ผู้เขียน หัวข้อ: ขอมาสะด้าอีกซักมู้  (อ่าน 11075 ครั้ง)

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 19:12:25 »
แล้วแต่การตลาดครับ
มาตัดซะเกียน เดี่ยวหาว่างก นั้นมันต้องเจ้าตลาด ทำออกมายังไงมันก็ขายได้
เขาให้มาราคานี้ ขายไม่ได้เขามีส่วนลดให้เมื่อมันขายไม่ได้

ออฟไลน์ xtrarach

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 113
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 19:54:50 »
ผมแค่งงกับ Mazda ว่าอะไรทำให้คิดตั้งราคาเริ่มต้นแพงกว่าชาวบ้านในพิกัดเครื่องใกล้ๆกัน
ทั้งที่ Mazda 3 นี่ราคาน่าชื่นชมมากๆ จนทำให้มันขายแซง Civic ได้ในระยะนึง (ก่อนจะมีข่าวเรื่อง E85)
เครื่องเบนซินในสองรุ่นนี้ มันก็เทคโนโลยี Skyactive-G ทั้งคู่ไม่ใช่หรอ? แล้วต้นทุนเครื่องเบนซินก็ไม่ได้แพงแบบดีเซล

ส่วนตัวดีเซลขี้เกียจจะบ่นแล้วครับ ยังไงมันก็แพงเกินไปในสายตาผมอยู่ดี แต่ช่างมันเถอะ

ผมกลัวความคิดนี้อยู่แล้วเชียว บางทีการที่ mazda 3 ให้ตัวเริ่มต้นมาถูกทีีได้รับคำชื่นชมนักหนาอาจจะไม่ใช่แผนการตลาดระยะยาวที่ดีเลย

มีหลายคนเลยที่คิดอย่างงี้ ว่าทำไมรุ่นนั้นตั้งถูกกว่าชาวบ้านได้ ทำไมรุ่นนี้ตั้งถูกกว่าไม่ได้ กลายเป็นแบรนด์มาสด้าต้องถูกกว่าจ้าวตลาดสิถึงจะซื้อ

ถ้าเทียบกับ yaris ตัวกลางอย่างที่ผมว่า คิดดูสิ ราคาเท่ากันได้ cc มากกว่าแถมเป็นเครื่องฉีดตรง จะบอกว่าต้นทุนเท่ากันไม่น่าได้ ไหนจะ option ที่ท่วมท้นกว่ามากมายอีก

ออฟไลน์ Mr Children Namonaki Uta

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 20:09:24 »
อยากให้ขายแค่ 2 รุ่นครับ
ตัวท็อปน่าจะให้ option เท่าตัวตัวล่างสุดของรุ่นดีเซลก็พอ
แล้วขายรุ่นท๊อปแค่ 570,000-600,000
ผมไม่ชอบจอล้ำยุค ได้ข่าวว่าเสียง่ายสุดๆ  ;D
ตัวล่าง ราคา 520,000-540,000
ให้ option เหลือเท่า Yaris E พอ
โปรโมทความประหยัดขั้นเทพ+ความสวยสปอร์ตขับดี Japan car of the year สามอย่างนี้ให้คนติดหูให้ได้ จบ!
น่าจะฮิตนะ

อันนี้เป็นความต้องการส่วนตัวนะครับ Mazda คงมียุทธศาสตร์ของเค้าในแบบมืออาชีพ  ;D

สมมติถ้า ตั้งราคาเริ่มต้น 5.5 แสนแล้วประสบความสำเร็จ
น่าจะมีสามรุ่น option จัดมาแบบแนวรุ่นดีเซล ราคาห่างกันรุ่นละ 5 หมื่น
5.5 แสน
6 แสน
6.5 แสน แต่มันจะกลายเป็น 6.8-7 แสน ถ้ามาสด้าเกิดอุตริใส่ไฟแจแปนมาให้ วิ้งๆเลยทีเดียว

ด้วยราคาที่ต่ำกว่ารุ่นดีเซลเป็นแสน และคนทั่วไปก็ไม่รู้ว่าเข้า Eco car แต่คิดว่าเป็นรถทั่วไปแบบรุ่นก่อน
เพราะ Yaris ได้ปูทางไว้ให้แล้ว (แต่ Yaris ก็ถูกกว่ารุ่นเดิม เป็นแสน แต่ว่าคนคงไม่สังเกตุ Mazda มั้ง)

คนอาจจะงงเล็กน้อยเพราะราคาเท่าๆ กับรุ่นเดิมแต่ได้เครื่อง 1.3 ส่วน Yaris ได้เครื่อง 1.2 แต่ลดไปแสนนึง
จึงต้องมาดูต่อถึงประสิทธิภาพเทคโนโลยี่ Skyactiv กับภายในระดับหรูสุดในคลาส  เพียงแต่ Honda ยังให้
Option มากกว่ารึเปล่า?

สรุป ด้วยความสวย ประหยัด แถมแรงเท่าเครื่อง 1.5 และถูกกว่าดีเซลร่วมแสน ยอดขายเลยพุ่งปรี๊ด
ประมาณนี้รึเปล่าครับ  ;D แต่ผมก็เอาใจช่วยอยู่นะ ชอบ 2 ครับ



ออฟไลน์ delete

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,963
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 20:18:33 »
ผมกลัวว่าจะเอามาขายเล่นๆมากกว่า เพราะเป้าหมายหลักคือได้โควต้าส่งเสริมการผลิต eco car phase2
แล้วไปตั้งเป้าขายส่งนอก ให้ได้เงื่นไขการผลิตขั้นต่ำ
ในประเทศต้องแข่งกับคู่แข่งเยอะมากๆ(ตลาดเดียวกันคนซื้อมีเท่าเดิม แต่รถมีสารพัดรุ่น คนขายมองหน้ากันคนซื้อมีหยิบมือ)
คนซื้อกลุ่มหลักก็เล่นแต่เจ้าตลาด กลุ่มรองก็เงื่อนไขเยอะเอาใจไม่ถูก555 ลูกค้าเก่าก็คงจะอึ้งว่าจะคิดเอายี่ห้อเดิมดีป่าวว้า
ลูกค้าใหม่ก็หยิบมือ

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,992
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 21:34:40 »
หากผมเป็นมวยรองก็ปวดหัวครับ กับคำตอบใน WebBoard

