ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ  (อ่าน 38846 ครั้ง)

Stroke8

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 22:24:27 »

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,856
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 22:29:49 »
ในแง่ของภายในแล้ว วีโต้ยังเป็นรองอัลพาร์ดอยู่หลายขุมนะ

ออฟไลน์ Yeahyeahs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 856
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 22:42:11 »
ในฐานะที่ไม่เคยใช้รถญี่ปุ่นและรถยุโรปเยอะขนาดจะมาเปรียบเทียบได้ จะให้อ่านอย่างเดียวแล้วคิดว่าตัวเองเก่งจนนั่งเทียนว่ารุ่นนู้นดีรุ่นนี้ไม่ดีก็คงไม่ทำ
ขอตอบแบบไม่ฟันธง แต่เอาจากประสบการณ์ล้วนๆละกัน (MB 3 คันเทียบกับ Toyota+Honda รวม 3 คัน)

บอกก่อนว่าผมเป็นคนใช้รถแบบไม่รักษา จอดตากแดดได้ก็จอด ขับจนพังคาเท้าถึงซ่อม

เท่าที่ใช้มา การขับขี่ทางไกลเยอรมันเอาไปกินนิ่มๆ นิ่ง เงียบ มั่นใจในความเร็วสูง (จนบางทีก็เหยียบ 170+ แล้วนึกว่า 120 ต้องรีบถอน)
แต่พอมาในเมืองญี่ปุ่นชนะ ขับแล้วไม่เหนื่อย ของยุโรปมันหนักไปทุกอย่างเลย ยิ่งรถติดๆนี่กล้ามขากล้ามแขนจะขึ้นเอา
พื้นที่ภายในห้องโดยสารญี่ปุ่นทำได้ดีกว่ามาก รวมถึงวัสดุที่ตามองเห็น รถปีพอๆกันญี่ปุ่นจะทนกว่า เยอรมันนี่มีปัญหาเรื่องพวกกาวเยิ้ม วัสดุหุ้มต่างๆหลุดตลอด
ความแข็งแรงกับความปลอดภัยไม่ทราบ ไม่เคยชนหนักๆ ไม่ขอเทียบ

การใช้งานภายในรถญี่ปุ่นชนะอีกล่ะ ง่ายโคตร หลับตาจิ้มๆเอาก็ถูกหมด ส่วนเยอรมันนี่หาแทบตาย กว่าจะเจอปุ่มเปิดวิทยุ - -"
การออกแบบภายในผมว่าพอๆกัน รถรุ่นเก่าๆในก็โบราณทั้งคู่ แต่ญี่ปุ่นชนะที่ใช้งานง่ายกว่า
แต่ถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆหน่อย เท่าที่ดูในรูปเยอรมันจะแซงไปเยอะนะ(ส่วนการใช้งานไม่รู้ เพราะดูจากรูปเอา)

แถมนิด เรื่องหาที่จอดรถในห้าง E-Coupe ปี 91 ชนะ Civic 2013 ขาดลอย :D

เท่านี้ล่ะครับที่นึกออก

ch_amity

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 22:44:02 »
ใครที่บอกเรื่องราคา อาจจะต้องกลับไปคิดใหม่นะครับ
เพราะภาษีของรถแต่ละประเทศคิดไม่เท่ากัน

ที่เยอรมันเอง รถ MB,BMW,VW,Audi มีราคาที่ขายในประเทศเป็นอย่างไร เมื่อคิดเป็นเงินไทย
ที่ญี่ปุ่นเอง รถ Toyota,Honda,ฯลฯ มีราคาที่ขายในประเทศเป็นอย่างไร เมื่อคิดเป็นเงินไทย

แล้วเอามาคำนวณดู จะทราบว่า ราคาไม่ได้ต่างกัน เป็น 3 เท่า อย่างที่ปรากฏในไทย


ต้องยอมรับเยอรมันจริงๆ ในเรื่องฝีมือด้านยานยนต์ ซึ่งก็ไม่ใช่ญาติฝ่ายใดของผมทั้งสิ้น

แต่โดยจิตวิทยา ใครใช้รถอะไร ก็มักจะเชียร์แต่รถที่ตนเองใช้เป็นธรรมดา

ผมกำลังจะตอบแนวนี้เลยครับว่าทำไมพูดเรื่องราคา! คือราคาที่มันแพงโคตรพ่อตาแม่ยายพวกเราอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะนักการเมืองที่มีธุรกิจเป็นผู้ผลิตอะไหล่ให้โตโยต้า ฮอนด้า นั่นแหละกีดกันทุกวิธี ช่วยให้รถทางฝั่งยุโรปหรือฟากไกลที่ไม่ใช่จากญี่ปุ่น หรือรถนำเข้ามีราคาถูกไล่เลี่ยกัน คุณบอกราคาได้ไง ทั้งๆที่ประเทศอื่นๆแทบทั้งโลกมันถูกกว่า ไม่ว่าจะยี่ห้อไหน

เข้าใจได้อยู่ว่าให้รถทางญี่ปุ่นถูก เพราะผลิตในไทยแทบทั้งหมด เป็นการช่วยด้านกำแพงภาษี เพราะถ้าคุณไปอยู่อเมริกา หรือยุโรป ก็จะเป็นรถจากญี่ปุ่นที่ราคาแพง แต่คือมันไม่ได้แพงแบบทุเรศทุรังเท่าบ้านเราไงครับ

เรื่องราคาเลิกพูดเถอะ ผมว่าไม่เกี่ยว คนยุโรปเขาขับรถยุโรป เพราะราคาไม่แพง แล้วก็เห็นๆคุณภาพกันอยู่ ส่วนคนยุโรปที่ขับรถญี่ปุ่นกันจริงๆ ก็ต้องรักในแบรนด์เขาจริงๆมากกว่า

