ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?  (อ่าน 27681 ครั้ง)

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
ผมสังเกตุมาสักพักละครับเพราะพึ่งจะเริ่มศึกษารถเหตุเพราะว่าจะซื้อรถเป็นของตัวเองสักที

ผมสังเกตุว่ารถราคาแพงๆจากทางญี่ปุ่นทำไมไม่ค่อยใส่ Turbo มากับรถเลยครับ Lexus ราคาตั้งแต่ 2 ล้านกว่าๆ - 10 ล้าน ก็ไม่ใส่ Toyota GT86 เป็น Sport แท้ๆก็ยังไม่ใส่ ราคาตั้ง 2.7 ล้าน Nissan 370z ก็ไม่ใส่ ราคาตั้ง 5 ล้านกว่าๆแล้วเป็นรถ Sport อีกตะหาก แต่ไปใช้เครื่องลูกสูบใหญ่ๆเอา แต่ถ้าเป็นรถยุโรป ถูกสุดก็ Peugeot 408 1.6 Turbo 1.3 ล้าน ก็มี Turbo มาแล้ว แพงขึ้นหน่อยก็ Volvo v40 นั่นก็มี ไม่ต้องพูดถึง BM, Benz, Audi หรือ Volkswagen เขามีแทบจะทุกคันทุกรุ่น

ผมอยากรู้ว่าทำไมคนจาก 2 ทวีปถึงคิดต่างกันขนาดนี้ แล้วมัน ดีกว่า/ด้อยกว่า ต่างกันอย่างไรครับ เท่าที่ผมรู้ เครื่อง Turbo รอบ 1500 - 2000 ม้าก็มาเต็มๆแล้ว กระบอกสูบก็ทำเล็กลงได้(มันก็น่าจะประหยัดกว่า) แต่ถ้าไม่มี Turbo ต้องเรียกรอบไปตั้ง 6000 - 7000 กว่าม้าจะมาเต็มๆ กระบอกสูบก็ใหญ่(ซึ่งก็น่าจะเปลืองกว่า) จะว่าเป็นเรื่องลดต้นทุนก็ไม่น่าจะใช่ เพราะราคาขายก็ไม่ได้ถูกเลย เพลอๆมีหลัก 10 ล้านให้เห็น จะบอกว่าไปเน้นนวัตกรรมด้านความปลอดภัย+ตัวถังแข็งแรง+ช่วงล่างสุดยอด อืม... ก็ไม่น่าจะใช่อีกแหละ

อันนี้ผมไม่เข้าใจจริงๆครับ รบกวนผู้รู้ช่วยให้คำตอบเป็นความรู้ติดตัวหน่อยครับผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 08, 2013, 22:48:02 โดย kwancanoe »

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 22:54:46 »
GT-R ใส่นะคับ

Vios ก็เคยใส่เอามาขาย ขายไม่ออกหละ :-\

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 22:57:30 »
GT-R ใส่นะคับ

Vios ก็เคยใส่เอามาขาย ขายไม่ออกหละ :-\

GT-R อันนั้นรู้ครับ ผมหมายถึงรถส่วนใหญ่นะครับ ผมคำนึงจากราคาที่พอๆกันครับ ในรถปกติที่คนทั่วไปขับน่ะครับ

ส่วน Vios อันนี้ผมเคยไม่รู้เลยจริงๆ

ออฟไลน์ -Anonymous-

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,428
  • Catch me if you can !!!
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:03:37 »
Lexusนั้นเค้ารักส่วนตัวของเค้าครับ เคยอ่านบอกเลยจะยังออกเครื่องไม่มีโบอีกซักพัก

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:04:11 »
ราคาเลยครับ  เพราะถ้าใส่มาราคาก็โดดไปอีก

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:05:17 »
ราคาเลยครับ  เพราะถ้าใส่มาราคาก็โดดไปอีก

แล้วทำไมยุโรปเขาทำมาราคาพอๆกันได้ครับ บางคันถูกกว่าอีก?