สวยลงตัว งานประกอบดี ขับดี -> ไม่ซื้อเพราะ แพง (แต่ Jazz ตัว Top 7.54แสน ก็ไม่เห็นบ่นกันเท่าไหร่)
ราคาถูก แต่ก็อง แก๊ง -> ดูห่วย ไม่เอา (แต่ Mirage กับ Attrage ก็ขายดี)
สวย ลงตัว ไม่แพง -> ไม่เอาเพราะศูนย์น้อย (แต่ Swift ก็ขายได้)

เรามาคุยกันแต่ ข้อดี ข้อเสียของรถ ปัญหาการใช้งาน เทคนิคการขับขี่ หรือประโยชน์ที่ผู้ใช้งานจะได้รับจาก Option ใหม่ๆในรถกันดีไหมครับ

คุยเรื่องราคา ก็ดราม่ากันไป ไม่ได้อะไรขึ้นมาครับ คนที่ Post ก็ไม่ได้ซื้อ

Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 22:33:20 »
คนไทยชอบของใหม่ครับ ชอบความต่าง ฉะนั้นขายได้แน่นอน ขายได้เยอะ เมื่อเทียบกับกำลังการผลิตของโรงงาน

ไม่ต้องคิดเรื่อง ราคา option อะไรให้มากมายเลย

ออฟไลน์ Vitz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 358
  • The power of dreams
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 23:09:13 »
ตราบใดที่คนไทยส่วนใหญ่ยังคิดว่ายิ่ง cc มาก ยิ่งดี คงขายยากอ่ะครับ @_@
呵呵呵

ออฟไลน์ Mr Children Namonaki Uta

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 23:43:00 »
หากผมเป็นมวยรองก็ปวดหัวครับ กับคำตอบใน WebBoard

สวยลงตัว งานประกอบดี ขับดี -> ไม่ซื้อเพราะ แพง (แต่ Jazz ตัว Top 7.54แสน ก็ไม่เห็นบ่นกันเท่าไหร่)
ราคาถูก แต่ก็อง แก๊ง -> ดูห่วย ไม่เอา (แต่ Mirage กับ Attrage ก็ขายดี)
สวย ลงตัว ไม่แพง -> ไม่เอาเพราะศูนย์น้อย (แต่ Swift ก็ขายได้)

เรามาคุยกันแต่ ข้อดี ข้อเสียของรถ ปัญหาการใช้งาน เทคนิคการขับขี่ หรือประโยชน์ที่ผู้ใช้งานจะได้รับจาก Option ใหม่ๆในรถกันดีไหมครับ

คุยเรื่องราคา ก็ดราม่ากันไป ไม่ได้อะไรขึ้นมาครับ คนที่ Post ก็ไม่ได้ซื้อ



รถยังไม่ออกขายเลยคุยเรื่องพวกนั้นไม่ออกเลยครับ
แต่ถ้าสำหรับตัวดีเซล เห็นตัวจริงแล้วอะไรแล้ว ผ่านหมดครับ ยกเว้นผมไม่เล่นรุ่นมีหน้าจอ กลัวเสียง่ายๆ แบบของ 3  ;D

ออฟไลน์ lacked

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 23:51:04 »
ถ้าสังเกตุจากยอดขายแต่ละเดือน ผมว่ามีไม่กี่รุ่นที่ยอดขายโดดออกจากระดับเดิม
แล้วสุดท้ายก็จะกลับเข้าที่ เรียงลำดับไม่แตกต่างจากเดิม เหมือนออกรุ่นใหม่มาเพื่อรักษาตำแหน่งเดิม

ซึ่ง งง มากเพราะหลายรุ่นหลายคันทำมาดี ราคาโอเค สุดท้ายยอดขายก็กลับเข้าที่เดิม

นอกเรื่องยอดขายกลับมาเรื่องรถ เห็นด้วยกับหลายท่านที่พูดถึงเรื่องรุ่นล่างควรโล้นเพื่อเรียกคน
เพราะสุดท้ายก็ออกรุ่นบนๆ ทั้งนั้น
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นผมกลับจะเสียดายเอง เพราะชอบรุ่นล่างของมาสด้ามาก
เพราะภายใน ภายนอกไม่แย่จนน่าเกลียด option ที่ให้มาก็พอเหมาะกับคนที่ต้องการขับรถใช้งาน
แต่ก็ไม่อยากขาดบางอย่างที่ค่ายใหญ่ๆ ทิ้งไป

สรุปคือเขาจัด option มาดีมาก โดนใจ เทียบราคาแล้วเหมาะสมทุกรุ่น แต่ไม่เหมาะในการทำตลาด

ออฟไลน์ TG333

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 311
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 00:25:56 »
หากผมเป็นมวยรองก็ปวดหัวครับ กับคำตอบใน WebBoard

สวยลงตัว งานประกอบดี ขับดี -> ไม่ซื้อเพราะ แพง (แต่ Jazz ตัว Top 7.54แสน ก็ไม่เห็นบ่นกันเท่าไหร่)
ราคาถูก แต่ก็อง แก๊ง -> ดูห่วย ไม่เอา (แต่ Mirage กับ Attrage ก็ขายดี)
สวย ลงตัว ไม่แพง -> ไม่เอาเพราะศูนย์น้อย (แต่ Swift ก็ขายได้)

เรามาคุยกันแต่ ข้อดี ข้อเสียของรถ ปัญหาการใช้งาน เทคนิคการขับขี่ หรือประโยชน์ที่ผู้ใช้งานจะได้รับจาก Option ใหม่ๆในรถกันดีไหมครับ

คุยเรื่องราคา ก็ดราม่ากันไป ไม่ได้อะไรขึ้นมาครับ คนที่ Post ก็ไม่ได้ซื้อ



รถยังไม่ออกขายเลยคุยเรื่องพวกนั้นไม่ออกเลยครับ
แต่ถ้าสำหรับตัวดีเซล เห็นตัวจริงแล้วอะไรแล้ว ผ่านหมดครับ ยกเว้นผมไม่เล่นรุ่นมีหน้าจอ กลัวเสียง่ายๆ แบบของ 3  ;D



จอมันไม่ได้เสียง่ายขนาดนั้นครับ ในคลับมีเสียไป แค่ 2-3 คัน แต่เป็นแค่ล็อตแรกที่เป็นปัญหาจากโรงงานครับ เครมแล้วก็หายกันหมด ยังไม่เจอเสียกันอีกเลยครับ
All New Mazda 3 Skyactiv 2.0S Sedan

ออฟไลน์ TheRoadToHell

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 253
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 06:32:21 »
รถผมนี่แหละครับ ออกมา 2 สัปดาห์จอเสีย แต่เครม 7 วันได้ หลังจากนั้นไม่เสียอีกเลย และไม่กลัวด้วย เพราะประกัน 3 ปี
2014 Mazda3 Skyactiv

