ผู้เขียน หัวข้อ: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !  (อ่าน 15656 ครั้ง)

ออฟไลน์ Red Bicycle

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 849
ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 10:18:19 »
 :) อยากทราบความรู้สึก ต่อรถยนต์ Premium อย่าง MB และ BMW

 :) ที่มีขายในท้องตลาดทั่วไปว่า ในปัจจุบันนี้ ว่ามันยังมีมนต์ขลัง ดูสง่างาม

 :) ดูดี ดูเท่ห์ ว้าว ชวนมองตามจนเหลียวหลัง และ บ่งบอกความมีฐานะดี มีรสนิยมดี แตกต่างจากปกติ

 :)  เหมือนกับสมัยตอนผมยังเด็กหนุ่มเมื่อ 30 กว่าปีก่อนไหมครับ

 :) เพราะตอนนั้นผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ มันดูดีมากๆ

 :) แต่ปัจจุบันนี้ รถ MB  BMW มีให้เห็นมากมาย (แต่ก็ราคาแพงนะครับ ) และ ใกล้ตัวมากขึ้น

 :) เลยอยากทราบความรู้สึกของแต่ละท่านว่า รู้สึกต่อรถกลุ่มนี้ในปัจจุบันอย่างไรบ้างครับ !
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 23, 2015, 11:02:27 โดย Red Bicycle »

ออฟไลน์ Buffy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,494
    • อีเมล์
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 10:33:11 »
ถ้าเป็นผม คงบอกว่าน้อยลงไปกว่าเมื่อ 30 ปีก่อนตอนผมเป็นเด็กอยู่บ้าง

เพราะตอนเด็กๆ MB กับ BMW น่าจะเป็น รถราคาแพงและหรูระดับต้นต้น ที่เห็นได้ตามท้องถนน ( Volvo อีกรุ่น ตอนนั้นน่ะ)

ส่วนพวกระดับหรูว่านั้นเช่น จากัวร์ ปอร์ช เฟอรารี่ แลมโบ โรลส์-รอยซ์ รถพวกนี้.......สมัยนั้น นานนานที จะเจอที เจอทีก็เหลียวหลังจนคอเคล็ดที

ไม่เหมือนตอนนี้ MB BMW วิ่งกันขวักไขว่ ปอร์ช  แตก segment จนคนทั่วไปสัมผัสได้  เฟอรารี่ แลมโบ หากเข้าไปแถวสุขุมวิท ทองหล่อ จะได้เห็นวิ่งกัน  ไม่รวมพวก  โรลส์-รอยซ์ แมคลาเรน แอสตัน มาร์ติน หากเข้าไปหมู่บ้านคนมีเงิน จะเห็นในโรงรถกันได้สบาย



ออฟไลน์ ktonja

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 321
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 10:34:28 »
มันก็ยังเป็นตัวบ่งบอกฐานะอยู่ดีนั่นแหละ (รถใหม่ป้ายแดงนะ)

เพราะต้องมีเงินเหลือใช้จริงๆ ถึงจะมีปัญญาซื้อรถ 2 ยี่ห้อนี้ ที่บ้านผมมีรถ 8 คันยังไม่ปัญญาซื้อรถ 2 ยี่ห้อนี้เลยเสียดายเงิน ><

ออฟไลน์ dazetos

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 406
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 10:40:14 »
เทียบกับ 20 ปีที่แล้ว ผมเองรู้สึกว่ามันไม่ได้ไกลตัว หรือว่ามันไม่ได้ยากในการหามาขับแล้วครับ
ทุกวันนี้ผมยังคิดเลยครับว่า คนที่ซื้อ D Seg ญี่ปุ่นก็สามารถซื้อ MB หรือ BMW รุ่นเริ่มต้นได้อยู่แล้วครับ

แต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เป็นพนักงานบริษัท นี้แทบจะไม่มีสิทธิ์ซื้อ MB หรือ BMW เลยนะครับมันเป็นไปได้ยากมาก

ออฟไลน์ Maxkajoozaa

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 73
    • อีเมล์
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 10:56:02 »
ก่อนที่จะซื้อ mb ผมมองว่ามันดูดีมาก หรู เท่ห์  แต่พอมีแล้วความรู้สึกมันเฉยๆ ครับ ไม่ว้าวเหมือนตอนแรก กลับคิดว่ามันก็เหมือนกับคันอื่นๆในบ้านที่เป็นรถญี่ปุ่น จะไปไหนมาไหนก็ขับโตต้า ฮอนด้า รู้สึกว่าขับแล้วสบายใจกว่าครับ 555 (คหสต)
2010 ACCORD G8
2013 MERCEDESBENZ C-CLASS
2014 ACCORD G9
2014 ALTiS ESPORT
2016 Ford everest 3.2+
2017 Volkswagen beetle 1.2 turbo
2018 mazda cx-5 2.2XDL AWD
2019 bmw 7 series 730LD Msport

ออฟไลน์ muza

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 848
    • อีเมล์
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 11:01:41 »
แต่มันเคยมียุค bm ขายดีกว่า Toyota ด้วยนะสมัยก่อน
 ;D ;D ;D

ออฟไลน์ tadto

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 309
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 11:09:49 »
ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ

ถ้าคนมีรถญี่ปุ่นอยู่ ก็ยังมองพวกนี้ว่าเป็นรถอีกระดับอยู่ดี

แต่ถ้าเป็นคนที่มีอยู่แล้วก็คงรู้สึกเฉยๆ

ถ้ามีแล้วก็บ่งบอกอัตตาได้ระดับนึงครับ

ออฟไลน์ superest

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 272
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 11:46:59 »
ตอบ ตามความรู้สึกส่วนตัว นะครับ  รู้สึกว่า พอจำนวนรถมันมีให้เห็น บนท้องถนนมากขึ้น มันเลยรู้สึก ลดความน่าสนใจ ลงไป ค่อนข้างเยอะ ประมาณว่า ไม่ได้ ทำให้เรารู้สึกว่า ต้องมองเหลียวหลัง หรือ พยามจะรู้ว่า คนขับหน้าตา เป็นยังไง  ซึ่งรู้สึกผิดกับเมื่อก่อน ที่นานๆเห็นรถเหล่านี้ทีนึง
แต่มันจะมีอีกความรู้สึกหนึ่ง ที่ยังคงอยู่ คือ เมื่อใดก็ตามที่เรารู้ว่า เพื่อนเรา หรือ คนที่เรารู้จัก ขับรถเหล่านี้   เขาเหล่านั้น จะดูดี เป็นที่สนใจ จากคนรู้จักรอบข้าง เป็นพิเศษ

ออฟไลน์ ChiLun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,382
  • F10 525d M sport
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 12:13:56 »
ก่อนที่จะซื้อ mb ผมมองว่ามันดูดีมาก หรู เท่ห์  แต่พอมีแล้วความรู้สึกมันเฉยๆ ครับ ไม่ว้าวเหมือนตอนแรก กลับคิดว่ามันก็เหมือนกับคันอื่นๆในบ้านที่เป็นรถญี่ปุ่น จะไปไหนมาไหนก็ขับโตต้า ฮอนด้า รู้สึกว่าขับแล้วสบายใจกว่าครับ 555 (คหสต)

คิดแบบนี้เหมือนกันครับ อาจขับแล้วรู้สึกมั่นใจกว่าขับดีกว่า แต่สุดท้ายแล้วรถก็คือรถครับ

อันที่จริงยิ่งวิ่งเยอะวิ่งทางไกลรถยุโรปดีกว่าค่อนข้างมากครับ แต่รถญี่ปุ่นใช้แล้วสบายใจกว่า ไม่ต้องกังวลกลัวนูนนี่เสีย

ออฟไลน์ bubball

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,838
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 12:59:02 »
เป็นเครื่องบกบอกฐานะได้ ทำให้มีคนนับหน้าถือตา แต่ไม่ได้ทำให้คนมองตามได้อีกแล้ว



ออฟไลน์ NatsuDragneel

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 69
    • อีเมล์
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 13:50:28 »
ผมว่ามันก็ยังมีอยู่นะครับ แต่อาจจะไม่ถึงขั้น WOW แบบเมื่อ 20-30 ปีก่อนเท่านั้นเอง เดี๋ยวนี้ใครๆก็สามารถเป็นเจ้าของเบนซ์หรือบีเอ็มป้ายแดงกันได้ไม่ยากแบบเมื่อก่อนแล้ว แม้กระทั่งมนุษย์เงินเดือน ถ้ามีวินัยในการใช้เงิน ขยันหารายได้เสริม การจะเป็นเจ้าของเบนซ์หรือบีเอ็มป้ายแดงสักคันมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

คือรถพวกนี้ถ้าจะพูดกันตรงๆเลยคือ ราคามันเหมือนถูกลงครับ เนื่องจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น คนมีรายได้กันมากขึ้น ในขณะที่เบนซ์กับบีเอ็ม เมื่อก่อนราคาเท่าไหร่ ปัจจุบันราคาก็ยังไม่หนีไปจากเมื่อก่อนมากนัก แต่ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้นมันเลยทำให้รถพวกนี้เหมือนมีราคาถูกลง คนเลยจับจองเป็นเจ้าของกันได้ง่ายขึ้น ยิ่งเดี๋ยวนี้มีพวกรุ่นราคาประหยัดอย่าง A-Class, B-Class, C-Class, CLA, GLA เลยยิ่งทำให้จับจองเป็นเจ้าของกันได้ง่ายเข้าไปอีก

ในขณะที่รถญี่ปุ่นราคากลับยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆตามค่าครองชีพบ้านเรา ไม่ต้องดูอะไรมากหรอกครับ พวก D-segment ญี่ปุ่นที่ตอนนี้เริ่มมองเห็นถึงเค้าลางมรณะตรงหน้าจากตลาดรถกลุ่มนี้ที่เริ่มซบเซาลงเรื่อยๆ ในขณะที่กลุ่มคนมีเงินแค่เพิ่มเงินอีกไม่กี่แสนก็สามารถออกเบนซ์หรือบีเอ็มกันได้ คนมันก็ขยับไปเล่นพวกนั้นกันหมด นี่ผมยังมองอยู่เลยว่าถ้าวันหนึ่งเกิด D-segment ญี่ปุ่นราคาขยับไปถึง 2 ล้านเมื่อไหร่ เตรียมเจ๊งได้เลยถ้าไม่มีทีเด็ดอะไรที่ทำให้ดูว่าน่าใช้กว่าพวกเบนซ์หรือบีเอ็มรุ่นล่างๆ

