Review ติดแก๊ส Jazz ชุด EUROPEGAS S.A.S OBD เพราะอยากประหยัดหรือตามกระแสหว่า ><เนื่องจากสถานการร์น้ำมันปัจจุบันช่างผันผวนเหลือเกิน ตอนขึ้น ขึ้นทีละ 50-60 สตางค์
ตอนลงแค่ 20 สตางค์ โอ้ทำไมใจร้ายแท้ ทำกับประชาชนคนใช้รถแบบนี้ได้ไง
และไม่กี่วันต่อมาท่าน รมต. ไรไม่รู้ไม่อยากจำชื่อให้เสียอารมณ์ บอกจะยกเลิกการจดทะเบียนรถใหม่ที่คิดจะติดแก๊ส LPG อีก แต่ NGV ไม่เป็นไร แบบนี้สมควรโดนด่า แช่งชักหักกระดูกไหมนี่
เหตุผลที่ออกมาพูดแบบนี้คงมาหยั่งเสียงตอบรับก่อน ว่าใครจะด่าขนาดไหนและแล้วก็ด่ากันทั้งเมือง แหมพูดมาได้ LPG ช่วงนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย...เข้าเรื่องดีกว่า
หลังจากท่าน รมต. พูดออกข่าวมา ทำให้ผมเริ่มคิดมากและ ว่ามันจะทำจริงรึเปล่า ถ้าจริงขึ้นมาก็ซวยอีกถ้าไปติดช้า แต่ถ้าไม่จริงแค่ลองเชิง ผมติดตอนนี้ก็ดีจะได้คืนทุนเร็วหน่อย
รีบคุยกับแฟนปรึกษากันว่าซักอีก 2 เดือนจะติด ไปๆ มาๆ แฟนผมบอกติดภายในมีนาคมนี้ไปเลย
เอาก็เอาว่ะติดเลยก็ได้ รถก็ใช่งานมา 2 ปี วิ่งไป15,000 กม. ได้เนื่องจากน้ำมันแพงไม่ค่อยอยากไปไหน ตอนนี้ติดแก๊สแล้วคงได้พากันไปเที่ยวเหนือเที่ยวใต้กะเขามั่ง ประกงประกันไม่สนล่ะ
ที่เหลือคือเลือกร้าน จริงๆ โปรเจคติดแก๊สคิดมาเกือบปีแล้ว หาข้อมูลมาก็มากเพิ่งจะได้ติดเนี่ยแหละ
อ่านข้อมูลในเน็ตว่าร้านไหนเป็นยังไง สุดท้ายเลือกร้านพี่เจ เพราะไม่ไกลจากบ้านเท่าไร (เกือบ 20 กม.) ได้ไปอ่านข้อมูลที่พี่เจตอบไว้ในเวปของร้านพี่เจแกคอยตอบคอยช่วยเหลือคนอื่นตลอดและบริการหลังการติดตั้งที่ฟีดแบคดีเลยตกลงกับร้านนี้ครับ
ผมไม่ได้ชี้นำให้คนที่คิดจะติดต้องติดแก๊สร้านเดียวกับผม เพราะผมคิดว่าร้านอื่นดีๆ ยังมีอีกหลายร้าน แต่ที่เลือกที่นี่เพราะเหตุผลข้างบนและมั่นใจร้านนี้ครับและมารีวิวให้ดูกันเพื่อเพิ่มทางเลือกสำหรับคนที่คิดจะติดนั่นเองชุดที่ติดเป็น EUROPEGAS S.A.S OBD ซึ่งเป็นยี่ห้อหลักของทางร้าน
อุปกรณ์ในชุดประกอบด้วย
หม้อต้ม MAGIC III GOLD 250HP
ถังโดนัท luckmetal work
มัลติวาล์ว OMB/tomasetto italy
พร้อมเอกสารใบรับรอง
รับประกันอุปกรณ์ 2 ปี
ประกันอัคคีภัย 1,000,000 บาท
ประกันเครื่อยนต์ 100,000 บาท
ตอนหลังนี้ทางร้านรับติดยี่ห้อ AC ด้วยถ้าลูกค้าต้องการ
ตอนนี้ร้านแกคิดระบบจ่ายแก๊สเข้ารางหัวฉีด 2 ทางขึ้นมา เพื่อให้สามารถจ่ายแก๊สเข้ารางหัวฉีดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดอาการวาล์วยันเร็ว ให้อัตราการเร่งเหมือนน้ำมันครับ แต่หม้อต้มที่ทำได้ก็จะมี MAGIC III GOLD ที่อยู่ในชุด รุ่นเก่าสีเงินก็ทำได้ หม้อต้ม KME และอีก 2-3 รุ่นผมจำไม่ได้และอ่านผ่านๆ มา