ออฟไลน์ AT

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 630
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 08:22:33 »
ตราบใดที่คนไทยส่วนใหญ่ยังคิดว่ายิ่ง cc มาก ยิ่งดี คงขายยากอ่ะครับ @_@

จริงครับ บางคนยังคิดเลยว่า cc น้อย คือรถ eco car

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 08:48:57 »
ตอบแบบคนซื้อรถทั่วๆไป จะซื้อรถเพราะความมั่นใจมากกว่า ยอดขาย ศูยน์บริการ ทั้งการบริการและจำนวนศูนย์ รวมทั้งความเชื่อเก่าๆของคนไทยก็ที่จะได้สัมผัสจริงๆ รถมาสด้าหรือฟอร์ดันดับถือว่าห่างชั้นจากเจ้าตลาดมาก
ทีนี้ก็มาดูว่ามาสด้าหวังจะขายรถได้จำนวนเท่าไหร่ ถ้าไม่คาดหวังอะไรมากก็ตั้งราคาแพงๆไปเถอะ มันก็พอขายได้สำหรับคนใจรักอยู่บ้างแหละ  อันนี้มาสด้าต้องไปดูด้วยว่าโครงการอีโค่เค้ามีกำหนดยอดขายได้ด้วยรึเปล่า

เอาแค่นี้แหละ มาสด้าก็จะบอกว่าสิ่งที่ให้กับยอดขาย ราคาที่ตั้งแพงเกินไปมั๊ย   มีที่ยืนหรือไม่ เดี๋ยวตลาดตอบเอง

ออฟไลน์ Mr Children Namonaki Uta

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 09:00:22 »
ตอบแบบคนซื้อรถทั่วๆไป จะซื้อรถเพราะความมั่นใจมากกว่า ยอดขาย ศูยน์บริการ ทั้งการบริการและจำนวนศูนย์ รวมทั้งความเชื่อเก่าๆของคนไทยก็ที่จะได้สัมผัสจริงๆ รถมาสด้าหรือฟอร์ดันดับถือว่าห่างชั้นจากเจ้าตลาดมาก
ทีนี้ก็มาดูว่ามาสด้าหวังจะขายรถได้จำนวนเท่าไหร่ ถ้าไม่คาดหวังอะไรมากก็ตั้งราคาแพงๆไปเถอะ มันก็พอขายได้สำหรับคนใจรักอยู่บ้างแหละ  อันนี้มาสด้าต้องไปดูด้วยว่าโครงการอีโค่เค้ามีกำหนดยอดขายได้ด้วยรึเปล่า

เอาแค่นี้แหละ มาสด้าก็จะบอกว่าสิ่งที่ให้กับยอดขาย ราคาที่ตั้งแพงเกินไปมั๊ย   มีที่ยืนหรือไม่ เดี๋ยวตลาดตอบเอง

จริงครับ จำนวนยอดขายคือสิ่งสำคัญเลย บางคนบอกราคาแพงสิดี รถชั้นจะได้ไม่โหล แต่ตัวโรงงานนี่สิจะแย่เอา
สุดท้ายกลับมาสู่เกมราคา ลดราคา คนซื้อเก่าก็ช้ำ หมองใจกับแบรนด์อีก
สู้ตั้งราคาให้มันเหมือนปกติชน อยากขายรุ่น 7 แสนก็ไม่ว่า แต่รุ่นล่างเรียกแขก ราคา 4 แสนปลาย-  5 แสนต้นคุณควรจะมี
เกือบจะกลายเป็นรถตลาดได้อยู่แล้ว แต่ถ้าอินดี้มากๆ กลัวยอดขายจะไม่ทันข้อกำหนดครับ

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 12:33:29 »
ผมว่า 1.0 Ecoboot ไม่ได้สิทธิ Eco car นะครับ
ถึงแม้คุณสมบัติ มันจะใช่ แต่มันไม่ได้ สิทธิ

ตอนนี้เรากำลังพูดถึง Eco car ในบ้านเรา
หมายถึงรถที่ได้รับสิทธิทางภาษีพิเศษนะครับ ซึ่ง Ecoboot ไม่ใช่ครับ
ดังนั้น Ecoboot จึงไปเทียบกับ Celerio ไม่ได้
เพราะเงือนไข คือการลงทุน รถใหม่ และต้อผลิตอย่างน้อย 100,000 คันครับ

สรุปก็คือ ecoboot ไม่ใช่ eco car ในบ้านเรา ครับ
แต่ ecoboot เป็น eco car ในสมรรถนของมัน

Eco car บ้านเรา ไม่ใช่แค่เชื่อเรียกชนิดรถครับ มันเป็น การลงทุน พิเศษ เป็นเงื่อนไขเฉพาะในบ้านเราเท่านั้นครับ
ดังนั้น เราต้องเข้าใจอะไรให้ถูกก่อนครับ ก่อนไปตัดสินอะไร


"ถ้าเกิดอีกหน่อย BOI เพิ่มโครงการรถ 660cc, 2.0 Hybrid หรือ Hydrogen แล้วเรียกว่า Ecology Car phase 3-4-5 เราจะเอามันไปเทียบกับ March, Brio, Swift อยู่อีกหรือเปล่าละ"

อย่าให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในโครงการของ BOI มันเป็นตัวบรรทัดฐานว่าต้องเป็นโครงการทำรถราคาถูกเครื่องไม่เกิน 1.3NA เท่านั้น
H.

ออฟไลน์ wooot

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 304
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 14:14:21 »
บอกตรงๆ นะครับ คนแอบอ่านอย่างผม งงมากๆ ใน 2 ประเด็นนี้

1. ecology car หรือที่พูดกันสั้นๆว่า "eco car" อะไรคือความดีงามของรถที่เข้าเกณฑ์นี้ครับ ที่จะจูงในให้ผมซื้อรถกลุ่มนี้ได้ ในฐานะผู้บริโภค
2. performance & safety ซึ่งมันอาจจะทำได้ ต่ำกว่า เท่าเทียม ดีกว่า รถในกลุ่ม 1500

สำหรับผม สองประเด็นนี้ มีส่วนในการตัดสินใจซื้อ

1. ถ้ามันดีงามกว่ารถกลุ่มอื่นที่เครื่องใหญ่กว่า (1500 cc) ที่ราคาเท่ากันหรืออาจะถูกกว่านิดหน่อย ผมยอมรับได้
ซึ่งต้องรวมกับข้อ 2
2. performance เทียบเท่าหรือดีกว่า ผมจะยอมซื้อในราคาที่แพงกว่ารถ 1500cc
                       ต่ำกว่าชัดเจน        ผมจะขยับไปเอารถ 1500cc

