McLaren 720S (2017)ราคาอย่างเป็นทางการ
McLaren 720S (2017) : 29,500,000 บาท (ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงมอเตอร์โชว์ 500,000 บาท)
สั่งซื้อรถภายในสิ้นเดือนเมษายนจะใช้เวลารอรถประมาณ 6 เดือน
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้แวะเข้าไปที่โชว์รูม Niche Cars พระราม 9
เพื่อเก็บภาพ McLaren 720S คันเดียวกันกับในงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งมีกำหนด
จะถูกส่งกลับก่อนสิ้นเดือนเมษายน จึงได้นำมาให้ชาว Headlightmag
ดูคันจริงอย่างใกล้ชิด
แน่นอนว่าเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ล้ำค่าที่ต้องถูกส่งกลับอังกฤษ ผมจึงยัง
ไม่ได้มีโอกาสลองขับ แต่เท่าที่ลองนั่งดู รู้สึกประหลาดใจที่สามารถลุก
เข้าออกได้ง่าย เพราะประตูเปิดเป็นช่องกว้างกินบริเวณหลังคา มีจุดให้
จับให้ค้ำตัวเยอะ ถ้าใครเคยขึ้นลง Lamborghini Aventador มาแล้ว
720S นี่ยิงตัวเข้าออกได้สบายกว่ามากครับ
ช่วงล่างหน้าสามารถยกระดับขึ้นเพื่อการไต่เนินเล็กได้
ตัวถังเป็นแบบ Carbon Fibre Monocage II ซึ่งใช้โครงสร้าง
อ่างคาร์บอนแบบซูเปอร์คาร์ขนานแท้ วางเครื่องไว้กลางลำ
ออกแบบตัวรถตามลักษณะแอโร่ไดนามิกส์ของซูเปอร์คาร์สมัยใหม่
ที่ไม่เน้นสปอยเลอร์โตๆ ปีกใหญ่ๆ แต่ใช้การคำนวณความสัมพันธ์
ระหว่างส่วนโค้ง ส่วนแบน และช่องไหลของอากาศรอบตัวรถ
ห้องโดยสารเข้าออกง่ายกว่าที่คิดเพราะประตูเปิดกินบริเวณถึงหลังคา
เบาะนั่ง เตี้ย แข็ง เน้นซัพพอร์ทเต็มพิกัดแบบซูเปอร์คาร์ เนื้อที่กระดิกตัว
ถือว่าสบายเหลือเชื่อเมื่อเทียบขนาดรถกับขนาดตัวผม
แดชบอร์ดทำมาไม่เน้นอลังการ ส่วนล่างลีบและแคบแต่ทำให้มีเนื้อที่สำหรับ
วางขาเยอะ แหกเข่าได้สบาย พูดง่ายๆเลยว่าเวลานั่งรู้สึกสบายกว่า Aventador
เสียอีก แผงควบคุมอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับความแรงต่างๆจะอยู่ใกล้มือ หาง่าย
แต่สวิตช์บางอย่างจะถูกวางไว้ในตำแหน่งแปลกๆบ้าง
หน้าปัดแบบจอ TFT ขนาดใหญ่ ปกติจะพับหลบสายตา โชว์ให้เห็นเฉพาะข้อมูล
ที่จำเป็น แต่สามารถกดสวิตช์เปิดหน้าปัดที่อยู่ทางขวามือ รวมถึงสามารถเลือก
โหมดในการแสดงผลได้
คอนโซลกลาง เป็นจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ สามารถใช้เพื่อแสดงระบบนำทาง
ระบบบันเทิง หรือแม้แต่การปรับความเย็นแอร์ ก็ใช้นิ้วแตะแล้วลากเหมือน
สมาร์ทโฟน
Cruise Control เป็นก้านหลบอยู่ข้างหลังพวงมาลัย เพราะ
McLaren จะต่างจาก Ferrari ตรงที่ไม่ชอบให้บนก้านพวงมาลัย
มีปุ่มเยอะแยะ สำหรับพวกเขา พวงมาลัยมีหน้าที่ไว้ให้จับกับหมุน
ตำแหน่งสวิตช์ปรับเบาะ หลบมุมอยู่ด้านในของเบาะและคลำหา
เดาทางสวิตช์ยากมาก ถ้าคนไม่เคยชินกว่าจะคลำรู้ว่าจะปรับ
อะไรได้บ้างน่าจะนาน
พวงมาลัย แม้จะปรับด้วยคันโยกมือดึง แต่ก็ปรับสูงต่ำและเข้าออก
ได้เป็นระยะที่เยอะมากจนน่าจะรองรับคนขับได้หลายไซส์
เนื้อที่เก็บสัมภาระ จุได้มาก แต่แคบ และไม่กว้าง ไม่เหมาะกับการ
ตีกอล์ฟ แต่ยังสามารถใส่กระเป๋าเดินทางไซส์ผู้ชายเที่ยวได้ และ
สามารถแวะซื้อของกิน แคบหมูถุงใหญ่ที่กาดวโรรสก่อนกลับบ้านได้
ด้านหลังเบาะนั่ง มีพื้นที่สำหรับวางของเช่นกระเป๋าขนาดเล็ก
ผ้าห่มเผื่อไปจอดนอนดูดาวบนดอย
ช่วงล่างดับเบิลวิชโบน 4 ล้อ ปรับความหนืดของช่วงล่างแบบ
Proactive Chassis Control II
ล้อและยาง เป็นของ Pirelli P Zero
ด้านหน้า ขนาด 245/35/19 กระทะล้อกว้าง 9.0 นิ้ว
ด้านหลัง ขนาด 305/30/20 กระทะล้อกว้าง 11.0 นิ้ว
ฝากระโปรงตรงส่วนเหนือเครื่อง เปิดไม่ได้ เวลาเซอร์วิสคงต้องยกลงมาเท่านั้น
เหมือนกับรถสปอร์ตและซูเปอร์คาร์ยุโรปสมัยนี้บางรุ่น
Engine เครื่องยนต์เครื่องยนต์แบบใหม่ล่าสุด บล็อค M840T V8 ทำมุม 90 องศา เทอร์โบคู่ Twin-scroll
พร้อมกลไกวาล์วแปรผัน VVT ความจุ 3,994 ซี.ซี. (4.0 ลิตร) ให้พลัง 720PS ที่
7,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 770 นิวตัน-เมตรที่ 5,500 รอบต่อนาที
ส่งกำลังผ่านเกียร์ SSG - Seamless Shift Gearbox 7 จังหวะ ปล่อยมลพิษ
249 กรัม/กิโลเมตร
720S ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 2.9 วินาที และเร่งจาก
0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 341 กิโลเมตร
ต่อชั่วโมง
อย่าถามว่าคันนี้มีรีวิวหรือคลิปมั้ย เพราะคงไม่มีวาสนาได้ขับครับ