ผู้เขียน หัวข้อ: คนทั่วไปที่ซี้อรถ จะเข้าใจผิดๆว่าดิเซลคือตัวเเรงหรือเปล่าครับ?  (อ่าน 8351 ครั้ง)

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,230
ถ้ามองแบบคนบ้านๆ ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถเลยนะครับ
ดีเซล=เครื่องรถกระบะ เสียงดัง ดูเป็นรถราคาถูก แต่ทนทาน

ถ้ามองแบบคนชอบรถ
ดีเซล =แรง+ประหยัด (320dนี่ผมว่าเป็นbenchmarkของเก๋งดีเซลเลย)

ปล.ต่างคนต่างความชอบ ดีเซลตัวแรง ก็มี ไม่ได้ด้อยไปกว่าเบนซินหรอกครับ แม้จะบอกว่าhypercarตัวtopสมรรถนะสูงสุดทั้งหลายเป็นเบนซิน
แต่ในชีวิตจริงจะมีสักกี่คนที่มีเงินขับรถแบบนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 20, 2017, 11:20:04 โดย lexus »

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
ถ้ามองแบบคนบ้านๆ ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถเลยนะครับ
ดีเซล=เครื่องรถกระบะ เสียงดัง ดูเป็นรถราคาถูก แต่ทนทาน

ถ้ามองแบบคนชอบรถ
ดีเซล =แรง+ประหยัด (320dนี่ผมว่าเป็นbenchmarkของเก๋งดีเซลเลย)

ปล.ต่างคนต่างความชอบ ดีเซลตัวแรง ก็มี ไม่ได้ด้อยไปกว่าเบนซินหรอกครับ แม้จะบอกว่าhypercarตัวtopสมรรถนะสูงสุดทั้งหลายเป็นเบนซิน
แต่ในชีวิตจริงจะมีสักกี่คนที่มีเงินขับรถแบบนั้น

เรื่องแรงนี้ ผมใช้  benchmark เป็นพวก Subi WRX, VW Golf GTi เป็นหลัก อะไรที่เต่ากว่านั้น ผมว่าไม่แรงนะ ส่วน 320d เป็นยังไงถ้าเทียบกับ WRX, GTi ก็รู้ๆ  ถ้า Bimmer ในไทยผมยกให้ตั้งแต่ 330i  530i ถือว่าแรง ส่วนพวกดีเซลไม่ติดกลุ่มนะครับ

ถ้าไปดูพวก performance car ในทุก tier จะเจออย่างชัดเจนว่า ไม่มีดีเซลติดกลุ่มกะเค้า หลักๆ แรงสู้ไม่ได้ ฟิล เสียงเครื่องไม่ใช่แนว performance 

ออฟไลน์ tongtom

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 302
โห ดีเซลตอนนี้ไม่ีได้ดัง อะไรนักหรอกครับ สิงห์ดีเซลเขาว่ากันว่า "เงียบพัง ดังวิ่ง" อย่าสนใจเรื่องเสียงเครื่องมากกว่าสตาร์ทติด มันไปไหนก็ถึงครับ  ............

ดีเซลที่ว่า มาจาก อีซูสุ หรือเปล่าเราละไว้นะครับ ฮี่ๆ แต่ผมอ่านเจอในคลับออฟโรดมานานละ แล้วก็จริงครับ "เงียบพัง ดังวิ่ง" ท่องไว้


MacH1

  • บุคคลทั่วไป
โห ดีเซลตอนนี้ไม่ีได้ดัง อะไรนักหรอกครับ สิงห์ดีเซลเขาว่ากันว่า "เงียบพัง ดังวิ่ง" อย่าสนใจเรื่องเสียงเครื่องมากกว่าสตาร์ทติด มันไปไหนก็ถึงครับ  ............

ดีเซลที่ว่า มาจาก อีซูสุ หรือเปล่าเราละไว้นะครับ ฮี่ๆ แต่ผมอ่านเจอในคลับออฟโรดมานานละ แล้วก็จริงครับ "เงียบพัง ดังวิ่ง" ท่องไว้

จากสังเกตมา ดีเซลทุกแบรนด์ครับ เสียงดัง แทรกๆๆ ทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร

ผมเห็น fan boy เครื่อง diesel มักแถไปว่า ดังแค่ข้างนอกเอง ข้างในเงียบ   

ปล. ดีเซลจะสูญพันธ์ก่อนเบนซินครับ แต่ตอนนี้มีแนวโน้ม ไทยแลนด์เป็นที่โละของเก่าที่จะขายไม่ได้ในยุโรป  เรามี consumer behavior แบบไทยๆ LOL 

ออฟไลน์ Sukuiguy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 41
คนที่บอกว่า ดีเซล ดังแบบรถกระบะ ไม่ชอบที่เสียงเครื่องดังเนี่ย แปลว่า เคยแต่ยืนข้างรถแล้วฟังเสียง แต่ไม่เคยเข้าไปนั่งในรถเลยใช่ไหมครับ

BMW Benz หรือ รถแพงๆอย่าง คาเยนดีเซลเนี่ย ยืนข้างรถมันดังทั้งนั้นล่ะครับ .... แต่ลองไปนั่งในรถสิ ... เงียบกริบ .....

หรือแม้แต่  Cx5 หรือ M2 หรือ แม้แต่กระบะ หรือ PPV เช่น รีโว่ ปาเจโร้ ยืนหน้ารถ มันดังทั้งนั้นล่ะ แต่พอนั่งในรถ โดยเฉพาะเวลารถวิ่งด้วยแล้ว แทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะครับ

แคร์กันแค่ยืนข้างรถ เสียงดังเสียบุคลิค แต่รถยนต์เค้าวิ่งครับ ไม่ได้สต๊าทจอดฟังเสียงเครื่องกัน ดีเซลสมัยนี้ วิ่ง 160-170 แช่ยาวๆนี่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะ ..กลับกัน ในความเร็วเท่ากัน เบนซินกลับส่งเสียงครางของเครื่องยนต์ออกมามากกว่า เพราะใช้รอบสูงกว่า....

