เรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลมันเริ่มมาจากชีวิตสมัยเรียนม.ปลาย ที่การเดินทางไปไหนมาไหน ร้อยละร้อยไปด้วยมอเตอร์ไซค์
ร้อนๆ แดดเดือนเมษาก็ขับ, เรียนพิเศษ
ฝนตกระหว่างทางก็ขับ, อีกนิดเดียวถึงละ
หนาวๆ ก็ใส่เสื้อกัน, หรือจะไม่ไปเรียน? 555
ประสบการณ์กับสองล้อมันเริ่มมาจากตรงนั้น ดูลำบากนะ แต่มองย้อนไปมันคือรสชาติชีวิต
ขับไปเรียนพร้อมๆเพื่อน ตระเวนเรียนพิเศษสอบเอนท์ ขับเล่นๆตากอากาศกับแฟน กับเพื่อน มันก็สนุกดี
(แต่ไม่มีแข่งกันนะ!! ดักไว้ก่อน ผมรู้คุณคิดอะไรอยู่ 55555)
แน่นอนว่าแต่ละคนในกลุ่ม ก็ต้องมีความฝันว่าสักวันหนึ่งในอนาคต เราจะไปขับมอไซค์คันใหญ่ๆ ดูเท่ๆ (ตอนนั้นเรียกแบบนี้จริงๆ)
แล้วถึงวันที่รวมกลุ่มกันได้อีก เราก็จะมาขับด้วยกัน..
มาวันนี้ ผมมีวันนั้นแล้ว วันนั้นฝัน มาเป็นวันนี้ อ่ะให้อ่านอีกรอบนึงก่อนค่อยไปต่อ
เป็นที่มาของคันนี้ครับ
Harley Davidson: Forty-Eight 48
เข้าเรื่องกันเลย
ตัว 48 นี้เป็นรุ่นที่อยู่ในไลน์ Sportster ของ Harley เรียกได้ว่าเป็นรุ่นน้องเล็กของ Harley ก็ได้ครับ
เพราะ Harley จะมีหลายตระกูลอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่ Sportster คันเล็กๆ เน้นขับในเมือง Mid-Range ไปจนถึงตระกูล Touring ที่เน้นขับทางไกล สบายๆ
ชื่อรุ่น 48 นั้นได้มาจากจุดเด่นหนึ่งของรุ่นนี้เลย ซึ่งก็คือถังน้ำมัน เป็นทรง Peanut (ฝรั่งดูยังไงเป็นถั่วหว่า?)
ซึ่งถังทรงนี้นั้น ได้เริ่มใช้ในปี 1948 ครับ
*มีเรื่องตลกเล่าให้ฟัง ตอนแรกผมเข้าใจว่าชื่อ 48 เพราะเข้าไปดูสเป็คแล้วเขาเขียนว่ากินน้ำมัน 48 miles/gallon เลยอ๋อ คิดแบบนั้นตั้งนาน
แต่จริงๆ ไม่ใช่นะครับ 55555
สเป็คคร่าวๆ ของเจ้านี่ก็คือ
- เครื่อง Evolution® Engine 1200cc ระบายความร้อนด้วยอากาศ มีส่วนหัวและกระบอกสูบเป็นอะลูมิเนียมทำให้น้ำหนักเบาและระบายความร้อนได้ดี จุดระเบิดด้วยระบบหัวฉีดที่เข้ามาทดแทนคาบูเรเตอร์ที่ใช้กันมาอย่างยาวนานของฮาเล่ย์ เคลมว่าบำรุงรักษาต่ำกว่า และมีความเสถียรกว่า (แต่คนขับฮาเล่ย์รุ่นเก่าบางกลุ่มก็บอกว่าคาบูฯ นั้นให้เสียงรอบเดินเบาที่เป็นฮาเล่ย์เดวิดสันมากกว่า) และยังได้ติดตั้งระบบกันสะเทือนและยางรองแท่นเครื่องเข้าไป เพื่อแก้ปัญหาเครื่องสั่นที่เป็นปัญหาหลักที่คนบ่นกันมาก ซึ่งยางรองแท่นเครื่องนี่เพิ่งจะมาใช้เอาเมื่อตอนปี 2006 นี่เอง
- แรงบิด 98Nm ที่ 3200 รอบ/นาที (คำนวณได้ประมาณ 59 แรงม้า)
- ถังน้ำมันจุ 7.9 ลิตร (น้อยมากๆจ้า)
- อัตราบริโภคน้ำมันประมาณ 20โล/ลิตร
- น้ำหนักรวมของเหลว ประมาณ 260kg (หนักมากๆจ้า)
- เบรคหน้าเป็นแบบ Dual-Piston และหลังเป็น Single-Piston
