ผู้เขียน หัวข้อ: การเลือกรถให้เหมาะสมกับรายได้ มีวิธีคิดกันอย่างไรครับ  (อ่าน 13158 ครั้ง)

ออฟไลน์ nimnim_thailand

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 379
จากประสบการณ์ส่วนตัว ของคนรอบข้าง เท่าที่ผมเคยสอบถามมา ( ส่วนใหญ่ก็ญาติๆเพื่อนๆกันนี่แหล่ะ )
ส่วนใหญ่ที่ใช้รถกัน 10 คน จะมี 7-8 คน แทบจะไม่มีเงินเก็บ แต่ก็ยังมีรถใช้กันได้ ด้วยเงินเดือนประจำ

ถ้าเป็นรถขนาดกลาง ราคาไม่เกิน 7-8 แสน ผมถามมา เงินสด แสนเดียวยังไม่มีกันเลย ( โดยเฉพาะวัยรุ่นถึงวัยกลางคน อายุไม่เกิน 35 ปี )

ถ้าเป็นรถราคาเกินล้าน ขึ้นไป  เงินเก็บ ก็ยังมีไม่ถึงล้านกัน แต่ก็ยังขับรถ ราคา 2-3 ล้านได้

คนกลุ่มนี้เป็นคนส่วนใหญ่ด้วย อยากรู้ว่า เขามีวิธีคิดอย่างไร ( ที่ได้รับคำตอบ มีแต่คำว่า อยากได้ และจำเป็น ซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่น่าจะถูกต้องนัก ) สำหรับผม ๆถือว่า เป็นเรื่องเสี่ยงมาก ใช้ชีวิตเหมือนห้ามป่วย ห้ามตาย
ยิ่งถ้าเป็นหัวหน้าครอบครัว มีลูกมีเมียด้วย ยิ่งน่าเป็นห่วงมาก



ออฟไลน์ decptt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,572
555+ นี่แหละวิธีคิดของคนไทยปัจจุบัน

รายได้-รายจ่าย=เงินเก็บ


แต่จริงๆแล้ว ในหลักเศรษฐกิจพอเพียง ต้องเป็นสมการ ดังนี้

รายได้ - เงินเก็บ = รายจ่าย


เอาเรื่องเหล่านี้ไปสอนพวกเขากันครับ สอนกันมากๆ คนไทยจะได้มีเงินเก็บ ^_^

ออฟไลน์ Blackforlife

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 418
  • FAST IS GOOD
555+ นี่แหละวิธีคิดของคนไทยปัจจุบัน

รายได้-รายจ่าย=เงินเก็บ


แต่จริงๆแล้ว ในหลักเศรษฐกิจพอเพียง ต้องเป็นสมการ ดังนี้

รายได้ - เงินเก็บ = รายจ่าย


เอาเรื่องเหล่านี้ไปสอนพวกเขากันครับ สอนกันมากๆ คนไทยจะได้มีเงินเก็บ ^_^

like 
N/A  

ออฟไลน์ fishfinger

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 868
ผมว่ามันแล้วแต่คนนะครับ มันเป็นค่านิยม จะไปว่าเค้าก็ไม่ถูก ก็มันเป็นเงินของเขาเป็นสิทธ์ของเค้า ---- ความเห็นกลางๆ
แต่ต่อไปนี้จะเป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ....
สังคมในเมืองส่วนใหญ่ค่อนข้างฟุ้มเฟ่อนะผมว่า อยากทำงานสบายๆในห้องแอร์ทำงานออฟฟิตใส่สูทผูกไทด์โก๋ๆหรูๆแต่มีแค่เปลือก
เด็กจบใหม่ที่ทางบ้าน ไม่มีฐานะพอที่จะซื้อรถให้ ผมเห็นเพื่อนผมหลายๆคนนี่เตรียมจะออกรถทันทีที่จบเลยนะ ยอมอดเลยกันทีเดียว จะได้รับส่งสาวๆได้ประมาณนั้น
แล้วยิ่งโฆษณารถยนต์สมัยนี้เน้น โชวร์ความหรู
Almera ยิ่งเอาโดมมาโฆษณาให้หรูได้
City เอานักบินมาขับ ( นักบินน่าจะมีเงินมากกว่านั้น )
Accord นู้นเลย อัครมหา.....สุดๆ
BMW , Benz , Volvo ยังหรูไม่เท่า  :D

แต่สำหรับที่บ้าน ถ้ารถญี่ปุ่นจะซื้อสด และราคารถทั้งบ้านไม่เกิน 10 เปอร์เซนต์ของเงินสดทั้งหมดครับ
( จะไม่ซื้ออะไรที่ยังไม่มีเงินพอ)
และมีคนใกล้ๆตัวเช่น เป็นเจ้าของร้านอาหารทางใต้ มีที่ดินเป็นร้อยๆไร่ ขับ D-max
                               เป็นเจ้าของกิจการ ขับ มังกรทอง
                               ทำงานบริษัท ขับ Camry
ซึ่งผมก็ไม่ได้มีเจตนาจะว่าใครนะ ความต้องการแต่ละคนไม่เหมือนกัน

มองอีกมุมหนึ่ง อยากให้คนซื้อรถเยอะๆ จะได้มีที่ดินเหลือไว้ให้ซื้ออีก  ;D ;D ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 10, 2014, 20:01:01 โดย fishfinger »

