ผู้เขียน หัวข้อ: ไปดูมาแบบจริงจังๆ สำหรับ FTN 2.4V 2wd 1.369ล. กับ PJS 2.4GT 4wd เลือกอะไรดีครับ  (อ่าน 19415 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dozeda

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 77
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด

ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง

คันไหนได้เปรียบหรอคับ?

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
เอาตามที่คุณคิดละครับ ผมว่าคุณเลือกเเล้ว แต่รอแค่เสียงสนับสนุน เป็นผมก็เลือกอันนั้นเเหละ

ณ นาทีนี้ สาบานได้เลยว่า ยังเลือกไม่ได้จริงๆ
จะโยนหัวก้อย มันก็เกินไป ราคาตั้ง 1.4ล.  :'(


งั้นเลือก FTN ให้ครับ
   ปา ไปดูตัวจริงมาเฉยๆครับ เงิน 1.5 ล้าน เยอะครับ ค่อยๆเลือกเอาให้ตรงใจที่สุด
 

เพราะอะไรจึงเลือกFTNครับ
"Make It Count"

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
1.ผมมีปัญหาเหมือนกัน ไม่ชอบเลย
2.ไม่แน่ใจนะครับจำไม่ได้
3.ถ้าไม่มีคนนั่งหลังประจำก็ไม่จำเป็น แต่มีดีกว่าไม่มี
4.ผมเฉยๆนะ ไม่ได้ซีเรียส
5.เหตุผลเดียวกับข้อ4

ส่วนเรื่องภายในภายนอก วัสดุ นนจต. แล้วแต่ชอบ แล้วแต่ความพึงพอใจ
เป็นผมลือก PJS เพราะออฟชั่นต่างๆและกำลังของเครื่องยนต์ ขับสี่ตลอดเวลา นั่งคนเดียวตลอด เบาะหลังพับเพียบไว้ขนได้สะดวกๆ
แต่ถ้ามีครอบครัวจริงๆ ใช้เบาะแถวสามบ่อย ฟอร์เป็นคำตอบที่ดีนะครับ เพราะเบาะแถวสองเลื่อนขึ้นได้ ทำให้คนนั่งแถวสามนั่งได้สบายขึ้นเยอะ

แถวที่3FTN ไม่ได้ดีกว่า PJS นะครับปรับเบาะแถว 2 เอนเท่ากัน ยืดหัวหมอนแถว 3 ให้สุดเพื่อจะไม่ดันหลัง
สำหรับ FTN เข่าผมยันหลังเบาะแถวสอง ส่วน PJS นั่งแบบเดียวกัน เอียงเท่ากัน เข่าห่างเกือบ 10 cm
"Make It Count"

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด

ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง

จริงๆผมขับรถไม่ค่อยเร็วครับ เดินทางตามปกติ 100-120 บางครั้งอาจจะถึง 140 แต่ไม่เกินนั้น
ส่วนใหญ่ขับทางไกล ไม่มุด ไม่เบรคกระชั้น ยกคันเร่ง สุดๆแล้วค่อยเบรค

คันไหนดีกว่าเรื่องพละกำลังครับ และต่างกันช่วงไหนบ้าง

0-100, 80-120, 100-140 อะไรประมาณนี้น่ะครับ
"Make It Count"

ออฟไลน์ sith(สิทธิ์)

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,415
  • นับ1ใหม่
    • อีเมล์
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด

ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง

คันไหนได้เปรียบหรอคับ?
ถ้าสูตรผม ผมดูจากตารางอัตราเร่งตัวนี้ครับ

โดยทั่วไป รถ PPV จะช้าลงไปประมาณ 1วิ (โดยประมาณ)ถ้าตามตารางนี้ ก็พอเดาได้ว่าจะเป็นยังไง
แต่ปาเจโร่ เกียร์มี8สปีด ไม่รู้จะออกมาแนวไหน ยังไงคงโค่นเทรลยากในเรื่องอัตราเร่ง
แต่ความสุนทรีของรถประเภทนี้คือการเปลี่ยนเกียร์ที่ต่อเนื่องไหม สะดุดไหม
เพราะรถราคานี้ เป็นรถครอบครัวแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนเกียร์ทีสะดุด กึกๆกักๆ นี่จบเลย
ถ้าจะเปรียบกัน คงต้องเอา ฟอจูน2.8 กับปาเจโร่2.4 ขับ4เทียบขับ4 ขับ2เทียบขับ2
รอลองขับปาเจโร่เทียบก็ได้ครับ รถเข้าศูนย์ตุลาคม (เค้าว่างั้น)จะได้เทียบฟอจูนได้ชัดเจนหน่อย

ออฟไลน์ JAAP01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 413
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด

ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง

จริงๆผมขับรถไม่ค่อยเร็วครับ เดินทางตามปกติ 100-120 บางครั้งอาจจะถึง 140 แต่ไม่เกินนั้น
ส่วนใหญ่ขับทางไกล ไม่มุด ไม่เบรคกระชั้น ยกคันเร่ง สุดๆแล้วค่อยเบรค

