ผู้เขียน หัวข้อ: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ  (อ่าน 28367 ครั้ง)

ออฟไลน์ TrentXWB

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 831
  • เมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ
ละเอียดยิบบบบบบครับ  ;D

ขอถามสองข้อที่ผมสงสัยไว้เป็นความรู้ครับ

1.ตอนที่เคลมคอยล์เย็น มันเกิดปัญหาอะไรหรอครับ (ตู้แอร์รั่ว หรือแอร์ไม่เย็นอะไรทำนองนั้นรึเปล่าครับ หรือว่าไม่ใช่) รถผมดันไม่มีเคลมนี่สิเลยแอบหวั่นนน

2.โช้คชุดใหม่ที่ใช้เป็นตัวไหนหรอครับ

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ถ้ารถใหญ่อย่างกระบะยกสูง หรือ PPV อย่างต่ำๆ 4 หมื่นบาทต่อปี
(แพงที่ค่ายาง ชุดนึงเกือบ 3 หมื่น ตีว่าสามปีเปลี่ยนชุดนึง)

ส่วนรถเก๋ง ผมว่า Eco car หรือ C-Segment ค่าใช้จ่ายไม่ค่อยต่างกันมาก
จะแพงกว่าคือค่าประกันต่อไป ค่ายาง ค่าแบต ที่ใช้ spec ใหญ่กว่า
กับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่กินมากกว่า
นอกนั้นอะไหล่สิ้นเปลืองราคาต่อชิ้นต่างกันน้อยมาก

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
อันนี้คันที่บ้าน
mirage ของแฟน เข้าสู่ปีที่ 5 ขับทุกวัน วิ่ง 11x,xxx  เปลี่ยนถ่ายนำมันเครื่องสั่งเคราะห์แท้(ของศูนย์)+ใส่กรอง+อะไหล่ที่เกี่ยวข้อง 6 เดือนต่อครั้ง ครั้งละประมาณ ไม่เกิน 1500 บาท
ของที่ศูนย์เสนอให้ไม่จำเป็นไม่เอา จริงๆ ไม่เอาเลย ยกเว้นแถมให้  อะไหล่ มีเคลมครั้งเดียว เกี่ยวกับระบบน้ำมันที่มีการเรียกเข้าไปเปลี่ยนฟรี 
อื่นๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ไม่เคยซ่อมอะไร ไม่เคยเปลี่ยนอะไหล่  มีค่ายาง ตอนนี้ชุดที่สอง ที่เหลือก็เติมน้ำมันครับ 
สามเดือนที่ผ่านมา ใส่กล้อง 1729 บาท
ไปเที่ยวมาแล้วทั่วไทย ทน ประหยัด ไม่เคยกินข้าวลิง แต่ต่อไปก็คงจะไปคบ M2 แล้วครับ เห็นข้อมูลว่าประหยัดจริง

ค่าใช้จ่ายเข้าศูนย์  เฉลี่ย1500*10 =  15000
เปลี่ยนล้อทั้งชุดตอนเคลื่อนรถออกจากศูนย์ 100 เมตร =  22000
เปลี่ยนยางครั้งที่สอง 3200*4    = 12800
มีใส่ สปอยเลอร์ 3500

หลักๆ มีเท่านี้ครับ เพราะอะไหล่อื่นๆ ไม่เคยเปลี่ยน

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
ผมดูว่าไม่เยอะนะครับ   หลายส่วนเป็นค่ากิเลสของเจ้าของ

ผมก็เช่นกัน  ถ้าไม่มีกิเลส  ใช้น้อยมาก  เจ้า  t 31  ที่ใช้มา 6 ปี  ไม่ได้เคลมอะไรเลย  เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ตามกำหนด (ผมใช้บริการอู่ โมบิล) ครั้งละสองพันกว่าบาท  (น้ำมันเกียร์เปลี่ยนที่ 0 สี่หมื่นโล ครั้ง)

