร์เสียงเครื่อง ไม่แคร์ภาพลักษณ์ ผมว่าดีเซลได้เรื่องขายต่อ ความทนทานระยะยาว แรงดึง ประหยัด 
โดยส่วนตัว เรื่องค่าน้ำมันผมมองว่าถ้าส่วนต่าง 220,000 จะเก็บไว้เติมน้ำมันอย่างเดียว ต้องมีวินัยทางการเงินเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องระยะยาว
ผมขอสบายใจระยะสั้นทุกครั้งที่เติมน้ำมันดีกว่า ขอเลือก 320D ครับ

ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,672
    • อีเมล์
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 17:19:53 »
320d ครับ
ถึงราคาแพงกว่า แต่สิ่งที่ได้คือ ค่า co2 ที่ต่ำกว่า อัตราเร่งแซงดีกว่า และที่สำคัญน้ำมันที่เติม ต่อลิตร ถูกกว่า
ถ้าเทียบ v power ทั้งคู่ ถูกกว่าลิตรละ 10 บาท
Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 17:25:52 »
ส่วนตัวผมคิดว่า ส่วนต่างที่เพิ่มมา ผมว่าจะคิดแต่เรื่องค่าน้ำมันก้ไม่ถูกครับ
ต้องคิดถึงเรื่อง อัตราเร่งที่ดีกว่า และ ราคาขายต่อที่อาจจะดีกว่าในอนาคตด้วยครับ

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,721
    • อีเมล์
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 18:39:30 »
 ผมเองก็กำลังดูๆ F30 เหมือน คุณ มะเดี่ยว เลยครับ
  เพียงแต่ตัวเลือกของผมไม่ใช่ทั้ง 320i และ 320D แต่กำลังรอรุ่น F30 standard ครับ เหตุผลส่วนตัวนะครับ
     1. เรื่องราคา ผมหวังว่ารุ่น STD จะกดราคามาเหลือซัก 2.1 - 2.2 M
     2. ผมชอบ BMW Series 3 โดยเฉพาะ F30 ที่ Handling พวงมาลัยและช่วงล่างมากที่สุด ออปชั่นอื่นๆไม่อยากได้ ถ้าเลือกได้แบบการซื้อรถในต่างประเทศ ผมจะเลือกรุ่นเริ่มต้นเลยครับ
     3. F30 สามารถให้ผู้โดยสารด้านหลังนั่งได้สบายระดับนึงเลย ผมสามารถเอาไว้ต้อนรับลูกค้าได้
   
  ส่วนตัวเลือกที่ให้มา ผมกัดฟันเอา 320D ครับ เหตุผลเดียวที่ผมเลือกดีเซล เพราะผมมั่นใจว่าไม่มีรัฐบาลไหนกล้าลอยตัวน้ำมันดีเซล ดังนั้นในระยะอีก 10 ปีข้างหน้า ราคาดีเซลไม่น่าจะเกิน 35 บาท/ลิตร

ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
Re: BMW F30 320d vs 320i สำหรับค่าน้ำมัน สำหรับคนกำลังตัดสินใจ !!!
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ธันวาคม 26, 2012, 19:29:24 »
ส่วนตัวผมคิดว่า ส่วนต่างที่เพิ่มมา ผมว่าจะคิดแต่เรื่องค่าน้ำมันก้ไม่ถูกครับ
ต้องคิดถึงเรื่อง อัตราเร่งที่ดีกว่า และ ราคาขายต่อที่อาจจะดีกว่าในอนาคตด้วยครับ


ก็ถูกนะครับ แต่ที่แปลกใจ และทาง mb ก็เป็นเหมือนกันว่า 0-100 เบนซินเร็วกว่านิดนึง
คงเพราะเทอร์โบ ทำงานรอบต่ำมาก แรงบิดมาต่ำกว่า 2000 อีก น่าสนใจนะตรงนี้
ส่วนเรื่องขายต่อ หาก e90 คงไม่แปลกใจ แต่ด้วยเครื่องรุ่นใหม่ ไม่แน่นะครับว่าเบนซินราคาอาจจะไม่ตกมากกว่าก็ได้นะ (สาธุ) 555

 ::)
S3 - F30
X1 - E84