อันนี้ยกมาจากทางร้านนะครับ
จ่ายเข้า ทั้ง รางหัวฉีดทั้งสองด้าน ทำให้ แรงดันที่รางหัวฉีด นิ่ง การตอบสนองการขับขี่ จะไกล้ เคียง กับ วิ่งน้ำมันมากขึ้น
เหตุผล
น้ำมันในท่อน้ำมันเบนซิน ที่ปั้มติก ที่ถัง ส่งมาที่รางหัวฉีด แรงดันน้ำมันที่จ่ายมา ค่อนข้างนิ่ง ไม่มีการขยับตัว หรือ เปลี่ยนแปลงแรงดันเลย น้ำมันเลยทำอัตราเร่งได้ดี ทั้งต้น ทั้งปลาย
สำหรับ ระบบแก๊ส lpgจะมีหม้อต้ม
หม้อต้ม ทำหน้าที่เปลี่ยน สถานะของแก๊ส lpg จากในถังแก๊ส ที่เป็น ของเหลว ให้เปลี่ยนเป็นไอ โดยหม้อต้ม
ดังนั้น หม้อต้ม มีสอง หน้าที่คือ
1. ลดแรงดันแก๊ส จาก ถัง แก๊ส ที่มีแรงดันประมาณ 180 psi. ให้เหลือแรงดัน 21.75 psi หรือ ประมาณ 1.5 bar.
2. เปลี่ยนสถานะของแก๊ส จาก น้ำแก๊สเป็นไอแก๊ส ซึ่งต้องใช้ความร้อน
ซึ่งจาก กระบวนการดังกล่าว หากเครื่องยนต์ ต้องการ เชือ้เพลิงอย่างเร็ว อาจทำให้แรงดันในการจ่ายตกลง หรือ จ่ายไม่พอได้
การเพิ่มปริมาณการจ่าย ดังกล่าว ทำให้มีแก๊ส สะสมในท่อ พร้อมสำหรับการใช้งานแบบทันท่วงที ซึ่งจะทำให้แรงดันนิ่ง และจะให้อัตราเร่ง ไกล้เคียงกับ ระบบน้ำมันมากขึ้น
การจ่ายแก๊สเข้าทางหัวฉีด 2 ทางผมคิดว่ายังไงก็ดีกว่าทางเดียวครับพอเลือกร้านได้แล้วก็นัดเวลาติด จริงๆ ตั้งใจติดเสาร์ที่ 2 มีนาคม แต่คิวเต็มเลยเลื่อนมาศุกร์ที่ 1 มีนาคมแทน แต่ก็ดีเพราะคิววันธรรมดาจะไม่แน่นเหมือนวันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์ร้านปิดครับ
ไปถึงร้าน 8.45 น เพราะต้องไปส่งแฟนที่สะพานควายก่อน พอส่งแฟนเสร็จก็ตั้ง GPS เบิ่งไปร้านพี่เจเลย ร้านอยู่ถนนเส้นแจ้งวัฒนะ เลยเมืองทองมานิดหนึ่ง อยู่ในปั้มแก๊สสยามแก๊สข้างในเลย มีป้ายบอก
เริ่มกันเลย.....รูปถ่ายจากโทรศัพท์มือถือนะครับ แสงอาจจะไม่ได้ทำให้บางภาพาจจะไม่ชัดมากนัก
ไปถึงก็มี CRV G2 กำลังถูกรื้ออยู่ 1 คัน ผมเป็นคันที่ 2และรถผมถูกเปิดฝากระโปรงระบายความร้อนห้องเครื่องก่อน เนื่องจากเดี๋ยวช่างต้องมารื้อนั่นเอง ร้อนๆ นี่มือพองแน่
ถ่ายไว้หน่อยเป็นอนุสรณ์ ก่อนที่ห้องเครื่องจะโดนปู้ยี้ปู้ยำนั่นเอง T T
พอเครื่องเริ่มเย็นก็ขับเข้ามาที่ลิฟท์สำหรับยกรถเตรียมขึ้นเขียงครับ
มาดูชุดอุปกรณ์ในกัน ถูกจัดมาเป็นชุดใส่กล่องมาเลยครับ
อันนี้ชุดสายไฟ ต้องร้อยชุดสายผ่านหน้าเครื่องเข้ามาข้างในรถ ซึ่ง ECU Gas จะถูกเก็บไว้ใต้คอนโซลรถฝั่งคนขับครับ
