ราคาน้ำมันแบบนี้ ระหว่าง SKYACTIVE-D 1.5 และ SKYACTIVE-G 1.3 เลือกอะไรกันครับ

tsingtho

สมมติว่า เดือนนี้ Mazda เปิดตัว Mazda 2 ทั้ง 2 เครื่องยนต์ คือในแบบ
ดีเซล SKYACTIVE-D 1.5 และ เบนซิน SKYACTIVE-G 1.3
โดยที่อัตราการบริโภคน้ำมันจากข้อมูลการทดสอบจากเว็บ Mazda เป็น 26.4 กม/ลิตร และ 24.6 กม/ลิตร ตามลำดับ
(ในการใช้งานจริงๆ อาจต่างกันนิดเดียว)
ในขณะที่ราคาน้ำมันในปัจจุบัน แก๊สโซฮอลล์ E20 มีราคาถูกกว่า ดีเซล ซะอีก
แต่...ถ้าราคาของตัวเครื่องดีเซล สูงกว่าตัวเบนซินซัก 4-5 หมื่น ในแต่ละรุ่น
ผมว่า คนที่อยากลองรถเล็กเครื่องดีเซลก็คงคิดหนักเหมือนกันนะครับ  :D





Blackforlife

สิ่งที่ต่างชัดเจนคือ แรงบิดครับ นั่นหมายถึงความสนุกด้วย
N/A  



AkE

ถ้าไม่ชอบเรื่องเสียงก้เบนซินดีกว่าแต่ชอบแบบแตะๆแล้วดึงต้องดีเซลเท่านั้น



๑ ๒ ๓

D เท่านั้น เน้นขับสนุก
รับซื้อ ขาย ซ่อม แลกเปลี่ยนคอมพิวเตอร์,โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์



JONNY

ดีเซลจะขับสนุก ต้อง เมนวลเท่านั้น
ไม่รู้มาสด้า SKYACTIVE-D 1.5 จะใส่เกียร์แบบไหนมา



MacH1




vantipz

D เท่านั้นครับ ผมขับขึ้นเขาบ่อย G ไม่น่าตอบโจทย์



neutrino

ต้องคิดให้ไกลด้วยว่า ราคาน้ำมันจะเป็นแบบนี้นานแค่ไหน



leenawat_sri

ต้องคิดให้ไกลด้วยว่า ราคาน้ำมันจะเป็นแบบนี้นานแค่ไหน

เห็นด้วยคับ  สถานการณ์ตอนนี้ คาดเดาอีก ปีสองปีไม่ได้เลย ว่า E10 E20 E85 Diesel NGV LPG ราคาตะไปอยู่แถวไหน

ได่รถใหม่มา คิดจะติดแก้ส เลยต้องหหยุดไว้ก่อนดูท่าที



promt

ถ้าเอาราคาน้ำมันเป็นหลัก

ราคาน้ำมัน ตอนนี้ มันชั่วคราวครับ

อย่าพึ่งฟันธง เพราะจะทุกข์ใจไปหลายปี



Staples

ผมไม่คาดหวังว่า 1.3 มันจะมาเร็วๆ นี้อะครับ ขนาด Mazda 3 1.8 ที่บอกจะมา ป่านนี้ยังไม่มาเลย



Tig

1 ดูจากอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันไม่ต่างกันมากครับ แล้วรคาเบนซินจะกลับมาแพงหรือป่าว ?
2 d 1.5 กับ g 1.3 น่าจะแรงพอกันครับ ผมว่าประมาณเท่า m2 1.5 ตัวปัจจบันนี้แหลัครับ เพราะเพราะว่าเครื่องดีเซลต้องใหญ่กว่าเครื่องเบนซินถึงได้แรงออกมาเท่ากัน ส่วนที่น่าจะแรงเท่ารุ่นปัจจุบันหรือแรงกว่านิดหน่อย เพราะเป็นเครื่องแบบ skyactive
3 ผมมั่นใจว่ายาวๆ นำ้มันดีเซลไม่น่าแพงกว่าเบนซินนะ ส่วนต่างที่ว่ามาก็น่าสนใจ
4 ดีเซลสำหรับรถเก๋งเล็ก เป็นอะไที่น่าสนใจ อะไรที่ใหม่ๆ ทำให้ทั้งรถ+ คนขับ น่าสนใจยิ่งขึ้น เป็นผมจะเลือก d 1.5 อย่างไม่ต้องสืบเลยละ



hong_G

ผมชอบแรงบิดเครื่องดีเซลมากกว่าครับ  ขับสนุกกว่า

ยิ่งสำหรับรถเล็ก น้ำหนักเบาแบบนี้ด้วยแล้ว...ผมว่าแรงบิดพาไปได้ไกลกว่า รถกระบะดีเซลทั่วไปเสียอีก