คันไหนดีกว่าเรื่องพละกำลังครับ และต่างกันช่วงไหนบ้าง

0-100, 80-120, 100-140 อะไรประมาณนี้น่ะครับ

ที่พอจะเห็นทดสอบอัตราเร่งกัน เครื่อง GD ของโตโยต้าเซ็ทมาให้แรงบิดในรอบต่ำ ช่วง 0-80 นี่พละกำลังมาดีทีเดียว แต่หลัง 80 -100 ขึ้นไปเรี่ยวแรงเหมือนจะหมดเร็วไปหน่อย

ออฟไลน์ kenny523

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 801
ถ้าข้างหน้าเป็น pjs หลังได้ FTN ภายในได้ EV นี่จะperfect มากสำหรับผม

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
มีข่าวว่าช่วง พย.-ธค. EV 3.2+ จะมีการส่งมอบดั่งน้ำหลากเพราะสั่งมูนรูฟเพิ่ม น่าจะมาช่วงนั้น (มูนรูฟมาจากเยอรมันนะครับ ไม่ใช่จากจีน)

ใครที่ได้คิวต้นปีหน้า อาจจะได้ตอนสิ้นปีก็ได้ครับ
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ ipong

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 106
มีข่าวว่าช่วง พย.-ธค. EV 3.2+ จะมีการส่งมอบดั่งน้ำหลากเพราะสั่งมูนรูฟเพิ่ม น่าจะมาช่วงนั้น (มูนรูฟมาจากเยอรมันนะครับ ไม่ใช่จากจีน)

ใครที่ได้คิวต้นปีหน้า อาจจะได้ตอนสิ้นปีก็ได้ครับ

ได้ยินเช่นนี้มีลุ้นกันเลยทีเดียว

ป.ล. แม้ว่าปาจะมีอัตราเร่งดีกว่า แต่ทำไมซดน้ำมันพอๆๆกับ3.2 ของฟอร์ดเลยครับ แปลกมาก

ออฟไลน์ tierak

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 903
ถ้าใช้ยาวคงต้องถามใจคุณเองครับว่าโดยรวมพอใจคันไหนมากที่สุด นั่นแหละครับคือคำตอบที่ใช่
ยังตัดสินใจไม่ได้ครับ ชอบเหมือนกัน 50:50

PJS เหมือนคน จบ ป.เอก ม.เอกชน ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง ลูกล่อลูกชนเพียบ แต่ดูเหมือนเป็นคนแข็งๆ แต่งตัวเนี้ยบ
แต่งยังไม่ค่อยเรียบร้อย

FTN จบ ป.ตรี ม.รัฐชั้นนำของ ปท. ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง นิสัย friendly แต่งตัวเนี้ยบเน้นราคาแพง

ขอนอกเรื่องนิดๆครับพี่ แล้ว  EV,MU-X,เทรล เปรียบได้ประมาณไหนครับ  ;)

จัดให้ครับ

EV เหมือนคน จบ ป.เอก ม.เอกชน ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง ลูกล่อลูกชนเพียบ แต่ดูเหมือนเป็นคนแข็งๆ แนวนักบู้
แต่งตัวเนี้ยบแต่งยังไม่ค่อยเรียบร้อย เมื่อออกจากบ้านมาแล้ว ทางบ้านคล้ายๆ จะตัดหางปล่อยวัด ปล่อยให้สู้ชีวิตเอาเอง

Trail โดน retire จาก ป.ตรี ม.รัฐชั้นนำของ ปท. มาจบ ป.ตรี ม.เอกชน ที่ชื่อชั้น กลางๆ ทำงานกลางๆ แต่รวดเร็ว
เอาใจไม่เก่งนัก นิสัยพอใช้ได้ แต่งตัวปกติ ที่บ้านไม่รักมากกว่า EV

Mu X จบ ป.ตรี ม.รัฐชั้นนำ ทำงานกลางๆ ไม่เร็วไม่ช้า แต่เชื่อใจได้ว่าสำเร็จ เอาใจไม่เก่งนัก นิสัยดีคุยรู้เรื่อง
ที่บ้านรักมาก มี ปห.กลับมาปรึกษากันได้ มักมีทางออกที่ดีให้ ออกแนวไม่เด่น แต่คน ตจว. ชอบนักคนแบบนี้

แสดงว่า จขกท. รู้แจ้งแล้วเกี่ยวกับบุคลิคของรถทุกรุ่นของ ppv  ที่นี้ก็อยู่ที่ว่าจะเลือกละครับว่าอยากทำงานกับคนแบบไหน  :-X :-Xขำๆนะครับ
ปล.เห็นใจคนเลือก ppv ช่วงนี้จริงๆ

ออฟไลน์ JAAP01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 413
มีข่าวว่าช่วง พย.-ธค. EV 3.2+ จะมีการส่งมอบดั่งน้ำหลากเพราะสั่งมูนรูฟเพิ่ม น่าจะมาช่วงนั้น (มูนรูฟมาจากเยอรมันนะครับ ไม่ใช่จากจีน)

ใครที่ได้คิวต้นปีหน้า อาจจะได้ตอนสิ้นปีก็ได้ครับ

ขอให้ได้ซัก 4-5 พันคันก็ยังดี  8) แต่ก็นะ มูนรูฟนี่อย่าให้ได้มีปัญหานะเพราะอะไหล่มาไกลมาก :-X
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 31, 2015, 21:49:52 โดย JAAP01 »

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,487
    • อีเมล์
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด

ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง

จริงๆผมขับรถไม่ค่อยเร็วครับ เดินทางตามปกติ 100-120 บางครั้งอาจจะถึง 140 แต่ไม่เกินนั้น
ส่วนใหญ่ขับทางไกล ไม่มุด ไม่เบรคกระชั้น ยกคันเร่ง สุดๆแล้วค่อยเบรค

คันไหนดีกว่าเรื่องพละกำลังครับ และต่างกันช่วงไหนบ้าง

0-100, 80-120, 100-140 อะไรประมาณนี้น่ะครับ


Revo 2.8 0-100 ได้ 11.63 / 80-120 ได้ 8.55
ตีแบบง่ายๆเพิ่มขึ้นอย่างละ 1 วินาทีเมื่อมาอยู่ใน Fortuner
Fortuner 2.8 0-100 ได้ 12.63 วินาที / 80-120 ได้ 9.55 วินาที
แต่.....นั่น 2.8 ครับ

พอมาเป็น Fortuner 2.4 ตีง่ายๆ บวกไปอย่างละ 0.5 วินาที ทำให้
Fortuner 2.4 0-100 ได้ 13.13 วินาที / 80-120 ได้ 10.05 วินาที

Triton 0-100 ได้ 10.84 / 80-120 ได้ 7.57
ตีแบบง่ายๆเพิ่มขึ้นอย่างละ 1 วินาทีเมื่อมาอยู่ใน Pajero Sport
Pajero Sport 2.4 0-100 ได้ 11.84 วินาที / 80-120 ได้ 8.57 วินาที

น่าจะพอเห็นภาพนะครับ 2.4 ทั้งใน Revo/Fortuner ผมยังไม่เคยขับ
แต่ 2.8 เคยขับแล้วทั้งคู่ 2.8 ใน Revo ผมค่อนข้างโอเค
แต่พอมาอยู่ใน Fortuner ผมกลับมองว่ามันช้าไปหน่อย
ช่วง 0-60 โอเค ใช้ได้ ออกตัวไว แต่พอหลัง 60 ไปผมว่า
ค่อนข้างที่จะต้องเค้นกำลังพอสมควรเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
(ตอนผมขับนั่งกัน 3 คน)

Pajero Sport 2.4 4WD เคยขับแล้ว แต่แค่ช่วงความเร็วไม่เกิน 80 km/h
(นั่งกัน 4 คน) ช่วงออกตัว 0-60 และการเร่งแซงพุ่งไวกว่า Fortuner 2.8

การเก็บเสียงลมตามขอบประตูต่างๆ ผมว่า Fortuner แอบทำได้ดีกว่า
Pajero Sport อยู่นิดหน่อย รวมถึง Vibration ที่ส่งเข้ามาในตัวรถ
Fortuner ก็ทำได้ดีกว่านิดหน่อยเช่นกัน แต่ช่วงล่าง การเก็บรอยต่อถนน
หลุมบ่อต่างๆ การซับแรงสะเทือน Pajero Sport จะทำได้ดีกว่า

แต่ยังไงผมก็แนะนำว่าให้ไปลองขับลองนั่งด้วยตัวเองก่อนดีกว่า
บางทีความชอบ ความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 31, 2015, 22:07:15 โดย MoO Cnoe »

ออฟไลน์ Mizuihisachi

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 303
คู่นี้ผมมอง FTN แบบไม่คิด เหตุผลหลักคือ
1. มองย้อนไปเจนก่อนภาพจำในหัวคือ PJS ราคาประมาน 9 แสน กระบะดัดแปลงชัดๆ / FTN ต่ำๆต้องมีล้านสอง เออเหมือน SUV. (ภาพในหัวสมอง FTN ดูดีกว่าทุกประตู)
2. มองในเจนปัจจุบัน มอง PJS ทำไมนึกถึง sport rider แบบยาวๆโย่งๆ คืออารมกระบะใส่หลังคาท้าย ประมาณรถของไทยรุ่ง (แม้หน้าจะสวยหยด ท้ายริวจะไม่พูด) ลูกเล่นเยอะ แต่ภาพรวมคือธรรมดามากสำหรับจิตใจผม / FTN ออกแบบมา โหว เล็กซัสชัดๆ หรูสวยมาก (ถึงจะออฟชั่นโล้นๆ+แพง)

ปล. ผมเลือกซื้อรถที่ขับแล้วเสริมภาพลักษณ์ผมด้วย จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง

ออฟไลน์ capton

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 379
ปวดหัวจริงๆครับ เลือกรถตอนนี้ ผมก็เลือกไม่ได้ เลยจะไปเอา Ranger WT3.2 มาใช้ลองดูก่อน ทดสอบศูนย์
ว่าศูนย์ที่ชลบุรีจะเป็นไง ถ้าพอทนได้ ก็เอา EV เลย ราคาขึ้นก็ยอมละ ถ้าทนไม่ได้รอ FTN ใส่ดิสหลังมา
ถ้าไม่ให้มาไป PJS แน่ๆ ตอนนี้ถ้าเอา PJS เลย H1 คงเป็นหม้าย ไม่ได้ใช้อีก

ผมว่าจะไม่ดูกระทู้เกี่ยวกับรถประเภทนี้แล้วน้า ... มันกระตุกต่อมอยากทุกทีเลย :)