พอรถถูกยกขึ้นช่างที่ทำหน้าที่ติดท่อทองแดงสำหรับเติมแก๊สก็จัดการนำสายทองแดงมาเดินใต้ท้องรถตามแนวท่อเดิมโดยใช้สกรูเกลี่ยวปล่อยเจาะยึดกิ๊บเข้ากับท่อทองแดงไปตามแนวเดิมของรถครับ
สังเกตท่อนี่แข็งมากครับ ผมดูความหนาที่ใช้ได้เลย จับดัดค่อนข้างยากอยู่
พร้อมทั้งเดินสายไฟติ๊กถังแก๊สด้านท้ายด้วย
พอเดินท่อทองแดงเสร็จ ก็เอารถลงมาเพื่อจะได้เจาะตัวถังในหลุมยางอะไหร่ทำรูระบายแก๊สและยึดถังแก๊สในรูปเป็นหลุมยางอะไรที่ยังไม่ถูกเจาะ
วัดขนาดแล้วตัดที่รองถังแก๊สกันกระแทกและเกิดเสียงได้ตามรูป
ต่อมาช่างจะทำการวัดและเจาะรูเพื่อวางถังโดนัท ซึ่งถังแก๊สแบบโดนัทผมเลือกขนาด 33 ลิตร เพราะว่าไม่อยากให้ท้ายห้อย จะได้ไม่ต้องไปทำอะไรกับชวงล่าง อยากขับเดิมๆ ไม่อยากใส่สเปเซอร์รองสปริงหลัง และจากการหาข้อมูลมา ถัง 33 ลิตรรวมน้ำแก๊สด้านท้ายจะลดลงไม่เกิน 1 เซนติเมตรครับ
รถจะถูกเจาะทั้งหมด3 รู คือ รูใหญ่เจาะด้วยสว่านนำก่อนแล้วตามด้วยโฮลซอว์เพื่อเป็นรูระบายแก๊สกรณีแก๊สรั่ว อีก 2 รูไว้สำหรับยึดถังแก๊สนั่นเอง พอยึดถังแก๊สเรียบร้อยแล้ว ช่างก็ทำการติดตั้งวาล์วต่อเลย
ถังโดนัททางร้านเลือกยี่ห้อ LMW คือถังไทย ทำในไทยเนี่ยแหละครับ
ได้มารตฐานเหมือนกัน อันนี้ข้อมูลบริษัทผู้ผลิตนะ
http://www.lmw.co.thอันนี้พาไปชมโรงงานผลิต
http://www.gasthai.com/boardgas/question.asp?id=50278ถังโดนัทถ้าจะเอาดีกว่านี้คงต้องของ Magnate ดีจริงแต่ราคาคงสูงขึ้นอย่างแน่นอน
รูปนี้เป็นแผ่นป้ายรายละเอียดบนถังแก๊สครับ จะบอกความจุ น้ำหนัก วันที่ทดสอบ และ Number ของถัง
ในระหว่างที่ด้านหลังกำลังเจาะรูยึดถังด้านหน้าช่างอีกคนก็ทำการรื้อห้องเครื่องยนต์พร้อมกันไปเลย คือที่ร้านมีช่างอยู่ 5-6 คน จะมีหน้าที่ของตัวเองว่าจะทำอะไรส่วนไหนของรถครับ ช่างค่อยๆ รื้อออกมาทำละชิ้น...เริ่มหวาดเสียงและทำใจยังไม่ค่อยได้
พอเอากรองอากาศออกแล้วช่างอีกคนก็ทำการเอาชุดสายไฟร้อยจากข้างในรถออกมาหน้าเครื่องต่อเลยและทำการตัดต่อ จั๊มสายภายในรถเข้ากล่อง ECU Gas ครับ
ส่วนข้างหน้าก็รื้อต่อไปเอาท่อ ID ถอดไปเจาะตาปเกลียวฝังน็อตเซิลจ่ายแก๊ส...หวาดเสียว
คนหนึ่งคนเอาท่อ ID ไปเจาะอยู่ อีกคนก็ทำการยึดหม้อต้มแก๊สติดกับตัวรถ...นู้นเลยผนังในสุดหลังกรองอากาศครับ ฉะนั้นถ้าทำอะไรกับหม้อต้มก็ต้องรื้อชุดกรองอากาศออกมาก่อน
มาดูรูปหม้อต้ม MAGIC III แบบชัดๆ จะเห็นช่องจ่ายแก๊ส 2 ทาง อันหนึ่งสีเงิน อันหนึ่งสีทองครับ
เริ่มประกอบกลับใกล้เสร็จแล้ว ในรูปคือกำลังวัดตำแหน่งที่ยึดรางหัวฉีดครับ