  ยางสองชุด  ....  กับความอยาก  ฟร้อนท์ + เบสบ็อก..เปลี่ยนโช้คหลัง.แค่นั้น 

ออฟไลน์ h0661036

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 927
ของผม vios 2012  ที่เปลี่ยนมีแค่บุชปีกนก 1 ชิ้น  ที่เหลือก็เปลี่ยนตามเวลาเข้าศูนย์ฯ  และค่าล้างรถ 140 บาท  2 อาทิตย์ล้างที

   ผมมองว่า รถที่ราคาถูก อะไหล่ถูก  ต้องดูด้วยว่ามันใช้ได้นานมั้ย   พวกอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ บางเจ้าอย่าง ซัมมิต ทำแล้วก็รุ่ง  บางเจ้าอย่าง xxxx (ดูรายชื่อได้ในหุ้น)  ทำแล้วก็ร่วง โดนฟ้องกระจายเรื่อง defect

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
  ค่าดูแลเจ้ามาร์ชหรืออิโคคาร์ระดับนี้ เค้าทำมาูถูกมากนะครับ  ไม่ไ่ด้แพงเลย    ถ้าขนาดนี้ยังรับกันไม่ได้ไม่เข้าศูนย์ หรือมีปัญหากับค่าบริการค่าดูแลรถ    ถ้าถึงขั้นนี้ก็ไม่ควรมีรถแล้วล่ะเพราะว่ายี่ห้ออื่น รุ่นอื่น ๆี่ใหญ่กว่านี้ก็มีค่าดูแลแพงกว่านี้ทั้งนั้นล่ะ       

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
จขกท เป็นคนละไสตล์กับผมเลย ผมเป็นคนไม่เคยขี้เหนียวกับเรื่องรถ น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์แท้ตลอด ของเหลวชนิดอื่นคู่มือระบุว่าเปลี่ยนที่กี่กิโลผมเปลี่ยนก่อนครึ่งนึง อย่าคิดว่าฟุ่มเฟือยเพราะแต่ละอย่างหลักร้อยทั้งนั้นถ้าเป็นรถญี่ปุ่น เคยเอารถผมไปเทียบปีเดียวกันสภาพรถผมดีกว่าแยอะ แทบจะสภาพป้ายแดง ทั้งๆที่ใช้งานผมก็ใช้หนัก เครื่องนี่เรดไลน์ก็บ่อย เสียงยังแน่นกว่ารถที่เปลี่ยนตามคู่มือศูนย์ซะอีก แลกกับการได้ใช้รถที่สมบูรณ์สำหรับผมถือว่าคุ้ม พวกหัวเชื้ออะไรผมก็ไม่เติม น้ำมันก็ใช้ e20 ตลอดไม่เคยใช้เกรดพรีเมี่ยม (เหตุผลแค่มันแรงกว่าเมื่อเทียบราคา)


ผมอ่านรายการของ จขกท ก็มีแอบคิดนะ คุณรักรถจริงหรือป่าว หรือรักเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่า เหมือนคนชอบคิดเล็กคิดน้อย ไม่เคยให้รางวัลชีวิตตัวเอง

บรรทัดล่างน่ะ ผมก็เคยคิดเหมือนกัน (ผมเป็นเพื่อน จขกท. นะ)

แต่หลังๆ ก็คิดต่อไปว่า แล้วผมจะไปคิดทำไม ก็เหลือแต่คอยเบรกๆ บางเรื่องที่เขาคิดย้ำๆ จะลดต้นทุนสถานเดียว
ให้ระวังเรื่องความปลอดภัยด้วย หรือพวกชิ้นไหนเซนซิทีฟก็คอยบอกว่า เฮ้ย เช็คด้วย หรือไปทำเพิ่มดีไหม
ส่วนเขาจะคิดหรือไม่คิดตาม เป็นสิทธิ์ของเขา... ตราบใดที่ผมไม่ได้ไปออกเงินให้เขา คงบังคับกันไม่ได้

ผมมองว่าคนเราไม่จำเป็นต้องให้รางวัลชีวิต ด้วยการบำรุงรักษารถเพียงอย่างเดียวครับ
เพราะถึงผมเองใช้แบบ ดูแลเต็มที่ แล้วก็ใช้สมรรถนะเต็มที่ (น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรดดี
ปรับปรุงแทบทุกชิ้นส่วนที่เปลี่ยนได้ แทบไม่มีอะไรสเป็กเดิม ตั้งแต่ช่วงล่างยันเครื่องเสียง) แต่เอาจริงๆ คือ
ผมใช้รถทั้งหาเงิน ขนของ และอื่นๆ โดยคำนึงแค่เฉพาะความสุขที่ผมได้จากปลายทางของการขับรถน่ะ