ว่าแล้วต้องมามุข ไม่ได้ยินเสียงโรงสีถ้าอยู่ในรถ

แค่เสียงเครื่องแทรคเตอร์กระหึมตั้งแต่อยู่นอกรถ ก็สอบตกแล้วครับ ยิ่งรถแบบ premium tier ยิ่งแล้วใหญ่ คุณจ่ายแพงมากๆในไทยแลนด์ เพื่อมาขับไอ้รถที่เสียงดังแบบไม่เพราะนั้น มันไม่ได้ฟิล premium เลย ไม่คุ้มกับงบที่ลงไปครับ   

สรุปทั้งเสียงภายนอกภายในต้องได้ฟิลครับ (ดูตัวอย่างพวกเครื่อง Slant six, V8 รอบสูงเสียงยิ่งเพราะ) ผมไม่ buy in กับกระแสดีเซลใน passenger car

เห็นด้วยเลยครับผม

ออฟไลน์ nutpob24

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 63
ส่วนตัวซื้อรถปิคอัพยังเอาเครื่องเบนซิลเลยครับ เก๋งก็เบนซิล เน้นติดแก๊สครับ แรงบิดรอบต่ำไม่เน้นๆขับทางไกลยาวๆสบายๆครับ :D :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 20, 2017, 15:08:38 โดย nutpob24 »

ออฟไลน์ Dr.Jones

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 424
 :-[

ราคาขายต่อดีเซล  ค่อนข้างจะดีกว่าเบนซินด้วย --------- >>

ผู้ตอบเล่ามายาวเฟื้อย มีทั้งจริงไม่จริงปนๆกันไป มาถูกใจตรงประโยคสุดท้ายนี่ล่ะ (เป็นตัวตัดสิน)

รถยุโรปในภาพรวม Quality สูงกว่าอยู่แล้วครับ ยกเว้นเวลาต้องซ่อมน่ะละ รถญี่ปุ่นได้ใจไปเลย (ซ่อมง่าย)
ไม่สนับสนุนรถญี่ปุ่นเจ้าตลาดและรถเยอรมันมวยรอง
--ทุกรุ่น,ทุกคัน,ทุกโปรโมชั่น,ทุกกรณี--

ออฟไลน์ NoName__???

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,133
งง เสียงดัง ยังเถียงกันได้ ว่าไม่ Premium ซึ่งจริงๆแทบไม่มีผลอะไรกับการใช้งานเลย  ลองไปถามพวกคนยุโรปที่ใช้เก๋งดีเซลกันเป็นปกติ เค้าก็งง คนไทยเป็นอะไรกับเสียงเครื่องนัก  ;D

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
คนที่บอกว่า ดีเซล ดังแบบรถกระบะ ไม่ชอบที่เสียงเครื่องดังเนี่ย แปลว่า เคยแต่ยืนข้างรถแล้วฟังเสียง แต่ไม่เคยเข้าไปนั่งในรถเลยใช่ไหมครับ

BMW Benz หรือ รถแพงๆอย่าง คาเยนดีเซลเนี่ย ยืนข้างรถมันดังทั้งนั้นล่ะครับ .... แต่ลองไปนั่งในรถสิ ... เงียบกริบ .....

หรือแม้แต่  Cx5 หรือ M2 หรือ แม้แต่กระบะ หรือ PPV เช่น รีโว่ ปาเจโร้ ยืนหน้ารถ มันดังทั้งนั้นล่ะ แต่พอนั่งในรถ โดยเฉพาะเวลารถวิ่งด้วยแล้ว แทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะครับ

แคร์กันแค่ยืนข้างรถ เสียงดังเสียบุคลิค แต่รถยนต์เค้าวิ่งครับ ไม่ได้สต๊าทจอดฟังเสียงเครื่องกัน ดีเซลสมัยนี้ วิ่ง 160-170 แช่ยาวๆนี่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะ ..กลับกัน ในความเร็วเท่ากัน เบนซินกลับส่งเสียงครางของเครื่องยนต์ออกมามากกว่า เพราะใช้รอบสูงกว่า....

ว่าแล้วต้องมามุข ไม่ได้ยินเสียงโรงสีถ้าอยู่ในรถ

แค่เสียงเครื่องแทรคเตอร์กระหึมตั้งแต่อยู่นอกรถ ก็สอบตกแล้วครับ ยิ่งรถแบบ premium tier ยิ่งแล้วใหญ่ คุณจ่ายแพงมากๆในไทยแลนด์ เพื่อมาขับไอ้รถที่เสียงดังแบบไม่เพราะนั้น มันไม่ได้ฟิล premium เลย ไม่คุ้มกับงบที่ลงไปครับ   

สรุปทั้งเสียงภายนอกภายในต้องได้ฟิลครับ (ดูตัวอย่างพวกเครื่อง Slant six, V8 รอบสูงเสียงยิ่งเพราะ) ผมไม่ buy in กับกระแสดีเซลใน passenger car

มุข เมิก อะไรครับ ???

ชอบไม่ชอบอันนั้นก็ความเห็นส่วนตัวกันนะ สิ่งที่ผมบอกไป คืออะไร ผมไม่ได้เชียร์ให้ใครต้องชอบดีเซล เพียงแต่บอกว่า ข้างนอกมันดังจริง แต่พอนั่งแล้วมันเงียบไม่รบกวนคนขับ ...

คุณไม่ชอบดีเซล ก็แล้วแต่ครับ แต่คนที่เลือกใช้หรือชอบ ก็ไม่ได้ผิดอะไร ... เสียงดังแล้วไงอะ รถเค้า .... เจ้าของรถเค้ารับได้ .... เค้าถึงซื้อมาใช้...