สุดท้ายผมก็วนมาที่เงินที่จะจ่ายอยูดี ในราคาที่เท่ากันผมอยากได้ในสิ่งที่ดีกว่าในที่สุดครับ ถ้า M2 เข้าเกณนี้ เป็นผม ผมซื้อ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 14:41:30 »
ผมว่า 1.0 Ecoboot ไม่ได้สิทธิ Eco car นะครับ
ถึงแม้คุณสมบัติ มันจะใช่ แต่มันไม่ได้ สิทธิ

ตอนนี้เรากำลังพูดถึง Eco car ในบ้านเรา
หมายถึงรถที่ได้รับสิทธิทางภาษีพิเศษนะครับ ซึ่ง Ecoboot ไม่ใช่ครับ
ดังนั้น Ecoboot จึงไปเทียบกับ Celerio ไม่ได้
เพราะเงือนไข คือการลงทุน รถใหม่ และต้อผลิตอย่างน้อย 100,000 คันครับ

สรุปก็คือ ecoboot ไม่ใช่ eco car ในบ้านเรา ครับ
แต่ ecoboot เป็น eco car ในสมรรถนของมัน

Eco car บ้านเรา ไม่ใช่แค่เชื่อเรียกชนิดรถครับ มันเป็น การลงทุน พิเศษ เป็นเงื่อนไขเฉพาะในบ้านเราเท่านั้นครับ
ดังนั้น เราต้องเข้าใจอะไรให้ถูกก่อนครับ ก่อนไปตัดสินอะไร



"ถ้าเกิดอีกหน่อย BOI เพิ่มโครงการรถ 660cc, 2.0 Hybrid หรือ Hydrogen แล้วเรียกว่า Ecology Car phase 3-4-5 เราจะเอามันไปเทียบกับ March, Brio, Swift อยู่อีกหรือเปล่าละ"

อย่าให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในโครงการของ BOI มันเป็นตัวบรรทัดฐานว่าต้องเป็นโครงการทำรถราคาถูกเครื่องไม่เกิน 1.3 NA เท่านั้น

ผมพูดว่า MAZDA 2 ถูดผลิตภายใต้เงือนไข ECO CAR จริงไหมครับ
ที่ผมพยายามบอกไงครับ
เราอย่าอยู่ กับ จินตนาการ หรือ ทึกทักเอาสิครับ
ความเป็น จริง คือ ตอนนี้ Eco car มันคือรถเข้าโครงการ รัฐบาลครับ ที่ เครื่องไม่เกิน 1,300 เพราข้อกำจัดด้านภาษี สรรพสามิต และเน้นการประหยัดพลังงาน Mazda 2 ก็มาเพื่อสิ่งนั้น
มันไม่ใช่ ชื่อที่ใคร อยากเรียกก็เรียก ว่ามันคือ Eco car
แต่ผมไม่รู้ นอกจาก เงือนไข ประหยัดพลังงานแล้ว เฟส 2 นี่ มันรวม ถึงเรื่อง ความปลอดภัย option เสริมอื่นๆหรือเปล่า

ตอบข้อนี้เลยนะครับ

"ถ้าเกิดอีกหน่อย BOI เพิ่มโครงการรถ 660cc, 2.0 Hybrid หรือ Hydrogen แล้วเรียกว่า Ecology Car phase 3-4-5 เราจะเอามันไปเทียบกับ March, Brio, Swift อยู่อีกหรือเปล่าละ"


สมุมติ ถ้ามันมี ECO CAR 660cc นี่
ถ้ามันมาจริง และมันคือ ECO CAR ที่ต้องผลิต 100,000 คัน คิดว่าราคามันควรถูกหรือ แพงกว่าพวก  March, Brio, Swift  ครับ
ราคามันต้องมาตอบโจนย์ คนซื้อ 100,000 คนด้วยครับ

สมุมติ 2.0 Hybrid หรือ Hydrogen  นี่ ถ้ารัฐบาล บอกว่ามันเป็น ECO CAR มันก็คือ ECO CAR ครับ
ถ้าจะเอา  Hybrid หรือ Hydrogen ไปเทียบกับ March, Brio, Swif  สมควรเทียบไหมละครับ  
แค่ ECOboot  คนก็แยกเยาะออกว่ามันไม่ใช่ ECO CAR เลย เราไม่ได้หลับหูหลับตาเปรียบเทียบครับ

ผมไม่ได้เอา โครงการรถ จาก BOI มาเป็นตัววัดครับ
ผมไม่เคยบอกว่า ECO CAR เฟสต่อไปไปต้องเป็นเครื่องถูกครับ แต่อย่าลืม ว่า รัฐบาลลดภาษีเพื่อให้เราได้ใช้รถถูกลงครับ เพื่อคนมีรายได้น้อยได้ใช้รถ
แต่ ECO CAR ไม่ว่า จะเฟสไหน มันก็มีเงือนไขของมันครับ

วันนี้ MAZDA 2 คือ ECO CAR ที่ผลิตตามเงือนไข ของเฟสสอง ดังนั้นมันก็คือ ECO CAR นั่นละครับ
ECO CAR อย่างน้อยต้องผลิต 100,000 คัน
มันควรรองรับ รองรับ คนทุกระดับชนชั้น ทุกระดับการศึกษา ทุกกลุ่มการตลาด มันควรจะตั้งราคา mass ไหม

ขอร้องละครับ คุยอยู่กับปัจจุบัน ได้ไหมครับ อย่า เพิ่งพาออกทะเลครับ  หรือ ดราม่าเลยครับ อย่า สมมุติ หรือ คาดการณ์ในสิ่งที่ยังไม่เกิดเลยครับ

ยกตัวอย่าง ง่ายๆ ทุกวันนี้ คนที่ซื้อ Ford Eco boot ก็คงรู้ว่ามันไม่ใช่ ECO CAR
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 15:59:01 โดย mamaman »

ออฟไลน์ AT

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 630
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 15:21:52 »
eco car เฟสแรก คือ รถยนต์เน้นราคาถูก เน้นประหยัด

eco car เฟสสอง คือ รถยนต์เน้นเทคโนโลยี ราคาจะถูกหรือแพง แล้วแต่ผู้ผลิตหรือป่าว?