แต่ไม่ว่ายังไง รถยุโรปก็คือรถยุโรปอยู่วันยันค่ำ รถญี่ปุ่นก็คือรถญี่ปุ่นอยู่วันยันค่ำครับ ภาพลักษณ์ในบ้านเรามันฝังหัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันแก้ยากครับ ยิ่งนิสัยคนไทยเป็นพวกไม่ค่อยยอมรับอะไรใหม่ๆกันง่ายๆด้วย ดังนั้นผมว่าไม่ว่ายังไงรถยุโรปก็ยังคงดูดีในสายตาของคนไทยไปอีกนานแหละครับ ไม่ว่าจะขับไปที่ไหนก็มีภาพลักษณ์ดีกว่ารถญี่ปุ่นแน่ๆถึงเดี๋ยวนี้จะหามาขับกันได้ง่ายๆแล้วก็ตาม

ไม่ต้องอะไรมาก เอาแค่เบนซ์ W124 เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว คุณยังเอาไปเบ่งใส่พวกวีออส แจ๊ส ซิตี้ป้ายแดงได้สบายๆเลย ยิ่งถ้าคุณทำงานโรงงานหรือที่ทำงานที่ไม่มีใครขับรถยุโรปเลย คุณลองหา W124 สักคันขับเข้าไปทำงานดูก็ได้ แล้วลองดูครับว่าคนเค้าจะมองอะไรระหว่างวีออส ซิตี้ แจ๊สป้ายแดงหรือ W124

หรือคุณคิดว่าในสายตาคนทั่วๆไป(ย้ำนะครับว่าคนทั่วๆไปที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องรถแบบพวกเราๆ)เค้าจะมอง C-Class หรือ Lexus EX300H ว่าคันไหนภาพลักษณ์ดีกว่ากันหล่ะ ทั้งๆที่ EX300H มันเป็นรถระดับที่สูงกว่า C-Class ซะอีก ซึ่งมันระดับเดียวกับ E-Class เลยผมเชื่อเหอะ ในสายตาคนทั่วๆไปยังไงเค้ามองว่า C-Class ภาพลักษณ์ดีกว่าอยู่แล้วหล่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ

ออฟไลน์ CookiE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 872
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 14:55:43 »
ขออนุญาตตอบจากประสบการณ์ของตัวเองนะครับ

เมื่อ 7 ปีก่อนตอนผมเพิ่งได้เข้าเรียน ปี 1 ช่วงนั้นผมก็จะได้เห็นทั้ง benz bmw เยอะมาก

ณ เวลานั้นผมใช้ camry extremo กับ teana j32 เราก็ได้แต่ฟังเค้าว่ารถยุโรปมันดีกว่าญี่ปุ่น

จนเมื่อตอนอยู่ ปี 3 ก็มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ bmw e60 เป็นรถยุโรปคันแรกของที่บ้านเลยครับ

หลังจากนั้นปีถัดมา ก็ได้ซื้อ bmw e60 เพิ่มอีกหนึ่งคัน จากนั้นปีถัดมา ก็ซื้อ benz c class มาใช้อีกคัน

จากการใช้งาน เทียบกับรถญี่ปุ่น 2 รุ่นข้างต้น ผมคิดว่าถ้าวัดกันทางตรง หรือมุดไปมุดมา ก็ไม่ได้ต่างกันมาก

ที่จะต่างคือ 1) เวลาเข้าโค้งหนักๆ และ 2) เวลาไปห้างหรืออะไรก็มักจะได้จอดหน้าประตู หรือถ้าที่จอดเต็ม

รปภ. ก็จะมีที่จอดพิเศษให้ครับ

สำหรับตัวผม แค่นั้นจริงๆ ครับ ยิ่งช่วงหลังขับความเร็วประมาณ 80-110 ยิ่งไม่ค่อยรู้สึกถึงความต่าง

ที่ต่างอีกอย่างคือ ค่าบำรุงรักษา ผมเป็นคนใช้รถเยอะ ปีละ 70,000 กิโลต่อคัน เพราะฉะนั้นหลังหมดประก้น

ผมโดนค่าอะไหล่ไป 2 คันของ bmw เกือบ 1,400,000 บาท (อาจจะโง่เองที่ชอบเปลี่ยนอะไหล่ก่อนมันจะ

เสียกลางทาง และใช้อะไหล่ศูนย์ ^^)

ส่วนตัว benz รถก็ไม่ค่อยได้ใช้ เคย kick down แบบ ครึ่งคันเร่งไป 2 รอบเองครับ แต่ตอนระยะ 27,000

กิโลเมตร เกียร์ก็เสียอีก ยังดีที่ประกันยังไม่หมด

จนล่าสุดไปซื้อ accord มาใช้ รู้สึกว่าการขับขี่ก็พอๆ กันละครับ ไม่ได้ต่างกันมากเลย

ถ้าจะให้ซื้ออีกคัน ก็คงยอมจ่ายไม่เกิน 3 ล้าน + - นิดหน่อย เพื่อความสวยงาม และภูมิฐาน แค่นั้นครับ


