ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนเด็ก คุณเกิดมาได้นั่งรถอะไร/เติบโตมาในรถอะไรกันบ้างครับ  (อ่าน 18632 ครั้ง)

ออฟไลน์ NoomTG

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 94
    • อีเมล์
ผมเกิดมากับ 2 คันครับ BENZ C220 Elegance W202 กับ 318i e36 MT จำได้ตอนนั่ง 318 ครั้งแรกนี่ ผมยังเด็กมาก เห็นอะไรก็เล่นกดเล่นไปเรื่อย แล้วไปกดปิดแอร์ ป๊าดันเปิดไม่เป็นอีก นั่งขำกันใหญ่เลย 3 พ่อแม่ลูก มันเป็นความทรงสมัยเด็กเลยครับ

ออฟไลน์ Pattarachai

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 80
    • อีเมล์
ตอนเกิดมารถคันแรกของครอบครัวคือ Big M หน้าหัก ไมล์โค้ง เพาเวอร์จากโรงงาน เบาะกำมะหยี่ รถสีน้ำเงิน ตอนนั้นรักมากกกกก ตอนนั้นจำได้ว่าอยู่หมู่บ้านชายน้ำในบางพลัด แล้วด้วยพ่อผมเป็นผู้รับเหมา เลยเอารถมาจอดในบ้าน อาจฟังดูเว่อร์แต่ตอนนั้นผมแค่ 3-4 ขวบแม่เล่าให้ฟังว่าเวลาจะนอน ผมก็จะเอาหมอนมาแล้วมานอนอยู่ข้าง ๆ รถ แล้วพอผมหลับพ่อถึงจะอุ้มไปนอนในห้อง แล้วพอหลังจากนั้นเศรษฐกิจไม่ดีก็ปล่อยไปให้ลุงเอาไปขายต่อ ตอนนั้นจำได้เลยว่า พอไม่เห็ฯรถคันนั้นร้องไห้อยู่ตั้งหลายวัน และช่วงนั้นพ่อต้องหารถแทน จึงเปลี่ยนทั้ง Mitsubishi Cyclone, Datsun 620, Toyota Mighty X โดยเฉพาะคันหลังสร้างวีรกรรมให้ผมเกลียดโตโยต้ามากที่สุด คือตอนนั้นพ่อผมขับคลานอยู่ในหมู่บ้านชลลดาในบางบัวทองเพื่อจะไปที่ไซต์งาน แล้วด้วยความที่ลูกระนาดมันทั้งใหญ่ และไม่รู้จะเยอะไปไหน ทำให้ขับพ้นลูกระนาดมาไม่ถึง 200 เมตร ลูกหมากล้อหน้าซ้ายแตก!!! ผลปรากฎว่าผมกับน้องชายหัวทิ่มจิ้มกับคอนโซลหน้าหัวปูดกันทั้งคู่ ส่วนพ่อก็อารมณ์เสียที่รถออกมาไม่นานก็เป็นแบบนี้จึงให้ลุงไปผ่อนต่อ ตั้งแต่นั้นมาไม่คบกับ Toyota อีกเลย ส่วนปัจจุบันมีแต่มอเตอร์ไซค์แล้วครับ เพราะตั้งแต่พ่อผมเสียไม่มีใครขับรถใหญ่กันอีกเลยนอกจากผม

ออฟไลน์ suquees SEDAN'

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 184
ช่วงอายุไม่เกิน 10 ขวบ
ที่บ้านมีรถ(ที่มีเครื่องยนต์)คันแรกคือ Honda C50 ต่อมาเปลี่ยนเป็น Honda C70 (มือสองทั้งสองคัน)
คุณแม่เป็นคนขี่ไปส่งที่โรงเรียนและรับกลับบ้าน นอกจากวันไหนฝนตกหนักมาก ๆ จนขี่จักรยานยนต์ฝ่าสายฝนไม่ไหว
คุณพ่อจะยืมรถของเถ้าแก่ไปรับ(หรือส่ง)แทนคุณแม่ เป็น Mazda Bongo หรือไม่ก็ Land Rover Defender ครับ