ออฟไลน์ fhasociety

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 450
    • อีเมล์
555+ นี่แหละวิธีคิดของคนไทยปัจจุบัน

รายได้-รายจ่าย=เงินเก็บ


แต่จริงๆแล้ว ในหลักเศรษฐกิจพอเพียง ต้องเป็นสมการ ดังนี้

รายได้ - เงินเก็บ = รายจ่าย


เอาเรื่องเหล่านี้ไปสอนพวกเขากันครับ สอนกันมากๆ คนไทยจะได้มีเงินเก็บ ^_^

ผมชอบสมาการนี้นะครับ จะเอาไว้สอนลูกหลานเลยล่ะ
แต่ของผมเองจะคล้าย ๆ แบบนี้ แต่แบ่งเงินเดือนเป็น 3 กอง
กองที่ 1 = รายจ่าย (บัญชีเงินเดือนเต็ม ๆ)
กองที่ 2 = เงินเก็บ (แยกเป็นบัญชีเงินเก็บของผมกับแฟน ไม่มีบัตร)
กองที่ 3 = เงินฉุกเฉิน (แยกอีกบัญชี แต่มีบัตรไว้เผื่อสำรองจ่ายฉุกเฉิน)
ผมรายได้ 40k กว่า ๆ แบ่งเป็น 40-50-10 ผมอยู่ต่างจังหวัดเลยทำได้ แต่ถ้าอยู่ กทม ผมคงไม่รอดครับ ;D
ทุกวันนี้ ผม ทำงาน เก็บเงิน แต่ง..................รถ

เขตจำกัดความเร็ว 10 แก้วต่อชั่วโมง

ออฟไลน์ csamabat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 636
    • อีเมล์
ส่วนตัวของผม นำรายได้ ที่ได้มา หักเก็บในแต่ละเดือนที่เป็นเงินเก็บตายตัวออกมาก่อนครับ(ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน) ที่เหลือเป็นรายจ่ายต่างๆ แล้วก็มาผ่อนรถครับ   ส่วนรายได้เสริม ที่นอกจากเงินเดือนประจำ  ก็จะนำมาดูอีกทีครับว่ามีอะไรที่จะซื้อเพิ่มไหม หรือถ้าไม่มีอะไรก็เก็บเอาไว้ก่อนครับ(เผื่อประกันรถ ค่าดูแลรักษาต่างๆ)   หลักๆผมจะบริหารใช้เฉพาะเงินเดือนประจำครับ
บัญชีเงินเดือนเข้า
บัญชีเงินใช้ในเดือนนั้น
บัญชีเงินเก็บอย่่างเดีัยว

ผมจึงซื้อได้แค่ระดับอีโคคาร์ครับ 4แสนนิดๆหน่อยพอ พึ่งเรียนจบ พึี่่งทำงานที่เป็นงานประจำครับ

สมัยก่อนที่จะทำงานประจำก่อนเรียนจบ ใช้รถมือสอง คุมค่าใช้จ่ายลำบากนิดนึงครับ  รถซ่อมบางเดือนเยอะ บางเดือนน้อยครับ  ไม่ค่อยหมกไว้นานๆเดี๋ยวต้องซ่อมเยอะ เลยทะยอยเก็บงานซ่อมนั่นนี่ทุกเดือนๆ ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 10, 2014, 20:09:37 โดย csamabat »
1990 bmw e30 318i Mt 4 door
1992 bmw e36 318iA 4 door
1992 bmw e30 318i At  4door
1993 bmw e36 318i 4 door
1985 bmw e30 325iS cope
1991 bmw e30 318i Mt 4 door
1992 toyota corolla ae92  1.6 se limited
1993 toyota corolla ae101 1.6 Lx limited
1991 Nissan nv van SLX 1.6 At
2006 toyota avanza 1.3 E Mt

ออฟไลน์ YZA

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 669
เหมาะสมสำหรับผม คือมีเงินพอซื้อสดได้ทั้งก้อน (ถึงเวลาจริงจะผ่อนก็ได้)
รวมถึงร้บได้กับค่าบำรุงรักษาที่จะตามมา
และไม่ทำให้การใช้ชืวิตของตัวเองต้องลำบากขึ้น...ประมาณนี้

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
ผมจะผ่อนรถไม่เกิน 10% ของรายได้ต่อเดือนครับ เพราะยังมีค่าใช้จ่ายหลังออกรถอีกเยอะ

รถ ก็คือ ลด ตามชื่อ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ nimnim_thailand

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 379
555+ นี่แหละวิธีคิดของคนไทยปัจจุบัน

รายได้-รายจ่าย=เงินเก็บ


แต่จริงๆแล้ว ในหลักเศรษฐกิจพอเพียง ต้องเป็นสมการ ดังนี้

รายได้ - เงินเก็บ = รายจ่าย


เอาเรื่องเหล่านี้ไปสอนพวกเขากันครับ สอนกันมากๆ คนไทยจะได้มีเงินเก็บ ^_^

ถ้า ชาวบ้านมองทั่วๆไป ก็จะเป็นแบบนี้แหล่ะครับ
ที่ผมถามถึงเงินเก็บ แล้วให้ความสำคัญกับเงินเก็บก่อน เพราะผมอยากจะบอกว่า เงินมันทำงานเก่งกว่าคนมากๆ แต่คนส่วนใหญ่ ไม่เคยคิด คิดแต่จะทำงานหาเงินอย่างเดียว

