ตอนเด็ก คุณเกิดมาได้นั่งรถอะไร/เติบโตมาในรถอะไรกันบ้างครับ

NoomTG

ผมเกิดมากับ 2 คันครับ BENZ C220 Elegance W202 กับ 318i e36 MT จำได้ตอนนั่ง 318 ครั้งแรกนี่ ผมยังเด็กมาก เห็นอะไรก็เล่นกดเล่นไปเรื่อย แล้วไปกดปิดแอร์ ป๊าดันเปิดไม่เป็นอีก นั่งขำกันใหญ่เลย 3 พ่อแม่ลูก มันเป็นความทรงสมัยเด็กเลยครับ



Pattarachai

ตอนเกิดมารถคันแรกของครอบครัวคือ Big M หน้าหัก ไมล์โค้ง เพาเวอร์จากโรงงาน เบาะกำมะหยี่ รถสีน้ำเงิน ตอนนั้นรักมากกกกก ตอนนั้นจำได้ว่าอยู่หมู่บ้านชายน้ำในบางพลัด แล้วด้วยพ่อผมเป็นผู้รับเหมา เลยเอารถมาจอดในบ้าน อาจฟังดูเว่อร์แต่ตอนนั้นผมแค่ 3-4 ขวบแม่เล่าให้ฟังว่าเวลาจะนอน ผมก็จะเอาหมอนมาแล้วมานอนอยู่ข้าง ๆ รถ แล้วพอผมหลับพ่อถึงจะอุ้มไปนอนในห้อง แล้วพอหลังจากนั้นเศรษฐกิจไม่ดีก็ปล่อยไปให้ลุงเอาไปขายต่อ ตอนนั้นจำได้เลยว่า พอไม่เห็ฯรถคันนั้นร้องไห้อยู่ตั้งหลายวัน และช่วงนั้นพ่อต้องหารถแทน จึงเปลี่ยนทั้ง Mitsubishi Cyclone, Datsun 620, Toyota Mighty X โดยเฉพาะคันหลังสร้างวีรกรรมให้ผมเกลียดโตโยต้ามากที่สุด คือตอนนั้นพ่อผมขับคลานอยู่ในหมู่บ้านชลลดาในบางบัวทองเพื่อจะไปที่ไซต์งาน แล้วด้วยความที่ลูกระนาดมันทั้งใหญ่ และไม่รู้จะเยอะไปไหน ทำให้ขับพ้นลูกระนาดมาไม่ถึง 200 เมตร ลูกหมากล้อหน้าซ้ายแตก!!! ผลปรากฎว่าผมกับน้องชายหัวทิ่มจิ้มกับคอนโซลหน้าหัวปูดกันทั้งคู่ ส่วนพ่อก็อารมณ์เสียที่รถออกมาไม่นานก็เป็นแบบนี้จึงให้ลุงไปผ่อนต่อ ตั้งแต่นั้นมาไม่คบกับ Toyota อีกเลย ส่วนปัจจุบันมีแต่มอเตอร์ไซค์แล้วครับ เพราะตั้งแต่พ่อผมเสียไม่มีใครขับรถใหญ่กันอีกเลยนอกจากผม



suquees SEDAN'

ช่วงอายุไม่เกิน 10 ขวบ
ที่บ้านมีรถ(ที่มีเครื่องยนต์)คันแรกคือ Honda C50 ต่อมาเปลี่ยนเป็น Honda C70 (มือสองทั้งสองคัน)
คุณแม่เป็นคนขี่ไปส่งที่โรงเรียนและรับกลับบ้าน นอกจากวันไหนฝนตกหนักมาก ๆ จนขี่จักรยานยนต์ฝ่าสายฝนไม่ไหว
คุณพ่อจะยืมรถของเถ้าแก่ไปรับ(หรือส่ง)แทนคุณแม่ เป็น Mazda Bongo หรือไม่ก็ Land Rover Defender ครับ