ข้อดีของดีเซลมันมี และคนที่เลือกใช้เค้ายินดีจ่ายแพงก็เพราะข้อดีที่เจ้าของรถเค้ามองเห็น
จะบอกจ่ายแพง แล้วได้รถเสียงดัง สอบตก .... อันนั้นแล้วแต่ความชอบของแต่ละท่านนะ

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
คนที่บอกว่า ดีเซล ดังแบบรถกระบะ ไม่ชอบที่เสียงเครื่องดังเนี่ย แปลว่า เคยแต่ยืนข้างรถแล้วฟังเสียง แต่ไม่เคยเข้าไปนั่งในรถเลยใช่ไหมครับ

BMW Benz หรือ รถแพงๆอย่าง คาเยนดีเซลเนี่ย ยืนข้างรถมันดังทั้งนั้นล่ะครับ .... แต่ลองไปนั่งในรถสิ ... เงียบกริบ .....

หรือแม้แต่  Cx5 หรือ M2 หรือ แม้แต่กระบะ หรือ PPV เช่น รีโว่ ปาเจโร้ ยืนหน้ารถ มันดังทั้งนั้นล่ะ แต่พอนั่งในรถ โดยเฉพาะเวลารถวิ่งด้วยแล้ว แทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะครับ

แคร์กันแค่ยืนข้างรถ เสียงดังเสียบุคลิค แต่รถยนต์เค้าวิ่งครับ ไม่ได้สต๊าทจอดฟังเสียงเครื่องกัน ดีเซลสมัยนี้ วิ่ง 160-170 แช่ยาวๆนี่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะ ..กลับกัน ในความเร็วเท่ากัน เบนซินกลับส่งเสียงครางของเครื่องยนต์ออกมามากกว่า เพราะใช้รอบสูงกว่า....

ว่าแล้วต้องมามุข ไม่ได้ยินเสียงโรงสีถ้าอยู่ในรถ

แค่เสียงเครื่องแทรคเตอร์กระหึมตั้งแต่อยู่นอกรถ ก็สอบตกแล้วครับ ยิ่งรถแบบ premium tier ยิ่งแล้วใหญ่ คุณจ่ายแพงมากๆในไทยแลนด์ เพื่อมาขับไอ้รถที่เสียงดังแบบไม่เพราะนั้น มันไม่ได้ฟิล premium เลย ไม่คุ้มกับงบที่ลงไปครับ   

สรุปทั้งเสียงภายนอกภายในต้องได้ฟิลครับ (ดูตัวอย่างพวกเครื่อง Slant six, V8 รอบสูงเสียงยิ่งเพราะ) ผมไม่ buy in กับกระแสดีเซลใน passenger car

มุข เมิก อะไรครับ ???

ชอบไม่ชอบอันนั้นก็ความเห็นส่วนตัวกันนะ สิ่งที่ผมบอกไป คืออะไร ผมไม่ได้เชียร์ให้ใครต้องชอบดีเซล เพียงแต่บอกว่า ข้างนอกมันดังจริง แต่พอนั่งแล้วมันเงียบไม่รบกวนคนขับ ...

คุณไม่ชอบดีเซล ก็แล้วแต่ครับ แต่คนที่เลือกใช้หรือชอบ ก็ไม่ได้ผิดอะไร ... เสียงดังแล้วไงอะ รถเค้า .... เจ้าของรถเค้ารับได้ .... เค้าถึงซื้อมาใช้...

ข้อดีของดีเซลมันมี และคนที่เลือกใช้เค้ายินดีจ่ายแพงก็เพราะข้อดีที่เจ้าของรถเค้ามองเห็น
จะบอกจ่ายแพง แล้วได้รถเสียงดัง สอบตก .... อันนั้นแล้วแต่ความชอบของแต่ละท่านนะ

ประมาณเหมือน ad ไทยเอา maserati บล็อกดีเซลมาขายมั้งครับ ลองย้อนกลับไปดู  brand identity, selling point ของ Maserati แล้วมาดูเครื่องรุ่นที่ ad เอามาขาย ทำไมมัน contrast กันได้ขนาดนี้ กับ price tier ระดับนั้น  LOL

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์


เห็น เถียงกันเรื่อง เสียงในรถ
เค้ามีทดสอบ ระดับ ความดังในห้องโดยสารเป็น ตัวเลขนะครับ

เอามาโชว์กันดีกว่า มโนนะครับ
ดีเซล คุณสมบัติ มันก็บอกว่าสำหรับ แรงบิด สูง ลากจูง Off-Road และ ประหยัด
ดังนั้น มันมาประจำการ ใน Crossover หรือ  SUV มันก็ถูกจริตของมันแล้ว

คือ งง ครับ เอา SUV ไปเทียบ กับ Sport Car มั่งละ
ทำไม ไม่เทียบกับ Segment ของมันหว่า  งงดีจัง

ฟิลลิ่งๆๆๆ ล้วนๆ

MacH1

  • บุคคลทั่วไป


เห็น เถียงกันเรื่อง เสียงในรถ
เค้ามีทดสอบ ระดับ ความดังในห้องโดยสารเป็น ตัวเลขนะครับ

เอามาโชว์กันดีกว่า มโนนะครับ
ดีเซล คุณสมบัติ มันก็บอกว่าสำหรับ แรงบิด สูง ลากจูง Off-Road และ ประหยัด
ดังนั้น มันมาประจำการ ใน Crossover หรือ  SUV มันก็ถูกจริตของมันแล้ว

คือ งง ครับ เอา SUV ไปเทียบ กับ Sport Car มั่งละ
ทำไม ไม่เทียบกับ Segment ของมันหว่า  งงดีจัง