ประกอบรางหัวฉีดเรียบร้อย ที่สายไฟต่อเข้าหัวฉีดจะติดเบอร์ของหัวฉีดแต่ละอันไว้ด้วยครับ
มาดูใกล้ๆที่รางหัวฉีดทั้ง 2 ข้างซ้าย-ขวาต่อเข้ากับช่องจ่ายแก๊สจากหม้อต้มโดยผ่านกรองแก๊สก่อนครับ กรองแก๊สนี่ปกติต้องเปลี่ยนที่ 30,000 กม. อันละกี่ร้อยไม่แน่ใจ แต่การจ่ายแก๊สเข้ารางหัวฉีด 2 ทาง ต้องใช้กรองแก๊ส 2 ตัว พี่เจบอกว่าให้เปลี่ยนที่ 50,000 กม. ได้เลย กรองแก๊สถูกหุ้มด้วยยางในรถจักรยานยนต์เพื่อกันการเกิดเสียงเวลาวิ่งครับ และท่อเดินแก๊สถูกหุ้มด้วย ท่อถักอีกทีหนึ่งป้องกันการเสียดสี
เป็นอันเสร็จขั้นตอนการติดตั้งแก๊สทั้งหมด ที่เหลือคือการปรับจูนแก๊ส โดยเอารถออกไปวิ่งจริง ผมทดสอบบนทางด่วนแจ้งวัฒนะ ซึ่งยาวมากเพียงพอต่อการวิ่งเก็บ Map น้ำมันและปรับจูนแก๊ส ซึ่งชุดที่ผมติดเป็นระบบ OBD สามารถปรับจูนแก๊สให้อัตโนมัติตลอดเวลาครับ แต่ในการจูนเราสามารถปรับตั้งการจ่ายแก๊สเพิ่มหรือลดก็ได้ เวลาใช้งาน ECU Gas จะทำการประมวลผลและปรับอัตราการจ่ายแก๊สให้อยู่ในย่านที่เรากำหนดไว้นั่นเอง ซึ่งฮอนด้ารุ่นใหม่ๆ เครื่องยนต์ถูกออกแบบให้สามารถจ่ายน้ำมันบางลงได้กรณีเราขับรถด้วยความเร็วคงที่ ซึ่งผมก็สังเกตเวลาใช้น้ำมัน ถ้าวิ่งยาวๆ 90-110 นี่ประหยัดมาก 16-17 กม./ลิตร ได้เลย แต่วิ่งในเมืองนี่ 10 กม./ลิตรก็หรูแล้ว
ในการปรับจูนแก๊ส LPG เราอย่าจูนให้แก๊สจ่ายเท่าน้ำมันในช่วงที่จ่ายบางครับ ใช้ไปนานๆ เข้าวาล์วยันเร็วแน่ๆ ให้ปรับจูนให้จ่ายแก๊สเพียงพอต่อกำลังที่รถต้องการเพื่ออัตราเร่งที่ดีและเครื่องจะสึกหรอน้อยลงครับผลที่ได้อีกอย่างหนึ่งคืออุณหภูมิห้องเครื่องยนต์จะไม่ร้อนมากด้วย
ผมวิ่งเก็บ Map บนทางด่วนกับพี่เจ 2 คน คอยให้ผมใช้ความเร็วตามที่แกบอกครับ ขับธรรมดา คลิกดาวน์ และขับแบบใช้ความเร็ว ผมใช้ความเร็วสูงสุดที่กล้าเหยียบมากสุด 160 กม./ชม. เกิดมาไม่เคยเหยียบเท่านี้มาก่อนเลย...เสียว ปกติผมใช้ความเร็วเดินทางแค่100-120 กม./ชม. เอง
หลังจากวิ่งจูนจนเสร็จผลเป็นที่น่าพอใจครับ เครื่องเดินเรียบ นิ่ง ไม่มีสะดุดหรือสะอึก อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นอยู่ที่ประมาณ 84 องศาเท่าๆ กับการใช้น้ำมันครับ เพราะคอยดูตลอดตอนจูนแก๊ส พูดง่ายๆเหมือนเราใช้น้ำมันนั่นแหละ....จบ
ต่อมาสิ่งที่ผมกังวลก่อนติดแก๊สคือ...ท้ายมันจะห้อยไหมเนี่ย ไม่อยากให้มันห้อยครับ
ก่อนติดแก๊สผมวัดความสูงจากพื้นถึงขอบซุ้มล้อหลังไว้ทั้งขวา-ซ้าย
ข้างขวาได้ 64.5 ซม. ข้างซ้ายได้ 64.7 ซม.
