ผู้เขียน หัวข้อ: ผมเจอ "แมวผี" วิ่งตัดหน้ารถ ก่อนเกิดเหตุไม่คาดฝัน..  (อ่าน 41677 ครั้ง)

ออฟไลน์ babynew

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 94
    • อีเมล์
โชคดีที่ไม่เป็นไรครับ แต่ เป็นไปได้ไหมว่า

แมวดำ ตัวนั้นมาช่วย เพราะถ้าจะมาทำอะไรมันก็น่าจะเกิดเหตุตรงนั้นแล้ว

พอเจอแมวดำทำให้คุณระวังขึ้น มีสติมากขึ้น

แท่งปูน เป็นไปได้ไหมครับว่า มีพวกขยะสังคมเหมือยแก๊งปาหิน

โยนออกมาเพื่อทำให้รถเสียหลัก แต่คุณตัดสินใจชน เล่นผิดแผนพอคุณเลยไปมันก็รีบมาเก็บออก

พอกลับไปดูเลยไม่เกินอะไร ....

ออฟไลน์ THUIO

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 280
    • อีเมล์
โชคดีแล้วครับที่ไม่เป็นอะไร เดินทางปลอดภัยนะครับ ใช้สติมากๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 08, 2013, 14:36:48 โดย THUIO »

ออฟไลน์ -Anonymous-

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,428
  • Catch me if you can !!!
ของผมน่ากลัวกว่ามากกกกก.....

เริ่มเลยละกัน กลางดึกบนทางหลวงไปต่างจังหวัดเส้นหนึ่ง ท้องฟ้ามืดครึ้ม ถึงแม้จะเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงก็ตาม
เวลานั้นประมาณตี 1 สองข้างทางมืด เงียบสงัด ปราศจากรถราและไม่มีบ้านคนอยู่อาศัยเลยแม้ซักหลังเดียว มีเพียง
รถผมที่พุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วพอประมาณและแน่นอนผมเลือกที่จะวิ่งขวายาวเพราะมองไปทางไหนก็มีเพียง
แต่รถผมคันเดียวเท่านั้น จะมีรถสวนมาบ้างแต่ก็น้อยมาก บรรยากาศมันชวนให้น่ากลัวราวกับขับรถอยู่กลางสุสานหรือป่าช้าดีๆ
ในรถมีเพียงผมและเสียงเพลงแจ๊สเบาๆ ขับกล่อมให้ชวนน่าหลับในยิ่งนัก(แล้วจะฟังทำแมวอะไร) ขับรถไปพลางก็นึกถึงเรื่อง
ขนหัวลุกที่เราเคยได้ยินมาเกี่ยวกับวิญญาณภูตผี ผีตายโหงตามท้องถนน และที่น่าแปลกคือทำไมผมมองเห็นศาลเพียงตาเยอะมาก
บนถนนเส้นนี้ ยิ่งทำให้บรรยากาศทวีความน่ากลัวขึ้นไปอีก ผมไม่มีทางเลือกที่จะต้องเหยียบคันเร่งให้ลึกขึ้น เพื่อจะได้หลุดพ้นบรรยากาศ
อันน่าขนพองสยองเกล้านี้ให้ไวที่สุด และอยากถึงที่หมายให้เร็วขึ้น ในใจคิดแต่ว่าเมื่อไรจะถึงซักที มันช่างนานอะไรเช่นนี้     ทันใดนั้นผมสังเกต
เห็นเงาดำๆคล้ายมนุษย์อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเท่าไรนัก ผมเลยเปิดไฟสูงใส่เพื่อให้แน่ใจว่าเงาดำทมึนที่อยู่ด้านหน้าเป็นอะไรกันแน่ ยังไม่ทัน
ที่ผมจะแน่ใจว่ามันเป็นอะไรกันแน่ ทันใดนั้นก็มีดวงไฟสว่างวาบบบบบบบขึ้นมา 2 ดวงพร้อมกันและมันได้วิ่งเข้าใส่รถผมทั้ง 2 ดวง
ด้วยสันชาตญาณผมหักรถออกเลนซ้ายทันที และพร้อมแตะเบรคถ้าไอ้ดวงไฟ 2 ลูกนั้นมันยังวิ่งเข้าหาผม และใช่อย่างที่คิดไว้จริงๆมันวิ่งเข้าหารถ
ผมโดยที่ไม่ได้กลัวเลยว่ารถผมจะชนมันหรือไม่ ผมตัดสินใจแตะเบรคอย่างแรง รับรู้ได้ว่า ABS ทำงานทันที   
สุดท้ายรถผมก็หยุดลงพร้อมกับเห็นดวงไฟ 2 ดวงมาหยุดจังก้าตรงหน้ารถผม ใจผมเต้นระรัวราวกับกลองศึก ทันใดนั้นดวงไฟ 1 ใน 2 ดวงก็ได้เคลื่อนที่มาหาผมตรงหน้าต่างคนขับและปรากฎเสียงประหลาดดังขึ้นว่า "ขอโทษครับ จะไปไหนครับ ขออนุญาตนิดนึงนะครับ"
ปรากฎว่าเป็นนายดาบทางหลวง 2 คนจอดรถทางหลวงซุ่มไว้ตรงU-turn ไฟไม่เปิด มีเพียงกระบอกไฟฉายอันเท่าบ้องข้าวหลาม 2 กระบอกคอยส่งสัญญาณปัญญาอ่อนให้คนขับรถทราบเท่านั้น
หลังจากถามโน่นนี่นั่นเสร็จผมเลยจัดชุดใหญ่ไป 1 ชุด สรุปใจความได้ว่า ถ้าคุณไม่รักตัวเองก็หัดคิดถึงคนที่รอคุณดาบทั้ง 2 อยู่ที่บ้านบ้าง เล่นวิ่งเข้าใส่รถที่
วิ่งมาด้วยความเร็วสูงขนาดนี้ถ้าเบรคไม่ทันก็คงตายไม่ก็พิการละมั้ง ทำเหมือนกับว่าทำแบบนี้แล้วจะได้ติดดาวบนบ่าได้ไวขึ้นละมั้ง เป็นไงครับเรื่องของผมน่ากลัวไหม :D

 
   
อันนี้ของจริงครับเจอบ่อย ผมตัวแข็งเลย ไม่หันไปมอง เค้าก็ไม่เรียกผม ถ้าเรียกต้องเสียเงินแน่เลย น่ากลัวจริงๆ

ออฟไลน์ JIRATH

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,782
    • อีเมล์
น่ากลัวจริงๆครับแต่ละเรื่อง
2008 Mazda CX-9 (SOLD)
2008 BMW X5 3.0si E70 (SOLD)
2010 Volkswagen CC R-Line (SOLD)
2014 Subaru BRZ Limited (SOLD)
2016 Subaru STi (SOLD)
2016 Honda Accord Sport
2016 BMW 328d F31 Xdrive
2015 Lexus CT200h F-Sport
2006 BMW 330i E90 6M/T

ออฟไลน์ TDCI

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 397
ขอเป็นวิทยาศาสตร์นะครับ

" รถชนหลักปูนเสียงยางระเบิดดังลั่น และรถก็ค่อยๆเซซ้าย
จนจอดสนิดไหล่ทางพอดี ห่างจุดชนไม่เกิน 30 เมตร"

