ผู้เขียน หัวข้อ: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา  (อ่าน 30035 ครั้ง)

ออฟไลน์ suksan4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2013, 14:43:58 »


Honda Jazz Hybrid 2012 เป็นรถรุ่นแรก ได้ทดลองขับโดยเช่าบริษัท Bizcar Rental ใช้เส้นทาง เชียงใหม่ ดอยหล่อ แม่แจ่ม แม่อูคอ ขุนยวม แม่ฮ่องสอน ปาย (วนขวา)

ระยะทาง 657.7 กม. ใช้น้ำมัน จำนวน 37.2 ลิตร คิดเป็น 17.7 กม./ลิตร ขับไม่เกิน 80 กม./ชม. ใช้ Econ Mode
เครื่องยนต์รหัส LDA  และมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น MF6 ทำงานร่วมกัน

1. ท่านรู้สึกอย่างไรเมื่อขับรถ แต่ไม่มียางอะไหล่
2. ท่านคิดว่าแนวโน้ม Jazz Hybrid จะได้รับความนิยมมากขึ้นหรือไม่


ทดลองขับ Honda JAZZ HYBRID : ไม่อืดอย่างที่คิด ประหยัด 19.33 กม./ลิตร แต่ 768,000 บาท น่าซื้อ จริงเหรอ?

ออฟไลน์ suksan4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2013, 14:48:28 »
รถคันนี้ออกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 หลักไมล์ 17XXX  แบตเตอรี่ ยาง และอุปกรณ์ยังอยู่ในสภาพเดิม
เกียร์ CVT มี 6 ตำแหน่งคือ P, R, N, D, S, L การเปลี่ยนเกียร์ราบเรียบ
เมื่อออกรถ เช็นทรัลล็อกก็จะทำงานอัตโนมัติ
เกียร์ “D” ใช้ขึ้นเขาได้สบาย เกียร์ “S” ให้อัตราเร่งที่ดีเยี่ยม
พวงมาลัยแม่นยำ ความหนืดพอเหมาะในความเร็วต่ำ และความเร็วสูง
การทรงตัว และเข้าโค้งทำได้ดี แต่ไม่มี Grade Logic Control
เบรกใช้ได้ดี
เติมแก๊สโซฮอลล์ 91

รอบเครื่องยนต์ เกียร์ D และ S *

ความเร็ว 60 กม./ชม. เกียร์ D รอบเครื่อง 1,200 รอบ/นาที เกียร์ S รอบเครื่อง 2,000 รอบ/นาที
ความเร็ว 70 กม./ชม. เกียร์ D รอบเครื่อง 1,400 รอบ/นาที เกียร์ S รอบเครื่อง 2,200 รอบ/นาที
ความเร็ว 80 กม./ชม. เกียร์ D รอบเครื่อง 1,600 รอบ/นาที เกียร์ S รอบเครื่อง 2,400 รอบ/นาที
ความเร็ว 90 กม./ชม. เกียร์ D รอบเครื่อง 1,800 รอบ/นาที เกียร์ S รอบเครื่อง 2,600 รอบ/นาที
ความเร็ว 100 กม./ชม. เกียร์ D รอบเครื่อง 1,900 รอบ/นาที เกียร์ S รอบเครื่อง 2,800 รอบ/นาที
ความเร็ว 110 กม./ชม. เกียร์ D รอบเครื่อง 2,500 รอบ/นาที เกียร์ S รอบเครื่อง 3,200 รอบ/นาที

* ดูจากหน้าปัทม์ Honda Jazz Hybrid 2012


ออฟไลน์ suksan4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2013, 14:50:34 »
EV (Electric Vehicle Mode) จะมีเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น
สัญลักษณ์ใบกัญชา 3 ระดับ ให้ความรู้สึกที่ดีเมื่อสามารถทำได้ รวมทั้งไฟหน้าปัทม์ สีเขียว ฟ้า และฟ้าเข้ม


ออฟไลน์ suksan4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2013, 14:52:13 »
เลือกสไตล์การขับ