จุดเด่นคร่าวๆ ของเจ้านี่ก็คือ
- ถังน้ำมันทรง Peanut ด้วยรูปทรงที่ให้อารมณ์เก๋าแบบเก่าๆ และยังดูร่วมสมัยในคราวเดียวกัน ทำให้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง ให้ลุคที่ดูดิบๆ (ฝรั่งเรียก Bulldog look ผมไม่รู้จะเรียกเป็นไทยว่าไงดี ฮ่าๆ) อีกทั้งการดีไซน์ให้ถังมีขนาดเล็ก เพื่อที่จะทำให้มองเห็นตัวเครื่องยนต์เด่นมากขึ้น
- ยางหน้าที่หนาๆ อ้วนๆ ขนาด 130/90/16
- แฮนด์แบบ Drag-Style, ตำแหน่งของเกจ์วัดความเร็ว และกระจกส่องหลังที่ถูกนำไปไว้ใต้แฮนด์ (ที่ไม่รู้ว่าลำบากหรือสะดวกกว่าเดิม เอาเท่ไว้ก่อน) ทำให้เมื่อมองดูแล้วรถจะดูเตี้ยมาก และยังช่วยให้ความรู้สึกว่าไม่เทอะทะมากเท่าไหร่
- เบาะที่นั่งจะเตี้ยกว่ารุ่นอื่นในตระกูล Sportster ด้วยกัน
- ตัว Shifter และเบรคจะอยู่หน้าเครื่อง ฝรั่งเรียก Forward-Control ทำให้ท่านั่งขับมัน Badass มากๆ (อีกแล้วว 55) จริงๆเหตุผลคือเพื่อให้นั่งสบายขึ้นครับ
- ไฟเลี้ยวยกเลิกอัตโนมัติ
มุมมองจากด้านหลัง
จะเห็นว่าทะเบียนอยู่ด้านข้างของรถ อันนี้เป็นเฉพาะ US Spec ครับ
ยางหลังขนาด 150/80/16
มุมมองจากด้านหน้า
ยางหน้าใหญ่ๆ ก็เท่ดีคับ แต่อ่านจากรีวิว เค้าบอกว่ามันมีผลทำให้เลี้ยวยากพอสมควรสำหรับการเลี้ยววงแคบ
ซึ่งสำหรับผมเอง มันก็จริงคับ เลี้ยวตีวงกว้างมากจนกระบะงงเลย อ่าว เลี้ยวตามกรูทำไม อะไรประมาณนี้ 555
ด้านขวาของตัวรถ
ที่เห็น ก็จะมีตัวกรองอากาศ พร้อม Tag บอกว่าข้าเนี่ย 1200cc นะเฟ้ยย
เครื่องสองสูบ V-twin สูบละ 600cc วางทำมุม 45องศา
ตรงบริเวณเสื้อสูบถูกพ่นด้วยสีดำด้าน ตัดกับสีโครเมี่ยมของ Pushrod ที่วางเป็นตัว V แสดงสัญลักษณ์ของเครื่อง V-twin
ซูมเข้าไปอีกนิด จะเห็นระบบกันสะเทือนที่ Harley เพิ่งเอามาใช้ได้ไม่กี่ปีมานี้ กับตระกูล Sportster
คือช่วยกันแรงสะเทือนจากเครื่องไปสู่ตัวถังรถ จากแต่ก่อนที่จะเชื่อมติดกันเลย
ใครมาขับก็จะบ่นว่าสั่น ขับความเร็วสูงๆ ต้องประคอง เกร็งแขนสู้ ขนาดนั้น
มาตอนนี้ไม่ละครับ ไม่สั่นเท่านั้นแล้วนะ แต่สั่นอยู่ดี 55
ถัดมาอีกหน่อย จะเป็นที่เช็คน้ำมันเครื่องคับ
เวลาเช็คก็กดเข้าไปเลย แล้วก็จะเด้งออกมา แบบนี้
ถัดลงมา ก็จะเป็นสายพานซึ่งเคลมว่าถ้าขับไม่กระโชกโฮกฮาก ยกล้อ ออกตัวล้อฟรี มันก็จะอยู่ได้ถึง 10,000ไมล์อยู่
แต่ก็ต้องเช็คสภาพเรื่อยๆคับ
อ้อมมาด้านหลัง มาดูที่ใส่ทะเบียนแบบใกล้ๆกัน ปกติก็ควรกางออกคับ มี LED สองดวงไว้ส่องป้าย ตร. จะได้มองเห็นง่ายๆ ถูกต้องตาม กม. ครับ อิอิ แต่ถ้าขับไวๆ ก็คงต้านลมพอสมควรคับ ยิ่งป้ายบ้านเรามีขนาดใหญ่ด้วยอ่ะผมว่า
มาดูมุมมองของผู้ขับกันดีกว่า
ด้านขวา มีปุ่ม Run เพื่อกดเตรียมให้หัวฉีดทำงานก่อน สตาร์ทเครื่อง หาก Run เสร็จแล้ว กดปุ่มสตาร์ทข้างๆกันได้เลย