อันนี้ผมเข้าใจถูกหรือผิดครับ ใครรู็ว่าแตกต่างกันยังไงกันยังไงบ้างครับ


ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 15:46:21 »
eco car เฟสแรก คือ รถยนต์เน้นราคาถูก เน้นประหยัด

eco car เฟสสอง คือ รถยนต์เน้นเทคโนโลยี ราคาจะถูกหรือแพง แล้วแต่ผู้ผลิตหรือป่าว?

อันนี้ผมเข้าใจถูกหรือผิดครับ ใครรู็ว่าแตกต่างกันยังไงกันยังไงบ้างครับ



ออก ย่อ ๆ มาจาก  facebook  ของที่นี่ Facebook http://www.headlightmag.com/

สรุปคร่าว ๆ เกี่ยวกับอีโคคาร์เฟส 2 ที่มีผลต่อลูกค้า
-รถจะประหยัด 23 กิโลเมตรต่อลิตร
-ปล่อยไอเสียไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร
-การป้องกันผู้โดยสารจากการชนด้านหน้า-ด้านข้างของตัวรถ มี
ระบบห้ามล้อแบบ ABS และระบบควบคุมรถแบบ ESC
ถ้าทำได้ตามนี้ได้สิทธิ์ภาษี 14%
ถ้าเติม E85 ได้ 12%

คือมันไม่ได้จำกัดขนาดเครื่อง
แต่จำกัดความประหยัด ทำให้มีผลต่ ขนาดเครื่อง

1.-รถจะประหยัด 23 กิโลเมตรต่อลิตร  =  ประหยัดมากขึ้น จากเฟส หนึ่ง
2.-ปล่อยไอเสียไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร =  ปล่อยมลพิษลดลง จากเฟส หนึ่ง
3.-การป้องกันผู้โดยสารจากการชนด้านหน้า-ด้านข้างของตัวรถ ตามมาตราฐาน ECE = รถทุกคัน OEM  ผู้ผลิตทำตามมาตราฐาน ECE ทุกคันอยู่แล้ว ข้อนี้ไม่มีผลใดๆ
4.มี ระบบห้ามล้อแบบ ABS และระบบควบคุมรถแบบ ESC  =  Eco car เฟส 1  yaris ก็มีแล้ว  ข้อนี้ไม่มีผลใด ๆ  ตัวนี้คือ

สรุป เน้นประหยัดมากขึ้น เท่านั้น
แต่รถต้องยังคงรักษามาตราฐานด้านความปลอดภัย ให้เท่าเทียม รถปกติ ห้ามลดลง
ส่วนเทคโนโลยี ที่คิดว่าต้องเพิ่มขึ้นนี่ คิดกันไปเอง

Link นโยบายตัวเต็มครับ

http://www.faq108.co.th/boi/announcement/pdf/2556_sor01.pdf




 

ออฟไลน์ AT

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 630
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 16:04:27 »
 คิดแบบไม่รู้เรื่อง วิศวกรรมกลไกอะไรเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ถ้าจะทำให้ปล่อยมลพิษลดลง ต้องพึ่งเทคโนโลยี อะไรหรือป่าว

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 16:22:30 »
คิดแบบไม่รู้เรื่อง วิศวกรรมกลไกอะไรเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ถ้าจะทำให้ปล่อยมลพิษลดลง ต้องพึ่งเทคโนโลยี อะไรหรือป่าว


แน่นอนครับ แต่รัฐบาล ยกเว้น ภาษี ให้โรงงานด้วยนะ ไม่ใช่แค่ภาษี สรรพสามิต ที่เราได้ประโยชน์อย่างเดียว
แต่เค้าศึกษามาก่อนว่าทำได้จริง ก่อนยื่นเสนอการลงทุน ไม่ไดบังคับ เคี่ยวเข็นให้ยื่นโครงการครับ

ออฟไลน์ AT

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 630
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 16:50:23 »
คิดแบบไม่รู้เรื่อง วิศวกรรมกลไกอะไรเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ถ้าจะทำให้ปล่อยมลพิษลดลง ต้องพึ่งเทคโนโลยี อะไรหรือป่าว


แน่นอนครับ แต่รัฐบาล ยกเว้น ภาษี ให้โรงงานด้วยนะ ไม่ใช่แค่ภาษี สรรพสามิต ที่เราได้ประโยชน์อย่างเดียว
แต่เค้าศึกษามาก่อนว่าทำได้จริง ก่อนยื่นเสนอการลงทุน ไม่ไดบังคับ เคี่ยวเข็นให้ยื่นโครงการครับ

ยกเว้นให้แต่อาจจะมีต้นทุนที่สูงก็เป็นได้ พูดกลางๆนะครับไม่ได้เข้าข้างใคร เพราะคันจริงเราก็ยังไม่ได้สัมผัส
และเรายังไม่เห็นราคาเฟสสองของเจ้าอื่นเลย รอดูคันจริงครับ ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ละสำคัญด้วย อาจจะประหยัด หรือแรงเทียบเท่า 1.5 (เดานะครับ)

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 16:51:27 »
อยากรู้ครับ ที่คุยๆกันนี้ รู้ข้อกำหนด  ECO CAR กันกี่คนครับ .......

ใครไม่รู้ เอามาให้อ่านกันก่อนอะ ...... อ่านให้เข้าใจนะ เดียวผมจะขยายความต่อ .. อ้างอิงค์จากเว็ป Sanook.com

