ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?  (อ่าน 27672 ครั้ง)

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 00:57:10 »
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ
ออปชั่นที่ว่ามานี้  ถ้าอยากได้จริง ในรถญี่ปุ่น มือ 1 ราคาไม่เกิน 2 ล้านมีให้ใน accord 2.4 tech  ครับ อิอิ

Volvo V40 T5 S ราคาพอๆกัน น่าจะแพงกว่านิดหน่อย ไม่ถึงแสน มีเยอะกว่าเยอะเลย Turbo ด้วยครับ  ;D
แหมคุณจขกทค่ะ รถก็คนละขนาดอะนะค่ะ  ได้อย่างเสียอย่างค่ะ   แต่รู้สึกv40  จะไม่มี sunroof  ใข่มั้ย5555

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 01:04:16 »
สมัยยุคปี 80-90 น่ะฮิตมากครับ เช่น City Turbo, Starlet Turbo รถเก๋งตัวท็อปแทบทุกยี่ห้อ ติดโบหมด (ยกเว้น Corolla ที่แหวกแนวไปหา Supercharged ใน 4A-GZE) แต่ส่วนมากไม่เข้าไทยนะครับ มีเข้ามาไม่กี่รุ่น ที่พอจำได้ก็ 200SX

แต่สมัยนั้นเทคโนโลยี turbo ของญี่ปุ่น เน้นความแรงเป็นหลัก พอถึงช่วงยุค 2002 ซึ่งมีกฎระเบียบไอเสียออกมาใหม่ รถ turbo ที่ขายตอนนั้นสอบไม่ผ่านต้องเลิกขายเยอะ เช่น Silvia, RX-7 เป็นต้น (รวมไปถึงกระบะ 1 ตันด้วย เช่น Hilux) ประกอบกับคนญี่ปุ่นหลังยุคเศรษฐกิจฟองสบู่มองรถยนต์เป็นเรื่องการเดินทางมากขึ้น ไม่เน้นความสนุก ทำให้รถ turbo เหลือแต่พวกรถเฉพาะทางอย่าง Im, Evo ส่วนกระแสหลักก็เป็นพวกเครื่อง hybrid กับรถทรงกล่องไป
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 01:07:40 »

ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งครับ
น่าสนใจกับความคิดของเจ้าของกระทู้ครับ ผมก็เคยนั่งคิดเล่นๆ ระหว่างการทำงานของสมองซีกซ้าย(เหตุผล ตรรกะ ตัวเลข การคำนวน สิ่งต่างๆที่เป็นรูปธรรมสัมผัสและวัดได้ ผมให้คำนิยามว่าสายวิทย์) และสมองข้างขวา(อารมณ์ ความรู้สึก การจินตนาการ สิ่งต่างๆที่เป็นนามธรรม สัมผัสและวัดไม่ได้ ผมขอนิยามว่าสายศิลป์)
ผมมีเพื่อนที่มีลักษณะสายวิทย์เยอะมากๆ เขาจะสนใจและใส่ใจกับตัวเลขและตรรกะต่างๆในสมองซีกซ้ายอย่างเดียวเลย และไม่สนใจและไม่เข้าใจสายศิลป์เลย

เรื่องนาฬิกา ผมว่ามันนานาจิตตังครับ ผมก็เคยคิดเหมือนกัน ถ้าจะเจาะลึกกันจริงๆ ถ้ามองแบบสมองซีกซ้ายตรรกะอย่างเดียว งั้นสมัยนี้เราก็ไม่ต้องใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารในการปลูกข้าวโพด แล้วเอาข้าวโพดมาเลี้ยงวัว แล้วเอาวัวมาทำอาหารเป็นสเต็กกิน หรือยิ่งไปกว่านั้น ไปรีดนมจากวัว แล้วเอานมวัวมาทำชีส แล้วค่อยเอาชีสไปทำอาหารกันหรอกครับ ทำไมเราไม่กินธาตุอาหารในปุ๋ยที่ใส่ไปในการปลูกข้าวโพดเพียวๆเลยล่ะ  ถ้าจะพัฒนากันจริงจัง มันทำให้เรากินธาตุอาหารพวกนั้นตรงๆได้เหมือนกัน หรือไม่ ง่ายๆก็ทำไมไม่กินข้าวโพดและอาหารพื้นฐานที่มีสารอาหารครบๆกันล่ะครับ ก็อิ่มและมีประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนกัน ก็เพราะคนเราต้องการรสชาติ ต้องการความสุขที่เกิดจากการสัมผัสทั้ง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจในที่สุด
ถ้าจะพูดไปอีกก็ ทำไมเราต้องจ่ายแพงๆเพื่อเข้าร้านอาหารหรูๆ ทั้งๆที่ร้านทั่วๆไปก็กินอิ่มเหมือนกัน (กรณีที่ว่าร้านทั่วๆไปก็บริการดี บรรยากาศดี แต่ไม่หรูหราเท่า)
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาตอบสนองความต้องการของสมองซีกขวาเราทั้งนั้นแหละครับ

อธิบายมาซะยาว ฉันใดก็ฉันนั้น การเลือกซื้อสิ่งของรวมทั้งรถยนต์ คนเราจึงมีเหตุผลไม่เหมือนกัน และมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนที่มีเหตุผลต่างกันจะไม่เข้าใจเหตุผลของกันและกัน
บางคนอาจมองแค่ตัวรถและความคุ้มค่าในตัวรถอย่างเดียว อย่างที่เจ้าของกระทู้มอง
บางคนอาจมองแค่ความสวยอย่างเดียว
บางคนอาจมองแค่เรื่องแบรนด์ ศูนย์บริการ ราคาขายต่อ
บางคนอาจมองรวมๆทุกอย่าง

อย่าลืมว่าซื้อรถ ไม่ใช่โต๊ะเก้าอี้นะครับ ซื้อมาแล้ว ต้องซ่อม ต้องมีการบำรุงรักษา และต้องอาศัยการบริการจากผู้ขาย และต้องติดต่อกันเป็นระยะเวลานานพอสมควร หลายๆคนจึงให้นำหนักความสำคัญตรงนี้เยอะพอสมควร ก็เป็นอีกเหตุผลที่ตอบคำถามเจ้าของกระทู้ได้ว่า ทำไมคนถึงซื้อรถญี่ปุ่นที่ออฟชั่นน้อยๆแต่บริการหลังการขายและชื่อชั้นแบรนด์ดี แทนที่จะซื้ออย่างอื่นที่มีออฟชันครบๆ รถดีเป็นเลิศแต่บริการหลังการขายไม่ดี ชื่อเสียเยอะ

