ผู้เขียน หัวข้อ: เกียร์ลูกเดียวกันรับแรงบิดสูงสุดเท่ากัน แต่แรงบิดมาไม่เหมือนกัน ทนเท่ากันไหมครับ  (อ่าน 3448 ครั้ง)

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,056
ด้วยความคัน อยากเอา MX5 NB เกียร์ออโต้ไปอัพความแรง อยากให้กระฉับกระเฉงหน่อย ... มี 2 หนทางหลัก
1. ชุดซุปเปอร์ชาร์จ บูสท์ 0.4 บาร์ ... ด้วยความที่ซุปชุดนี้เป็นแบบ root ทำให้สามารถทำแรงได้ตั้งแต่เริ่มเดินคันเร่ง เป็นลักษณะเพิ่มความชันของกราฟแรงบิดเท่าๆกันทั้งเส้น
2. ชุดเทอร์โบลูกเล็กๆ บูสท์เท่าๆกัน 0.4-0.5 บาร์ ... แรงบิดแรงม้าสูงสุดน่าจะไม่ต่างกันมาก แต่นิสัยของเทอร์โบช่วงแรกๆจะเท่าๆเดิมแแล้วพอเริ่มทำลมได้ แรงบิดถึงจะยก เป็นการเพิ่มแรงบิดในช่วงสั้นๆ

สำหรับเทอร์โบ ... ผมอยากให้เริ่มบูสท์ประมาณ 2000 รอบ ทำ 0.5 บาร์ได้ที่ ไม่เกิน 2500 รอบ ซึ่งเป็นช่วงรอบใช้งานปกติ ... คงใช้เทอร์โบลูกเล็กๆ ซึ่งแรงบิดสูงสุดอาจอยู่ที่จุดที่ไม่ต่างจากซุปเปอร์ชาร์จนัก ด้วยลักษณะการเปลี่ยนแรงบิดของเทอร์โบมันจะสร้างปัญหาให้กับเกียร์ต่างจากซุปเปอร์ชาร์จไหมครับ (เพิ่มพรวดเดียวช่วงสั้นๆ กับ ค่อยๆไล่ขึ้น)

อยากทราบความเห็นเพื่อนๆสมาชิกครับ

ปล แรงบิดสูงสุด ยังอยู่ในช่วงที่เกียร์รับไหว

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าพูดถึงแรงบิดก็ต้องดูไปที่ชุดจับคลัทช์ว่าทำงานแบบไหน

ผมเองไม่มีข้อมูลเกียร์ออโต้รุ่นนี้เลย แต่ให้เดาจากปีคงไม่ใช่ไฟฟ้าล้วนๆ ถ้าเป็นแบบนี้การกระชากก่อนคลัทช์ปล่อยและจับเต็มๆคงมีผลกับเกียร์มากกว่า นึดถึงเกียร์ธรรมดาที่ปล่อยคลัทช์ไม่สุดแล้วกดคันเร่ง ทำบ่อยๆคงพังครับ

แต่ถ้าเป็นไฟฟ้าเต็มระบบ แบบพวกรถใหม่ๆ ที่รอให้จับสุดและห่างสุดถึงกดคันเร่งได้ แบบนี้ ไม่น่ามีผล

อายุเกียร์จะยาวนานแค่ไหนอยู่ที่การขับขี่เป็นหลักด้วย กดเอาแบบตามใจฉันยังงัยก็พังเร็วกว่าพวกค่อยๆไปครับ ส่วนของการมาของรอบที่มากขึ้นจะทำให้เสียเร็วไหมก็ประกอบกันไปกับจังหวะปล่อยและจับคลัทช์แต่ละชุดในเกียร์ออโต้นั่นเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 29, 2017, 09:39:52 โดย Jae »

ออฟไลน์ wa330

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,567
สูงสุดเท่ากัน
แต่มาพรวดพาดแบบเทอร์โบ
กับค่อยๆมาเรื่อยๆแบบna
ความทนต่างกันแน่นอนคับ

ออฟไลน์ toffyearn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 628
น่าจะมีผลน้อยนะผมว่า แค่ระดับแรงบิดรอบกลางๆหรือการไล่รอบปรกติ ถ้าไม่ได้ออกแบบผิดพลาดระบบเกียร์และวัสดุน่าจะรองรับอย่างเหลือเฟือแล้วน่ะคับ ยิ่งเวลาใช้งานชีวิตประจำวันยังไม่ค่อยได้ใช้แรงบิดสูงสุดประจำหรือตลอดเลยนี่คับ

ผมว่าน้ำหนักความทนทานน่าจะขึ้นอยู่กับนิสัยคนขับ เท้าเบาเท้าหนัก เกียร์ก็เชนบ่อย เร่งบ่อยเร่งแรงหยุดบ่อย กับลักษณะเส้นทาง บางที่รถติด บางคนแถบชานเมือง บางคนจอดรถบนตึก หรือมีโหลดมากคนนั่งหรือบรรทุกเยอะ และการใช้งานที่กระแทกกระทั้นที่ผิดปรกติมากกว่านะ

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,593
    • อีเมล์
ผมคิดว่าไม่น่าจะมีผลกับเกียร์เรื่องturboนะครับ
เท่าที่ผมเคยลองนั่ง86แล้วไปเซทโบ ball baring turbo boostรอบต่ำๆ ก็ดึงดีแต่ว่าเกียร์มันต้องเล่นด้วยคือมันต้องเปลี่ยนรวดเร็ว กดเป็นkick down ถึงรอบใช้งานturbo ไวๆ
ทีนี้ผมเลยกลับไปนั่งอ่าน รีวิวที่  จขกท  ทำไว้