รถ GM  Ford ของฝั่งอเมริกา คนที่โน่นขับกันเยอะแยะ

รถ BMW หรือ Porsche หรือ Mercedes รุ่น C-Segment ของเขา ราคาเริ่มต้นคันละ 7 แสน 8 แสน เขาก็ขับกัน ล้อกะทะธรรมดาด้วยซ้ำครับ

เมื่อปีก่อน มีคนตั้งกระทู้เรื่องทำนองนี้ มีท่านนึงกล่าวว่าเทคโนโลยีไฮบริด ปอเช่มีมาก่อนโตโยต้าตั้งนานด้วยซ้ำ
และรถญี่ปุ่นอย่าง Lexus ก็ไม่เห็นมีอะไรดีเท่า ปอเช่ หรือ ออดี้

ปรากฎว่า สมาชิก HLM 90% รุมด่าท่านนั้น หาว่า อคติกับรถญี่ปุ่น ด่าไปเรื่อย สาดเสียเทเสีย แต่จนแล้วจนรอด ไม่เห็นมีใครมีปัญญาตอบได้สักคน
ว่าสุดท้ายแล้ว Lexus มีอะไรสู้รถอย่าง Audi BMW ได้ครับ
- เครื่องยนต์ ?
- ช่วงล่าง ?
- สมรรถนะ ?

ผมจำได้ดีว่า แม้แต่พี่จิมมี่ ก็ไม่ได้ตอบ บอกเพียงแต่ให้ไปอ่านรีวิวเอาเอง

สำหรับผม Lexus สู้ได้อย่างดีก็ได้แค่วัสดุในห้องโดยสาร  ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับ คนที่บอกว่ารถญี่ปุ่นถ้าเงินเท่ากัน ดีกว่ารถยุโรปนั่น ดีกว่ากันตรงส่วนไหนเหรอครับ (เอาส่วนที่เป็น เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมนะครับ วัสดุ การออกแบบห้องโดยสาร ศิลปะในรถอะไรพวกนั้นไม่เอา)

ถ้าญี่ปุ่นเจ๋งกว่ายุโรปจริง ทำไม Bugatti Veyron ไม่ใช้ยางที่ญี่ปุ่นพัฒนาล่ะครับ? แล้วทำไมญี่ปุ่นต้องเอารถยุโรปเป็น Benchmark?

อันนี้แอบอยากพูดนานละ

แบรนด์ Lexus ขายดีจริงครับใน USA แต่สำหรับผมก็อีกอ่ะ ไม่ใช่มีเงินถึงซื้อ แต่ต้องมีปัญญาด้วย (นี่ผมแอบด่านะ ไปคิดต่อเอาเอง) ผมยอมรับว่าชอบรถเยอรมันมาก ส่วน Lexus มันดี ดีมาก น่าใช้ สวย น่านั่ง แต่จำไม่ได้ว่าเคยอ่านจากที่นี่หรือดูจากที่ไหน ว่า Lexus ชอบไปเอาข้อดีใน BMW ในMercedes ในAudi ออกมาเป็นรุ่นของตัวเอง พูดง่ายๆคือทำแก้ข้อผิดพลาด (Bugs) ในรถดีๆ เอามาทำให้รถตัวเองดี ย้ำอีกครั้งนะครับว่าผมเคยอ่านเจอมา ซึ่งผมเห็นด้วยนะ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่อันนี้ก็ความคิดผมแหละครับ อย่าหาว่าโจมตีแบรนด์หรูเครือ Toyota เลยครับ ผมแค่ไม่ชอบ แบบมีเหตุผลก็เพราะพวกรถยุ่นเมืองไทย ทำรถออกมาเอาเปรียบพวกเราเกินไป

อาจเป็นเพราะกฎหมายด้วยมั้ง จะขายรถใน USA ได้ ต้องมีอุปกรณ์โน่นนี่นั่น ประมาณว่าตัวท๊อปให้ใช้ แต่ในเวอร์ชั่นพิเศษเมืองไทยเท่านั้น มีภายนอกทุกอย่าง โคตรเท่ห์ แต่รถบางและไม่มีอุปกรณ์ความปลอดภัยเลย น่าเกลียดเกินครับ

ถ้าว่าทำไมผมถึง แอนตี้ขนาดนี้ ก็เพราะผมเคยเห็นกับตาผมเองตอนพี่สาวลูกพี่ลูกน้อง ใช้ Accord Cupe' อยู่ที่อเมริกา ถนนลื่นเพราะหิมะเกาะเป็นน้ำแข็ง รถพลิกคว่ำ แล้วโดนรถบรรทุก แนว Transformer นั่นแหละชนใส่อีกต่อ ไม่รู้มุมไหนยังไง รถยุบ เละ แต่โครงสร้างรถดี ไม่เปลี่ยนรูปเลย พี่สาวผมแค่ช้ำ ไม่มีอะไรอันตราย  หรือ  อีกกรณีคือที่อเมริกาเหมือนกัน รถ Camry กับ Audi ชนใส่กัน โครงสร้างตัวรถ เสียหายไล่กัน คือมันหนาเท่าๆกันเลย  (ที่พูดมานี่คือ ตอนนั้นประมาณ ประถม 6 มันคงทำให้พอมาเมืองไทย เจอรถบางๆถึงฝังใจไปเลยครับ)