ถ้าบรรยายมาแบบนี้ ผมเข้าใจว่าพุ่งชนด้านหน้าเต็มๆ

ถ้าชนจนล้อแตกแสดงว่า หน้าต้องยุบ หม้อน้ำต้องแตก

แต่ถ้าชนเฉพาะแก้มข้า่งใดข้างหนึ่ง แก้มข้างนั้นก็ยุบมา
ถึงล้อ และล้อแตก

ในกรณีชนหน้าตรง ถ้าล้อแตกอย่างเดียว ก็แสดงว่าวัตถุที่ชน
เตี้ยกว่ากันชนหน้า
 
ช่วงที่ชนมาด้วยความเร็ว 60 กม./ชม.
ระยะแตะเบรกแล้วชน แค่ 10 เมตร

ถ้าเป็นหลักกิโล หม้อน้ำแตกแน่นอน
ถ้าเป็นก้อนหินที่สูงไม่เกิน กันชนหน้า
เป็๋นไปได้่ว่าล้อแตก หรือไม่ก็เหยียบแล้วรถกระโดด

อีกกรณีคือเรื่องภาวะจิต  ผมไม่ต้องย้อนไปที่แมวดำนะครัีบ

เป็นไปได้ว่าหลักกิโลเป็นภาพลวงตา  แล้วเบรกรถกระทันหัน
รถเซแล้วล้อเกิดไปเบียดกับวัตถุอื่นๆเข้า  เช่นฟุตบาท ฯลฯ
แบบนี้ก็แตกได้เหมือนกัน






ออฟไลน์ Nyquist

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,031
เรื่องแบบนี้ผมก็เชื่อ 100% ครับ

ก่อนหน้านี้ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

แต่พอเจอกับตัว ตอนนี้เชื่อสนิทใจ แม้แต่พระผีก็ยังมาหลอกได้

และเชื่อว่าสิ่งที่คนโบราณพูดๆกันนั้นมีจริงทุกอย่างครับ

หมั่นทำบุญและทำดีกันไว้

ออฟไลน์ tosa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 353
ไสยศาสตร์ พิสูจน์ได้ก็กลายมาเป็นวิทยาศาสตร์ ถ้าวิทยาศาสตร์มาหักล้างไม่ได้มันก็ยังเป็นไสยศาสตร์อยู่  เชื่อได้แต่อย่างมงายละกัน ผมเชื่อเวรกรรมนะ

ออฟไลน์ hellbz

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 57
    • อีเมล์
ส่วนตัวผมไม่เชื่อครับ ขนาดเจอศพมาเยอะ ยังไม่เคยเจอเลย

ปล. เคยวิ่งไปถีบเสื้อที่แขวนไว้เพราะนึกว่าเป็นผีหัวขาด ความมืด+จินตนาการนี่ทำให้เราเพี้ยนได้จริงๆ  :D :D

ออฟไลน์ TDCI

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 397
ผมนึกถึงหนังเรื่องนี้ A Beautiful Mind  คืนนี้กลับไปดูอีกเที่ยว

ออฟไลน์ banch

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,214
ผมเกิดมา 30 กว่าปี มากพอที่จะสรุปเรื่องราวต่างๆ ทั้งใกล้และไกลตัว ได้ประมาณหนึ่ง

ผมไม่เชื่อเรื่องแบบนี้นะ

สิ่งมีชีวิตเกิดมาก็ตายไป เผาก็ได้คาร์บอน ฝังก็ได้ปุ๋ย

ไม่อย่างงั้นคงมีผีแมว ผีหมา ผียุง ผีแมลงวัน วุ่นวายกันไปหมด

ผี สาง เทวดา พระเจ้า นรก สวรรค์ ชาติภพ บาป บุญ

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ปกครองคนหมู่มากในยุคที่ยังไม่มีกฏหมายใช้

แต่ปัญหาของเรื่องนี้คือ คนสองคนเห็นเหมือนกันนี่ซิ

ผมไม่อาจรู้ได้ว่าเห็นทั้งคู่ หรือ เห็นคนเดียวอีกคนหลับอยู แล้วสะดุ้งตื่นมา อีกคนเล่าให้ฟังก็เออๆออๆตามกันไป

ในภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น สมองเรามันสามารถเกิดภาพหลอนและเสียงหลอนได้นะ

ผมเนี่ยถ้านอนดึกๆ ติดต่อกัน และนอนด้วยท่าที่ฟาดแขนเหยยดยาวหัวตัวเองไปเนี่ย

รับรองได้เลยว่า อาการผีอำมาแน่ๆ

ผมลองมาหลายครั้งแล้ว มาเกือบทุกครั้งที่นอนดึกและนอนด้วยท่านี้

เริ่มจากขยับตัวไม่ได้

และเริ่มเห็นเงาของแสงไฟถนนที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบผาผนัง มันบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูปร่างได้

ได้ยินเสียงหายใจตัวเองอยู่ข้างๆหู

ผมก็ปล่อยมันแล้วก็หลับต่อ

ผมว่าคำพูดที่ว่า "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่" มันเป็นการปิดกั้นความคิดเห็นและทำลายจินตนาการอย่างมาก

จริงๆแล้วมันควรจะเป็น "ไม่เชื่อ ต้องพิสูจน์" มากกว่านะ


ผมตั้งใจเอาไว้ว่า ถ้าเจอจะๆ ผมจะถามก่อนเลยว่า"ผีจริงๆใช่ไหม?" เพราะผมกลัวโดนข้อหาฆ่าคนตาย

ออฟไลน์ holahola66

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,795
    • อีเมล์
คนมันจะเห็นมันก็ต้องเห็น
บางคนอยากเห็นแต่ไม่มีทางเห็น อาจจะบุญน้อย , จิตแข็ง อะไรก็ว่ากันไป
ส่วนผมเห็นว่าอาจจะเป็นสัตว์เจ้าที่
เคยได้ยินไหมสัตว์เจ้าที่จะตัวใหญ่หรือดุร้ายกว่าตัวอื่นๆ อย่างที่เขาแถวบ้านผมมีงูจงอาง ยาวเกือบ 10 เมตร ลำตัวเท่าเสาไฟ ชาวบ้านที่ไปพบเจอบอกว่าแผ่แม่เบี้ยได้สูงกว่าคนอีก แต่ก็ไม่มีใครเคยถูกทำร้าย

บางทีเค้าอาจจะมาเตือนคุณ

ส่วนผมเคยเห็นตอนเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่งแถวชลบุรี ก่อนสอบ ๑ วัน นัดติวกับเพื่อน จนถึงตีสองครึ่ง ตอนกำลังแว๊นกลับหอ
มาถึงแยกหนึ่ง ซึ่งผมต้องตรงข้ามแยกไปเพื่อเข้าหอ เป็นถนน สี่เลนมีเกาะกลาง ซึ่งเด็กมหาลัยแถวนั้นรู้ดีว่า มีคนขายโจ๊ก ถูกรถชนแล้วหัวไปอัดกับขอบฟุตบาทเกาะกลางถนน
หัวขาดไม่สนิท และตายคาที่

พอมาถึงแยกผมมองเห็นผู้ชายยืนอยู่กลางแยกเลยแต่ด้วยความที่ อีหนูดำ ผมมันเก่ามากไฟหน้าไม่ค่อยสว่าง ผมก็นึกในใจว่า เค้ามายืนทำไรตีสามตรงนี้วะ
ด้วยความที่ผมไม่เคยเจอ สิ่งที่เรียกว่า ผี ผมเลยไม่เอะใจขับไปตรงเกาะกลางเพื่อจะเช็ครถก่อนจะข้ามแยกไป

พอผมขับไปใกล้ๆเท่านั้นแหละชัดเลยครับ คนขายโจ๊กกันกับที่เล่าๆกันมาเลย ยืนเลือดโชกตั้งแต่หัวลงมาถึงตรงคอ
แต่ด้วยความที่ผมไม่กลัวผี และพึ่งจะเคยเจอ ผมเลยใจแข็งแว๊นข้ามแยกไปแบบเกร็งๆขนลุกๆ