คำว่า Eco Car นั้น หลายคนเข้าใจผิดไปคิดถึง Economy Car ซึ่งหมายถึงรถราคาถูก เพื่อคนมีรายได้น้อยเป็นหลัก แต่อันที่จริงแล้ว นั่นกลับมิใช่ความหมายของคำว่า Eco Car เลย จริงๆ แล้ว Eco Car มาจากศัพท์คำว่า Ecology Car ซึ่งหมายถึง รถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ซึ่งในส่วนของประเทศไทยได้ใช้ข้อกำหนดตามมาตรฐานของยุโรป ทั้งในส่วนของ Euro4 (เฟส 2 ต้องผ่าน Euro5)ซึ่งกล่าวถึงเรื่องมลพิษ และ UNECE94-95 ที่กล่าวถึงเรื่องความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ Global standard Eco car ที่กำหนดในเรื่องของอัตรการสิ้นเปลืองน้ำมันต่อลิตร และยังมีข้อกำหนดที่ในบางประเทศกำหนดเพิ่มเติม เช่น อัตราภาษี เป็นต้น      ดังนั้นจะเห็นว่าเกิดความเข้าใจผิดอย่างมากว่า  Eco Car คือรถราคาถูก แล้วจะไม่ดี ไม่มีมาตรฐาน วิ่งทางไกลไม่ได้ โครงสร้างไม่แข็งแรง เรื่องเหล่านี้เป็นความเข้าใจผิดทั้งสิ้น เนื่องจากรถ Eco Car เป็นรถที่ถือว่ามีมาตรฐานการผลิตที่สูงมาก จนกระทั้งค่ายรถยักษ์ใหญ่หลายๆค่ายยังไม่สามารถผลิตรถได้ตามมาตรฐานที่กำหนด แต่ส่วนที่ราคารถถูกลงเนื่องจากได้รับการยกเว้นภาษีอย่างมาก ทั้งในส่วนของอะไหล่ เครื่องจักร และวัสดุที่ต้องนำเข้า สรรพสามิต อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในเรื่องการลงทุนต่างๆ เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งๆ เป็นต้น
            ข้อกำหนดคุณสมบัติของรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตราฐานสากล หรือรถอีโคอาร์ (ECO Car) มีทั้งหมด 4 ข้อ โดยรถที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานดังกล่าวจะได้รับประโยชน์ทางภาษี โดยภาษีสรรพามิตรของอีโคคาร นั้นคือ 17%
     4 คุณสมบัติ ของรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (ECO Technology)
     - ความประหยัดน้ำมัน โดยจะต้องมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 5 ลิตร/100 กม. หรือ น้ำมัน 1 ลิตรวิ่งได้ระยะทาง 20 กม.
     - การรักษาสิ่งแวดล้อม มาตรฐานมลพิษปลอดภัยระดับยูโร 4 คือ มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์น้อยกว่า 120 กรัม/ระยะทาง 1 กม. โดยรถยนต์ในกลุ่มประเทศยุโรป มีเพียง 5% ที่ผ่านมาตรฐานระดับยูโร 4 นี้(เฟส 2 ต้อง Euro5และ ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 100 กรัมต่อกิโลกรัม)
     - ความปลอดภัยในระดับสูง ได้มาตรฐานความปลอดภัยของยุโรป (UNECE 94 และ 95) ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยจากการชนด้านหน้าและด้านข้าง  
     - ความคล่องตัว เพื่อให้เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง จึงกำหนดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,300 ซีซี สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และไม่เกิน 1,400 ซีซี สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล(เฟส 2 ปรับให้เครื่องยนต์ดีเซล ไม่เกิน 1,500 CC)

ทีนี้ ไอ้ที่ส่วนใหญ่ เข้าใจกันคือ ECO CAR มันรถราคาถูก มันรถคันแรก มันรถเด็กหัดขับ ... ดังนั้น มันต้อง ถูกกกกกกกกกก (ลาก ก ล้านตัว) ใช่ไหมครับ ....... คุณเข้าใจผิดแล้ว  ...

ทำไม yaris March บริโอ ฯลฯ พูดง่ายๆ  ECO CAR เฟสแรก ถึงเครื่อง 1,200 CC ทั้งๆที่ กฏเค้ากำหนด ไม่เกิน 1,300 ไม่ใช่เพราะถ้า CC มากกว่า นี้ จะประหยัดไม่ถึง 20กิโล/ลิตร หรือเปล่า

และทำไม ECO CAR ต้องถูก เพราะในเฟส 1,2 ไม่ได้กำหนดว่า ต้องไม่เกินราคาเท่าไร .... เพียงแค่ ไอ้คนทำขายมาก่อน มันทำออกมาขายถูกเอง โดยที่ option และวัสดุ ก็ถูกตามราคารถ

ทีนี้ ถ้ามาสด้า ใช้วัสดุ อื่นๆ ตามราคารถบ้าง บอกแพง .... เฮ่ย มันใช่หรอ ......

.............................................................................

เคยถามตัวเองกันไหมครับ รถสักคัน ที่คุณจะตัดสินใจซื้ออะไร คือตัวตัดสินใจอันดับ 1

1.ราคา ต้องถูกที่สุด
2.ต้องเป็นรถที่ดีที่สุด
3.ต้องเป็นรถที่คุ้มค่าที่สุด
หรือ บลาๆ ....

ผมว่า การที่เรา มองว่า มาสด้าขายแพง คุณอาจไม่ใช่กลุ่มลูกค้าของมาสด้าก็ได้ ....

คุณเชื่อไหม มีหลายคนคุยกับผมว่า มาสด้า 2 ดีเซล ขายราคา 790,000 มันถูก .... ไม่ใช่คนเดียวที่พูดกับผม แต่บอกเลยว่า หลายคนมากๆ

ส่วนคนที่บอกแพง ต้องถามกลับว่าเทียบกับอะไร ... รถยนต์ที่ หน้าดิสหลังดรัม เครื่อง 1,500 แคมเดียว เกียร์ CVT แถมหน้าจอ ทัชสกรีนที่กดไม่ค่อยจะแม่น ตัวท๊อป เป็นเบาะผ้า พวงมาลัยยางยูรีเทน แผงคอนโซลหุ้ม PVC ทำลายหนังเหมือนเย็บจริง หลอกตาคนใช้ งั้นป่าว

ที่พูดมา ไม่ใช่จะบัพ ยี่ห้ออื่น แต่จะบอกว่า ถูก แพง คุณวัดจากอะไรครับ ....รถบางคัน ถูก แต่เคยมองกันไหมว่าได้อะไรบ้าง ..... รถอีกคันแพง และเคยไปส่องไหมว่า เค้ามีอะไรให้บ้าง ....

สุดท้าย ถูกแพง อันนี้ อยู่ที่งบคนซื้อ การซื้อรถ แบบอ้างอิงค์ราคา ผู้ผลิต ก็จะผลิตรถคุณภาพ ตามงบตามราคาที่คุณจะซื้อ .....

แต่ถ้ามาสด้าคิดต่าง .....

เจาะกลุ่มคนที่มีความรู้ เรื่องรถระดับนึง เลือก  Performance มากกว่า ราคา และพยายามรักษากลุ่มลูกค้าเดิมที่ชอบรถ สไตร์มาสด้าไว้ โดยให้ความสำคัญ Performance ของรถมากกว่า ราคา ก็ได้ .....

ถูกแพง ..อยู่ที่ มีเงินจ่าย ยินดีจ่าย หรือเปล่า ..... แค่นั้น ...