ฟิลลิ่งๆๆๆ ล้วนๆ

เรื่องเสียงในรถ ผมไม่ได้คอมเม้นอะนะ ขึ้นกับฝีมือการเก็บเสียงของแต่ละรุ่น แบรนด์ต่างกันไป

แต่โชว์ทั้งที ทำไมไม่เอาเสียงภายนอกมาด้วยเลย มันจะได้เห็นชัดๆ LOL แต่ก็นะผมว่า diesel fan boy เค้ายอมรับเรื่องเสียงดังกระหึมด้านนอกอยู่แล้ว

ถ้าเอา SUV ล้วนๆ ลองเอารุ่นเดียวกันนั้นแหระครับมาเทียบกัน เช่น  maserati levante diesel vs gasoline   

ถูกจริตโลกที่สามหรือเปล่า ไม่รู้เพราะดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ก่อนเบนซินครับ ถ้า follow ตามเทรนด์จากโลกที่หนึ่งอย่าง US, Euro อะนะ

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,230
ถ้ามองแบบคนบ้านๆ ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถเลยนะครับ
ดีเซล=เครื่องรถกระบะ เสียงดัง ดูเป็นรถราคาถูก แต่ทนทาน

ถ้ามองแบบคนชอบรถ
ดีเซล =แรง+ประหยัด (320dนี่ผมว่าเป็นbenchmarkของเก๋งดีเซลเลย)

ปล.ต่างคนต่างความชอบ ดีเซลตัวแรง ก็มี ไม่ได้ด้อยไปกว่าเบนซินหรอกครับ แม้จะบอกว่าhypercarตัวtopสมรรถนะสูงสุดทั้งหลายเป็นเบนซิน
แต่ในชีวิตจริงจะมีสักกี่คนที่มีเงินขับรถแบบนั้น

เรื่องแรงนี้ ผมใช้  benchmark เป็นพวก Subi WRX, VW Golf GTi เป็นหลัก อะไรที่เต่ากว่านั้น ผมว่าไม่แรงนะ ส่วน 320d เป็นยังไงถ้าเทียบกับ WRX, GTi ก็รู้ๆ  ถ้า Bimmer ในไทยผมยกให้ตั้งแต่ 330i  530i ถือว่าแรง ส่วนพวกดีเซลไม่ติดกลุ่มนะครับ

ถ้าไปดูพวก performance car ในทุก tier จะเจออย่างชัดเจนว่า ไม่มีดีเซลติดกลุ่มกะเค้า หลักๆ แรงสู้ไม่ได้ ฟิล เสียงเครื่องไม่ใช่แนว performance
ก็หัวข้อก็ว่าอยู่ว่า"คนทั่วไป"จะเข้าใจผิดไหมว่าดีเซลเป็นตัวแรง
แล้วคุณคิดว่าคนทั่วไปเขาจะซื้อ wrx หรือgolf gtiไหมหละครับ
ดูย้อนแย้ง
ลองอ่านเจตนาของ จขกท นี้ดีๆก่อนครับ รถบ้านๆเครืองดีเซลvsเบนซิน
อย่าเพิ่งตีโพยตีพายเหยียดดีเซลขนาดนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 20, 2017, 19:34:14 โดย lexus »

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,935
    • อีเมล์
งง เสียงดัง ยังเถียงกันได้ ว่าไม่ Premium ซึ่งจริงๆแทบไม่มีผลอะไรกับการใช้งานเลย  ลองไปถามพวกคนยุโรปที่ใช้เก๋งดีเซลกันเป็นปกติ เค้าก็งง คนไทยเป็นอะไรกับเสียงเครื่องนัก  ;D
   ผมเห็นพวกซุปเปอร์คาร์เสียงดังหนวกหูกว่าพวกดีเซลอีกนะ

ออฟไลน์ tvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,479
ไปแถบอังกฤษ ยุโรป ก็ดีเซลเยอะนะ รถยนต์ทั่วไปนี่แหล่ะ หรือจะเหยียดด้วยอีก ฮา ทำเหมือนตัวเองแนวเท่ห์เก๋าคิดกว้างเก่งเทพ ฮา ผมว่านานาจิตตัง ใครชอบไร ขายอะไร เรื่องของเขา เจ้าของกระทู้เขาแค่ถามความเห็น เทียบกับรถทั่วไปก็เท่านั้นนะจ้ะ เบนซินแฟนบอย 5555555555555555555555555555

ออฟไลน์ kittiphat123

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,017
    • อีเมล์
ถ้ารถกระบะ กับ ppv ต้องดีเซล

เก๋งกะ suv เบนซินได้อยู่

+1 ครับ ถ้ากระบะ/PPV เครื่องเบนซิน ต้องเครื่อง3000 V6 แบบน้องปา แต่น้องปา ก็ไปไม่รอด ไม่มีเบนซินในPJSตัวปัจจุบัน
(ค่ายอื่นก็ไม่คิดทำ คงเหลือไว้ที่ FJN 2.7)

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,041
สมัย e90 LCI ก็เห็นชู 320d มาเป็นตัวแรงนะครับ (ไม่นับ 325i limited production)

ออฟไลน์ sittipong036

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 19
    • อีเมล์
ผมคนหนึ่งกำลังสนใจCRV G5อย่างมาก  แต่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถ กำเครียดเลยครับ ว่าตกลงเบนซิน2400 กับ ดีเซล1600   รุ่นไหนมันอัตตราเร่งดีกว่ากันแน่ เครียดสุดๆครับ

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์


เห็น เถียงกันเรื่อง เสียงในรถ
เค้ามีทดสอบ ระดับ ความดังในห้องโดยสารเป็น ตัวเลขนะครับ

