กระทุ้ชวนคิด : บางทีก็รู้สึกว่า ระบบ 4WD ควรอยู่ในรถทุกขนาดเหมือนกันน่ะ

Jatupon

สำหรับภูมิอากาศ  และสภาพถนนในประเทศไทย  ผมเรียงลำดับความสำคัญที่ 100 คะแนนเต็มดังนี้ครับ

1. สภาพของยางติดรถ (30 คะแนน)  หมายถึงดอกยาง อายุ รวมไปถึงยี่ห้อ รุ่นด้วย เพราะยางเป็นอุปกรณ์เดียวที่สัมผัสกับถนน  เมื่อไรยางเสีย traction เมื่อนั้นก็ต้องพึ่งพาปัจจัยช่วยอื่นๆ เช่นฝีมือคนขับ ช่วงล่าง ระบบช่วยเหลือ เพื่อที่จะเอา traction กลับมา  ผมไม่คิดว่าที่ condition  เดียวกันเปรียบเทียบระหว่าง รถที่ใส่ยาง BS potenza S001  หรือ  MC  pilot  sport 4  จะเกาะถนนน้อยกว่า พวกยาง budget  tyre  จากจีนหรืออินโด  ดังนั้นสำหรับผมเลือกใช้ยางแค่ 3-4 brand  เท่านั้นคือ  Bridgestone ,Michelin,Goodyear & Continental     

2. ผู้ขับขี่ (30 คะแนน)  ประสบการณ์ สภาพร่างกาย สภาพจิตใจ  การคาดการสถานการณ์  ของผู้ขับขี่มีผลมาก จริงๆอยากจะให้เป็นลำดับแรกด้วยซ้ำ เราคงเคยเห็น  clip video  ที่มีคนเอารถ  super  car  หรือรถที่ปรับแต่งแล้วไปซัดแรงๆ จนพลาด หรือยืมรถเพื่อนไปขับแล้ว  missed....จริงๆ แล้วรถเหล่านั้นสมรรถนะสูงแต่ คนขับไปพลักให้มันหลุดจาก  safety factor ไปมันก็เอวัง

3. สมรรถนะของช่วงล่าง ระบบเบรค (20 คะแนน)   จะอิสระ 4 ล้อ คานแข็ง  multilink  หรือปรับแต่งด้วยการใส่สตรัทอะไรก็แล้วแต่  เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย รถที่มีสมดุลดีก็มีโอกาสรอดจากอุบัติเหตุได้มากกว่า  สมดุลคือเมื่อเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่กระทันหันแล้วไม่รถ under มากเกิน  ไม่ over มากเกิน .....ส่วนตัวผมไม่เคยเลือกใช้รถกระบะเลย  แม้มันเอนกประสงค์แค่ไหน  เพราะผมขับรถไม่เก่ง แล้วไม่มั่นใจว่ารถประเภทนี้เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว  โหงวเฮ้ง ช่วงล่าง ระบบเบรคมันจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันได้

4. สภาพเส้นทาง (10 คะแนน)   ขับรถอยู่ดีๆ กลางโค้งดันมีหลุมดักอยู่  หรือถนนเป็นคลื่นเป็นลอน เช่นถนนลาดยางที่หมดสภาพ เพราะโดนสิบล้อบด  เหล่านี้ทำให้รถกระดอน เสียการควบคุมได้   ดูอย่างคอสะพานของมอเตอร์เวย์เป็นต้น   ผมจึงมักเลือกเส้นทางที่คุ้นเคย  หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ไม่เคยใช้   เช่นไปเชียงใหม่ก็ขับไปในถนนพหลโยธินสายหลัก หลีกเลี่ยงการวิ่งขึ้นไปทางที่โค้งเยอะ วางแผนและเช็คสภาพเส้นทางก่อนเดินทาง

5. ระบบตัวช่วยอิเล็กทรอนิกส์ (10 คะแนน)  จะ  VSC , VDC ,ESC stability control  อะไรก็แล้วแต่ แน่นอนว่ามีดีกว่าไม่มีครับ  แต่ผมให้เป็นลำดับสุดท้าย  เพราะเมื่อไรคุณซัดรถจนระบบพวกนี้ต้องออกมาช่วย  แปลว่าข้อ 1-4  ต้องมีอะไรผิดพลาด   

สรุปให้เห็นภาพดังนี้    รถที่ผมใช้ประจำคือ  J32 250XV-V6 

1. ยางติดรถเป็น  BS Potenza S001

2. ประสบการณ์ขับรถ  20 ปี อายุสามสิบกลางๆแล้ว....เลยวัยห้าว  และใจเย็นลงระดับนึงแล้ว

3. เปลี่ยน  shock absorber  เป็น  KYB New SR กระบอกฟ้า  เปลี่ยนสปริงหลังเป็น  pedder (แข็งกว่าเดิม ป้องกันท้ายทรุด) เพราะรถติดแก็สถังโดนัท  ผมว่าตอนนี้รถผมสมดุลดีขึ้น จากเดิมที่เป็น  sedan กลางใหญ่อุ้ยอ้าย โคลง .....ตอนนี้รถกระชับมากขึ้น  ยิ่งพอเปลี่ยนสปริงหลัง + มีถังแก็ส donut มาถ่วงอาการ under   ดีขึ้นเพราะท้ายแข็งขึ้นและผลพลอยได้จากถังแก็สมาช่วยให้ท้ายรถกวาดออกบ้าง เดิมๆ หน้าหนักจนใส่โค้งแรงๆ ตัวแทบไถลออกจากเบาะ พูดง่ายๆว่ารถสมดุลขึ้น (คิดว่านะ)

4. ก่อนเดินทางไกล วางแผนเส้นทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยหาข้อมูลจากเน็ต ก็มักมีคนมาอัพเดตเรื่อยๆ ว่าสภาพทางหลวงตรงนี้เป็นอย่างไร เราก็ระวังไว้