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,360
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:06:47 »
ทุกวันนี้เครื่องแบบ na ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปอยู่แล้วนิครับ พวกเครื่องลดความจุ ซีซีลง แล้วเพิ่ม Turbo คงยังอีกหลายปี

และแนวทางการพัฒนาก็จะเน้นมาทาง  Hybrid มากกว่า

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:08:57 »
ทุกวันนี้เครื่องแบบ na ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปอยู่แล้วนิครับ พวกเครื่องลดความจุ ซีซีลง แล้วเพิ่ม Turbo คงยังอีกหลายปี

และแนวทางการพัฒนาก็จะเน้นมาทาง  Hybrid มากกว่า

ติด Turbo + Hybrid ก็ได้ เหมือน BMW, Benz, Audi หรือ Porsche นี่ครับ

ออฟไลน์ Nlight

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 764
  • พิมพ์ผิดประจำ
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:18:22 »
Vigo , Dmax ก็ญี่ปุ่นนะครับ  ;D

ผมว่าญี่ปุ่นเน้น Hybrid กว่า แล้วเป็น Mass Hybrid ด้วย

ออฟไลน์ oryor

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 655
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:19:52 »
ญี่ปุ่นเค้าพัฒนาไปทาง Hybrid
ส่วนยุโรปก็เล่นพวกเครื่องเล็กอัดหอยกันครับ ทั้งดีเซลและเบนซิน
พัฒนากันไปคนละแนว

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:22:20 »
Vigo , Dmax ก็ญี่ปุ่นนะครับ  ;D

ผมว่าญี่ปุ่นเน้น Hybrid กว่า แล้วเป็น Mass Hybrid ด้วย

Vigo, Dmax เป็นเครื่อง Diesel นี่ครับ ก็สมควรจะติดแหละครับ ซึ่ง Diesel ที่ไหนเขาก็ต้องควรติดกันนี่ครับ

ญี่ปุ่นเค้าพัฒนาไปทาง Hybrid
ส่วนยุโรปก็เล่นพวกเครื่องเล็กอัดหอยกันครับ ทั้งดีเซลและเบนซิน
พัฒนากันไปคนละแนว


แล้วแนวไหนมัน ดีกว่าหรือด้อยกว่ากัน อย่างไร ครับ? เค้ามีเหตุผลอันสมควรเชื่อถือกันไหมครับ?


ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:26:11 »
ราคาเลยครับ  เพราะถ้าใส่มาราคาก็โดดไปอีก

แล้วทำไมยุโรปเขาทำมาราคาพอๆกันได้ครับ บางคันถูกกว่าอีก?
ตองถามว่ารุ่นไหน ยี่ห้อไหนอ่ะครับ  แล้วเอามาเทียบกัน   แต่ถ้าสมรรถนะเท่ากันผมว่าก็  Win  ทั้ง 2 ฝ่ายแหละครับ

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,360
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:28:41 »
ลองไปดู K-CAR ดูครับ เครื่องยนต์ Turbo ที่ญี่ปุ่นมีมานานมากแล้วครับ

ไหนจะ toyota supra nissan skyline gtr lancer evolution อีกหลายรุ่นเลย ลองๆหาข้อมูลดูครับ

ออฟไลน์ rut191

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,212
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:39:19 »
86เดี๋ยวจะมีโบตามมาหรือป่าว
ก็เห็นโบมีในหลายรุ่นนะแต่ส่วนใหญ่เขามีไว้เพื่อความแรงมากกว่านะและเป็นรุ่ยเพิ่มตังจากตัวปกติ
เช่นjuke k-carต่างๆ suburuหลายๆรุ่น และแต่ละตัวที่ผูกโบเพิ่มจะกินหนักกว่าปกติด้วย

ออฟไลน์ S6

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,134
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:40:49 »
รถญี่ปุ่นถ้ามีเทอร์โบจะเน้นแรงม้ามากๆไปเลย 220-500 แรงม้าขึ้นไป ราคาก็จะโดดจากภาษีแรงม้าไปมากเลย ตัวอย่าง sti รถใส่เทอร์โบราคาที่ 4 ล้าน
ถ้าไม่เน้นแรงม้า ก็ไม่รู้จะใส่เพื่ออะไร
เทอร์โบรอบมาช้านะครับ ไม่ใช่ 1500-2000 รอบ อันนั้นน่าจะเป็น supercharge นอกจากเทอร์โบใบเล็กมากอย่างที่ใช้ในเครื่องดีเซล