รถเครื่องเบนซินที่ผมขับแล้วสนุก คือ เครื่อง 1.8-2.0 ขึ้นไป ไม่ก็ต้องมีติด Turbo มา ....ถ้าต่ำกว่านี้ ผมเลือก Diesel นะ ถ้ามีทางเลือกให้



secrecyguy

ขับในเมืองรถติด ออกตัวบ่อย 1.5D ประหยัดกว่าครับ



np72




vantipz

1 ดูจากอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันไม่ต่างกันมากครับ แล้วรคาเบนซินจะกลับมาแพงหรือป่าว ?
2 d 1.5 กับ g 1.3 น่าจะแรงพอกันครับ ผมว่าประมาณเท่า m2 1.5 ตัวปัจจบันนี้แหลัครับ เพราะเพราะว่าเครื่องดีเซลต้องใหญ่กว่าเครื่องเบนซินถึงได้แรงออกมาเท่ากัน ส่วนที่น่าจะแรงเท่ารุ่นปัจจุบันหรือแรงกว่านิดหน่อย เพราะเป็นเครื่องแบบ skyactive
3 ผมมั่นใจว่ายาวๆ นำ้มันดีเซลไม่น่าแพงกว่าเบนซินนะ ส่วนต่างที่ว่ามาก็น่าสนใจ
4 ดีเซลสำหรับรถเก๋งเล็ก เป็นอะไที่น่าสนใจ อะไรที่ใหม่ๆ ทำให้ทั้งรถ+ คนขับ น่าสนใจยิ่งขึ้น เป็นผมจะเลือก d 1.5 อย่างไม่ต้องสืบเลยละ

ตัว1.5ดีเซล แรงกว่าตัว 1.5เบนซินปัจจุบันมากๆครับ ดูจากคลิปได้ครับ

http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,42232.0.html



johnlee

ผมไม่เชื่อว่า เบนซิน1300 จะประหยัดกว่าอีโค่คาร์ในปัจจุบัน เพราะผมขับอีโค่ ทำได้ 18-19 เอง ขับทั่วไปในชีวิตประจำวัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 10, 2015, 14:48:51 โดย johnlee »
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t



keanetona

ถ้าราคาเท่ากัน ขอเทสไดรฟ์ก่อน



Slipknot`

ต้องขอลองเทสก่อนครับ แต่ถ้าให้เลือกเลย ชอบดีเซลมากกว่า




whoami

ถ้าต่างกัน 4-5 หมื่นยอมกัดฟันไปดีเซลครับ



xtrarach

1 ดูจากอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันไม่ต่างกันมากครับ แล้วรคาเบนซินจะกลับมาแพงหรือป่าว ?
2 d 1.5 กับ g 1.3 น่าจะแรงพอกันครับ ผมว่าประมาณเท่า m2 1.5 ตัวปัจจบันนี้แหลัครับ เพราะเพราะว่าเครื่องดีเซลต้องใหญ่กว่าเครื่องเบนซินถึงได้แรงออกมาเท่ากัน ส่วนที่น่าจะแรงเท่ารุ่นปัจจุบันหรือแรงกว่านิดหน่อย เพราะเป็นเครื่องแบบ skyactive
3 ผมมั่นใจว่ายาวๆ นำ้มันดีเซลไม่น่าแพงกว่าเบนซินนะ ส่วนต่างที่ว่ามาก็น่าสนใจ
4 ดีเซลสำหรับรถเก๋งเล็ก เป็นอะไที่น่าสนใจ อะไรที่ใหม่ๆ ทำให้ทั้งรถ+ คนขับ น่าสนใจยิ่งขึ้น เป็นผมจะเลือก d 1.5 อย่างไม่ต้องสืบเลยละ

ทำไมถึงคิดว่าเครื่อง diesel turbo ต้องใหญ่กว่าถึงจะสู้เบนซินได้หรอครับ
ถ้าดูแต่แรงม้า ม้าเบนซินเฉยๆมันสู้ ม้าดีเซลเทอโบที่มีโคตรแรงบิด หรือม้าเบนซินมี turbo ไม่ได้นะ
(ความเห็นส่วนตัว ผิดถูกขออภัย)



jones

ผู้ชายลัลล๊า อิอิอิ



pladaek

ระยะยาวต่อไปราคาน้ำมันจะไม่ใช่แบบนี้..
และการดูแลรักษาดีเซลก็ยังดูแลง่ายครับ..
เลือก Diesel ครับ..
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..