เงินล้านแรก หายาก เงินล้านที่สองหาง่าย คงเคยได้ยินกัน แต่ไม่กี่คนที่เข้าใจ  จนตัวเองมีเงินล้านแล้วจริงๆ ถึงจะเข้าใจ ว่าเงินล้านที่สองมันมาได้ยังไง ง่ายและเร็วกว่าล้านแรกมาก
แต่ถ้าไม่มีเงินเก็บ ใช้ชีวิตแบบทำงานหาเงิน  พอผมแนะนำการลงทุนอะไรไป เขาก็จะอ้างว่า ก็ไม่มีเงินเก็บจะทำได้ยังไง  ผมก็ไม่รู้จะช่วยยังไง
ถ้ามีเงินเก็บ และเริ่มใช้เงินเก็บในการลงทุนให้เป็น บางคนอาจเกษียรการทำงานก่อนอายุ 40-50 ด้วยซ้ำ แต่ถ้ายังคิดกันแต่จะทำงานเพื่อหาเงิน กว่าจะมารู้ว่าเงินมันทำงานเก่งกว่าคน บางทีมันก็อาจสายไปแล้ว ชีวิตคนมันแสนสั้นนัก

ออฟไลน์ Pasakorndvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,310
ไม่จำเป็นไม่ซื้อครับ
'19 Honda Civic EL

ออฟไลน์ decptt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,572
555+ นี่แหละวิธีคิดของคนไทยปัจจุบัน

รายได้-รายจ่าย=เงินเก็บ


แต่จริงๆแล้ว ในหลักเศรษฐกิจพอเพียง ต้องเป็นสมการ ดังนี้

รายได้ - เงินเก็บ = รายจ่าย


เอาเรื่องเหล่านี้ไปสอนพวกเขากันครับ สอนกันมากๆ คนไทยจะได้มีเงินเก็บ ^_^

ถ้า ชาวบ้านมองทั่วๆไป ก็จะเป็นแบบนี้แหล่ะครับ
ที่ผมถามถึงเงินเก็บ แล้วให้ความสำคัญกับเงินเก็บก่อน เพราะผมอยากจะบอกว่า เงินมันทำงานเก่งกว่าคนมากๆ แต่คนส่วนใหญ่ ไม่เคยคิด คิดแต่จะทำงานหาเงินอย่างเดียว

เงินล้านแรก หายาก เงินล้านที่สองหาง่าย คงเคยได้ยินกัน แต่ไม่กี่คนที่เข้าใจ  จนตัวเองมีเงินล้านแล้วจริงๆ ถึงจะเข้าใจ ว่าเงินล้านที่สองมันมาได้ยังไง ง่ายและเร็วกว่าล้านแรกมาก
แต่ถ้าไม่มีเงินเก็บ ใช้ชีวิตแบบทำงานหาเงิน  พอผมแนะนำการลงทุนอะไรไป เขาก็จะอ้างว่า ก็ไม่มีเงินเก็บจะทำได้ยังไง  ผมก็ไม่รู้จะช่วยยังไง
ถ้ามีเงินเก็บ และเริ่มใช้เงินเก็บในการลงทุนให้เป็น บางคนอาจเกษียรการทำงานก่อนอายุ 40-50 ด้วยซ้ำ แต่ถ้ายังคิดกันแต่จะทำงานเพื่อหาเงิน กว่าจะมารู้ว่าเงินมันทำงานเก่งกว่าคน บางทีมันก็อาจสายไปแล้ว ชีวิตคนมันแสนสั้นนัก

เรื่องการลงทุน อย่าใช้เงินเก็บครับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ ลงทุน ทั้งหุ้น ทองคำ ประกันชีวิต
แต่.....
มันมี 1เหตุการณ์ ทำให้ผมต้องแยกเงินเก็บกับเงินลงทุน
ผมมีเงินเก็บอยู่ 1 ก้อน ประมาณ 5แสนบาท ผมแพลนเอาไว้ลงทุนประกันชีวิต 6 ปี ปีละ 150,000บาท/ 1ฉบับ (ไม่รวมกว่าอีก 7ฉบับที่ทำอยู่นะครับ) เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
หลังจากที่ได้ทำไป 3 เดือน ในปีแรก แม่ผมประสบเหตุ ต้องทำรากฟันเทียมทั้งปาก 11ซี่ เป็นเงิน 550,000 บาท ผมจึงได้นำเงินเก็บส่วนนั้นมารักษาแม่ผม

เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป ประมาณ 3ปี ผมเริ่มกระเบียดกระเสียน ค่าใช้จ่ายตัวเองแล้วครับ จากมีเงินใช้สอยสบายมือ ต้องเก็บกัน เงินประกันชีวิตทั้งหมดที่ผมทำขึ้นมา
ปัจจุบัน ผมใช้เงินเก็บ เงินดอกเบี้ยหุ้น เงินเดือนมาจ่ายค่าประกันชีวิตทุกฉบับนะครับ