เอามาโชว์กันดีกว่า มโนนะครับ
ดีเซล คุณสมบัติ มันก็บอกว่าสำหรับ แรงบิด สูง ลากจูง Off-Road และ ประหยัด
ดังนั้น มันมาประจำการ ใน Crossover หรือ  SUV มันก็ถูกจริตของมันแล้ว

คือ งง ครับ เอา SUV ไปเทียบ กับ Sport Car มั่งละ
ทำไม ไม่เทียบกับ Segment ของมันหว่า  งงดีจัง

ฟิลลิ่งๆๆๆ ล้วนๆ

เรื่องเสียงในรถ ผมไม่ได้คอมเม้นอะนะ ขึ้นกับฝีมือการเก็บเสียงของแต่ละรุ่น แบรนด์ต่างกันไป

แต่โชว์ทั้งที ทำไมไม่เอาเสียงภายนอกมาด้วยเลย มันจะได้เห็นชัดๆ LOL แต่ก็นะผมว่า diesel fan boy เค้ายอมรับเรื่องเสียงดังกระหึมด้านนอกอยู่แล้ว

ถ้าเอา SUV ล้วนๆ ลองเอารุ่นเดียวกันนั้นแหระครับมาเทียบกัน เช่น  maserati levante diesel vs gasoline   

ถูกจริตโลกที่สามหรือเปล่า ไม่รู้เพราะดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ก่อนเบนซินครับ ถ้า follow ตามเทรนด์จากโลกที่หนึ่งอย่าง US, Euro อะนะ

อันนี้ผมขอให้ความเห็นเพิ่มเติม ในประเด็นที่ว่า ดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ครับ ....

ผมกลับมองต่างในประเด็นนี้นะ ... ผมว่าอนาคตของดีเซลยังไปได้อีกยาวๆ ในหลายๆประเทศโดยเฉพาะ "ไทย" ยุโรป เค้ามีมาตราฐานด้านไอเสียสูง ...ซึ่งมันเป็นกำแพงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ... แต่ในทางกลับกัน เครื่องยนต์ดีเซลยังไม่หยุดพัฒนานะครับ และยังคงพัฒนาไปได้อีกไกลด้วย

และยิ่งเฉพาะในไทยเอง ที่รถกระบะ และ PPV เป็นรถยอดนิยม ที่ใช้เครื่องดีเซลเป็นหลัก และรวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ตอนนี้ก็เริ่มยัดดีเซลมาให้ใช้กันแล้ว และเป็นที่ยอมรับกันซะด้วย ...

อย่างที่เห็นกันชัดๆคือ maserati levante ที่ผู้นำเข้าชูดจุดขายที่มันเป็นเครื่องดีเซล .... เพราะในไทยตอนนี้เครื่องดีเซลมันเป็นที่ยอมรับในวงกว้างคือ ประหยัดน้ำมัน และดูแลรักษาง่าย

BMW 320D ตัวเลขประหยัดน้ำมันคือ 20 โล/ลิตรโดยเฉลี่ย ในขณะที่เบนซิน ทำได้จริงเพียงแค่ 13-15 โล/ลิตรเท่านั้น ..

ดังนั้นประเด็นที่ว่า ดีเซลจะสูญพันธ์ ผมมองว่าเป็นไปไม่ได้ครับ กลับกัน ... มันกลับกำลังนิยมสุงขึ้นเรื่อยๆ ไม่งั้น CRV คงไม่เอาดีเซลมาลงขายหรอกครับ ....

อย่าไปคิดว่าทางฝั่งนั้นเค้าไม่นิยมหรือห้ามใช้เครื่องดีเซลครับ เพราะไม่งั้น  BMW หรือ Benz หรือยี่ห้ออื่นๆในยุโรป คงไม่ผลิตรถที่มีเครื่องดีเซลมาขายกันหรอกครับ ... และตอนนี้เค้าก็กำลังพัฒนาให้มันสามารถปล่อยไอเสียให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดอยู่เท่านั้นเอง  .....

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์

เอาง่ายๆ นะครับ รถคันนึงอายุ Warranty เต็มที่ ก็ 5 ปี อายุโมเดลกะบะ ก็ 10 ปี
ดูกันเป็น ปัจจุบัน
ไม่ใช่ ซื้อรถ ที มอง อเมริกา มองยุโรษ ที่ พื้นฐาน เศรรฐกิจ ค่าครองชีพ ภาษี

ที่นี่ประเทศไทย ดีเซล กับรถบ้าน  กับ รายได้ประชากร และ ความประหยัดน้ำมัน
ผู้ซื้อรถคนไทย เป็นคนกำหนดครับ

ยังไง ดีเซลมันกขายไม่ดีเท่า เบนซินหรอกครับ เพราะ ต้นทุนเครื่องมันแพงกว่า
ยกเว้น คนจะเอา สมรรถนะ ด้านแรงบิดของมัน  น้ำมันมันก็เหม็น ดำ
เครื่อง ข้างนอกก็ดังจริง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 21, 2017, 10:59:37 โดย mamaman »

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
ในมุมมองผม ดีเซล คือรถ ไม่แรง แต่มีแรงดึงเยอะ ประหยัดน้ำมันกว่าเบนซิล ทนทาน และถ้าไปแต่งแบบเห็นแก่ตัวก็จะควันดำครับ

ออฟไลน์ unsignedint16

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 139


เห็น เถียงกันเรื่อง เสียงในรถ
เค้ามีทดสอบ ระดับ ความดังในห้องโดยสารเป็น ตัวเลขนะครับ

เอามาโชว์กันดีกว่า มโนนะครับ
ดีเซล คุณสมบัติ มันก็บอกว่าสำหรับ แรงบิด สูง ลากจูง Off-Road และ ประหยัด
ดังนั้น มันมาประจำการ ใน Crossover หรือ  SUV มันก็ถูกจริตของมันแล้ว