ปุ่มกด Like อยู่ไหนเนี่ยยยยย Like เลย ชอบคำตอบนี้ มันเป็นคำตอบที่พอจะเข้าใจได้เรื่องความเป็บมนุษย์ครับ คิดอีกด้าน พวกสายศิลป์นี่ ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ค่อยยน่าคบเนอะ ท่าจะเปลือง อิอิ ล้อเล่นนะครับ  :P
ส่วนเรื่องอาหารที่ท่านว่ามา เป็นความคิดที่ดีนะครับ ผมว่าถ้าทำมาจริงก็น่าจะขายดีนะ ผมคนนึงล่ะที่ซื้อ แต่...ก็ต้องทำมาให้อร่อยนะครับ อิอิ

สมัยยุคปี 80-90 น่ะฮิตมากครับ เช่น City Turbo, Starlet Turbo รถเก๋งตัวท็อปแทบทุกยี่ห้อ ติดโบหมด (ยกเว้น Corolla ที่แหวกแนวไปหา Supercharged ใน 4A-GZE) แต่ส่วนมากไม่เข้าไทยนะครับ มีเข้ามาไม่กี่รุ่น ที่พอจำได้ก็ 200SX

แต่สมัยนั้นเทคโนโลยี turbo ของญี่ปุ่น เน้นความแรงเป็นหลัก พอถึงช่วงยุค 2002 ซึ่งมีกฎระเบียบไอเสียออกมาใหม่ รถ turbo ที่ขายตอนนั้นสอบไม่ผ่านต้องเลิกขายเยอะ เช่น Silvia, RX-7 เป็นต้น (รวมไปถึงกระบะ 1 ตันด้วย เช่น Hilux) ประกอบกับคนญี่ปุ่นหลังยุคเศรษฐกิจฟองสบู่มองรถยนต์เป็นเรื่องการเดินทางมากขึ้น ไม่เน้นความสนุก ทำให้รถ turbo เหลือแต่พวกรถเฉพาะทางอย่าง Im, Evo ส่วนกระแสหลักก็เป็นพวกเครื่อง hybrid กับรถทรงกล่องไป

นี่สิคำตอบของคำถามของจริง ขอบคุณมากๆครับ เข้าใจละครับ กดไลค์เบยยยยย อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 09, 2013, 01:17:45 โดย kwancanoe »

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 01:07:56 »
ค่ายยุโรปที่บอกเค้าเป็นตลาด พรีเมี่ยมอะครับ เทคโนโลยีมีอะไรใส่มาก่อนเพราะต้นทุนสูงกว่า ส่วนตลาด Mass ก็คงต้องรอก่อน

ซึ่งก็ไม่นานแล้วเพราะ FordEcoboost ก็กำลังจะมาแล้วครับ 7 แสนกว่าๆ 1.0 ติด Turbo ก็จะมาดูกันว่าจะขายได้ไหม

ถ้าขายดีเหมือน Ford เมืองนอก ค่ายญี่ปุ่นก็คงจะทำบ้างแหละ แต่ผมว่ายาก เพราะ คนไทยยังใช้ CC มาจำกัดประเภทรถอยู่เลย :-\

คงต้องทำให้ความเชื่อเรื่อง CC หมดไปก่อนครับ

"เฟียสต้าอะไรเครื่อง 1.0 จะวิ่งออกไหมเนี่ย" "1.0 ทำไมแพงกว่า1.6อีก ขายได้ไง บ้าเปล่า" "เทอโบอะไรทำไรได้ เอามาทำไม" คำถามประมาณนี้เซลคงจะต้องเป็นผู้ตอบคำถามต่อไป

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 01:11:38 »
ค่ายยุโรปที่บอกเค้าเป็นตลาด พรีเมี่ยมอะครับ เทคโนโลยีมีอะไรใส่มาก่อนเพราะต้นทุนสูงกว่า ส่วนตลาด Mass ก็คงต้องรอก่อน

ซึ่งก็ไม่นานแล้วเพราะ FordEcoboost ก็กำลังจะมาแล้วครับ 7 แสนกว่าๆ 1.0 ติด Turbo ก็จะมาดูกันว่าจะขายได้ไหม

ถ้าขายดีเหมือน Ford เมืองนอก ค่ายญี่ปุ่นก็คงจะทำบ้างแหละ แต่ผมว่ายาก เพราะ คนไทยยังใช้ CC มาจำกัดประเภทรถอยู่เลย :-\

คงต้องทำให้ความเชื่อเรื่อง CC หมดไปก่อนครับ

"เฟียสต้าอะไรเครื่อง 1.0 จะวิ่งออกไหมเนี่ย" "1.0 ทำไมแพงกว่า1.6อีก ขายได้ไง บ้าเปล่า" "เทอโบอะไรทำไรได้ เอามาทำไม" คำถามประมาณนี้เซลคงจะต้องเป็นผู้ตอบคำถามต่อไป

ถ้าไม่ติดเรื่องผมจะต้องมีรถได้คันเดียวนะ(ก็มีโอกาสจะซื้อได้ไม่บ่อยนัก เอาทั้งทีต้องเอาให้ดีจริง) ผมคงจะรอสอยเฟียส์ต้าคันนี้แหละครับ ติดแต่คันมันเล็กไปนิสนึง

ออฟไลน์ NoomTG

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 94
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 01:14:20 »
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ
ออปชั่นที่ว่ามานี้  ถ้าอยากได้จริง ในรถญี่ปุ่น มือ 1 ราคาไม่เกิน 2 ล้านมีให้ใน accord 2.4 tech  ครับ อิอิ

Volvo V40 T5 S ราคาพอๆกัน น่าจะแพงกว่านิดหน่อย ไม่ถึงแสน มีเยอะกว่าเยอะเลย Turbo ด้วยครับ  ;D
แหมคุณจขกทค่ะ รถก็คนละขนาดอะนะค่ะ  ได้อย่างเสียอย่างค่ะ   แต่รู้สึกv40  จะไม่มี sunroof  ใข่มั้ย5555

