ผู้เขียน หัวข้อ: ขอมาสะด้าอีกซักมู้  (อ่าน 11141 ครั้ง)

ออฟไลน์ xtrarach

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 113
    • อีเมล์
ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 10:54:04 »
ขอแบบคุยกันดีๆนะครับ ไม่ต้อง beat กันให้ต้องมีฝ่ายชนะ ขอให้เปรียบเทียบเชิงสิ่งที่ได้ต่อราคาค่าตัว ไม่สนเรื่องภาษีใดๆทั้งนั้นนะครับ

If ราคาเปิดตัวเครื่อง 1.3 มาที่ 550,000 จริง mazda จะไม่มีที่ยืนในตลาดหรือ?

เปรียบเทียบราคาเดียวกัน เทียบ yaris ตัวกลาง
Yaris ได้เปรียบเรื่องจ้าวตลาด และ ห้องโดยสาร
Mazda ได้ ล้อแมก พวงมาลัยมัลติปรับ4ทิศ เครื่องที่น่าจะแรงกว่านิดประหยัดกว่าหน่อย เกียร์6สปีดเล่น+-ได้ dsc trc hla กระจกหน้าลดเสียง push start คุณภาพวัสดุภายใน (ช่วงล่างเยี่ยม เบรคดี พวงมาลัยคม เก็บเสียง อันนี้อิงจาก first impression)

เปรียบเทียบราคาเดียวกันกับ city ตัวล่าง
City ได้จ้าวตลาด ห้องโดยสาร เครื่อง1.5
Mazda ได้ ล้อแมก พวงมาลัยมัลติ..  .............  เกียร์6สปีดเล่น+-ได้ .. .. ..  กระจกหน้าลดเสียง push start .......... (ช่วงล่างเยี่ยม เบรคดี พวงมาลัยคม เก็บเสียง อันนี้อิงจาก first impression)

เทียบ city ไปแล้วไม่เทียบ vios แล้วนะครับ ยังไง option city มาเต็มกว่าอยู่แล้ว
Option mazda2 อ้างอิงจาก if ยกตัวดีเซลมาเปลี่ยนเครื่องอย่างเดียว

ในมุมมองของผม ปกติคำว่าจ้าวตลาด ศูนย์บริการ เค้าไม่ได้เอามารวมในราคารถอยู่แล้ว
ความใหญ่ ยังไงมันก็ segment เดียวกัน แค่ตอบสนองความต้องการลูกค้าที่ต่างกันแค่นั้น    2ตัวเก่า fiesta swift ก็ขายได้มากมาย

ในมุมมองของผม ผมว่าราคาก็เป็นธรรมอยู่
และผมอยากเข้าใจว่าทำไมหลายคนถึงมองว่ามันจะไม่มีที่ยืนในตลาด หรือมองว่าตั้งราคาแพงเกินไปแบบไม่น่าให้อภัย

อย่าลืมนะครัช คุยกันดีๆนะ


ปล. ผมเป็นติ่งมาสด้าออกมาปกป้องค่ายรักครับ ;D

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:03:58 โดย xtrarach »

ออฟไลน์ Deaw

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,073
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:15:18 »
มันก็คงขายได้แหละ แต่จะขายดีหรือไม่อันนี้คงต้องรอดูกัน
รถมันก็สวยเด่นกว่าค่ายอื่นนะ ต่อให้ไม่มีอะไรดีซักอย่างเลย แค่ความสวยมันก็ช่วยให้มันขายได้อยู่แล้ว
คนวิจารย์กันว่าแพงเพราะว่าใช้สิทธิ eco car น่าจะทำราคาได้ต่ำกว่านี้
แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า eco car phase 2 ค่ายอื่นๆ จะออกมาราคาแบบไหน เพราะว่าต้นทุนคงสูงกว่า phase แรกพอควร
ถ้า test ออกมาแล้วอัตราเร่งโอเค อัตราสิ้นเปลืองใช้ได้ มันก็คงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจระดับต้นๆ เลย

ปล. city เหมือนจะดีทุกอย่าง แต่ vios ก็ยังขายดีกว่านะครับ

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:16:35 »
เปิดมาราคานี้ cc มากกว่าสวิฟอยู่ 50 cc และ ราคาถูกกว่าวีออสไม่กี่หมื่น ถ้ารวมส่วนลดเผลอๆ ถูกกว่า แต่ได้เครื่องใหญ่กว่าตั้ง 200 cc คิดว่าสมเหตุสมผลหรือป่าว
จากการทดสอบขึ้นมาจริงๆ ตัวเลขอาจดีกว่าวีออส แต่คนทั่วไปจะรู้หรอ แค่เจอ 1300 แต่ราคาเท่า1500เจ้าตลาดเค้าจะเลือกอะไรกัน

จริงๆผมก็คิดว่ามันก็น่าจะขายได้ แต่ถ้าจะให้ดีกว่า ที่ 3 อย่าง แจ็ส คงเป็นไปไม่ได้ แต่ยอดรวมน่าจะชนะเฟียสต้าได้ไม่ยาก

ออฟไลน์ johnlee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,603
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:17:08 »
ก็ถือว่าใช้ได้ สำหรับคนที่เน้นขับ มากกว่าเน้นนั่ง

ถึงแม้ผมจะเน้นขับ  แต่เวลาขนของ ยกของ ถ้ารถแคบๆ มันก็อึดอัดอยู่ดี แม้ผมจะตัวเล็กผอม

2ตัวนี้ไปดูคันจริงมาแล้ว ยังโตไม่พอสำหรับผมอ่ะ
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,632
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:18:41 »
  ผมไม่ได้เป็นติ่งมาสด้า  
   แต่เวลาซื้อรถกลับซื้อโตโยต้าและครอบครัวญาติพี่น้องก็ให้ซื้อโตโยต้า  น่าจะเยอะมากแล้วน่าแทบไม่มีรถยี่ห้ออื่นเลย  
ในอนาคตจึงอยากดูรถที่นอกเหนือจากโตโยต้าบ้าง     แต่เซล เชฟกับฟอร์ด หรือรถยุโรป ไม่ต้องดีใจไปเพราะผมไม่มีวันเป็นลูกค้าของท่านแน่นอน    

  รถกลุ่มที่ผมมองคือไม่จุกจิกซับซ้อนเกินไป  ซ่อมไม่ยากเกินไปและราคาค่าซ่อมไม่แพงมากนักเข้าใจว่ามันไม่มีทางถูกไปกว่าโตโยต้าหลาย   ๆ คันที่ผมใช้อยู่  แต่ต้องค่าซ่อมต้องไม่แพงกว่ากันมากนักจนกลายเป็นว่าซื้อเอามาเป็นภาระกับค่าซ่อมค่าดูแล  ที่สำคัญมันต้องอยู่ได้ยาว  ๆ มีอะไหล่ยาว ๆ   ไปไหนก็ดูมีเอกลักษณ์ไม่โหลแบบ  City Vios Jass หรือโหลแบบปิคอัพทั่วไปที่ไปไหนก็เจอ       ผมเลยมามองรถกลุ่ม Mazda  Subaru  ที่เข้าข่ายที่ว่านี้

 MAZDA  ถ้าเป็น 1.3 ผมไม่มีความเห็นตามที่จขกท ถามเพราะผมไม่คิดจะซื้อรุ่นนี้เลย     แต่ถ้าจะเล่นผมจะขยับไปเล่น มาสด้า2  ตัวดีเซล มือ 1 หรือมือ 2 ก็ได้  หรือไม่ก็จะขยับไปเล่น CX5  2.0 หรือ 2.2  มือ 2 นี่ก็เล็ง ๆ  อยู่หรือไม่ก็เล็ง Subaru  มือ 2 ( แต่ราคามือ 2 ไม่ลง ปล่อยให้เจ้าของเดิมติดดอยกันไปก่อน )  ถามว่าโดยส่วนตัวราคารถมาสด้าไม่ว่ารุ่นไหน  ตั้งราคาไม่ค่อยถูกเท่าไหร่   ถ้าถูกก็คือตัดอ๊อพชั่นไปเลย   เพราะงั้นผมว่าราคาเหมาะสมหรือแพงไปไหมหรือว่าไงนั้น  ผมรับได้ในส่วนที่ผมมีกำลังจะซื้อก็แล้วกันครับ   เพราะมาสด้าถือว่าให้ Option เยอะ  และส่วนใหญ่แอร์มี Heater ทุกรุ่น   ผมคงหาแบบนี้ไม่ได้ในรถ TOYOTA      ฟิลลิ่งการขับขี่สนุกในเมืองแต่นอกเมืองก็คงงั้น ๆ  ซึ่งผมเอาแค่นี้พอแล้วไม่เน้นแรง        แต่ว่าถ้ารับราคาไม่ได้ผมก็เล็งมือ 2 แทน  เพราะนโยบายศูนย์มาสด้าตอนนี้ห้ามศูนย์ลดแหลกแข่งขันกัน       มันทำให้ศูนย์เดือดร้อนกับลูกค้าไม่ได้ประโยชน์   เพราะศูนย์ที่แข่งไม่ได้มีอีกหลายศูนย์  ถ้าเงื่อนไขเดียวกันใครจะไปจูงใจให้ออกรถล่ะครับ

