// มาแล้ว !!!!! ราคาอย่างเป็นทางการ Mazda2 เบนซิน 1.3 Skyactiv-G //

[NINENOI]

ผมว่าราคาก็ออกมาดีนะครับ อีกอย่างผมอคติกับ CVT เจ้านี้เป็นเจ้าเดียวที่ไม่ใช้ CVT แต่ผมมีปัญหาเข่าซ้ายติดนี่สิไม่รู้จะทำคอนโซลเกียร์ใหญ่ไปถึงไหน กับเบาะหลังคับแคบไม่ไหวแน่ๆกับการไปไหนมาไหนกันทั้งบ้านแบบผม

ถ้าซื้อจริงคงไปที่ Jazz S AT ถ้างบน้อยก็ไป Yaris J Eco (แต่ติดเรื่องกระจกมือหมุนอย่างเดียวกลัวเด็กๆหมุนเล่นแล้วจะอันตราย) Mazda 2 ถึงแม้รถจะดีสักเพียงไหนแต่ถ้าไม่เหมาะสมกับการใช้งานก็ไม่อยู่ในตัวเลือกอย่างแน่นอน

[mamaman]

ผมว่าราคาก็ออกมาดีนะครับ อีกอย่างผมอคติกับ CVT เจ้านี้เป็นเจ้าเดียวที่ไม่ใช้ CVT แต่ผมมีปัญหาเข่าซ้ายติดนี่สิไม่รู้จะทำคอนโซลเกียร์ใหญ่ไปถึงไหน กับเบาะหลังคับแคบไม่ไหวแน่ๆกับการไปไหนมาไหนกันทั้งบ้านแบบผม

ถ้าซื้อจริงคงไปที่ Jazz S AT ถ้างบน้อยก็ไป Yaris J Eco (แต่ติดเรื่องกระจกมือหมุนอย่างเดียวกลัวเด็กๆหมุนเล่นแล้วจะอันตราย) Mazda 2 ถึงแม้รถจะดีสักเพียงไหนแต่ถ้าไม่เหมาะสมกับการใช้งานก็ไม่อยู่ในตัวเลือกอย่างแน่นอน

ผมมองว่า การตลาด mazda  กับ Toyota แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ

1.Toyota ทำรถมาหลายๆ option เจาะเป้าหมาย วงกว้าง  เริ่มจากคน เบี้ยน้อย หอยน้อย และ ต้องการยอดขาย และ ส่วนแบ่การตลาดสูงๆ
2.Mazda มีกลุ่มเป้าหมายเป็น คนที่รู้เรื่องเข้ารถชัดเจน และ พร้อมจะจ่ายเพื่อความคุ้มค่า และ ภาพลักษณ์ ที่ดีกว่า ไม่มองเรื่องราคา เน้นยอด ขายตามเป้า กำไรต่อคันสูงกว่า

[Auto]

ผมว่าราคาก็ออกมาดีนะครับ อีกอย่างผมอคติกับ CVT เจ้านี้เป็นเจ้าเดียวที่ไม่ใช้ CVT แต่ผมมีปัญหาเข่าซ้ายติดนี่สิไม่รู้จะทำคอนโซลเกียร์ใหญ่ไปถึงไหน กับเบาะหลังคับแคบไม่ไหวแน่ๆกับการไปไหนมาไหนกันทั้งบ้านแบบผม

ถ้าซื้อจริงคงไปที่ Jazz S AT ถ้างบน้อยก็ไป Yaris J Eco (แต่ติดเรื่องกระจกมือหมุนอย่างเดียวกลัวเด็กๆหมุนเล่นแล้วจะอันตราย) Mazda 2 ถึงแม้รถจะดีสักเพียงไหนแต่ถ้าไม่เหมาะสมกับการใช้งานก็ไม่อยู่ในตัวเลือกอย่างแน่นอน

  ผมว่ามาสด้าไม่ทำรถเน้นครอบครัวนะครับ  คือไม่เน้นการนั่งสบายแบบครอบครัวแต่เน้นไปที่การขับขี่และสนุกการขับขี่ในเมืองที่ความเร็วรถไม่สูงเกินไป               ถ้าโจทย์ต้องการแนวครอบครัวผมไม่เห็นว่ามีมาสด้ารุ่นไหนที่ตอบโจทย์นั้นได้เลยเพราะว่าเขาออกแบบรถเป็นแนวสปอร์ตทุกรุ่นเบาะโอบกระชับ  คือคนนั่งหลังคงไม่สบายซักรุ่นไม่ว่าจะเป็น M2 M3 CX5   ก็ตามที