5. รถผมมี VDC เปิดตลอด  7 ปีแล้วยังไม่เคยและไม่อยากใช้

เมื่อรวมคะแนนทั้งหมดแล้ว ผมน่าจะมีที่  75-80 จาก 100  คะแนน  น่าจะอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย 

สำหรับระบบขับสี่ AWD นั้น ถ้าไม่ใช่พวกองุ่นเปรี้ยวบอกตามตรงว่าอยากได้ครับ  แต่
Subaru XV - เครื่องแรงน้อยไป ผมขับ  V6 2.5 จะเปลี่ยนรถอย่างน้อยขอแรงเท่าหรือแรงกว่า   
PJS           - ก็อย่างที่บอกในข้อ 3  ว่าโหงวเฮ้ง ช่วงล่างมันไม่ให้ สำหรับรถกระบะหรือ SUV แบบนี้ต่อให้
                  เป็น  AWD  ผมเอา altis esport ตัวไม่มี VSC  ใส่ยาง  MC pilot sport 4  มาหักหลบฉุก
                  เฉินยังมีโอกาสรอดมากกว่าเยอะ

ไอ้ที่อยากได้คือ  AUDI ตระกูล  Quattro  ครับ คือจบเลย  แต่budget  ไม่ถึง 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 26, 2017, 15:17:04 โดย Jatupon »



Dark Overlord

คิดๆแล้ว Subaru xv เป็นรถที่คุ้มค่าจริงๆ  ขับสี่ล้อ AWD แอร์ออโต้แท้ ถุงลม ระบบควบคุมการทรงตัวมีครบ ราคาไม่เกิน ล้าน ของดีราคาไม่แพง มีอยู่จริงๆ

ผมชอบคำว่าแอร์ออโต้แท้ครับ



Dark Overlord

ขับรถ 4wd Fulltime กับขับสองปกติ

มันต่างกันจริงๆครับ

เทียบระหว่าง XV กับ Altis

ถ้าไปต่างจังหวัดใกล้ๆ XV สบายใจกว่า มั่นใจกว่า (ถ้าไม่เอาไปชนอะไรเข้า)

ปล.เทียบระบบขับเคลื่อน ไม่น่าคุยเรื่องคนขับ ควรตัด Factor นี้ออก เพราะ คนขับคนเดียวกัน วิ่งถนนเดียวกัน 4wd Fulltime มันมี Traction ที่ดีกว่าอยู่แล้ว

ใช่ครับ
มันคนล่ะเรื่องกัน รถที่มี option ดีๆ ก็เรื่องนึง คนขับดีกับขับไม่ดีมันก็อีเรื่องนึงครับ
เอามารวมเป็นประเด็นเดียวกันนั้นสร้างความงงงวยให้กับชีวิต



punn

ครับ รวมๆ กึ่งๆ ครึ่ง ๆ กันเท่าที่ฟังมา แต่เอนเอียงไปทางไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรที่จะไม่มีมากกว่า ซึ่งแต่ละท่านให้ความเห็นที่ผมไม่ได้นึกถึงเยอะเลยครับ แต่ในมุมของคนขับระบบขับ 4 มาก่อนก็คงอยากได้แบบนี้ต่ออีก (โดยเสียงส่วนใหญ่) และโจทย์ ระหว่าง ระบบขับเคลื่อน กับ ความรับผิดชอบของคนขับ อันนี้ ก็คงหาจุดลงตัวลำบาก เพราะพื้นฐาน/ความรับรู้ ต้องเริ่มจากจะสตาร์ท + สติ ต้องครบ ความพร้อมต่าง ๆ อย่างที่บางท่านบอกว่าตัดออกไปก่อน เอาแค่ระบบขับเคลื่อนล้วน ๆ ซึ่งติดรถมาบ้าง พวก VSC ก็น่าจะเพียงพอในระดับนึง แต่ถ้าเลือกได้ ก็อยากให้ 4WD เป็น option ที่เลือกได้เหมือนกันน่ะ 555

ขับจูน4fulltimeมา10ปี คันต่อมาev3.2+ก็ยัง4fulltimeเหมือนเดิม ต่างคนต่างความคิด แต่ตามจริตผม4fulltimeตรงที่สุด แก่อีกหน่อยจะไปดาวลูกไก่

ชอบ 2 ความเห็นนี้ครับ
บอกเลยติดใจมากขับ 4 ใครบอกว่าไม่ได้ใช้ขับ 4 ในไทยนี่ฮาครับ
เพราะแค่เข้าโค้งก็ได้ใช้แล้ว ความมั่นใจต่างกันรู้สึกได้

ใช้จูนขับ 4 มาตลอด 10 ปีเหมือนกันครับ เปลี่ยนเก๋งขับ 2 บ้างไม่สนุกเลย

รถคันต่อๆไปผมนำประเด็นนี้มาอันดับต้นๆเลยนะเนี่ย ถ้ามีขับ 4 ถึงแบรนด์รองก็ยอมหละ

จริงๆครับ คุยเรื่องระบบขับเคลื่อนก็ต้องตัดปัญหาคนขับเก่งไม่เก่งไปก่อน อย่ามารวมกัน
ผมขับไม่เก่งหรอกครับ ไม่ได้เร็วแรงเหมือนใคร แค่ไม่มีอุบัติเหตุมา 10 ปีได้หละ

ส่วนใหญ่ผมยกเครดิตให้ระบบขับ 4 เลยนะ
เพราะผมไปเที่ยวทั่วไทย ถนนไม่รู้จักเยอะแยะ เดี๋ยวดิน เดี๋ยวฝุ่น น้ำขังอีก
ถ้าระบบไม่ช่วยผมก็คงหลุด หมุน ไหล ไปแล้วหละ ฮา

ปอลอ สมัยก่อนขับเก๋งตอนวัยรุ่น แค่เปลี่ยนเลนตอนฝนตกสัก 120 อัพนี่สะเทิ้นจนนับไม่ถ้วนเลย
อายุจะเลข 4 แล้ว ไม่อยากสนุกเหมือนตอนนั้นหละครับ  :o
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ



starlight

แตกต่างความคิดกันออกไป  ทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเอง ตามความถนัดและลักษณะการขับขี่ของตัวเอง 