หรืออีกอย่าง ถ้าหลายท่านจำได้ ก็อย่างที่ผมเคยเล่า ว่ารถ Honda City จอดซ้อนคันอยู่ เราก็เดินมาเข็น รถแม่มก็ด๊านนนหนักชิบ เราก็ออกแรง ออกแรงไปออกแรงมา รถบุบเข้าไป อ่าวเว้ยเฮ้ย! เดินหนีดีกว่า ^^

นี่แหละครับประสบการณ์ ผมไม่ชอบรถยุ่น ตอนนี้ผมก็ใช้รถ Ford เพราะกำลังเก็บเงินแต่งงาน แล้วใช้รถให้เต็มที่ค่อยไต่เต้าคว้า BMW มาให้ได้ ก็อย่างที่หลายท่านพูด Ford เป็นรถดี แต่ไม่น่าใช้ ผมก็คงบอก รถยุ่นในไทยไม่เคยน่าใช้และน่าซื้อ ถ้าไม่ทำให้ดีเท่าที่ตัวเองขายในเมืองนอก

-จบ-


ขอโทษที่ไถลไปไกลนะครับ  ถ้าจะตอบจากกระทู้ว่าเพราะอะไร  ผมขอออกความเห็นว่า มันก็คงเป็นเพราะเทคโนโลยี ทั้งการค้นคว้า หรือลงทุนพัฒนาแหละ ผมเชื่อว่าเอเชียเราฉลาดโคตรๆ แต่บางทีฝรั่งเขาก็ฉลาด และมีเงินลงทุนวิจัย พัฒนามากกว่า ถึงผลิตแทบทุกอย่างออกมาให้เราใช้ได้

รถญี่ปุ่นก็เอาเทคโนโลยีเขามาใช้ แต่บางทีพวกรถยุโรปก็เอาเทคโนโลยียุ่นไปใช้ครับ แค่ทางแรกเยอะกว่าเท่านั้นเอง  ;D

เห็นด้วยที่สุดเลยครับ

ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,672
    • อีเมล์
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 22:51:06 »
Positioning และ ราคา ที่ต่างกัน ทำให้ บางอย่างสู้ไม่ได้ครับ
ลองคิดง่ายๆว่า ถ้า toyota ทำ altis หรือ honda ทำ civic ออกมา ให้ขับดีเท่า bmw F10 แต่ราคา พอๆ กับ F10 แล้วจะมีกี่คนที่ซื้อ altis หรือ civic
นั้นละครับ คือคำตอบว่า position ของรถในตลาด มันต่างกลุ่มกันครับ
Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

ออฟไลน์ Zahnarzt

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 280
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 22:52:50 »
ผมว่า เค้ามีการพัฒนาไปกันคนละด้านครับ

เช่น ถ้าผมจะผลิตของมาขายอย่างหนึ่ง แต่รู้ทั้งรู้อยู่ว่ามีอีกเจ้าเค้า พัฒนามาก่อนหน้าเราแล้ว ถ้าเราจะไปพัฒนาตามหลังแล้วเมื่อไหร่จะทัน เจ้าเก่าเค้าก็ไม่ได้หยุดนิ่ง แล้วของผมคงจะขายได้ไม่ดีแน่ ผมก็ต้องพัฒนาจุดอื่น อาจจะไปพัฒนาการตลาด กระจายแหล่งขาย อื่นๆ เพื่อจะได้ให้ผู้บริโภคหันมาซื้อของผม แต่ก็แน่นอนถ้าเปรียบเทียบคุณสมบัติที่เจ้าเก่าเค้าพัฒนาไว้ก่อนแล้ว อาจจะดีไม่เท่า ซึ่งก็มีผู้ซื้อบางคนให้ความสำคัญกับส่วนนั้น และแน่นอนว่าผู้ซื้อกลุ่มนี้ก็จะไม่ซื้อของๆผม แต่ถ้าผู้ซื้อบางกลุ่มมองเห็นจุดเด่นของสินค้าผม เค้าก็อุดหนุนผมสักวัน

* เช่น Sumsung กับ Apple ก็มีการพัฒนาจุดเด่น จุดขายที่ไม่เหมือนกัน

คหสต.

ออฟไลน์ XyteBlaster

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,292
    • อีเมล์
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 22:57:38 »
ที่เมืองนอก  VW Golf , Civic , Mazda3 ราคาพอ ๆ กันนะครับ

ผมว่าราคาไม่ใช่ที่สุดของคำตอบ

แต่มันอยู่ที่ประสบการณ์อย่างที่ความเห็นข้างบนได้บอกไว้ครับ

ออฟไลน์ holahola66

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,797
    • อีเมล์
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 23:06:19 »
.
.
.
Lexus เคยลองใช้เจอที่กดกระจกไฟฟ้าเหมือนใน toyota เด๊ะ
และอีกหลายๆชิ้นส่วนก็คือ toyota วัสดุคนละเรื่องกับ bm กับ mb เลย
แต่ขายราคาพอๆกัน บางรุ่นแพงกว่าเยอะอีกตะหาก

เรื่องเทคโนโลยีถ้าฮึดๆก็คงพอสู้ได้ แต่โดยภาพรวมก็สู้ไม่ได้อยู่ดี
เพราลักษณะการใช้รถของแต่ละประเทศต่างกัน
คนญี่ปุ่นคิดว่ากับรถไม่ต้องใช้ของดีมาก เพราะรถยิ่งเก่าภาษียิ่งแพง
สู้ใช้แล้วทิ้งเปลี่ยนคันใหม่ดีกว่า ส่วนคันเก่าๆ(สำหรับเค้า)
ก็มาอยู่บ้านเราที่เซียงกง อีกอย่างคนญี่ปุ่นไม่ค่อยขับรถกันไกลๆ
เพราะค่าผ่านทางระหว่างจังหวัดแพงมาก ส่วนใหญ่ไปต่างจังหวัด
นั่งรถไฟสะดวกกว่า รถก็เลยจะมีแต่รถเล็กๆให้เลือกเยอะ
เพราะคนนิยมกว่า