ออฟไลน์ kris-lack

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,763
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:19:10 »
ขอคุยด้วยคน (แบบคนไม่มีความรู้เรื่องรถอย่างเรา)
เราว่าตอนนี้ตอบยาก เพราะยังไงคำว่า eco car ที่มาสด้าเข้าช่องมาก็ค้ำคออยู่ดี ถึงหลายๆคน (ที่รู้เรื่องรถยนต์) จะพยายามอธิบายว่า มันแค่เข้ามาช่องนี้ แต่เทคโนโลยีมันสูงกว่า eco car ดังนั้นราคามันย่อมสูงกว่าเป็นเรื่องธรรมดา ข้อนี้กลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ เดาว่า คงเป็นคนรู้เรื่องรถหน่อยนึง ไม่ใช่ชาวบ้านชาวช่อง คงรับได้

แต่กลุ่มนึงที่กลางๆ รู้เรื่องรถบ้าง ไม่รู้เรื่องรถบ้าง อ่านข้อมูลรถบ้างตามเน็ต กลุ่มนี้คงรอดูสมรรถนะ และความคุ้มค่า ถ้าผลทดสอบที่ออกมาให้อ่านตามเน็ตตามสื่อ ดี ก็คงขายได้ แต่ถ้าออกมาแย่ ก็คงไม่มีที่ยืน

ส่วนกลุ่มที่ยังไงก็ต้องเจ้าตลาด (ครอบครัวเราเป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น มีเราคนเดียวที่ใช้นิสสัน) ยังไงถึงมาสดาเอาเครื่องเทพยังไง เทคโนโลยีเทพแค่ใหนมาลง ลดราคาลงกว่านี้อีกหน่อย ก็คงไม่ซื้อหรือซื้อยากมาก
  

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:19:29 »
B-segment ถ้ามองในกลุ่มนี้มันประหยัดกว่าใคร
Ecocar ถ้ามองในกลุ่มนี้มันก็ขับดีกว่าใคร
มันก็อยู่ตรงกลางแล้ว ใครที่หารถประหยัดขับดี
ผมว่ามันโอเคเลยนะ น่าสนเหมือนกัน
แต่นั้นหละมันแค่สมมุติฐาน ยังไม่เคยลองขับ


ออฟไลน์ chettaphong

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 115
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:24:15 »
ผมก็มองอย่างคุณนี่แหละครับ
ตอนนั้นเทียบกับ Jazz V+ กับ Mazda 2 XD (ตัวเริ่มต้น)
ราคาต่างกันไม่มาก Mazda ถุกกว่าด้วย แถม อุปกรณ์ความปลอดภัยครบ
ผมกํบแฟนก็ตกลงกันว่าลอง Mazda 2 กันเถอะ เพราะ ไปอ่านในคลับมา
ทั้งอัตราเร่ง สูสีกับ Jazz แต่ได้ความ ประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่า
และช่วงล่างที่ดีกว่า
(ผมไม่เน้นบรรทุกคนเพราะมี Freed อีกคันอยู่แล้ว)

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,632
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:27:41 »
ขอคุยด้วยคน (แบบคนไม่มีความรู้เรื่องรถอย่างเรา)
เราว่าตอนนี้ตอบยาก เพราะยังไงคำว่า eco car ที่มาสด้าเข้าช่องมาก็ค้ำคออยู่ดี ถึงหลายๆคน (ที่รู้เรื่องรถยนต์) จะพยายามอธิบายว่า มันแค่เข้ามาช่องนี้ แต่เทคโนโลยีมันสูงกว่า eco car ดังนั้นราคามันย่อมสูงกว่าเป็นเรื่องธรรมดา ข้อนี้กลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ เดาว่า คงเป็นคนรู้เรื่องรถหน่อยนึง ไม่ใช่ชาวบ้านชาวช่อง คงรับได้

แต่กลุ่มนึงที่กลางๆ รู้เรื่องรถบ้าง ไม่รู้เรื่องรถบ้าง อ่านข้อมูลรถบ้างตามเน็ต กลุ่มนี้คงรอดูสมรรถนะ และความคุ้มค่า ถ้าผลทดสอบที่ออกมาให้อ่านตามเน็ตตามสื่อ ดี ก็คงขายได้ แต่ถ้าออกมาแย่ ก็คงไม่มีที่ยืน

ส่วนกลุ่มที่ยังไงก็ต้องเจ้าตลาด (ครอบครัวเราเป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น มีเราคนเดียวที่ใช้นิสสัน) ยังไงถึงมาสดาเอาเครื่องเทพยังไง เทคโนโลยีเทพแค่ใหนมาลง ลดราคาลงกว่านี้อีกหน่อย ก็คงไม่ซื้อหรือซื้อยากมาก
  
+1  ภาพรวมส่วนใหญ่น่าจะเป็นแบบที่คุณว่ามาครับ

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:34:32 »
ผมว่าเค้าตั้งราคาเริ่มต้นได้ไม่เป็นอะ เจ้าอื่นตัวเริ่มต้นนี่โล้นๆเลยทำราคาออกมาให้ต่ำที่สุดเพื่อเรียกคนมาดูแต่พอซื้อจริงคนเพิ่มเงินไปซื้อตัวกลางถึงท็อปกันอยู่ดี ลองคิดดูมาสด้า 2 ราคาเริ่มต้น 675,000 กับซิตี้ราคาเริ่มต้น 550,000 ออโต้ที่ 589,000 จะเรียกความสนใจได้มากกว่ากัน ถ้า1.3 ก็เทียบยาริสเริ่มต้นที่ 469,000 แต่คนไปซื้อตัว E กับตัวท็อปกันหมดอยู่แล้ว


แต่ถ้ามองในอีกแง่ กลุ่มลูกค้าเค้าคงหวังคนที่สนใจจริงๆและกลุ่มนี้ต้องศึกษามาพอสมควรอยู่แล้วจึงทำตัวเริ่มต้นเท่าๆตัวกลางเจ้าอื่นไปเลยรุ่นรถจะได้น้อยๆด้วย....มั้งนะครับ เพราะดูจาก Mazda 3, CX-5 ผมว่าการตลาด ออปชั่น ราคา เค้าดีมากๆแล้วรึ 2 จะเหนือชั้นกว่ากันอีก
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ TG333

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 311
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:35:30 »
ส่วนตัวผมมองว่าราคามันก็โอเคน่ะ เพราะอย่าลืมว่ารุ่นล่างสุดของมาสด้า มันเทียบกับรุ่นกลางๆ ของหลายๆ ยี่ห้อครับ

ตรงนี้อาจจะเป็นส่วนนึงที่ทำให้หลายคนมองว่าแพงไปรึเปล่า เพราะหลายคนดูแค่ราคาตัวล่าง แต่ไม่มองออฟชั่นว่าเทียบได้กับตัวไหน

แต่นั่นแหละครับ บางครั้งมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป หลายคนบอกว่ารุ่นล่างคงขายได้รุ่นเดียว รุ่นอื่นแพงไป แต่เวลายอดขายออกมารุ่นที่แพงไปมันมักจะขายดีกว่าเสมอ

All New Mazda 3 Skyactiv 2.0S Sedan

ออฟไลน์ kris-lack

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,763
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:46:43 »
ส่วนตัวผมมองว่าราคามันก็โอเคน่ะ เพราะอย่าลืมว่ารุ่นล่างสุดของมาสด้า มันเทียบกับรุ่นกลางๆ ของหลายๆ ยี่ห้อครับ

ตรงนี้อาจจะเป็นส่วนนึงที่ทำให้หลายคนมองว่าแพงไปรึเปล่า เพราะหลายคนดูแค่ราคาตัวล่าง แต่ไม่มองออฟชั่นว่าเทียบได้กับตัวไหน

แต่นั่นแหละครับ บางครั้งมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป หลายคนบอกว่ารุ่นล่างคงขายได้รุ่นเดียว รุ่นอื่นแพงไป แต่เวลายอดขายออกมารุ่นที่แพงไปมันมักจะขายดีกว่าเสมอ


อันนี้คือพูดในฐานะคนรูเรื่องรถและศึกษาข้อมูลรถ

ส่วนคนไม่รู้เรื่องหรือรู้เรื่องน้อย ยังไงรุ่นล่างก็ต้องเทียบกับรุ่นล่าง eco car ก็ต้องเทียบกับ eco car