สำหรับผม  AWD คือตัวตัดสินใจซื้อหรือไม่ เป็นอันดับแรกเลย  ไม่ต้องรอฝนตกกระหน่ำหรือหิตกโปรยปรายเลย  แค่เจอโค้ง หรือพื้นผิวถนนที่มีน้ำขัง  มันก็รู้ถึงความแตกต่างได้ชัดเจน



Auto

คิดๆแล้ว Subaru xv เป็นรถที่คุ้มค่าจริงๆ  ขับสี่ล้อ AWD แอร์ออโต้แท้ ถุงลม ระบบควบคุมการทรงตัวมีครบ ราคาไม่เกิน ล้าน ของดีราคาไม่แพง มีอยู่จริงๆ

ผมชอบคำว่าแอร์ออโต้แท้ครับ
  สมัยก่อนมันมีแอร์  ออโต เทียม  ของ TOYOTA  มาให้นี่ครับ   ด่ากันกระจายเลย  ของเทียม



tongtom

รถดีแค่ไหน ช่วงฝนตกใหม่ๆ กับ ฝนกำลังจะหยุดตก  ผมให้แซงโลดครับ เก่งกว่าเอ็งไปเลย แล้วจะคอยดู... ใครวิ่ง 80 ข้าวิ่ง 65พอ อยากเอาคลิปส่งรายการ เรื่องจริงผ่านจอ เผื่อจะได้เงินค่าน้ำมัน อิๆ

ประสบการณ์อีกอย่างนึง ตอนฝนตกหนักๆ

ถนนที่โค้ง บนเขา หรือโค้งลาดเท ผมไม่ขับเลนที่น้ำไหลไปกองรวมกันแน่ๆ ผมกลัว ขนาดยางดีแค่ไหนก็เหินได้ถ้าประมาท เพราะเราแทบไม่รู้ว่า ตรงจุดนั้นนอกจากน้ำแล้ว มีอย่างอื่นไหลไปรวมกันอีกไหม  ถ้าสมัยก่อนวิ่งเส้น ตาก-แม่สอด สุโขทัย หรือ วังทอง(พิษณุโลก) หล่มสัก หล่มเก่า ...เลย พวกนี้ เขาที่ถนนไม่ดี น้ำเซาะเอาโคลนจากเขา มารวมกัน มันหนัก หน่วงมากๆ ยางดีดน้ำออกไม่ทัน จบมาหลายคันละ รถช่วงล่างล้ำๆ สมัยก่อน AUDI OPEL  ซีตรอง ว่าดีๆ แล้วยังเกือบร่วงเหวเลย ....



boogie2020

ไม่ได้ใส่ใจกับเจ้า AWD เลยคับ  ขับรถติด ๆ คลานๆ  อยู่ในเมืองทุกวี่วัน ..... ไม่อยากเพิ่มภาระ ทั้งค่าน้ำมันและค่าดูแล



ค่ายรถเขาก็คงวิจัยมาแล้วละ ว่ามันเฉพาะกลุ่มจริง ๆ   Audi เองก็เก่ง AWD quattro ไม่แพ้ subaru  ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องขายแต่ AWD เลย  ...เพราะความจำเป็นของคนเรามันไม่เท่ากัน

ปล. คนอีกตั้งกี่ล้านคน ขับรถ FF, FR  ผ่านแอ่ง ผ่านโค้ง ฝนตก ถนนลื่น ....ที่ไม่ตกข้างทาง    นับเป็น % คันที่ตก แล้วมันจิ๊บจ้อยมาก ๆ
-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------



Auto

มันมีในหลายๆ ตัวอยู่แล้วครับ เช่น Jazz หรือ Fit ที่ญี่ปุ่นมี ขับ AWD ขาย หรือพวก Fiesta ที่ออสเตเรียมี AWD ขาย และอีกหลายๆ ตัวที่เมืองนอกมี แต่ไทยไม่มี

แต่บริษัทฯ ผู้ผลิตและแนวทางการตลาด เขามองแล้วว่า ในไทย ความจำเป็น การใช้งาน กลุ่มคน และ ราคา ไม่เหมาะกับบ้านเรา
  ถูกแล้วครับ     ค่ายรถเขาก็อยากทำออกมาเพราะว่ารถในญี่ปุ่นหรือบางประเทศ  พวกอิโคคาร์ก็ประกอบในโรงงานบ้านเราที่นำไปขายบ้านเค้ามันก็มีระบบ 4wd       แต่ปัญหาคือทำออกมาแล้วคนไทยไม่ซื้อ     คำตอบมันจึงอยู่ในคำถามเรียบร้อยแล้ว   ไม่อยากให้คิดว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็น           แต่ให้คิดอีกแบบนึง  มีดีกว่าไม่มีแน่นอน เพราะสมรรถนะเหนือกว่า

          ส่วนวิธีการขับรถบ้านเรานั้น  จริงอยู่ที่บางท่านว่า  ขนาดฝนตกยังซิ่งกันไฟแลบ รถแรงจริงโมกันมาเต็ม   จากชมรมซิ่งแต่ละคนที่สังกัดอยู่        แต่ตัวรถล่ะ โช๊คอะไร เบรคอะไร  ยางอะไร ช่วงล่างแบบไหน     ความปลอดภัยกับสิ่งเหล่านี้แทบไม่ไ่ด้โมดิฟายตามไปด้วยเลย      มันอันตรายจริง  ๆ          หรือบางคนขับด้วยวิธีการขับที่ขาดทักษะในการขับรถจริง ๆ  อย่างความเคยชินใช้กันบ่้อยมาก  แทนที่จะใช้ความสามารถและการประมวลผลในการขับขี่          แต่ใช้ความเคยชินในการขับรถ  มันเลยมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น 