แบบที่ 1 ปกติ (D) ใช้ในเมือง และเมื่อต้องการความเร็วสูง
แบบที่ 2 Econ Mode (D) ใช้สำหรับประหยัดน้ำมัน
แบบที่ 3 เกียร์ S ใช้สำหรับแซง ขึ้นเขา ลงเขา และปิดโหมด Idling Stop

เส้นทางขึ้นเขา ใช้เกียร์ D (Econ Mode) ได้ตลอด ขณะลงเขาต้องใช้เกียร์ S  และ L เพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยเบรก ดังนั้นจะเปลืองน้ำมันมากกว่าวิ่งทางราบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 19, 2013, 14:54:37 โดย suksan4 »

ออฟไลน์ suksan4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2013, 14:55:49 »
สรุป

1. ชอบเกียร์มาก ใช้ง่าย
2. เหมาะสำหรับวิ่งทางราบในเมืองมากกว่าใช้นอกเมืองหรือขึ้นเขา ไม่เหมาะสำหรับทางลื่น เพราะไม่มีระบบการทรงตัวอัตโนมัติมาให้ อีกทั้งไม่มียางอะไหล่


ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,041
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2013, 18:01:37 »
ขอบคุณครับ เช่ามาใช้ได้คุ้มจริงๆ

1. ท่านรู้สึกอย่างไรเมื่อขับรถ แต่ไม่มียางอะไหล่
2. ท่านคิดว่าแนวโน้ม Jazz Hybrid จะได้รับความนิยมมากขึ้นหรือไม่


สำหรับข้อแรก ก็ไม่รู้สึกอะไร มีสามคันที่บ้านไม่มียางอะไหล่ หนึ่งมีชุดแปะติดรถมา สองเป็น RFT สามนี่ยางธรรมดา(ซึ่งไม่ควร) ก็ไม่ว่าครับ
2. มันก็ควรจะนิยมมากขึ้นนะครับ แต่เป็นไฮบริดแล้วอืดกว่าเดิม แถมเครื่องทำงานบ่อย ก็คงน่าหงุดหงิดเหมือนกัน

ออฟไลน์ jumpon77

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,372
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2013, 18:21:36 »
ค่าน้ำมันหมดไปเท่าไรครับ
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008 Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003

ออฟไลน์ suksan4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2013, 15:06:20 »
ขอบคุณครับ เช่ามาใช้ได้คุ้มจริงๆ

1. ท่านรู้สึกอย่างไรเมื่อขับรถ แต่ไม่มียางอะไหล่
2. ท่านคิดว่าแนวโน้ม Jazz Hybrid จะได้รับความนิยมมากขึ้นหรือไม่


สำหรับข้อแรก ก็ไม่รู้สึกอะไร มีสามคันที่บ้านไม่มียางอะไหล่ หนึ่งมีชุดแปะติดรถมา สองเป็น RFT สามนี่ยางธรรมดา(ซึ่งไม่ควร) ก็ไม่ว่าครับ
2. มันก็ควรจะนิยมมากขึ้นนะครับ แต่เป็นไฮบริดแล้วอืดกว่าเดิม แถมเครื่องทำงานบ่อย ก็คงน่าหงุดหงิดเหมือนกัน

ขอบคุณมากครับ  :)

การทำงานของระบบไฮบริด
ทำงานต่อเนื่องตลอดเวลา ตั้งแต่สตาร์ทด้วยเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมแรงเมื่อออกรถไปแล้ว แบตเตอรี่ชาร์ตไฟด้วยเครื่องยนต์ และแรงเบรก

เกียร์ CVT อัตราทด 2.526-0.421
ไม่ได้บอกว่ากี่สปีด ขณะที่รถยนต์เคลื่อนที่อย่างนิ่มนวล ไม่กระตุก จะรู้ตัวอีกทีเมื่อเครื่อง Auto Stop

ไฟหน้าจับถนนดี
เนื่องจากกระจกบานหน้าติดฟิล์ม Lamina APL 50N แสงผ่านได้ 50% บางครั้งก็ต้องเพ่งเหมือนกัน แต่กลางวันเห็นทางใสแจ๋ว และไม่ต้องใส่แว่นกันแดด จอดรถปิดกระจก 1 ชั่วโมง ยังไม่ร้อน