ออฟไลน์ achila6642

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 37
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 14:58:30 »
เมื่อตอนวัยรุ่นเริ่มทำงานใหม่ๆผมใช้ civic 3 ประตูรู้ศึกว่ารถพวก bm mb นี่โคตรสวยเลยดูดีมากๆใครขับนี่โคตรดูดีเลยแต่คิดว่าเราคงไม่มีปัญญาหรอกวันนึงหันมาทำธุรกิจส่วนตัว เริ่มมีเงินก็เริ่มมีความคิดจะซื้อ bm แล้วครับ แต่เงินยังไม่แยอะพอก็ค่อยๆเก็บอีก 4-5 ปีเลยครับถึงซื้อ series 3 ได้ วันแรกที่ไปออกนี่จำความรู้ศึกได้เลยครับ คือมันรอมาเป็น 10 ปีเลยอ่ะครับที่อยากทำฝันให้เป็นจริง วันนี้ทำได้แล้วก็ดีใจมากๆครับ แต่พอเอามาขับได้ประมาณ 3-4 เดือนก็เฉยๆแล้วครับ เริ่มอยากได้คันนู้นคันนี้อีกครับ จนสุดท้ายมารัก mini ก็บอกตัวเองถ้าได้มินิอีกคันน่ะสุดยอดจริงๆแน่นอน จนเมื่อไม่กี่เดือนก่อนก็ออกมินิมาอีกคันครับ ก็ดีใจมากครับจนตอนนี้ ก็รู้ศึกเฉยๆแล้วอยาก harrire ขึ้นมาอีกแล้วครับ ผมก็เลยได้ข้อสรุปครับว่ารถเนี่ยน่ะครับไม่มีวันจบหรอกครับ แล้วทึ่เราเห็นรถคันนี้ดีรถคันนี้สวยคนขับเค้าจะรู้ศึกอย่างไรน่ะที่ได้ขับต้องสุดยอดมากแน่ๆเลย จริงๆแล้วไม่เลยครับ เพราะผมจำได้เลยว่าเมื่อหลายปีก่อนผมเห็นคนขับรถแบบผมทีไรผมนี่อิจฉาเค้าทุกที แต่พอมีแล้วมันก็เฉยๆน่ะครับ แล้วที่น่าตลกก็คือตลอดสิบปีมานี้ที่ผมฝันถึง bm mb มาตลอด โดยผมเกลียด fortuner ของผมที่ใช้มันมาตลอด จอตอนนี้โรงจอดรถผม มีทั้ง bm และ mini แต่คันที่ผมขับมากที่สุดคือ fortuner ครับมันสบายใจดีสรุปคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า เสียดายตลอด 10 ปีที่เราโง่ไปซ่ะตั้งนานโลกเรามีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกแยอะจริงๆครับ

ออฟไลน์ รักขับเคารพกฎ

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 15
    • อีเมล์
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 15:02:24 »
ตอบในฐานะ คนใช่ bmw  benz  ย้อนไปสัก 15 ปี มันคือหน่้าตาทางสังคมที่ผู้คนให้ความสนใจว่ารวย การขับขี่เมื่้อสมัย  bmw E39 กับรถญี่ปุ่นยุคเดียวกันรถญี่ปุ่นห่างกันหลายชั้น  ปัจจุบัน bmw-benz ในตัวราคาไม่เกินจาก5 ล้าน มันดูธรรมดาในสายตาคนมอง  รถญี่ปุ่นสมัยนี้ ดีขึ้นชนิดไล่ตามใกล้ขึ้น  ลองยกตัวอย่าง PPV หรือ SUV หรือรถอเนกประสงค์ใช้โครงสร้างเดียวกับรถกระบะ/// ที่ผมไม่เคยสนใจเลยจนมาเมื่อเร็วๆนี้มีคนมาพูดเรื่อง new pjr/new fjn /new evr/ ซึ่งประกอบในไทยแท้ๆ แต่ option มีมากกว่ารถ เยอรมันที่ทำในไทยซะอีก อันตัวกระผมเวลานี้ ก็ใช้ new x5 f15 ซึ่งเป็นตัวนำเข้าอยู่ ซึ่งได้มาต้นปี 2015  ออปชั่นหรือของเล่นที่ได้มาถือว่า 80% ยกตัวอย่าง bmw intelligent safety/Active cruise control /High-beam Assistant/Lane change warning/ bird eye view ซึ่งพวกเนี้ย รถ PPV ที่กำลังจะวางขาย มีเกือบหมด แต่ กังหันสีฟ้าที่ขายอยู่ไม่มีเลย/ แถมยังสั่งติดตั้งไม่ได้ด้วย  การขับขี่หน่ะถ้าใครไม่บ้าพลังกด 140กม/ชม.ตลอด ความปลอดภัยผมว่าแทบไม่ต่างหรอกครับ  ณ.ตอนนี้ผมมองว่าผมไม่น่าไปซื้อเจ้า new x5 มาเลย ถ้ารู้ว่าช่วงกลางปีจะมี suv พื้นฐานกระบะเปิดตัวและมีการพัฒนามาขนาดนี้  อ้างอิงราคา Cayenne s E-Hy 7.3ล้าน /BMW x5 30d ประกอบไทย 5.6 ล้าน/Ford everest 1.6 ล้าน  การขับขี่ในความคิดของผม cayenne ดีกว่า x5 เพียงแค่ 20% เท่านั้นในตัวประกอบนอก ตัวประกอบไทยผมว่าไม่น่าต่าง แต่option คาเยนนไม่เท่าไร แค่จอก็แพ้ bmwแล้ว แต่กับ F-Evr ผมไม่เคยลองขับ กับราคราที่ต่างกันจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าย้อนเวลาได้ผมยินดีที่จะขับ  F-Evr ใหม่ดีกว่า แถมยังเหลือมา หวด alpard  ได้อีกคันสบายๆ   

