ผู้เขียน หัวข้อ: ดีเซลเทอร์โบบล๊อคจิ๋ว VS เบนซินธรรมดา : ชอบฟิลลิ่งแบบไหนมากกว่ากัน??  (อ่าน 7705 ครั้ง)

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
เหมือนจะเป็นกระทู้ที่ตั้งกันบ่อยๆ
แต่อันนี้ขอมีเงื่อนไขนะครับ ว่า...

ดีเซลเทอร์โบ "บล๊อคเล็ก"
VS
เบนซิน หายใจธรรมดา

.... เช่น

CX3 : 1.5 ดีเซล VS 2.0 เบนซินฉีดตรง
Fortuner : 2.4 ดีเซล VS 2.7 Dual vvti
CX5 : 2.2 VS 2.5

สังเกตุว่า เบนซินความจุเครื่องยนต์มากกว่า มีระบบช่วยเหลือเป็นน้ำจิ้ม แต่ไม่มีเทอร์โบ
ในขณะที่ดีเซลความจุน้อยกว่าแต่มีเทอร์โบ
ทุกท่าน ชอบฟิลลิ่งแบบไหนมากกว่ากันครับ??

มีประเด็นสงสัยในแง่การทำตลาด CX3 นิดหน่อย
คือ อาจจะไม่ได้ชัวร์ 100% ต้องรอ Official อีกที แต่ก็ลองตั้งสมมุติฐานขึ้นมาว่า
ถ้าเอาเบนซิน 2.0 มาขายคู่กับดีเซล 1.5 พิกัดไหนควรจะราคาสูงกว่ากัน สมรรถนะดีกว่ากัน
เพราะส่วนตัวมองว่าเครื่อง 1.5 ดีเซลในมาสด้า2 มันยังเหนียมๆกำลังไว้อยู่
เหมือนว่าไอ้เจ้าเครื่องบล๊อคนี้มันน่าจะแรงได้มากกว่านี้ แต่ต้องทอนกำลังลง เพื่อความประหยัด
เลยสงสัยเล็กๆกับการทำตลาดว่า ตัวไหนควรแพงกว่ากัน

อีกประเด็นคือ FTN
ส่วนตัวจองรุ่น 2.4 ดีเซลไปแล้ว แต่ก็แอบสงสัยในสมรรถนะของ 2.7 ที่ปรับปรุงใหม่เหมือนกัน
เคยจำได้ว่า สมัยอัลติส เครื่อง vvti เปลี่ยนเป็น dual เปลี่ยนรหัสเครื่องไป แรงขึ้นผิดหูผิดตา
ในขณะที่แคมรี่ จาก 1az vvti เก่าๆ มาเป็น vvti w แล้วแรงขึ้นมาพอสมควร
เลยสงสัยในสมรรถนะของ 2.7 ที่ปรับปรุงใหม่เหมือนกันว่าจะดีขึ้นแค่ไหน

ปกติขับแต่รถเบนซิน ระหว่างดึงเบาๆแต่ดึงนานๆ กับ ดึงสั้นๆแต่ดึงแรง
ทุกท่านชอบฟิลลิ่งแบบไหนครับ??

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ ไทบ้าน

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,668
1990 Yamaha Mate-100
1992 Yamaha Bell-100
2000 Yamaha Tiara-R
2017 Yamaha MT-03

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์


มันดูแรงม้าและแรงบิดครับ ร่วมกันครับ

หลังๆรถเบนซินฉีดตรง แรงขึ้นผิดหูผิดตาครับ
แต่ผมก็ ชอบ ดัีเซล มากกกว่า เพราะมันมี turbo นี่ละ ถ้ารถมันไม่กั๊กความแรงไว้นะ







ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,641
    • อีเมล์
ส่วนตัวผมเป็นคนไม่กล้าขับเกิน 160km/h

ผมจึงชอบดีเซลเทอร์โบที่ตอบสนองในช่วงกระทันหัน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้เร็วทันใจกว่าครับ