(ภาพประกอบจาก Internet)



CH.TH

-Audi A6 C4 พ่อซื้อมาให้แม่หัดขับ เป็นคันที่นั่งประจำเลยครับ ได้นั่งตั้งแต่เกิด เสียดายที่เครื่องพังไปตอนประมานสองแสนโล

-Benz C180 W202 ของพ่อ คันนี้ได้นั่งน้อยมาก รถวิ่งตลอด ขายไปแล้ว

-Volvo S40 ตัวแรก รถสำรองพ่อ คันนี้ก็ไม่ค่อยได้นั่ง ส่วนมากจะจอดอยู่บ้าน ขายไปแล้ว

-Toyota Altis หน้าหมู คันนี้มาแทน A6 เป็นรถประจำเหมือนเดิม ขายไปตอนสามแสนโล

-Toyota Altis หน้าแบน เป็นรถครูเลยครับคันนี้ หัดขับตอน ม.ต้น พอขับคล่องก็ร่อนไปทั่วจนแม่ไม่ให้แตะรถเลย

จนถึงตอนนี้ก็ยังชอบค่ายห่วงอยู่ กำลังสะสมทรัพย์ไปสู่ขอ S6 C4 มาเป็นของตัวเอง
Corolla E80 85'
Corolla E140 13'
S4 C4 93'



หนึ่ง บ้ารถ

Ford Escort Mk1 ปี 1972 4ประตู เครื่อง 1300

ตั้งแต่จำความได้ผมก็เห็นรถคันนี้แล้ว เป็นรถของคุณตาซึ่งเป็นทหาร ซึ่งชอบดูแลซ่อมแซมรถด้วยตัวเองและก็จะคอยเรียกผม (5-6ขวบ) ไปช่วยหยิบช่วยจับเสมอ ผมเลยฝังใจกับการดูแลรถด้วยตัวเองจากคันนี้ โดยรถคันนี้เป็นรถคันแรกและคันเดียวของที่บ้าน

ตอนนั้นรถเดิมสนิทสุดๆ ล้อเหล็กพร้อมฝาครอบ ขนาดเล็กมา 155 SR12 ไม่มีกระจกมองข้าง ไม่มีวิทยุ ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม แต่ก็ใช้ในกรุงเทพได้ไม่มีปัญหาเพราะรถยังไม่ติดมากเหมือนทุกวันนี้  ตอนหลังน้าสาวเริ่มทำงานเอาคันนี้ไปใช้ เลยต้องติดแอร์ แต่เครื่องเดิมติดแอร์ไม่ไหวเลยต้องเปลี่ยนเครื่องเป็น A14 ของ Nissan ซึ่งลงตัวมาก และใช้งานไม่มีปัญหาเลย ความเร็วสูงสุดประมาณ 120 ติดกระจกมองข้างเพิ่ม ติดฟิล์ม ติดเครื่องเสียง

ตอนหลังน้าก็เก็บเงินซื้อรถใหม่ และคุณตาก็เอามาใช้ต่อจนทุกวันนี้ และถอดทุกอย่างที่น้าติดไว้ออกหมดเลยกลับไปเป็นเดิมๆ อีกครั้ง ยกเว้นแอร์ที่ยังอยู่


Nissan Bluebird 910  ปี 1981 1600cc 4speed

เป็นรถมือ 2 เจ้าของเดิมใช้มา 4 ปี คุณยายผมซื้อต่อมาในราคา 300,000 อาทิตย์แรกเอาไปต่างจังหวัด ยางระเบิดรถคว่ำ ซ่อมไป 2 เดือน

คันนี้เป็นรถที่ผมตื่นเต้นในสมัยนั้นเพราะรถดูกว้างขวางกว่า ford escort มาก เบาะปรับเอนได้ มีแอร์ วิทยุ-เทป ช่วงล่างหลังคอยล์สปริง มีกระจกมองข้าง เครื่องก็แรง น้าเคยเอาไปขับได้ 130-140 