ขอเสริมอีกอย่างครับ ราคาขายต่อ ตกอวบจนแทบอยากจะร้องครับ

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 01:17:25 »
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ
ออปชั่นที่ว่ามานี้  ถ้าอยากได้จริง ในรถญี่ปุ่น มือ 1 ราคาไม่เกิน 2 ล้านมีให้ใน accord 2.4 tech  ครับ อิอิ

Volvo V40 T5 S ราคาพอๆกัน น่าจะแพงกว่านิดหน่อย ไม่ถึงแสน มีเยอะกว่าเยอะเลย Turbo ด้วยครับ  ;D
แหมคุณจขกทค่ะ รถก็คนละขนาดอะนะค่ะ  ได้อย่างเสียอย่างค่ะ   แต่รู้สึกv40  จะไม่มี sunroof  ใข่มั้ย5555

ขอเสริมอีกอย่างครับ ราคาขายต่อ ตกอวบจนแทบอยากจะร้องครับ
อ่วมพอกันอะคับ บอกเลย แต่ Volvo อ่วมกว่าหน่อยนึง :-\

Stroke8

  • บุคคลทั่วไป
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 01:20:24 »
ทำไม Mercedes Benz E63 AMG (ปี 2009) ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ?
ทำไม Volkswagen Golf R32 ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ?
ทำไม BMW 330i E90 ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ?
ทำไม Volvo XC90 3.2 ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ?
ทำไม Peugeot 208 VTi ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ?
ทำไม Volkswagen up! ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ?
ทำไม Audi S4 ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ? อ๋อ ใช่ มันมีซุปเปอร์ชาจเจอร์มาให้ ของที่ทำให้รถเปลืองน้ำมันกว่าปกติ เล่นๆ
W114 ของผมก็ไม่มีเทอร์โบเหมือนกัน อืดชิบหาย

รถยุโรปพวกนี้ไม่มีเทอร์โบมาให้ซักคันครับ แต่ทุกคันก็ยังเป็นรถที่ดีอยู่นะครับ

ปัญหาหนึ่งของรถเทอร์โบคือ สุดท้ายแล้ว พอคุณเหยียบใช้แรงม้าที่มีให้เมื่อไหร่ มันก็ไม่ได้ประหยัดเสียเท่าไหร่เลยครับ เปลืองกว่ารถเครื่องใหญ่ในบางกรณี และส่วนมากจะเปลืองกว่าค่าที่บริษัทรถแต่ละแห่งอ้างไว้ สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ ... เทอร์โบไม่ใช่สิ่งที่จะเอามานับว่ารถคันไหนมันจะดีกว่ารถคันไหนครับ เทอร์โบมันก็แค่อุปกรณ์อย่างหนึ่งซึ่งบริษัทรถเอามาเสริมกลบบางสิ่งบางอย่างที่ตนไม่มีไว้ อย่าไปยึดติดกับมันมาก ไฮบริดก็เหมือนกันครับ จุดประสงค์เดียวกัน แต่ว่าเจ๋งไม่เท่ากับเทอร์โบ เท่านั้นเอง ;D

ออฟไลน์ Ty ESC

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,786
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 02:16:54 »
งั้นขอถามก่อนว่า Turboดียังไง
และรถไม่มีTurboไม่ดียังไง

เคยขับรถ167ม้า 2300ccเทียบกับ170ม้า1800ccมีเทอโบมั้ย
และเคยขับ150ม้าเครื่อง1800บนตัวถัง1200กิโลมั้ย

เข้าใจเรื่องกราฟแรงม้าแรงบิดรูปพาวเวอแบนและเข้าใจว่ามันส่งผลอย่างไรกับการตอบสนองการขับขี่

ลองหาประวัติของรถยุคต่างๆของญี่ปุ่นและยุโรปเทียบกับราคาค่าน้ำมันและกฏหมายมลภาวะกันดู
และสุดท้ายลองไปหารถแบบต่างๆขับดูก่อนที่จะตัดสินจากค่าในกระดาษ

โดยส่วนตัวผมขอเครื่องใหญ่ ดีกว่าเทอโบครับ
และพบว่าเส้นทางและนิสัยการขับของผมขับเทอโบไม่ประหยัดกว่า
เครื่องnaดูแลง่ายกว่าสึกหรอน้อยกว่าในระยะยาวด้วย

ลองหาอ่านดูดีๆนะครับว่าสรุปแล้วเครืีองเล็กอัดเทอโบนี่ประหยัดกว่าจริงหรือช่วยแค่มลภาวะ?

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 02:20:40 »
งั้นขอถามก่อนว่า Turboดียังไง
และรถไม่มีTurboไม่ดียังไง

เคยขับรถ167ม้า 2300ccเทียบกับ170ม้า1800ccมีเทอโบมั้ย
และเคยขับ150ม้าเครื่อง1800บนตัวถัง1200กิโลมั้ย

เข้าใจเรื่องกราฟแรงม้าแรงบิดรูปพาวเวอแบนและเข้าใจว่ามันส่งผลอย่างไรกับการตอบสนองการขับขี่

ลองหาประวัติของรถยุคต่างๆของญี่ปุ่นและยุโรปเทียบกับราคาค่าน้ำมันและกฏหมายมลภาวะกันดู
และสุดท้ายลองไปหารถแบบต่างๆขับดูก่อนที่จะตัดสินจากค่าในกระดาษ

โดยส่วนตัวผมขอเครื่องใหญ่ ดีกว่าเทอโบครับ
และพบว่าเส้นทางและนิสัยการขับของผมขับเทอโบไม่ประหยัดกว่า
เครื่องnaดูแลง่ายกว่าสึกหรอน้อยกว่าในระยะยาวด้วย

ลองหาอ่านดูดีๆนะครับว่าสรุปแล้วเครืีองเล็กอัดเทอโบนี่ประหยัดกว่าจริงหรือช่วยแค่มลภาวะ?