เคยขับโฟกัสดีเซลของเพื่อน เกียร์ธรรมดาด้วย รู้สึกดีมากในด้านการขับขี่ และการตอบสนองของเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนที่พอดีกับลักษณะ และทักษาการขับของเรามากๆครับ

ออฟไลน์ Hadoken Shoryuken

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,281
เท่าทีขับมาดีเซลเทอโบหรือเครื่องCommonrail(เรียกถูกป่าวเนี่ย) จะได้แรงกระชากตอนต้นพอปลายแล้วจะเหี่ยวหลัง 120-140+ มันก็พอสำหรับใช้งานทั่วไปเพราะไม่ได้จะเยียบอะไรขนาดนั้น(ยกเว้นผมน่ะ อิอิ) ส่วนเบนซิน NA ต้องใช้รอบสูงๆแรงถึงจะมาประมาณ4พันรอบแต่จะได้ความเร็วปลาย ขับสนุกกว่าเมื่อเทียบกับดีเซลแล้ว
สรุปคือ
1.ขับใช้งานปกติทางไกลไม่เกิน 120 และ save cost เลือกดีเซล
2.ขับสนุกปลายอยากไหลยาวๆเลือกเบนซิน


ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
ถ้าขับในเมือง ใช้ความเร็วระหว่าง 60 - 100 กม/ชมบ่อยๆ ผมไปดีเซลครับ

มีแรงบิดมหาศาลมากองที่เท้า เหยียบนิดเดียวรถก็พุ่ง แถมได้เรื่องประหยัดน้ำมันอีกต่างหาก

แต่ถ้าขับความเร็วสูงเกิน 150 กม/ชม บ่อยๆ คงต้องเลือกเบนซินครับ

ออฟไลน์ PAN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
ชอบเบนซิน NA มากกว่า แต่ขอccเยอะหน่อย3,000cc up ถ้าน้อยกว่านั้นขอเบนซินturbo

ออฟไลน์ yourturle

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,080
    • อีเมล์
Benzine เพราะ ได้ 2.0L ok ใช้งานคล่องตัว มีกำลังดี
One Day.

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
ส่วนตัวผมชอบเบนซินมากกว่าดีเซลครับ มันนุ่ม เงียบ ลื่นกว่า

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
ผมดูเป็นเคสๆไป ถ้า cx3 ผมไปเบนซิน fortuner ผมไปดีเซล cx5 ผมไปดีเซล


แต่ถ้าให้เลือกจริงๆ เบนซินเทอร์โบ จบ

ออฟไลน์ mile

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 263
    • อีเมล์
ต้องดูที่การขับขี่ครับ  ถ้าเป็นคนที่ชอบขับรถลากรอบไปขับเบนซินจะเหมาะกว่า  เพราะเบนซินส่วนใหญ่ม้าและแรงบิดจะมาเมื่อเกิน 4000รอบไปแล้ว  ส่วนถ้าชอบขับแบบสบายอัตราเร่งดี  แตะคันเร่งเป็นมาไม่ลากรอบ ดีเซลเทอร์โบครับ ม้าและแรงบิดแค่ 1800รอบก็มาให้ขย่มแล้ว  แต่ถ้าเป็นเบนซิลเทอร์โบและดีเซลเทอร์โบ  เบนซิลเทอร์โบดึงแรงตั้งแต่ต้นยันจบครับ 

ออฟไลน์ rotaryman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,586
ผมยังว่า CX3 เครื่องเบนซินน่าจะแรงกว่าและถ้าอยากชนกับ HRV ตรงๆก็ต้อง 2.0 ให้เป็นตัวท๊อป ส่วนดีเซล 1.5 เดิมของน้อง 2 ถ้าไม่ไปเพาะกล้ามเพิ่มคงกิน HRV ยากครับ