 
            ผมเปรียบเทียบนะ  ผมมี Fortuner  อยู่ 2 คัน 
        1. คันแรก Fortuner 2.7 4x4 fulltime   ขับสนุกเข้าโค้งดี มั่นใจได้ ถ้าได้ยางดีดีมั่นใจว่าไม่หลุดขอเพียงมีสติ กล้าที่จะหักพวงมาลัย ให้มั่นคง แล้วรู้ระยะกับขีดจำกัดของรถ
        2. New Fortuner  2.8 4x4  คันนี้เพิ่งซื้อมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว      ถ้าเอาสมรถนะด้านเครื่องยนต์ ช่วงล่างการซับแรงสั่นสะเทือน  เหนือกว่ารุ่นเดิม            แต่ความมั่นใจในการขับขี่ยังเป็นรอง Fortuner รุ่นเดิมครับเพราะระบบ 4wd  ที่แตกต่างกันแต่ถ้าถามว่าได้ใช้ไหม ก็ได้ใช้หมดละครับดีกว่าไม่มี         

           คือถ้าจะใ้ห้ลงกลับไปซื้อ 2wd  ผมคนนึงล่ะไม่เอา    เพราะเรื่องเงินสำคัญน้อยกว่าชีวิตตนเองครับ ไม่ตายยังหาเงินใหม่ได้    ที่ผ่านมาค่าซ่อมบำรุงระบบ 4wd น้อยกว่าที่คิดเยอะเลย  รถFortuner  คันแรกใช้มา 10 ปีแล้ว นอกจากถ่ายน้ำมันเฟืองหน้าแล้วไม่เคยซ่อมบำรุงอะไรอีก     จะมีก็ sw ไฟเกียร์ 4wd ไม่ติดแต่ระบบยังใช้ได้ปกติ      การกินน้ำมันแทบไม่ไ่ด้ต่างกันก็เลยไม่มีผลกับการเอามาคิด   ที่จะต่างกันเลยคือเรื่องราคาตอนซื้อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 26, 2017, 19:09:28 โดย Auto »



shando

ผมว่ากำลังหลงประเด็นกันอยู่นะครับทั้งฝั่งที่เชียร์ขับสี่และฝั่งที่บอกไม่จำเป็น
ที่จขกทถามคือ ในเมื่อขับสี่มันช่วยให้รถเกาะถนนดีขึ้น ควรเอาระบบขับสี่มาใส่ในรถทุกขนาดมั้ย ไม่ได้ถามว่ามันดีหรือไม่ดี จะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้
คือถ้าพื้นฐานรถเท่ากัน ขับสี่มันเกาะกว่าขับสองอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าควรเอามาใส่รถทุกขนาดมั้ยผมว่าไม่ เพราะถ้าแค่อยากให้รถเกาะถนนมากขึ้น เราสามารถเอาระบบช่วยการทรงตัวต่างๆเช่น ABS ESC TRC รวมทั้งยางดีๆ ใส่เข้าไปในรถได้ ให้ผลไม่ต่างกัน(หรืออาจจะดีกว่า)การใส่ระบบขับสี่อย่างเดียว



Dark Overlord

มันมีในหลายๆ ตัวอยู่แล้วครับ เช่น Jazz หรือ Fit ที่ญี่ปุ่นมี ขับ AWD ขาย หรือพวก Fiesta ที่ออสเตเรียมี AWD ขาย และอีกหลายๆ ตัวที่เมืองนอกมี แต่ไทยไม่มี

แต่บริษัทฯ ผู้ผลิตและแนวทางการตลาด เขามองแล้วว่า ในไทย ความจำเป็น การใช้งาน กลุ่มคน และ ราคา ไม่เหมาะกับบ้านเรา
  ถูกแล้วครับ     ค่ายรถเขาก็อยากทำออกมาเพราะว่ารถในญี่ปุ่นหรือบางประเทศ  พวกอิโคคาร์ปี่ประกอบในโรงงานบ้านเราที่นำไปขายบ้านเค้ามันก็มีระบบ 4wd       แต่ปัญหาคือทำออกมาแล้วคนไทยไม่ซื้อ     คำตอบมันจึงอยู่ในคำถามเรียบร้อยแล้ว   ไม่อยากให้คิดว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็น           แต่ให้คิดอีกแบบนึง  มีดีกว่าไม่มีแน่นอน เพราะสมรรถนะเหนือกว่า

          ส่วนวิธีการขับรถบ้านเรานั้น  จริงอยู่ที่บางท่านว่า  ขนาดฝนตกยังซิ่งกันไฟแลบ รถแรงจริงโมกันมาเต็ม   จากชมรมซิ่งแต่ละคนที่สังกัดอยู่        แต่ตัวรถล่ะ โช๊คอะไร เบรคอะไร  ยางอะไร ช่วงล่างแบบไหน เพื่อความปลอดภัยกับสิ่งเหล่านี้แทบไม่ไ่ด้โมดิฟายตามไปด้วยเลย      มันอันตรายจริง  ๆ          หรือบางคนขับด้วยวิธีการขับที่ขาดทักษาะในการขับรถจริง ๆ  อย่างความเคยชิน   ใช้กันบ่้อยมาก  แทนที่จะใช้ความสามารถและการประมวลผลในการขับขี่          แต่ใช้ความเคยชินในการขับรถ  มันเลยมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น 

 
            ผมเปรียบเทียบนะ  ผมมี Fortuner  อยู่ 2 คัน 
        1. คันแรก Fortuner 2.7 4x4 fulltime   ขับสนุกเข้าโค้งดี มั่นใจได้ ถ้าได้ยางดีดีมั่นใจว่าไม่หลุดขอเพียงมีสติ กล้าที่จะหักพวงมาลัย ให้มั่นคง แล้วรู้ระยะกับขีดจำกัดของรถ
        2. New Fortuner  2.8 4x4  คันนี้เพิ่งซื้อมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว      ถ้าเอาสมรถนะด้านเครื่องยนต์ ช่วงล่างการซับแรงสั่นสะเทือน  เหนือกว่ารุ่นเดิม            แต่ความมั่นใจในการขับขี่ยังเป็นรอง Fortuner รุ่นเดิมครับเพราะระบบ 4wd  ที่แตกต่างกันแต่ถ้าถามว่าได้ใช้ไหม ก็ได้ใช้หมดละครับดีกว่าไม่มี         