หลังติดแก๊ส+น้ำแก๊สเต็มถัง (เติมตอนออกจากร้านทันทีแล้ววิ่งกลับบ้านมาประมาณ 17 กม. ได้)
ข้างขวาได้ 64.6 ซม. ข้างซ้ายได้ 64.8 ซม.
ผมก็งง...ทำไมมันสูงกว่าเดิม 1 มม. หว่า เอ้าดีแล้วท้ายไม่ห้อยจะได้ไม่ต้องไปเสียเงินแก้ไข
เหตุผลของผมให้สำหรับคนที่ชั่งใจว่าจะติดแก๊สดีหรือไม่
1.ถ้าจะติดแก๊สผมมองว่าถ้าใช้เงินเติมน้ำมันเดือนละ 3,000 บาทขึ้น และท่านไม่สามารถวิ่งนอกเส้นทางประจำได้บ่อยนักเนื่องจากทนภาระค่าน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นไม่ไหว
2.อยากไปเที่ยวไกลๆ มีเวลาพาครอบครับไปเที่ยวพักผ่อนหาความสุขในชีวิต โดยไม่ต้องกังวลกับค่าน้ำมันแพงๆ สมมติไปกลับภูเก็ต 2,000 กม. ท่านต้องใช้เงินเติมน้ำมัน (E20 คิดที่ 14 กม./ลิตร) ขั้นต่ำก็ 5,000 บาทไม่รวมออกนอกเส้นทางแวะนู่นนี่นั่น ถ้าเป็นแก๊สก็ 2,000 กว่าบาท
3.อยากใช้รถให้คุ้มค่า ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้ว วิ่งน้อยเพราะกลัวเปรืองน้ำมันอันนี้ไม่คุ้มที่จะซื้อมาครับ แบบผมเลยต้องติดแก๊สเอาไว้วิ่งให้คุ้มหน่อยคันนึงไม่ใช่ถูกๆ เอามาใช้งานบ้าง
4.ลดค่าใช้จ่ายจากการเติมน้ำมัน แต่ส่วนใหญ่แรกๆ คนก็คิดแบบนี้ สุดท้ายวิ่งกันแหลกเพราะแก๊สถูก อยากไปไหนก็ได้ไป ไม่ต้องคิดมาก
5.ไม่รู้นโยบายยกเลิกจดทะเบียนแก๊สจะจริงหรือไม่ในอนาคตผมไม่ทราบ แต่ติดตอนนี้มันยังไม่ห้ามนิ จะเหลือรึติดเลยดีกว่าเมื่ออ่านบทความของผมแล้วก็ลองดูเป็นข้อมูลสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจคิดจะติดแก๊สนะครับ ผิดพลาดยังไงผมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว เพราะที่เขียนมานี้เป็นความเข้าใจของผมเองคนเดียว ข้อมูลก็อ่านๆ มารู้บ้าง ไม่รู้บ้าง แต่ก็อยากแชร์เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นบ้างเมื่อมีโอกาสครับ
เมื่อท่านตัดสินใจไปติดแก๊สแล้วก็หมั่นดูแลรถของท่านบ่อยขึ้นกว่าเดิมซักหน่อย ปกติแล้วผมจะเปิดฝากระโปรงหน้าเช็คน้ำมันเครื่อง น้ำในหม้อพัก แค่เดือนละครั้ง ติดแก๊สแล้วก็ดูให้บ่อยกว่าปกติซักหน่อยสัปดาห์ละวันก็ยังดี เพื่อเช็คความพร้อมของตัวรถ จุดไหนมีปัญหาจะได้แก้ไขได้ทันแต่เนิ่นๆ
ถ้าการใช้แก๊สผิดปกติก็ปิดระบบไปใช้น้ำมันก่อนแล้วรีบเอาไปให้ช่างตรวจเช็คแก้ไขทันที อย่าทนใช้เพราะเมื่อมีเหตุการไม่คาดคิด...เดี๋ยวจะมาโทษว่าเป็นที่ LPG อีกนะเออ
บทความนี้ไม่หวงหากใครจะเอาไปใช้...แต่กรุณาอย่าอ้างว่าเป็นของท่าน
และกรุณาให้เครดิตกันด้วย...จบซักที T T"