ก็ไม่เคยไงครับถึงได้ถาม ถ้าเคยแล้วจะถามทำไมครับ หาทางเน็ทกับอ่านในกระดาษมันก็ไม่เคยเหมือนกันครับผม ดังนั้นถ้าคุณรู้ก็โปรดช่วยชี้แนะด้วยครับ ไม่น่าจะมาถามย้อนกันนะครับ  ;) ;D

ออฟไลน์ Ty ESC

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,786
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 02:43:27 »
ถ้าคุณอยากได้คำตอบตรงๆของคำถามว่าทำไมรุญี่ปุ่นไม่ใส่turbo

คำตอบคือ เพราะไม่จำเป็น

แต่ถ้าอยากรู้ว่าทำไมมันถึงไม่จำเป็น

ก็ลองหาข้อมูลด้านที่ผมบอกไปครับว่า
ข้อดีข้อเสียของรถna/turbo/hybrid/supercharge/rotaryต่างกันอย่างไร

แล้วถ้าอยากหาว่าอะไรเหมาะกับคุณ
คงต้องไปลองเองเพราะไม่มีใครรู้หรือตอบได้ว่าคุณจะชอบแบบไหน

ข้อมูลรีวิวของเวปนี้ก็มีให้เทียบเยอะแล้วครับ
รถบางรุ่นมีทดสอบหลายเครื่องบนตัวถังเดียวกันเปรียบเทียบให้ดู
มีเทียบในรถขนาดเท่าๆกันรุ่นอื่นๆด้วตัวเลขบางอันแย้งกับความเชื่อก็มี

ออฟไลน์ Mongrun

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 32
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 03:54:51 »
ท่าน Ty ESC ตอบถูกใจผมนะ
เพราะเรื่องอย่างงี้มันเปนเรื่องของอารมณ์การขับขี่ด้วย
บางคนว่าturboมันกว่า บางคนก้อชอบna
เพราะฉะนั้นมันต้องมีสินค้ามารองรับกลุ่มลูกค้านั้นๆ
จขกท อาจอยู่ในกลุ่มชอบ turbo ก้อไปตามนั้นเลยครับ

แนวทางพัฒนารถแต่ละบริษัทมันไม่เหมือนกัน
โบกับไม่โบมันมีข้อดีข้อเสียของมัน อยากรู้ก้อศึกษาจริงจังเลยครับ
ฟังแต่คนอื่นพูดเราก้อไม่รู้ว่าเค้ามั่วรึป่าว
ไม่ลองไม่รู้  ;D ;D ;D

ออฟไลน์ Mongrun

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 32
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 04:01:21 »
อ้ออีกอย่าง การพัฒนาเครื่องยนต์ na ให้มีสมรรถนะเทียบเท่า turbo
ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลพอๆกับturbo อะแหละ
เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าใช้รถ na มันจะไม่คุ้ม หรือว่าขาดทุนนะครับ

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 04:03:48 »
ท่าน Ty ESC ตอบถูกใจผมนะ
เพราะเรื่องอย่างงี้มันเปนเรื่องของอารมณ์การขับขี่ด้วย
บางคนว่าturboมันกว่า บางคนก้อชอบna
เพราะฉะนั้นมันต้องมีสินค้ามารองรับกลุ่มลูกค้านั้นๆ
จขกท อาจอยู่ในกลุ่มชอบ turbo ก้อไปตามนั้นเลยครับ

แนวทางพัฒนารถแต่ละบริษัทมันไม่เหมือนกัน
โบกับไม่โบมันมีข้อดีข้อเสียของมัน อยากรู้ก้อศึกษาจริงจังเลยครับ
ฟังแต่คนอื่นพูดเราก้อไม่รู้ว่าเค้ามั่วรึป่าว
ไม่ลองไม่รู้  ;D ;D ;D


คือ...ผมไม่ได้บอกว่าชอบ Turbo ครับ เพราะผมไม่เคยขับครับ แต่ผมพูดถึงเรื่องของความคุ้มค่าครับ ขอให้เข้าใจในประเด็ดนี้นะครับผม

ส่วนเรื่องประหยัดน้ำมันนั้น 320d E90 16.44 km/l 320d F30 20.68 km/l ไม่ใช่ Hybrid อืม.... ตัวเลขนี้ไม่ประหยัดเหรอครับ ผมยังไม่เห็นรถ NA ที่แรงพอกันที่ไม่ใช่ Hybrid คันไหนประหยัดเท่านี้เลยครับผม หรือมีแล้วผมไม่รู้ ช่วยบอกหน่อยครับผม

ออฟไลน์ Mongrun

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 32
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 04:59:45 »
"ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?" นี่คือคำตอบที่ผมตอบคำถาม จขกท ผมก้อบอกอยู่ว่า

เพราะเรื่องอย่างงี้มันเปนเรื่องของอารมณ์การขับขี่ด้วย
บางคนว่าturboมันกว่า บางคนก้อชอบna
เพราะฉะนั้นมันต้องมีสินค้ามารองรับกลุ่มลูกค้านั้นๆ

แล้วก้อ

อ้ออีกอย่าง การพัฒนาเครื่องยนต์ na ให้มีสมรรถนะเทียบเท่า turbo
ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลพอๆกับturbo อะแหละ
เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าใช้รถ na มันจะไม่คุ้ม หรือว่าขาดทุนนะครับ

เพราะงั้นจึงขอถามความคิดเห็นส่วนตัวของท่าน จขกท ว่า ทำไมถึงคิดว่ารถไม่มี turbo ไม่คุ้มละครับ
อันนี้เปล่าถามย้อนนะครับ ขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นความรู้ เผื่อผมพลาดอะไรไป

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 05:06:41 »
"ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?" นี่คือคำตอบที่ผมตอบคำถาม จขกท ผมก้อบอกอยู่ว่า

เพราะเรื่องอย่างงี้มันเปนเรื่องของอารมณ์การขับขี่ด้วย
บางคนว่าturboมันกว่า บางคนก้อชอบna
เพราะฉะนั้นมันต้องมีสินค้ามารองรับกลุ่มลูกค้านั้นๆ

แล้วก้อ

อ้ออีกอย่าง การพัฒนาเครื่องยนต์ na ให้มีสมรรถนะเทียบเท่า turbo
ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลพอๆกับturbo อะแหละ
เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าใช้รถ na มันจะไม่คุ้ม หรือว่าขาดทุนนะครับ