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด

ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง

คันไหนได้เปรียบหรอคับ?
ถ้าสูตรผม ผมดูจากตารางอัตราเร่งตัวนี้ครับ

โดยทั่วไป รถ PPV จะช้าลงไปประมาณ 1วิ (โดยประมาณ)ถ้าตามตารางนี้ ก็พอเดาได้ว่าจะเป็นยังไง
แต่ปาเจโร่ เกียร์มี8สปีด ไม่รู้จะออกมาแนวไหน ยังไงคงโค่นเทรลยากในเรื่องอัตราเร่ง
แต่ความสุนทรีของรถประเภทนี้คือการเปลี่ยนเกียร์ที่ต่อเนื่องไหม สะดุดไหม
เพราะรถราคานี้ เป็นรถครอบครัวแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนเกียร์ทีสะดุด กึกๆกักๆ นี่จบเลย
ถ้าจะเปรียบกัน คงต้องเอา ฟอจูน2.8 กับปาเจโร่2.4 ขับ4เทียบขับ4 ขับ2เทียบขับ2
รอลองขับปาเจโร่เทียบก็ได้ครับ รถเข้าศูนย์ตุลาคม (เค้าว่างั้น)จะได้เทียบฟอจูนได้ชัดเจนหน่อย

ใช่รถเข้า 0 ช่วงต้นตุลา แต่ถ้าจะเอา PJS จริงต้องจองก่อนสิ้น กย58 ไม่งั้นเพิ่มอีก 5หมื่น เฮ้อ....
"Make It Count"

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด

ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง

จริงๆผมขับรถไม่ค่อยเร็วครับ เดินทางตามปกติ 100-120 บางครั้งอาจจะถึง 140 แต่ไม่เกินนั้น
ส่วนใหญ่ขับทางไกล ไม่มุด ไม่เบรคกระชั้น ยกคันเร่ง สุดๆแล้วค่อยเบรค

คันไหนดีกว่าเรื่องพละกำลังครับ และต่างกันช่วงไหนบ้าง

0-100, 80-120, 100-140 อะไรประมาณนี้น่ะครับ


Revo 2.8 0-100 ได้ 11.63 / 80-120 ได้ 8.55
ตีแบบง่ายๆเพิ่มขึ้นอย่างละ 1 วินาทีเมื่อมาอยู่ใน Fortuner
Fortuner 2.8 0-100 ได้ 12.63 วินาที / 80-120 ได้ 9.55 วินาที
แต่.....นั่น 2.8 ครับ

พอมาเป็น Fortuner 2.4 ตีง่ายๆ บวกไปอย่างละ 0.5 วินาที ทำให้
Fortuner 2.4 0-100 ได้ 13.13 วินาที / 80-120 ได้ 10.05 วินาที

Triton 0-100 ได้ 10.84 / 80-120 ได้ 7.57
ตีแบบง่ายๆเพิ่มขึ้นอย่างละ 1 วินาทีเมื่อมาอยู่ใน Pajero Sport
Pajero Sport 2.4 0-100 ได้ 11.84 วินาที / 80-120 ได้ 8.57 วินาที

น่าจะพอเห็นภาพนะครับ 2.4 ทั้งใน Revo/Fortuner ผมยังไม่เคยขับ
แต่ 2.8 เคยขับแล้วทั้งคู่ 2.8 ใน Revo ผมค่อนข้างโอเค
แต่พอมาอยู่ใน Fortuner ผมกลับมองว่ามันช้าไปหน่อย
ช่วง 0-60 โอเค ใช้ได้ ออกตัวไว แต่พอหลัง 60 ไปผมว่า
ค่อนข้างที่จะต้องเค้นกำลังพอสมควรเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
(ตอนผมขับนั่งกัน 3 คน)

Pajero Sport 2.4 4WD เคยขับแล้ว แต่แค่ช่วงความเร็วไม่เกิน 80 km/h
(นั่งกัน 4 คน) ช่วงออกตัว 0-60 และการเร่งแซงพุ่งไวกว่า Fortuner 2.8

การเก็บเสียงลมตามขอบประตูต่างๆ ผมว่า Fortuner แอบทำได้ดีกว่า
Pajero Sport อยู่นิดหน่อย รวมถึง Vibration ที่ส่งเข้ามาในตัวรถ
Fortuner ก็ทำได้ดีกว่านิดหน่อยเช่นกัน แต่ช่วงล่าง การเก็บรอยต่อถนน
หลุมบ่อต่างๆ การซับแรงสะเทือน Pajero Sport จะทำได้ดีกว่า

แต่ยังไงผมก็แนะนำว่าให้ไปลองขับลองนั่งด้วยตัวเองก่อนดีกว่า
บางทีความชอบ ความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ใช่ครับ จะให้ดีต้องลองขับ แต่ตัว PJS. ติดเรื่อง 30กย

ไม่ทราบว่าการเปลี่ยนเกียร์ 8 speeds ของ PJS เป็นยังไงบ้างครับ เมื่อเทียบ 6 speeds ของ FTN
ทั้งความต่อเนื่อง และความราบรื่น

จริงๆ ตอนนี้ผมและครอบครัว กำลังชั่งใจมากระหว่าง options กับ image มากกว่า
คือ ไอ้ตัวหนึ่งก็จัด options ซะคู่แข่งในราคานี้แทบหมดความหมาย
แต่อีกตัวก็ brand image แข็งโป้กจนทำให้คุณค่าของ options PJS ลดลงไปพอควรทีเดียว