"MX5 NB ไม่ใช่รถที่เร็ว ไม่ใช่รถที่แรง ... ยิ่งพอเป็นเกียร์ออโต้แล้ว อัตราเร่งชวนให้สงสัยว่า 140 ม้า มันไปอยู่ไหนหมด .... นิสัยการเร่งมันคล้าย Benz ยุค W201 W124 มาก คือ ช่วงออกตัวย่ำแย่ แต่พอได้ลอยตัวสัก 60 กม/ชม แล้วค่อยไหลเนิบๆ ..... สาเหตุหลักคือการที่มีเกียร์ที่ค่อนข้างโง่ และไม่ค่อยยอมไล่รอบให้เกิน 4 พันรอบ แถมเกียร์โบราณลูกนี้ยังเสียกำลังไปมากมาย .. เคยขึ้นไดโน่ พบว่าม้าลงพื้นเกือบๆ 100 ตัวเท่านั้น ... หายไป 30% จนนึกว่ารถเราไม่สมบูรณ์หรือเปล่า แต่เท่าที่หาข้อมูลมาก็คิดว่าเป็น “ปกติ” ...... ถ้ารถคันนี้มีม้าลงพื้นสัก 140-150 ตัว + flat torque สักหน่อยน่าจะขับสนุกกว่านี้"

คิดว่าเกียร์มันน่าจะหน่วงพอควร  เลยคิดว่าติดซุปเน้นรอบต่ำ กดตั้งแต่รอบ1-2พันรอบไปเลยไม่ต้องกังวลเรื่องคิกดาวน์  แล้วถ้ามันไม่ค่อยไล่เกิน4พันรอบให้นี่ติดโบอาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์เพราะบูสท์มาตอน2พันรอบ ได้ใช้แค่2พันยังบูสท์ไม่ถึงไหน เกียร์ก็เปลี่ยนละ แถม ซุป ได้flat torque ตามที่คุณturinต้องการ อีกอย่างคือข้อมูลซุปของ86นี่อึดมากมีคนนึงใช้มา60,000โลละก็ ชิลๆ ไม่มีปัญหางอแง เลยคิดว่าซุปเหมาะกว่าครับ

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,056
ขอบคุณครับ

โจทย์ตอนนี้ พอดีมีคนปล่อยชุดคิต Jackson racing + FCON กล่องทอง ในราคาพอๆกับจับเซ็ตเทอร์โบเอง ... ติดตรงที่ตอนนี้จริงๆยังไม่ค่อยอยากขยับเสตป อยากจะรอเก็บงานให้เรียบร้อยอีกสัก 6 เดือน ... แต่วันนั้นชุดซุปนี้คงไม่อยู่รอผมแล้ว ในขณะที่เซ็ตโบของหาง่าย จะทำเมื่อไหร่ก็ได้ .... เลยสองจิตสองใจครับ  8)

ออฟไลน์ J_Serie5

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,206
อยู่ไทย
sup = เลิกคิด ราคาแพง คนเล่นน้อย ทำแรงม้าได้น้อย บำรุงรักษาลำบาก เว้นแต่ว่าคุณอยู่ usa ทุกอย่างจะกลับกัน
turbo = ตัวเลือกเยอะมาก ทำแรงม้าได้เยอะ จะเอาแรงม้าเยอะแค่ไหนคุยกับอู่ได้เลย บำรุงรักษาง่าย มือ1 มือ2 มีให้เลือกเยอะ

จะเล่น turbo ตั้งโจทย์ก่อนเลย
1 งบประมาณมีเท่าไร
2 ต้องการแรงม้าแค่ไหน คิดออกมาเป็นตัวเลขที่ต้องการ ถ้าม้าไม่เยอะ ก็ไม่ต้องทำไส้ใน
3 ต้องการอัตราเร่งแบบไหน มาไวตั้งแต่รอบต่ำ-กลางแต่หมดไว หรือ มากลาง-ปลายหนักๆ
4 ช่วงล่างเดิม ยางเดิม เอาอยู่แค่ไหน ถ้าจัดแรงมากๆ รถคุณเบา ต้องจัดเต็มช่วงล่าง ยาง เบรค ถ้าไม่ทำให้ครบ บอกเลยอันตราย

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,056
โจทย์ผมต้องการต้นไว หมดเร็วไม่ว่ากัน .. เดิม ม้าลงพื้น 100 ตัว เป้า 140-160 ตัว จากที่หาข้อมูลมา ใส้ยังรับได้สบายๆ ... เป็นห่วงก็แต่เกียร์ เพราะส่วนใหญ่ที่ทำกันจะเป็นเกียร์ธรรมดา ... ถ้าเทอร์โบลูกเล็กๆ มาเร็วๆ ไม่ได้สร้างภาระให้ชุดเกียร์มากไปกว่าซุปเปอร์ชาร์จ ผมก็อยากไปทางนั้นมากกว่า

ว่าแต่เคยอ่านเจอว่าซุปเปอร์ชาร์จแบบ root มัน maintenance-free ไม่ใช่หรือครับ .. จะมีต้องเปลี่ยนก็แค่สายพาน ?

ออฟไลน์ Ake@hybrid

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 42
ขับแบบค่อยๆเติมคันเร่ง ไม่คิกดาวน์บ่อยๆ ติดออยเกียร์สักลูก บูสอยู่ 0.3-0.4บาร์ เกียร์ยังพอทนได้ครับ