พอเช้าผมตื่น ผมเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่าผมเบลอรึป่าว อาจจะง่วงจัดก็ได้ จากนั้นก็เข้าห้องสอบกัน
ซึ่งวิชานี้ผมโปรมากบอกตรงๆ ผมทำข้อสอบเสร็จในเวลาไม่ถึงช่วโมง เมื่อทำเสร็จก็ส่งไม่ได้เพราะเวลายังไม่ครบเลยนอนหลับไปแปปนึง
ปรากฏว่าผมหลับยาวไปเลยจนเกือบหมดเวลาสอบ เพื่อนผมข้างๆสะกิดแล้วบอกว่า "เห้ยๆ ทำไมมึงไม่ทำข้อสอบวะ"
ผมก็บอกสวนไปเลยว่า "กูทำเสร็จเป็นชั่วโมงละ" เพื่อนบอก "มึงทำห่าไรโล่งเลย"

ผมก็มองข้อสอบแล้วก็ตกใจสุดๆ ขอสอบผมแม่งโล่ง งงแดก เห้ยนี่มันอะไรกัน ทำข้อสอบเสร็จคนแรกด้วยซ้ำ
ด้วยความที่ผมยังเหลือเวลาสอบไม่กี่นาที ผมจำใจต้องเขียนมั่วทุกข้อแล้วก็ส่งอาจาร

พอเดินออกมาข้างนอกเพื่อนทักเลยว่า "มึงโดนผีอำกลางวันแสกกๆ กูว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแล้วล่ะ"
ผมเลยโทรไปหาแม่ แม่เลลยถามกลับมาว่า เค้าไม่ได้ทำอะไรผมใช่มั้ย ผมก็ อือๆ แม่ก็เลยบอกให้ผมไปทำบุญกรวดน้ำให้

ผมก็ทำตามคำแนะนำแม่ พอทำบุญเสร็จก็มานั่งเครียดเรื่องข้อสอบ ว่าต้องตกแน่ๆ ก็ทำใจไว้ละว่าจะลงใหม่อัดไปปีหน้า

แต่พอถึงวันประกาศผลสอบ มันกลับกลายเป็นว่า ผมได้คะแนนเกกือบเต็ม ทั้งๆที่ผมเขียนมั่ว เพื่อให้ทันเวลาส่งอาจาร
แต่กลับกลายเป็นว่าผมได้ท๊อปในวิชานี้เลย
เรื่องนี้เลยกลายเป็นประสบการณ์ผีๆครั้งแรกของผมที่ไม่มีวันลืมเลย ทั้งเพื่อนรอบๆข้างทั้งผม จำกันขึ้นใจ


นั้งกินเบียร์ยุ ขนลุกเลย
Mercedes C-Class W205 CDI
BMW 116i f20
Honda Civic EG 3door D16a turbo MT
Nissan March 1.2 cvt

ออฟไลน์ nok

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 418
    • อีเมล์
ว๊ายๆๆๆ ขนลุกไปหมดแล้ว จะหลับได้ไหมเนี้ย

ออฟไลน์ Intrend

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
ผมเกิดมา 30 กว่าปี มากพอที่จะสรุปเรื่องราวต่างๆ ทั้งใกล้และไกลตัว ได้ประมาณหนึ่ง

ผมไม่เชื่อเรื่องแบบนี้นะ

สิ่งมีชีวิตเกิดมาก็ตายไป เผาก็ได้คาร์บอน ฝังก็ได้ปุ๋ย

ไม่อย่างงั้นคงมีผีแมว ผีหมา ผียุง ผีแมลงวัน วุ่นวายกันไปหมด

ผี สาง เทวดา พระเจ้า นรก สวรรค์ ชาติภพ บาป บุญ

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ปกครองคนหมู่มากในยุคที่ยังไม่มีกฏหมายใช้

แต่ปัญหาของเรื่องนี้คือ คนสองคนเห็นเหมือนกันนี่ซิ

ผมไม่อาจรู้ได้ว่าเห็นทั้งคู่ หรือ เห็นคนเดียวอีกคนหลับอยู แล้วสะดุ้งตื่นมา อีกคนเล่าให้ฟังก็เออๆออๆตามกันไป

ในภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น สมองเรามันสามารถเกิดภาพหลอนและเสียงหลอนได้นะ

ผมเนี่ยถ้านอนดึกๆ ติดต่อกัน และนอนด้วยท่าที่ฟาดแขนเหยยดยาวหัวตัวเองไปเนี่ย

รับรองได้เลยว่า อาการผีอำมาแน่ๆ

ผมลองมาหลายครั้งแล้ว มาเกือบทุกครั้งที่นอนดึกและนอนด้วยท่านี้

เริ่มจากขยับตัวไม่ได้

และเริ่มเห็นเงาของแสงไฟถนนที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบผาผนัง มันบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูปร่างได้

ได้ยินเสียงหายใจตัวเองอยู่ข้างๆหู

ผมก็ปล่อยมันแล้วก็หลับต่อ

ผมว่าคำพูดที่ว่า "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่" มันเป็นการปิดกั้นความคิดเห็นและทำลายจินตนาการอย่างมาก

จริงๆแล้วมันควรจะเป็น "ไม่เชื่อ ต้องพิสูจน์" มากกว่านะ


ผมตั้งใจเอาไว้ว่า ถ้าเจอจะๆ ผมจะถามก่อนเลยว่า"ผีจริงๆใช่ไหม?" เพราะผมกลัวโดนข้อหาฆ่าคนตาย

ประสบการณ์ตรงและพิสูจน์มาหลายครั้งเหมือนกันจนตอนนี้ค่อนข้างมั่นใจแล้วครับว่าอาการผีอำน่าจะเป็นอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น
จนแยกไม่ออกระหว่างความฝันกับความจริง

โดยประสาทสั่งการการควบคุมร่างกายและการเคลื่อนไหวจะอยู่ในภาวะนอนหลับเราเลยควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ประสาทสัมผัส
บางส่วนและจิตใจอยู่ในภาวะที่ตื่นอยู่ ทำให้เรารับรู้สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้ แต่ว่าไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อตอบสนองได้

ออฟไลน์ Tuxedo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 21
ผมเกิดมา 30 กว่าปี มากพอที่จะสรุปเรื่องราวต่างๆ ทั้งใกล้และไกลตัว ได้ประมาณหนึ่ง

ผมไม่เชื่อเรื่องแบบนี้นะ

สิ่งมีชีวิตเกิดมาก็ตายไป เผาก็ได้คาร์บอน ฝังก็ได้ปุ๋ย

ไม่อย่างงั้นคงมีผีแมว ผีหมา ผียุง ผีแมลงวัน วุ่นวายกันไปหมด

ผี สาง เทวดา พระเจ้า นรก สวรรค์ ชาติภพ บาป บุญ

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ปกครองคนหมู่มากในยุคที่ยังไม่มีกฏหมายใช้

แต่ปัญหาของเรื่องนี้คือ คนสองคนเห็นเหมือนกันนี่ซิ

ผมไม่อาจรู้ได้ว่าเห็นทั้งคู่ หรือ เห็นคนเดียวอีกคนหลับอยู แล้วสะดุ้งตื่นมา อีกคนเล่าให้ฟังก็เออๆออๆตามกันไป

ในภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น สมองเรามันสามารถเกิดภาพหลอนและเสียงหลอนได้นะ