คือถ้าตัดสินใจได้แล้ว การขับขี่ก็ไม่มีปห. เพราะถึงตอนนั้นซื้อมาแล้วยังไงก็ต้องปรับตัวเข้าหาได้แน่นอนครับ

คือ ถ้าใครมายืน ณ จุดๆนี้ เป็นรถสำหรับ 10ปี นี่ ตัดสินใจยากเสียจริงๆครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 01, 2015, 09:57:46 โดย the kit »
"Make It Count"

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
คู่นี้ผมมอง FTN แบบไม่คิด เหตุผลหลักคือ
1. มองย้อนไปเจนก่อนภาพจำในหัวคือ PJS ราคาประมาน 9 แสน กระบะดัดแปลงชัดๆ / FTN ต่ำๆต้องมีล้านสอง เออเหมือน SUV. (ภาพในหัวสมอง FTN ดูดีกว่าทุกประตู)
2. มองในเจนปัจจุบัน มอง PJS ทำไมนึกถึง sport rider แบบยาวๆโย่งๆ คืออารมกระบะใส่หลังคาท้าย ประมาณรถของไทยรุ่ง (แม้หน้าจะสวยหยด ท้ายริวจะไม่พูด) ลูกเล่นเยอะ แต่ภาพรวมคือธรรมดามากสำหรับจิตใจผม / FTN ออกแบบมา โหว เล็กซัสชัดๆ หรูสวยมาก (ถึงจะออฟชั่นโล้นๆ+แพง)

ปล. ผมเลือกซื้อรถที่ขับแล้วเสริมภาพลักษณ์ผมด้วย จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง

ไม่ขอพูดถึงข้อ1-2 ที่คุณกล่าวมา
แต่เห็นด้วยกับ  ปล.ที่คุณว่า "จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง"

คำพูดนี้ล่ะ ที่ทำให้ผมตัดสินใจลำบากระหว่าง options กับ image
"Make It Count"

ออฟไลน์ satan103tfs

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 48
    • อีเมล์
ถ้ากลัวไม่ได้ราคา โปร 1.399 ก็จองไปก่อนครับ ให้เซลลง ในใบจองว่าถ้า ลองแล้วไม่ชอบขอเงินคืน ผมจองไปแล้ว ที่งาน BIC เผื่อ Everest ไม่ได้ก่อน สิ้นปี
ปล. ผมจอง ไป 3 ใบ ครับ 1 pjs 2 eve

ออฟไลน์ Chris Evn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,154
อย่าลืมความแรงนะครับ
เพราะอัตราเร่งเราใช้ตลอด


Fortuner 2.4 น่าจะอืดกว่า pajeri sport พอสมควร

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
1.ผมมีปัญหาเหมือนกัน ไม่ชอบเลย
2.ไม่แน่ใจนะครับจำไม่ได้
3.ถ้าไม่มีคนนั่งหลังประจำก็ไม่จำเป็น แต่มีดีกว่าไม่มี
4.ผมเฉยๆนะ ไม่ได้ซีเรียส
5.เหตุผลเดียวกับข้อ4

ส่วนเรื่องภายในภายนอก วัสดุ นนจต. แล้วแต่ชอบ แล้วแต่ความพึงพอใจ
เป็นผมลือก PJS เพราะออฟชั่นต่างๆและกำลังของเครื่องยนต์ ขับสี่ตลอดเวลา นั่งคนเดียวตลอด เบาะหลังพับเพียบไว้ขนได้สะดวกๆ
แต่ถ้ามีครอบครัวจริงๆ ใช้เบาะแถวสามบ่อย ฟอร์เป็นคำตอบที่ดีนะครับ เพราะเบาะแถวสองเลื่อนขึ้นได้ ทำให้คนนั่งแถวสามนั่งได้สบายขึ้นเยอะ

แถวที่3FTN ไม่ได้ดีกว่า PJS นะครับปรับเบาะแถว 2 เอนเท่ากัน ยืดหัวหมอนแถว 3 ให้สุดเพื่อจะไม่ดันหลัง
สำหรับ FTN เข่าผมยันหลังเบาะแถวสอง ส่วน PJS นั่งแบบเดียวกัน เอียงเท่ากัน เข่าห่างเกือบ 10 cm

เบาะแถวสองฟอร์ปรับขึ้นมาได้มากกว่า 10cm แน่นอนครับ ยังไงก็สบายกว่า

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
เหมือนจขกท ใจเอนเอียงไปทาง FTN  นะ
  FTN   ก็คงเด่นตามที่ว่าแต่ด้อยตรงที่อ๊อพชั่นน้อยกว่าราคาแพงกว่า    อีกข้อนึงที่เด่นกว่าก็คือ ฝาท้ายไฟฟ้าที่ PJS  ไม่มีให้   

  PJS  อ๊อพชั่นเหนือกว่าแต่เบาะนังไม่สบายเท่า แถมสีดำผมล่ะโคตรเกลียดเบาะดำเลย  คนส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบแต่ก่อนหน้านี้มีคนบอกชอบเบาะดำกัน ผมก็งงเหมือนกัน     แต่เอาเป็นว่า PJS  อ๊อพชั่นแพรวพราวกว่ามาก   ที่ราคาเท่ากันถือว่าคุ้มสุด ๆ 