อันนี้เป็นอุทธาหรณ์ สอนไว้ก็แล้วกันครับ
เงินลงทุน กับ เงินเก็บ คือคนละส่วนกัน
จริงครับ เงินมันทำงานเก่ง แต่เวลาฉุกเฉิน เงินเก็บสำคัญนะครับ

บอกไว้อีกนิดนึง ผมมีเงินปันผลจากหุ้น จากตั้งเป้าไว้ 60000บาท ปีที่แล้วได้มา 73000 บาท ยังไม่พอใช้จ่ายค่าประกันชีวิตเลยครับ

ปีนี้ ประกันชีวิต ฉบับละ 150,000 บาท และอีก 2-3ฉบับจะครบปีนี้แล้ว ผมก็จะเป็นไทแล้วครับ 555+ จะใช้เงินคล่องมือเพิ่มอีกหน่อย ^_^

ปล. ประกันชีวิต อย่าคิดเป็นเงินเก็บอย่างเดียวนะ เพราะคุณต้องจ่ายมันอย่างต่ำ 6ปี เพื่อสัญญา 10ปีขึ้นไปเป็นประโยชน์ในการคืนภาษีครับ

ขออีกเรื่อง อย่าเพิ่งมาว่าผมโง่ ที่ทำประกันเป็น 10 ฉบับ เพราะ การทำประกันของผมคือ "Connection" ทางธุรกิจด้วยครับ มัน"จำเป็น"ต้องทำครับ
ปีนี้ทำอีก 3 ฉบับของลูกสาว เพราะ ตัวใหญ่จะหมดแล้ว เลยทำฉบับเล็กๆแทน จะได้ไม่เหนื่อยมาก 555+

ลืมไป ที่พูดมา จะบอกจุดประสงค์ว่า
เงินเก็บ กับ เงินลงทุน ควรเป็นคนละส่วนกันครับ ยังไงเงินเก็บควรมี 10-20% ของรายได้ ส่วนเงินลงทุน แล้วแต่ละบุคคลครับ

ออฟไลน์ f1rstgot

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 850
    • อีเมล์
พี่สาวภรรยาผม เงินเดือนเพิ่งจะถึง10k (ก่อนหน้านี้ 7k ก็เพิ่มมาเรื่อยจนเป็น10k) เก็บสะสมเงินมาเรื่อยๆ เสร็จก็เอามาดาวน์ ซิตี้ก่อนหน้ารุ่นใหม่ โฉมMC รุ่นรองท๊อป 646K ดาวน์ไป 280K ผ่อน6ปี เดือนละ 6.5K หักค่ารถจะเหลือเงินเดือน 3.5K บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ จ่ายกับค่าน้ำค่าไฟเดือนละ500 จะเหลือ3K ก็คือเงินกินเองเล็กๆน้อย+เก็บส่งลูก6ขวบเรียน ครับ  ;)

ออฟไลน์ Dr.Pop

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 520
อายุ 30 ปี ผมมีรายได้ 3 ส่วน
1. เงินเดือน -> ซื้อหุ้นสหกรณ์ 80% (ตัดผ่านบัญชีไปเลย ตอนนี้หุ้นสหกรณืปันผลปีละ 7 หมื่น
2. เงินตำแหน่ง เงิน on-top เงินขยัน เงินนอกเวลา -> ลงทุนในหุ้น กองทุน LTF
3. เงินธุรกิจส่วนตัว เอามาใช้จ่ายประจำวัน ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน จ่ายบัตรเครดิต ที่เหลือเก็บเข้าเงินฝาก

ถามว่าตอนนี้ซื้อ benz c-class ได้ไม๊ สามารถซื้อได้สบาย แต่จะไม่ได้ออมเงินทุกเดือน
ขอขับรถญี่ปุ่น Camry ต่อดีกว่า มีความสุขกับการออมเงินกินเงินปันผล  ;D


ออฟไลน์ goldsfirm

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 101
    • อีเมล์
ความเห็นส่วนตัวผมนะคับ รายได้ของคนต่างกัน รสนิยมความชอบต่างกัน คนรวยไม่จำเป็นต้องขับรถหรู (เค้าอาจจะชอบซื้ออสังหามากกว่า) มีของมูลค่าพอๆกับรถเยอะแยะ นาฬิกา กระเป๋า พระเครื่อง ฯลฯ คนห้อยพระสมเด็จแท้ๆ องค์หลายล้าน อาจจะขับกระบะธรรมดาก็ได้ อยู่ที่ความชอบคับว่าใครจะชอบเล่นอะไร ...
แต่นี่เป็นเวปเกี่ยวกับรถยนต์คับ ผมเชื่อว่าทุกท่านในที่นี้ต้องชอบเล่นรถอยู่แล้ว  :D
หลักในการซื้อรถ (โดยวิธีผ่อนนะคับ) ผมว่าอันดับแรกต้องดูรายได้ต่อเดือน ต้องมั่นคงหรือเพิ่มขึ้นๆ ไม่ใช่ขึ้นๆลงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย หักค่างวดรถแต่ละเดือนแล้ว ต้องเหลือๆ ต้องไม่เดือดร้อน ขอยกตัวอย่างนะคับ
คุณน้าผม รายได้ต่อเดือน8หลัก แกผ่อน Gallardo เดือนละ 300,000 (มีรถอยู่แล้ว 6 คัน)
ญาติผมอีกคน รายได้ต่อเดือนเกือบ8หลัก แกผ่อน CLS เดือนละ 100,00 (มีรถอยู่แล้ว 5 คัน)
ญาติอีกคน รายได้ต่อเดือน7หลัก ผ่อน E saloon เดือนละ 60,000
ผม รายได้ต่อเดือน7หลัก ผ่อน Z4 เดือนละ 70,000