ออฟไลน์ TG333

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 311
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:54:19 »
ส่วนตัวผมมองว่าราคามันก็โอเคน่ะ เพราะอย่าลืมว่ารุ่นล่างสุดของมาสด้า มันเทียบกับรุ่นกลางๆ ของหลายๆ ยี่ห้อครับ

ตรงนี้อาจจะเป็นส่วนนึงที่ทำให้หลายคนมองว่าแพงไปรึเปล่า เพราะหลายคนดูแค่ราคาตัวล่าง แต่ไม่มองออฟชั่นว่าเทียบได้กับตัวไหน

แต่นั่นแหละครับ บางครั้งมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป หลายคนบอกว่ารุ่นล่างคงขายได้รุ่นเดียว รุ่นอื่นแพงไป แต่เวลายอดขายออกมารุ่นที่แพงไปมันมักจะขายดีกว่าเสมอ


อันนี้คือพูดในฐานะคนรูเรื่องรถและศึกษาข้อมูลรถ

ส่วนคนไม่รู้เรื่องหรือรู้เรื่องน้อย ยังไงรุ่นล่างก็ต้องเทียบกับรุ่นล่าง eco car ก็ต้องเทียบกับ eco car

คนทั่วไปเค้าไม่เทียบ eco car หรอกครับ เค้ายังติดภาพว่ามาสด้า 2 ต้องเทียบกับ vios jazz city หรือแม้แต่ yaris ครับ มีแต่พวกรู้เรื่องนี่แหละ ถึงรู้ว่ามาสด้า 2 คือ Eco car คนทั่วๆไป อีกมากที่ยังไม่รู้เลยครับว่า Eco car มันมีเฟส สองแล้ว

ขนาดคนรอบตัวผม ยังไม่รู้เลยว่ามาสด้า 2 เข้า Eco car เค้าคิดว่าแค่มันออกรุ่นใหม่มาเฉยๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:56:31 โดย TG333 »
All New Mazda 3 Skyactiv 2.0S Sedan

ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 11:58:22 »
ผมว่าจุดเจ็บปวดที่สุดของ Mazda2 ก็คงคำว่า Eco ครับ ผมไปเปิดหนังสืออ่าน ทุกที่บอกว่าเป็น Eco แล้วเอาไปเทียบกับมาร์ช กับสวิฟ กับ ยาริส
แล้วทุกคนก็มองว่า Eco คือรถราคาถูกที่ขับแค่พอไปจากจุดไปอีกจุดได้ก็พอแล้ว ซึ่งแม่ง (^*^&(&^%^$%^%*&^*)(*_%@#$%^&* มากๆ (Auto B***)

ซึ่งจริงๆ Ecocar มันควรเป้นรถที่ปล่อยมลพิษต่ำ ประหยัดน้ำมันที่ไม่เกี่ยงราคา กับขนาด แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของรถบอดี้ใหญ่ราคาถูกซะงั้น แล้วเวลาแปะราคา 2 กับคนอื่นในเซกเมนต์ 1.2 มันก็แพงกว่าชาวบ้านเขาดิครับ ตัวท็อปชาวบ้านเขายังราคาพึ่งจะแตะรุ่นล่าง 2

คนที่ไม่รู้เรื่องรถก็เมินหน้าหนีหมด

แต่ถ้าคนตามข่าวหน่อยก็จะรู้ว่ามันได้สิทธิ Eco เพื่อลดภาษีในการทำราคาเครื่องให้ถูกลงมาฟัดกับ Jazz กับ Fiesta ไม่ใช่ March
H.

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 12:12:14 »
มันขายได้ครับ แต่จะขายดีหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะมันคือรถที่ดีครับ ไม่มีใครบอกไม่ดี
อาจจะโดนใจ กลุ่มที่เล่นรถ มีความรู้ในตัวรถ
แต่อาจจะไม่โดนกลุ่ม ผู้ใช้รถทั่วไป

เพราะ อย่าลืม มันคือ Eco  เวลา ชาวบ้าน ทั่วไปไม่ใช่ ชุมชน Board แห่งนี้ เค้าก็เอาไปเทียบกับ Swiff
รถในกลุ่มของมัน คือ



ยังมี คนที่ซื้อรถ ต้องการเพียงแค่ โจทน์ไม่กี่อย่างคือ
1.ถูก ดี ทน


ก่อนจะขายรถ ในไทย ต้องทำการบ้าน เจาะ กลุ่มผู้บริโภค มากๆ ครับ

โดย ส่วนตัว ผมยังเชื่อว่า Mazda 2 จะให้ตัว Low ที่ตัด option  ที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อ ให้ คนได้ใช้รถในราคาถูก
เหมือนที่ทำใน Mazda 3  แล้ว แป้ก จนคนไปออกตัว Top หมด

หาก มาสด้า ออกราคามาต่ำกว่า 500000  ตัดล้อแม๊ก ตัด push start ตัดพวงมาลัย multi function ตัด แอร์ Auto แต่คง heater ไว้
มันจะเป็นอีกตัวเลือกที่ดีเลยนะครับ

ที่ผมพูดมานี้ คือ
ผมเอาตัวผมเมื่อซื้อรถคันแรกของตัวเองเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ไม่ใช่เอาตัวผมตอนนี้มาคิด

นี่คือ ตัวผมเมื่อ 10 ปีก่อนนะครับ รถที่ผมเลือกรถ แบบนี้เลย ซื้อด้วยเงินเดือนอันน้อยนิดตอนเริ่มทำงาน ไม่เคยมีรถเป็นของตัวเอง
แอร์ เอาแค่เย็น
แม๊ก เหรอ แพงไม่เอา
กระจก พับไฟฟ้า ไม่เอา นานๆ พับที !!!!!!
ราคา โห แพงกว่า ตั้ง 5000 ไม่เอา !!!!!!
เกียร์ 5AT คืออะไร ? ไม่รู้จัก รู้แต่ manual กับ Auto ขับออกไปได้พอ
เอารถที่ประหยัดน้ำมันที่สุด YES
Airbag ไม่เอา ชนมาก็ตายไม่ใช้ ไม่เอา ?
ABS คืออะไร ไม่รู้จัก ?



ดังนั้น เวลาวิเคราะห์อะไร อย่าฟังธง อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เพราะ คนมีหลายความรู้ หลายรสนิยมครับ

อย่า ลืม swiff ขายดีเพราะอะไร ไม่ใช่เพียงแค่รถสวย แต่เพราะราคามันถูกมากๆ ด้วยครับ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 12:14:04 โดย mamaman »

ออฟไลน์ Mr Children Namonaki Uta

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 12:21:00 »
ลองคุยอีกมุมนึง ถ้าราคา Mazda 2 1.3 มาชนกับ Jazz  City Vios Yaris

พวกกลุ่มอีโค่คาร์ที่ราคาต่ำกว่าย่าน 6 แสนคงไม่ต้องรับน้องครับ เพราะราคาปัจจุบันบวกส่วนลดก็ถูกมากอยู่แล้ว
ซึ่งผลงานของ 2 จะขายดีรึไม่ไม่รู้ล่ะ ฝ่ายตรงข้ามต้องรับน้องจัดเต็มไว้ก่อนประมาณนึง
เพราะสมัยนี้ลูกค้าคือสิ่งที่หายากมากครับ
ซึ่งฝ่ายตรงข้ามเป็นจ้าวตลาดล้วนๆ ซะด้วย เงินอุดหนุน ส่วนลดของแถมน่าจะเยอะอยู่ครับ  ;D

ออฟไลน์ nl2br

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,019
    • ร้านค้าออนไลน์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 12:23:27 »
ส่วนตัวผมมองว่าราคามันก็โอเคน่ะ เพราะอย่าลืมว่ารุ่นล่างสุดของมาสด้า มันเทียบกับรุ่นกลางๆ ของหลายๆ ยี่ห้อครับ

ตรงนี้อาจจะเป็นส่วนนึงที่ทำให้หลายคนมองว่าแพงไปรึเปล่า เพราะหลายคนดูแค่ราคาตัวล่าง แต่ไม่มองออฟชั่นว่าเทียบได้กับตัวไหน

แต่นั่นแหละครับ บางครั้งมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป หลายคนบอกว่ารุ่นล่างคงขายได้รุ่นเดียว รุ่นอื่นแพงไป แต่เวลายอดขายออกมารุ่นที่แพงไปมันมักจะขายดีกว่าเสมอ