EV Mode มีเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้นจริงๆ แม้ว่าจะแตะคันเร่งนิ่งๆ ที่ความเร็วต่ำ ดังนั้นระดับแบตเตอรี่ไฮบริดจึงอยู่ที่ 5-6 ตลอดเวลา ทำให้ไม่ได้ประหยัดน้ำมันเท่าที่คิด

สิ่งที่ประทับใจ
1.  เครื่องยนต์ขึ้นเขาได้ต่อเนื่อง เข้าโค้งหน้าไม่ดื้อ แต่น่าจะทำให้กินน้ำมัน 25 กม./ลิตร
2. เสียงรบกวนภายใน และภายนอกน้อยมาก แอร์ออโต้ เงียบและประหยัด
3. วิ่งทางราบความเร็ว 80 กม./ชม. เครื่องยนต์งาน 1,600 รอบ/นาที ฟังเพลงได้สบาย และอาจมีใบกัญชาเต็ม 5 ต้น
4. จอดง่าย เลี้ยงวงแคบ
5. มีที่วางสัมภาระมาก โดยการพับเบาะหลัง

วิธีซ่อมยางรั่วชั่วคราว 24 ขั้นตอน (โปรดดูภาพประกอบ)
มีอุปกรณ์ติดรถมาให้ เสร็จแล้วกลับอู่ฮอนด้า เพื่อแก้ไขอีกครั้งหนึ่ง





ออฟไลน์ suksan4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2013, 15:08:15 »
ค่าน้ำมันหมดไปเท่าไรครับ

ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 91 ไป กลับ 37.2 ลิตร ค่าน้ำมัน 1,387 บาท  ;)
ปตท. แม่ฮ่องสอน 37.38 บาท/ลิตร เชียงใหม่ 37.23 บาท/ลิตร

ออฟไลน์ laempiab

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 441
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2013, 15:43:25 »
ถ้ายางรั่ว รถสตาร์ทไม่ติด ---> โทรเรียกรถสไลด์ 55

ออฟไลน์ GaB

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 273
  • #StickShiftLife
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2013, 23:13:17 »
ส่วนตัวใช้อยู่เหมือนกัน เป็นรถคันหลักในชีวิตประจำวันผมเลย แต่ส่วนใหญ่ใช้ในกทม.และชานเมือง ไหนๆก็มี User's Review ของรุ่นนี้แล้ว ผมขอแชร์หน่อยแล้วกันครับ

ขับในเมืองแฮปปี้เกือบทุกอย่าง ข้อที่ชอบ
- ประหยัดน้ำมัน (เติม E20 ตกกิโลละ 2 บาท ใช้ Econ Mode)
- กว้าง ขนของได้เยอะ และสะดวกจากการพับเบาะ
- แอร์ระบบออโต้ ทำความเย็นได้เร็วดี
- ไฟหน้า กระจังหน้า ไฟท้าย คิ้วฝาท้าย มีเอกลักษณ์ดี

ข้อที่ไม่ชอบ
- อัตราเร่งไม่ค่อยดี ต้องตั้งใจกดเต็มๆเท่านั้น ถ้าต้องการเร่งกระทันหันหรือฉุกเฉินต้องลุ้นหน่อย ถ้าคิดว่าจะแซงต้องมองให้ขาดแล้วตั้งใจกดออกไปเลย
- ช่วงล่างกับเบรกเดิมๆ หากใช้ความเร็วไม่สูง พอได้ แต่ถ้าขับเร็วมากกว่า 110-120 ควรปรับปรุง ผมปรับปรุงโดยใส่โช้ค+สปริงยี่ห้อ Modulo ของตรงรุ่น CR-Z (แต่เอามาใส่ด้วยกันได้) ทั้ง 4 ต้น ผ้าเบรกคู่หน้า National Brake รุ่น NA-P (คู่หลังเป็นดรัมเบรกเลยไม่ได้ทำอะไร) ยางหน้ากว้าง 195/55/15 ทั้ง 4 เส้น ผลลัพธ์ออกมาขับดีกว่าเดิมเยอะมาก ขับบนทางด่วนยาวๆที่ 120 แบบสบายๆ (ถ้าเดิมๆรถจะเริ่มออกอาการแล้ว)
- อุปกรณ์ติดรถมีมาให้น้อย เพราะเอาตัวรองท้อปมาทำ เช่น ไฟส่องแผนที่ ท้าวแขนฝั่งคนขับ กระจกพับไฟฟ้าที่มีในตัวท้อป SV ถูกตัดออกหมด มาตกแต่งทีหลังเองได้ก็จริงแต่มันน่าจะมีมาให้นะ