ผมเนี่ยถ้านอนดึกๆ ติดต่อกัน และนอนด้วยท่าที่ฟาดแขนเหยยดยาวหัวตัวเองไปเนี่ย

รับรองได้เลยว่า อาการผีอำมาแน่ๆ

ผมลองมาหลายครั้งแล้ว มาเกือบทุกครั้งที่นอนดึกและนอนด้วยท่านี้

เริ่มจากขยับตัวไม่ได้

และเริ่มเห็นเงาของแสงไฟถนนที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบผาผนัง มันบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูปร่างได้

ได้ยินเสียงหายใจตัวเองอยู่ข้างๆหู

ผมก็ปล่อยมันแล้วก็หลับต่อ

ผมว่าคำพูดที่ว่า "ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่" มันเป็นการปิดกั้นความคิดเห็นและทำลายจินตนาการอย่างมาก

จริงๆแล้วมันควรจะเป็น "ไม่เชื่อ ต้องพิสูจน์" มากกว่านะ


ผมตั้งใจเอาไว้ว่า ถ้าเจอจะๆ ผมจะถามก่อนเลยว่า"ผีจริงๆใช่ไหม?" เพราะผมกลัวโดนข้อหาฆ่าคนตาย

เมื่อก่อนผมก็เป็นแบบน้าเลยครับ เรียนสายวิทย์ ไม่มีเื่ชื่อแบบนี้แน่ ๆ ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองถึงจะเชื่อ และเรื่องแบบนี้ผมก็ไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองมาแล้ว ปัจจุบันนี้ผมเชื่อครับว่ามีจริง ไม่ได้เชื่อจากคนอื่นบอกเล่า แต่พิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้ว สิ่งที่เรายัไม่สามารถพิสูจน์ได้ ไม่ได้แปลว่าไม่มีจริง มีเรื่องอีกมากมายที่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ งมงายต่างจากศรัทธาตรงที่ งมงายคือเชื่อไปเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ศรัทธาคือเชื่อโดยที่ไตร่ตรองหรือได้พิสูจน์เรื่องนั่น ๆ มาแล้ว ว่าเห็นว่าจริงจึงเชื่อ ซึ่งตรงกับคำสอนในหัวข้อ กาลามสูตร ที่พระพุทธเจ้าเคยสอนชาวพุทธในสมัยพุทธกาลครับ ^^

ออฟไลน์ LaTeX

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 973
กลายเป็นกระทู้ The Shock ไปแล้ว
ส่วนตัวไม่เคยมีประสบการณ์ขนหัวลุกครับและไม่เชื่อ แต่ยังต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจอยู่ครับ ใครเล่ามาก็ฟังเผื่อสักวันจะเจอเองและเชื่อไปเอง

ปล.ยกให้เป็นกระทู้สร้างสรรค์แห่งปีเลยครับ มองไปกระทู้อื่นๆนึกว่าอยู่คลับรถหรูยี่ห้อดัง

ออฟไลน์ Nookkiez

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 784
ใครจะเชื่อหรือไม่เป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ ส่วนตัวผมนั้นได้เห็น"พลังงานเหล่านั้น"ทั้งหญิง ชาย หรือมาแต่เสียง อยู่บ่อยๆทั้งกลางวันและกลางคืน และมีสติครบถ้วนทุกประการ ไม่หลับ ไม่ง่วง ไม่เมา ไม่เบลอ ไม่มึน  แต่ก็ไม่คิดอะไรเพราะเราเองก็ไม่เคยไปเบียดเบียนใคร  :)
Test ..

ออฟไลน์ arya

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 553
เรื่องนี้ผมเชื่อครับว่า มีจริง เพราะได้ศึกษาเรื่องเหล่านี้จากทั้งหนังสือ(ไม่ใช่หนังสือผีนะครับ แต่เป็นเรื่องของจิตที่ศึกษาโดยดอกเตอร์ในต่างประเทศ หลายๆเล่ม) และระหว่างที่ได้บวชเรียน

แชร์เรื่องส่วนตัวด้วยครับ

เรื่องแรก เกิดกับตัวเอง คือ ผมได้เช่าพระ จากวัดทางเหนือมาองค์หนึ่งเพราะมีโอกาสได้ไปนมัสการมา ส่วนตัวไม่ได้เล่นหรือสะสมพระใดๆทั้งสิ้น หลังจากกลับมาที่บ้าน ก็นำพระไปไว้ในห้องนอนตัวเองแต่ยังไม่ได้แกะกล่องออกมาดู คืนแรกก็ผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผ่านไปอีกวันนึง ตอนเย็นผมนึกขึ้นได้ว่าเช่าพระมา จึงนำกล่องพระองค์นั้นมาแกะดู และ พบบทสวดมนต์ ที่เค้าให้ทำการสวดเพื่อบูชาพระองค์นั้น ก็สวดไปโดยคิดว่าเพื่อเป็นมงคลแก่ตัวเอง เสร็จแล้วผมนำพระองค์นั้นไปวางไว้ที่ปลายเตียงซึ่งเป็นทิศที่เท้าผมเวลานอนหันไปทางนั้นพอดีโดยที่ตอนนั้นไม่ได้เอะใจว่าวางไม่ถูกที่ แล้วผมก็หลับไป จนตอนดึกผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะรู้สึกว่ามีใครสักคน มานอนที่ข้างหลังผม แบบหายใจรดต้นคอ (ผมนอนตะแคงไม่ได้นอนหงาย) และรู้สึกกลัวมากๆ แบบจับใจ ไม่สามารถหันหลังไปดูได้ว่าใคร น่าจะประมาณสัก3-4 นาที พอผมหันหลังไปดูได้ก้อพบว่าไม่มีใคร รีบวิ่งไปเปิดไฟดูว่าใคร นึกว่าขโมย แต่ไม่พบใคร งงเลยครับ จนมานึกขึ้นได้ตอนเช้า เรื่องที่เราสวดมนต์บูชาพระและ วางไว้ที่โต๊ะปลายเตียง เลยรีบนำพระองค์นั้นไปไว้ที่ห้องพระของที่บ้าน หลังจากนั้น ก้อ ไม่พบเจออะไรแบบนี้อีกเลย

เรื่องสอง ของน้องชาย เกิดเมื่อตอนอายุสัก 15 น้องชายผมก้อ 12   ตอนนั้นที่บ้านผม คุณพ่อได้ซื้อโต๊ะสนุ๊กมือสองมาให้พวกผมเล่นกัน มีอยู่วันนึง ผมนั่งดูหนังอยู่ในห้องตัวเอง และจู่น้องชายผมมันก็วิ่งหน้าตาตื่น เปิดประตูพรวดเข้ามาในห้องผม และพูดว่า "เมื่อกี๊มึงได้ไปเดินออกไปเล่นสนุ๊กใช่เปล่า" ผมก้องง บอกว่าเปล่านั่งดูหนังมานานแล้ว (ตอนนั้นประมาณ 2-3 ทุ่ม) น้องผมมันก้อไม่เชื่อ มันบอกว่าผมแกล้งมันแน่ๆ  ผมเลยถามว่ามีอะไร น้องผมมันบอกว่าเมื่อกี๊ตอนที่มันเล่นสนุ๊กอยู่คนเดียว ตอนมันก้มเล็งจะแทงจากริมโต๊ะฝั่งนึงไปยังอีกด้านนึง มันเห็นมือคน แต่เล็กๆคล้ายมือเด็ก สีฟ้า วางอยู่อีกด้านนึง มันเลยตกใจ และก้มลงไปดูใต้โต๊ะ เพราะคิดว่ามีคนหลบอยู่ใต้โต๊ะสนุ๊ก แต่ไม่เจออะไร ที่นี้เลยวิ่งโกยไปหาผมที่ห้องนี่ล่ะครับ ผมเดาว่าน่าจะเป็นกุมาร ว่าเค้าอยากมาเล่นด้วย