ส่วนยุโรปใช้รถกัน 10-20 ปีมีเยอะแยะ อะไหล่รถเก่าๆก็เยอะ
ถนนก็ยาวขับหากันได้ทั้งทวีป รถก็เลยต้องดีและต้องปลอดภัยมาก
เพราะคนใช้ขับทางไกลกันเยอะ ทางโค้งขึ้นเขาลงเขา
คุณภาพของรถเลยต้องจัดเต็ม แค่พื้นฐานแค่นี้ก็ต่างกันแล้ว




+1 เลยครับ ผมชอบความเห็นนี้ สร้างรถตามการใช้งานของผู้บริโภคส่วนใหญ่ครับ
Mercedes C-Class W205 CDI
BMW 116i f20
Honda Civic EG 3door D16a turbo MT
Nissan March 1.2 cvt

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 23:10:09 »
ผมว่า เค้ามีการพัฒนาไปกันคนละด้านครับ

เช่น ถ้าผมจะผลิตของมาขายอย่างหนึ่ง แต่รู้ทั้งรู้อยู่ว่ามีอีกเจ้าเค้า พัฒนามาก่อนหน้าเราแล้ว ถ้าเราจะไปพัฒนาตามหลังแล้วเมื่อไหร่จะทัน เจ้าเก่าเค้าก็ไม่ได้หยุดนิ่ง แล้วของผมคงจะขายได้ไม่ดีแน่ ผมก็ต้องพัฒนาจุดอื่น อาจจะไปพัฒนาการตลาด กระจายแหล่งขาย อื่นๆ เพื่อจะได้ให้ผู้บริโภคหันมาซื้อของผม แต่ก็แน่นอนถ้าเปรียบเทียบคุณสมบัติที่เจ้าเก่าเค้าพัฒนาไว้ก่อนแล้ว อาจจะดีไม่เท่า ซึ่งก็มีผู้ซื้อบางคนให้ความสำคัญกับส่วนนั้น และแน่นอนว่าผู้ซื้อกลุ่มนี้ก็จะไม่ซื้อของๆผม แต่ถ้าผู้ซื้อบางกลุ่มมองเห็นจุดเด่นของสินค้าผม เค้าก็อุดหนุนผมสักวัน

* เช่น Sumsung กับ Apple ก็มีการพัฒนาจุดเด่น จุดขายที่ไม่เหมือนกัน

คหสต.
เห็นด้วยครับ นั่นเป็นเหตุที่เขามีการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกัน Win-Win ไม่ต้องพัฒนาใหม่เอง  ผมว่าทางญี่ปุ่นอาจจะสู้ได้ในแง่การประกอบ คุณภาพวัสดุ เหมือนดังเช่นที่ Lexus ถูกจัดให้เป็นรถที่มีภายในยอดเยี่ยม

ญี่ปุ่นอาจจะเก่งในหลายๆด้าน แต่ถ้าในแค่สมรรถนะการขับขี่ล้วนๆ ผมว่ายังไงตอนนี้ก็ยังสู้ยุโรปไม่ได้แน่นอน Golf Fabia พวกนี้ก็น่าจะทำให้เห็นได้ชัดแล้วครับ เพราะสองคันนี้มันก็ถูกวางตำแหน่งเป็นแค่รถบ้านๆธรรมดา แต่มันดันแพงในบ้านเราเพราะเรื่องภาษี แค่นั้นเลย อาจารย์ผมเป็นคนฝรั่งเศส ฐานะปานกลางยังพูดเลยว่า Volk คุ้มค่าที่สุด ขับดีกว่ารถญี่ปุ่นเยอะ

ออฟไลน์ ceberos

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 779
    • อีเมล์
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 23:11:18 »
สิ่งเดียวที่ญี่ปุ่นชนะ คือ เครื่องถ่ายเอกสาร ผมเห็นฝรั่งก็ยังต้องใช้ของ แบรนด์ญี่ปุ่น ^^ เครื่องถ่ายเอกสารชาติอื่นก็มี แต่ก็หมดอายุขัยไปซะก่อน  ;D

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 23:12:22 »
ผมว่า,,, ตลาด คนละกลุ่ม, มวยคนละทาง ก็เก่งไปคนละแบบ

ประมาณว่า,,, โยนเงินให้ 2 แสน, เยอรมัน คงสร้างรถที่ดีได้แพ้ญี่ปุ่น
....แต่พอ,,, โยนเงินให้ 2 ล้าน, ญี่ปุ่น คงสร้างรถที่ดีสู้เยอรมันไม่ได้

ออฟไลน์ Tonaka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,706
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 23:16:11 »
ผมกลับมองว่า ช่วงหลังๆ แนวทางในการพัฒนารถ ไม่ว่ารถจากฝั่งอเมริกาก็ดี ยุโรปก็ดี  แนวทางการลดต้นทุนของตน ก็เริ่มตามญี่ปุ่นมาทั้งนั้น

ผมกำลังคิดว่ารถในอนาคตคงไม่ทนทานเท่ากับรถในอดีตหรอกครับ  เพราะอายุการใช้งานของมันมีแต่สั้นลงๆ

สำหรับเหตุผลที่ว่าทำไมรถยุโรปทำไมไม่ทน  ส่วนตัวคิดว่าสภาพอากาศบ้านเรานี่แหล่ะปราบเซียนดีๆนี่เองครับ