           คือถ้าจะใ้ห้ลงกลับไปซื้อ 2wd  ผมคนนึงล่ะไม่เอา    เพราะเรื่องเงินสำคัญน้อยกว่าชีวิตตนเองครับ ไม่ตายยังหาเงินใหม่ได้    ที่ผ่านมาค่าซ่อมบำรุงระบบ 4wd น้อยกว่าที่คิดเยอะเลย  รถFortuner  คันแรกใช้มา 10 ปีแล้ว นอกจากถ่ายน้ำมันเฟืองหน้าแล้วไม่เคยซ่อมบำรุงอะไรอีก     จะมีก็ sw ไฟเกียร์ 4wd ไม่ติดแต่ระบบยังใช้ได้ปกติ      การกินน้ำมันแทบไม่ไ่ด้ต่างกันก็เลยไม่มีผลกับการเอามาคิด   ที่จะต่างกันเลยคือเรื่องราคาตอนซื้อ

อ่านแล้วอยากได้ฟูลไทม์ 555
บ้านเรามีรุ่นไหนบ้างครับที่ฟูล



voyager



ลองใช้แล้วมันก็ดีแหละครับ
ส่วนตัวแล้วผมชอบ xdrive มาก เป็นขับสี่ที่ทำงานร่วมกับ torque vectoring ได้ฉลาดสุดๆ เข้าโค้งง่ายมาก ทั้งทางแห้งทางเปียก

แต่ fulltime AWD ขอให้เป็นตัวเลือกดีกว่า
ใครที่ไม่ได้ใช้ก็ต้องปรับปรุงทักษะการขับขี่ให้เหมาะสม
เจ้าของรถบางคันประหยัดมาก ประกันชั้นสามยังไม่คิดจะทำเลย จะมาอยากได้ของพรรค์นี้เหรอครับ



bravo

ผมก็อยากให้มีรุ่น 4WD Fulltime โดยเฉพาะรถ PPV SUV

แต่ผู้ใช้(บางคน) ก็ไม่เข้าใจในระบบ ไม่เห็นคุณค่าของ 4WD Fulltime คิดไปว่า ซื้อมา ถ้าไม่ได้เอารถไปลุย ก็ไม่ได้ใช้งานระบบขับ 4 ไม่มีประโชยน์ กินน้ำมันเปล่าๆ ซื้อขับ 2 ดีกว่า
มีเสียงเรียกร้องกันเยอะ ตอนสมัยฟอร์จูนเนอร์ออกใหม่ๆ ครับ
พอฟอร์จูนเนอร์ออกรุ่นขับ 2 ออกมา ก็ได้รับความนิยม เพราะค่าตัวที่ถูกว่าด้วยครับ

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime ขับตอนฝนตกถนนลื่น เจอน้ำขังบนพื้นถนนหลายครั้ง อาการเหินน้ำ แฉลบ มีน้อยกว่ารถขับ 2 ครับ



Newhang

เคยใช้ยางติดรถ michelin energy เหินน้ำสุดๆ ผมวิ่งได้80 ยังจะหยุดเลย  หลังจากนั้นเปลี่ยนเป็น bs gr90 เข้า120ยังไม่มีอาการเหินน้ำหน้าแถเลย

ผมว่ามันไม่มีความจำเป็นกับทุกคน ถ้ารู้ลิมิตรถตัวเอง แน่นอนมีน่ะดีกว่าถ้าเงินถึง แต่ถามว่าจำเป็นมั๊ย ผมว่าไม่จำเป็น

เหมือนมีคนบอกว่าขับรถสูงดีกว่า สบายใจ มีอะไรหล่นบนถนนก็ขับค่อมได้ แต่รถเก๋งคนเค้าก็ใช้กันทั่วบ้านทั่วเมือง

ผมเห็นด้วย ว่า 4wd ขับดีกว่า แต่ไม่ใช่ parttime



bravo

เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ



Auto

เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ

  ข้อมูลของคุณ Jimmy ที่ทดสอบไว้   ขนาด New Fortuner  ใหม่ระหว่างรุ่น 2.4 ขับ 2wd  กับ 2.8 4wd  ขับ110   ยังกินน้ำมันต่างกันนิดเดียวเอง  นี่ขนาดเครื่องยนต์ต่างกันด้วยนะ



e:smart Hybrid

ผมขอ ESP พอคับ

จริงๆ ชอบ full time แต่เติมน้ำมันไม่ไหวแน่ๆ



PKS8

เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ


ใช่ครับ มันไม่ได้กินขนาดนั้นเลย NPJS ผมปรับขับสอง กับขับสี่ ทางยาวๆต่างกันแค่ 1กม/ลิตร แต่ความมั่นใจต่างกันคนล่ะเรื่องครับ



nakung

ยางสำคัญสุด
รองลงมา TRC ESP

ใครเคยขับตอนฝนตกบวกน้ำขังเกิน 100 ก็จะเข้าใจได้



Nonlamer

มีให้เลือกก็คงดีครับ แต่ยังไงผมก็คงเลือกซื้อขับ 2 แต่มีระบบช่วยการทรงตัวเหมือนเดิมครับ สำหรับผมที่ขับความเร็วเดินทางปกติแค่นี้ก็เกินพอแล้วครับ



PAN

ใช่ครับผมก็ชอบขับ4ฟูลทาม มันเกาะและมั่นใจดี ถ้าไม่ขับ4ฟูลก็ขอขับหน้า ผมไม่กล้าใช้รถขับหลังเท่าไหร่ กลับปัดแล้วคุมไม่อยู่ แต่ขับ4ก็ถ้ามั่นใจเกินแล้วเกินลิมิตรถนี่ก็คุมไม่ได้ยิ่งกว่า ::)