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
cx-3 แพงกว่าเบนซินในทุกรุ่นย่อย ถ้ามันไม่มีอะไรดีจะแพงกว่าทำไม

http://www.themotorreport.com.au/61366/2015-mazda-cx-3-akari-review-awd-petrol-or-diesel-which-is-for-you
ลอง search อ่านรีวิวของเมืองนอกที่เค้ามีทั้ง 2.0 เบนซิน กับ 1.5D turbo เทียบกัน ส่วนใหญ่บอกว่าดีเซลดีกว่า (ความแรงพอกัน แต่ดีเซลประหยัดกว่ามาก รอบเครื่องก็ต่ำกว่า ความเร็ว 110 กม./ชม. รอบอยู่ที่ 1800 รอบ) 

ความเชื่อเดิมที่คิดว่าเบนซิน 2.0 ย่อมแรงกว่าดีเซล 1.5 แต่ที่เอามาคงเพื่อประหยัดน้ำมัน อันนี้ต้องลบไปก่อนครับ เพราะรีวิวเมืองนอกบอกแรงเหมือนกันทั้งตีนต้นตีนปลาย (บางรีวิวบอกขับยาวๆดีเซลดีกว่านิดหน่อยด้วยซ้ำ) เค้าบอกว่าเครื่องดีเซลตัวนี้ดีพอๆกับรถยุโรปคันละหลายล้าน (จะเอามาเทียบกับกระบะดีเซลเสียงดัง สั่นแรงไม่ได้)

ถ้าดูแรงม้าอาจเห็นว่าน้อยกว่า แต่ดูแรงบิดสิครับ เทียบเท่ากับเครื่องเบนซิน 2.5 (cx-3 เบนซินมี sport mode ด้วย อาจเพื่อให้เกิดความสนุกไม่ให้แพ้ตัวดีเซล)

สรุป - ความสนุก ความแรง พอๆกัน(ทั้งทางเรียบและขึ้นเขา) บางรีวิวก็ไม่ชอบเรื่อง turbo lag, ดีเซลจะช่วยประหยัดน้ำมันกว่า และรอบต่ำเครื่องไม่ต้องทำงานหนัก ไม่ต้องเค้นแรงมาก ส่วนเรื่องความคุ้มค่าก็ต้องมาเทียบกับราคาค่าตัวว่าต่างกันแค่ไหน เงินส่วนต่างคุ้มกับค่าน้ำมันที่ลดลงมั้ย

ปล. ส่วนเบนซิน 1.5 เทอร์โบ ของ civic ใหม่ก็น่าสนใจ เห็นแรงม้าแรงบิด อัตราเร่ง สุดยอดมาก
ปล.2 มีรีวิวนึงของอังกฤษบอกว่าเครื่อง 2.0 มีกำลังฉุดลากมากกว่า ไม่ใช่เพราะดีเซลไม่มีแรง แต่เพราะระบบระบายความร้อนดีเซลสู้เบนซินไม่ได้ เลยจำกัดนน.การลากไว้น้อยกว่า
ปล.3 ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับแต่ละประเทศว่าชอบรถสไตล์ไหน การเซ็ตเครื่องยนต์ก็แตกต่างกันไป บางประเทศก็นิยมเบนซิน บางประเทศก็ชอบดีเซล แต่ทุกประเทศค่าตัว cx-3 ดีเซลแพงกว่าเบนซินหมด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 19, 2015, 17:06:50 โดย Jacob »

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
ส่วนตัวผมนะ ยังไงก็ชอบฟิลของเบนซิลมากกว่าพอสมควร
แต่ถ้าในชีวิตจริง แบบไหนก็ได้ครับไม่ซีเรียส
ถ้าใน3รุ่นที่กล่าวมา ผมเลือกเบนซินทั้งหมดยกเว้นฟอร์จูน

ออฟไลน์ nl2br

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,019
    • ร้านค้าออนไลน์
ผมชอบดีเซลเทอโบ เนื่องจากเปนคนขับรถไม่เร็ว 130 - 140 ก้อผ่อนแล้ว
ดีเซล รอบมาไว แรงต้นดี ไม่ต้องรอรอบสูงๆแบบพวก n/a
บล็อกข่าวไอทีกากๆ >> https://thaimobiletricks.blogspot.com/ << ข่าวมือถือ มือถือรุ่นใหม่