เรื่องสาม ของน้องชาย(อีกครั้ง) น้องผมได้รถใหม่มาเป็น Civic dimension หลังจากได้รถใหม่มาก็ยังไม่ได้มีพระไว้ประจำรถ ก็ใช้ไปสักพักนึงโดยไม่ได้คิดอะไร จนมาวันนึง ขับไปบนเส้นพหลโยธินช่วง รร.มาริออต (ถ้าจำชื่อไม่ผิดนะครับ) น้องผมมันขับไปกับแฟนสองคน ถนนเส้นนั้นจะมีเกาะกลางถนนอยู่ ระหว่างที่ขับรถไปก็อยู่เลนขวาสุด น้องผมก็สังเกตจากระยะไกลว่ามีผู้หญิงคนนึงยืนก้มหน้า อยู่บนเกาะกลางใส่ชุดสีแดงทั้งตัว จนพอขับเข้าไปใกล้จะถึงผู้หญิงคนนั้น น้องผมมันก็เหลือบมอง เพราะสงสัยว่าทำไมถึงมายืนอยู่ตรงนั้น แต่ไม่มีทีท่าว่าจะข้ามถนน พอน้องผมเหลือบไปมองผู้หญิงคนนั้นก็ยิ้มแสยะให้ ระหว่างที่ขับรถผ่านไป พอรุ่งเช้าถามแฟนมัน แฟนน้องผมก็พูดเหมือนกันว่า เห็นเหมือนกัน
             มีอีกครั้งนึง มันขับรถคันเดิมนี่แหละ ไปกับแฟนสองคนเหมือนเดิม ตอนดึกๆ ขับเร็วประมาณ 100 ขึ้น อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะกระจกตรงประตูหลัง ก๊อก ก๊อก ก๊อก สามครั้ง และ เคาะอีก ก๊อก ก๊อก ก๊อก สามครั้ง และ มีเสียงหัวเราะของผู้หญิงตามมา ฮิ..ฮิ..ฮิ ทั้งน้องผมและแฟนมันได้ยินทั้งคู่ เหวอกันเลย แม่ผมเลยให้ผงธูป ซึ่งเป็นพระที่บ้านนับถือ มาไว้ประจำรถน้องผม หลังจากนั้น ก็ไม่เจออะไรแปลกๆอีก

อีกเรื่องนึงพึ่งนึกออก ล่าสุด แต่ก็หลายปีมาแล้ว ผมมีโอกาสได้บวชครั้งที่สอง ไปบวชที่จ.มหาสารคาม (ผมอยู่กรุงเทพนะครับ) ไปบวชแบบไม่รู้จักใครเลย มีวัดนึงรับผมให้บวชได้ (เป็นวัดชนบทมากๆ) จำได้ว่า ทั้งวัดมีพระอยู่ 5 รูป รวมผมแล้ว มีอยู่คืนนึง ผมจำวัดอยู่ ตื่นมาประมาณตี2 ได้ยินเสียงคนเดินไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าด (กุฏิเป็นบ้านไม้เก่า) อยู่หน้าห้องนอนตัวเอง ก็กลัวนะ กลัวมากๆ ก็บอกไปว่า รู้ว่าเรามาบวชใหม่ อยากได้ส่วนบุญ เดี๋ยวเราจะอุทิศบุญกุศลไปให้ อย่ามาทำให้พระกลัวเลยมันไม่ดี ทุกอย่างก็เงียบลง ก็บวชอยู่ได้ 7 วัน ก็ลาสึกกลับมาบ้าน หลังจากกลับมาบ้านแล้ว ผมได้ไปเที่ยวกับเพื่อนตอนกลางคืน หลังจากแยกย้ายกันผมก็ขับรถกลับบ้านคนเดียว ตอนนั้นประมาณตี 2-3 ระหว่างทางขับกลับบ้าน (ตรงเส้น บรมราชชนนี ขาออก ตรงข้ามกับทางเข้าถนนสวนผัก) ผมขับชิดซ้ายมา ขับแบบเรื่อยๆ พอถึงจุดที่ผมบอก ผมเห็นครับว่ามีผู้ชายคนนึง ยืนอยู่ฟุตบาทของทางหลัก (หากใครเคยผ่านเส้นนี้จะทราบว่าเส้นนี้มีทางหลัก และทางคู่ขนาน) ผมขับอยู่บนเส้นทางหลักที่รถวิ่งเร็วแต่อยู่เลนซ้ายสุดของทางหลัก ซึ่งมันแปลกมากที่จะมีคนมายืนอยู่ตรงนี้ ในเวลานี้ เพราะไม่ใช่จุดคอยรถ และ ถนนเส้นนี้ เวลาข้ามถนนต้องใช้สะพานลอยอยู่แล้วเพราะรถวิ่งเร็ว แถมมีเกาะกลางไม่ให้คนปีนข้ามอีกต่างหาก ..... ที่สำคัญ ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ยืนหันข้างเพื่อจะข้ามถนน แต่ ยืนหันหน้าเข้ามาทางที่รถวิ่งเข้าหา ลักษณะเป็น ผู้ชายร่างกายกำยำมากๆ ผมทรงแบบ มหาดไทย นุ่งจุงกระเบนสีแดง ไม่ใส่เสื้อ เหมือนเพชรฆาต ตามหนังไทยที่เราๆเคยดูน่ะครับ หน้านิ่งมากๆ ไม่ได้มองมาที่ผม มองจ้องไปข้างหน้าอย่างเดียว ตอนแรก ในใจผมนึกว่าคนบ้ารึเปล่าแต่งตัวอย่างนี้ ตัวผมก็ขับผ่านไปจนกลับถึงบ้านโดยไม่มีอะไร  จนผ่านไปสักพัก ก็ได้มีโอกาสคุยกับรุ่นพี่คนนึง แกบอกว่า แกเคยรถคว่ำมา ผมก็ถามว่าพี่รถคว่ำที่ไหน แกบอกผมตรงจุดเดียวกับที่ผมเห็นผู้ชายไทยคนนั้น    ผมเลยมานั่งย้อนคิดว่า ตรงจุดนั้น เป็นจุดทางลงตลิ่งชันจากเส้นลอยฟ้าพอดีเลยนี่   รุ่นพี่ผมคนนั้นก็บอกว่า ตรงนั้นน่ะ มีรถขับตกลงมาหลายคันแล้ว ผมก็พึ่งจะรู้ว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น บริเวณนั้น ด้วย ทั้งๆที่ผมก็เคยอยู่แถวนั้น  ผมเลยเดาว่า เค้าอาจจะเป็น ยมบาลคอยรับบางคนรึเปล่า (อันนี้เดานะครับ ) แต่เห็นน่ะ เห็นจิงๆ ชัดมากๆ ไม่ตาฝาดแน่นอน..... จบแล้วครับ


ถือว่า แชร์ประสบการณ์ให้ฟังกันนะครับ ใครจะเชื่อหรือไม่ ไม่ว่ากันครับ

ขอบคุณครับ หากใครสามารถอ่านมาจบถึงตรงนี้

ออฟไลน์ Mark_UK

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 311
อ่านมันแฮะกระทู้นี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ คนเลยมาตอบกันเยอะ แต่ละคนก็ตอบไปตามความรู้ ความคิด ประสบการณ์ บรรทัดฐาน ที่ตัวเองมีอยู่หรือได้รับมา
ส่วนจะมาเอาคำตอบว่าอะไรคือความจริง ให้ฟันธง ก็คงเถียงกันไม่มีวันจบ