ถามว่าผมใช้เงินไปกะรถเยอะไหม เยอะนะ จนถึงทุกวันนี้ ไม่นับเข้าศูนย์ ค่าแต่งรถนี่แทบจะดาวน์ได้อีกคัน
กระนั้น รถสำหรับผมเป็นของใช้ ที่เดิมๆ อาจจะน่าหงุดหงิดไปสักนิด ก็แค่ปรับให้ตรงกับสไตล์และจริต
แต่ดูแลรักษาแต่พอควร ให้มันสบายพอเหมาะ ปลอดภัยสม่ำเสมอ และใช้งานได้เมื่อพร้อมจะใช้ พอแล้ว
ถึงรักรถแค่ไหน ปล่อยวางบ้างก็ได้ อย่าให้เป็นประมาณ อ่านตอบกระทู้แล้วเครียดแทน ดีกว่าครับ

เมื่อก่อน ผมก็กั้กๆ ไว้คับ ดูจากช่วงแรก จะเห็นว่าถ่ายแต่น้ำมันเครื่องจริงๆ แต่พอรถมันเก่า ก็ต้องซ่อมคับ ผมก็เปลี่ยนตลอด อย่างน้ำมันเกียร์ คุณแมวดราม่า ก็เป็นคนแนะนำให้เปลี่ยนทั้งสองครั้ง ตอน 2.6 และ 4.8 หมื่น กับน้ำมันเครื่อง 0W-20 สังเคราห์แท้ ผมคำนวนแล้วคุ้มกว่า ใช้ได้นาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยรถไม่ช้ำคับ

แต่ผมก็ไม่ทำหมดคับ อย่าง ฟลัส ผมไม่ทำ เพราะผมว่ามันแพงไป และต้องใส่ตัวแปลงด้วย ผมคิดว่าผมขับไม่ลากรอบอยู่แล้ว ถ่ายบ่อยๆ เอาเหลือๆ ละ ทุก 2-3 หมื่นโล กรองก็ 4-5 หมื่นโล

อย่างโช๊ค sylphy ผมก็ไม่ทำ เพราะมันต้องใส้สปริงโหลด ซึ่งผมไม่คิดจะโหลดอยู่แล้ว เลยไปจบที่ โช๊ค Excel-G ของ Kayaba แทนครับ

แค่เห็นก็ลายตา  marchนี่ขึ้นชื่อเรื่องอะไหล่เปราะจริงๆนะ  อย่างรถผมเองสี่ปีวิ่งแสนกว่านิด  นอกเหนืออะไหล่ที่อยู่ในระยะประกัน  ผมมีจ่ายเพิ่มแค่ชุดซ่อมเบรคอย่างเดียวประมาณ5000 นอกนั้นไม่เคยจ่ายอะไรเลยไม่รวมพวกค่าใช้จ่ายตามระยะทางอะนะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เป็นแนวทางสำหรับค่าบำรุงรักษา รถ eco car ของนิสสัน ที่น่าสนใจทีเดียว

ผมไม่แน่ใจว่า eco cars ยี่ห้ออื่นๆ ราคาจะใกล้เคียงกันไหม?  :o

อะไหล่เปราะบางจริงๆ คับ แต่ราคามันก็ถูกจริง
เว้น แบตเตอรี่ ที่ใช้ลูกใหญ่เกินไป (ตำหนินิสสัน ดังๆ)

ผมเคยเทียบกับ celerio เข้าศูนย์ ผมว่า march ถูกกว่านะคับ อะไหล่ cele แพงกว่า
ที่ผมว่าอาจใกล้เคียง คือ mirage แต่ยังไม่ได้ดูจริงจัง
ข้อดีของ mirage  คือ ทนกว่า March แต่อะไหล่ผมยอมรับ นิสสันหาง่ายกว่าจริง
ผมไปซ่อม คือ วันเดียวจบ มีอะไหล่พร้อมเปลี่ยนคับ ครบทุกชิ้น