เพราะงั้นจึงขอถามความคิดเห็นส่วนตัวของท่าน จขกท ว่า ทำไมถึงคิดว่ารถไม่มี turbo ไม่คุ้มละครับ
อันนี้เปล่าถามย้อนนะครับ ขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นความรู้ เผื่อผมพลาดอะไรไป

ก็ 1 อย่าง 10 บาท กับ 2 อย่าง 10 บาท อันไหนมันน่าจะดูคุ้มกว่ากันล่ะครับ เราจะไม่ถกกันละว่า 1 อย่างวัสดุมันอาจจะดีกว่าก็ได้ เพราะ ณ ที่นี้มันไม่ใช่แน่ๆ
แล้วก็ผมเห็น Solution ของทางฝั่งยุโรปหรือเมกาที่จะประหยัดน้ำมันก็จะใช้วิธีลดความใหญ่ของกระบอกสูบแล้วใส่ Turbo หรือแม้แต่จะเป็น Turbo + Hybrid เข้าไปทั้งนั้น แล้วผลมันก็ออกมาน่าพอใจทีเดียว

ผมว่าผมคิดง่ายๆพื้นๆนะครับ

ออฟไลน์ jumpon77

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,372
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 07:34:03 »
ตอบเลยครับมันมีครับเครีองเทอร์โบมาปลายยุค70เท่าทีผมรู้มาก็มีมิชูบิชิ กาแลนท์ ชิกม่าเครีอง2.0เทอร์โบครับ
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008 Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003

ออฟไลน์ nudragon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,871
  • MT Mania!!
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 07:40:20 »
ทำรถออกมากลางๆ ขายคนกลางๆ ที่ตลาดกลางๆ  ;D

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 07:49:34 »
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

ย้อนไป 40 กว่าปีก่อนน่าจะได้มั้ง
เข้าใจว่า รถที่ญี่ปุ่น แต่ก่อน ก็โบกันกระจายครับ สำหรับ รถแนว รถแข่ง พวก Subaru EVO รถใหญ่
Turbo ลูกควายๆ ที่ถูกใส่เข้าไป ก็เพื่อเพิ่ม แรงม้า และ ความแรงในตัวรถครับ ถูกติดตั้งในรถ แนวรถแข่ง
ใครก็รู้ รถ tirbo ควาย แดกน้ำมันแค่ไหน แล้ว น้ำมันญี่ปุ่นแพง ๆ ทั้งนั้น
แต่มันมีจุดเปลี่ยน ตรงที่ ญี่ปุ่น เริ่มควบคุม แรงม้า และ อัตราความประหยัด คนแทบไม่ใช้รถใหญ่ ๆ แรงๆ กัน
คนญี่ปุ่น ยุคใหม่ ไม่จำเป็นต้องใช้รถใหญ่ ๆ ควายๆ รถขายดีแค่รถเล็ก ๆ  NA มันตอบโจทน์ได้ เพียงพอ
ซึ่ง Turbo มันไม่จำเป็นสำหรับ คนญี่ปุ่นเลย
ค่ายรถ ญี่ปุ่น ทำตลาด เพื่อทำกำไรครับ NA มันก็ขายได้ มันจะใส่ไปทำไม
เหมือน Toyota นั่นหลาะ
แข่งกันติด Turbo ในกะบะ เพราะ เมิงก็ติด กูก็ติด ติดแล้วเครื่องเล็กลงประหยัดได้
แต่ เก๋ง ตลาด ทั่วไป ไม่ได้ใส่มา เมิงไม่ใส่กูก็ไม่ใส่

แต่ Turbo เพื่อความประหยัด มันมาเริ่มแถวๆ รถ กะบะ บ้านเรานี่เหลาะครับ
ลูกเล็ก ๆ ต้นมาไว ช่วยเรื่องแรงบิดโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องใหญ่ๆ

แต่ ฝรั่ง เปลี่ยนความคิดจาก Turbo เพือแรงอย่างเดียว เป็นเริ่มมาเป็นประหยัดและเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มเทคโนโลยี
ญี่ปุ่น บอกกูไม่สน รถคนละตลาด กูแข่งกันแค่พวกกู  เก๋งญี่ปุ่นไม่ติด กูก็ไม่ติด ทำไฮบริดประหยัดกว่าอีก ทำไฮบริดดีกว่า

ไปลอง เหยียบ ดีเซล Turbo เต็มๆ โครตแดกน้ำมัน เลยครับ คนละเรื่องกับขับ 80-100 เลย
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 09, 2013, 07:52:43 โดย mamaman »

ออฟไลน์ onbit40

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 215
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 08:13:26 »
การตลาดน่ะผมว่า บ้านเรามีภาษี 220 ม้า ถ้าเครื่อง 2.0 อัดโบเข้าไปก็แรงเกินพิกัดอีก

 บ ญี่ปุ่นก็มองออกแล้วว่า จะต้องหารถมาขายยังไง

ในเมื่อในไทย ตลาด mass production เน้นอยู่ที่รถญี่ปุ่น ซ่อมถูก ซ่อมง่าย ไม่จุกจิก ตรงนี้ ทางฝั่งญี่ปุ่นคงไม่อยากเปลียนอะไรแล้ว และคงทำอย่างนี้ต่อไปจนกว่า ส่วนแบ่งการตลาดจะตกไปอยู่ฝาก ยุโรป

พวกยุโรปมาขายรถในบ้านเรา ถ้าจะขายได้ก็ต้องงัดไม้ตายมาใช้  ;D

ออฟไลน์ keamglad

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 08:17:10 »
คหสต นะครับ
ผมว่าที่รถญี่ปุ่นใช้ n/a กันเพราะเรื่องราคาและความจุกจิกครับ คือถ้าใส่หอยเข้าไปราคามันจะโดดไปเทียบชั้นรถสปอรต์ หรูๆ ของยุโรป ซึ่งคนส่วนใหญ่ถ้ารถระดับเดียวกัน อาจจะมองภาษีรถยุโรปดีกว่า


ส่วนความชอบ ผมชอบเทอโบ นะ ส่วนตัวจริงๆไม่ค่อยชอบรถ N/a ไม่ค่อยชอบลากรอบ มันเหนื่อย บางทีงเสียงเครื่องมันลากรอบแล้วเราเหนื่อยไปกะมัน