สรุป : ผ่อนรถ เลือกรถในระดับที่เราและครอบครัวจะไม่เดือดร้อนน่ะคับ ผ่อนสบายๆ มีเงินเหลือเก็บสำหรับครอบครัว สำหรับอนาคต สำคัญกว่าคับ  :)

ออฟไลน์ decptt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,572

ถ้า ชาวบ้านมองทั่วๆไป ก็จะเป็นแบบนี้แหล่ะครับ
ที่ผมถามถึงเงินเก็บ แล้วให้ความสำคัญกับเงินเก็บก่อน เพราะผมอยากจะบอกว่า เงินมันทำงานเก่งกว่าคนมากๆ แต่คนส่วนใหญ่ ไม่เคยคิด คิดแต่จะทำงานหาเงินอย่างเดียว

เงินล้านแรก หายาก เงินล้านที่สองหาง่าย คงเคยได้ยินกัน แต่ไม่กี่คนที่เข้าใจ  จนตัวเองมีเงินล้านแล้วจริงๆ ถึงจะเข้าใจ ว่าเงินล้านที่สองมันมาได้ยังไง ง่ายและเร็วกว่าล้านแรกมาก
แต่ถ้าไม่มีเงินเก็บ ใช้ชีวิตแบบทำงานหาเงิน  พอผมแนะนำการลงทุนอะไรไป เขาก็จะอ้างว่า ก็ไม่มีเงินเก็บจะทำได้ยังไง  ผมก็ไม่รู้จะช่วยยังไง
ถ้ามีเงินเก็บ และเริ่มใช้เงินเก็บในการลงทุนให้เป็น บางคนอาจเกษียรการทำงานก่อนอายุ 40-50 ด้วยซ้ำ แต่ถ้ายังคิดกันแต่จะทำงานเพื่อหาเงิน กว่าจะมารู้ว่าเงินมันทำงานเก่งกว่าคน บางทีมันก็อาจสายไปแล้ว ชีวิตคนมันแสนสั้นนัก

ผมเห็นประเด็นแล้วครับ เรื่องนี้ แล้วแต่บุคคลครับ
ลูกน้องผม หลายคน ถึงแม้จะสอนไปแล้ว เขาก็ยังแพ้กิเลสตัวเองครับ และเขาก็ไม่เข้าใจว่า เงินมันทำงานด้วยตัวของมันเองได้
ผมแนะนำแบบนี้ครับ (เพราะคนแบบนี้เข้าใจอะไรยากมากกกกกกกกกกกกก)

ให้เก็บเงิน ตามสมการนั้นก่อน พอได้เงินก้อนมา เกิน 1 หมื่นบาท ค่อยยุเขาไปลงทุน สลากออมสิน 3 ปี เดี๋ยวก็ได้เงินคืน แถมเผื่อถูกด้วย

อีกวิธี พวกฝากประจำ 36 เดือน ฝากเดือนละ 500-25000 บาทในจำนวนที่เท่าๆกันทุกเดือน ห้ามถอน ได้ดอกเยอะกว่าฝากประจำ ไม่เสียภาษีด้วย
ลองดู วิธีง่ายๆก่อนครับ การจะสอนคนลงทุน มันยากครับ แต่ถ้าสอนให้ลงทุนในการพนัน(ที่ได้เงินคืน เช่นสลากออมสิน ธกส) มันมีโอกาสมากกว่านะครับ เขาจะได้เก็บตังค์ไปเลย 3 ปี 555+

อย่าท้อใจ ถ้าจะสอนคน  ผมสอนไป 15 คน(ลูกน้องผมเอง) มีคนลองทำแค่ 2 คนครับ + อีก1คนผมบังคับ หักในเงินเดือนเลย (เพราะขี้เหล้ามาก มีเท่าไหร่ลงขวดหมด)
ย้ำ อย่าท้อใจครับ ถ้าคิดจะสอนให้คนอื่นได้ดี

ออฟไลน์ honest

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 172
จริงๆลแ้วควรจะมีเงินดาวน์ซัก 50% ของตัวรถก่อนแล้วก็ผ่อนไม่เกิน 20% ของรายได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วแพ้กิเลสครับ