ล่าสุดเพิ่งขับไปกลับหัวหินมา โดยรวมก็โอเคครับ กินน้ำมันเฉลี่ย 18.4 กม./ล. ความเร็วแถวๆ 120 แต่ทริปก่อนหน้านี้สมัยรถยังเดิมๆไม่ได้ปรับแต่งอะไร ขับไปจันทบุรีเหนื่อยกว่านี้มาก อาการรถโคลงเคลงพาให้เมารถจริงๆ

ส่วนตัวแล้วรถดีครับ ระบบไฮบริดถึงจะด้อยกว่าโตโยต้าไปเยอะแต่ก็ตามราคา ถ้าฮอนด้าลดราคากว่านี้หน่อยนึงหรือใส่อุปกรณ์มาให้ครบๆเหมือนตัวท้อป SV ก็น่าจะขายดีกว่านี้ครับ เพราะทั้งหมดทั้งมวลนี้เลยทำให้ แจ๊ส ไฮบริด อยู่ในอันดับท้ายๆของยอดขายไปเลย 5555+

ออฟไลน์ suksan4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2013, 06:02:37 »
ถ้ายางรั่ว รถสตาร์ทไม่ติด ---> โทรเรียกรถสไลด์ 55

ใช้อุปกรณ์ปะยาง แบบตัวหนอน หรือ แบบแทงไหม พอแก้ปัญหาได้ชั่วคราว


ออฟไลน์ suksan4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2013, 06:05:06 »
ส่วนตัวใช้อยู่เหมือนกัน เป็นรถคันหลักในชีวิตประจำวันผมเลย แต่ส่วนใหญ่ใช้ในกทม.และชานเมือง ไหนๆก็มี User's Review ของรุ่นนี้แล้ว ผมขอแชร์หน่อยแล้วกันครับ

ขับในเมืองแฮปปี้เกือบทุกอย่าง ข้อที่ชอบ
- ประหยัดน้ำมัน (เติม E20 ตกกิโลละ 2 บาท ใช้ Econ Mode)
- กว้าง ขนของได้เยอะ และสะดวกจากการพับเบาะ
- แอร์ระบบออโต้ ทำความเย็นได้เร็วดี
- ไฟหน้า กระจังหน้า ไฟท้าย คิ้วฝาท้าย มีเอกลักษณ์ดี

ข้อที่ไม่ชอบ
- อัตราเร่งไม่ค่อยดี ต้องตั้งใจกดเต็มๆเท่านั้น ถ้าต้องการเร่งกระทันหันหรือฉุกเฉินต้องลุ้นหน่อย ถ้าคิดว่าจะแซงต้องมองให้ขาดแล้วตั้งใจกดออกไปเลย
- ช่วงล่างกับเบรกเดิมๆ หากใช้ความเร็วไม่สูง พอได้ แต่ถ้าขับเร็วมากกว่า 110-120 ควรปรับปรุง ผมปรับปรุงโดยใส่โช้ค+สปริงยี่ห้อ Modulo ของตรงรุ่น CR-Z (แต่เอามาใส่ด้วยกันได้) ทั้ง 4 ต้น ผ้าเบรกคู่หน้า National Brake รุ่น NA-P (คู่หลังเป็นดรัมเบรกเลยไม่ได้ทำอะไร) ยางหน้ากว้าง 195/55/15 ทั้ง 4 เส้น ผลลัพธ์ออกมาขับดีกว่าเดิมเยอะมาก ขับบนทางด่วนยาวๆที่ 120 แบบสบายๆ (ถ้าเดิมๆรถจะเริ่มออกอาการแล้ว)
- อุปกรณ์ติดรถมีมาให้น้อย เพราะเอาตัวรองท้อปมาทำ เช่น ไฟส่องแผนที่ ท้าวแขนฝั่งคนขับ กระจกพับไฟฟ้าที่มีในตัวท้อป SV ถูกตัดออกหมด มาตกแต่งทีหลังเองได้ก็จริงแต่มันน่าจะมีมาให้นะ