ออฟไลน์ gresailda

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 36
  • Emission Analytiker
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 09:23:01 »
"ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?" นี่คือคำตอบที่ผมตอบคำถาม จขกท ผมก้อบอกอยู่ว่า

เพราะเรื่องอย่างงี้มันเปนเรื่องของอารมณ์การขับขี่ด้วย
บางคนว่าturboมันกว่า บางคนก้อชอบna
เพราะฉะนั้นมันต้องมีสินค้ามารองรับกลุ่มลูกค้านั้นๆ

แล้วก้อ

อ้ออีกอย่าง การพัฒนาเครื่องยนต์ na ให้มีสมรรถนะเทียบเท่า turbo
ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลพอๆกับturbo อะแหละ
เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าใช้รถ na มันจะไม่คุ้ม หรือว่าขาดทุนนะครับ

เพราะงั้นจึงขอถามความคิดเห็นส่วนตัวของท่าน จขกท ว่า ทำไมถึงคิดว่ารถไม่มี turbo ไม่คุ้มละครับ
อันนี้เปล่าถามย้อนนะครับ ขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นความรู้ เผื่อผมพลาดอะไรไป

ก็ 1 อย่าง 10 บาท กับ 2 อย่าง 10 บาท อันไหนมันน่าจะดูคุ้มกว่ากันล่ะครับ เราจะไม่ถกกันละว่า 1 อย่างวัสดุมันอาจจะดีกว่าก็ได้ เพราะ ณ ที่นี้มันไม่ใช่แน่ๆ
แล้วก็ผมเห็น Solution ของทางฝั่งยุโรปหรือเมกาที่จะประหยัดน้ำมันก็จะใช้วิธีลดความใหญ่ของกระบอกสูบแล้วใส่ Turbo หรือแม้แต่จะเป็น Turbo + Hybrid เข้าไปทั้งนั้น แล้วผลมันก็ออกมาน่าพอใจทีเดียว

ผมว่าผมคิดง่ายๆพื้นๆนะครับ

การที่คุณคิดว่า 1 อย่าง 10 บาท กับ 2 อย่าง 10 บาท อันไหนมันดูคุ้มกว่านั้น
ผมอยากให้ลองมองว่ามันเป็นขนมถุึง ซึ่ง 1 อย่าง 10 บาท คุณจะได้รถที่ CC ใหญ่กว่า (ขนมห่อใหญ่)
ส่วน 2 อย่าง 10 บาท นั้นคุณจะได้รถที่ CC เล็กกว่าแต่มี เทอร์โบ (ขนมห่อเล็ก+ของเล่น)
ซึ่งทั้ง 2 กรณีนั้น มีจุดประสงค์การซื้อที่ไม่เหมือนกันครับ

แล้วอีกอย่างการที่จะทำให้เครื่องNA มีแรงม้าที่สูงหรือมีความประหยัดน้ำมันดีนั้นต้องใช้เทคโนโลยีหรือกรรมวิธีการผลิตที่ถูกคิดค้นขึ้นมามากเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ว่าบริษัทจงใจที่จะขายแต่ของเดิมๆ ยกตัวอย่างเช่น การออกแบบชิ้นส่วนต่างๆ
การลดการฝืดเคืองในระบบ การลดภาระ(โหลด)ต่างๆที่กระทำต่อเครื่องยนต์ เพราะฉะนั้นอย่าได้คิดว่าคุณภาพจะเหมือนกันเชียว และในทางกลับกันการลดขนาดเครื่องและใส่เทอร์โบนั้นก็มีค่าต้นทุนของการใส่เทอร์โบและเทคโนโลยีอื่นๆเข้าไปเหมือนกันครับ

ส่วนเรื่องความแรงนั้นถ้าคุณเทียบรถที่แรงม้าเท่ากัน คุณจะเห็นว่าเครื่องNAจะมีขนาดใหญ่กว่าเครื่องเทอร์โบ อย่างที่ผมยกตัวอย่างขั้นต้น แล้วถ้าถามว่าเครื่องNAที่มีขนาดใหญ่กว่าต้องกินน้ำมันกว่าเครื่องเล็ก+เทอร์โบเสมอไปหรือไม่นั้นผมอขอยกตัวอย่างในอเมริกาจาก EPA(Enviroment Protection Agency)
- Ford Fusion 1.6L Ecoboost 178bhp 249Nm (ขนมห่อเล็ก+ของเล่น) มีตัวเลขการกินน้ำมัน ในเมือง 10.2 ก.ม./ลิตร, นอกเมือง 15.7 ก.ม./ลิตร, เฉลี่ยรวม 11.9 ก.ม./ลิตร
- Mazda 6 2.5L Skyactiv 185bhp 250Nm (ขนมห่อใหญ่) มีตัวเลขการกินน้ำมัน ในเมือง 11.0 ก.ม./ลิตร, นอกเมือง 16.1 ก.ม./ลิตร, เฉลี่ยรวม 12.7 ก.ม./ลิตร
ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าเครื่องใหญ่ ไม่จำเป็นต้องเปลืองกว่าเสมอไปครับ และอีกอย่างคือเครื่อง NA มักให้ค่าความประหยัดน้ำมันต่างจากผลที่ทดสอบแบบนี้น้อยกว่าเครื่องเทอร์โบด้วยครับ

ส่วนเครื่องดีเซลในหัวข้อนี้ต้องยกประโยชน์ให้ เพราะยังไงเครื่องดีเซลทุกเครื่องที่ออกจากโรงงานตอนนี้ต้องติดเทอร์โบด้วยเหตุผลด้านการปล่อยมลพิษครับ
'09 Mazda 2 1.5 MZR
'09 Kia Soul 1.6 CRDI
'14 Nissan Juke 1.6 HR

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 09:51:48 »
เริ่มจากอดีตก่อนนะครับ 40กว่าปีที่แล้ว ยุโรปและญี่ปุ่นผลิตรถเทอโบมาขายแล้ว แต่สมัยก่อนใส่turboเพื่อความแรง พอยุค70น้ำมันราคาขึ้นคนเลยเอาturboออกเพื่อ