อันนี้คือพูดในฐานะคนรูเรื่องรถและศึกษาข้อมูลรถ

ส่วนคนไม่รู้เรื่องหรือรู้เรื่องน้อย ยังไงรุ่นล่างก็ต้องเทียบกับรุ่นล่าง eco car ก็ต้องเทียบกับ eco car

คนทั่วไปเค้าไม่เทียบ eco car หรอกครับ เค้ายังติดภาพว่ามาสด้า 2 ต้องเทียบกับ vios jazz city หรือแม้แต่ yaris ครับ มีแต่พวกรู้เรื่องนี่แหละ ถึงรู้ว่ามาสด้า 2 คือ Eco car คนทั่วๆไป อีกมากที่ยังไม่รู้เลยครับว่า Eco car มันมีเฟส สองแล้ว

ขนาดคนรอบตัวผม ยังไม่รู้เลยว่ามาสด้า 2 เข้า Eco car เค้าคิดว่าแค่มันออกรุ่นใหม่มาเฉยๆ
เห็นด้วยตามนี้เลยครับ ต้องคนมีความรู้ อ่านเว็บ เข้าเน็ท ตามเรื่องรถจริงๆ ถึงจะรู้ว่ามาสด้าได้สิทธิ์ คนทั่วๆไป เห็นขนาดมันเท่าเดิม ก็คงเทียบกับตัวเดิม หรือเพื่อนๆของมันแหละ
แล้วถ้ามันเปิดตัวมาจริงๆ แล้วทำความประหยัดขึ้นหัวตารางได้ ผมว่ามันก็ขายได้อยู่แล้วครับ คนซื้อเค้าไม่สนหรอกว่า ecocar หรือไม่ เพราะขนาดและราคามันก็เท่าๆกับตัวเดิม แถวสวยกว่าเดิม(หรือเปล่า)
บล็อกข่าวไอทีกากๆ >> https://thaimobiletricks.blogspot.com/ << ข่าวมือถือ มือถือรุ่นใหม่

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 12:25:21 »
ผมว่าจุดเจ็บปวดที่สุดของ Mazda2 ก็คงคำว่า Eco ครับ ผมไปเปิดหนังสืออ่าน ทุกที่บอกว่าเป็น Eco แล้วเอาไปเทียบกับมาร์ช กับสวิฟ กับ ยาริส
แล้วทุกคนก็มองว่า Eco คือรถราคาถูกที่ขับแค่พอไปจากจุดไปอีกจุดได้ก็พอแล้ว ซึ่งแม่ง (^*^&(&^%^$%^%*&^*)(*_%@#$%^&* มากๆ (Auto B***)

ซึ่งจริงๆ Ecocar มันควรเป้นรถที่ปล่อยมลพิษต่ำ ประหยัดน้ำมันที่ไม่เกี่ยงราคา กับขนาด แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของรถบอดี้ใหญ่ราคาถูกซะงั้น แล้วเวลาแปะราคา 2 กับคนอื่นในเซกเมนต์ 1.2 มันก็แพงกว่าชาวบ้านเขาดิครับ ตัวท็อปชาวบ้านเขายังราคาพึ่งจะแตะรุ่นล่าง 2

คนที่ไม่รู้เรื่องรถก็เมินหน้าหนีหมด

แต่ถ้าคนตามข่าวหน่อยก็จะรู้ว่ามันได้สิทธิ Eco เพื่อลดภาษีในการทำราคาเครื่องให้ถูกลงมาฟัดกับ Jazz กับ Fiesta ไม่ใช่ March

คนที่เค้าคิดว่า รถเครื่อง 1300 นี่ ไปเทียบกับ รถ เครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน อย่าง  March,Swiff,Yaris  ที่ได้ สิทธิ ภาษี ECOCAR เหมือนกัน แต่คนละเฟส เค้าผิดมากเหรอครับ ???
หรือ ที่ถูกต้อง คือ ต้อง ไปเทียบ Jazz City Fiesta Vios Amera ที่รถเหล่านี้ไม่ได้ สิทธิ ภาษี ECO CAR

รัฐบาลให้ สิทธิทางภาษี ต่ำ สำหรับรถที่ประหยัดน้ำมัน เครื่อง 1300 CC เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้ม เพื่อให้ประชาชน ได้ใช้รถในราคาถูก ข้อนี้ จริงหรือผิดครับ ?



ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 13:18:11 »
ผมว่าจุดเจ็บปวดที่สุดของ Mazda2 ก็คงคำว่า Eco ครับ ผมไปเปิดหนังสืออ่าน ทุกที่บอกว่าเป็น Eco แล้วเอาไปเทียบกับมาร์ช กับสวิฟ กับ ยาริส
แล้วทุกคนก็มองว่า Eco คือรถราคาถูกที่ขับแค่พอไปจากจุดไปอีกจุดได้ก็พอแล้ว ซึ่งแม่ง (^*^&(&^%^$%^%*&^*)(*_%@#$%^&* มากๆ (Auto B***)

ซึ่งจริงๆ Ecocar มันควรเป้นรถที่ปล่อยมลพิษต่ำ ประหยัดน้ำมันที่ไม่เกี่ยงราคา กับขนาด แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของรถบอดี้ใหญ่ราคาถูกซะงั้น แล้วเวลาแปะราคา 2 กับคนอื่นในเซกเมนต์ 1.2 มันก็แพงกว่าชาวบ้านเขาดิครับ ตัวท็อปชาวบ้านเขายังราคาพึ่งจะแตะรุ่นล่าง 2

คนที่ไม่รู้เรื่องรถก็เมินหน้าหนีหมด

แต่ถ้าคนตามข่าวหน่อยก็จะรู้ว่ามันได้สิทธิ Eco เพื่อลดภาษีในการทำราคาเครื่องให้ถูกลงมาฟัดกับ Jazz กับ Fiesta ไม่ใช่ March

คนที่เค้าคิดว่า รถเครื่อง 1300 นี่ ไปเทียบกับ รถ เครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน อย่าง  March,Swiff,Yaris  ที่ได้ สิทธิ ภาษี ECOCAR เหมือนกัน แต่คนละเฟส เค้าผิดมากเหรอครับ ???
หรือ ที่ถูกต้อง คือ ต้อง ไปเทียบ Jazz City Fiesta Vios Amera ที่รถเหล่านี้ไม่ได้ สิทธิ ภาษี ECO CAR

รัฐบาลให้ สิทธิทางภาษี ต่ำ สำหรับรถที่ประหยัดน้ำมัน เครื่อง 1300 CC เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้ม เพื่อให้ประชาชน ได้ใช้รถในราคาถูก ข้อนี้ จริงหรือผิดครับ ?



ที่ผมพูดถึงนี้กรณี Mazda2 Diesel เครื่อง 1500 ครับ ไม่ใช่ 1300
1500 Diesel ก็เป็น Ecocar ตามเงื่อนไข BOI เช่นกัน แต่มันคนละพิกัดกับ Benzile 1200-1300

ถ้าจะให้ Mazda2 ไปเทียบกับ Ecocar ปัจจุบันที่เป้นเครื่อง 1.2 มันต้องทำเครื่องความจุเท่ากันไปเทียบครับ
ดังนั้นเอา Mazda2 ตัวดีเซล 1.5 ไปเทียบกับ 1.2 ในความเห้นส่วนตัวผมนี้ผิดมหันต์ ในแง่ของ Segment รถ

เพราะถ้าวัด Performance เครื่อง 1.2 แพ้เรียบ ถ้าวัดราคา 1.5 แพ้ขาด (กรณีที่เป็นรถปีห่างกันไม่เกิน 10 ปี)
มันเลยวัดกันไม่ได้ ที่มีเหมือนกันคือแค่สิทธิประโยชน์ทางภาษีว่านี้คือรถที่ประหยัดน้ำมัน ปล่อยมลพิษต่ำ
ซึ่งอีกหน่อยมาตรการนี้อาจจะขยายไปยังรถที่ใหญ่ขึ้น เครื่องใหญ่ขึ้น หรือพลังงานรูปแบบอื่น มันเลยไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่ารถคันนั้นต้องถูกเปรียบเทียบกับรถ 1.2 เสมอไป

ถ้าเกิดอีกหน่อย BOI เพิ่มโครงการรถ 660cc, 2.0 Hybrid หรือ Hydrogen แล้วเรียกว่า Ecology Car phase 3-4-5 เราจะเอามันไปเทียบกับ March, Brio, Swift อยู่อีกหรือเปล่าละ ก็คงไม่ เราก็คงเอาไปเทียบกับรถในกลุ่มเครื่องยนต์ใกล้เคียงกันมากกว่า

แต่ถ้าในแง่ราคา อันนี้ไม่ว่ากันถ้ามันทับซ้อน แต่ในนิตยสารที่ผมพูดถึงคือแปะว่า Ecocar ก็เอา Mazda2 ตัวดีเซลมาเทียบเลย ซึ่งผมมองว่าไม่สมควร คนละพิกัด


แต่ถ้า Mazda2 ตัวเบนซิลจะไปเทียบ Ecocar 1.2-1.3 อันนี้ตามสบายครับ เพราะพิกัดมันก็ 1.3
ที่เหลือก็ต้องรอดูว่า Performance เครื่อง 1.3 มันจะพิกัดเดียวกันกับ 1.3 ค่ายอื่น หรือจะทับขึ้นมา 1.5 ค่ายอื่น

เพราะปัญหาก็อีกแหละถ้าวัดกันที่ความจุกระบอกสูบอย่างเดียว Fiesta คงต้องไปวัดกับ Celerio
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 13:25:25 โดย H. »
H.