ล่าสุดเพิ่งขับไปกลับหัวหินมา โดยรวมก็โอเคครับ กินน้ำมันเฉลี่ย 18.4 กม./ล. ความเร็วแถวๆ 120 แต่ทริปก่อนหน้านี้สมัยรถยังเดิมๆไม่ได้ปรับแต่งอะไร ขับไปจันทบุรีเหนื่อยกว่านี้มาก อาการรถโคลงเคลงพาให้เมารถจริงๆ

ส่วนตัวแล้วรถดีครับ ระบบไฮบริดถึงจะด้อยกว่าโตโยต้าไปเยอะแต่ก็ตามราคา ถ้าฮอนด้าลดราคากว่านี้หน่อยนึงหรือใส่อุปกรณ์มาให้ครบๆเหมือนตัวท้อป SV ก็น่าจะขายดีกว่านี้ครับ เพราะทั้งหมดทั้งมวลนี้เลยทำให้ แจ๊ส ไฮบริด อยู่ในอันดับท้ายๆของยอดขายไปเลย 5555+


เยี่ยมมากครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก..

คิดว่าควรมีระบบการใช้ EV โดยผู้ขับเอง หรือให้ตัดอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่ต่ำถึงระดับ 3

เกียร์ 6 ตำแหน่ง รุ่น GP1 ไม่มี Paddle Shift
1.   การขับปกติ ใช้เกียร์ “D” โหมด “Econ”
2.   การแซงใช้ Kick down หรือเกียร์ “S”
3.   ลงเขาใช้เกียร์ “S” และ “L”

ในอนาคต ถ้ามี Paddle Shift….
1.   เมื่อขับเกียร์ “D” ลดเกียร์ได้ทันที โดยไม่ต้องโยกคันเกียร์
2.   เกียร์ “S” เลือกเปลี่ยนเกียร์ ขึ้น / ลง ได้ตามใจชอบ เหมือนขับรถเกียร์ธรรมดา (แต่ไม่ต้องเหยียบคลัช)

ท่านคิดว่า Paddle Shift มีประโยชน์มากน้อยเพียงใด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 22, 2013, 06:21:01 โดย suksan4 »

ออฟไลน์ mild-melody

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 105
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2013, 14:26:24 »
เช่าวันหล่ะเท่าไหร่คะ แพงไหม

ออฟไลน์ Dubee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,534
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2013, 15:15:56 »
เลือกสไตล์การขับ

แบบที่ 1 ปกติ (D) ใช้ในเมือง และเมื่อต้องการความเร็วสูง
แบบที่ 2 Econ Mode (D) ใช้สำหรับประหยัดน้ำมัน
แบบที่ 3 เกียร์ S ใช้สำหรับแซง ขึ้นเขา ลงเขา และปิดโหมด Idling Stop

เส้นทางขึ้นเขา ใช้เกียร์ D (Econ Mode) ได้ตลอด ขณะลงเขาต้องใช้เกียร์ S  และ L เพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยเบรก ดังนั้นจะเปลืองน้ำมันมากกว่าวิ่งทางราบ

เรื่องใช้เกียร์ต่ำเพื่อเอ้นจิ้นเบรกลงเขา (ใช้เครื่องยนต์ในการช่วยเบรก) เราเห็นรอบมันสวิงขึ้นสูงๆ แล้วคุณเข้าใจว่า "จะเปลืองน้ำมันมากกว่าวิ่งทางราบ" คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะครับ เพราะว่าตอนนั้นระบบคันเร่งไฟฟ้า(หรือคันเร่งสายในรถรุ่นเก่าๆ) จะไม่ทำงาน เพราะเราไม่ได้เหยียบคันเร่ง เพราะฉะนั้นน้ำมันที่ฉีดออกจากหัวฉีดตอนนั้นมีค่าเท่ากับรอบเครื่องเดินเบาเท่านั้นครับ