ละเอียดมากครับ
ขอบคุณ จขกทครับ อย่ามาม่าเลยครับ เบื่อ
ขอบคุณคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 15, 2017, 11:45:33 โดย รถสีเขียว »

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ผมคิดแบบเจ้าของกระทู้ไม่ได้ครับ เดี๋ยวเป็นลม แค่ค่าของแต่งก็หลายแสนละ ยังไม่รวมค่าบำรุงค่าซ่อม จัดเต็มทุกรายการ ไม่เคยประหยัดกับเรื่องรถเลย
;D

ค่าใช้จ่ายทั้งนั้นสมชื่อ...รถ(ลด). จริงๆ
ลดจริงๆ คับ
;) suzuki swift 2 ปีเมื่อเมษา ที่ผ่านมากับระยะ 46,000 km

เข้าศูนย์ 5 รอบ
1000
10000-40000
ไม่มีเคลมกับซ่อมอะไร

ตีคร่าวๆ
(2600x3)+5000 =  12800
ประกัน 12000+14000 = 38800

ครบ 60000 km ว่าจะต้องเสียค่ายาง ทั้งหมดก็ประมาณนี้ครับ
มีแค่นี้จริงๆ



ผมเคยประเมิน ราคาซูซุกิจะสูงกว่าหน่อยๆ จริงๆ ครับ แต่ถ้ารถทนทานก็ถือว่าดีกว่าเปลี่ยนจุกจิกนะครับ ::)
จขกท เป็นคนละไสตล์กับผมเลย ผมเป็นคนไม่เคยขี้เหนียวกับเรื่องรถ น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์แท้ตลอด ของเหลวชนิดอื่นคู่มือระบุว่าเปลี่ยนที่กี่กิโลผมเปลี่ยนก่อนครึ่งนึง อย่าคิดว่าฟุ่มเฟือยเพราะแต่ละอย่างหลักร้อยทั้งนั้นถ้าเป็นรถญี่ปุ่น เคยเอารถผมไปเทียบปีเดียวกันสภาพรถผมดีกว่าแยอะ แทบจะสภาพป้ายแดง ทั้งๆที่ใช้งานผมก็ใช้หนัก เครื่องนี่เรดไลน์ก็บ่อย เสียงยังแน่นกว่ารถที่เปลี่ยนตามคู่มือศูนย์ซะอีก แลกกับการได้ใช้รถที่สมบูรณ์สำหรับผมถือว่าคุ้ม พวกหัวเชื้ออะไรผมก็ไม่เติม น้ำมันก็ใช้ e20 ตลอดไม่เคยใช้เกรดพรีเมี่ยม (เหตุผลแค่มันแรงกว่าเมื่อเทียบราคา)


ผมอ่านรายการของ จขกท ก็มีแอบคิดนะ คุณรักรถจริงหรือป่าว หรือรักเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่า เหมือนคนชอบคิดเล็กคิดน้อย ไม่เคยให้รางวัลชีวิตตัวเอง

ใช่ครับ เมื่อเทียบกับรถปีเดียวกันที่ศูนย์ รถผมใช้งานหนักกว่า ขับทีนึง 3-4 ชั่วโมง/วัน เสาร์+อาทิตย์ ไป ตจว. ใช้รถทุกวัน ปีละ 360วันเต็ม ๆ ยกเว้นตอนเข้าศูนย์ที่ใช้เปลี่ยนถ่ายชุดใหญ่+ซ่อมประมาณปีละ 4-5 วัน เคยเข้าศูนย์หนึ่งมีหัวหน้าช่างเดินมาดู ยังบอกเลยว่า เสียงเครื่องนิ่งมา เงียบมาก รถเข้าศูนย์มาซ่อมเป็น ร้อย ๆ คัน นาน ๆ จะเจอแบบนี้คันหนึ่ง