   หน้าตาอย่าไปวิจารณ์เพราะคนเราต่างใจ   ศุนย์บริการถ้าอยู่ ตจว  อย่าเอามาเทียบกันเลยว่า TOYOTA  ดีกว่า    ผมอยุ่แปดริ้วฉะเชิงเทรา บางครั้งแต่ผมไม่เคยใช้บริการศุนย์ TOYOTA  ที่นั่นมา 10 ปีได้แล้วมั้งห่วยมาก   ต้องขับรถเข้ามากรุงเทพ สป เพื่อใช้ศูนย์ในเขตนี้แทน
ถ้าเลือกนะครับ  คงมองตามตัวเลือกการใช้งานมากกว่า
ถ้าใช้ในเมืองหมายถึงในกรุงเทพ รถติด ๆ  ผมเลือก FTN  เพราะประหยัดน้ำมันกว่า นั่งสบายกว่า
แต่ถ้าวิ่ง ตจว คงเลือก PJS  หรือ FTN 2.8 4x4   แต่FTN ต้องรอไมเนอร์อ๊อพชั่นครบก่อนถึงเลือก FTN  ได้ถ้าซื้อตอนนี้ไม่ซื้อ   
ถ้าไม่ได้มีรถคันเดียวในบ้าน  EV 3.2 + คือคำตอบสุดท้าย

ออฟไลน์ tp09

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 264
มีแค่สองตัวเลือกนี้ ผมว่าเลือกง่ายครับ
ไป PJS เลยครับ เหนือกว่าเกือบทุกด้าน ทั้งภาพรวมด้านเทคนิคและ option

ออฟไลน์ rojsak2021

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,196
    • อีเมล์
 PJS 2.4GT 4wd ดีกว่าครับ option ดีกว่า

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
เหมือนจขกท ใจเอนเอียงไปทาง FTN  นะ
  FTN   ก็คงเด่นตามที่ว่าแต่ด้อยตรงที่อ๊อพชั่นน้อยกว่าราคาแพงกว่า    อีกข้อนึงที่เด่นกว่าก็คือ ฝาท้ายไฟฟ้าที่ PJS  ไม่มีให้   

  PJS  อ๊อพชั่นเหนือกว่าแต่เบาะนังไม่สบายเท่า แถมสีดำผมล่ะโคตรเกลียดเบาะดำเลย  คนส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบแต่ก่อนหน้านี้มีคนบอกชอบเบาะดำกัน ผมก็งงเหมือนกัน     แต่เอาเป็นว่า PJS  อ๊อพชั่นแพรวพราวกว่ามาก   ที่ราคาเท่ากันถือว่าคุ้มสุด ๆ 

   หน้าตาอย่าไปวิจารณ์เพราะคนเราต่างใจ   ศุนย์บริการถ้าอยู่ ตจว  อย่าเอามาเทียบกันเลยว่า TOYOTA  ดีกว่า    ผมอยุ่แปดริ้วฉะเชิงเทรา บางครั้งแต่ผมไม่เคยใช้บริการศุนย์ TOYOTA  ที่นั่นมา 10 ปีได้แล้วมั้งห่วยมาก   ต้องขับรถเข้ามากรุงเทพ สป เพื่อใช้ศูนย์ในเขตนี้แทน
ถ้าเลือกนะครับ  คงมองตามตัวเลือกการใช้งานมากกว่า
ถ้าใช้ในเมืองหมายถึงในกรุงเทพ รถติด ๆ  ผมเลือก FTN  เพราะประหยัดน้ำมันกว่า นั่งสบายกว่า
แต่ถ้าวิ่ง ตจว คงเลือก PJS  หรือ FTN 2.8 4x4   แต่FTN ต้องรอไมเนอร์อ๊อพชั่นครบก่อนถึงเลือก FTN  ได้ถ้าซื้อตอนนี้ไม่ซื้อ   
ถ้าไม่ได้มีรถคันเดียวในบ้าน  EV 3.2 + คือคำตอบสุดท้าย

ใจไม่เอียงด้านใดเป็นพิเศษครับ
โดยส่วนตัว FTN ไม่ได้มีอะไรเด่นเลย นอกจาก brand, ภายใน, ศูนย์บริการ, ความไว้ใจได้
แต่ PJS  technology ที่อัดมาให้ นี่อีก 10 ปี ผมว่ายังไม่น่าเป็นรองเลย

ส่วนเรื่องการประหยัดน้ำมัน ผมว่าไม่หนีกันนะ

และถ้าจะเลือก FTN รอไมเนอร์นี่ราคาไม่รู้จะไปที่เท่าไรสำหรับตัว 2.4V แค่หลังปีใหม่นี้น่าจะ 1.45ล.
ถ้าไมเนอร์ ยัด ดิสค์เบรคหลัง, เบาะหน้าปรับไฟฟ้า, cruise + ค่าเงินเฟ้อ ราคาสำหรับ 2 ปีข้างหน้า
น่าจะประมาณ 1.55ล.