ออฟไลน์ suksan4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2013, 17:39:43 »
เช่าวันหล่ะเท่าไหร่คะ แพงไหม

ค่าเช่า 1,530 บาท Loss Damage Waiver (LDW) 214 บาท รวม 1,744 บาท/วัน
รถคันนี้ประกันชั้น 1 (ไม่จำเป็นต้องทำประกัน PAE และ TP)

สำหรับผู้เช่ารายเดือน อัตราคงจะถูกลงมากครับ

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,041
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2013, 23:20:48 »
เลือกสไตล์การขับ

แบบที่ 1 ปกติ (D) ใช้ในเมือง และเมื่อต้องการความเร็วสูง
แบบที่ 2 Econ Mode (D) ใช้สำหรับประหยัดน้ำมัน
แบบที่ 3 เกียร์ S ใช้สำหรับแซง ขึ้นเขา ลงเขา และปิดโหมด Idling Stop

เส้นทางขึ้นเขา ใช้เกียร์ D (Econ Mode) ได้ตลอด ขณะลงเขาต้องใช้เกียร์ S  และ L เพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยเบรก ดังนั้นจะเปลืองน้ำมันมากกว่าวิ่งทางราบ

เรื่องใช้เกียร์ต่ำเพื่อเอ้นจิ้นเบรกลงเขา (ใช้เครื่องยนต์ในการช่วยเบรก) เราเห็นรอบมันสวิงขึ้นสูงๆ แล้วคุณเข้าใจว่า "จะเปลืองน้ำมันมากกว่าวิ่งทางราบ" คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะครับ เพราะว่าตอนนั้นระบบคันเร่งไฟฟ้า(หรือคันเร่งสายในรถรุ่นเก่าๆ) จะไม่ทำงาน เพราะเราไม่ได้เหยียบคันเร่ง เพราะฉะนั้นน้ำมันที่ฉีดออกจากหัวฉีดตอนนั้นมีค่าเท่ากับรอบเครื่องเดินเบาเท่านั้นครับ

โดยเฉพาะกับไฮบริด ผมคิดว่ามอเตอร์ปั่นไฟเข้าแบตอิ่มเลยล่ะครับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2013, 16:21:22 »
เทียบกับตัวธรรมดาแล้ว อัตราเร่งเป็นไงครับ

ออฟไลน์ suksan4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2013, 13:15:04 »
เลือกสไตล์การขับ

แบบที่ 1 ปกติ (D) ใช้ในเมือง และเมื่อต้องการความเร็วสูง
แบบที่ 2 Econ Mode (D) ใช้สำหรับประหยัดน้ำมัน
แบบที่ 3 เกียร์ S ใช้สำหรับแซง ขึ้นเขา ลงเขา และปิดโหมด Idling Stop

เส้นทางขึ้นเขา ใช้เกียร์ D (Econ Mode) ได้ตลอด ขณะลงเขาต้องใช้เกียร์ S  และ L เพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยเบรก ดังนั้นจะเปลืองน้ำมันมากกว่าวิ่งทางราบ

เรื่องใช้เกียร์ต่ำเพื่อเอ้นจิ้นเบรกลงเขา (ใช้เครื่องยนต์ในการช่วยเบรก) เราเห็นรอบมันสวิงขึ้นสูงๆ แล้วคุณเข้าใจว่า "จะเปลืองน้ำมันมากกว่าวิ่งทางราบ" คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะครับ เพราะว่าตอนนั้นระบบคันเร่งไฟฟ้า(หรือคันเร่งสายในรถรุ่นเก่าๆ) จะไม่ทำงาน เพราะเราไม่ได้เหยียบคันเร่ง เพราะฉะนั้นน้ำมันที่ฉีดออกจากหัวฉีดตอนนั้นมีค่าเท่ากับรอบเครื่องเดินเบาเท่านั้นครับ

ขอบคุณที่กรุณาแก้ไข...
เครื่องยนต์ช่วยดึงรถเอาไว้ แต่เราไม่ได้แตะคันเร่ง จึงไม่เปลืองน้ำมัน