เน้นประหยัดน้ำมัน พี่jumpon77 เสนอgalant ซิกม่า เทอโบไปแล้ว ฝั่งยุโรปก็มี bmw รุ่น 2002 turbo เหมือนกันนะ แอบแรงด้วยอยู่ในยุคเดียวกัน

พอมายุคนี้ บ้านเรามีกำแพงภาษีรถน้ำเข้าคิดจาก CC.ของเครื่องและแรงม้า บ้านเราเลยเอารถยุโรปเครื่องเล็ก+เทอโบ มาเพื่อลดภาษีการน้ำเข้า แต่รถญี่ปุ่นส่วนใหญ่

ประกอบในประเทศ หรือนำเข้าจากเพื่อนบ้าน หรือเอามาจากญี่ปุ่นแต่ลดภาษีในช่วงน้ำท่วม ภา๊ษีที่คิดมันถูกกว่าการนำเข้าจากยุโรป

เลยไม่่จำเป็นต้องเอารถเทอโบมาขายเพื่อลดราคาภาษี แล้วส่วนที่ จขกท. เอารถV40 ไปเทียบกับ D-Segmentญี่ปุ่นว่าราคามันใกล้กันแต่ออพชั่นมันต่างกัน

ก็เพราะ D-Segment รถมันใหญ่กว่า และ Volvoยอดขายไม่ได้ดีเหมือนรถญี่ปุ่น

ถ้าทำตลาดแบบออพชั่นเท่ากันใครจะซื้อVolvoหละครับ มันก็เหมือนที่ Ford Fiestaอัดออพชั่นเยอะเพื่อกระตุ้นยอดขายแข่งกันรถญี่ปุ่นนั่นแหละครับ

แล้วค่าบำรุงรักษารถTurbo กับ N/A พอถึงเวลาซ่อมใหญ่ ราคาค่าซ่อมรถเทอโบมันแพงกว่ารถN/A ลองเทอโบเสียโดนไปเป็นหมื่น

เหตุผลของคนที่ซื้อรถญี่ปุ่นทั่วไปคือมาใช้แล้วประหยัด+ซ่อมง่าย ประมาณ5-7ปีที่แล้วหละมั้ง (ตัวเลขไม่ชัว) วีออสมีรุ่นเทอโบด้วย แต่ก็ไม่เห็นคนจะสนใจกันเท่าไหร่

มีแต่วัยรุ่นที่ซื้อไปใช้ัขับเล่นเพื่อความสนุก ผู้หญิงหรือคนมีอายุหน่อยเค้าไม่ได้อยากรถประเภทนี้หรอกนะครับ ไปถามบางคนยังไม่รู้จักเทอโบเลย

เพราะฉะนั้นคนที่จะเล่นรถเทอโบก็ต้องมีความรู้เรื่องรถพอสมควร หรือไม่ก็ พวกมีเงินซื้อรถหรู แต่บางคนไม่ได้อยากได้รถออพชั่นเยอะเพราะมันไม่ได้ใช้ในชีวิตจริง

ส่วนที่ว่าทำไมรถญี่ปุ่นทำรถhybrid แทนที่จะเทอโบ

1.รักโลก 2.ภาษีรถhybrid ของไทยและทั่วโลกมันถูก

ดูSeries 3 activehybrid 300กว่าม้า เครื่องใหญ่เบอเร่อ แต่พอมี hybridเท่านั้นหละ ราคาถูกเลย

แล้วรถสองคัน คันนึงมีhybrid+turbo กับ อีกคนเป็นรถ N/A ถ้าคุณภาพเท่ากันแรงม้าเท่ากันประหยัดน้ำมันพอกัน คุณจะเลือกรถhybrid+turbo อยู่หรื็อเปล่า

ผมว่าหลายคนคงไม่เลือกhybrid+turboแน่ๆ โดนค่าซ่อมทีไปไม่เป็น แสดงว่าตรรกะที่ว่า 1 อย่าง 10 บาท กับ 2 อย่าง 10 บาท มันใช้ไม่ได้

สมมุติว่า ผมไม่ชอบกินซอสมะเขือเทศ แต่พอผมไปซื้อฮอตดอก เค้าดันบีบซอสมาให้ ผมก็รู้สึกไม่ชอบ ไม่อยากกินแล้ว แสดงว่าคุณต้องดูที่คุณภาพของสินค้าด้วย

บางอย่างให้มาแต่คนซื้อไม่อยากได้ก็มี




 





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 09, 2013, 09:55:16 โดย localgame »

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 09:54:23 »
เรื่องความคุ้มค่า  มันแล้วแต่จะคิดนะครับ  เช่น  มีรถ 2 คัน  ราคาเท่ากันอัตราเร่งอะไรต่างๆ เท่ากัน  แต่คันแรก เป็น2.5ไม่มีโบ   ส่วนคันที่สอง  2.0มีโบ    บางคนก็อาจจะเลือกคันที่มีโบเพราะอยากได้อะไรที่มากกว่า   แต่บางคนก็เลือกคันที่ไม่มีโบเพราะสมรรถนะ  ก็เท่ากัน   แล้วเครื่องธรรมดาก็จุกจจิกน้อยกว่าด้วยเพราะชิ้นส่วนน้อยกว่า

ออฟไลน์ rocky55555

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 630
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 10:20:50 »
ต้องแยกก่อนระหว่าง เครื่องฉีดตรงกับเครื่องที่ฉีดเข้าท่อร่วมไอดีซึ่งมันแตกต่างกันมากๆ
รถญี่ปุ่นสมัยก่อนไม่ได้เป็นเครื่องฉีดตรงพอติดturboปัญหาที่ตามมาคือควบคุมการจ่ายน้ำมันไม่ได้เลยทำให้แรงบิดมาในรอบสูง+กับเป้าหมายคือการทำให้รถแรงอย่างเดียวไม่สนใจความประหยัด
ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันซึ่งเทคโนโลยีต่างๆเปลี่ยนไปเยอะเป้าหมายคือการประหยัดน้ำมัน
ผมเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ เครื่องยนต์ฉีดตรงติดหอยดีกว่าเยอะมากๆๆในการใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นเครื่อง2.0  tfsi ขับชิวๆกินน้ำมันเท่าเครื่อง2.0อัดหนักๆแรงเท่าเครื่อง3.5 ตรงนี้ที่ได้ใจหลายๆคน เพราะถ้าเป็นเครื่องna 3.5 ขับชิวๆยังไงมันก็กินแบบเครื่อง3.5