เท่าที่ใช้มารถไม่มีปัญหาเลย มีแค่ครั้งเดียวที่ตอนเช้าสตาร์ทไม่ติดเพราะคาร์บูตัน เรียกช่างแถวบ้านมาล้างทำความสะอาดให้ก็ใช้ได้เหมือนเดิม เลยเป็นครั้งแรกที่ไปโรงเรียนสายถึง 9 โมง
ในที่สุดคุณยายก็ขายคันนี้ไปหลังจากใช้ได้ 5ปี ในราคา 110,000 บาท


Nissan Big M Single Cab Super DX เครื่อง TD25 ปี 1989

หลังจากคุณยายขาย Nissan Bluebird ไปแล้วจึงได้ซื้อคันนี้มาใช้แทน เป็นรถมือ 2 เหมือนกัน อายุแค่ 2 ปี สภาพดีมาก เป็นรถตอนเดียวใส่หลังคาแครี่บอย มีแอร์ตอนหลัง กระจกหลังเป็นบานเลื่อนเปิดทะลุระหว่างหัวเก๋งกับกระบะหลังได้

คันนี้เป็นรถที่ทำให้ที่บ้านได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างจังหวัดไกลๆ พร้อมหน้าพร้อมตากัน เพราะนั่งได้หลายคน และรถขนาดใหญ่มั่นคงเวลาวิ่งทางไกล กำลังเครื่องแรง และด้วยความอึดของรถดีเซลเลยไม่กลัวว่าจะไปเสียกลางทางง่ายๆ

และรถคันนี้เองที่เปลี่ยนวิธีการเดินทางในการไปเยี่ยมญาติที่ จ.พิษณุโลก จากปกติ ทุกปีที่บ้านผมจะต้องนั่งรถไฟไป ก็กลายเป็นขับรถคันนี้ไปแทน 
และมันก็เป็นรถที่ใช้ดีมากเช่นกัน ไม่เคยมีปัญหาจุกจิกเลย และก็คันนี้อีกนั่นแหละเป็นรถคันแรกที่ผมหัดล้างรถด้วยตัวเองทั้งคัน


Nissa Big M BDI King Cab Super DX ปี 1990 รถป้ายแดงคันแรกของบ้าน
หลังจากน้าสาวคืน Ford Escort ให้คุณตาไปแล้ว ก็ถอยป้ายแดงคันนี้มา โดยตอนนั้นเป็นรุ่นแคบเล็ก ซึ่งผมก็ได้เข้าไปนั่งข้างหลังประจำ แต่ดีที่ยังเด็กเลยไม่รู้สึกว่าแคบ กลับดีซะอีก ได้ดู สังเกตการขับรถของน้าอย่างใกล้ชิด จนอาการอยากขับรถเป็นเริ่มเข้ามา

คันนี้เป็นรถที่ทำให้ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างจังหวัดไกลๆ เป็นประจำเพราะรถใหม่  เครื่อง BD25 Direct injection แรงและประหยัดน้ำมันกว่า TD25 มาก แต่ข้อเสียคือควันเหม็นมากกกก สตาร์ทรถตอนเช้า คนในบ้านจะสำลักควันตายเอา

และก็เหมือนกับคันก่อนๆ มันเป็นรถที่ใช้ดีมาก ไม่มีปัญหาจุกจิกให้ต้องนอนอู่เลย


Nissa Urvan E24 เครื่อง TD25 ปี 1991 ป้ายแดงคันที่สองของบ้าน

เป็นรถของน้าชาย ซื้อมาใช้ส่วนตัว วันหยุดเสาร์-อาทิตย์วิ่งรับงานทัวร์ต่างจังหวัด คันนี้ตกแต่งภายในเต็มในสมัยนั้น เบาะปรับเอนนอน 9ตัว มีแอร์ทุกตำแหน่ง มีจอแก้วTV 12 นิ้ว มีVDO มีเคาน์เตอร์วางเครื่องดื่ม