ผมไม่มีเหตุการณ์ที่จะเล่า มีแต่แนวคิดให้คิดกันครับ

เมื่อก่อน ผมก็เป็นพวกหัววิทยาศาสตร์พอสมควร จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังคลุกคลีกับวิทยาศาสตร์เพราะทำป.เอกด้านชีวะอยู่ แต่ด้วยความทุกข์ความว้าวุ่นในชีวิตที่ถาโถมช่วงที่เรียนหนักๆ ผมก็เลยสนใจมานั่งสมาธิและศึกษาธรรมะดูเพื่อบรรเทาทุกข์ทางใจ และมันก็ได้ผลดีระดับหนึ่ง จนทุกวันนี้ก็เลยได้คลุกคลีอยู่กับทั้งสองอย่าง ทั้งวิทยาศาสตร์และเรื่องที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้

ว่ากันด้วยเรื่องของการพิสูจน์ อิงตามวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน ยกตัวอย่างสาขาวิชาที่ผมเรียนนะครับ ความรู้ใหม่มันเกิดขึ้นทุกวัน ค้นพบกันทุกวัน ฉะนั้นผมฟันธงได้เลยว่า ในโลกนี้ยังมีอีกหลายอย่างมากๆที่รอวิทยาศาสตร์พิสูจน์อยู่ ซึ่งถ้ามองแบบนี้แล้วมันก็ไม่แปลกที่จะมีสิงต่างๆที่ผู้คนได้พบเห็นกันแล้ววิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ เพราะขนาดนักวิทยาศาสตร์เองก็ยังค้นยังพบกันอยู่ตลอดเวลา

ทีนี้ว่าด้วยเรื่องความเชื่อ ผมว่าถ้าใครเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็ไม่ผิดไม่แปลกเลยครับ ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นตามแบบของตนเอง ตามข้อมูลและการวิเคราะห์ของตนเอง มันก็ไม่แปลกหรอกที่เราจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เหมือนคนอื่นหรือไม่เหมือน เพราะคนเรามันต่างกัน ความสามารถในการวิเคราะห์ รับรู้ รู้เห็น จริต มันต่างกัน ไปถามพระก็คงตอบอีกแบบ ไปถามหมอ ถามนักวิทยาศาสตร์ก็คงตอบไปอีกแบบ คำตอบมันจบ มันมีอยู่ในตัวเค้าตั้งแต่ยังไม่ถามแล้วล่ะครับ จนกว่าเค้าจะได้พิสูจน์อะไรใหม่ๆแล้วเปลี่ยนคำตอบใหม่ จะตามแบบเค้าเองหรือตามแบบของคนอื่นที่ค้นพบมาก่อน อันนี้ก็แล้วแต่เหตุแล้วแต่ปัจจัยจะพาไป

เรื่องความคิดความเชื่อเนี่ย มันเปลี่ยนกันยากมากๆ หนักหนาสาหัสกันพอสมควร เอาแค่ง่ายๆอย่างเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันนี่ล่ะ ไม่ต้องถึงเรื่องลี้ลับหรอก บางสิ่งบางอย่าง หลายๆคนมองเห็น แต่หลายๆคนกลับมองไม่เห็น มันเหมือนเส้นบางๆแต่เป็นเส้นที่แข็งแรงเหนียวแน่นมาก บังตาเราอยู่ แต่พอมีเหตุให้ฉุดคิดแค่นั้นแหละเส้นนั้นขาดปุ๊บ ทีนี้ถึงบางอ้อเลยครับ ตาสว่างโพล่งเลย ต้องเห็นโลงศพก่อนถึงหลั่งน้ำตา แล้วประสาอะไรกับความเชื่อที่มันมองเห็นได้ยากกว่าที่จะมีคนมองเห็นหรือมองไม่เห็น เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วล่ะครับ

ถามว่าตัวผมเชื่อเรื่องพวกนี้ไหม? ผมเชื่อบางส่วนครับ เชื่อเฉพาะในส่วนที่ผมพิสูจน์ได้และสัมผัสได้เท่านั้น ส่วนอื่นๆผมยังไม่เคยเห็น ไม่เคยเจอ ผมก็เลยยังเฉยๆ ยังต้องรอการพิสูจน์ต่อไป 

สำหรับคนที่บอกว่า พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนเรื่องแบบนี้ ผมอยากจะให้แง่คิดว่าได้ลองศึกษาคำสอนของพระองค์อย่างลึกซึ้งถ่องแท้หรือยังครับ? ในพระไตรปิฎกมีคำสอนมากมายก่ายกอง และมีหลายส่วนมากๆที่พูดถึงเรื่องลี้ลับเรื่องที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่อง นรก สรรค์ เทวดา พรหมโลก แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาอยู่ทุกวันนี้ หยิบยกมานิดเดียว เอาแต่เนื้อหาสาระที่เป็นหนทางปฏิบัติเพื่อดับทุกข์มาสอนกัน และไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้มากเพราะกลัวคนจะงมงาย ถ้าจะเอามาพูดมาสอนกันทั้งหมดก็คงจะยาว ยิ่งทุกวันนี้ไม่ค่อยจะสนใจแก่นแท้กันอยู่แล้ว แต่พอพูดเรื่องลี้ลับต่างๆกลับสนใจกันมากมาย ถึงจะเอาเรื่องพวกนี้มาพูดยาวๆให้ฟังก็คงถามกันทั้งวันทั้งเดือนทั้งชีวิตอีกแหละ ถ้าไม่ลองศึกษากันเองและปฏิบัติดู มันก็ถามก็วิเคราะห์ วิจารณ์ไปเรื่อยไม่รู้จบ

ป.ล. ผมไม่ได้ว่าผมเป็นผู้รู้นะ แค่เป็นผู้เริ่มต้นสนใจศึกษาเท่านั้น และเป็นผู้สงสัยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากพอสมควร จนบางครั้งเกิดแนวคิดว่า ทุกอย่างมันอธิบายให้เข้าใจตามความรู้ของวิทยาศาสตร์ปัจจุบันได้ แต่ต้องใช้เวลาหน่อย

ด้วยความเคารพ


ออฟไลน์ Oatsenal

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 404
    • อีเมล์
ตามตืดกระทู้นี้ อิอิ