ออฟไลน์ BMW_Soc_OkuBo

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 34
ถ้าไม่ซีเรียส กับราคาน้ำมัน ปัจจุบันหรือแนวโน้ม4-5ปี หน้า

ไปเบนซินเครื่องใหญ่เถอะ หอม หวาน กว่าแน่ๆ แต่ถ้าเลือกได้ เบนซินผูกโบ ครับ

จากคนใช้ ดีเซลผูกโบ...

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,405
ชอบเบนซินมากกว่าครับ ขับมันทุกช่วง ดีเซลแรงดึงมีแต่ต้นๆแต่ถ้าขับเวลาเลนสวนมีประโยชน์คับ จริงๆผมนับเปนรุ่นๆไป อย่าง3คู่ที่ว่ามา Cx3 ผมเอาเบนซินแน่นอนคับ Fortuner เอาดีเซล 2.4 ดีกว่าไม่กินเท่าแน่ๆ ส่วน Cx5 แน่นอนคับต้องเปน 2.5 2WD

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
ชอบแรงบิดสูงรอบต่ำ

ออฟไลน์ NONT4477

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9,851
  • Let the SKYFALL
ถ้าเทียบตรงๆ CX5 2.5 Benzin vs 2.2 Diesel
ผมชอบเบนซินครับ ลากรอบได้สูง แรงดึงไม่รีบมาแต่มาต่อเนื่องและยาว ยิ่งเหยียบยิ่งมา
เสียงเครื่องไพเราะกว่า
ขับดีเซลแล้วมันอั้นๆ แรงดึงมาไวกว่าจริงแต่มาได้แป็บแปบเดียว เปลี่ยนเกียร์รอบตัด เริ่มดึงใหม่
เสียงเครื่องก็ดังแถมไม่เพราะสู้เบนซิน
สำหรับคู่นี้ไม่แปลกใจทำไม CX5 2.5 ได้ Bestdrive ปีที่แล้ว
แต่ถ้า FTN ผมเลือกดีเซลครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 19, 2015, 20:24:06 โดย NONT4477 »
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^

ออฟไลน์ Koong

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 992
ผมรู้สึกแบบนี้ครับ
เรื่องอัตราสิ้นเปลือง  ตอนนี้ต้องยอมรับว่า ดีเซลเหนือกว่าในทุกกรณี
แต่ถ้าเรื่องสมรรถนะ อัตราเร่ง ผมมองว่า

ถ้าอยู่ในรถเล็ก น.น ตัวน้อยๆ  เครื่องเบนซิลดูจะได้เปรียบกว่าดีเซลนะครับ
ต้นกับปลายเหนือกว่า  กลางก็สูสี

ถ้าเป็นรถขนาดกลางๆ  ก็จะสูสีกันทั้ง ต้นทั้งกลาง  แต่ดีเซลปลายก็ยังเหร่ยวกว่านะ

แต่ถ้าเป็นรถขนาดใหญ่ๆ น.น ตัวมากขึ้นเท่าไหร่ เครื่องดีเซลก็จะได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น  ทั้งต้น ทั้งกลาง และปลาย

ออฟไลน์ Impulse

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
ส่วนตัวชอบเบนซีนครับ ไม่ชอบแรงสั่นของดีเซล แล้วก็ชอบการลากรอบของเบนซีนมากกว่า