ออฟไลน์ kris-lack

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,763
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 13:40:14 »
ผมว่าจุดเจ็บปวดที่สุดของ Mazda2 ก็คงคำว่า Eco ครับ ผมไปเปิดหนังสืออ่าน ทุกที่บอกว่าเป็น Eco แล้วเอาไปเทียบกับมาร์ช กับสวิฟ กับ ยาริส
แล้วทุกคนก็มองว่า Eco คือรถราคาถูกที่ขับแค่พอไปจากจุดไปอีกจุดได้ก็พอแล้ว ซึ่งแม่ง (^*^&(&^%^$%^%*&^*)(*_%@#$%^&* มากๆ (Auto B***)

ซึ่งจริงๆ Ecocar มันควรเป้นรถที่ปล่อยมลพิษต่ำ ประหยัดน้ำมันที่ไม่เกี่ยงราคา กับขนาด แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของรถบอดี้ใหญ่ราคาถูกซะงั้น แล้วเวลาแปะราคา 2 กับคนอื่นในเซกเมนต์ 1.2 มันก็แพงกว่าชาวบ้านเขาดิครับ ตัวท็อปชาวบ้านเขายังราคาพึ่งจะแตะรุ่นล่าง 2

คนที่ไม่รู้เรื่องรถก็เมินหน้าหนีหมด

แต่ถ้าคนตามข่าวหน่อยก็จะรู้ว่ามันได้สิทธิ Eco เพื่อลดภาษีในการทำราคาเครื่องให้ถูกลงมาฟัดกับ Jazz กับ Fiesta ไม่ใช่ March

คนที่เค้าคิดว่า รถเครื่อง 1300 นี่ ไปเทียบกับ รถ เครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน อย่าง  March,Swiff,Yaris  ที่ได้ สิทธิ ภาษี ECOCAR เหมือนกัน แต่คนละเฟส เค้าผิดมากเหรอครับ ???
หรือ ที่ถูกต้อง คือ ต้อง ไปเทียบ Jazz City Fiesta Vios Amera ที่รถเหล่านี้ไม่ได้ สิทธิ ภาษี ECO CAR

รัฐบาลให้ สิทธิทางภาษี ต่ำ สำหรับรถที่ประหยัดน้ำมัน เครื่อง 1300 CC เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้ม เพื่อให้ประชาชน ได้ใช้รถในราคาถูก ข้อนี้ จริงหรือผิดครับ ?



ที่ผมพูดถึงนี้กรณี Mazda2 Diesel เครื่อง 1500 ครับ ไม่ใช่ 1300
1500 Diesel ก็เป็น Ecocar ตามเงื่อนไข BOI เช่นกัน แต่มันคนละพิกัดกับ Benzile 1200-1300

ถ้าจะให้ Mazda2 ไปเทียบกับ Ecocar ปัจจุบันที่เป้นเครื่อง 1.2 มันต้องทำเครื่องความจุเท่ากันไปเทียบครับ
ดังนั้นเอา Mazda2 ตัวดีเซล 1.5 ไปเทียบกับ 1.2 ในความเห้นส่วนตัวผมนี้ผิดมหันต์ ในแง่ของ Segment รถ

เพราะถ้าวัด Performance เครื่อง 1.2 แพ้เรียบ ถ้าวัดราคา 1.5 แพ้ขาด (กรณีที่เป็นรถปีห่างกันไม่เกิน 10 ปี)
มันเลยวัดกันไม่ได้ ที่มีเหมือนกันคือแค่สิทธิประโยชน์ทางภาษีว่านี้คือรถที่ประหยัดน้ำมัน ปล่อยมลพิษต่ำ
ซึ่งอีกหน่อยมาตรการนี้อาจจะขยายไปยังรถที่ใหญ่ขึ้น เครื่องใหญ่ขึ้น หรือพลังงานรูปแบบอื่น มันเลยไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่ารถคันนั้นต้องถูกเปรียบเทียบกับรถ 1.2 เสมอไป

ถ้าเกิดอีกหน่อย BOI เพิ่มโครงการรถ 660cc, 2.0 Hybrid หรือ Hydrogen แล้วเรียกว่า Ecology Car phase 3-4-5 เราจะเอามันไปเทียบกับ March, Brio, Swift อยู่อีกหรือเปล่าละ ก็คงไม่ เราก็คงเอาไปเทียบกับรถในกลุ่มเครื่องยนต์ใกล้เคียงกันมากกว่า

แต่ถ้าในแง่ราคา อันนี้ไม่ว่ากันถ้ามันทับซ้อน แต่ในนิตยสารที่ผมพูดถึงคือแปะว่า Ecocar ก็เอา Mazda2 ตัวดีเซลมาเทียบเลย ซึ่งผมมองว่าไม่สมควร คนละพิกัด


แต่ถ้า Mazda2 ตัวเบนซิลจะไปเทียบ Ecocar 1.2-1.3 อันนี้ตามสบายครับ เพราะพิกัดมันก็ 1.3
ที่เหลือก็ต้องรอดูว่า Performance เครื่อง 1.3 มันจะพิกัดเดียวกันกับ 1.3 ค่ายอื่น หรือจะทับขึ้นมา 1.5 ค่ายอื่น

เพราะปัญหาก็อีกแหละถ้าวัดกันที่ความจุกระบอกสูบอย่างเดียว Fiesta คงต้องไปวัดกับ Celerio
เราเห็นด้วยกับความเห็นท่านนะ
ปัญหาใหญ่ที่ค่ายรถต้องนำเสนอคือ ทำอย่างไรให้คนเข้าใจว่า eco car ไม่ได้หมายถึงแค่รถราคาถูกอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่น เฟียสต้าเครื่อง 1.0

ในทางกลับกันมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดที่คนที่ไม่เข้าใจ (ส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริโภคที่ไม่ได้มีเวลามาแอบๆอ่านเน็ตเวลาเซ็งๆจากงานอย่างเรา 55) จะเอาไปเทียบกับสิ่งที่เขาคิดว่าใช่

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 13:42:20 »
อะ ผมก็นึกว่า 1.3
อ่อแต่ ถ้าเอา Mazda2 ดีเซลเทียบกับ Eco นี่ผมก็ว่าผิดนะ

ผมว่าเค้าไม่ได้มองแค่ความ จุ แต่มองตัวเครื่องยนต์นะครับ

Fiesta 1.0 ecobboot นี้มันไม่ใช่เครื่อง NA ครับ
คงเอาไปเทียบ กับ Celerio ซึ่งเป็น NA  ไม่ได้
ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
เหมือนเคสนี้
เหมือน Vios 1.5  กับ Vios  1.5 turbo นั่นละครับ
เหมือน Lancer ตัวปกติ กับ Ralliart turbo ราคามันก็คนละเรื่อง
การเทียบ NA กับ Turbo เป็นสิ่งที่เทียบกันไม่ได้ครับ


แต่เคส Mazda 2 เบนซินนี่
เหมือน C-segment  ที่เครื่องฉีดตรง กับ ฉีดไม่ตรง คนละค่าย ราคามันก็ออกมาสูสี
เหมือน เกียร์ 4AT พัฒนามาเป็น 5AT 6AT ในรถกะบะ รุ่นใหม่ ๆ ราคารถมันก็ไม่ได้ทำออกมาพอๆกับคู่แข่ง


ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 13:51:58 »
ผมว่าจุดเจ็บปวดที่สุดของ Mazda2 ก็คงคำว่า Eco ครับ ผมไปเปิดหนังสืออ่าน ทุกที่บอกว่าเป็น Eco แล้วเอาไปเทียบกับมาร์ช กับสวิฟ กับ ยาริส
แล้วทุกคนก็มองว่า Eco คือรถราคาถูกที่ขับแค่พอไปจากจุดไปอีกจุดได้ก็พอแล้ว ซึ่งแม่ง (^*^&(&^%^$%^%*&^*)(*_%@#$%^&* มากๆ (Auto B***)