ออฟไลน์ Blackforlife

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 418
  • FAST IS GOOD
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:41:51 »
การตอบสนอง NA ไวกว่าครับไม่ต้องรอรอบกดแล้วมาเลย ลากรอบได้สูงๆ รถซิ่ง NA ญี่ปุ่นชอบลากรอบจัดๆ เครื่อง K20A ของ HONDA เป็นต้นนะครับ ยิ่งถ้าทำให้รถ NA ปริมาตร 1 ลิตร ให้แรงม้าได้ 100+ ม้า ถือว่าเจ๋งมากๆแล้วครับ   

BMW M3 E92 ก็ NA นะครับ  Ferrari ก็ NA

ลากรอบจัดๆได้มันก็เป็นความมันอีกแบบหนึ่งนะครับ แม้ว่าแรงไม่เท่าเทอร์โบก็ตาม
N/A  

ออฟไลน์ S6

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,134
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:43:26 »
ราคาเลยครับ  เพราะถ้าใส่มาราคาก็โดดไปอีก

แล้วทำไมยุโรปเขาทำมาราคาพอๆกันได้ครับ บางคันถูกกว่าอีก?

ดูที่ตัวเลขแรงม้า ไม่ต้องดูว่าเป็น turbo หรือ supercharge
ราคาที่ต่างกันก็มาจากตัวเลขนี้ มาคิดเป็นกำแพงภาษี
ถ้ารถยุโรปที่มีแรงม้ามากก็จะยิ่งราคาสูงมาก C63

ออฟไลน์ taokung

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:46:45 »
ผมว่าเรื่อง ระบบอัดอากาศ(turbo) รถญี่ปุ่นเขาทำมานานแล้วนะ ลองศึกษาดูครับเขาทำมาก่อนยุโรปด้วยซำ้ไปแต่ก่อนนั้นรถยุโรปหลงทางไปใช้superchrager และเน้นความจุกระบอกสูบ  สมัยนั้นยุโรปอยากแรงก็เพิ่ม cc เอา แต่ญี่ปุ่นไม่ใช่อย่างนั้นเขาเน้นเครื่องccไม่มากแล้วใช้turboช่วย
เช่น subaru mitsu toyota ผมว่าญี่ปุ่นเขาไปไกลกว่ายุโรปนะ เพียงแต่ไม่โก้หรูเท่าๆนั้นเองครับ

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:49:39 »
ราคาเลยครับ  เพราะถ้าใส่มาราคาก็โดดไปอีก

แล้วทำไมยุโรปเขาทำมาราคาพอๆกันได้ครับ บางคันถูกกว่าอีก?
ตองถามว่ารุ่นไหน ยี่ห้อไหนอ่ะครับ  แล้วเอามาเทียบกัน   แต่ถ้าสมรรถนะเท่ากันผมว่าก็  Win  ทั้ง 2 ฝ่ายแหละครับ

ลองไปดู K-CAR ดูครับ เครื่องยนต์ Turbo ที่ญี่ปุ่นมีมานานมากแล้วครับ

ไหนจะ toyota supra nissan skyline gtr lancer evolution อีกหลายรุ่นเลย ลองๆหาข้อมูลดูครับ

Lexus IS250 F Sport 3,990,000 ฿ IS 300h Hybrid 3,490,000 ฿ หรือ Toyota GT86 2,740,000 ฿ หรือ Nissan 370Z 5,300,000 ฿ และไปจนถึง Lexus LS460 Hybrid 13,580,000 ฿ ก็ยังไม่มีติด

แต่ BMW, Benz, Audi จะเอารุ่นไหนที่ไม่ติดดีกว่า เพราะพี่ท่านเล่นติดมาจะแทบทุกรุ่น ตั้งแต่ราคา 2 ล้านกว่า - 10 ล้าน จะว่าเป็น Hybrid หรือ ดู Series 3,5,7 Active Hybrid ก็เครื่อง Turbo ทั้งนั้น Citroen DS5 ตัวใหม่เป็น Diesel Turbo + Hybrid ด้วยเอ้า ราคาเกือบ 3 ล้าน หรือจะเอาเทพๆเลยก็ Porsche Panamera S E-Hybrid 9,600,000 นั่นก็เครื่อง Diesel Turbo + Hybrid ล่าสุดก็ Benz S Class ขับเองได้นั่นแหละครับ

