ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ
ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ
1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง
สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน
ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ
ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งครับ
น่าสนใจกับความคิดของเจ้าของกระทู้ครับ ผมก็เคยนั่งคิดเล่นๆ ระหว่างการทำงานของสมองซีกซ้าย(เหตุผล ตรรกะ ตัวเลข การคำนวน สิ่งต่างๆที่เป็นรูปธรรมสัมผัสและวัดได้ ผมให้คำนิยามว่าสายวิทย์) และสมองข้างขวา(อารมณ์ ความรู้สึก การจินตนาการ สิ่งต่างๆที่เป็นนามธรรม สัมผัสและวัดไม่ได้ ผมขอนิยามว่าสายศิลป์)
ผมมีเพื่อนที่มีลักษณะสายวิทย์เยอะมากๆ เขาจะสนใจและใส่ใจกับตัวเลขและตรรกะต่างๆในสมองซีกซ้ายอย่างเดียวเลย และไม่สนใจและไม่เข้าใจสายศิลป์เลย
เรื่องนาฬิกา ผมว่ามันนานาจิตตังครับ ผมก็เคยคิดเหมือนกัน ถ้าจะเจาะลึกกันจริงๆ ถ้ามองแบบสมองซีกซ้ายตรรกะอย่างเดียว งั้นสมัยนี้เราก็ไม่ต้องใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารในการปลูกข้าวโพด แล้วเอาข้าวโพดมาเลี้ยงวัว แล้วเอาวัวมาทำอาหารเป็นสเต็กกิน หรือยิ่งไปกว่านั้น ไปรีดนมจากวัว แล้วเอานมวัวมาทำชีส แล้วค่อยเอาชีสไปทำอาหารกันหรอกครับ ทำไมเราไม่กินธาตุอาหารในปุ๋ยที่ใส่ไปในการปลูกข้าวโพดเพียวๆเลยล่ะ ถ้าจะพัฒนากันจริงจัง มันทำให้เรากินธาตุอาหารพวกนั้นตรงๆได้เหมือนกัน หรือไม่ ง่ายๆก็ทำไมไม่กินข้าวโพดและอาหารพื้นฐานที่มีสารอาหารครบๆกันล่ะครับ ก็อิ่มและมีประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนกัน ก็เพราะคนเราต้องการรสชาติ ต้องการความสุขที่เกิดจากการสัมผัสทั้ง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจในที่สุด
ถ้าจะพูดไปอีกก็ ทำไมเราต้องจ่ายแพงๆเพื่อเข้าร้านอาหารหรูๆ ทั้งๆที่ร้านทั่วๆไปก็กินอิ่มเหมือนกัน (กรณีที่ว่าร้านทั่วๆไปก็บริการดี บรรยากาศดี แต่ไม่หรูหราเท่า)
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาตอบสนองความต้องการของสมองซีกขวาเราทั้งนั้นแหละครับ
อธิบายมาซะยาว ฉันใดก็ฉันนั้น การเลือกซื้อสิ่งของรวมทั้งรถยนต์ คนเราจึงมีเหตุผลไม่เหมือนกัน และมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนที่มีเหตุผลต่างกันจะไม่เข้าใจเหตุผลของกันและกัน
บางคนอาจมองแค่ตัวรถและความคุ้มค่าในตัวรถอย่างเดียว อย่างที่เจ้าของกระทู้มอง
บางคนอาจมองแค่ความสวยอย่างเดียว
บางคนอาจมองแค่เรื่องแบรนด์ ศูนย์บริการ ราคาขายต่อ
บางคนอาจมองรวมๆทุกอย่าง
อย่าลืมว่าซื้อรถ ไม่ใช่โต๊ะเก้าอี้นะครับ ซื้อมาแล้ว ต้องซ่อม ต้องมีการบำรุงรักษา และต้องอาศัยการบริการจากผู้ขาย และต้องติดต่อกันเป็นระยะเวลานานพอสมควร หลายๆคนจึงให้นำหนักความสำคัญตรงนี้เยอะพอสมควร ก็เป็นอีกเหตุผลที่ตอบคำถามเจ้าของกระทู้ได้ว่า ทำไมคนถึงซื้อรถญี่ปุ่นที่ออฟชั่นน้อยๆแต่บริการหลังการขายและชื่อชั้นแบรนด์ดี แทนที่จะซื้ออย่างอื่นที่มีออฟชันครบๆ รถดีเป็นเลิศแต่บริการหลังการขายไม่ดี ชื่อเสียเยอะ