ซึ่งจริงๆ Ecocar มันควรเป้นรถที่ปล่อยมลพิษต่ำ ประหยัดน้ำมันที่ไม่เกี่ยงราคา กับขนาด แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของรถบอดี้ใหญ่ราคาถูกซะงั้น แล้วเวลาแปะราคา 2 กับคนอื่นในเซกเมนต์ 1.2 มันก็แพงกว่าชาวบ้านเขาดิครับ ตัวท็อปชาวบ้านเขายังราคาพึ่งจะแตะรุ่นล่าง 2

คนที่ไม่รู้เรื่องรถก็เมินหน้าหนีหมด

แต่ถ้าคนตามข่าวหน่อยก็จะรู้ว่ามันได้สิทธิ Eco เพื่อลดภาษีในการทำราคาเครื่องให้ถูกลงมาฟัดกับ Jazz กับ Fiesta ไม่ใช่ March

คนที่เค้าคิดว่า รถเครื่อง 1300 นี่ ไปเทียบกับ รถ เครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน อย่าง  March,Swiff,Yaris  ที่ได้ สิทธิ ภาษี ECOCAR เหมือนกัน แต่คนละเฟส เค้าผิดมากเหรอครับ ???
หรือ ที่ถูกต้อง คือ ต้อง ไปเทียบ Jazz City Fiesta Vios Amera ที่รถเหล่านี้ไม่ได้ สิทธิ ภาษี ECO CAR

รัฐบาลให้ สิทธิทางภาษี ต่ำ สำหรับรถที่ประหยัดน้ำมัน เครื่อง 1300 CC เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้ม เพื่อให้ประชาชน ได้ใช้รถในราคาถูก ข้อนี้ จริงหรือผิดครับ ?



ที่ผมพูดถึงนี้กรณี Mazda2 Diesel เครื่อง 1500 ครับ ไม่ใช่ 1300
1500 Diesel ก็เป็น Ecocar ตามเงื่อนไข BOI เช่นกัน แต่มันคนละพิกัดกับ Benzile 1200-1300

ถ้าจะให้ Mazda2 ไปเทียบกับ Ecocar ปัจจุบันที่เป้นเครื่อง 1.2 มันต้องทำเครื่องความจุเท่ากันไปเทียบครับ
ดังนั้นเอา Mazda2 ตัวดีเซล 1.5 ไปเทียบกับ 1.2 ในความเห้นส่วนตัวผมนี้ผิดมหันต์ ในแง่ของ Segment รถ

เพราะถ้าวัด Performance เครื่อง 1.2 แพ้เรียบ ถ้าวัดราคา 1.5 แพ้ขาด (กรณีที่เป็นรถปีห่างกันไม่เกิน 10 ปี)
มันเลยวัดกันไม่ได้ ที่มีเหมือนกันคือแค่สิทธิประโยชน์ทางภาษีว่านี้คือรถที่ประหยัดน้ำมัน ปล่อยมลพิษต่ำ
ซึ่งอีกหน่อยมาตรการนี้อาจจะขยายไปยังรถที่ใหญ่ขึ้น เครื่องใหญ่ขึ้น หรือพลังงานรูปแบบอื่น มันเลยไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่ารถคันนั้นต้องถูกเปรียบเทียบกับรถ 1.2 เสมอไป

ถ้าเกิดอีกหน่อย BOI เพิ่มโครงการรถ 660cc, 2.0 Hybrid หรือ Hydrogen แล้วเรียกว่า Ecology Car phase 3-4-5 เราจะเอามันไปเทียบกับ March, Brio, Swift อยู่อีกหรือเปล่าละ ก็คงไม่ เราก็คงเอาไปเทียบกับรถในกลุ่มเครื่องยนต์ใกล้เคียงกันมากกว่า

แต่ถ้าในแง่ราคา อันนี้ไม่ว่ากันถ้ามันทับซ้อน แต่ในนิตยสารที่ผมพูดถึงคือแปะว่า Ecocar ก็เอา Mazda2 ตัวดีเซลมาเทียบเลย ซึ่งผมมองว่าไม่สมควร คนละพิกัด


แต่ถ้า Mazda2 ตัวเบนซิลจะไปเทียบ Ecocar 1.2-1.3 อันนี้ตามสบายครับ เพราะพิกัดมันก็ 1.3
ที่เหลือก็ต้องรอดูว่า Performance เครื่อง 1.3 มันจะพิกัดเดียวกันกับ 1.3 ค่ายอื่น หรือจะทับขึ้นมา 1.5 ค่ายอื่น

เพราะปัญหาก็อีกแหละถ้าวัดกันที่ความจุกระบอกสูบอย่างเดียว Fiesta คงต้องไปวัดกับ Celerio
เราเห็นด้วยกับความเห็นท่านนะ
ปัญหาใหญ่ที่ค่ายรถต้องนำเสนอคือ ทำอย่างไรให้คนเข้าใจว่า eco car ไม่ได้หมายถึงแค่รถราคาถูกอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่น เฟียสต้าเครื่อง 1.0

ในทางกลับกันมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดที่คนที่ไม่เข้าใจ (ส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริโภคที่ไม่ได้มีเวลามาแอบๆอ่านเน็ตเวลาเซ็งๆจากงานอย่างเรา 55) จะเอาไปเทียบกับสิ่งที่เขาคิดว่าใช่

ผมว่า 1.0 Ecoboot ไม่ได้สิทธิ Eco car นะครับ
ถึงแม้คุณสมบัติ มันจะใช่ แต่มันไม่ได้ สิทธิ

ตอนนี้เรากำลังพูดถึง Eco car ในบ้านเรา
หมายถึงรถที่ได้รับสิทธิทางภาษีพิเศษนะครับ ซึ่ง Ecoboot ไม่ใช่ครับ
ดังนั้น Ecoboot จึงไปเทียบกับ Celerio ไม่ได้
เพราะเงือนไข คือการลงทุน รถใหม่ และต้อผลิตอย่างน้อย 100,000 คันครับ

สรุปก็คือ ecoboot ไม่ใช่ eco car ในบ้านเรา ครับ
แต่ ecoboot เป็น eco car ในสมรรถนของมัน

Eco car บ้านเรา ไม่ใช่แค่เชื่อเรียกชนิดรถครับ มันเป็น การลงทุน พิเศษ เป็นเงื่อนไขเฉพาะในบ้านเราเท่านั้นครับ
ดังนั้น เราต้องเข้าใจอะไรให้ถูกก่อนครับ ก่อนไปตัดสินอะไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 14:05:11 โดย mamaman »

ออฟไลน์ ichok

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 791
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 13:56:05 »
สำหรับความคิดผม ตอนนี้มาสด้ามีที่ยืนแบบสง่าผ่าเผยแล้วครับ ดีกว่าแต่ก่อนมาก และผมยังมีความเชื่อว่า คนที่เล่นมาสด้านั้นเป็นคนที่หาข้อมูลมากกว่าคนที่เล่นรถตลาด และสำหรับราคาผมว่าตั้งมาได้สวยแล้วนะครับ ตั้งแต่ มาสด้า3 cx-5 และเจ้า 2 ดีเซล ส่วนเบนซินนั้นยังไม่เป็นทางการแต่ถ้าราคานี้จริงผมก็ว่าไม่แพงเกินไปครับ

ออฟไลน์ AT

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 630
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 14:04:13 »
ตัวรถสำหรับผม กับคนรอบข้างผมที่มองเจ้า 2 ตัวใหม่ มันก็คือตัวเก่าเปลี่ยนโฉมใหม่ ที่ทำออกมาแข่งกับ วีออส ซิตี้
ส่วนตัวเครื่องคงต้องรอดูประสิทธิภาพเครื่อง 1.3 ว่าจะมีประสิทธิภาพเทียบเท่าเครื่อง 1.5 ตัวเดิมหรือเปล่า

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 14:07:41 »
ตัวรถสำหรับผม กับคนรอบข้างผมที่มองเจ้า 2 ตัวใหม่ มันก็คือตัวเก่าเปลี่ยนโฉมใหม่ ที่ทำออกมาแข่งกับ วีออส ซิตี้
ส่วนตัวเครื่องคงต้องรอดูประสิทธิภาพเครื่อง 1.3 ว่าจะมีประสิทธิภาพเทียบเท่าเครื่อง 1.5 ตัวเดิมหรือเปล่า

ถ้ามันจะเอามาแทน สองเดิม โดยที่ อัตรเร่ง ประสิทธิภาพต่างๆ เหมือน 1.5 เบนซินเดิม แต่ได้ประหยัดเพิ่มเข้ามาแทน
อันนี้ผมเห็นด้วยครับ