ผมเชื่อว่า เจ้าของกระทู้ก็รักรถมาก ๆ ครับ ถึงจดรายละเอียดได้ดีขนาดนี้ แต่ละคนมีวิธีดูแลรักษารถอาจจะแตกต่างกันบ้าง ผมชอบดูแลให้รถพร้อมใช้งานในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ถ้าอะไรที่สามารถทำให้รถมีความสมบูรณ์ ผมทำครับ รถคันใหม่ที่จะซื้อก็เหมือนกัน ใช้ในเมือง ใช้ Fully synthetic ก็จะเปลี่ยนทุกเดือนเหมือนกัน น้ำมันเกียร์ก็  10 เดือนถึงปี เปลี่ยนแบบล้างห้องเกียร์ ไม่ต้องตามคู่มือ แต่ขอเปลี่ยนก่อน แล้วค่าแรงเท่าไร อยากคิด คิดไป เพิ่มให้ ขออย่าให้ประกันขาด
ผมเน้นคุมค่าใช้จ่ายด้วยคับ แต่ ก็บำรุงรักษาเชิงป้องกัน ผมไม่ค่อยใส่อะไรที่นอกกรอบ เว้นแต่แปลงแล้วทนกว่าในระยะยาวคับ
อย่างเเต่งรถ ผมก็ไม่แต่ง ล้อผมกระทะล้อมายังไง ก็เป็นอย่างงั้นคับ
นิสสันมาร์ชนี่ค่าอะไหล่ กับค่าดูแลรักษารถนี่ถูกจริงๆครับคอนเฟริ์ม แต่อย่างที่คุณเจ้าของกระทู้บอกคืออะไหล่บางตัวนี่พังเร็วมาก อย่างโช๊คหลังเนี่ย พอ 30,000 โลปุ๊บพังเลย รถเพื่อนผมก็พังที่ระยะเท่านี้ และโช๊คประตูหลังก็พังเร็ว มอเตอร์ฉีดน้ำล้างกระจกก็พังเร็วจนน่าตกใจ เมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่น แต่พอเทียบกับราคาที่ไม่ได้แพงมากก็พอจะหยวนๆกันไป

ส่วนเรื่องการจดบันทึกค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ ผมว่าก็เป็นเรื่องปกตินะครับ เหมือนเราจดบันทึกรายรับ รายจ่ายต่างๆในชีวิตประจำวัน มันไม่เกี่ยวหรอกครับว่าการมีวินัยในเรื่องนี้ แปลว่าไม่รักรถ ผมคิดว่าดีซะอีกจะได้รู้ว่าค่าใช้จ่าย ในการดูแลรักษารถในมือเรา คิดเป็นกี่ % ในรายได้ของเรา คุ้มหรือไม่ ผมสนับสนุนการทำเช่นนี้ครับ

ใช่คับ พอมันไม่แพงก็เลยหยวนๆ ไป แต่ต้องดูด้วยว่ารุ่นไหน ถ้าเป็นปุ่ม start กับ แอร์ออโต้ ต้องระวังนิดนึงคับ ทั้งสองรุ่นอะไหล่จะสูงหน่อย (เป็นหมื่น) แต่ก็ถูกกว่าชาวบ้านเขาคับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 15, 2017, 11:47:00 โดย รถสีเขียว »

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ละเอียดยิบบบบบบครับ  ;D

ขอถามสองข้อที่ผมสงสัยไว้เป็นความรู้ครับ

1.ตอนที่เคลมคอยล์เย็น มันเกิดปัญหาอะไรหรอครับ (ตู้แอร์รั่ว หรือแอร์ไม่เย็นอะไรทำนองนั้นรึเปล่าครับ หรือว่าไม่ใช่) รถผมดันไม่มีเคลมนี่สิเลยแอบหวั่นนน

2.โช้คชุดใหม่ที่ใช้เป็นตัวไหนหรอครับ

ผมก็มั้วๆ เคลมไปคับ บอกว่าไม่เย็น (เวลาถอยหลัง) ซึ่งจริงๆ มันปกติ แต่เขาให้เคลมผมก็เลยเนียนๆ ไป

ส่วนโช๊คผมใช้ Kayaba Excel-G คับ ไม่ใช้โช๊ค sylphy เพราะมันสั้นกว่าเหมาะกับรถโหลด

