ผมว่ามันคือ "After Shock" จากซึนามิในฝั่งอเมริกามากกว่าครับ ในแง่ของอุตสาหกรรมยานยนต์
คนไทยน่ะปรับตัวเก่งครับ เอาง่ายๆ ดูอย่างเลขทะเบียนใหม่ดิ ถ้ารถป้ายแดง รถออกใหม่น้อยจริง ทำไม๊ ทำไม....เลขทะเบียนแต่ละหมวดมันวิ่งเร็ว
ยิ่งกว่ารถไฟฟ้า BTS ที่ออกจากจตุจักรเข้าอนุสาวรีย์ชัยอีกหล่ะ.....
แต่ข้อสำคัญที่สุดคือเรื่องของ "สภาพคล่องทางการเงิน" คือไฟแนนท์และแบงค์ต่างๆ เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นครับ....
อันนี้คือปัญหาที่ใหญ่กว่าการขายรถไม่ได้.....เพราะอะไร เพราะแม้เซลล์อยากจะขาย คนซื้ออยากจะซื้อ แต่เจ้าของเงินกู้ไม่ให้อ่ะ ก็ต้องเก็บออมเพิ่มเติม
เพื่อให้มีเงินต้นมากพอจะออกรถได้ ดังนั้นปัญหาคือเกิดจากจุดนี้ส่วนหนึ่งครับ ทำให้ตลาดมันชะลอตัวหลังจากเกิดซึนามิ ส่วนหนึ่ง
นอกจากนั้นปัญหาการค้าขาย ส่งออก กิจการอื่นๆ (ส่วนมากจะเป็นในเรื่องอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับต่างประเทศโดยตรงและ สินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆที่เราส่งออก)
อันนี้บ้านเราโดนเต็มๆ จากการตีตลาดจากประเทศอื่นๆในโซนเอเชีย และจากเราเองที่ไม่สามารถรักษาราคาและมาตราฐานการผลิตได้ส่วนหนึ่ง และฐานลูกค้า
ซึ่งอันนี้ก็ทำให้เกิดการชะลอตัวของการเลือกซื้อรถใหม่มากขึ้นเช่นกัน (โดยเฉพาะกลุ่มรถหรู) และออเดอร์การสั่งซื้อที่ลดลงด้วย โรงงานผมก็โดนเต็มๆครับ.....
ส่วนกิจการเื่รื่องอาหารหรือผลผลิตทางการเกษตร สัตว์น้ำแช่แข็ง หรืออะไรเกี่ยวกับอาหารมันขายได้ขายดีอยู่แล้ว ไม่ค่อยจะกระทบเท่าไหร่นะ
วิเคราะห์จากความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ
พอดีผมทำโรงงานเซรามิคอ่ะ ก็เลยพอเห็นภาพในอุตสาหกรรมเซรามิคในประเทศตอนนี้ใกล้สิ้นชีพกันหมดแระ