ในส่วนตามหัวข้อกระทู้นั้น  ผมมีอีกมุมมองนึงคือสภาพถนนและการใช้รถในญี่ปุ่นและเยอรมันคงต่างกันสิ้นเชิง (ผมยังไม่เคยไปเยอรมันมาก่อน)  และถ้าเทียบแค่รถสมันก่อน รถแต่ละฝั่งก็คงพัฒนาโดยอิงจากถนนของบ้านตนเองเป็นหลักซะมากกว่าครับ ผลเลยเป็นแบบนี้  

แต่ถ้ามองในยุคปัจจุบันและอนาคตผมคิดว่าต่างก็ปรับแนวทางการพัฒนาเข้าหาจุดเดียวกันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 17, 2013, 23:17:44 โดย Tonaka »
阿蘇山

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 23:21:16 »
อยากให้โดนข้อหาเหยียดสัญชาติมากๆครับ แต่เสียดายเมืองไทยไม่มี
ถ้าสู้ไม่ได้จริงๆ GT-R คงไม่ทำรอบชนะพอร์ชหางตกกลับบ้านหรอกครับ

ออฟไลน์ erosa

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 165
    • New Navara 2014
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 23:34:37 »
อยากลองรถยุโรปเหมือนกันครับ
ขับขี่มีน้ำใจ ปลอดภัยทุกคน  อัลเมร่ารถไฮบริด

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: เมษายน 17, 2013, 23:38:26 »
สิ่งเดียวที่ญี่ปุ่นชนะ คือ เครื่องถ่ายเอกสาร ผมเห็นฝรั่งก็ยังต้องใช้ของ แบรนด์ญี่ปุ่น ^^ เครื่องถ่ายเอกสารชาติอื่นก็มี แต่ก็หมดอายุขัยไปซะก่อน  ;D
Canon ชิมิฮะ 555+ ;D

ออฟไลน์ dusitmon123

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 642
    • อีเมล์
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 00:13:32 »
เค้าไม่ทำหรือเปล่าครับ ไม่ใช่สู้ไม่ได้

ผมว่าถ้าจะทำแข่งกันจริงๆ เยอรมันนั่นล่ะสู้ไม่ได้ วัศดุอะไรทุกอย่างเนี่ย มันก็คือๆกันแหล่ะครับ ใส่ของเทพๆ ตั้งใจจูนสะหน่อย ก็เทพขึ้นเยอะแล้ว

แต่สายการผลิต แนวคิดการทำโรงงาน และอีกหลายๆอย่าง ญี่ปุ่นเหนือกว่าเยอะ

อย่างที่หลายๆคนบอก GTR เป็นตัวอย่างที่ดี แม้แต่ Hybrid ถ้าตั้งใจทำ มันก็สู้ได้ครับ

ออฟไลน์ baddream11

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 792
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 00:28:38 »
รถมันคือเครื่องจักรชนิดนึง เรื่องเครื่องจักรนั้นเยอรมันมีความชำนาญที่สุดอยู่แล้ว
เค้าพัฒนาต่อยอดกันมานาน งานด้านวิศวกรรมคนเยอรมันเก่งมาก โดยภาพรวม
ทั้งหมดของรถผมมองว่ารถเยอรมันนำหน้ารถญี่ปุ่นอยู่ก้าวนึง ::)

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 00:32:14 »
สิ่งเดียวที่ญี่ปุ่นชนะ คือ เครื่องถ่ายเอกสาร ผมเห็นฝรั่งก็ยังต้องใช้ของ แบรนด์ญี่ปุ่น ^^ เครื่องถ่ายเอกสารชาติอื่นก็มี แต่ก็หมดอายุขัยไปซะก่อน  ;D

xerox ตอนนี้เป็นลูกครึ่งนะครับ เพราะถูกฟูจิซื้อไป

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 01:10:08 »
ปัจจุบัน  dual-vvti E เหนือกว่า double vanos ของ bmw นะ (E ฉงวนไว้เฉพาะ Lexus) หรือแม้แต่  d4-s เป็นระบบเหนือกว่าฉีดตรงของหลายๆค่ายซะอีก เพราะมีทั้ง direct และ indirect ในหนึ่งสูบและแน่นอนว่าเฉพาะพรีเมี่ยมของโตเท่านั้น


อีกตัวอย่างนึงเห็นง่ายๆเลย รถปีเท่ากัน ทำไม benz volvo bmw ต่างพากันลงเครื่อง jz sr กันเป็นแถวเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 18, 2013, 01:14:13 โดย Alcatraz »

ออฟไลน์ Tyde

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 501
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 01:13:58 »
สิ่งเดียวที่ญี่ปุ่นชนะ คือ เครื่องถ่ายเอกสาร ผมเห็นฝรั่งก็ยังต้องใช้ของ แบรนด์ญี่ปุ่น ^^ เครื่องถ่ายเอกสารชาติอื่นก็มี แต่ก็หมดอายุขัยไปซะก่อน  ;D

ไม่ใช่แค่เครื่องถ่ายเอกสารนะครับ  แอร์  ตู้เย็น  โทรทัศน์  พัดลม  เตาอบ หม้อหุงข้าว  ญี่ปุ่นก็ชนะนะ   ;D  พัดลมmitsubishiบ้านผม 10 ปีแล้วยังอยู่ดีเลย    ;D