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
สำหรับบ้านผมนะ  ผ่อนรถเท่าไหร่+เติมน้ำมันต่อเดือนเท่าไหร่     เอามาลบกับเงินที่หาได้แต่ละเดือนต้องมีเงินใช้ไม่ใช่ว่าเอามาลบกับเงินเดือนแล้วติดลบนี่ไม่ไหวนะ   
บ้านผมทำรับเหมาของทางประปาครับ ทั้งบ้านมีสามคน พ่อ แม่และผม   
รถที่บ้านก็วีโก้  เอาไว้ขนคนงานขนของได้ด้วย  ค่าผ่อน 11,XXX  ต่อเดือน  + เติมน้ำมัน 8000 ได้ต่อเดือน   เงินที่หาได้อันนี้ไม่แน่นอนแต่ก็ 50,000-150,000  แล้วแต่เดือนอ่ะครับ   ค่าใช่จ่ายภายในบ้านต่อเดือน 25,XXX  เหลือเงินเก็บทุกเดือนครับ  ก่อนหน้านี้มีแพลนจะออก รุเก๋งอีกคันแต่พ่อแม่เอามาคิดดูแล้วออกมาก็ไม่มีเงินเก็บไม่ออกดีกว่า
ปล.อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ   คนรู้จังหลายคนมีรถคันเป็นล้านแต่ไม่มีเงินแทบจะกินข้าวชักหน้าไม่ถึงหลังเยอะแยะไปครับเพราะว่าคนพวกนี้เค้าคิดว่า การมีรถที่แพงๆดูน่าเชื่อถือขับแล้วโก้ มันหรู  ก็จะเป็นเช่นนี้แหละครับถ้าไม่ดูตนเองก่อนน...

ออฟไลน์ dangc27

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 44
  
     นอกเรื่องก่อน.. การใช้เงินถ้าเปรียบกับการกิน ดังนี้ กินอดีต กินปัจจุบัน กินอนาคต
                    กินปัจจุบัน  มีรายได้100 ใช้หมด100            ไม่มีโอกาสรวย
                    กินอนาคต  มีรายได้100  ใช้ 150 (เอารายได้วันข้างหน้ามาใช้ก่อน)     จะมีแต่หนี้
                    กินอดีต      มีรายได้100  ใช้ 50 ที่เหลือ 50เอาไว้ใช้วันต่อไป (วันต่อไปก็เอาเงินที่เหลือ50มาใช้)    จะรวยในวันหน้า
                    รายได้ แบ่งเป็น 3ส่วน 1.เงินใช้จ่ายประจำ ฝากธนาคารไว้(พยายามใช้ให้พอตามงบ เหลือฝาก)
                                                 2.เงินฉุกเฉิน เช่นเกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วย (เหลือฝาก)
                                                 3.เงินฝาก พยายามอย่าแตะ
                            พยายามอย่าเอาเงินติดตัวมากๆ อย่ามีบัตรที่ทำให้การใช้เงินง่ายๆ บางครั้งเจอของชอบเงินเราไม่พอซื้อ พรุ่งนี้อาจหายอยาก
       ผม และภรรยา รับราชการทั้งคู่ เงินเดือนรวมกัน 70,000 รวมค่าเช่านี่ นั่นอีก 30,000 ผมใช้วิธีนี้มีเงินเหลือซื้อ ECO CAR ตัวtop ป้ายแดง เงินสดได้ปีละคัน
     เข้าเรื่อง...อย่างจขกท.บอกเดี๋ยวนี้หลายคนพยายามจะมีรถกันทั้งที่ยังไม่น่าจะพร้อม น้องๆที่ทำงานเงินเดือนหมี่นต้นๆถอยป้ายแดงกันเป็นแถว เพื่อขับมาทำงาน ไป-กลับ 10  กม. (จำเป็นหรือ...) 1.สำหรับผมรถไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ ไม่มีเงินพอซื้อเงินสดยังไม่ซื้อ
                                      2.ซื้อรถที่อยากได้ พอเหมาะ และคุ้มที่สุด เป็นรถมือสอง
                    ปล. ท่านที่ซื้อรถเงินผ่อน(เศรษฐีที่ซื้อรถผ่อนไม่เกี่ยวนะครับ) ให้ใช้รายได้ประจำไปคำนวนเงินค่างวดนะ อย่าเอาเงินที่คาดว่าจะได้ เช่นโบนัส อั่งเปา ไปคำนวนนะครับ
                            
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 10, 2014, 22:19:25 โดย dangc27 »

ออฟไลน์ nudragon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,871
  • MT Mania!!
กระทู้นี้ดีจัง :) ผมอายุ 28

ผมใช้รถญี่ปุ่นคันละห้าแสนห้า ผ่อนรถอยู่ประมาณ 15% ของรายได้ปัจจุบัน

พอเหลือเก็บ ลงทุน เล็กๆน้อยๆ และ ผ่อนบ้าน ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 10, 2014, 22:30:08 โดย nudragon »

ออฟไลน์ seamonkey

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 521
car's valve < 10% of fluid asset

ดังนั้นถ้าจะซื้อรถราคา 1 ล้าน ก็ควรมี Fluid asset 10 ล้านเป็นอย่างน้อยครับ

ก่อนผมจะตอบวิธีการใช้เงินของผม ผมอยากจะพูดอะไรสักอย่าง

ทำไมคนหลายๆคน ชอบไปยุ่งไปวิพากษ์วิจารณ์การใช้เงินของคนอื่นจังเลยครับ
และเท่าที่ผมเห็นส่วนมาก ก็จะไปวิจารณ์เขาในแง่ลบ ทำนองว่าแม่งใช้เงินไม่เป็น ต้องประหยัดแบบกูนี่ ถึงจะเรียกว่าใช้เงินแบบมีสมอง

ชอบด่านักพวกเด็กจบใหม่ พ่อแม่ออกรถให้ขับ ผมก็สงสัยว่ามันไปหนักหัวกะบาลใคร บางครั้งต้องถามตัวเองว่าที่เราทำแบบนี้ เพียงเพราะต้องการจะอวดความฉลาด อวดความประหยัดของตัวเองรึป่าว
สำหรับผมไร้สาระมาก ในการไปวิจารณ์คนอื่น เพราะมันเงินเขา ไม่ใช่เงินเรา


เข้าเรื่องดีกว่า...