ออฟไลน์ Public P

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 239
    • อีเมล์
อ่านกระทู้นี้ทำให้ผมนึกถึงตอนพ่อสอนให้ขับรถ พ่อผมบอกว่าขับรถตอนกลางคืนถ้าเห็นอะไรแปลกๆไม่ต้องไปสนใจ อย่าตกใจ ตั้งสติ ขับต่อไป ลดความเร็วลง ถ้าไม่สบายใจให้หาปั๊มที่ใกล้ที่สุดจอดรถตั้งสติ บ้านผมอยู่ภาคใต้พ่อผมเล่าให้ฟังสมัยก่อนขับรถตอนกลางคืนเจอของแปลกๆเยอะ เช่น สัตว์ป่านาๆชนิด แม้กระทั่งหมีความพ่อบอกยังเคยเจอ แต่ที่เจอแล้วน่ากลัวและถือว่าซวยสุดๆคือ กลุ่มคอมมิวนิสต์ที่โบกรถขอเข้าเมืองด้วย ไม่ให้ไปก็ไม่ได้ ให้ไปก็อาจเจอด่านทหาร พวกนั้นมักจะบอกว่าไม่เป็นไรไม่มีด่านเช็คข่าวแล้วขอไปด้วย แต่พ่อผมเคยโดนทหารจับเพราะให้อาศัยไปเกือบโดนยิงทิ้งโชคดีที่มีนายทหารใจดีเขาเชื่อที่พ่อผมพูด เลยปล่อยตัวมา สำหรับผมไม่เคยเจออะไรที่เหนือธรรมชาติ ที่เคยเจอกับตัวเองคือตอนนั้นขับ 190E ขับรถเข้าสวนกับพ่อซึ่งก็ไม่ได้เป็นป่ารกอะไรคนอยู่กันเยอะแล้ว ขับไปเห็นงูเลื้อยผ่านถนนพ่อบอกให้จอดให้เขาไปก่อนแต่ที่ผมตะลึงคือถนนเข้าสวนกว้างประมาณ 4 เมตร แต่งูตัวนั้นหัวไปถึงอีกด้านของถนนแล้วแต่หางยังไม่พ้นจากป่าของถนนอีกด้าน ผมคิดในใจตัวยาวมาก พ่อบอกจงอางพญางู แต่ที่ทำให้ผมตกใจสุดๆคือจังหวะพัดลมไฟฟ้าทำงานไม่รู้มันได้ยินหรือไง มันยกหัวขึ้นมาสูงมากเกือบเท่ากับรถ มันจ้องอยู่พักนึงมองรถผมอยู่นาน พ่อบอกเดี๋ยวก็ไปมันตกใจ ซักพักมันก็ลดหัวลงเลื้อยต่อไป พ่อบอกตัวนี้อยู่มานานตั้งแต่รุ่นปู่บุกเบิกสวนอยู่มาก่อนเรา เป็นจงอางตัวเดียวในแถบนี้ ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเจ้าที่เลยไม่มีใครทำอะไรและมันก็ไม่เคยทำอะไรชาวสวน แล้วที่อยู่ประจำของมันก็ท้ายสวนผมนี่แหละเป็นป่าไผ่ริมธารน้ำ พ่อบอกปู่เว้นไว้ให้เขา ผมยังเคยสงสัยเว้นไว้ทำไมตั้งเกือบไร่ปลูกยางได้หลายต้น แต่พ่อบอกปู่เคยบอกไว้ที่ตรงนั้นใครห้ามไปทำอะไรเว้นไว้เป็นป่าไผ่อยู่แบบนั้นอย่าไประรานคนที่อยู่มาก่อน อีกอย่างจะได้มีแหล่งน้ำไว้ดูแลสวน หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยเจอ เข้าสวนกี่ครั้งก็ไม่เจอมีแต่พ่อเจอล่าสุดตอนไปรังวัดที่ดิน สำหรับผมหลังๆเจอแต่คนขับรถแปลกๆเสียส่วนใหญ่ซึ่งอันนี้แหละอันตรายที่สุดครับ

ออฟไลน์ Sinplug

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 419
    • https://www.facebook.com/groups/4G64Club
    • อีเมล์
ประสบการณ์แต่ละท่านเพียบเลย
"ผมก็แค่กะบะเบนซิล''4G64 Turbo  แรงม้า XXX Max. Torque 618 N/m''  
Facebook: 4G64 Club Thailand/4G64T Club Thailand

ออฟไลน์ SP

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,745
กระทู้นี้อ่านมันส์มากเลยครับ  ;D ;D ;D ผมไม่เคยมีประสบการณ์อะไรแบบนี้เลยครับ

มีแต่พ่อกับแม่ผมเจอเหตุการณ์แปลกๆ ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่ พ่อกับแม่ผมพาไปดูบั้งไฟพญานาค

ที่อำเภอเเห่งหนึ่งใน จ.อุดรฯ ขากลับก็มืดพอสมควร แล้วข้างทางเป็นป่ารกไม่มีรถซักคัน มีรถพ่อผมคันเดียว

ระหว่างนั้นพ่อผมก็เห็นดวงไฟประหลาดลอยอยู่ในป่า ตอนแรกก็คิดว่าชาวบ้านแถวนั้นมาหากบ หาเขียด

แต่ขับไปซักพักก็เห็นดวงไฟนั้นลอยไปเรื่อยๆ แล้วมันก็กำลังจะลอยผ่านหน้ารถไป พ่อผมเลยเร่งเครื่องตามจะไปดู

ปรากฏว่าพอไปใกล้แล้วตบไฟสูงใส่ก็ไม่เห็นแล้ว พ่อผมก็เลยจอดรถตรงนั้นเลย แล้วพ่อก็เลยถามแม่ว่าเห็นมั้ย

แม่บอกเห็น แต่รีบๆไปเถอะ กลัว แล้วก็ล็อกประตูอย่างไว พอรุ่งเช้าก็เลยลองไปถามผู้รู้ดู ท่านบอกว่าน่าจะเป็นองค์เสด็จ

เพราะคืนนั้นเป็นคืน 15 ค่ำเดือน 11 ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีสิ่งเร้นลับอะไรซักอย่างออกมาก็ได้

ออฟไลน์ Coat145

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 596
สุดยอดเลยครับ ตามติดๆๆๆ 555  ปักหมุนเลยดีไหมครับ 555 (ล่อเล่นนะครับๆๆ)^^ :D :D
YARIS1.2 G 2013 ขาว
L33 2.0XL 2014 ดำ
Mercedes-Benz E350e Exclusive ดำ 2018
Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé ขาว 2018
FORD RAPTOR 2.0 BI-TURBO 2019

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
ผมเคยเจอครับ เคยเล่าไปในเวปนี้นานแระ
วิญญาณผู้เสียชิวิตจาดอุบัติเหตุรถคว่ำ เค้ามาเตือนผมไม่ให้ขับรถเร็วตรง
จุดนั้น ซึ่งมันเป็นทางโค้งครับ
ลักษณะการเตือน ผมโดนหลายครั้ง เพราะปกติขับรถเร็ว
ทีนี้พอมาถึงจุดบริเวนนี้ สามสี่ครั้งครับ ที่เครื่องยนต์ดับไปเฉย ๆ ต้องจอดรถแล้วสตาร์ทใหม่ ซึ่งมันก็สตาร์ทติดเป็นปกติดี
ครั้งสุดท้ายผมจอดรถแล้วลงจากรถไปเปิดกระโปรง ( รถ นะครับ ) เพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติ มันก็ไม่มี ก็สตาร์ทรถได้ปกติก็เลยขับต่อไป
ตอนนั้นยังไม่คิดเรื่องวิญญาณอะไรทั้งสิ้นครับ ปกติผมไม่กลัวผีนะ
  มาเจอเพื่อนคนนึง ผมก็เล่าเรื่องนี้แบบคุยกันไปตามประสา ปรากฎว่าเพื่อนมันตกใจ เพราะมันก็เจอแบบเดียวกับผม
แล้วมันก็รู้มาว่า ตรงนั้นเพิ่งมีอุบัติเหตุรถเก๋งพลิกคว่ำ ผู้หญิงสองคนเสียชีวิต

หลังจากนั้อีกประมาณซักเดือนนึงถ้าจำไม่ผิดนะ ผมไปหาเพื่อนในหมู่บ้านแถวที่เกิดเหตุ
เพื่อนเล่าเรื่องแปลกให้ฟัง เป็นเรื่องของตำรวจบนโรงพักที่เค้าเอารถที่เกิดอุบัติเหตุไปไว้ที่นั่น
ตำรวจที่อยู่บนระเบียงโรงพักหลายคน เห็นตำรวจเจ้าของคดียืนคุยกับเจ้าหน้าที่ประกันตอนช่วงค่ำ ๆ
ตำรวจบนระเบียงเห็นว่ามีผู้หญิงมายืนฟังใกล้ ๆ ด้วยคนนึง  พอตำรวจข้างล่างคุยกะประกันเสร็จก็ขึ้นมาระเบียงโรงพัก
ตำรวจที่ระเบียงก็ถามว่า แล้วผู้หญิงที่มาด้วยไปไหน กลับไปกับประกันรึเปล่าเห็นมาอยู่คนเดียว
ตำรวจที่คุยกะประกันก็ตกใจเลยครับ เพราะไม่มีใคร ไม่มีผู้หญิงอยู่ด้วย เค้าอยู่กะประกันแค่สองคน