ออฟไลน์ Parinceo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,210
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 01:30:35 »
เอาง่ายๆครับ สมัยก่อนมี VW passat อยู่คันนึง กับแคมรี่ ACV30
ขอยกอันนี้เพราะ ราคา VW กับ Toyota ในต่างประเทศราคาใกล้เคียง ไม่นับพวกพรีเมี่ยมอะไรต่างๆ
ทั้งๆที่ VW ใช้เทคโนโลยีเก่ากว่า 5-6ปี(เปิดตัว1995-1996 ของแคมรี่ 2002) แต่รู้สึกเลยครับว่าช่วงล่าง เวลาวิ่งทางไกล อะไรต่างๆแน่นกว่า เสียงปิดประตู เสียงลม ล้อ ต่างๆ
แต่ แอร์ร้อนมาก และวัสดุนานๆแล้วจะเหนียวๆ กินน้ำมันมากกกกก

ตอนนี้ก็มี BMW ที่บ้าน เลยลองสังเกตการออกแบบรถของทั้งสองประเทศดู
รถญี่ปุ่นจะเน้นความอเนกประสงค๋ คือ ช่องเก็บของต่างๆเยอะเต็มไปหมด ตัวรถจะโปร่งๆ ห้องโดยสารกว้างกว่ารถยุโรป(ในเซกเมนต์เดียวกัน) เข้าออกง่าย หลักๆคือเพื่อใช้ในเมือง

รถยุโรปเน้นการขับขี่มากกว่า คือ ช่วงล่างแน่น หนึบ ช่องเก็บของน้อย(ประมาณว่ารถมีไว้ขับ ไม่ใช่เก็บของ  ;D) ห้องโดยสารจะแน่น อึดอัดกว่า สรุปคือ เพราะวิ่งทางไกล ต้องหนึบ และปลอดภัย

ที่บอกว่า GTR สู้ได้ อันนั้นไม่เถียงครับ สู้ได้จริงๆ เป็นอย่างนึงที่ผมชอบเป็นส่วนตัวด้วย
แต่ว่า มันสร้างมาเพื่อวิ่งบนแทร็กเท่านั้น ช่วงล่างนี่ใช้จริงยากมากครับ เคยนั่งแปปนึงนี่กระเทือนตับเลยทีเดียว แต่ตอนกดนี่มันสุดๆ อ่ะครับ แปปเดียว 160 (เกินนั้นคนขับก็กลัว ผมก็กลัว ยังไงก็ยังเป็นถนนเมืองไทย  ;D)

อันที่จริงตามความเห็นผม รถเยอรมันจะเก่งเรื่องเครื่องกลมากกว่า เครื่อง ช่วงล่าง อะไรเงี้ย ที่บอกพี่โตทนๆ MB ที่เป็นแท็กซี่นี่ก็วิ่งไมล์กลับมาเยอะแยะ เครื่องเดิมๆ ช่วงล่างเดิมๆ
รถญี่ปุ่นจะเก่งเรื่อง อิเล็กโทรนิกส์ ออกรถมาปีเดียวกัน วิทยุจอขาดบ้าง เซนเซอร์รวนบ้าง ต่างๆ รถญี่ปุ่นยังทำงานปกติ สบายๆ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในฐานะของนักศึกษาวิศวกรคนนึง ขอยืนยันครับว่า เยอรมันนี่ที่ 1 ด้านวิศวกรรมจริงๆ

ปล.อ่อ แล้วที่บอกว่ารถยุโรปขับในเมืองยากนี่ไม่ใช่นะครับ ลองดูตอนนี้ก็ได้ BMW MB ขับง่ายมาก พวงมาลัยเบากว่าcamry อีก(แต่วิ่งเร็วๆมันหนักขึ้นจริงๆ) เบรกก็สมูทกว่า

ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 02:28:39 »
ปัจจุบัน  dual-vvti E เหนือกว่า double vanos ของ bmw นะ (E ฉงวนไว้เฉพาะ Lexus) หรือแม้แต่  d4-s เป็นระบบเหนือกว่าฉีดตรงของหลายๆค่ายซะอีก เพราะมีทั้ง direct และ indirect ในหนึ่งสูบและแน่นอนว่าเฉพาะพรีเมี่ยมของโตเท่านั้น


อีกตัวอย่างนึงเห็นง่ายๆเลย รถปีเท่ากัน ทำไม benz volvo bmw ต่างพากันลงเครื่อง jz sr กันเป็นแถวเลย

ผมว่าตัวอย่างนี้อ้างไม่ได้นะครับ เพราะกฏหมายญี่ปุ่นรถยิ่งเก่าภาษียิ่งแพง
คนเลยขายทิ้งซื้อใหม่คุ้มกว่า แล้วรถหรือเครื่องพวกนี้มันก็ทะลักเข้ามาบ้านเรา
ทำให้ราคามันถูก

และที่ผมมั่นใจอย่างนึงคือคนที่ซื้อ BM หรือ MB มือหนึ่ง
ไม่ค่อยมีใครนำไปวางเครื่องพวกนี้หรอกครับ ส่วนใหญ่คนที่เอาไปวาง
มักจะซื้อมือสอง มือสาม มือสี่ มาทั้งนั้น เค้าก็ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อม
เป็นธรรมดาครับ เพราะบ้านเราเครื่องญี่ปุ่นอะไหล่ยังไงก็เยอะกว่าอยู่แล้ว


ออฟไลน์ nekoyaki

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 283
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 02:59:04 »
ออกตัวก่อนนะครับว่่าคือสงสัยเป็นการส่วนตัวนะครับ ไม่ได้อคติหรือไม่ได้ไม่ชอบรถญึ่ปุ่นอะไรเป็นพิเศษ

คือจากปัจจุบันใช้รถที่ผลิตมาจากหลายประเทศละ Jap,UK,Ger สงสัยจริงๆ ว่าทำไมญี่ปุ่นผลิตรถให้เทียบเท่าเยอรมันไม่ได้
(ในเรื่องภาพรวมของการใช้งาน เครืื่อง ช่วงล่าง เทคโนโลยี)

หรือเอาสุดยอดๆของรถญี่ปุ่่นมาเทียบกับรถ top top จาก Ger นิ่ก็ยังเทียบกันยากเลย

และยิ่งเคยอ่านเจอในหนังสือคนญี่ปุ่นยังยอมรับผลิตให้ได้คุณภาพในบางเรื่องยังว่าสู้ไม่ได้
เลยสงสัยครับ เทคโนโลยีในโลกนิ่ญี่ปุ่นยังเป็นรองเยอรมันอยู่อีกเหรอครับ หรือเค้าไม่ต้องการผลิต (เพราะเรื่องการตลา่ดและราคา) หรือ เพราะมันสมอง ....