สำหรับผม ผมคิดง่ายๆ ถ้าผมจะซื้อรถสักคัน ผมไม่สนว่าผมต้องมีเงินเก็บเท่าไร ถ้าผมมองแล้วว่าผมผ่อนไหว ผมก็ซื้อเลยถ้าผมอยากได้อ่ะนะ
เพราะผมคิดว่าเงินมีไว้ใช้ ไม่ได้มีไว้เก็บ รัฐบาลมีโครงการรักษาฟรี ผมไม่จำเปนต้องดับกิเลสเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามเจ็บป่วย  เพราะถ้าผมเป็นมะเร็ง ก็ให้แม่งตายดีกว่า มี2ล้านก็ไม่พอ
แม่ผมรักษายายหมดไป4ล้าน สุดท้ายอยู่ได้6เดือนก็ตาย

และผมไม่สนใจเรื่องเก็บเงินไว้เผื่อฉุกเฉิน เพราะผมจะไม่ทำให้ชีวิตผมฉุกเฉิน
ถ้าบ้านผมไฟไหม้ผมมีประกัน รถผมหายผมมีประกัน ถ้าผมป่วยผมก็รักษาฟรีตามโรงบาลรัฐ
เพราะฉะนั้นคำว่า ฉุกเฉิน คืออะไร ???
ผมไม่มีคำว่าตกงาน เพราะ ผมไม่ได้เป็นลูกจ้าง  ผมทำธุรกิจส่วนตัว และ ผมจะไม่ปล่อยให้กิจการผมเข้าสู่ภาวะเสี่ยง จนต้องมีช่วงฉุกเฉิน พวกนี้จริงๆเราบริหารมันได้หมด

เพราะฉะนั้น ถ้าผมจะซื้อรถที่ต้องผ่อนเดือนละ5หมื่น
ผมต้องหาเงินต่อเดือนให้ได้อย่างน้อย 8หมื่นบาท
เพราะ3หมื่น เป็นค่าใช้จ่ายต่อเดือนของผมและครอบครัว
5หมื่นจึงเอาไปผ่อนรถได้

ผมไม่ใช่แนวที่ว่ากูต้องมีเงินเก็บ20ล้าน ถึงจะซื้อบีเอ็มขับได้
ผมไม่ชอบตั้งโจทย์ยากๆให้ชีวิต ตัวเลขในบัญชีไม่มีความหมายสำหรับผมเลย
ผมทำงานโคดเหนื่อย ไม่มีวันหยุด ผมก็แปรรูปมันมาเป็นความสุข สิ่งของ
ทุกวันนี้ผมไม่ค่อยมีเงินเก็บ เพราะใช้เกือบหมดทุกเดือน

ผมบ้ารถ รถคือลมหายใจของผม
ผมเคยคิดจะเก็บเงินสดแล้วซื้อรถถูกๆขับ เพราะเคยมองว่าเก็บไว้เผื่อเจ็บป่วย (สมัยนานมากที่คิดแบบนี้)
ก็เลยมาคิดว่า อ้าว ถ้ากูเป็นมะเร็ง หรือเส้นเลือดในสมองแตกตาย ก็ไม่ได้ขับรถแล้ว
หรือถ้าข้ามถนนแล้วโดนรถชนตาย เงินในบัญชีอุส่าห์เก็บมาก็ไม่ได้ใช้เลย
เพราะฉะนั้น ผมใช้เงินเกลี้ยงเลยครับ มีเหลือในบัญชีนิดหน่อย แบบให้พออุ่นใจว่าเรามีเงินหลักแสนอยู่นะ ถ้ามีต่ำกว่าหลักแสน ผมจะนอนไม่หลับ

คนแบบผมคือคนที่คนส่วนใหญ่มองว่าใช้เงินไม่เป็น สิ้นคิด

แต่ผมมองว่าคำว่าความสุขของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
บางคนเขามีความสุขที่เห็นตัวเลขในบัญชีมันเพิ่มขึ้นทุกๆปี เขาก็จะหาว่าผมนี่งี่เง่า ซื้อแต่ของ
ส่วนความสุขของผมคือ ผ่อนรถ กินอาหารแพงๆ ซื้อเข็มขัดแอร์เมส กระเป๋าหลุยส์ รองเท้าเฟอร์รากาโม่ นาฬิกาโรเล็กซ์ ,พาเนอไร

ผมไม่ต้องมีเงิน4ล้าน ถึงค่อยซื้อเบนซ์ได้
ผมแค่มีเงินผ่อนเดือนละ5หมื่นผมก็ซื้อแล้วครับ

แต่ตอนนี้บังเอิญยังไม่มีปัญญาผ่อนรถเดือนละห้าหมื่นเท่านั้นเอง

ถ้ามีปัญญาเมื่อไหร่

ใบพัดสีฟ้ากับผม ได้เจอกันแน่นอน


ออฟไลน์ dekdemo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 537
ควรเลือกซื้อรถด้วยความจำเป็นครับ แล้วคุณทุกๆคนจะมีความสุข และความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ;D