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 16:57:23 โดย apinui »

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 17:05:16 »
นโยบายเต็ม ๆ  ของ  ฺBOI  ผมเอามาแปะให้ดูแล้ว ครับ ข้าง บน
อันนั้นนโยบาย จากรัฐบาล จริงๆ ไม่ได้ มีการเสริม เติม หรือ มโน เอาไว้เลยครับ

ผมถึงบอกไง นโยบาย มันมาแค่ ประหยัด ปลอดภัย เป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อม และ ได้ส่วนลดภาษีเยอะ ( ข้อนี้ทำให้รถราคาถูกลง แต่ต้องมอง ต้นทุนจริงด้วย )
ส่วน รถ คุณจะเติม ฟรีเมี่ยม ทำรถเกรดเอ รถ เทพเทคโนโลยีอะไร นั่นคนละเรื่อง กับ นโยบาย
ดีเซล ผมว่าไม่มีใครบอกแพง

ส่วนเบนซิน เปิดตัวล่างมา 550,000 นี่ ผมบอกแพงเพราะ ยังมีตัวเลือกที่ใกล้เคียงกัน ในราคาต่ำกว่าให้เลือก
เพราะผมยังไม่ได้ มองว่า Mazda 2 เบนซิน นี่เทพกว่าค่ายอื่น

ดังนั้น บอกแพงก็ไม่ผิด
บอกถูกก็ไม่ผิด
ไม่มีใครฟันธงได้
คนซื้อเท่านั้น เป็นคนตัดสิน
ยังไงยอดผลิต 100000 คัน มันค้ำคออยู่
ยังไงมันก็มีคนซื้อแน่นอน
ยังไง Eco car เฟส 2 นี่คือการลงทุนเพื่อแข็งขัน ยังมีคู่แข่ง รออยู่อีกหลายเจ้า

สุดท้ายขอจบ ด้วยฐานลูกค้า Mazda 2 เดิม


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 17:27:49 โดย mamaman »

ออฟไลน์ ichok

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 791
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 18:43:05 »
นโยบายเต็ม ๆ  ของ  ฺBOI  ผมเอามาแปะให้ดูแล้ว ครับ ข้าง บน
อันนั้นนโยบาย จากรัฐบาล จริงๆ ไม่ได้ มีการเสริม เติม หรือ มโน เอาไว้เลยครับ

ผมถึงบอกไง นโยบาย มันมาแค่ ประหยัด ปลอดภัย เป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อม และ ได้ส่วนลดภาษีเยอะ ( ข้อนี้ทำให้รถราคาถูกลง แต่ต้องมอง ต้นทุนจริงด้วย )
ส่วน รถ คุณจะเติม ฟรีเมี่ยม ทำรถเกรดเอ รถ เทพเทคโนโลยีอะไร นั่นคนละเรื่อง กับ นโยบาย
ดีเซล ผมว่าไม่มีใครบอกแพง

ส่วนเบนซิน เปิดตัวล่างมา 550,000 นี่ ผมบอกแพงเพราะ ยังมีตัวเลือกที่ใกล้เคียงกัน ในราคาต่ำกว่าให้เลือก
เพราะผมยังไม่ได้ มองว่า Mazda 2 เบนซิน นี่เทพกว่าค่ายอื่น

ดังนั้น บอกแพงก็ไม่ผิด
บอกถูกก็ไม่ผิด
ไม่มีใครฟันธงได้
คนซื้อเท่านั้น เป็นคนตัดสิน
ยังไงยอดผลิต 100000 คัน มันค้ำคออยู่
ยังไงมันก็มีคนซื้อแน่นอน
ยังไง Eco car เฟส 2 นี่คือการลงทุนเพื่อแข็งขัน ยังมีคู่แข่ง รออยู่อีกหลายเจ้า

สุดท้ายขอจบ ด้วยฐานลูกค้า Mazda 2 เดิม



มันไม่ใช่ฐานลูกค้าเดิมหรอกครับ มันยอดขายปลายตลาดแล้วจะวัดยังไงครับ

ออฟไลน์ AT

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 630
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 18:47:04 »
นโยบายเต็ม ๆ  ของ  ฺBOI  ผมเอามาแปะให้ดูแล้ว ครับ ข้าง บน
อันนั้นนโยบาย จากรัฐบาล จริงๆ ไม่ได้ มีการเสริม เติม หรือ มโน เอาไว้เลยครับ

ผมถึงบอกไง นโยบาย มันมาแค่ ประหยัด ปลอดภัย เป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อม และ ได้ส่วนลดภาษีเยอะ ( ข้อนี้ทำให้รถราคาถูกลง แต่ต้องมอง ต้นทุนจริงด้วย )
ส่วน รถ คุณจะเติม ฟรีเมี่ยม ทำรถเกรดเอ รถ เทพเทคโนโลยีอะไร นั่นคนละเรื่อง กับ นโยบาย
ดีเซล ผมว่าไม่มีใครบอกแพง

ส่วนเบนซิน เปิดตัวล่างมา 550,000 นี่ ผมบอกแพงเพราะ ยังมีตัวเลือกที่ใกล้เคียงกัน ในราคาต่ำกว่าให้เลือก
เพราะผมยังไม่ได้ มองว่า Mazda 2 เบนซิน นี่เทพกว่าค่ายอื่น

ดังนั้น บอกแพงก็ไม่ผิด
บอกถูกก็ไม่ผิด
ไม่มีใครฟันธงได้
คนซื้อเท่านั้น เป็นคนตัดสิน
ยังไงยอดผลิต 100000 คัน มันค้ำคออยู่
ยังไงมันก็มีคนซื้อแน่นอน
ยังไง Eco car เฟส 2 นี่คือการลงทุนเพื่อแข็งขัน ยังมีคู่แข่ง รออยู่อีกหลายเจ้า

สุดท้ายขอจบ ด้วยฐานลูกค้า Mazda 2 เดิม



มันไม่ใช่ฐานลูกค้าเดิมหรอกครับ มันยอดขายปลายตลาดแล้วจะวัดยังไงครับ

ใช่ด้วยครับ อายุปลายตลาดแล้ว เทียบกับเจ้าอื่นที่เป็นgenใหม่ไม่ได้หรอกครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 18:56:36 »
 ;D

ครับ ปลายอายุครับ ออกมาไล่ๆ กลับเฟีสต้า และ โซนิค แถม เพิ่งมี ไมเนอร์เชน ครับ

เพิ่งเช็คข้อมูลมา น้องสองเก่า มีฐานเดิมเป็นแสนคัน
ดูจากรูปโฉมใหม่ ที่ ผมมองว่าสวย ยังไงมันก็ขายได้

ส่วน ถูก แพง นี่แล้วแต่คนมองครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 19:00:53 โดย mamaman »