ปุ่มด้านล่าง ก็ไฟเลี้ยวทั่วไปคับ แยกกันซ้ายขวา
ด้านซ้าย มีปุ่มไฟสูงต่ำ แตร และไฟเลี้ยวซ้ายคับ
ในกระจกมีตัวหนังสือเขียนเตือนว่า วัตถุที่เห็นอยู่ใกล้กว่าที่คุณคิดครับ ให้ระวัง
มาดูด้านซ้ายของตัวรถบ้างครับ ฝั่งนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก
กล่องด้านนี้จะสามารถเปิดออกได้คับ
เปิดออกมาจะเจอแบบนี้
เป็นที่เก็บฟิวส์ ที่วางแบตฯ
มีสายเสียบซึ่งผมเดาว่าเป็นสายเสียบต่อกับคอมพ์สำหรับจูนเครื่อง อะไรทำนองนี้
สรุปครับ
จุดด้อย หรือจุดจำต้องยอมรับ
1. ถังน้ำมันเลย จุน้อยไปมากๆ ถึงแม้จะบอกว่าเป็นรถที่ผลิตมาขับไม่ไกลมาก แต่มันน้อย เทียบกับตัว Nightster ที่จุ 12.5 ลิตร งี้ก็ขับได้สบายหน่อย
2. ความร้อน มันร้อนมากครับ ตรงนี้คิดว่าคงปรับปรุงอะไรไม่ได้แล้วล่ะ เค้าบอก ต้องร้อน ต้องสั่น ถึงเป็นฮาเล่
จุดนี้ก็ถือว่าแนะนำกันไป ว่ามันร้อนจริงๆครับ จะขับก็ใส่ขายาวเท่านั้น คนซ้อนด้วยครับ ฮ่าๆ
คนซ้อนผมให้คำนิยามไว้อย่างเจ็บปวดว่า "ถ้านับไม่นับความเท่เนี่ย ซ้อนฟิโน่สบายกว่านะ" โอ๊ยย เจ็บ 555
3. ท่านั่ง การเป็น Forward-Control ทำให้ท่านั่งดูเหมือนจะสบาย แต่ด้วยแฮนด์ที่อยู่ต่ำ ทำให้ต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเยอะ
ส่งผลให้ขับทางไกล คือเมื่อยหลังครับ ตรงเดียวเลยจริงๆ ถ้าขับสั้นๆ ในเมือง ไม่มีผลเท่าไหร่ครับ
ที่เห็นส่วนบางคนก็มีไปเปลี่ยนเป็นแฮนด์โหนสูงมาหน่อย ซึ่งก็ดี นั่งสบายขึ้นครับ พอช่วยได้ระดับนึง
แต่อย่างว่าครับ แฮนด์เดิมๆนี่แหละ Badass แล้ว 55555
4. ชิ้นส่วนต่างๆที่เป็นพลาสติก กลัวว่าจะอยู่ได้ไม่นานครับ แต่ต้องรอดูกันต่อไป เพราะลำพังความร้อนจากเครื่องมันก็เอาเรื่องอยู่ ความร้อนจากอากาศน่าจะพอทนได้ (มั้งครับ ^^)
เท่าที่ใช้มาประมาณห้าร้อยโล ลองทริปทางไกลไปแล้ว 120โล ก็เห็นเท่านี้ครับ
ขอบคุณที่ติดตามกันครับ
เกือบลืมภาพทีเด็ดครับ แหม่
กุญแจครับ กุญแจฮาเล่ย์
ซึ่งผมคิดว่ากุญแจ Wave 125R ที่ผมมีเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว มันยังดูแข็งแรงกว่าเลย 555
ปิดท้ายด้วยภาพนี้ละกัน
ทุกคนที่มีมอไซค์ ส่วนมากต้องมีแอ็คนี้
งั้นผมลองซะหน่อย แต่อยู่คนเดียวอะ ทำไงดี ตั้งเวลาเอาละกัน 555
ทาด๊าา
ทำไม?? ทำไมมันไม่เท่อ้ะ?? เหมือนคนกำลังจะตีเข่ารถซะอย่างนั้น ฮ่าๆๆ
พอดีกว่าผมเริ่มเพ้อเจ้อแล้ว
มีคำถามอะไรถามมาได้นะครับ
** ขออนุญาตเจ้าของเว็ปลงรีวิวรถสองล้อคันนี้ในเว็ปรถสี่ล้อแห่งนี้ด้วยนะครับ เนื่องจากติดตามอ่านรีวิวมานาน อยากรีวิวรถยนต์เพื่อเป็นข้อมูลเก็บไว้บ้าง แต่พอดีออกสองล้อเลยถือโอกาสนะครับ ขอบคุณครับ **