ออฟไลน์ เกมส์'พิดโลก

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 365
  • อยากทำอะไรรีบทำ เมื่ออิสระยังอยู่กับเรา ก่อนที่จะไม่เหลือเวลา...
    • Facebook
    • อีเมล์
จากประสบการณ์ส่วนตัวผม ที่ขับรถมาหลายรุ่นมากในช่วงชีวิตอายุ 17-25
ตั้งแต่กระบะตัวล่างสุด ไปจนถึงยุโรปกลาง (MB E300)
- ผมเป็นคนเท้าหนัก สแตนดาร์ด 140 ถ้ารีบก็ 160+ ตลอดทาง (สายเอเชีย)
- เป็นคนโรคจิต(มาก) หางตาจะดูกระจกหลังเรียลทาม  โดนใครจี้ตูดไม่ได้ ถ้ารู้ว่าสู้ไหว กดถึง 230 (เอาให้หายไปเลย)

ผมว่าขับเบนซิน NA นี่เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกก ต้องลากรอบสูงทุกครั้งเวลาแว๊นส์ๆ
ปกติผมขับ Accord 2.4 ชิลๆที่ 140 พอเห็นกระบะเริ่มจี้เข้ามาๆ ก็กดลึกไปอีกนิด ความเร็วก็ค่อยๆไต่ไป แต่ดูแล้วไม่ไหวหนีไม่ออก ก็ต้องจิ้มมิดคันเร่งทุกที พอไปติดคันหน้าก็ต้องเบรค แล้วก็ต้องจิ้มมิดคันเร่งทุกทีเพื่อไม่ให้คันหลังรำคาญ ถ้าจะค่อยๆกด นี่ต้องไม่มองกระจกหลังเลย ไม่งั้นเกรงใจคันหลังที่ขับมาไวแล้วต้องมาติดตูดเรา เวลาขับแบบนี้แล้วเหนื่อยมาก รู้สึกสงสารรถก็สงสาร มันส์ก็มันส์ 555+

แต่เวลาขับ ดีเซล+หอย ทีไร ขับสบายมากกกกกกก แทบไม่ต้องเค้นคันเร่ง รู้สึกสบายกว่า เบนซิน NA มากๆ
ขนาดผมขับ ไทรตัน 2.4 ผมว่าคันเร่งยังเหยียบสบายกว่า Accord 2.4 มาก ขับ พิษณุโลก- กทม แทบไม่ต้องขยี้คันเร่งเลย ไม่เคยเหนื่อยกับคันเร่งเลย
หรือถ้ายิ่งควบ 320d นี่ไม่ต้องพูดเลย คันเร่งสวรรค์มากๆ สวรรค์จนไม่อยากกลับไปขับ เบนซิน NA อย่าง Accord2.4 หรือ Camry 2.5 เลย

ถ้ารถที่ผมจะซื้อมีตัวเลือก ดีเซล ขอเลือกก่อนเลยครับ
ผมชอบสเน่ห์ของดีเซลที่อยู่ในร่างเก๋งมากๆ ผมว่าเสียงเครื่องดีเซลในรถเก๋งมันแปลกดีครับ ไปสตาร์ทแถวบ้านนอกที คนมองกันพรึบ นึกว่ารถไถนา 555+
C-Class C300 AMG W205 - Now
Pajero GT 2WD 2016 - Now
Camry HB Top ACV50 2012 - Now
Triton 2.5 - Now
Wish MC - Now
City V 09 - Now
Z4 s20i Pure balance - Sold
F30 320d - Sold
Accord G9 2.4 -Sold
Jazz SV 08 - Sold
CRV G4 2.0 4WD, FD 08 , Camry 2.5 , Vigo 3.0 , Tiger D4D 2.5

ออฟไลน์ Anvers30

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,372
    • อีเมล์
หลังจากไปเทส 520d กับ 528i ผมได้คำตอบเลยว่า ดีเซลพ่วงหอยไม่ใช่คำตอบสำหรับผม จริงอยู่แรงบิดมาไว ขับในเมืองจี๊ดจ๊าด แต่พอขึ้นไฮเวย์ปลายเหี่ยวลีบในบัดดลเช่นกัน อย่างว่าจะมาเทียบกับ 528i ก็กระไรอยู่ เพราะมันพ่วงโบ