คือ งง ครับ เอา SUV ไปเทียบ กับ Sport Car มั่งละ
ทำไม ไม่เทียบกับ Segment ของมันหว่า  งงดีจัง

ฟิลลิ่งๆๆๆ ล้วนๆ

เรื่องเสียงในรถ ผมไม่ได้คอมเม้นอะนะ ขึ้นกับฝีมือการเก็บเสียงของแต่ละรุ่น แบรนด์ต่างกันไป

แต่โชว์ทั้งที ทำไมไม่เอาเสียงภายนอกมาด้วยเลย มันจะได้เห็นชัดๆ LOL แต่ก็นะผมว่า diesel fan boy เค้ายอมรับเรื่องเสียงดังกระหึมด้านนอกอยู่แล้ว

ถ้าเอา SUV ล้วนๆ ลองเอารุ่นเดียวกันนั้นแหระครับมาเทียบกัน เช่น  maserati levante diesel vs gasoline   

ถูกจริตโลกที่สามหรือเปล่า ไม่รู้เพราะดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ก่อนเบนซินครับ ถ้า follow ตามเทรนด์จากโลกที่หนึ่งอย่าง US, Euro อะนะ

แอนตี้ ดีเซล เหลือเกิน นะ

MacH1

  • บุคคลทั่วไป


เห็น เถียงกันเรื่อง เสียงในรถ
เค้ามีทดสอบ ระดับ ความดังในห้องโดยสารเป็น ตัวเลขนะครับ

เอามาโชว์กันดีกว่า มโนนะครับ
ดีเซล คุณสมบัติ มันก็บอกว่าสำหรับ แรงบิด สูง ลากจูง Off-Road และ ประหยัด
ดังนั้น มันมาประจำการ ใน Crossover หรือ  SUV มันก็ถูกจริตของมันแล้ว

คือ งง ครับ เอา SUV ไปเทียบ กับ Sport Car มั่งละ
ทำไม ไม่เทียบกับ Segment ของมันหว่า  งงดีจัง

ฟิลลิ่งๆๆๆ ล้วนๆ

เรื่องเสียงในรถ ผมไม่ได้คอมเม้นอะนะ ขึ้นกับฝีมือการเก็บเสียงของแต่ละรุ่น แบรนด์ต่างกันไป

แต่โชว์ทั้งที ทำไมไม่เอาเสียงภายนอกมาด้วยเลย มันจะได้เห็นชัดๆ LOL แต่ก็นะผมว่า diesel fan boy เค้ายอมรับเรื่องเสียงดังกระหึมด้านนอกอยู่แล้ว

ถ้าเอา SUV ล้วนๆ ลองเอารุ่นเดียวกันนั้นแหระครับมาเทียบกัน เช่น  maserati levante diesel vs gasoline   

ถูกจริตโลกที่สามหรือเปล่า ไม่รู้เพราะดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ก่อนเบนซินครับ ถ้า follow ตามเทรนด์จากโลกที่หนึ่งอย่าง US, Euro อะนะ

อันนี้ผมขอให้ความเห็นเพิ่มเติม ในประเด็นที่ว่า ดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ครับ ....

ผมกลับมองต่างในประเด็นนี้นะ ... ผมว่าอนาคตของดีเซลยังไปได้อีกยาวๆ ในหลายๆประเทศโดยเฉพาะ "ไทย" ยุโรป เค้ามีมาตราฐานด้านไอเสียสูง ...ซึ่งมันเป็นกำแพงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ... แต่ในทางกลับกัน เครื่องยนต์ดีเซลยังไม่หยุดพัฒนานะครับ และยังคงพัฒนาไปได้อีกไกลด้วย

และยิ่งเฉพาะในไทยเอง ที่รถกระบะ และ PPV เป็นรถยอดนิยม ที่ใช้เครื่องดีเซลเป็นหลัก และรวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ตอนนี้ก็เริ่มยัดดีเซลมาให้ใช้กันแล้ว และเป็นที่ยอมรับกันซะด้วย ...

อย่างที่เห็นกันชัดๆคือ maserati levante ที่ผู้นำเข้าชูดจุดขายที่มันเป็นเครื่องดีเซล .... เพราะในไทยตอนนี้เครื่องดีเซลมันเป็นที่ยอมรับในวงกว้างคือ ประหยัดน้ำมัน และดูแลรักษาง่าย

BMW 320D ตัวเลขประหยัดน้ำมันคือ 20 โล/ลิตรโดยเฉลี่ย ในขณะที่เบนซิน ทำได้จริงเพียงแค่ 13-15 โล/ลิตรเท่านั้น ..

ดังนั้นประเด็นที่ว่า ดีเซลจะสูญพันธ์ ผมมองว่าเป็นไปไม่ได้ครับ กลับกัน ... มันกลับกำลังนิยมสุงขึ้นเรื่อยๆ ไม่งั้น CRV คงไม่เอาดีเซลมาลงขายหรอกครับ ....

อย่าไปคิดว่าทางฝั่งนั้นเค้าไม่นิยมหรือห้ามใช้เครื่องดีเซลครับ เพราะไม่งั้น  BMW หรือ Benz หรือยี่ห้ออื่นๆในยุโรป คงไม่ผลิตรถที่มีเครื่องดีเซลมาขายกันหรอกครับ ... และตอนนี้เค้าก็กำลังพัฒนาให้มันสามารถปล่อยไอเสียให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดอยู่เท่านั้นเอง  .....