Nut_K

ขอเลือก diesel ครับ เทียบจาก BT-50 2.2 hi-racer 4 ประตูกับ City 1.5 SV ของผมแล้วภาพรวม City ประหยัดกว่าแค่นิดๆเองครับ ขนาด + น้ำหนักแทบไม่มีผลอะไรเลย

ยิ่งถ้าเครื่อง 2 ตัวนี้มาอยู่ในตัวถังเดียวกันแล้วน่าจะยิ่งเห็นผลชัดเจน เพราะคงไม่มีขับรถทางโล่งๆแบบที่ทาง Mazda เคลมได้ตลอดหรอกครับ



Highway Star

ขอเลือกดีเซลละกันครับ ในทฤษฏีอัตราสิ้นเปลืองอาจจะต่างไม่มากแต่เชื่อว่าขับจริงดีเซลจะดีกว่าชัดเจนเพราะไม่ต้องกดคันเร่งจมลากรอบแตะนิดเดียวก็พุ่งแล้ว แถมความทนทานยังไงก็ดีกว่า แม้ว่าตอนซื้อจะแพงกว่าพอสมควรแต่ตอนขายยังไงราคาก็ดีกว่าแน่ๆครับ



belkw202

Re: ราคาน้ำมันแบบนี้ ระหว่าง SKYACTIVE-D 1.5 และ SKYACTIVE-G 1.3
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: มกราคม 10, 2015, 21:43:52 »
ขอเลือกเบนซินครับ
ตอนขับ cx5 2.2 ผมรู้สึกเฉยๆ เป็นเครื่องดีเซลที่ดี แต่ไม่ได้ว้าว
พอขับ 2.5 (แล้วที่บ้านก็เสียตัง) รู้สึกว่าเออมันต้องแบบนี้สิ
ก็เลยคิดว่า 1.3g อาจจะมีอะไรให้อึ้งได้ครับ
Tesla Model 3 Highland LR
G08 iX3 M Sport
Cx5 2.5s
Mazda 2 1.3 S
w202 c36 AMG
w212 e63 AMG
w204 c250 AMG Sport Plus
w207 e350 4matic
e90 325i



SM.

ต้องอย่าลืมดูราคาที่ต่างกัน กับ ระยะทางที่ใช้ด้วยนะครับ



View

ยังไงก็ Diesel
2010 Toyota Camry 2.4 Hybrid CD
2013 Chevrolet Trailblazer 2.8 LTZ 4WD



[J]e[w]

ถ้าราคาต่างกันเป็นหลักแสนอย่างบีเอ็มผมจะไปเบนซิน
Don't waste time grieving over past mistakes, learn from them and move on!



Napat14

จากการคำนวน สมมุติจำนวนกิโลวิ่งได้เท่ากัน

เครื่องดีเซล น้ำมันดีเซล ราคา 26.39 ต่อ 1 ลิตร วิ่งได้ 26.4 Km ต่อลิตร นำมาหารกัน ผลจะได้ รถวิ่งหนึ่งกิโลเมตร จะมีค่าใช้จ่าย 0.999 บาทต่อกิโลเมตร
      น้ำมันดีเซลพรีเมียม ราคา 29.39 ต่อ 1 ลิตร วิ่งได้ 26.4 km ต่อลิตร นำมาหารกัน ผลจะได้ รถวิ่งหนึ่งกิโลเมตร จะมีค่าใช้จ่าย 1.111 บาทต่อกิโลเมตร
เครื่องดีเซล แรงบิดดีกว่า ทนทานกว่า แต่เสีย อะไหล่แพงกว่า ซ่อมเครื่องหัวฉีดปั้มต่างๆราคา สุงกว่า

เครื่องเบนซิน น้ำมันE10 95 ราคา 28.90 ต่อ 1 ลิตร วิ่งได้ 24.6 Km ต่อลิตร นำมาหารกัน ผลจะได้ รถวิ่งหนึ่งกิโลเมตร จะมีค่าใช้จ่าย 1.17 บาทต่อกิโลเมตร
น้ำมันเบนซินพรีเมียม 95     ราคา 35.96 ต่อ 1 ลิตร วิ่งได้ 24.6 km ต่อลิตร นำมาหารกัน ผลจะได้ รถวิ่งหนึ่งกิโลเมตร จะมีค่าใช้จ่าย 1.46 บาทต่อกิโลเมตร

เครื่องเบนซิน ซ่อมง่ายอะไหล่ถูก ทนทานเหมือนกันแต่ทนสุ้ ดีเซลไม่ได้ แรงบิดต้่ำกว่าแต่ก็ไม่ด้อยกว่า ลองพิจารณาดูนะครับ

แต่ผมว่า เครื่องกิโลเมตรต่อลิตร คงไม่ตรงซะที่เดี่ยว นะแต่ตั้งอยู่ ความสมมุติ ขึ่นมาเปรียบเทียบกับหลักฐานที่มี  
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018