ออฟไลน์ trumpetx

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
    • อีเมล์
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 15:31:02 »
บ้านเราไม่ค่อยแปลกใจครับ

ผมไปเยอรมันมา บ้านเกิดของมันแท้ๆ หาเจอยากมาก

ผมก็นั่งมาตั้งแต่เด็กเลยไม่ได้รู้สึกว่ามันจะภาพลักษณ์ดีกว่าแบรน์ญี่ปุ่นตรงไหน

สรุปถ้ามีจะเฉยๆ ถ้าไม่มีอาจจะอยากมี แต่พอมีแล้วจะเฉยๆ

ออฟไลน์ crucifixzz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 960
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 15:44:05 »
ขออนุญาตตอบจากประสบการณ์ของตัวเองนะครับ

เมื่อ 7 ปีก่อนตอนผมเพิ่งได้เข้าเรียน ปี 1 ช่วงนั้นผมก็จะได้เห็นทั้ง benz bmw เยอะมาก

ณ เวลานั้นผมใช้ camry extremo กับ teana j32 เราก็ได้แต่ฟังเค้าว่ารถยุโรปมันดีกว่าญี่ปุ่น

จนเมื่อตอนอยู่ ปี 3 ก็มีโอกาสได้เป็นเจ้าของ bmw e60 เป็นรถยุโรปคันแรกของที่บ้านเลยครับ

หลังจากนั้นปีถัดมา ก็ได้ซื้อ bmw e60 เพิ่มอีกหนึ่งคัน จากนั้นปีถัดมา ก็ซื้อ benz c class มาใช้อีกคัน

จากการใช้งาน เทียบกับรถญี่ปุ่น 2 รุ่นข้างต้น ผมคิดว่าถ้าวัดกันทางตรง หรือมุดไปมุดมา ก็ไม่ได้ต่างกันมาก

ที่จะต่างคือ 1) เวลาเข้าโค้งหนักๆ และ 2) เวลาไปห้างหรืออะไรก็มักจะได้จอดหน้าประตู หรือถ้าที่จอดเต็ม

รปภ. ก็จะมีที่จอดพิเศษให้ครับ

สำหรับตัวผม แค่นั้นจริงๆ ครับ ยิ่งช่วงหลังขับความเร็วประมาณ 80-110 ยิ่งไม่ค่อยรู้สึกถึงความต่าง

ที่ต่างอีกอย่างคือ ค่าบำรุงรักษา ผมเป็นคนใช้รถเยอะ ปีละ 70,000 กิโลต่อคัน เพราะฉะนั้นหลังหมดประก้น

ผมโดนค่าอะไหล่ไป 2 คันของ bmw เกือบ 1,400,000 บาท (อาจจะโง่เองที่ชอบเปลี่ยนอะไหล่ก่อนมันจะ

เสียกลางทาง และใช้อะไหล่ศูนย์ ^^)

ส่วนตัว benz รถก็ไม่ค่อยได้ใช้ เคย kick down แบบ ครึ่งคันเร่งไป 2 รอบเองครับ แต่ตอนระยะ 27,000

กิโลเมตร เกียร์ก็เสียอีก ยังดีที่ประกันยังไม่หมด

จนล่าสุดไปซื้อ accord มาใช้ รู้สึกว่าการขับขี่ก็พอๆ กันละครับ ไม่ได้ต่างกันมากเลย

ถ้าจะให้ซื้ออีกคัน ก็คงยอมจ่ายไม่เกิน 3 ล้าน + - นิดหน่อย เพื่อความสวยงาม และภูมิฐาน แค่นั้นครับ
+1 เรื่องการขับขี่ วิ่งช้าๆแทบไม่ต่าง จะต่างกันตรงที่รถยุโรปแน่นกว่า

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 15:45:28 »
คุณเคยได้ยินไหม เวลาเจ้าของรถรุ่นนั้นรุ่นนี้บอกว่า ขับดีกว่า BMW, BENZ อีก
หรือเคยได้ยินรึเปล่าว่า รถรุ่นนี้นะดีไซน์ออกมาโดยคนกลุ่มนั้นกลุ่นนี้จากBenz, BMW, or Porsch or else..

สมัยหนึ่งมีรถยี่ห้อนึง คนในคลับชอบบอกว่า รถของเขาดีไซน์โดยPorsche ทีมด้วยนะ ถ้าไม่นับว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่จริงแล้ว มองได้ทันทีว่า ความภูมิใจของยี่ห้อรถตัวเองดูสูงขึ้นเวลาเอายี่ห้อที่ดีกว่ามาเปรียบเทียบนะครับ

ไม่มีรถยีห้อไหนหรอก ที่บอกว่าได้แรงบันดาลใจโตโยต้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ หรือเอาทีมดีไซน์ยี่ห้อพวกนี้ไปดีไซน์รถ BMW, BENZ ต่อให้มันมีขึ้นมา ก็ไม่มีใครพูดครับ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจสำหรับเจ้าของรถเท่าไหร่

Brand Image ของสองยี่ห้อนี้ก็เลยยังดูดีกว่ารถหลาย ๆรุ่นในตลาดเพราะความเป็น Original ของมัน โดยไม่ได้สนใจว่ามันจะดีจริงสมแบรนด์รึเปล่า

ตอนนี้ ส่วนตัวผมถือคติแค่ว่า อย่าหาความสุขจากความคิดของคนอื่น ถ้าเราสุขไม่ทำให้ใครเดือดร้อนแล้วใครจะคิดยังงัยก็ช่างเขาดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 23, 2015, 15:50:33 โดย Jae »

ออฟไลน์ trumpetx

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
    • อีเมล์
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 15:49:51 »
คุณเคยได้ยินไหม เวลาเจ้าของรถรุ่นนั้นรุ่นนี้บอกว่า ขับดีกว่า BMW, BENZ อีก
หรือเคยได้ยินรึเปล่าว่า รถรุ่นนี้นะดีไซน์ออกมาโดยคนกลุ่มนั้นกลุ่นนี้จากBenz, BMW, or Porsch or else..