คล้ายๆ ยาริส ที่ออกมาแพงกว่า Eco car อื่นๆ โดยที่ ชาวบ้านยังคิดว่าเป็น ยาริสตัวเดิม

ออฟไลน์ xtrarach

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 113
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 14:51:20 »
เปิดมาราคานี้ cc มากกว่าสวิฟอยู่ 50 cc และ ราคาถูกกว่าวีออสไม่กี่หมื่น ถ้ารวมส่วนลดเผลอๆ ถูกกว่า แต่ได้เครื่องใหญ่กว่าตั้ง 200 cc คิดว่าสมเหตุสมผลหรือป่าว
จากการทดสอบขึ้นมาจริงๆ ตัวเลขอาจดีกว่าวีออส แต่คนทั่วไปจะรู้หรอ แค่เจอ 1300 แต่ราคาเท่า1500เจ้าตลาดเค้าจะเลือกอะไรกัน

จริงๆผมก็คิดว่ามันก็น่าจะขายได้ แต่ถ้าจะให้ดีกว่า ที่ 3 อย่าง แจ็ส คงเป็นไปไม่ได้ แต่ยอดรวมน่าจะชนะเฟียสต้าได้ไม่ยาก

อันนี้ผมก็เทียบให้เห็นทั้ง eco ตัวขายดีอย่าง yaris แล้วก็พวกเครื่อง 1500 ตัวล่างแล้วไงครับ
คนมีเงินซื้อ5แสนกลางบางคนอาจอยากได้เครื่อง1500 แต่บางคนอยากได้ 1200 มาประหยัด ถ้าคิดด้วยหลักการเพิ่มเงินนิดเดียวไปเอา 1500
ดีกว่า yaris คงขายไม่ออก เพราะ yaris แพงกว่าพวกเครื่อง 1500 ตัวล่างซะอีก

มันขายได้ครับ แต่จะขายดีหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะมันคือรถที่ดีครับ ไม่มีใครบอกไม่ดี
อาจจะโดนใจ กลุ่มที่เล่นรถ มีความรู้ในตัวรถ
แต่อาจจะไม่โดนกลุ่ม ผู้ใช้รถทั่วไป

เพราะ อย่าลืม มันคือ Eco  เวลา ชาวบ้าน ทั่วไปไม่ใช่ ชุมชน Board แห่งนี้ เค้าก็เอาไปเทียบกับ Swiff
รถในกลุ่มของมัน คือ



ยังมี คนที่ซื้อรถ ต้องการเพียงแค่ โจทน์ไม่กี่อย่างคือ
1.ถูก ดี ทน


ก่อนจะขายรถ ในไทย ต้องทำการบ้าน เจาะ กลุ่มผู้บริโภค มากๆ ครับ

โดย ส่วนตัว ผมยังเชื่อว่า Mazda 2 จะให้ตัว Low ที่ตัด option  ที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อ ให้ คนได้ใช้รถในราคาถูก
เหมือนที่ทำใน Mazda 3  แล้ว แป้ก จนคนไปออกตัว Top หมด

หาก มาสด้า ออกราคามาต่ำกว่า 500000  ตัดล้อแม๊ก ตัด push start ตัดพวงมาลัย multi function ตัด แอร์ Auto แต่คง heater ไว้
มันจะเป็นอีกตัวเลือกที่ดีเลยนะครับ

ที่ผมพูดมานี้ คือ
ผมเอาตัวผมเมื่อซื้อรถคันแรกของตัวเองเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ไม่ใช่เอาตัวผมตอนนี้มาคิด

นี่คือ ตัวผมเมื่อ 10 ปีก่อนนะครับ รถที่ผมเลือกรถ แบบนี้เลย ซื้อด้วยเงินเดือนอันน้อยนิดตอนเริ่มทำงาน ไม่เคยมีรถเป็นของตัวเอง
แอร์ เอาแค่เย็น
แม๊ก เหรอ แพงไม่เอา
กระจก พับไฟฟ้า ไม่เอา นานๆ พับที !!!!!!
ราคา โห แพงกว่า ตั้ง 5000 ไม่เอา !!!!!!
เกียร์ 5AT คืออะไร ? ไม่รู้จัก รู้แต่ manual กับ Auto ขับออกไปได้พอ
เอารถที่ประหยัดน้ำมันที่สุด YES
Airbag ไม่เอา ชนมาก็ตายไม่ใช้ ไม่เอา ?
ABS คืออะไร ไม่รู้จัก ?



ดังนั้น เวลาวิเคราะห์อะไร อย่าฟังธง อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เพราะ คนมีหลายความรู้ หลายรสนิยมครับ

อย่า ลืม swiff ขายดีเพราะอะไร ไม่ใช่เพียงแค่รถสวย แต่เพราะราคามันถูกมากๆ ด้วยครับ





ทำไมต้องลากไปดูราคาตัวเริ่มต้นอย่างเดียวล่ะครับ 550,000 ก็เท่ากับ swift ตัวท้อปธรรมดา, yaris ตัวกลาง
ถ้าคนที่เค้ามองขึ้นมาถึงตัวพวกนี้ปุ้บ mazda 2 1.3 เข้ามาเทียบด้วยทันทีเพราะราคาเดียวกัน

ผมว่าเวลามอง cc ไปเทียบ 1500 บอกคนไม่เข้าใจหรอก
เวลามองราคา เอาไปเทียบ eco ตัวล่างบอกแพงไม่ถูกหรอก
ราคา 2 ตัวล่างมันก็เท่ากับ eco คันอื่นตัวท้อปนิ แล้ว option ก็ไม่ได้แพ้เลยด้วย

ปล. Mazda ไม่มีทางทำรุ่นไม่มีล้อแมก กระจกไม่พับไฟฟ้า ไม่มีที่ปัดน้ำฝนหลัง ไม่มี heater ไม่มี airbag ออกมาขายแน่นอนครับ บอกเลย

สำหรับความคิดผม ตอนนี้มาสด้ามีที่ยืนแบบสง่าผ่าเผยแล้วครับ ดีกว่าแต่ก่อนมาก และผมยังมีความเชื่อว่า คนที่เล่นมาสด้านั้นเป็นคนที่หาข้อมูลมากกว่าคนที่เล่นรถตลาด และสำหรับราคาผมว่าตั้งมาได้สวยแล้วนะครับ ตั้งแต่ มาสด้า3 cx-5 และเจ้า 2 ดีเซล ส่วนเบนซินนั้นยังไม่เป็นทางการแต่ถ้าราคานี้จริงผมก็ว่าไม่แพงเกินไปครับ
เห็นด้วยครับ ผมว่าตอนนี้มาสด้าสามารถยืดอกได้สง่าผ่าเผยย brand image ในตลาดโลกก็ชัดเจน มุ่งมั่นไปในทางของตัวเองอย่างชัดเจน
วันนี้ผมไม่มีรถมาสด้าอยู่ที่บ้านแล้วแต่ก็ยังชื่นชอบเชียร์อยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 15:10:00 โดย xtrarach »

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 15:14:30 »
เปิดมาราคานี้ cc มากกว่าสวิฟอยู่ 50 cc และ ราคาถูกกว่าวีออสไม่กี่หมื่น ถ้ารวมส่วนลดเผลอๆ ถูกกว่า แต่ได้เครื่องใหญ่กว่าตั้ง 200 cc คิดว่าสมเหตุสมผลหรือป่าว
จากการทดสอบขึ้นมาจริงๆ ตัวเลขอาจดีกว่าวีออส แต่คนทั่วไปจะรู้หรอ แค่เจอ 1300 แต่ราคาเท่า1500เจ้าตลาดเค้าจะเลือกอะไรกัน

จริงๆผมก็คิดว่ามันก็น่าจะขายได้ แต่ถ้าจะให้ดีกว่า ที่ 3 อย่าง แจ็ส คงเป็นไปไม่ได้ แต่ยอดรวมน่าจะชนะเฟียสต้าได้ไม่ยาก

อันนี้ผมก็เทียบให้เห็นทั้ง eco ตัวขายดีอย่าง yaris แล้วก็พวกเครื่อง 1500 ตัวล่างแล้วไงครับ
คนมีเงินซื้อ5แสนกลางบางคนอาจอยากได้เครื่อง1500 แต่บางคนอยากได้ 1200 มาประหยัด ถ้าคิดด้วยหลักการเพิ่มเงินนิดเดียวไปเอา 1500
ดีกว่า yaris คงขายไม่ออก เพราะ yaris แพงกว่าพวกเครื่อง 1500 ตัวล่างซะอีก

มันขายได้ครับ แต่จะขายดีหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะมันคือรถที่ดีครับ ไม่มีใครบอกไม่ดี
อาจจะโดนใจ กลุ่มที่เล่นรถ มีความรู้ในตัวรถ
แต่อาจจะไม่โดนกลุ่ม ผู้ใช้รถทั่วไป