ตอนนั้นน้าเทียบกับ Toyota Hiace หัวจรวด แต่ในวงการรถตู้ยอมรับว่า Urvan ในตอนนั้นช่วงล่างนุ่มหนึบ เกาะถนนกว่า Hiace ซึ่งจะสังเกตได้ว่าตอนนั้น รถตู้ Nissan Urvan ยังมีสัดส่วนวิ่งบนท้องถนนไม่ได้น้อยกว่าToyota มากเหมือนสมัยนี้

แน่นอน มันเป็นรถที่ใช้ได้ดีและไม่จุกจิกเหมือนทุกคันที่ผ่านมา พาทั้งบ้านไปเที่ยวไหนๆ ไกลกว่าที่เคย นอนก็นอนในรถ และก็คันนี้ทีทำให้ผมฝึกปรือฝีมือในการล้างรถทั้งภายนอกและภายในให้เก่งและเนี้ยบขึ้น เพราะพอจบทัวร์ทีไรผมก็ต้องเป็นคนล้างทั้งข้างนอกและข้างในทุกที (ตอนนั้น 11ขวบ)

แต่คันนี้จุดจบไม่สวย เมื่อมีมอเตอร์ไซค์ซ้อนคนท้องตัดหน้าในระยะกระชั่นชิดเลยต้องหักหลบและพลิกคว่ำ ซ่อมมาก็ไม่ดีเหมือนเดิมเลยต้องขายไป


Nissan Big M BDI King Cab Super GL ปี 1993 ดั้งหักแคปใหญ่รุ่นแรก ป้ายแดงคันที่3 ของบ้าน

น้าสาวเปลี่ยนแทนแคปเล็กคันเดิมที่เอาไปใช้ขนหินอ่อนที่เชียงใหม่  รุ่นนี้เป็นล้อแมกซ์จากโรงงาน มีกันชนหลังเป็นบันไดในตัว ภายในเป็นเบาะกำมะหยี่ แผงข้างกำมะหยี่ ดูหรูหราสวยงามกว่าทุกยี่ห้อในท้องตลาดขณะนั้น และที่สำคัญ มันเป็นรถพวงมาลัยเพาเวอร์คันแรกของที่บ้าน!!!

ที่บ้าคุ้นชินกับพวงมาลัยหนักๆ มาตลอด ให้ความรู้สึกมั่นคงเวลาขับเพราะมันหนัก แต่พอเจอพวงมาลัยเพาเวอร์ทุกคนต่างไม่ชินและไม่ชอบ ถึงขั้นอยากจะถอดมันออกเลยทีเดียว

และจุดจบของคันนี้ก็มาถึง เมื่อเอาไปใช้งานบรรทุกหินอ่อนประมาณ 1 ตัน เอาไปขับบนภูเขาที่เชียงใหม่ ตอนเข้าโค้งน้าบอกว่าแทบไม่รู้สึกถึงการตอบสนองของพวงมาลัยเลยเพราะมันเบามาก เลยทำให้บังคับรถไม่อยู่พลิกคว่ำลงข้างทางไป  ก็ซ่อมแล้วเอามาใช้ต่ออยู่อีกหลายปี เพราะรถไม่เคยปัญหาจุกจิกอะไรเลย


Volvo 850 GLE  2.3 Minor change  เกียร์ธรรมดา ปี 1996 ป้ายแดงคันที่ 4 ของที่บ้าน

วันรับรถ ผมไปรับรถที่ศูนย์หัวหมาก โดยให้เซลส์ขับไปส่งให้น้าที่พิษณุโลกโดยมีผมนั่งไปด้วย ความรู้สึกคือรถมันนุ่ม เงียบ ที่สำคัญแรงมาก