[vsop5555]

ผมว่าบางคนหลงประเด็น 

ต้องยอมรับก่อนว่า มาสด้า2  เป็นรถ  B-Segment ที่ได้สิทธิ์ Ecocar เฟส2  ดังนั้น ราคา ประสิทธิภาพ ออปชั่น ต่างๆก็ต้องอยู่ในระดับรถ  B-Segment  นั่นแหละครับ

ส่วนการใช้สิทธิ์ Ecocar เฟส2  จะได้ลดหย่อนภาษีลงบางส่วน  แต่ก็ไม่ได้มากมายอย่างที่หลายๆคนคิด  รถในกลุ่ม  B-Segment ที่ใช้น้ำมัน E20 ได้นั้นตอนนีั้เสียภาษีที่  25%  ส่วน Ecocar เสียภาษีที่  17%  ถ้าสมารถทำค่าไอเสียได้ต่ำกว่า  100 กรัม/กม.  ก็จะเสียที่  14%(ซึ่งไม่รู้ว่าใช้หรือยังอาจจะรอปีหน้า)  ดังนั้นจะเห็นได้ว่าภาษีต่างกัน  8% - 11% เอง ซึ่งรถที่ขายกัน  550000 บาทนั้นน่าจะแจ้งต้นทุนที่ไม่เกิน 400000 บาทแน่นอน  ภาษีที่ได้ก็จะต่างกันแต่ราวๆ 3-4 หมื่นบาทเท่านั้น  ซึ่งหลายๆคนที่หวังว่าน่าจะถูกลงไปได้เป็นแสนนี่คงเป็นไปไม่ได้

ยิ่งไปเทียบกับรถ  B-Segment บางรุ่นที่สามารถใช่ E85 ได้ด้วยนะ ราคายิ่งแทบไม่ต่างกันเลย  เพราะรถที่ใช่ E85 ได้เสียภาษีที่  20-22% เอง


เท่าที่เห็นราคาของมาสด้า2 เบนซิล ผมก็ว่าสมเหตุสมผลแล้วนะ  เทียบกัน 2 ตัวเก่านี่  550000 ได้ตัวล่างสุดเกียร์ธรรมดาเอง  ค่าภาษีที่ได้ลดไปซักสามหมื่นก็แลกมากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ความประหยัด  การรักษาสิ่งแวดล้อม  ผมว่าโอเคอยู่นะ

[nl2br]

เอาไว้ให้เค้าทำเป็นส่วนลดบ้างครับ ปีหน้ามาสด้าอาจใจปั้ม ส่วนลด 50000 (ตื่นๆๆๆๆ)

[kris-lack]

สรุปให้นะครับ

1. eco car  ได้แก่ almera   swift  yaris  attrage  mazda2  ก็คือ B-segment ที่มีเครื่องยนต์ ไม่เกิน 1300 cc (march  brio  mirage ไม่รวม จัดอยู่ในพวกรถเล็กกว่าชาวบ้านเขา เอาไปเปรียบเทียบไม่ได้)

2. ราคา เปรียบเทียบเฉพาะ B-segment ในกลุ่ม ecocar mazda2 ก็ถือว่าสมเหตุ สมผล  เพราะ
     2.1 ได้เครื่องใหญ่กว่า แรงกว่า
     2.2 เกียร์อัตโนมัติ แพงกว่า แบบ cvt
     2.3 ภายในใช้วัสดุคุณภาพดีกว่า
     2.4 แพงกว่า 4-5 หมื่น ต่อรุ่น
    
3. ราคา เปรียบเทียบกับ B-segment 1500 cc ขึ้นไป ก็สมเหตุ สมผล เพราะ
    2.1 ถูกกว่า 4-5 หมื่นต่อรุ่น
    2.2 แรงม้าน้อยกว่า แต่ได้ความประหยัดกว่า แน่ๆ