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
1 ใน 3 ของเงินที่หัก คชจ แล้วครับ

เช่น รายได้ต่อเดือน 100,000 มี คชจ. รวม 40,000

ก็จะผ่อนรถแค่ 20,000 พอครับไม่เกินนั้น

20,000 ก็คือ 1ใน3 ของ 60,000

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
ผมก็อยากมีรถดีๆใช้นะ แต่ในทางตรงกันข้าม ผมก็เข้าใจในแบบของผมว่า
การผ่อนรถ ผ่อนบ้าน และ ค่าใช้จ่ายต่างๆ มันเป็นตัวประกัน ไม่ให้เรา หยุดทำงาน ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย

ดังนั้น ถ้าถามผม ผมเลือกลงทุนก่อน หรือทำธุรกิจ จนมีรายได้ที่มั่นคงแน่นอน ค่อยซื้อรถที่ชอบจริงๆด้วยเงินสด แบบสบายๆดีกว่า

ออฟไลน์ ichok

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 791
    • อีเมล์
ค่าใช้จ่ายในชีวิตไม่ได้มีแต่รถยนต์ สูตรของผม ณ ปัจจุบันคือ ถ้าผมตกงานหรือติดขัดเรื่องรายได้ เงินเก็บในบัญชีของผมจะต้องนำมาจ่ายได้โดยไม่เดือดร้อนเป็นเวลา1ปี เช่น ถ้ามีรายจ่ายเดือนละ50000 ผมควรจะมีเงินเก็บซักล้านนึงครับ

ออฟไลน์ joe560-4

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 584
ผมมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง พอประมาณ ไม่มากนัก

ส่วนเงินออม คือรถครับ :D

ออฟไลน์ pisaa

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 90
 ::)

บางทีหาเงินมาได้ก็อยากใช้ในสิ่งที่เราชอบครับ ถึงจะลำบากสักหน่อย แต่มันก็เป็นความสุขทางใจครับ

ค.ห.ส.ต. ะครับ
บางคนอาจจะคิดว่า เห้ยทำไมไม่เก็เงิน เอาไปซื้อนู่นซื้อนี่ซะหมด เดี๋ยวอนาคตไม่มีเงินแล้วจะลำบาก จริงครับผมเห็นด้วย
แต่ที่หาเงินมาก็เพื่อไว้ใช้ เพื่อทำให้เรามีความสุขนะครับ การใช้เงินไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ ใช้ไปเถอะ เพราะมันคือจุดประสงค์ของการเก็บเงินอยู่แล้ว

แต่ให้หาเงินเพิ่มได้มากกว่าเดิมก็พอ  ;)

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,547
แล้วแต่คนเลยครับ ไม่มีสูตรตายตัว
บางคนรถคือเครื่องใช้ บางคนรถคือความสุข บางคนคือเคร่ื่องอวดรวย
ชอบอะไรก็ทำครับ แต่ให้เงินที่มาซื้อเป็นเงินโกง เอาเปรียบ ทำนาบนหลังคนแล้วกัน


ออฟไลน์ raygun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,051
.
.
.
ผมก็งงกับคนที่ชอบไปวิจารณ์ ออกความเห็นกับการใช้เงินของคนอื่นเหมือนกัน
เงินเค้านะครับ เค้าหามาจะใช้ยังไงก็เรื่องของเค้า แค่เค้าไม่มายืมคุณผมว่าโอเคแล้ว
แม้ผมจะเห็นด้วยกับการใช้เงินของแต่ละคนที่แนะนำกันมา (ผมก็ทำแบบนั้นแหละ)
แต่ไม่เห็นด้วยที่ไปว่าคนอื่นครับ

อย่างเพื่อนผมหาเงินมาเท่าไหร่ เที่ยวหมด มันเที่ยวมารอบโลกแล้ว
มันบอกว่าทุกวันนี้ทำงานมาเพื่อไปเที่ยวเท่านั้น บ้านเช่าอยู่ รถไม่มี
มันเลยไม่ต้องมีห่วงอะไร สุขภาพก็ทำประกันไว้เต็มแม็ค

ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ อย่าเอาตัวเราไปตัดสินคนอื่นเลย
อย่างผมถึงจะชอบรถรักรถมากแค่ไหน แต่ที่สุดแล้วผมเลือกบ้านก่อน
รถก็ซื้อเท่าที่พอจะซื้อได้ ชอบ MB ก็จัดตัวล่างๆมาก็พอ
เอาเงินไปทำบ้านสนุกกว่า เงินไม่หาย แถมบ้านก็น่าอยู่

ออฟไลน์ Kittisak

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 145
  • Ability Without Opportunity Means Nothing
ผ่อนรถไม่ควรเกิน15%
แล้วชีวิตจะมีโอกาส ใช้เงินทำงาน ไม่ใช่ทำงานเพื่อเงิน
คนส่วนใหญ่ใช้เงินไม่เป็น สินทรัพย์95%บนโลกจึงตกเป็นของคนเพียง5%
คนคิดได้บางคนต้องเจอวิกฤตก่อนครับ น้อยคนจะมีวิสัยทัศน์
“Today I will do what others won't, so tomorrow I can accomplish what others can't”