ไม่ต้องห่วงครับ เซลส์ต้องรีบไปส่งรถึ ขับไม่มีรันอินให้อยู่แล้ว ไอ้ผมก็พลอยมันไปด้วย จำได้ตอนแซงยาวๆ ลากเกียร์ 3 ได้ถึง 140 ลงเกียร์ 4 ไปแบบลอยลำเลย เสียงเครื่อง 5 สูบมันช่างไพเราะและปลุกความเร้าใจมาก 
ผมเลยรู้ซึ้งถึงสโลแกนโฆษณา 850 ในตอนนั้นว่า "ขับทะยานดั่งมีชีวิต" มันเป็นยังไง  นี่ขนาดไม่ใช่รุ่น turbo นะ แถมยังมี T5-R อีก...   คิดแล้วตอนนี้ยังอยากหามาขับเลย


Nissan Big M Frontier Double Cab 2.7 Super GL ปี 2000   ป้ายแดงคันที่ 5 ของบ้าน

หลังจากคุณยายเกษียณ อยากได้รถใหม่ที่นั่งสบายกว่าคันเดิม แต่ยังติดใจในรถปิคอัพอยู่และก็ติดใจในความทนทานของ Nissan จึงได้ออกคันนี้มาใหม่ เป็นสีทองเขียว สวยงามและเป็นที่นิยมในยุคปีนั้นมาก

ถึงแม้จะมีรากมาจาก Big M แต่มันก็เปลี่ยนไปมาก แผงหน้าปัทม์หรูหราสวยงาม มีลายไม้ เบาะกำมะหยี่ กระจกไฟฟฟ้า กุญแจรีโมท  เราซื้อที่พิษณุโลกคุณยายก็ขับกลับกรุงเทพเลยโดยผมนั่งเป็นเพื่อน ต้อนนั้นที่รู้สึกคือ ช่วงล่างนุ่มแน่น ไม่เด้งเหมือนปิคอัพปกติ ภายในเงียบขึ้นเยอะ โดยรวมคล้ายนั่งรถเก๋งแต่ไม่ค่อยตึงตังเวลาขับผ่านถนนที่เป็นหลุมบ่อ ให้ความมั่นใจตอนขับต่างจังหวัดมาก เครื่อง TD27 ให้กำลังเพียงพอต่อการใช้งาน วิ่ง 120-130 สบายๆ เร่งแซงทำได้ดีกว่าทั้ง TD25 และ BD 25 ี่เคยใช้ เพียงแต่คุณยายยังต้องปรับความรู้สึกกับพวงมาลัยเพาเวอร์อยู่พักใหญ่ เพราะขับแต่พวงมาลัยธรรมดามาทั้งชีวิต

และรถคันนีุ้ณยายก็ยังขับใช้งานมาจนถึงทุกวันนี้

สรุป   ที่บ้านผมติดใจ Nissan ก็เพราะความทนทานของเครื่อง A14 ที่วางใน Ford Escort จน L16 ใน Bluebird  และใช้มากี่คันๆ ก็ไม่เคยจุกจิกเลย 

ซึ่งผมว่าหลายๆ ครอบครัวที่เลือกใช้ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งมาตลอดก็น่าจะมีเหตุผลที่คล้ายๆ กับที่บ้านผม คือการส่งผ่านความประทับใจจากรุ่นก่อนๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ค่ายรถยนต์ควรจะรักษาไว้ให้ยืนยาว ซึ่งปัจจุบันดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้นซะแล้ว




nas1880

HONDA CITY 1.5 EXI ปี1997 ของพ่อผมครับ นั่งด้านหน้า ด้านหลังสบายครับ ดิสเบรค4ล้อ ปลอดภัยดีครับ
ภายในรถแอร์เย็นดีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 22, 2016, 14:15:40 โดย nas1880 »



NeoZeLon

Isuzu Dragon eye และทุกวันนี้พ่อก็ยังขับไปทำงาน สภาพใหม่กว่ารถ 5-10 ปีบางคันซะอีก ^^
Honda Jazz GK 2014
Honda Accord G8 2008