สมัยหนึ่งมีรถยี่ห้อนึง คนในคลับชอบบอกว่า รถของเขาดีไซน์โดยPorsche ทีมด้วยนะ ถ้าไม่นับว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่จริงแล้ว มองได้ทันทีว่า ความภูมิใจของยี่ห้อรถตัวเองดูสูงขึ้นเวลาเอายี่ห้อที่ดีกว่ามาเปรียบเทียบนะครับ

ไม่มีรถยีห้อไหนหรอก ที่บอกว่าได้แรงบันดาลใจโตโยต้า ฮอนด้า มิตซูบิชิ หรือเอาทีมดีไซน์ยี่ห้อพวกนี้ไปดีไซน์รถ BMW, BENZ ต่อให้มันมีขึ้นมา ก็ไม่มีใครพูดครับ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจสำหรับเจ้าของรถเท่าไหร่

Brand Image ของสองยี่ห้อนี้ก็เลยยังดูดีกว่ารถหลาย ๆรุ่นในตลาดเพราะความเป็น Original ของมัน โดยไม่ได้สนใจว่ามันจะดีจริงสมแบรนด์รึเปล่า

แรงบันดาลใจของ Honda มาจาก BMW,BENZ ทั้งนั้นเลย

ออฟไลน์ Mr.Siri

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 148
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 15:52:13 »
ผมว่ามันไม่ได้แตกต่างกันมากแล้วหละ ขับ BMW หรือ HONDA ไปห้างก็หาที่จอดยากพอกัน
อยู่บนถนนก็ไม่ได้สิทธิพิเศษอะไร
Perceptionของคนอื่น อย่าไปแคร์เลยครับ พอใจในสิ่งที่มีอยู่ แค่นั้นก็พอ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 16:20:49 »
มันก็คงจะเหมือนกับ คนในอยากออกคนนอกอยากเข้าละมั้ง
คนที่มี ใช้ประจำก็คงจะเฉยๆกับมันไปแล้ว แต่คนที่ไม่เคยมีหรือไม่เคยได้สัมผัสก็ว้าวเป็นธรรมดาเมื่อได้เห็น

ส่วนตัวผมเฉยๆนะแต่ก็ไม่ได้มีขับ คงเป็นเพราะคนรอบตัวมีขับกันเยอะพอสมควรและได้เคยขับบ่อยๆก็เลยเฉยๆ
แต่ถามว่าชอบมั้ย บอกได้เลยว่าชอบและอยากเป็นเจ้าของสักครั้งเหมือนกัน เพราะเวลาได้ขับได้นั่งจะรู้ได้เลยว่าทำไมมันถึงแพง

ออฟไลน์ aobness

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 693
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 16:33:06 »
แน่นอนครับ mb bmw ดูขลัง ดูมีฐานะทางสังคม (แต่ต้องตัวใหม่นะ บางคนขับรุ่นเก่ากึกมาคุยโวขับ benz อันนี้ City Jazz Civic ยังเท่กว่า )
ส่วนสมรรถนะผมว่าถ้าได้ขับกันจริงมันต่างชัดเจนนะครับ

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 16:55:43 »
ก่อนจะซื้อ สวย ดูดี ไปทุกอย่างครับ
แต่พอซื้อแล้ว ผมเฉยๆกับมันนะครับ
มันไม่ Woww แถมบางอย่างสู้รถญี่ปุ่นไม่ได้ด้วย

E300AMG / CLA250AMG / A180

ทั้ง 3 คันที่มีอยู่ตอนนี้บอกตามตรง
ผมว่ามันไม่ได้ดีเด่นอะไรมากมายเหนือ
รถญี่ปุ่นทั่วไป (ในกรณีใช้ทั่วไปแบบคนปกตินะครับ)
แต่มันจะดีกว่าชัดเจนในยามที่ใช้รถเต็มขีดความ
สามารถของมัน ทุกวันนี้ถ้าประสิทธภาพของรถ
คือ 100% การใช้งานของผมในชีวิตประจำวันน่าจะ
ใช้ประสิทธิภาพของมันแค่ราวๆ 50-60% เท่านั้น

เลยรู้สึกว่ามันไม่ได้ดีเด่นอะไรน่ะครับ
ปล.คหสต.ล้วนๆนะครับ

My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 17:09:03 »
เอากันตรงๆ จากประสบการณ์ ส่วนตัวและครอบครัว

ที่บ้านมีรถยุโรปคันแรกคือ E34 ซึ่งซื้อตอนปี 1996 ก่อนวิกฤต ต้มยำกุ้ง ดีที่ตอนนั้น ผ่อน 0% เลยผ่านมาได้ แต่บอกเลย ตอนนั้น ขับแล้ว เท่ห์มาก แล้วก็ไปไหน คนก็เหลียวนะ สวยเลย ขับดีมาก 6 สูบ รถญี่ปุ่น ที่เคยใช้ ไม่ว่าจะ accord corona civic ไม่มีคันไหนเทียบชั้นได้จริงๆ แบบแตนๆ ไม่แต่งเลย ขับ 180 เฉยๆ ขณะคันอื่น ไป 120 ก็เริ่มชะลอ นี่คือรถเมื่อ เกือบ 20 ปีก่อน