4. แล้ว Mazda2 ถูกวางตำแหน่งทางการตลาด ไม่ชนกับใครโดยตรงเลย  ทั้งเบนซิน และ ดีเซล(ทำให้เถียงกันไม่จบ) แต่ก็ทำให้บอร์ดนี้ ลุกเป็นไฟได้ทุกทีสิ

5. ในบอร์ดนี้มี กลุ่มผู้ใช้ดังนี้
      5.1  กลุ่มที่ คลั่งไคล้ รถยนต์ กลุ่มนี้ราคาไม่เกี่ยง ขอให้รถมีความดีงามก็พอ เชียร์ทุกคันที่มีเทคโนโลยีโดดเด่น ส่วนใหญ่มีฐานะทางบ้านดี
      5.2 กลุ่มที่ เข้ามาศึกษาเรื่องรถยนต์(ไม่เน้นยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ) ไว้เป็นข้อมูลในการซื้อรถ  กลุ่มนี้จะเปรียบเทียบ สมรรถนะ ราคาสมเหตุสมผล ไม่เน้นราคาขายต่อมากนัก(เพราะแลกกับการได้ขับรถ ที่ถูกใจ)
      5.3 กลุ่มที่ เข้ามาศึกษาเรื่องรถยนต์(เน้นยี่ห้อเจ้าตลาด) กลุ่มนี้ เน้น ราคาขายต่อเป็นหลัก  และ ต้องการศูนย์บริการที่มาก อะไหล่แท้ เทียม เยอะ เวลาซ่อมจะได้ประหยัด

6. ผมว่าถ้าจะเถียงกัน ให้เถียงกันที่คุณงามความดีของตัวรถ เทียบกับราคา ว่าเหมาะสมหรือเปล่า  เอาข้อมูลมาแย้งกัน อย่าใช้อารมณ์
    ถ้าไม่ดีก็ขอให้ขายไม่ออกเจ๊งปิดบริษัท  ถ้าดีก็ขอให้ยอดขายปีละ 30000 คัน กันไปเลย
   ที่เหลือ ผู้ซื้อเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ตัดสิน


ปล. ส่วนใหญ่ที่เถียงกัน
    1. mazda 2 จะอยู่กลุ่มไหน ecocar หรือ b-segment
       ตอบ ให้อ่านด้านบน

    2. ส่วนใหญ่ ecocar เป็นผู้ใหญ่ตีตั๋วเด็ก
       ตอบ จะเล็กจะใหญ่ ขอให้ประหยัดน้ำมัน มีความปลอดภัย และราคาเหมาะสม จะดีกว่ามาเถียงเรื่อง ขนาดตัวถังดีกว่าไหม

    3.ภาษี ecocar เฟส2 ทำให้รถแพงหรือ
      ตอบ  ไม่ได้แพงขึ้นมาก แต่มาตรฐานการปล่อยไอเสียของรถน้อยลง ส่งผลดีกับคุณภาพชีวิตพวกคุณทุกคน
              แต่จากเคส mazda2 เปรียบเทียบ สิ่งที่ให้มา เทียบกับยี่ห้ออื่น  ดีกว่าจะเปรียบเทียบแค่ราคาอย่างเดียว
  

เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ถ้าจะเถียงกันต้องเถียงบนสิ่งของที่มันมีอยู่
ไม่ใช่       ถ้า............แล้ว.............

[H3T]

ยิ่งไปเทียบกับรถ  B-Segment บางรุ่นที่สามารถใช่ E85 ได้ด้วยนะ ราคายิ่งแทบไม่ต่างกันเลย  เพราะรถที่ใช่ E85 ได้เสียภาษีที่  20-22%

 ผมขออนุญาติชี้แจงตรงนี้หน่อยนะครับ

 พิกัดภาษีสรรพสามิตปัจจุบัน
 รถนั่งที่ได้รับส่วนลดภาษีสรรพสามิตที่รองรับ E85 อีก 3% นั้นจะมีผลกับรถนั่งที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 1780 ซีซี ( 1800 ซีซี ) นะครับ
 ดังนั้น B-Segment ซึ่งความจุไม่ถึง 1800 ซีซี จะเสียภาษีสรรพสามิตที่ 25% ครับ