Auto Messe

เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ


ใช่ครับ มันไม่ได้กินขนาดนั้นเลย NPJS ผมปรับขับสอง กับขับสี่ ทางยาวๆต่างกันแค่ 1กม/ลิตร แต่ความมั่นใจต่างกันคนล่ะเรื่องครับ

คุณเอารถคันเดียวกันปรับแค่ขับ 4 หรือขับ 2 มันก็ต่างกันไม่มากสิครับเพราะน้ำหนักรถมันเท่าเดิม ผมน่ะขับเทียบกับรถสองคัน คันนึงขับสี่กิน 8 โลลิตร อีกคันนึงขับสองกิน 12 ลิตร ใช้งานจริงวิ่งจนหมดถังนะครับ ไม่ใช่วัดทางโล่งวิ่งลอยตัวแล้วเอาตัวเลขมาเทียบกัน ถ้า full time 4wd ไม่กินน้ำมันมากเกินจำเป็น fortuner คงไม่เปลี่ยนจาก full time มาเป็น part time 4wd หรอก



Fly to dream

ยางที่มีดอกและไม่แข็งรีดน้ำดีๆ กับ ESP+TCS แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ 90-100 วิ่งในฝนได้ไม่มีปัญหาละ

ส่วน AWD + ESP+TCS อันนี้ ยิ่งรู้สึกมันใจ แต่ก็ขับไม่เร็วไปกว่านั้นแล้วหละครับ ฝนๆปัจจัยอื่นๆอาจทำให้คุมรถไม่อยู่เพราะเกินลิมิต
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย



PKS8

เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ


ใช่ครับ มันไม่ได้กินขนาดนั้นเลย NPJS ผมปรับขับสอง กับขับสี่ ทางยาวๆต่างกันแค่ 1กม/ลิตร แต่ความมั่นใจต่างกันคนล่ะเรื่องครับ

คุณเอารถคันเดียวกันปรับแค่ขับ 4 หรือขับ 2 มันก็ต่างกันไม่มากสิครับเพราะน้ำหนักรถมันเท่าเดิม ผมน่ะขับเทียบกับรถสองคัน คันนึงขับสี่กิน 8 โลลิตร อีกคันนึงขับสองกิน 12 ลิตร ใช้งานจริงวิ่งจนหมดถังนะครับ ไม่ใช่วัดทางโล่งวิ่งลอยตัวแล้วเอาตัวเลขมาเทียบกัน ถ้า full time 4wd ไม่กินน้ำมันมากเกินจำเป็น fortuner คงไม่เปลี่ยนจาก full time มาเป็น part time 4wd หรอก

ขอทราบ รถที่ขับสี่กิน 8กม/ลิตร และรถที่ขับสองกิน 12กม/ลิตร ครับ

คือตรรกะแปลกๆนะครับ ถ้าจะเทียบขับสองและขับสี่ ต้องเทียบคันเดียวกันแล้วปรับขับสี่และขับสองน่าจะถูกแล้วนะครับเหมือนความเห็นด้านบน ถ้าคุณเทียบ Fortunerขับสี่ กับ Civic ขับสอง มันจะไปเทียบกันได้ยังไงล่ะครับ มันก็ต้องเทียบบอดี้เดียวกันสิครับ

แล้วต่อให้ไม่ต้องลอยตัวทางยาวๆ ใช้ในเมืองนอกเมืองเฉลี่ยกัน ของผมก็ต่างกันแค่ 1กม/ลิตร ผมเลยตั้งขับสี่ไว้ตลอดเลย ไม่จำเป็นต้องใช้ขับสองแล้วครับ



Newhang

เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ


ใช่ครับ มันไม่ได้กินขนาดนั้นเลย NPJS ผมปรับขับสอง กับขับสี่ ทางยาวๆต่างกันแค่ 1กม/ลิตร แต่ความมั่นใจต่างกันคนล่ะเรื่องครับ

คุณเอารถคันเดียวกันปรับแค่ขับ 4 หรือขับ 2 มันก็ต่างกันไม่มากสิครับเพราะน้ำหนักรถมันเท่าเดิม ผมน่ะขับเทียบกับรถสองคัน คันนึงขับสี่กิน 8 โลลิตร อีกคันนึงขับสองกิน 12 ลิตร ใช้งานจริงวิ่งจนหมดถังนะครับ ไม่ใช่วัดทางโล่งวิ่งลอยตัวแล้วเอาตัวเลขมาเทียบกัน ถ้า full time 4wd ไม่กินน้ำมันมากเกินจำเป็น fortuner คงไม่เปลี่ยนจาก full time มาเป็น part time 4wd หรอก

ขอทราบ รถที่ขับสี่กิน 8กม/ลิตร และรถที่ขับสองกิน 12กม/ลิตร ครับ

คือตรรกะแปลกๆนะครับ ถ้าจะเทียบขับสองและขับสี่ ต้องเทียบคันเดียวกันแล้วปรับขับสี่และขับสองน่าจะถูกแล้วนะครับเหมือนความเห็นด้านบน ถ้าคุณเทียบ Fortunerขับสี่ กับ Civic ขับสอง มันจะไปเทียบกันได้ยังไงล่ะครับ มันก็ต้องเทียบบอดี้เดียวกันสิครับ

แล้วต่อให้ไม่ต้องลอยตัวทางยาวๆ ใช้ในเมืองนอกเมืองเฉลี่ยกัน ของผมก็ต่างกันแค่ 1กม/ลิตร ผมเลยตั้งขับสี่ไว้ตลอดเลย ไม่จำเป็นต้องใช้ขับสองแล้วครับ

รถขับสี่ มันต้องเทียบแบบนั้นถูกแล้วครับ
เช่น vigo ขับ2  วิ่งเทียบกับ vigo ขับ4 และการขับแบบลอยลม 110 อย่างเดียวมันล้มเหลวในการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองครับ เพราะรถคันนึงมีมีสภาพการวิ่งที่ได้เปรียบเสียเปรียบต่างกัน