ล่าสุด ความประทับใจจาก E34 ทำให้ BMW เป็นรถที่ผมไฝ่ฝันมาตลอด แต่ด้วยภาวะ และปัจจัยหลายอย่าง กว่าจะมาลงตัว ก็เพิ่งปี 2012 ที่ตัดสินใจ จัด F30 หลังจากที่เปลี่ยนรถเป็นว่าเล่น แต่ก็ยังไม่มีคันไหนตอบโจทย์ แต่ด้วยความที่คิดเอง ว่าพนักงานบริษัท ผ่อน BMW ไม่ไหว แต่พอดูๆ รถที่ซื้อไปแล้ว สรุปคือ อยู่ที่เราจัดการมันมากกว่า เพราะหากรวม 2 คัน ที่จริงๆ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เราก็ซื้อ BMW ได้แล้ว แค่ไม่คิดให้ดีเวลาซื้อรถ  ตอนซื้อบอกเลย ภูมิใจมาก เพราะไม่ได้มีมรดกจากที่บ้าน มาจากน้ำพักน้ำแรงตัวเองล้วนๆ ขับแล้วแอบ "ยืด" บอกตรง แต่พอขับๆ ไป แค่ปีกว่าๆ รู้สึก ทำไมมันเยอะแบบนี้ เพื่อนๆ ออกกันตรึม เพราะญี่ปุ่นเองก็อัพราคาจนซื้อไม่ลง ตัวทอปเกือบ 1.8 ล้าน เอาเป็นว่า ยังไง ภาพลักษณ์ก็ดีกว่า อยู่แล้วในสังคมไทย

ส่วนการขับขี่ ผมเองก็ขับรถเร็ว แล้วมุดเยอะ ตอนขับ G8 มันก็ดีระดับนึง เพราะเปลี่ยนล้อและช่วงล่าง แต่พอมาได้ขับยุโรป ยังไงก็ต้องยอมรับ (หากใจไม่ลำเอียงจริงๆ) ว่า BMW มันขับสนุก และมั่นใจกว่า ความคมของพวงมาลัย การบังคับ การมุด การเร่ง มันได้หมด สั่งได้แทบทุกอย่าง ที่สำคัญมากๆ สำหรับผม และคนขับรถเร็ว คือเวลาฉุกเฉิน รถมันก็ช่วยเราได้เยอะมากมาย ขับเร็ว eco car ก็ขับ 160 ได้ D seg ญี่ปุ่น ก็ขับได้ แต่หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้คุณเลือก คุณจะอยู่หลังพวงมาลัยคันไหน ระหว่างรถญี่ปุ่น หรือรถยุโรป  อันนี้เราต้องยอมรับ ว่า รถ premium มันก็คือ premium ไม่งั้นมันขายแพงไม่ได้หรอกครับ พอเป็นเจ้าของ ก็เข้าใจจริงๆ ทำไมมันถึงต้องแพงครับ
S3 - F30
X1 - E84

ออฟไลน์ mxmx

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 401
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 18:18:14 »
ตอนนี้ต้องยอมรับนะคับว่ารถญี่ปุ่นพัฒนาไปมากจนเกือบจะตาม benz หรือ bm ทันแล้ว ดั้งนั้นการขับแบบธรรมดาที่ใช้ในชีวิตประจำวันนั้นอาจจะไม่ต่างเลยยกเว้นพวกเทคโนโลยีหรือลูกเล่นใหม่ๆที่รถญี่ปุ่นอาจไม่มี โดยส่วนตัว benz หรือ bm ก็ยังพอที่จะบ่งบอกฐานะทางสังคมได้บ้าง นะคับแม้จะไม่หวือหวาแบบสมัยก่อน

ออฟไลน์ frosty

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 91
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 18:56:37 »
อ้างอิงจาก 520d ของพ่อผมนะครับ
เทียบกับ accord gen5 ที่ผมรับช่วงขับต่อจากแม่

ช่วงล่างเงียบ นุ่ม และแน่นกว่ามาก
พวงมาลัยคมกว่ามาก และนิ่งเมื่อเดินทางด้วยความเร็ว
มาตรวัดดูตื่นตาตื่นใจกว่า
รูปทรงภายนอก ดูดึงดูดน่าใช้งานกว่า
เบาะนั่งสบายกว่า

แต่ถ้าให้เลือกแล้ว ผมคงใช้รถยี่ปุ่นเพราะประหยัดเงินกว่า

ออฟไลน์ AMG GT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,961
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 19:43:28 »
บางรุ่นก็เห็นละเฉยๆครับ เช่น  Series3 Series5  E-Class    แต่บางรุ่นเห็นละ wow  ครับ   เช่น IS  NX   เป็นต้นครับ55