คันนี้ไม่ใช่รถคันเดียวของบ้านซื้อเพิ่ม แต่ไม่อยากเปลี่ยนบ่อยครับ
ส่วน EV ไม่ใช่ spec ไม่ขอพูดถึงครับ
"Make It Count"

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
  FTN  2.4 น่าจะประหยัดกว่าจริงครับเพราะเซทมาเน้นประหยัด   เห็นเค้าขับกันได้ 14-16 km/l แต่ PJS  ถึงแม้จะเครื่อง 2.4 เหมือนกันแต่ไมได้เซทมาแบบเดียวกันแน่นอน 
  FTN  ถ้าคุณจะซื้อ 2.4 หรือใครรอจะซื้อตัว 2.4 ผมเคยพูดหลายครั้งแล้วว่าซื้อไปได้เลย เพราะอ๊อพชั่นมันให้มาครบแล้ว  ไมเนอร์ไม่น่าจะใส่อะไรมาให้มากกว่านี้อีกแล้ว     ตัวนี้ถือว่าให้มาเยอะนะครับถือว่าน่าเล่น

แต่ที่ผมเขียนน่ะหมายถึง FTN 2.8 4X4   ถ้าตัวนั้นยังมีอะไรใส่มาให้อีกเพียบ  ถ้าจะซื้อน่ารอดีกว่าเพราะราคาแพงไปเทียบกับอ๊อพชั่นที่ให้มา

ออฟไลน์ Olympuspen

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 426
ภาพ
คู่นี้ผมมอง FTN แบบไม่คิด เหตุผลหลักคือ
1. มองย้อนไปเจนก่อนภาพจำในหัวคือ PJS ราคาประมาน 9 แสน กระบะดัดแปลงชัดๆ / FTN ต่ำๆต้องมีล้านสอง เออเหมือน SUV. (ภาพในหัวสมอง FTN ดูดีกว่าทุกประตู)
2. มองในเจนปัจจุบัน มอง PJS ทำไมนึกถึง sport rider แบบยาวๆโย่งๆ คืออารมกระบะใส่หลังคาท้าย ประมาณรถของไทยรุ่ง (แม้หน้าจะสวยหยด ท้ายริวจะไม่พูด) ลูกเล่นเยอะ แต่ภาพรวมคือธรรมดามากสำหรับจิตใจผม / FTN ออกแบบมา โหว เล็กซัสชัดๆ หรูสวยมาก (ถึงจะออฟชั่นโล้นๆ+แพง)

ปล. ผมเลือกซื้อรถที่ขับแล้วเสริมภาพลักษณ์ผมด้วย จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง

ไม่ขอพูดถึงข้อ1-2 ที่คุณกล่าวมา
แต่เห็นด้วยกับ  ปล.ที่คุณว่า "จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง"

คำพูดนี้ล่ะ ที่ทำให้ผมตัดสินใจลำบากระหว่าง options กับ image
ภาพลักษณ์ของคน 10 ปีที่แล้ว กับปัจจุบันไม่เหมือนเดิมแล้วน่ะครับ เมื่อก่อนผู้ใหญ่เลือกใช้รถด้วยเหตุผลจากข้อมูลและปัจจัยหลายอย่างจำกัด จำเป็นต้องเลือกเจ้าตลาดไว้ก่อน และก็ถ่ายทอดให้คนรุ่นลูกๆมาเหมือน DNA ว่ารถแบบไหนดีขับแล้วดูดี ขายต่อได้ราคา มันถูกซึมซับมาแบบนี้ 
  แต่วันนี้ ภาพลักษณ์ ผมมองว่า อะไรที่ทำให้คนมองเห็นภาพแล้วดูดียังไม่พอ ต้องให้เค้าได้สัมผัสด้วย คนทุกวันนี้ไม่เชื่อแล้วชื่นชอบอะไรง่ายๆแล้ว เพราะมีให้เลือกเยอะ ที่สำคัญหาข้อมูลง่ายมาก
   โดยส่วนตัวผม  เห็นว่ารถสวยไม่พอ ต้องได้มานั่งหรือสัมรสเราแล้วบอกว่า ว้าว.. มากกว่าสวยดี ... ก็โอเคน่ะ ...อะไรทำนองนี้  แล้วเราก็จะรู้สึกดีมากกว่า

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
มีข่าวว่าช่วง พย.-ธค. EV 3.2+ จะมีการส่งมอบดั่งน้ำหลากเพราะสั่งมูนรูฟเพิ่ม น่าจะมาช่วงนั้น (มูนรูฟมาจากเยอรมันนะครับ ไม่ใช่จากจีน)

ใครที่ได้คิวต้นปีหน้า อาจจะได้ตอนสิ้นปีก็ได้ครับ

ขอให้ได้ซัก 4-5 พันคันก็ยังดี  8) แต่ก็นะ มูนรูฟนี่อย่าให้ได้มีปัญหานะเพราะอะไหล่มาไกลมาก :-X

นั่นหนะสิครับ แต่ถ้ามาจากจีนก็จะนอยด์อีกแหละว่าจะไม่ทน 555+
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ tierak

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 903
ภาพ
คู่นี้ผมมอง FTN แบบไม่คิด เหตุผลหลักคือ
1. มองย้อนไปเจนก่อนภาพจำในหัวคือ PJS ราคาประมาน 9 แสน กระบะดัดแปลงชัดๆ / FTN ต่ำๆต้องมีล้านสอง เออเหมือน SUV. (ภาพในหัวสมอง FTN ดูดีกว่าทุกประตู)
2. มองในเจนปัจจุบัน มอง PJS ทำไมนึกถึง sport rider แบบยาวๆโย่งๆ คืออารมกระบะใส่หลังคาท้าย ประมาณรถของไทยรุ่ง (แม้หน้าจะสวยหยด ท้ายริวจะไม่พูด) ลูกเล่นเยอะ แต่ภาพรวมคือธรรมดามากสำหรับจิตใจผม / FTN ออกแบบมา โหว เล็กซัสชัดๆ หรูสวยมาก (ถึงจะออฟชั่นโล้นๆ+แพง)