คุณลองไปตามดูข่าวเมืองนอกนะครับ มี  implication ไปทางการเลิกดีเซล (ใน passenger car) 

http://fortune.com/2016/09/06/renault-diesel-engines/

https://www.theguardian.com/environment/2016/dec/02/four-of-worlds-biggest-cities-to-ban-diesel-cars-from-their-centres

http://www.bbc.com/news/business-37287129

นับได้แล้วสองกรุ๊ปที่จะเลิกทำดีเซลแล้ว (i.e. VW ไม่มีดีเซลบล็อกใหม่ออกมาแล้ว)  บวกนโยบายภาค macro ในยุโรปที่จะบีบเข้ามาอีก  ส่วนฝั่ง US ขยาดดีเซลนานแล้ว (ยกเว้น big block diesel ที่ใช้ในพวก full-size pickup) เจอ dieselgate เข้าไปตีตะปูฝาโลงเรียบร้อย ส่วนฝั่งจีนก็มาแนวๆเดียวกับ US

ส่วน maserati levante คุณไปดู brand identity กับ price point สุดโหดในไทย (เพราะ hyper protectionism) แล้วหันมาดู choice เครื่องยนต์ที่เอาเข้ามาขายแบบเดียว ว่ามันเข้ากันหรือเปล่า ราคาระดับนั้นควรจะเป็นบล็อก 3.0 twin turbo V6 เบนซิน (350 ม้า ในตัวธรรมดา กับ 430 ม้าในตัว S) ตั้งแต่แรก

ออฟไลน์ Seco

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 79
คนที่บอกว่า ดีเซล ดังแบบรถกระบะ ไม่ชอบที่เสียงเครื่องดังเนี่ย แปลว่า เคยแต่ยืนข้างรถแล้วฟังเสียง แต่ไม่เคยเข้าไปนั่งในรถเลยใช่ไหมครับ

BMW Benz หรือ รถแพงๆอย่าง คาเยนดีเซลเนี่ย ยืนข้างรถมันดังทั้งนั้นล่ะครับ .... แต่ลองไปนั่งในรถสิ ... เงียบกริบ .....

หรือแม้แต่  Cx5 หรือ M2 หรือ แม้แต่กระบะ หรือ PPV เช่น รีโว่ ปาเจโร้ ยืนหน้ารถ มันดังทั้งนั้นล่ะ แต่พอนั่งในรถ โดยเฉพาะเวลารถวิ่งด้วยแล้ว แทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะครับ

แคร์กันแค่ยืนข้างรถ เสียงดังเสียบุคลิค แต่รถยนต์เค้าวิ่งครับ ไม่ได้สต๊าทจอดฟังเสียงเครื่องกัน ดีเซลสมัยนี้ วิ่ง 160-170 แช่ยาวๆนี่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะ ..กลับกัน ในความเร็วเท่ากัน เบนซินกลับส่งเสียงครางของเครื่องยนต์ออกมามากกว่า เพราะใช้รอบสูงกว่า....

ว่าแล้วต้องมามุข ไม่ได้ยินเสียงโรงสีถ้าอยู่ในรถ

แค่เสียงเครื่องแทรคเตอร์กระหึมตั้งแต่อยู่นอกรถ ก็สอบตกแล้วครับ ยิ่งรถแบบ premium tier ยิ่งแล้วใหญ่ คุณจ่ายแพงมากๆในไทยแลนด์ เพื่อมาขับไอ้รถที่เสียงดังแบบไม่เพราะนั้น มันไม่ได้ฟิล premium เลย ไม่คุ้มกับงบที่ลงไปครับ   

สรุปทั้งเสียงภายนอกภายในต้องได้ฟิลครับ (ดูตัวอย่างพวกเครื่อง Slant six, V8 รอบสูงเสียงยิ่งเพราะ) ผมไม่ buy in กับกระแสดีเซลใน passenger car
คุ้มหรือไม่คุ้มก้เงินคนซื้อมั้ยคับ เงินคุณหรอ ชอบจังนะคับกะการดูถูกดีเซล แล้วถ้าวันไหนคุณเลิกฟังเสียงรถจากใน YouTube มาซื้อรถที่มีเสียงที่ชมนักชมหนามาแล้ว ก้เอามาให้ฟังมั่งนะ อยากได้ฟิลมั่งจัง

ออฟไลน์ Seco

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 79


เห็น เถียงกันเรื่อง เสียงในรถ
เค้ามีทดสอบ ระดับ ความดังในห้องโดยสารเป็น ตัวเลขนะครับ

เอามาโชว์กันดีกว่า มโนนะครับ
ดีเซล คุณสมบัติ มันก็บอกว่าสำหรับ แรงบิด สูง ลากจูง Off-Road และ ประหยัด
ดังนั้น มันมาประจำการ ใน Crossover หรือ  SUV มันก็ถูกจริตของมันแล้ว

คือ งง ครับ เอา SUV ไปเทียบ กับ Sport Car มั่งละ
ทำไม ไม่เทียบกับ Segment ของมันหว่า  งงดีจัง

ฟิลลิ่งๆๆๆ ล้วนๆ

เรื่องเสียงในรถ ผมไม่ได้คอมเม้นอะนะ ขึ้นกับฝีมือการเก็บเสียงของแต่ละรุ่น แบรนด์ต่างกันไป

แต่โชว์ทั้งที ทำไมไม่เอาเสียงภายนอกมาด้วยเลย มันจะได้เห็นชัดๆ LOL แต่ก็นะผมว่า diesel fan boy เค้ายอมรับเรื่องเสียงดังกระหึมด้านนอกอยู่แล้ว

ถ้าเอา SUV ล้วนๆ ลองเอารุ่นเดียวกันนั้นแหระครับมาเทียบกัน เช่น  maserati levante diesel vs gasoline   

ถูกจริตโลกที่สามหรือเปล่า ไม่รู้เพราะดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ก่อนเบนซินครับ ถ้า follow ตามเทรนด์จากโลกที่หนึ่งอย่าง US, Euro อะนะ

อันนี้ผมขอให้ความเห็นเพิ่มเติม ในประเด็นที่ว่า ดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ครับ ....