ออฟไลน์ xtrarach

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 113
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 21:06:53 »
นโยบายเต็ม ๆ  ของ  ฺBOI  ผมเอามาแปะให้ดูแล้ว ครับ ข้าง บน
อันนั้นนโยบาย จากรัฐบาล จริงๆ ไม่ได้ มีการเสริม เติม หรือ มโน เอาไว้เลยครับ

ผมถึงบอกไง นโยบาย มันมาแค่ ประหยัด ปลอดภัย เป็น มิตรกับสิ่งแวดล้อม และ ได้ส่วนลดภาษีเยอะ ( ข้อนี้ทำให้รถราคาถูกลง แต่ต้องมอง ต้นทุนจริงด้วย )
ส่วน รถ คุณจะเติม ฟรีเมี่ยม ทำรถเกรดเอ รถ เทพเทคโนโลยีอะไร นั่นคนละเรื่อง กับ นโยบาย
ดีเซล ผมว่าไม่มีใครบอกแพง

ส่วนเบนซิน เปิดตัวล่างมา 550,000 นี่ ผมบอกแพงเพราะ ยังมีตัวเลือกที่ใกล้เคียงกัน ในราคาต่ำกว่าให้เลือก
เพราะผมยังไม่ได้ มองว่า Mazda 2 เบนซิน นี่เทพกว่าค่ายอื่น

ดังนั้น บอกแพงก็ไม่ผิด
บอกถูกก็ไม่ผิด
ไม่มีใครฟันธงได้
คนซื้อเท่านั้น เป็นคนตัดสิน
ยังไงยอดผลิต 100000 คัน มันค้ำคออยู่
ยังไงมันก็มีคนซื้อแน่นอน
ยังไง Eco car เฟส 2 นี่คือการลงทุนเพื่อแข็งขัน ยังมีคู่แข่ง รออยู่อีกหลายเจ้า

สุดท้ายขอจบ ด้วยฐานลูกค้า Mazda 2 เดิม




ปลายอายุสุดๆ รุ่นใหม่นี่วางเต็ม motorshow แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 21:09:25 โดย xtrarach »

ออฟไลน์ Manwalker

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 23
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 21:40:53 »
มาสด้าขับดีกว่า vios ครับ (yaris ไม่ต้องเทียบเพราะคนละsegment)
ขับช้า ขับเร็ว 110-120 บูรพาวิธี vios นี่feelling พวงมาลัยไม่ค่อยมั่นใจ ช่วงล่างกระตัวถัง
เจอลมแรงๆขับเครียดเหมือนกัน แต่ mazda 2 ยังโออยู่

ประหยัดกว่า น่าใช้กว่าครับ ขับแล้วอุ่นใจไม่เครียด
ณ ตอนนี้ผมว่าน่าขับสุดละใน b segment ถ้าเป็นคนทีมี passion การขับจะชอบครับ

แต่ถ้าคนไม่คิดอะไรมาก ไปtoyo hon คับ เพราะยังไงรถก็เลือกคุณครับ (ไม่ใช้ไคุณเลือกรถนะ)
เพราะคนที่เลือกtoyo hon โดยเฉพาะtoyo คุณเลือกรถยี่ห้ออื่นไม่ได้หรอกคับชีวิตนี้ เพราะคุณคือ mass
เค้าผลิดรถอะไรมาให้ ก็ต้องซื้อครับ ผลิตตัวที่น่าใช้หน่อยก็ดีไป และเมื่อคุณเลือกไม่ได้ คุณก็จะไม่รู้ว่ารถรุ่นอื่นในsegment ที่คุณกำลังเล่นอยู่ ดีกว่ารถคุณแค่ไหน แต่คุณจะได้ อะไรที่มันกลางๆ พอใช้ ไม่ได้ดีไปใดด้านใดด้านหนึ่ง



 

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 21:53:05 »
มาสด้าขับดีกว่า vios ครับ (yaris ไม่ต้องเทียบเพราะคนละsegment)
ขับช้า ขับเร็ว 110-120 บูรพาวิธี vios นี่feelling พวงมาลัยไม่ค่อยมั่นใจ ช่วงล่างกระตัวถัง
เจอลมแรงๆขับเครียดเหมือนกัน แต่ mazda 2 ยังโออยู่

ประหยัดกว่า น่าใช้กว่าครับ ขับแล้วอุ่นใจไม่เครียด
ณ ตอนนี้ผมว่าน่าขับสุดละใน b segment ถ้าเป็นคนทีมี passion การขับจะชอบครับ

แต่ถ้าคนไม่คิดอะไรมาก ไปtoyo hon คับ เพราะยังไงรถก็เลือกคุณครับ (ไม่ใช้ไคุณเลือกรถนะ)
เพราะคนที่เลือกtoyo hon โดยเฉพาะtoyo คุณเลือกรถยี่ห้ออื่นไม่ได้หรอกคับชีวิตนี้ เพราะคุณคือ mass
เค้าผลิดรถอะไรมาให้ ก็ต้องซื้อครับ ผลิตตัวที่น่าใช้หน่อยก็ดีไป และเมื่อคุณเลือกไม่ได้ คุณก็จะไม่รู้ว่ารถรุ่นอื่นในsegment ที่คุณกำลังเล่นอยู่ ดีกว่ารถคุณแค่ไหน แต่คุณจะได้ อะไรที่มันกลางๆ พอใช้ ไม่ได้ดีไปใดด้านใดด้านหนึ่ง
 

ทำไมผมแยกไม่ออก ว่า mazda 2 ตัวเก่า ขับดีกว่า vios yaris ที่ความเร็ว 120 ปกติผมขับ B segment ผมก็ขับไม่เกินนี้ครับ
แล้วขับ 120 แช่ นี่ผมไม่คิดว่ารถเล็กมันจะประหยัดต่างกันเท่าไหร่นะครับ
ส่วน yaris  นี่  segment เดียวกับ mazda 2 มันก็ B-segment เหมือนกันละครับ แค่เครื่องคนละขนาด

ถ้าจะรู้สึกว่ามี b segment ที่ขับดีๆ สักคัน ผมยกให้ เฟีสต้าครับ รู้สึกได้ชัดเจน

แต่ มาสด้าสอง ตัวใหม่ผมเห็นแค่ option ควบคุมรถมาเต็มกว่าชาวบ้านยังไม่ได้ไปลองขับตัว ดีเซล

แปลกดีครับ ประเทศไทย รถเลือกคนได้ด้วย Toyota honda เค้าเลือก เจ้าของรถเองได้ครับ ถึ่งรู้