 พิกัดภาษีใหม่ปี 2559
 รถนั่งที่ได้รับส่วนลดภาษีสรรพสามิตที่รองรับ E85 อีก 5% ต้องรอดูว่าจะยกเลิกเพดานความจุกระบอกสูบ 1780 ซีซี หรือไม่ แต่คาดว่าน่าจะยกเลิกครับ เพราะไม่เช่นนั้น ภาษีสรรพสามิต B-Segment จะอยู่ในพิกัด 30% ( C-Segment 1800 ซีซี รองรับ E85 จะอยู่ในพิกัด 25% ซึ่งต่ำกว่า )

[seamonkey]

ผมสงสัยแค่ว่าทำไม Mazda3 สามารถคุมราคาได้ไม่ให้เพิ่มมาก แต่ Mazda2 ไม่สามารถคุมได้

[chettaphong]

ผมสงสัยแค่ว่าทำไม Mazda3 สามารถคุมราคาได้ไม่ให้เพิ่มมาก แต่ Mazda2 ไม่สามารถคุมได้

M2 ผมว่าราคาลงมาเยอะนะ ถ้าคุณมองว่า เครื่อง Diesel แพง ผมไปดูราคาในญี่ปุ่น เครื่อง Diesel ก็ราคาแพงกว่า เครื่อง เบนซิน 1.3 อยู่แสนนึงนะ
ส่วน ที่เครื่อง เบนซิน 1.5 ถ้าเอามาลงใช้พิกัดภาษีเดิมก็คงราคาพอ ๆ กันกับของเดิมแหละครับ แต่มันน่าจะทำให้ M2 ทั้ง model เข้า eco car phase 2 ไม่ได้
เลยไม่นำมานะครับ

[mamaman]

ยิ่งไปเทียบกับรถ  B-Segment บางรุ่นที่สามารถใช่ E85 ได้ด้วยนะ ราคายิ่งแทบไม่ต่างกันเลย  เพราะรถที่ใช่ E85 ได้เสียภาษีที่  20-22%

 ผมขออนุญาติชี้แจงตรงนี้หน่อยนะครับ

 พิกัดภาษีสรรพสามิตปัจจุบัน
 รถนั่งที่ได้รับส่วนลดภาษีสรรพสามิตที่รองรับ E85 อีก 3% นั้นจะมีผลกับรถนั่งที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 1780 ซีซี ( 1800 ซีซี ) นะครับ
 ดังนั้น B-Segment ซึ่งความจุไม่ถึง 1800 ซีซี จะเสียภาษีสรรพสามิตที่ 25% ครับ

 พิกัดภาษีใหม่ปี 2559
 รถนั่งที่ได้รับส่วนลดภาษีสรรพสามิตที่รองรับ E85 อีก 5% ต้องรอดูว่าจะยกเลิกเพดานความจุกระบอกสูบ 1780 ซีซี หรือไม่ แต่คาดว่าน่าจะยกเลิกครับ เพราะไม่เช่นนั้น ภาษีสรรพสามิต B-Segment จะอยู่ในพิกัด 30% ( C-Segment 1800 ซีซี รองรับ E85 จะอยู่ในพิกัด 25% ซึ่งต่ำกว่า )

ผมก็เข้าใจผิดไปแสดงว่า มาสด้า สอง ได้เปรียบ ชาวบ้านเรื่องได้ลดภาษีจาก 30 % มาอยู่ที่ 17 หรือ 14 % ในปีหน้า
ค่อนข้างเยอะนะครับ ต่างกันเนอะๆ อย่างน้อย 13 %-16 % ราวๆ 50000-60000

[H.]

บอกตามตรงนะ ผมรู้สึกว่าคนส่วนใหญ่มองรถเป็น segment นู่นนี่นั่น เป็น eco car บ้างแหละ แต่สำหรับผมมองว่ารถตั้งแต่ city, yaris, mazda 2 ลงไป

เป็นรถ Small car หมดทุกคัน ไม่เห็นจะต้องไปแยกให้มันปวดหัวว่าเป็น A B C Segment ให้มันงง เรียกเป็น Small car, Family car, Executive car แบบนี้ดูจะแยกได้ง่ายกว่าซะอีก

แต่ก็อีกนั่นแหละครับ ทุกคนย่อมคิดไม่เหมือนกัน

คงไม่ได้มั้งครับ คือรถเล็กแล้วมันยังมีเล็กกว่าอีก ASeg, KCar มันก็เล็กกว่า B เล็กถึงขนาดอาจจะเหลือแค่ 2 ประตู
แล้ว B มันก็เล็ก C จะเรียก Small Car หรือ Compact Car เหมือนกันหมดคงไม่ได้

ไม่งั้นเราคงเอา For2 มาเทียบกับ Jazz

[SM.]