อย่าง vcross ที่ผมใช้ วิ่งนอกเมืองก็ไม่ประหยัดเท่าไหร่ครับ แต่ไม่แพ้เพื่อน  ลองไปเจอรถติดสิครับ โคตรประหยัดเลย ไม่รู้ทำได้ไง
ส่วนการขับปลดขับ2 กับขับ4 ตัวvcross ได้มีการลดการกินกำลังของการหมุนเพลาฟรี ความต่างอัตราสิ้นเปลืองน้อย  ตรงนี้muxเคยนำมาโปรโมท   นั่นหมายความว่ารถขับ4ที่ผลิตก่อนหน้า มีการกินกำลังของรถและอัตราสิ้นเปลืองไม่ดีอยู่พอสมควรเทียบกับรุ่นปัจจุบันแม้จะปลดเป็นขับ2แล้วก็ตาม

ฉะนั้นถ้าจะวัด ควรนำรถขับ2ยกสูงมา1คัน  กับรถขับ4แล้วมาวิ่งขับ2เทียบกันถึงจะถูกต้องครับ



sith(สิทธิ์)

การจะเทียบมันต้องเทียบบอดี้เดียวกัน
เช่น กระบะ ก็เทียบกระบะขับ2เทียบใส่ขับ4


PPV (เรียกตามภาษีบ้านเรา)


SUV

มันไม่ได้ต่างกันจนน่าเกลียดขนาดนั้น
คงไม่ต้องถึงขั้นให้ผมมาร์คสีที่ช่องหรือตัวไหน ขับ4นะ



sith(สิทธิ์)



หรือ ทีนี้มาดูช่อง B - seg
ยังไงก็ต่างกันไม่ถึง 50% แน่นอน
สมมุติรุ่น เฟียตตร้า ได้ 17.90 กิโลเมตรต่อลิตร ผมให้ชนกับ Honda CRV 2.4 4WD  ที่ได้ 14.29 กิโลเมตรต่อลิตร
เครื่องยนต์ 1.0 อีโคบูส กับเครื่องใหญ่กว่า 2,400 กินน้ำมันยังไม่ต่างกันเยอะเลยครับ



flybigbear


เคยขับรถ full time 4wd มาเป็นสิบปีไปมาทั่วประเทศ บอกได้เลยว่าประเทศไทยไม่จำเป็น ไม่มีโอกาสได้ใช้หรอก ต้องหาเรื่องหาถนนไปลองใช้ให้มันทำงาน ขนาด vsc รถเก๋งยังไม่เคยทำงานเลย ถ้าเข้าโค้งขนาด vsc ทำงานนี่คนนั่งตกเบาะจนหันมาด่าให้ลดความเร็วแล้ว และระบบ 4wd ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มขึ้นมา 50% รับกันได้ไหมล่ะครับ

รถรุ่นไหนครับ ที่กินน้ำมันต่างกันถึง 50%

ผมเคยใช้ฟอร์จูนเนอร์ 4WD Fulltime เทียบอัตราสิ้นเปลือง ที่พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในคลับ กับรถ 2WD ต่างกันแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรต่อลิตร (ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วย)
จนบางคนที่ซื้อรุ่น 2WD ถึงกับบ่นว่า ถ้ารู้ว่ากินน้ำมันต่างกันกับ 4WD นิดเดียว รู้งี้ออก 4WD ดีกว่า

สรุป ถ้ารถรุ่นที่ผมซื้อ มีให้เลือกทั้ง 2WD และ 4WD Fulltime ผมเลือก 4WD แน่นอนครับ


ใช่ครับ มันไม่ได้กินขนาดนั้นเลย NPJS ผมปรับขับสอง กับขับสี่ ทางยาวๆต่างกันแค่ 1กม/ลิตร แต่ความมั่นใจต่างกันคนล่ะเรื่องครับ

คุณเอารถคันเดียวกันปรับแค่ขับ 4 หรือขับ 2 มันก็ต่างกันไม่มากสิครับเพราะน้ำหนักรถมันเท่าเดิม ผมน่ะขับเทียบกับรถสองคัน คันนึงขับสี่กิน 8 โลลิตร อีกคันนึงขับสองกิน 12 ลิตร ใช้งานจริงวิ่งจนหมดถังนะครับ ไม่ใช่วัดทางโล่งวิ่งลอยตัวแล้วเอาตัวเลขมาเทียบกัน ถ้า full time 4wd ไม่กินน้ำมันมากเกินจำเป็น fortuner คงไม่เปลี่ยนจาก full time มาเป็น part time 4wd หรอก

ขอทราบ รถที่ขับสี่กิน 8กม/ลิตร และรถที่ขับสองกิน 12กม/ลิตร ครับ

คือตรรกะแปลกๆนะครับ ถ้าจะเทียบขับสองและขับสี่ ต้องเทียบคันเดียวกันแล้วปรับขับสี่และขับสองน่าจะถูกแล้วนะครับเหมือนความเห็นด้านบน ถ้าคุณเทียบ Fortunerขับสี่ กับ Civic ขับสอง มันจะไปเทียบกันได้ยังไงล่ะครับ มันก็ต้องเทียบบอดี้เดียวกันสิครับ

แล้วต่อให้ไม่ต้องลอยตัวทางยาวๆ ใช้ในเมืองนอกเมืองเฉลี่ยกัน ของผมก็ต่างกันแค่ 1กม/ลิตร ผมเลยตั้งขับสี่ไว้ตลอดเลย ไม่จำเป็นต้องใช้ขับสองแล้วครับ

รถขับสี่ มันต้องเทียบแบบนั้นถูกแล้วครับ
เช่น vigo ขับ2  วิ่งเทียบกับ vigo ขับ4 และการขับแบบลอยลม 110 อย่างเดียวมันล้มเหลวในการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองครับ เพราะรถคันนึงมีมีสภาพการวิ่งที่ได้เปรียบเสียเปรียบต่างกัน