1. สงสัย !! เวลาเราขับรถลงเนิน แล้วใช้ เอ็นจิ้นเบรค ...http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,4199.0.html
2. เวลาใช้ engine brake นี่มันกินน้ำมันมั้ยครับ http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,27749.0.html

ออฟไลน์ Dubee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,534
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2013, 20:33:12 »
เลือกสไตล์การขับ

แบบที่ 1 ปกติ (D) ใช้ในเมือง และเมื่อต้องการความเร็วสูง
แบบที่ 2 Econ Mode (D) ใช้สำหรับประหยัดน้ำมัน
แบบที่ 3 เกียร์ S ใช้สำหรับแซง ขึ้นเขา ลงเขา และปิดโหมด Idling Stop

เส้นทางขึ้นเขา ใช้เกียร์ D (Econ Mode) ได้ตลอด ขณะลงเขาต้องใช้เกียร์ S  และ L เพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยเบรก ดังนั้นจะเปลืองน้ำมันมากกว่าวิ่งทางราบ

เรื่องใช้เกียร์ต่ำเพื่อเอ้นจิ้นเบรกลงเขา (ใช้เครื่องยนต์ในการช่วยเบรก) เราเห็นรอบมันสวิงขึ้นสูงๆ แล้วคุณเข้าใจว่า "จะเปลืองน้ำมันมากกว่าวิ่งทางราบ" คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะครับ เพราะว่าตอนนั้นระบบคันเร่งไฟฟ้า(หรือคันเร่งสายในรถรุ่นเก่าๆ) จะไม่ทำงาน เพราะเราไม่ได้เหยียบคันเร่ง เพราะฉะนั้นน้ำมันที่ฉีดออกจากหัวฉีดตอนนั้นมีค่าเท่ากับรอบเครื่องเดินเบาเท่านั้นครับ

ขอบคุณที่กรุณาแก้ไข...
เครื่องยนต์ช่วยดึงรถเอาไว้ แต่เราไม่ได้แตะคันเร่ง จึงไม่เปลืองน้ำมัน

1. สงสัย !! เวลาเราขับรถลงเนิน แล้วใช้ เอ็นจิ้นเบรค ...http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,4199.0.html
2. เวลาใช้ engine brake นี่มันกินน้ำมันมั้ยครับ http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,27749.0.html

น้อมรับฟังทุกๆความเห็นครับ (แม้กระทั้งในกระทู้ที่คุณยกมาให้ดู ในความเห็นในนั้นยังมีเห็นต่างเลย บ้างก็ว่ากินเพราะรอบขึ้นสูง บ้างก็ว่าไม่กินเพราะรอบเดินเบา ฯลฯ) ก็ว่ากันไปครับ

ออฟไลน์ menglovekai

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 98
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2013, 20:40:23 »
ถ้ายางรั่ว รถสตาร์ทไม่ติด ---> โทรเรียกรถสไลด์ 55

ใช้อุปกรณ์ปะยาง แบบตัวหนอน หรือ แบบแทงไหม พอแก้ปัญหาได้ชั่วคราว



เคยใช้หรือยัง?  ยางรถยนต์เสริมใยเหล็ก มันแทงเข้ายากมาก ใช้แรงเยอะ และต้องถอดล้อออกมาก่อน 

ออฟไลน์ suksan4

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
    • อีเมล์
Re: ขับรถฮอนด้า แจ๊ส ไฮบริด ขึ้นเขา
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2013, 16:15:02 »
ถ้ายางรั่ว รถสตาร์ทไม่ติด ---> โทรเรียกรถสไลด์ 55

ใช้อุปกรณ์ปะยาง แบบตัวหนอน หรือ แบบแทงไหม พอแก้ปัญหาได้ชั่วคราว


เคยใช้หรือยัง?  ยางรถยนต์เสริมใยเหล็ก มันแทงเข้ายากมาก ใช้แรงเยอะ และต้องถอดล้อออกมาก่อน 


อีกทางเลือกหนึ่งคือเอาล้อขนาด 12 นิ้วติดรถไป เวลาออกทริปไกลๆ