คิดว่าราคาเปิดจะประมาณ 535,000 บาทซะอีก
 
ยังไงรถก็คงขายดีแน่นอน ปีนี้ Mazda ทำ new record อีกแน่ๆ

ไหนจะมี BT-50 MC, CX-3 and CX-5 MC

Mazda ทำ Product Line ให้ตัวเองได้ดีนะครับ แข็งแกร่ง ทุกตัวสามารถทำยอดขายได้ดีหมด

[No Trespassing]

eco car  ได้แก่ almera   swift  yaris  attrage  mazda2  ก็คือ B-segment ที่มีเครื่องยนต์ ไม่เกิน 1300 cc (march  brio  mirage ไม่รวม จัดอยู่ในพวกรถเล็กกว่าชาวบ้านเขา เอาไปเปรียบเทียบไม่ได้)

เอิ่ม เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ

Ecology Car ที่เป็น B-Segment ตีตั๋วเด็ก ในเมืองไทยใส่เครื่อง 1.2 คือ

- March
- Almera
- Swift
- Ciaz
- Yaris

ทั้งหมดนี้ในเมืองนอก เค้าใช้เครื่อง 1.5 และ 1.6 กันครับ และก็ไม่ใช่เกียร์ CVT ด้วย 

ส่วนรถที่เกิดมาเพื่อ 1.2 ลิตรแท้ๆ ที่เป็น A-Segment อย่างแท้จริง คือ

- Brio

[mamaman]

ผมสงสัยแค่ว่าทำไม Mazda3 สามารถคุมราคาได้ไม่ให้เพิ่มมาก แต่ Mazda2 ไม่สามารถคุมได้

M2 ผมว่าราคาลงมาเยอะนะ ถ้าคุณมองว่า เครื่อง Diesel แพง ผมไปดูราคาในญี่ปุ่น เครื่อง Diesel ก็ราคาแพงกว่า เครื่อง เบนซิน 1.3 อยู่แสนนึงนะ
ส่วน ที่เครื่อง เบนซิน 1.5 ถ้าเอามาลงใช้พิกัดภาษีเดิมก็คงราคาพอ ๆ กันกับของเดิมแหละครับ แต่มันน่าจะทำให้ M2 ทั้ง model เข้า eco car phase 2 ไม่ได้
เลยไม่นำมานะครับ

ผมเคยเทียบให้ดูแล้วครับว่า
 ที่ญี่ปุ่น M2 ดีเซลรุ่น low แพงกว่า เบนซิน ราวๆ 25 %

แต่พอมาบ้านเรา ดีเซลแพงกว่าเบนซินไม่ถึง 20 % ดังนั้นผมสรุปเองว่าเบนซินลงมาไม่เยอะ
ถ้าลงเยอะ ต้องลงจากดีเซลเกิน 20 % ครับ ราคาที่ผมเคยเดาลดจากดีเซล ที่ 25 % ประมาณ 510000

ก็เลย ไม่รู้อันไหนตั้งราคาผิดปกติไป

[ArmMoTo]

ราคาต่างกัน 125,000 ฿

แต่ใจก็ยังอยากได้ Diesel อยู่ 

คิดหนักเลย -*-

[H.]

เบนซินทอป ดีเซลต้น //กดเครื่องคิดเลขรัวๆ

ตามเทคโนโลยีและอื่นๆ ก็ไม่ได้แพงครับ อยู่ที่ว่าคนจะคิดกับเครื่อง 1.3 ว่ายังไงเท่านั้นเอง

ถ้าคิดว่ามันประหยัด+ไม่เล็กเกิน = คุ้ม แต่ปัญหาคนไทยคือ เอาไปเทียบกะ 1.5 ราคาพอๆ กันนั่นล่ะ

ปล. แต่ดูจากน้ำท่วมวันนี้แล้ว คันต่อไปผมคงต้องมอง B-SUV รอ CX-3 แบบใจจดใจจ่อ

ด้วยความสัจจริง ผมเห็นบางซอยแล้ว CR-V ก็พัง