แต่ถ้าเน้นขับมันส์กินน้ำมันช่างมัน ก็เล่นเครื่องnaครับคนละอารมกันพวกเครื่อง 4.0ขึ้น

ส่วนเครื่องไฮบริทผมว่ามันยังไม่คุ้มในแง่วิศวกรรม ที่ต้องมาดูแลระบบไฟฟ้าเพิ่มแล้วต้องมาคอยเปลี่ยนแบตอีกรถไม่ใช่มือถือ
แบตแพงมากที่ประหยัดมา5ปีเปลี่ยนแบตทีเท่าทุนเลย(ในเมืองไทยคุ้มเรื่องภาษีรถยนต์แค่นั้นจริงๆ)

Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 10:22:31 »
ผมคิดว่าตลาดลูกค้ารถญี่ปุ่น อาจจะยังไม่ต้องการเทอร์โบ เขาจึงไม่ใส่มาให้เปลืองต้นทุน
คำถามง่ายๆที่สามารถเป็นคำตอบได้ดีที่สุดก็คือ

ถ้ารถญี่ปุ่นราคา1.5ล้าน มีเครื่องให้เลือก2แบบ
คือ 2500cc กับ 1800cc+เทอโบ คิดว่าคนส่วนมากจะเลือกอะไร
ผมเชื่อว่าคนส่วนมากเลือก cc มากกว่า ถ้าเขาจ่ายเท่ากัน

ออฟไลน์ <Sportivo>

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 182
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 10:45:13 »
ไม่ต้องคิดมากครับ รถกระบะดีเซลเมืองไทยยังมีเทอร์โบทุกรุ่น ไฮเทคกว่าด้วยปรับครีบแปรผันด้วยไฟฟ้า  ทำไมรถเก๋งจะติดมาให้ไม่ได้ เป็นเพราะไม่ยอมติดมาให้มากกว่า เนื่องจากตอนนี้ไม่จำเป็นเพราะคู่แข่งไม่ใส่เขาก็ไม่ใส่ก็ยังขายได้เป็นแสนๆคัน

ลองถ้าแนวโน้มตลาดเปลี่ยนสิครับ ถ้ารถจากยุโรปอเมริกาหันไปใช้เครื่องยนต์เล็กๆแล้วใส่เทอร์โบมาแทน แล้วเกิดเป็นที่นิยมขายดีขึ้นมา  รับรองว่ารถญี่ปุ่นก็จะทำตามแบบเดียวกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 09, 2013, 11:31:51 โดย <Sportivo> »

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 10:59:47 »
เรื่องเก่าๆผมไม่มีความรู้เลยครับ

แต่ผมคิดว่า การที่ทำสิ่งที่มันสวนทางกันแล้วมันสามารถเข้ากันได้

ผมว่ามันได้ใจ(คนส่วนใหญ่) แล้วได้ภาษีถูกลงไปอีก มันฟินสำหรับคนซื้อครับ

ได้รถแรงพอๆกับรุ่นเดิม เผลอๆแรงกว่า แต่ประหยัดน้ำมันมากกว่า ราคาพอๆกันหรือถูกกว่า

-------

ส่วนรถยุ่น ถ้ามองในตลาด Mass รถทั่วๆไป เค้าไม่จำเป็นต้องใส่มาให้เปลืองต้นทุน

เพราะคนตลาดนี้ส่วนใหญ่ ต้องการซื้อง่าย ขายคล่อง เทคโนโลยีไม่เยอะจนเกินไป ใช้ยาว

ดูอย่างรถบ้านๆเช่น Vios turbo ราคาแรงมาก คนทั่วไปไม่สนใจเลยครับ ราคาแบบนี้ถอย Altis ดีกว่าเยอะ

ส่วนตัวชอบรถ NA มากกว่าครับชอบฟิลลิ่งของมันมาก แต่ถ้าให้เลือกซื้อก็คงเลือกเครื่องเล็กเทอร์โบ

เพราะใช้แต่ใน กทม. จะเอา NA เครื่องใหญ่ก็ไม่ตอบโจทย์








ออฟไลน์ sr30dett

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 11:01:14 »
หลายเหตุผล ครับ อย่างข้างบนบอก ดูกระบะสิ การแข่งขันมันมีแรงมาเกี่ยวด้วย เมื่อก่อนไม่มี inter เดี้ยวนี้มีกันทุกรุ่น

ส่วน รถเก๋ง ผมไม่แน่ใจว่า ภาษี หรือ ด้วยมลภาวะ รึเปล่า แต่ ถ้าติดเทอร์โบต้นทุนมันเพิ่มแน่ๆ ครับ อีกอย่าง ตอนนี้มีแต่คนสนความประหยัด รถต้องใหญ่
ดูอย่าง camry 3.0 ปัจจุบัน ไม่มีขาย เพราะมันแพง

ตอนนี้ผมเห็นแค่ ford ครับ ถ้าเอา turbo มา อาจจะเปลี่ยนแปลงอนาคต ได้บ้างครับ

แต่พอมองยอดขายรถแล้ว คนส่วนใหญ่ เกียร์ ออโต้ + ประหยัด แถมรถไหลๆ ช้าๆ เทอร์โบเองอาจไม่ใช่ทางออกทีดีครับ
ส่วนที่จีน nissan pulsar มี 6mt เทอร์โบ แต่ถ้า มาเมืองไทยแพงขึ้นไปอีกแสน แค่นี้ก็ขายไม่ออกแล้วครับต่อให้มีเทอร์โบก็เถอะ

เทคโนโลยี เทอร์โบ ดีครับ แต่มันมีเหตุผล หลายอย่างที่เมืองไทยไม่ขอเลือก เข้ามาครับ

ออฟไลน์ Bier

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 152
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 11:10:28 »
ขอตอบคำถาม ว่า ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?

1.ชิ้นส่วนอุปกรณ์เยอะ น้ำหนักเพิ่ม
2.ค่าใช้จ่ายสูงและยากต่อการบำรุงรักษา
3.ค่านิยม
4.ลักษณะการใช้งาน
5.ตลาด
 
ประมาณนี้ครับ  ;)