(ภาพประกอบจาก Internet)

ออฟไลน์ CH.TH

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 37
  • อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน
    • อีเมล์
-Audi A6 C4 พ่อซื้อมาให้แม่หัดขับ เป็นคันที่นั่งประจำเลยครับ ได้นั่งตั้งแต่เกิด เสียดายที่เครื่องพังไปตอนประมานสองแสนโล

-Benz C180 W202 ของพ่อ คันนี้ได้นั่งน้อยมาก รถวิ่งตลอด ขายไปแล้ว

-Volvo S40 ตัวแรก รถสำรองพ่อ คันนี้ก็ไม่ค่อยได้นั่ง ส่วนมากจะจอดอยู่บ้าน ขายไปแล้ว

-Toyota Altis หน้าหมู คันนี้มาแทน A6 เป็นรถประจำเหมือนเดิม ขายไปตอนสามแสนโล

-Toyota Altis หน้าแบน เป็นรถครูเลยครับคันนี้ หัดขับตอน ม.ต้น พอขับคล่องก็ร่อนไปทั่วจนแม่ไม่ให้แตะรถเลย

จนถึงตอนนี้ก็ยังชอบค่ายห่วงอยู่ กำลังสะสมทรัพย์ไปสู่ขอ S6 C4 มาเป็นของตัวเอง
Corolla E80 85'
Corolla E140 13'
S4 C4 93'

ออฟไลน์ หนึ่ง บ้ารถ

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 259
Ford Escort Mk1 ปี 1972 4ประตู เครื่อง 1300

ตั้งแต่จำความได้ผมก็เห็นรถคันนี้แล้ว เป็นรถของคุณตาซึ่งเป็นทหาร ซึ่งชอบดูแลซ่อมแซมรถด้วยตัวเองและก็จะคอยเรียกผม (5-6ขวบ) ไปช่วยหยิบช่วยจับเสมอ ผมเลยฝังใจกับการดูแลรถด้วยตัวเองจากคันนี้ โดยรถคันนี้เป็นรถคันแรกและคันเดียวของที่บ้าน

ตอนนั้นรถเดิมสนิทสุดๆ ล้อเหล็กพร้อมฝาครอบ ขนาดเล็กมา 155 SR12 ไม่มีกระจกมองข้าง ไม่มีวิทยุ ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม แต่ก็ใช้ในกรุงเทพได้ไม่มีปัญหาเพราะรถยังไม่ติดมากเหมือนทุกวันนี้  ตอนหลังน้าสาวเริ่มทำงานเอาคันนี้ไปใช้ เลยต้องติดแอร์ แต่เครื่องเดิมติดแอร์ไม่ไหวเลยต้องเปลี่ยนเครื่องเป็น A14 ของ Nissan ซึ่งลงตัวมาก และใช้งานไม่มีปัญหาเลย ความเร็วสูงสุดประมาณ 120 ติดกระจกมองข้างเพิ่ม ติดฟิล์ม ติดเครื่องเสียง

ตอนหลังน้าก็เก็บเงินซื้อรถใหม่ และคุณตาก็เอามาใช้ต่อจนทุกวันนี้ และถอดทุกอย่างที่น้าติดไว้ออกหมดเลยกลับไปเป็นเดิมๆ อีกครั้ง ยกเว้นแอร์ที่ยังอยู่


Nissan Bluebird 910  ปี 1981 1600cc 4speed

เป็นรถมือ 2 เจ้าของเดิมใช้มา 4 ปี คุณยายผมซื้อต่อมาในราคา 300,000 อาทิตย์แรกเอาไปต่างจังหวัด ยางระเบิดรถคว่ำ ซ่อมไป 2 เดือน

คันนี้เป็นรถที่ผมตื่นเต้นในสมัยนั้นเพราะรถดูกว้างขวางกว่า ford escort มาก เบาะปรับเอนได้ มีแอร์ วิทยุ-เทป ช่วงล่างหลังคอยล์สปริง มีกระจกมองข้าง เครื่องก็แรง น้าเคยเอาไปขับได้ 130-140 