เพราะ อย่าลืม มันคือ Eco  เวลา ชาวบ้าน ทั่วไปไม่ใช่ ชุมชน Board แห่งนี้ เค้าก็เอาไปเทียบกับ Swiff
รถในกลุ่มของมัน คือ



ยังมี คนที่ซื้อรถ ต้องการเพียงแค่ โจทน์ไม่กี่อย่างคือ
1.ถูก ดี ทน


ก่อนจะขายรถ ในไทย ต้องทำการบ้าน เจาะ กลุ่มผู้บริโภค มากๆ ครับ

โดย ส่วนตัว ผมยังเชื่อว่า Mazda 2 จะให้ตัว Low ที่ตัด option  ที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อ ให้ คนได้ใช้รถในราคาถูก
เหมือนที่ทำใน Mazda 3  แล้ว แป้ก จนคนไปออกตัว Top หมด

หาก มาสด้า ออกราคามาต่ำกว่า 500000  ตัดล้อแม๊ก ตัด push start ตัดพวงมาลัย multi function ตัด แอร์ Auto แต่คง heater ไว้
มันจะเป็นอีกตัวเลือกที่ดีเลยนะครับ

ที่ผมพูดมานี้ คือ
ผมเอาตัวผมเมื่อซื้อรถคันแรกของตัวเองเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ไม่ใช่เอาตัวผมตอนนี้มาคิด

นี่คือ ตัวผมเมื่อ 10 ปีก่อนนะครับ รถที่ผมเลือกรถ แบบนี้เลย ซื้อด้วยเงินเดือนอันน้อยนิดตอนเริ่มทำงาน ไม่เคยมีรถเป็นของตัวเอง
แอร์ เอาแค่เย็น
แม๊ก เหรอ แพงไม่เอา
กระจก พับไฟฟ้า ไม่เอา นานๆ พับที !!!!!!
ราคา โห แพงกว่า ตั้ง 5000 ไม่เอา !!!!!!
เกียร์ 5AT คืออะไร ? ไม่รู้จัก รู้แต่ manual กับ Auto ขับออกไปได้พอ
เอารถที่ประหยัดน้ำมันที่สุด YES
Airbag ไม่เอา ชนมาก็ตายไม่ใช้ ไม่เอา ?
ABS คืออะไร ไม่รู้จัก ?



ดังนั้น เวลาวิเคราะห์อะไร อย่าฟังธง อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เพราะ คนมีหลายความรู้ หลายรสนิยมครับ

อย่า ลืม swiff ขายดีเพราะอะไร ไม่ใช่เพียงแค่รถสวย แต่เพราะราคามันถูกมากๆ ด้วยครับ





ทำไมต้องลากไปดูราคาตัวเริ่มต้นอย่างเดียวล่ะครับ 550,000 ก็เท่ากับ swift ตัวท้อปธรรมดา, yaris ตัวกลาง
ถ้าคนที่เค้ามองขึ้นมาถึงตัวพวกนี้ปุ้บ mazda 2 1.3 เข้ามาเทียบด้วยทันทีเพราะราคาเดียวกัน

ผมว่าเวลามอง cc ไปเทียบ 1500 บอกคนไม่เข้าใจหรอก
เวลามองราคา เอาไปเทียบ eco ตัวล่างบอกแพงไม่ถูกหรอก
ราคา 2 ตัวล่างมันก็เท่ากับ eco คันอื่นตัวท้อปนิ แล้ว option ก็ไม่ได้แพ้เลยด้วย

ปล. Mazda ไม่มีทางทำรุ่นไม่มีล้อแมก กระจกไม่พับไฟฟ้า ไม่มีที่ปัดน้ำฝนหลัง ไม่มี heater ไม่มี airbag ออกมาขายแน่นอนครับ บอกเลย

ผมแค่ เปรียบให้เห็นครับ มองให้เห็นอีกมุมครับ
เพราะ บางคนซื้อรถ มองแค่ราคาเป็นหลัก
ในขณะที่อีกหลายคน ที่มีความ รู้ จะมอง เทียบ จุดต่อจุด หรือคุ้มค่า เหมือนคนใน board นี้ ซึงมันไม่แพงหรอกถ้าเอา option มาฟัดกัน
แต่ผมคิดว่า ถ้าคนที่เค้าไม่เอา option ไม่เข้าใจ เทคโนโลยี ไม่ได้มานั่งอ่าน board เสพข้อมูลรถ ละครับ เค้าจะมองเป็นยังไง
คนกลุ่มน้นคือผม เมื่อ 10 ปีก่อน ที่ไม่ต้องการ option เหมือนตัว Top

พอมันมี อะไรที่ถูกกว่า คนก็จะเปรียบเทียบเป็นธรรมดาครับ

ออฟไลน์ Mr Children Namonaki Uta

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 16:35:53 »
สำหรับความคิดผม ตอนนี้มาสด้ามีที่ยืนแบบสง่าผ่าเผยแล้วครับ ดีกว่าแต่ก่อนมาก และผมยังมีความเชื่อว่า คนที่เล่นมาสด้านั้นเป็นคนที่หาข้อมูลมากกว่าคนที่เล่นรถตลาด และสำหรับราคาผมว่าตั้งมาได้สวยแล้วนะครับ ตั้งแต่ มาสด้า3 cx-5 และเจ้า 2 ดีเซล ส่วนเบนซินนั้นยังไม่เป็นทางการแต่ถ้าราคานี้จริงผมก็ว่าไม่แพงเกินไปครับ

หลายคนชอบพูดทำนองนี้ แต่ความเป็นจริงไม่เสมอไปครับ คนเล่นรถตลาด มีทั้งทำการบ้านเยอะ และทำการบ้านน้อย
คนเล่นรถไม่ตลาดก็มีทั้งทำการบ้านเยอะและทั้งการบ้านน้อย
มันอยู่ว่าสิ่งใดตรงกับความต้องการมากกว่าครับ
ถ้าพูดกลับด้าน
รถตลาดทำการบ้านเยอะให้กลุ่ม mass ของเค้าะพึงพอใจ
รถไม่ตลาดก็ทำการบ้านให้กลุ่มเป้าหมายของพวกเค้าพึงพอใจ
น่าจะเป็นคำพูดแบบนี้มากกว่าครับ คนจะซื้อรถคันนึงถ้าเค้าคิดเยอะมากพอกับเงินที่ต้องจ่ายไป
เค้าดูและพิจารณาหมดทุกรุ่นนะครับ

ออฟไลน์ Yeahyeahs

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 856
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 17:06:53 »
ผมแค่งงกับ Mazda ว่าอะไรทำให้คิดตั้งราคาเริ่มต้นแพงกว่าชาวบ้านในพิกัดเครื่องใกล้ๆกัน
ทั้งที่ Mazda 3 นี่ราคาน่าชื่นชมมากๆ จนทำให้มันขายแซง Civic ได้ในระยะนึง (ก่อนจะมีข่าวเรื่อง E85)
เครื่องเบนซินในสองรุ่นนี้ มันก็เทคโนโลยี Skyactive-G ทั้งคู่ไม่ใช่หรอ? แล้วต้นทุนเครื่องเบนซินก็ไม่ได้แพงแบบดีเซล

ส่วนตัวดีเซลขี้เกียจจะบ่นแล้วครับ ยังไงมันก็แพงเกินไปในสายตาผมอยู่ดี แต่ช่างมันเถอะ

ออฟไลน์ forty-two

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 42
    • อีเมล์
Re: ขอมาสะด้าอีกซักมู้
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 18:15:49 »
ผมเห็นด้วยกับผู้ที่บอกว่ามาสด้า 2 ควรจะมีตัวที่ตัดออพชั่น เอาโล้นๆ เพื่อเรียกลูกค้าเข้าไปดูก่อน
จากนั้นจะเอาอะไรก็ขยับขึ้นไปเล่นตัวที่แพงกว่า

แต่ผมว่ามันมีที่ยืนแน่นอน อาจจะขายได้พอๆกับตัวก่อน
ตอนแรกๆ ที่ yaris เป็น 1.2 หลายคนมากยังไม่รู้เลยว่าเป็น eco car เอาไปเทียบกับ Vios City Jazz เวลาจะซื้อ ถึงทุกวันนี้บางคนยังไม่รู้
mazda 1.3 ตัวนี้ คงมีหลายคนที่เทียบกับ B-Seg ยังหลายคนที่ีซื้อเพราะดีไซน์ โดยไม่สนว่าเครื่อง 1,300 cc และหลายคนที่รอดูอยู่ว่าเครื่องตัวนี้มีประสิทธิภาพแค่ไหน