ปล. ผมเลือกซื้อรถที่ขับแล้วเสริมภาพลักษณ์ผมด้วย จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง

ไม่ขอพูดถึงข้อ1-2 ที่คุณกล่าวมา
แต่เห็นด้วยกับ  ปล.ที่คุณว่า "จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง"

คำพูดนี้ล่ะ ที่ทำให้ผมตัดสินใจลำบากระหว่าง options กับ image
ภาพลักษณ์ของคน 10 ปีที่แล้ว กับปัจจุบันไม่เหมือนเดิมแล้วน่ะครับ เมื่อก่อนผู้ใหญ่เลือกใช้รถด้วยเหตุผลจากข้อมูลและปัจจัยหลายอย่างจำกัด จำเป็นต้องเลือกเจ้าตลาดไว้ก่อน และก็ถ่ายทอดให้คนรุ่นลูกๆมาเหมือน DNA ว่ารถแบบไหนดีขับแล้วดูดี ขายต่อได้ราคา มันถูกซึมซับมาแบบนี้ 
  แต่วันนี้ ภาพลักษณ์ ผมมองว่า อะไรที่ทำให้คนมองเห็นภาพแล้วดูดียังไม่พอ ต้องให้เค้าได้สัมผัสด้วย คนทุกวันนี้ไม่เชื่อแล้วชื่นชอบอะไรง่ายๆแล้ว เพราะมีให้เลือกเยอะ ที่สำคัญหาข้อมูลง่ายมาก
   โดยส่วนตัวผม  เห็นว่ารถสวยไม่พอ ต้องได้มานั่งหรือสัมรสเราแล้วบอกว่า ว้าว.. มากกว่าสวยดี ... ก็โอเคน่ะ ...อะไรทำนองนี้  แล้วเราก็จะรู้สึกดีมากกว่า

+1 อีกเสียงครับ รถกลุ่มเดียวกันแบร์นก็ระดับเดียวกัน ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะหรูกว่ากันถึงขนาดแตกต่างขนาดนั้น

ออฟไลน์ chompoojarb

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 21
เข้ามาเก็บข้อมูลด้วยครับ

ผมก็อยู่ในช่วงเลือกรถใหม่อยากได้รถขนาด SUV (ตั้งใจจะใช้ประมาณ 10 ปี เหมือนกัน)

โดยส่วนตัวชอบ everest > PJS > FTN

แต่ตอนนี้ผมกำลังจะตัดสินใจเอา FTN (ขัดใจตัวเอง :'( )

สาเหตุ รถคันปัจจุบันผมใช้ Ford Fiesta ชอบมากเรื่องสมรรถนะและหน้าตา(ความเห็นส่วนตัว ผมไม่มีความรู้เรื่องรถ) ก่อนซื้อคันนี้พ่อเตือนเรื่องศูนย์บริการ อะไหล่ ปัญหาจุกจิง ราคาขายต่อ ผมก็ไม่สนใจ อารมณ์อยากได้จัดมาโดยให้เหตุผลที่บ้านว่า "รถซื้อมาใช้ไม่ได้ซื้อมาขาย ไม่ได้เอามาซ่อม" พอใช้ๆไปเอารถเข้าศูนย์ เช็คระยะก็เจอกับบริการที่ "เฮ้อ....." แล้วปัญหาของรถก็เป็นซ้ำๆเปลี่ยนอะไหล่ได้ซักพักก็เป็นอีกเปลี่ยนอีก (อนึ่ง น่าจะเป็นความซวยส่วนตัวด้วย) พอจะเอารถไปเทรินเพื่อมาซื้อรถใหม่ก็ ช๊อค!! เป็นเหตุให้ผมขยาดกับยี่ห้อนี้(แต่ก็ชอบ Everest มากๆแต่ทำใจเรื่องศูนย์บริการไม่ได้จริงๆ) รถคันใหม่ก็เลยให้ที่บ้านมีส่วนในการเลือกด้วยจึงมาลงที่ FTN ส่วน PJS ที่บ้านก็ไม่ให้ความไว้ใจเรื่องศูนย์บริการ การรออะไหล่ ค่าบำรุงรักษา ถ้าใครบอกว่า FTN สมรรถนะสู้ยี่ห้ออื่นไม่ได้อันนี้ผมได้แต่ก้มหน้ายอมรับความจริงครับ เพราะรถคันนี้ผมไม่ได้เอา "สมรรถนะ option" มาเป็น priority ต้นๆ เอาแบบพอใช้ไม่แย่จนน่าเกียจ




ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
คู่นี้ Fortuner ครับ วัสดุภายในโอเคกว่า เครื่องยนต์คงแรงสู้ไม่ได้แต่ผมว่าสมรรถนะโดยรวมคงไม่แพ้ครับ ถ้า pjs ยังไม่เลิกนิสัยทดพวงมาลัย

เยอะขนาดนั้นยังไงก้ไม่น่าขับครับ