ผมกลับมองต่างในประเด็นนี้นะ ... ผมว่าอนาคตของดีเซลยังไปได้อีกยาวๆ ในหลายๆประเทศโดยเฉพาะ "ไทย" ยุโรป เค้ามีมาตราฐานด้านไอเสียสูง ...ซึ่งมันเป็นกำแพงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ... แต่ในทางกลับกัน เครื่องยนต์ดีเซลยังไม่หยุดพัฒนานะครับ และยังคงพัฒนาไปได้อีกไกลด้วย

และยิ่งเฉพาะในไทยเอง ที่รถกระบะ และ PPV เป็นรถยอดนิยม ที่ใช้เครื่องดีเซลเป็นหลัก และรวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ตอนนี้ก็เริ่มยัดดีเซลมาให้ใช้กันแล้ว และเป็นที่ยอมรับกันซะด้วย ...

อย่างที่เห็นกันชัดๆคือ maserati levante ที่ผู้นำเข้าชูดจุดขายที่มันเป็นเครื่องดีเซล .... เพราะในไทยตอนนี้เครื่องดีเซลมันเป็นที่ยอมรับในวงกว้างคือ ประหยัดน้ำมัน และดูแลรักษาง่าย

BMW 320D ตัวเลขประหยัดน้ำมันคือ 20 โล/ลิตรโดยเฉลี่ย ในขณะที่เบนซิน ทำได้จริงเพียงแค่ 13-15 โล/ลิตรเท่านั้น ..

ดังนั้นประเด็นที่ว่า ดีเซลจะสูญพันธ์ ผมมองว่าเป็นไปไม่ได้ครับ กลับกัน ... มันกลับกำลังนิยมสุงขึ้นเรื่อยๆ ไม่งั้น CRV คงไม่เอาดีเซลมาลงขายหรอกครับ ....

อย่าไปคิดว่าทางฝั่งนั้นเค้าไม่นิยมหรือห้ามใช้เครื่องดีเซลครับ เพราะไม่งั้น  BMW หรือ Benz หรือยี่ห้ออื่นๆในยุโรป คงไม่ผลิตรถที่มีเครื่องดีเซลมาขายกันหรอกครับ ... และตอนนี้เค้าก็กำลังพัฒนาให้มันสามารถปล่อยไอเสียให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดอยู่เท่านั้นเอง  .....
ดีเซลกำลังจะหายไปจริงคับ เพราะเทรนด์รถไฟฟ้าและไฮบริด และเนื่องจากต้นทุนที่สูงมากในการทำให้เครื่องดีเซลปล่อยไอเสียได้ต่ำๆ จึงไม่คุ้มในระยะยาวคับ

ออฟไลน์ LAWMAN

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 36
    • อีเมล์
เคยใช้คัมรี่เบนซิล 2.4 อยู่ 5 ปี ตามสเปคบอกว่าแรงม้าสูงสูดจะมาในรอบ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดมาในรอบ 4,000 รอบ/นาที แต่การใช้งานจริงแทบไม่เคยใช้รอบเครื่องสูงขนาดนั้นเลย หรือถ้ามีใครใช้รถแบบคนปกติแล้วใช้รอบ 6,000 รอบ/นาที ตั้งแต่เกียร์ 1 - 6 ตลอดเวลา ก็ขอดูคลิปหลักฐานหน่อยครับ

ในทางกลับกันใช้ PPV ดีเซล เครื่อง 3.2 แรงม้าสูงสุดมาที่ 3,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดมีมาให้ใช้ตั้งแต่ 1,750 รอบ/นาที โดยปกติการขับรถในขณะออกตัวจากจุดหยุดนิ่งจะใช้รอบเครื่องไม่เกิน 2,000 - 2,500 ซึ่งเป็นช่วงรอบแรงบิดที่ใช้งานได้จริง และการใช้รอบที่ 3,000 กับ 6,000 ย่อมมีผลต่อการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่างกันอย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้นนิยามความแรงของแต่ละบุคคลย่อมต่างกัน แรงต้นดี ออกตัวดี ลอยตัวไว้ หรือ ชอบลากรอบหลายๆพันรอบก็แล้วแต่ความชอบ

ทั้งนี้ ไม่รวมถึงรถซุปเปอร์คาร์ ราคา 10 ล้านอัพ เครื่อง 5 - 6 พัน cc. จำนวนสูบ 8 , 12 , 16 สูบ ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อใช้งานเฉพาะด้าน คือเน้นความเร็วการขับขี่ โดยละไว้ในฐานที่คนทั่วไปเข้าใจ


ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,422
    • อีเมล์
ดีเซลกำลังจะหายไปจริงคับ เพราะเทรนด์รถไฟฟ้าและไฮบริด และเนื่องจากต้นทุนที่สูงมากในการทำให้เครื่องดีเซลปล่อยไอเสียได้ต่ำๆ จึงไม่คุ้มในระยะยาวคับ

ดีเซลในรถบ้านไม่ค่อยได้รับความนิยม ในประเทศที่ มีน้ำมันเหลือใช้ และ รายได้สูง ขนาด ใช้เครื่อง V6 ได้
ดีเซลอาจไม่ได้หายไปในทันที และไม่เฉพาะะดีเซล เพราะ หาก รถไฟฟ้า มาจริง เบนซินก็ลดจำนวนลงเช่นกัน

แต่ผมกลับมองว่า ในขณะที่ แบตเตอรี่มันยังไม่ถูก และ อนาคต ด้านการชาร์ทไฟฟ้า ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ยังอีกหลายปี

ผมว่า ที่น่าจะทำให้ดีเซลในรถบ้านหายไปได้ ก็คือ เบนซินเทอร์โบ บล๊อคเล็กมากกว่าครับ
จากนั้น ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยเป็น ไฮบริด

ยังไง ไทยเราก็ตามหลัง ชาวบ้านเค้าหลายสิบปีนี่กลัวไร