เท่าที่ใช้มารถไม่มีปัญหาเลย มีแค่ครั้งเดียวที่ตอนเช้าสตาร์ทไม่ติดเพราะคาร์บูตัน เรียกช่างแถวบ้านมาล้างทำความสะอาดให้ก็ใช้ได้เหมือนเดิม เลยเป็นครั้งแรกที่ไปโรงเรียนสายถึง 9 โมง
ในที่สุดคุณยายก็ขายคันนี้ไปหลังจากใช้ได้ 5ปี ในราคา 110,000 บาท


Nissan Big M Single Cab Super DX เครื่อง TD25 ปี 1989

หลังจากคุณยายขาย Nissan Bluebird ไปแล้วจึงได้ซื้อคันนี้มาใช้แทน เป็นรถมือ 2 เหมือนกัน อายุแค่ 2 ปี สภาพดีมาก เป็นรถตอนเดียวใส่หลังคาแครี่บอย มีแอร์ตอนหลัง กระจกหลังเป็นบานเลื่อนเปิดทะลุระหว่างหัวเก๋งกับกระบะหลังได้

คันนี้เป็นรถที่ทำให้ที่บ้านได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างจังหวัดไกลๆ พร้อมหน้าพร้อมตากัน เพราะนั่งได้หลายคน และรถขนาดใหญ่มั่นคงเวลาวิ่งทางไกล กำลังเครื่องแรง และด้วยความอึดของรถดีเซลเลยไม่กลัวว่าจะไปเสียกลางทางง่ายๆ

และรถคันนี้เองที่เปลี่ยนวิธีการเดินทางในการไปเยี่ยมญาติที่ จ.พิษณุโลก จากปกติ ทุกปีที่บ้านผมจะต้องนั่งรถไฟไป ก็กลายเป็นขับรถคันนี้ไปแทน 
และมันก็เป็นรถที่ใช้ดีมากเช่นกัน ไม่เคยมีปัญหาจุกจิกเลย และก็คันนี้อีกนั่นแหละเป็นรถคันแรกที่ผมหัดล้างรถด้วยตัวเองทั้งคัน


Nissa Big M BDI King Cab Super DX ปี 1990 รถป้ายแดงคันแรกของบ้าน
หลังจากน้าสาวคืน Ford Escort ให้คุณตาไปแล้ว ก็ถอยป้ายแดงคันนี้มา โดยตอนนั้นเป็นรุ่นแคบเล็ก ซึ่งผมก็ได้เข้าไปนั่งข้างหลังประจำ แต่ดีที่ยังเด็กเลยไม่รู้สึกว่าแคบ กลับดีซะอีก ได้ดู สังเกตการขับรถของน้าอย่างใกล้ชิด จนอาการอยากขับรถเป็นเริ่มเข้ามา

คันนี้เป็นรถที่ทำให้ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างจังหวัดไกลๆ เป็นประจำเพราะรถใหม่  เครื่อง BD25 Direct injection แรงและประหยัดน้ำมันกว่า TD25 มาก แต่ข้อเสียคือควันเหม็นมากกกก สตาร์ทรถตอนเช้า คนในบ้านจะสำลักควันตายเอา

และก็เหมือนกับคันก่อนๆ มันเป็นรถที่ใช้ดีมาก ไม่มีปัญหาจุกจิกให้ต้องนอนอู่เลย


Nissa Urvan E24 เครื่อง TD25 ปี 1991 ป้ายแดงคันที่สองของบ้าน

เป็นรถของน้าชาย ซื้อมาใช้ส่วนตัว วันหยุดเสาร์-อาทิตย์วิ่งรับงานทัวร์ต่างจังหวัด คันนี้ตกแต่งภายในเต็มในสมัยนั้น เบาะปรับเอนนอน 9ตัว มีแอร์ทุกตำแหน่ง มีจอแก้วTV 12 นิ้ว มีVDO มีเคาน์เตอร์วางเครื่องดื่ม