ขอบคุณครับ




ผมคิดว่า เป็นเพราะเยอรมันมี Bosch ครับ

ออฟไลน์ heinkelt14

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 71
    • อีเมล์
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 03:38:31 »
Honda ก็ทำแล้วไงครับ แบรน Acura ไง

นืสสันก็ทำแล้วไง infiniti

โตโยต้าก็ทำแล้วไง Lexas

อย่าเอามาเทียบกับรถบ้านๆที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้เลยครับ คนละตลาดกัน ชัดเจน  ไม่ใช่เอา BMW S3 มาเทียบ Civic มันไม่ใช่วิธีการเปรียบเทียบเลยครับ เอาที่มีอยู่ในปัจจุบันสิครับ

แต่ถ้ามองภาพรวมเอาแบรนสูสีมาสู้กันอย่าง  VW VS Honda   ฮอนด้าแพ้ทั้งเครื่อง + เกียร์ + ช่วงล่างชัดเจนไหมอันนี้

หรือจะเอา Lexas & Acura  ปะทะ Audi ผมว่าก็ควรจะมองออกแล้วนะครับว่าใครดีกว่าใคร

 ;D

เห็นด้วยครับ ละที่ว่าถ้าทำให้ดี พรีเมียมเหมือนกัน ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีไรดีกว่านอกจากวัสดุภายใน "บางอย่าง"

ออฟไลน์ Yeahyeahs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 856
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 03:53:17 »
อ่านกระทู้นี้ บวกกับประสบการณ์ของตัวเอง รวมถึงลักษณะของสินค้าอื่นๆนอกเหนือจากรถยนต์ของญี่ปุ่นและเยอรมัน
มันทำให้นึกขึ้นได้เลยว่า รถยนต์นี้ก็เหมือนสินค้าอื่นๆของสองประเทศนี้แหละครับ

นั่นคือ

"เรื่องวิศวกรรมต้องยกให้เยอรมัน แต่เรื่อง Product Design ญี่ปุ่นเอาไปกิน"

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,475
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 03:56:51 »
ผมเชื่อว่าไม่ถูกต้องเสมอไป แต่ผมคิดว่าเป็นที่การจับลูกค้ามากกว่า...ผมเองไม่ได้ใช้ของเยอรมัน ใช้ของญี่ปุ่น กับ ของ สวีเดน  เมื่อวานยังไปตกลงซื้อ saab 93(มือสอง) ผมว่าคุณภาพใช้ได้ (แต่ผมว่าแอร์แบค 10 ลูกนี่เวอร์ไปหน่อย...)

ออฟไลน์ DArkMaster

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 963
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 04:03:06 »
ขอเข้ามาลงชื่อดูน้าๆแลกความคิดเห็นกันอยากออกรสออกชาด ;D

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 06:59:56 »
ญี่ปุ่น เริ่มช้า แต่มั่นคงนะครับ
ณ ตอนนี้ ผมว่าไล่ๆกัน
แต่รถยุโรปยังเหนือชั้นกว่า ในด้านการขับขี่และเทคโนโลยี

แต่อย่างนึงที่ยอมรับคือด้านการผลิต ญี่ปุ่น เหนือกว่า
เพียงแต่สมรรถนะ ยังสู้ไม่ได้


ที่น่าจับตามองตอนนี้ คือ เกาหลีครับ
Sonata ขับดี ขับสนุก พอๆกับรถญี่ปุ่นที่พัฒนากันมานาน
น่าคิด

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 07:13:45 »
- LEXUS ก็เป็นรถที่พิสูจน์ได้แล้วว่าถ้าญี่ปุ่นตั้งใจจะทำจริงๆแล้วก็ขึ้นมาอยู่ข้างๆเยอรมันได้เหมือนกัน อย่าง LEXUS GS450h ทางยุโรปเอาไปทดสอบแล้วภาพรวมให้ชนะ BMW activehybrid5 LEXUS มีจุดติคือช่วงล่างที่ความเร็วสูงนุ่มไปนิดนึงนอกนั้นทุกอย่างดีหมดโดยเฉพาะระบบไฮบริด หรืออย่าง LS460 ทางยุโรปเอาไปทดสอบแล้วมันก็ขึ้นมาทาบชั้น S-Class,series 7 ได้เหมือนกัน

- ผมมองว่าจุดเด่นของรถญี่ปุ่นอีกอย่างคือมันค่อนข้าง user friendly กว่ารถยุโรปมากๆ เอาเป็นว่าใน Lexus ระบบ RTI สามารถทำความเข้าใจได้ไวกว่า i-drive และ command อย่างมาก

- ญี่ปุ่นกับเยอรมันก็แลกเทคโนโลยีกันอยู่มันแสดงให้เห็นเป็นนัยๆว่าบางอย่างญี่ปุ่นก็ทำได้ดี แต่จริงๆ2ประเทศนี้เค้าแลกกันตั้งแต่สมัย WW II โน่นแล้วนะนั่น เยอรมันเอาพิมพ์เขียวเรืออูแลกกับพิมพ์เขียวเรือบรรทุกเครื่องบินของญี่ปุ่น ได้มาเป็นเรือดำน้ำชั้น I-400 ของญี่ปุ่น กับเรือบรรทุกเครื่องบิน Grap-Zeppelin ของเยอรมัน