อย่าง vcross ที่ผมใช้ วิ่งนอกเมืองก็ไม่ประหยัดเท่าไหร่ครับ แต่ไม่แพ้เพื่อน  ลองไปเจอรถติดสิครับ โคตรประหยัดเลย ไม่รู้ทำได้ไง
ส่วนการขับปลดขับ2 กับขับ4 ตัวvcross ได้มีการลดการกินกำลังของการหมุนเพลาฟรี ความต่างอัตราสิ้นเปลืองน้อย  ตรงนี้muxเคยนำมาโปรโมท   นั่นหมายความว่ารถขับ4ที่ผลิตก่อนหน้า มีการกินกำลังของรถและอัตราสิ้นเปลืองไม่ดีอยู่พอสมควรเทียบกับรุ่นปัจจุบันแม้จะปลดเป็นขับ2แล้วก็ตาม

ฉะนั้นถ้าจะวัด ควรนำรถขับ2ยกสูงมา1คัน  กับรถขับ4แล้วมาวิ่งขับ2เทียบกันถึงจะถูกต้องครับ
ใช่ครับ แม่นเลย



Pasakorndvm

นอกจากสติแล้ว คุณภาพกับสภาพยางก็มีผลนะครับ อาศัย AWD อย่างเดียวก็ไม่แน่
'19 Honda Civic EL



Carrera

จขกท พูดถึงสังคม ภาพรวมของปัญหาอุบัติเหตุในบ้านเรา  พูดกันตรงๆมันเลี่ยงไม่ได้หรอกครับ ว่า อุบัติเหตุบ้านเรา  มันเกิดจาก "คน" ครับ  ไม่ใช่ "รถ"

ปัญหาทุกอย่างมันจะไม่เกิด  ถ้าจำกัดความเร็วได้เข้มๆแบบเมืองนอกนะผมว่า 

ขับรถที่ไม่ใช่ขับสี่มานานมาก  แต่ก็ "ไม่เคย" มีโอกาสได้ใช้ระบบช่วยเหลือของรถ  เพราะปกติ "ขับแบบมีสติ" "ความเร็วตามกฎหมาย"    ทำให้ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ

ตอนสอบใบขับขี่  ผมว่าเขาก็สอนนะ  เรื่องเว้นระยะคันหน้า  แต่สมองคนไทยมันความจำสั้น สอบแปปๆก็ลืมกันหมดนั่นละครับ

ทำได้ตามกฎอุบัติเหตุมันก็ไม่เกิด

แก้ที่รถผมว่ามันปลายเหตุ  ลำพังรถน่ะ  มันทำตัวเองให้เสียอาการไม่ได้  มันต้อง  "คน"  นั่นแหละ ที่ขับเร็วเกินจนต้องให้รถเข้ามาช่วยเหลือ

บางทีผมก็ไม่เห็นเหตุที่จะต้องเอารถทุกคันไปแบกน้ำหนักเพิ่มเพื่อระบบขับสี่   ควรดัดสันดานคนขับ  ปรับหนักๆแบบ ยุโรปเขาสักที  แนวคิดออโตบาร์นมันขายฝัน  วินัยคนไทย นิสัยไทยๆ มันไม่มีทางเป็นไปได้  เอางบสร้างถนน ไปซื้อกล้องมาถ่ายแล้วปรับตามเรตค่าครองชีพ  อัตราความเร็วแบบ UK ก็เข้าท่า

เมืองนอกเขาขับสี่เยอะนะ  แต่เหตุผลเขาคือ "เขามีหิมะ พื้นถนนเป็นน้ำแข็งสุดลื่น  ไหนจะต้องมีแบ่ง Snow Tire , Summer Tire"  มามองพี่ไทยแล้ว  ก็ลาดยางปรกติ  เต็มที่ด็แค่ฝนตก  แต่ขับรถชุ่ยๆ ประมาทกันเอง  เอาจริงๆ มีแค่ VSC ESP พวกนี้ก็เหลือพอแล้ว

ย้ำว่าพูดถึงการขับรถให้ปลอดภัยไม่ไปเดือดร้อนชาวบ้าน ไม่ได้เอาในแง่สมรรถนะขับเอามันส์เอาฟีลลิ่งส่วนบุคคล

คนทำตามกฎจราจรนี่น้อยนะ  เอาสัดส่วนเพื่อนผม  คนขับรถเรียบร้อยๆไม่มักง่ายนี่มีแค่ 2/10 คนเองนะ   เห็นการใช้รถใข้ถนนบ้านเรา  เทียบกับเมืองนอกเขาแล้วรู้สึกว่ามันด้อยพัฒนามากๆ 

 (อารมณ์หลังจากดู  Topgear พอมาเปรียบเทียบ มันเห็นได้ชัดว่าพี่ไทยขับรถได้อินเดียสไตล์มากๆ  แต่ผมว่าหลังๆ  เขาเริ่มพัฒนาให้อุบัติเหตุน้อยลง    ส่วนพี่ไทยเราก้าวหน้าพยายามแซงเป็นที่ 1 ในด้านปริมานอุบัติเหตุแทน  ขับรถกันแย่ลงทุกวันๆ)

บางทีก็น้อยใจเล็กๆ ว่าผมขับรถตามกฎหมายทุกอย่าง   ส่วนมากก็เจอไอ้พวกประมาท  ขับผิดกฎหมาย  ขับไร้สามัญสำนึก  ทะเล่อทะล่ามาชน   หรือปาด แทรก จนรถติดขยับไม่ได้  เดือดร้อนก็เพราะไอ้พวกเห็นแก่ตัวพวกนี้   จนบางทีก็คิดว่า  นี่ตูอยู่ในประเทศด้อยพัฒนา  เละเทะไร้ระเบียบขนาดนี้เลย   กฎหมายไม่ได้ช่วยสร้างความมั่นใจ  ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินผมได้เลย  ต้องระมัดระวังเอาเองทุกอย่าง  หรือต่อให้ระวัง  ผมก็อาจจะตายได้ทุกเมื่ออยู่ดี  เหมือนเคส CLS ไปชน Fiesta ที่ขับเฉยๆปกติก็ตายได้
 :'(  :-\
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 27, 2017, 10:16:24 โดย Butterzai »