ตอนนั้นน้าเทียบกับ Toyota Hiace หัวจรวด แต่ในวงการรถตู้ยอมรับว่า Urvan ในตอนนั้นช่วงล่างนุ่มหนึบ เกาะถนนกว่า Hiace ซึ่งจะสังเกตได้ว่าตอนนั้น รถตู้ Nissan Urvan ยังมีสัดส่วนวิ่งบนท้องถนนไม่ได้น้อยกว่าToyota มากเหมือนสมัยนี้

แน่นอน มันเป็นรถที่ใช้ได้ดีและไม่จุกจิกเหมือนทุกคันที่ผ่านมา พาทั้งบ้านไปเที่ยวไหนๆ ไกลกว่าที่เคย นอนก็นอนในรถ และก็คันนี้ทีทำให้ผมฝึกปรือฝีมือในการล้างรถทั้งภายนอกและภายในให้เก่งและเนี้ยบขึ้น เพราะพอจบทัวร์ทีไรผมก็ต้องเป็นคนล้างทั้งข้างนอกและข้างในทุกที (ตอนนั้น 11ขวบ)

แต่คันนี้จุดจบไม่สวย เมื่อมีมอเตอร์ไซค์ซ้อนคนท้องตัดหน้าในระยะกระชั่นชิดเลยต้องหักหลบและพลิกคว่ำ ซ่อมมาก็ไม่ดีเหมือนเดิมเลยต้องขายไป


Nissan Big M BDI King Cab Super GL ปี 1993 ดั้งหักแคปใหญ่รุ่นแรก ป้ายแดงคันที่3 ของบ้าน

น้าสาวเปลี่ยนแทนแคปเล็กคันเดิมที่เอาไปใช้ขนหินอ่อนที่เชียงใหม่  รุ่นนี้เป็นล้อแมกซ์จากโรงงาน มีกันชนหลังเป็นบันไดในตัว ภายในเป็นเบาะกำมะหยี่ แผงข้างกำมะหยี่ ดูหรูหราสวยงามกว่าทุกยี่ห้อในท้องตลาดขณะนั้น และที่สำคัญ มันเป็นรถพวงมาลัยเพาเวอร์คันแรกของที่บ้าน!!!

ที่บ้าคุ้นชินกับพวงมาลัยหนักๆ มาตลอด ให้ความรู้สึกมั่นคงเวลาขับเพราะมันหนัก แต่พอเจอพวงมาลัยเพาเวอร์ทุกคนต่างไม่ชินและไม่ชอบ ถึงขั้นอยากจะถอดมันออกเลยทีเดียว

และจุดจบของคันนี้ก็มาถึง เมื่อเอาไปใช้งานบรรทุกหินอ่อนประมาณ 1 ตัน เอาไปขับบนภูเขาที่เชียงใหม่ ตอนเข้าโค้งน้าบอกว่าแทบไม่รู้สึกถึงการตอบสนองของพวงมาลัยเลยเพราะมันเบามาก เลยทำให้บังคับรถไม่อยู่พลิกคว่ำลงข้างทางไป  ก็ซ่อมแล้วเอามาใช้ต่ออยู่อีกหลายปี เพราะรถไม่เคยปัญหาจุกจิกอะไรเลย


Volvo 850 GLE  2.3 Minor change  เกียร์ธรรมดา ปี 1996 ป้ายแดงคันที่ 4 ของที่บ้าน

วันรับรถ ผมไปรับรถที่ศูนย์หัวหมาก โดยให้เซลส์ขับไปส่งให้น้าที่พิษณุโลกโดยมีผมนั่งไปด้วย ความรู้สึกคือรถมันนุ่ม เงียบ ที่สำคัญแรงมาก