ที่เห็นจะติด Turbo ก็จะมี ตามที่ท่าน O_o บอกเอาไว้ ซึ่งทุกรุ่นก็เป็oรุ่นในฝันของผมทั้งนั้น(เพราะผมเล่นเกมส์แข่งรถ อิอิ)และมันก็มีประมาณแค่นั้น ผมถึงใช้คำว่า"รถญี่ปุ่นไม่ค่อยใส่ Turbo" ไม่ได้บอกว่าไม่ยอมใส่เลยครับ แต่..... พวกนั้นก็ไม่ใช่รถที่เราๆท่านๆจะหาซื้อได้ในประเทศไทยครับ ดังนั้นผมขอไม่นับรวมครับ

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2013, 23:53:28 »
ผมว่าเรื่อง ระบบอัดอากาศ(turbo) รถญี่ปุ่นเขาทำมานานแล้วนะ ลองศึกษาดูครับเขาทำมาก่อนยุโรปด้วยซำ้ไปแต่ก่อนนั้นรถยุโรปหลงทางไปใช้superchrager และเน้นความจุกระบอกสูบ  สมัยนั้นยุโรปอยากแรงก็เพิ่ม cc เอา แต่ญี่ปุ่นไม่ใช่อย่างนั้นเขาเน้นเครื่องccไม่มากแล้วใช้turboช่วย
เช่น subaru mitsu toyota ผมว่าญี่ปุ่นเขาไปไกลกว่ายุโรปนะ เพียงแต่ไม่โก้หรูเท่าๆนั้นเองครับ

เรามาพูดถึงสมัยนี้กันสิครับผม แล้วทำไมสมัยนี้มันถึงกลับด้านกันล่ะครับ หรือว่าต่างละฝั่งจะมองเห็นข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ ถึงได้เปลี่ยนสลับข้างกันแบนี้?

เพราะผมจะซื้อรถสมัยนี้เนอะครับ ไม่ใช่จะย้อนยุคไปซื้อสมัยก่อน

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 00:02:38 »
ต้องดูว่า ระหว่างติดกับไม่ติดเอามาเทียบกัน  แล้วสมรรถนะเท่ากันมั้ยแคนั้นแหละครับ   ส่วนใหญ่รถ ญี่ปุ่นจะเป็น Hybrid  ครับซึ่งก็แรงพอๆกันกับรถ ยุโรป ผูก โบ  อยู่ครับแต่ด้านความรู้สึกไม่ไม่เท่า  ผวกโบอ่ะนะ   อีกอย่าง  รถ Hybrid  นี้ต้นทุนแพงกว่า  โบนะ(หรือเปล่าไม่แน่ใจ)

ออฟไลน์ Xtrail

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 139
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 00:18:23 »
คำตอบเยอะเลย..........สุดท้ายก็ลอกกันไปมา..ทางใครทางมันปนๆกัน.....ไม่แบ่งแยกเอเซียหรือยุโรป....เค้าแลกเปลี่ยนเทคโนกันด้วยซ้ำ
ถ้าตอบจริง..ก็ รถปัจจุบันเน้นประหยัดพลังงานมากขึ้น ฝรั่งคิดติดโบเพื่อประหยัด ญี่ปุ่นแรกๆก็ไม่อยากถูกหาว่าลอกมา  ก็เน้นไฮบริตไปก่อน...เดี๋ยวก็เอามาใช้เชื่อดิ

ออฟไลน์ taokung

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 00:19:29 »
การที่เล่าเรื่องในอดีตก็เพื่อชี้ให้เข้าใจในแนวทางการพัฒนา ในยุโรปและญี่ปุ่นครับ  ยุโรปเห็นข้อดีของturboก็นำมาพัฒนาต่อยอดบวกโน้นนี้นั้นเข้าไป
แต่ญี่ปุ่นเขาทำมาตั้งนานแล้ว เขาจึงไปพัฒนาเรื่องhi brid  ซึ่งจะเห็นว่าญี่ปุ่นมีการนำเอาเครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ซึ่งทำก่อนยุโรปด้วยและก็ได้
แรงบิดและแรงม้าพร้อมความประหยัดอีกด้วย  