- ถ้าผมมีตังค์ก็ว่าจะลอง Lexus ซักคันเหมือนกันจะได้รู้ว่ามันดีหรือแย่กว่า BMW,Benz ยังไงบ้าง แต่แปลกใจอย่างนึง LEXUS ราคาตกน้อยกว่า BMW อีกนะนั่น

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: ทำไม ญี่ปุ่นทำรถสู้เยอรมันไม่ได้ครับ
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 09:29:16 »
ขึ้นอยู่กับตำแหน่งทางการตลาด ความต้องการที่จะเน้น ความถนัดในการผลิต แล้วก็ฝ่ายออกแบบของใครจะมีอำนาจสูงกว่าฝ่ายอื่นๆได้มากกว่ากัน อย่างที่หลายๆคนบอกว่าโตโยต้าฮอนด้าคือรถระดับบ้านๆ ว่ากันในไง่ของราคาทึ่ไม่มีกำแพงภาษี ถ้าจะให้ประสิทธิภาพดีเท่ายุโรประดับพรีเมี่ยมเช่นเบนซ์ไม่ใช่โฟล์คก็ต้องเพิ่มราคาขายขึ้นไปอีกซึ่งก็จะขายได้ยากเพราะสินค้าขายราคาถูกมาตลอดอยู่ๆจะมาขายแพงลูกค้าตัวเองก็ไม่ซื้อและมันขาดความเป็นพรีเมี่ยมทางการตลาด สู้รถยุโรปไม่ได้ นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเทคโนโลยีดีๆทั้งหลายถึงไปโผล่ในเล็กซัสหมด ก็เพราะเล็กซัสคือยี่ห้อระดับหรู่ทึ่ใว่เทคโนโลยีขายราคาแพงได้ต่างจากโตโยต้าที่ขายราคาแพงไม่ได้ รถญี่ปุ่นบ้านๆไม่ได้เน้นประสิทธิภาพสูงส่งอะไร แนวทางเค้าคือใช้เดินทางกันแดดกันฝนทิ้งขว้างแล้วเสียหายน้อยกว่ารถยุโีปพรีเมี่ยม เค้าก็เลยไม่ใส่อะไรมามากมายเพื่อที่ว่าจะได้มีอะไรให้เสียน้อยลง ก็เป็นตลาดกันคนละกลุ่ม เงินน้อยไม่สนใจคุณภาพก็ไปรถตลาด เงินหนาต้องการคุณภาพสูงความปลอดภัยครบก็มายุโรป แต่คนไทยดันทะลึ่งเอาแนวคิดจ่ายถูกๆซ่อมง่ายๆไปมองรถยุโรป ผลที่ออกมาเลยกลายเป็นว่ามองรถยุโรปเป็นของไม่ดีไปเสียได้ มันเลยว่าคนใช้ไม่ได้พูดคนพูดไม่ได้ใช้  :P ถ้าจะเอาเบนซ์หรือ bmw มาทำรถถูกๆเทคโนโลยีต่ำๆก็อาจจะทำออกมาได้แย่กว่ารถตลาดเพราะที่ผ่านมาเค้าทำแต่รถหรูเน้นคุณภาพมากกว่าเม็ดกำไรจากรถขายเอาปริมาณเป็นหลัก ในทางกลับกันโตโยต้าฮอนด้าเองจะให้มาทำรถหรูคุณภาพสูงเลยก็ลำบาก ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้แต่ว่าีถที่ออกแบบมาจะทำราคาได้ระดับเดียวกันกับรถยุโรปไหม ประสิทธิภาพเครืี่องกับช่วงล่างที่เพิ่มเข้ามาจะเถียงชนะฝ่ายอื่นๆจนเข็นออกมาผลิตขายจริงได้หรือเปล่า? และมีกี่คนที่ต้องการโตโยต้าฮอนด้าที่ประสิทธิภาพสูงขนาดนั้น? อย่าลืมเรืีองของภาพลักษณ์ที่สั่งสมกันมาเป็นร้อยๆปีด้วย ขนาดเล็กซัสที่เป็นยี่ห้อหรูขายมานานหลายสิบปียังไม่สามารถยืนหยัดขายได้ด้วยความหรูเลยแต่คนซื้อกันเพราะว่ามันมีความคงทนมากกว่ารถยุโรปใช้แบบทิ้งขว้างได้ มีคุณภาพเหนือกว่ารถทั่วไปต่างหาก  :P ถ้าว่ากันถึงคุณภาพที่ออกมาเพื่อชนกับรถยุโรปรถอิตาลีเพื่อประกาศศักศรีของรถญี่ปุ่นผมขอยกไว้ให้ GTR คันเดียวและหนึ่งเดียวเท่านั้นเอง  :-*  รถที่ทำออกมาแล้วมีคุณภาพใกล้เคียงหรือเหนือกว่าในบางเรื่องเมื่อเทียบกับีถที่อยู่ระดับเดียวกันแต่ราคาค่าตัวถูกกว่าเกือบครึ่ง ไม่รู้ว่ากรรมวิธิภายในของเค้าเป็นยังไง หลังจากที่วิศวะกรออกแบบมาแล้วเสนอฝ่ายอื่นๆแล้วเค้าไฟเขียวให้ผ่านหมดไม่มีจ้อโต้แย้งเลยไหม  :)
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com