ออฟไลน์ -Anonymous-

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,428
  • Catch me if you can !!!
สุดยอดเลยครับ ตามติดๆๆๆ 555  ปักหมุนเลยดีไหมครับ 555 (ล่อเล่นนะครับๆๆ)^^ :D :D
ผมก็ไม่เข้าใจทำไมต้องเปิดมาอ่านทุกๆชั่วโมง ติดจริงๆ

ออฟไลน์ Oatsenal

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 404
    • อีเมล์
อ่านมันส์ จนอยากให้ปักหมุด จริงๆ 55555

ออฟไลน์ drugprofile

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 218
อาจเป็นแมวเจ้าที่ก็ได้นะครับ
ออกมาเตือนก่อนไรแบบนี้
ถ้าไม่เจอแมวนั่นอาจชนแรงกว่านี้

อ่านสนุก+น่ากลัวดีครับ ดีนะที่ผมมาอ่านตอนเช้า

 :) ผมก็ไม่เคยเจอ แต่ก็เชื่อนะ ว่ามีสิ่งต่างๆ เหล่านี้..

ถ้าโลกนี้ มีผีจริงๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ผีกลัว ก็ต้องมีจริง (เลยจัดเต็มรถ)..

คิดเหมือน ท่านที่ตอบ ท่านนี้ครับ..

อย่าเรียกว่า แมวผีเลย แมวตัวนี้ อาจเป็นเจ้าที่ หรือ เทพประจำตัว ประจำรถท่าน ที่มาเตือนสติ

หากท่านไม่เจอแมวตัวนี้ ท่านก็คงไม่ได้ ลดความเร็วลง และปะทะกับแท่งปูนนั้นแรง จนรถอาจเสียหายมากกว่านี้นะครับ  ;)

ออฟไลน์ ponggu52

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 189

ผมเชื่อครับ

ผมเรียน ป. เอก ด้านสัตวศาสตร์ ซึ่งอยู่ในสายวิทยาศาสตร์
ถ้าพูดถึงในด้านวิทยาศาสตร์มีสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ ในอดีตมีสิ่งหลายอย่างที่สามารถรู้และอธิบายได้
และยังมีอีกหลาย ๆ สิ่งที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้

ยกตัวอย่าง ผมศึกษาถึงการทำงานของจุลินทรีย์ในกระเพาะผ้าขี้ริ้วของสัตว์เคี้ยวเอื้อง
ในอดีตเราไม่สามารถทราบถึงจำนวนของแบคที่เรียแต่ละชนิดได้
แต่ในปัจจุบัน ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี เราจึงสามารถทราบจำนวนของแบคทีเรียในชนิดที่เราต้องการศึกษาได้
และยังมีอีกหลายสิ่งที่ยังหาคำตอบไม่ได้ในปัจจุบัน แต่ในอนาคตอาจจะหาคำตอบได้

แล้วคุณยังจะพูดว่าเชื่อในเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้หรือ

ผมมี 2 เรื่องที่เล่าให้คุณผู้อ่านฟัง ทั้งเจอกับตัวเอง และไม่เจอกับตัวเอง

  1. พอดีแฟนผมเรียน ป. เอก เหมือนกัน เรียนอยู่ประเทศไทย แต่ได้ไปทำงานวิจัยร่วมกับต่างประเทศเป็นเวลา 7 เดือน พอมาถึงประเทศไทย
แม่ของแฟน เลยชวนผมไปที่บ้านแฟน ก่อนที่จะไปเรียนต่างประเทศแม่ของแฟน ได้บนบานกับศาลเจ้าในหมู่บ้านนั้น ให้แฟนผมปลอดภัย ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บในระหว่างอยู่ต่างประเทศ พอกลับมาต้องมาแก้บน
      พอไปถึงศาลเจ้า ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีแต่พระพุทธรูป และมีคนเข้าทรง  พอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าคนเข้าทรง ก็พูดภาษาโบราณ (ซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นภาษาอะไร) ซึ่งปกติคนเข้าทรงก็ไม่รู้ว่าเป็นภาษาอะไรและไม่สามารถพูดในสภาวะที่เป็นปกติได้) พอทำพิธีเสร็จ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ออกจากร่างทรง และจำไม่ได้ว่าทำอะไร พูดอะไร

  2. เรื่องที่สอง ไม่ได้เกิดกับตัวเอง แต่ผู้ใหญ่บ้านที่ไปเจอเหตุการณ์เล่าให้ฟัง   มีป่าแห่งหนึ่งแถวบ้านที่เขาอนุรักษ์ไว้ ประมาณ 7 ไร่ ซึ่งรอบๆ ป่าจะเป็นทุ่งนาทั้งหมด ในป่านี้จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "พ่อปู่"  และจะมีศาลเล็ก ๆ ในป่าให้พ่อปู่พักอาศัย แต่เนื่องจากศาลนี้ได้สร้างไว้นานแล้ว และเก่าทรุดโทรม ชาวบ้านจึงอันเชิญพ่อปู่ลงจากศาลนี้ เพื่อสร้างหลังใหม่ให้
    เมื่อชาวบ้านสร้างเสร็จแล้ว ไม่ได้อันเชิญพ่อปู่ขึ้น  ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้กับหมู่บ้านผม 1 กม. มีนาย A (นามสมมติ) ได้พูดขึ้นมาเสียงดังมากว่า "ทำไมเชิญกูลงจากศาลแล้ว ไม่เชิญกูขึ้นศาลล่ะ" ชาวบ้านเชื่อว่าพ่อปู่มาเข้าร่างทรง
    หลังจากนั้นไม่นานชาวบ้านก็ทำพิธีเชิญพ่อปู่ขึ้นศาล และก็ไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก


เล่าเป็นประสบการณ์ให้คุณผู้อ่านฟัง จะเชื่อไม่เชื่อแล้วแต่จะพิจารณา

แต่ผมเชื่อเรื่องพวกนี้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 09, 2013, 19:56:55 โดย ponggu52 »

ออฟไลน์ kritsnutty

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 170
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกท่าน ที่ร่วมแชร์ประสพการณ์เหลือเชื่อ ที่เกิดบนท้องถนน แสดงว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่เคยพบเจอ 

อ่านสนุก ได้ข้อคิดและสติเตือนใจมากมาย..  ขอบคุณที่ร่วมแชร์ ครับ

ออฟไลน์ MoLee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,191
ผมก็ยังไม่เคยเจออะไรนะครับ (และก็ขอไม่เจอดีกว่าฮ่ะๆ) แต่เชื่อว่ามีอยู่จริง โลกเรา มันก็เกิดขึ้นมานานแล้ว ทุกที่เคยมีคนตายหมดนั้นล่ะ เพียงแต่ว่าไม่ใช่ทุกๆคนที่จะเจอ เหมือนคลื่นวิทยุ บางคนเขาเจอคลื่นเดียวกันกับสิ่งพวกนี้ก็จะเห็นจะเจอ คุณแม่ผมเจอประจำเวลา ไปนอนต่างที่หรือไปเที่ยว