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 00:22:51 »
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 00:26:46 »
การที่เล่าเรื่องในอดีตก็เพื่อชี้ให้เข้าใจในแนวทางการพัฒนา ในยุโรปและญี่ปุ่นครับ  ยุโรปเห็นข้อดีของturboก็นำมาพัฒนาต่อยอดบวกโน้นนี้นั้นเข้าไป
แต่ญี่ปุ่นเขาทำมาตั้งนานแล้ว เขาจึงไปพัฒนาเรื่องhi brid  ซึ่งจะเห็นว่าญี่ปุ่นมีการนำเอาเครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ซึ่งทำก่อนยุโรปด้วยและก็ได้
แรงบิดและแรงม้าพร้อมความประหยัดอีกด้วย  

ผมก็ยังไม่เข้าใจ ก็แล้วทำไมไม่ใส่มันมาทั้ง 2 อย่าง? ผมเข้าใจว่าทำ Hybrid ก่อน แต่จะดีกว่าจริงหรือไม่ อันนี้ไม่แน่ใจนัก ลองดูความสามารถของมอร์เตอร์ไฟฟ้าและแบตของ BMW Active Hybrid กับ Porsche Panamera S E-Hybrid ดูครับ ผมว่าน่าจะดูเหนือและล้ำกว่า หรือจะเป็นฝั่ง USA คือ Chevy Volt เลยเอ้า อันนั้นมอร์เตอร์แรงสุดติ่งกระดิ่งแมวเลยอ่ะ ถึงจะใช้เครื่อง NA ก็เหอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 09, 2013, 00:34:36 โดย kwancanoe »

ออฟไลน์ Xtrail

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 139
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 00:37:08 »
คำตอบกว้างตามคำถามครับ..........คำถามต้องใส่รายละเอียดเยอะๆเจาะจงยี่ห้อรุ่นมาเลยช่วงเวลาด้วย.....แล้วมาตอบกันให้ชัดเจน
นาฬิกาเข็มมีข้อดีเยอะกว่าดิจิตอลมากในการดู(ช่วง)เวลาจริงๆ........นอกนั้นอะไรก็แพ้สมาร์ทโฟน5555

ออฟไลน์ Nlight

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 764
  • พิมพ์ผิดประจำ
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 00:41:01 »
เรื่องวีโก้ผมเล่นมุขครับท่าน เห็นถามหารถยุ่นติดโบเลยจัดให้ ;D

เอาความทรงจำที่เลือนลางของผมนะ Lexus IS250 ไม่ต้องโบ ก็เร็วพอๆ 320D แล้ว Lexus ก็เลยคิดว่า แล้วไอจะต้องลงโบวให้มันยุ่งยากเพิ่มทำไม

ผมพอเข้าใจว่าทัศนคติการทำผลิตภัณฑ์ของญ๊่ปุ่นจะทำในประเทศให้ดีที่สุดก่อน นั่นก็หมายความว่า โบ อาจไม่สำคัญสำหรับการขับขี่ในญี่ปุ่น เลยไปเน้นบริดแทน รถยุ่นเลยไม่ต้องใส่โบมา เพราะเครื่อง na หรือ na hv มันเหมาะกับการใช้งานทั่วไปบนถนนญี่ปุ่นกว่าครับ

ถ้าผิดก็ขออภัยครับผมเสนอมมุมมองของผมละ  ;D

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 00:46:10 »
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ
ออปชั่นที่ว่ามานี้  ถ้าอยากได้จริง ในรถญี่ปุ่น มือ 1 ราคาไม่เกิน 2 ล้านมีให้ใน accord 2.4 tech  ครับ อิอิ

ออฟไลน์ kwancanoe

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
    • อีเมล์
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 00:49:06 »
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ
ออปชั่นที่ว่ามานี้  ถ้าอยากได้จริง ในรถญี่ปุ่น มือ 1 ราคาไม่เกิน 2 ล้านมีให้ใน accord 2.4 tech  ครับ อิอิ

Volvo V40 T5 S ราคาพอๆกัน น่าจะแพงกว่านิดหน่อย ไม่ถึงแสน มีเยอะกว่าเยอะเลย Turbo ด้วยครับ  ;D

ออฟไลน์ Mark_UK

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 311
Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2013, 00:55:14 »
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ

ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งครับ
น่าสนใจกับความคิดของเจ้าของกระทู้ครับ ผมก็เคยนั่งคิดเล่นๆ ระหว่างการทำงานของสมองซีกซ้าย(เหตุผล ตรรกะ ตัวเลข การคำนวน สิ่งต่างๆที่เป็นรูปธรรมสัมผัสและวัดได้ ผมให้คำนิยามว่าสายวิทย์) และสมองข้างขวา(อารมณ์ ความรู้สึก การจินตนาการ สิ่งต่างๆที่เป็นนามธรรม สัมผัสและวัดไม่ได้ ผมขอนิยามว่าสายศิลป์)
ผมมีเพื่อนที่มีลักษณะสายวิทย์เยอะมากๆ เขาจะสนใจและใส่ใจกับตัวเลขและตรรกะต่างๆในสมองซีกซ้ายอย่างเดียวเลย และไม่สนใจและไม่เข้าใจสายศิลป์เลย

เรื่องนาฬิกา ผมว่ามันนานาจิตตังครับ ผมก็เคยคิดเหมือนกัน ถ้าจะเจาะลึกกันจริงๆ ถ้ามองแบบสมองซีกซ้ายตรรกะอย่างเดียว งั้นสมัยนี้เราก็ไม่ต้องใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารในการปลูกข้าวโพด แล้วเอาข้าวโพดมาเลี้ยงวัว แล้วเอาวัวมาทำอาหารเป็นสเต็กกิน หรือยิ่งไปกว่านั้น ไปรีดนมจากวัว แล้วเอานมวัวมาทำชีส แล้วค่อยเอาชีสไปทำอาหารกันหรอกครับ ทำไมเราไม่กินธาตุอาหารในปุ๋ยที่ใส่ไปในการปลูกข้าวโพดเพียวๆเลยล่ะ  ถ้าจะพัฒนากันจริงจัง มันทำให้เรากินธาตุอาหารพวกนั้นตรงๆได้เหมือนกัน หรือไม่ ง่ายๆก็ทำไมไม่กินข้าวโพดและอาหารพื้นฐานที่มีสารอาหารครบๆกันล่ะครับ ก็อิ่มและมีประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนกัน ก็เพราะคนเราต้องการรสชาติ ต้องการความสุขที่เกิดจากการสัมผัสทั้ง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจในที่สุด
ถ้าจะพูดไปอีกก็ ทำไมเราต้องจ่ายแพงๆเพื่อเข้าร้านอาหารหรูๆ ทั้งๆที่ร้านทั่วๆไปก็กินอิ่มเหมือนกัน (กรณีที่ว่าร้านทั่วๆไปก็บริการดี บรรยากาศดี แต่ไม่หรูหราเท่า)
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาตอบสนองความต้องการของสมองซีกขวาเราทั้งนั้นแหละครับ

อธิบายมาซะยาว ฉันใดก็ฉันนั้น การเลือกซื้อสิ่งของรวมทั้งรถยนต์ คนเราจึงมีเหตุผลไม่เหมือนกัน และมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนที่มีเหตุผลต่างกันจะไม่เข้าใจเหตุผลของกันและกัน
บางคนอาจมองแค่ตัวรถและความคุ้มค่าในตัวรถอย่างเดียว อย่างที่เจ้าของกระทู้มอง
บางคนอาจมองแค่ความสวยอย่างเดียว
บางคนอาจมองแค่เรื่องแบรนด์ ศูนย์บริการ ราคาขายต่อ
บางคนอาจมองรวมๆทุกอย่าง

อย่าลืมว่าซื้อรถ ไม่ใช่โต๊ะเก้าอี้นะครับ ซื้อมาแล้ว ต้องซ่อม ต้องมีการบำรุงรักษา และต้องอาศัยการบริการจากผู้ขาย และต้องติดต่อกันเป็นระยะเวลานานพอสมควร หลายๆคนจึงให้นำหนักความสำคัญตรงนี้เยอะพอสมควร ก็เป็นอีกเหตุผลที่ตอบคำถามเจ้าของกระทู้ได้ว่า ทำไมคนถึงซื้อรถญี่ปุ่นที่ออฟชั่นน้อยๆแต่บริการหลังการขายและชื่อชั้นแบรนด์ดี แทนที่จะซื้ออย่างอื่นที่มีออฟชันครบๆ รถดีเป็นเลิศแต่บริการหลังการขายไม่ดี ชื่อเสียเยอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 09, 2013, 00:58:18 โดย Mark_UK »