ไม่ต้องห่วงครับ เซลส์ต้องรีบไปส่งรถึ ขับไม่มีรันอินให้อยู่แล้ว ไอ้ผมก็พลอยมันไปด้วย จำได้ตอนแซงยาวๆ ลากเกียร์ 3 ได้ถึง 140 ลงเกียร์ 4 ไปแบบลอยลำเลย เสียงเครื่อง 5 สูบมันช่างไพเราะและปลุกความเร้าใจมาก 
ผมเลยรู้ซึ้งถึงสโลแกนโฆษณา 850 ในตอนนั้นว่า "ขับทะยานดั่งมีชีวิต" มันเป็นยังไง  นี่ขนาดไม่ใช่รุ่น turbo นะ แถมยังมี T5-R อีก...   คิดแล้วตอนนี้ยังอยากหามาขับเลย


Nissan Big M Frontier Double Cab 2.7 Super GL ปี 2000   ป้ายแดงคันที่ 5 ของบ้าน

หลังจากคุณยายเกษียณ อยากได้รถใหม่ที่นั่งสบายกว่าคันเดิม แต่ยังติดใจในรถปิคอัพอยู่และก็ติดใจในความทนทานของ Nissan จึงได้ออกคันนี้มาใหม่ เป็นสีทองเขียว สวยงามและเป็นที่นิยมในยุคปีนั้นมาก

ถึงแม้จะมีรากมาจาก Big M แต่มันก็เปลี่ยนไปมาก แผงหน้าปัทม์หรูหราสวยงาม มีลายไม้ เบาะกำมะหยี่ กระจกไฟฟฟ้า กุญแจรีโมท  เราซื้อที่พิษณุโลกคุณยายก็ขับกลับกรุงเทพเลยโดยผมนั่งเป็นเพื่อน ต้อนนั้นที่รู้สึกคือ ช่วงล่างนุ่มแน่น ไม่เด้งเหมือนปิคอัพปกติ ภายในเงียบขึ้นเยอะ โดยรวมคล้ายนั่งรถเก๋งแต่ไม่ค่อยตึงตังเวลาขับผ่านถนนที่เป็นหลุมบ่อ ให้ความมั่นใจตอนขับต่างจังหวัดมาก เครื่อง TD27 ให้กำลังเพียงพอต่อการใช้งาน วิ่ง 120-130 สบายๆ เร่งแซงทำได้ดีกว่าทั้ง TD25 และ BD 25 ี่เคยใช้ เพียงแต่คุณยายยังต้องปรับความรู้สึกกับพวงมาลัยเพาเวอร์อยู่พักใหญ่ เพราะขับแต่พวงมาลัยธรรมดามาทั้งชีวิต

และรถคันนีุ้ณยายก็ยังขับใช้งานมาจนถึงทุกวันนี้

สรุป   ที่บ้านผมติดใจ Nissan ก็เพราะความทนทานของเครื่อง A14 ที่วางใน Ford Escort จน L16 ใน Bluebird  และใช้มากี่คันๆ ก็ไม่เคยจุกจิกเลย 

ซึ่งผมว่าหลายๆ ครอบครัวที่เลือกใช้ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งมาตลอดก็น่าจะมีเหตุผลที่คล้ายๆ กับที่บ้านผม คือการส่งผ่านความประทับใจจากรุ่นก่อนๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ค่ายรถยนต์ควรจะรักษาไว้ให้ยืนยาว ซึ่งปัจจุบันดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้นซะแล้ว


nas1880

  • บุคคลทั่วไป
HONDA CITY 1.5 EXI ปี1997 ของพ่อผมครับ นั่งด้านหน้า ด้านหลังสบายครับ ดิสเบรค4ล้อ ปลอดภัยดีครับ
ภายในรถแอร์เย็นดีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 22, 2016, 14:15:40 โดย nas1880 »

ออฟไลน์ NeoZeLon

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 80
Isuzu Dragon eye และทุกวันนี้พ่อก็ยังขับไปทำงาน สภาพใหม่กว่ารถ 5-10 ปีบางคันซะอีก ^^
Honda Jazz GK 2014
Honda Accord G8 2008