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 21:16:45 »
เมื่อตอนวัยรุ่นเริ่มทำงานใหม่ๆผมใช้ civic 3 ประตูรู้ศึกว่ารถพวก bm mb นี่โคตรสวยเลยดูดีมากๆใครขับนี่โคตรดูดีเลยแต่คิดว่าเราคงไม่มีปัญญาหรอกวันนึงหันมาทำธุรกิจส่วนตัว เริ่มมีเงินก็เริ่มมีความคิดจะซื้อ bm แล้วครับ แต่เงินยังไม่แยอะพอก็ค่อยๆเก็บอีก 4-5 ปีเลยครับถึงซื้อ series 3 ได้ วันแรกที่ไปออกนี่จำความรู้ศึกได้เลยครับ คือมันรอมาเป็น 10 ปีเลยอ่ะครับที่อยากทำฝันให้เป็นจริง วันนี้ทำได้แล้วก็ดีใจมากๆครับ แต่พอเอามาขับได้ประมาณ 3-4 เดือนก็เฉยๆแล้วครับ เริ่มอยากได้คันนู้นคันนี้อีกครับ จนสุดท้ายมารัก mini ก็บอกตัวเองถ้าได้มินิอีกคันน่ะสุดยอดจริงๆแน่นอน จนเมื่อไม่กี่เดือนก่อนก็ออกมินิมาอีกคันครับ ก็ดีใจมากครับจนตอนนี้ ก็รู้ศึกเฉยๆแล้วอยาก harrire ขึ้นมาอีกแล้วครับ ผมก็เลยได้ข้อสรุปครับว่ารถเนี่ยน่ะครับไม่มีวันจบหรอกครับ แล้วทึ่เราเห็นรถคันนี้ดีรถคันนี้สวยคนขับเค้าจะรู้ศึกอย่างไรน่ะที่ได้ขับต้องสุดยอดมากแน่ๆเลย จริงๆแล้วไม่เลยครับ เพราะผมจำได้เลยว่าเมื่อหลายปีก่อนผมเห็นคนขับรถแบบผมทีไรผมนี่อิจฉาเค้าทุกที แต่พอมีแล้วมันก็เฉยๆน่ะครับ แล้วที่น่าตลกก็คือตลอดสิบปีมานี้ที่ผมฝันถึง bm mb มาตลอด โดยผมเกลียด fortuner ของผมที่ใช้มันมาตลอด จอตอนนี้โรงจอดรถผม มีทั้ง bm และ mini แต่คันที่ผมขับมากที่สุดคือ fortuner ครับมันสบายใจดีสรุปคนในอยากออกคนนอกอยากเข้า เสียดายตลอด 10 ปีที่เราโง่ไปซ่ะตั้งนานโลกเรามีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกแยอะจริงๆครับ
เหมือนกันเลยครับ ตอนนี้อย่างได้รถที่ดูดี ทน ใช้งานได้สบายใจ ซ่อมไม่แพง 5555
ถูกมากเลย ตรงคนในอยากออก คนนอกอยากเข้านะครับ

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 21:33:25 »
คงเป็นที่การออกแบบ เทคโนโลยีล้ำๆ การขับขี่โดยรวม และราคาทำให้สมัยก่อนภาพลักษณ์มันดูดีครับ สมัยนี้รถญี่ปุ่นเข้ามาใกล้ในทุกๆด้านเลยทำให้แบรนด์MB BMW ดูไม่หรูมากเหมือนแต่ก่อน

แต่แปลกจังเมื่อก่อน E30 ขายดีกว่า Corona, W124 ขายดีกว่า civic แต่ดันกลับมองว่าเป็นรถหรูในสมัยนั้นๆทั้งๆที่รถออกจะเยอะ วิ่งเต็มถนนกว่าด้วยซ้ำ ::)

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 22:31:20 »
นอกจากที่หลายๆท่านว่ามาแล้ว ผมว่า 2 ยี่ห้อนี้ ก็ยังจะเป็นเป้าหมายของหลายๆคนที่ต้องการจะมีไว้ซักคันนึงไปอีกนานครับ

ออฟไลน์ JetDou

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 121
Re: ความรู้สึก ของรถยนต์ ระดับ MB และ BMW !
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2015, 22:36:16 »
จากที่เคยไปนั่งพวก bmw benz มาบ้างแล้วลองเทียบกับ accord ของพ่อผม และ ford ผม หรือ cruze แม่ผม
บอกได้ว่า รถยุโรปจะเด่นกว่าในเรื่องเก็บเสียงกับช่วงล่างและแค่นั้นจริงๆสำหรับผม
เพราะตอนนี้รถทั้ง ญี่ปุ่น กับ อเมริกัน ค่อนข้างตีตื้นขึ้นมาพอสมควรทั้งวัสดุเอย การขับขี่เอย ความปลอดภัยเอย ฯลฯ

รถยุโรปตอนนี้ความขลังมันลดลงมาแน่นอนเพราะหลายเจ้าอยากได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นเลยทำให้รถถูกลงคนธรรมดาจับจองกันได้ง่ายขึ้น ส่วนลด+ดอกเบี้ย0%

ถ้าเทียบกับสมัยก่อนที่รถหรูนานๆทีเจอ กับ ตอนนี้ที่ผมรู้สึกว่าเห็น series 3 C-class เยอะกว่า civic อีก

ความขลังยังมีอยู่ไหม ผมว่ายังมีอยู่ แต่ตอนนี้สำหรับผม bmw benz มันกลายเป็นรถ mass ไปแล้ว

ถ้าจะเหลียวมองคงเป็นพวก Porsche Jaguar McLaren หรือพวกรถหายาก เช่น i8 i3

2015 Ford Fusion 2.0 Titanium
2011 Infiniti G37 3.7 AWD