เอาเป็นว่าผมชอบฟีลเบนซินหายใจเองมากกว่า แต่ต้องบล็อคใหญ่หน่อย พวก 6 สูบ v6 v8 ได้หมด แรงบิดมาเร็วกลางๆ แต่มานาน มาทน ตีนปลายมาพร้อมม้าที่แน่นคอกนั่นแหละ ที่สำคัญเสียงของม้าหวานซะด้วยสิ แผดรอบมันเข้าไป 8)

ออฟไลน์ earrt

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 740
เบนซินครับ NA แล้วยิ่งถ้า MT ด้วยนะ ใครแรงกว่า แซงไปเลยครับ ผมสนุกของผมเองได้




ออฟไลน์ NoName__???

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,141
เห็นด้วย ดีเซลเทอโบ กดสบายกว่าเยอะ เบรคแล้วเร่งต่อไม่ต้องมาเหยียบมิดรอรอบแบบ เบนซิน

จากประสบการณ์ส่วนตัวผม ที่ขับรถมาหลายรุ่นมากในช่วงชีวิตอายุ 17-25
ตั้งแต่กระบะตัวล่างสุด ไปจนถึงยุโรปกลาง (MB E300)
- ผมเป็นคนเท้าหนัก สแตนดาร์ด 140 ถ้ารีบก็ 160+ ตลอดทาง (สายเอเชีย)
- เป็นคนโรคจิต(มาก) หางตาจะดูกระจกหลังเรียลทาม  โดนใครจี้ตูดไม่ได้ ถ้ารู้ว่าสู้ไหว กดถึง 230 (เอาให้หายไปเลย)

ผมว่าขับเบนซิน NA นี่เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกก ต้องลากรอบสูงทุกครั้งเวลาแว๊นส์ๆ
ปกติผมขับ Accord 2.4 ชิลๆที่ 140 พอเห็นกระบะเริ่มจี้เข้ามาๆ ก็กดลึกไปอีกนิด ความเร็วก็ค่อยๆไต่ไป แต่ดูแล้วไม่ไหวหนีไม่ออก ก็ต้องจิ้มมิดคันเร่งทุกที พอไปติดคันหน้าก็ต้องเบรค แล้วก็ต้องจิ้มมิดคันเร่งทุกทีเพื่อไม่ให้คันหลังรำคาญ ถ้าจะค่อยๆกด นี่ต้องไม่มองกระจกหลังเลย ไม่งั้นเกรงใจคันหลังที่ขับมาไวแล้วต้องมาติดตูดเรา เวลาขับแบบนี้แล้วเหนื่อยมาก รู้สึกสงสารรถก็สงสาร มันส์ก็มันส์ 555+

แต่เวลาขับ ดีเซล+หอย ทีไร ขับสบายมากกกกกกก แทบไม่ต้องเค้นคันเร่ง รู้สึกสบายกว่า เบนซิน NA มากๆ
ขนาดผมขับ ไทรตัน 2.4 ผมว่าคันเร่งยังเหยียบสบายกว่า Accord 2.4 มาก ขับ พิษณุโลก- กทม แทบไม่ต้องขยี้คันเร่งเลย ไม่เคยเหนื่อยกับคันเร่งเลย
หรือถ้ายิ่งควบ 320d นี่ไม่ต้องพูดเลย คันเร่งสวรรค์มากๆ สวรรค์จนไม่อยากกลับไปขับ เบนซิน NA อย่าง Accord2.4 หรือ Camry 2.5 เลย

ถ้ารถที่ผมจะซื้อมีตัวเลือก ดีเซล ขอเลือกก่อนเลยครับ
ผมชอบสเน่ห์ของดีเซลที่อยู่ในร่างเก๋งมากๆ ผมว่าเสียงเครื่องดีเซลในรถเก๋งมันแปลกดีครับ ไปสตาร์ทแถวบ้านนอกที คนมองกันพรึบ นึกว่ารถไถนา 555+

ออฟไลน์ testmaster

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 450
    • อีเมล์
เบนซินเทอร์โบครับ ลากดึงๆ ยาวๆ