ผมชอบเดิมๆ สูงๆ คับ
ถ้ารถใหญ่อย่างกระบะยกสูง หรือ PPV อย่างต่ำๆ 4 หมื่นบาทต่อปี
(แพงที่ค่ายาง ชุดนึงเกือบ 3 หมื่น ตีว่าสามปีเปลี่ยนชุดนึง)

ส่วนรถเก๋ง ผมว่า Eco car หรือ C-Segment ค่าใช้จ่ายไม่ค่อยต่างกันมาก
จะแพงกว่าคือค่าประกันต่อไป ค่ายาง ค่าแบต ที่ใช้ spec ใหญ่กว่า
กับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่กินมากกว่า
นอกนั้นอะไหล่สิ้นเปลืองราคาต่อชิ้นต่างกันน้อยมาก

ใช่คับ อย่าง Freed ยางแพงกว่า ประกันแพงกว่ามากๆ แต่แบตถูกมากเพราะใช้ 35 amp คับ
อันนี้คันที่บ้าน
mirage ของแฟน เข้าสู่ปีที่ 5 ขับทุกวัน วิ่ง 11x,xxx  เปลี่ยนถ่ายนำมันเครื่องสั่งเคราะห์แท้(ของศูนย์)+ใส่กรอง+อะไหล่ที่เกี่ยวข้อง 6 เดือนต่อครั้ง ครั้งละประมาณ ไม่เกิน 1500 บาท
ของที่ศูนย์เสนอให้ไม่จำเป็นไม่เอา จริงๆ ไม่เอาเลย ยกเว้นแถมให้  อะไหล่ มีเคลมครั้งเดียว เกี่ยวกับระบบน้ำมันที่มีการเรียกเข้าไปเปลี่ยนฟรี 
อื่นๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ไม่เคยซ่อมอะไร ไม่เคยเปลี่ยนอะไหล่  มีค่ายาง ตอนนี้ชุดที่สอง ที่เหลือก็เติมน้ำมันครับ 
สามเดือนที่ผ่านมา ใส่กล้อง 1729 บาท
ไปเที่ยวมาแล้วทั่วไทย ทน ประหยัด ไม่เคยกินข้าวลิง แต่ต่อไปก็คงจะไปคบ M2 แล้วครับ เห็นข้อมูลว่าประหยัดจริง

ค่าใช้จ่ายเข้าศูนย์  เฉลี่ย1500*10 =  15000
เปลี่ยนล้อทั้งชุดตอนเคลื่อนรถออกจากศูนย์ 100 เมตร =  22000
เปลี่ยนยางครั้งที่สอง 3200*4    = 12800
มีใส่ สปอยเลอร์ 3500

หลักๆ มีเท่านี้ครับ เพราะอะไหล่อื่นๆ ไม่เคยเปลี่ยน
ผมอยากใช้ mirage เหมือนกันคับ แต่ผมเน้นทำข้างนอกพอหมดประกัน เลยมาจับนิสสันและตอนนั้น mirage ยังไม่ออกมา เลยต้องมาเลือกนิสสันคับ
ผมดูว่าไม่เยอะนะครับ   หลายส่วนเป็นค่ากิเลสของเจ้าของ

ผมก็เช่นกัน  ถ้าไม่มีกิเลส  ใช้น้อยมาก  เจ้า  t 31  ที่ใช้มา 6 ปี  ไม่ได้เคลมอะไรเลย  เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ตามกำหนด (ผมใช้บริการอู่ โมบิล) ครั้งละสองพันกว่าบาท  (น้ำมันเกียร์เปลี่ยนที่ 0 สี่หมื่นโล ครั้ง)

  ยางสองชุด  ....  กับความอยาก  ฟร้อนท์ + เบสบ็อก..เปลี่ยนโช้คหลัง.แค่นั้น 
:D
ของผม vios 2012  ที่เปลี่ยนมีแค่บุชปีกนก 1 ชิ้น  ที่เหลือก็เปลี่ยนตามเวลาเข้าศูนย์ฯ  และค่าล้างรถ 140 บาท  2 อาทิตย์ล้างที

   ผมมองว่า รถที่ราคาถูก อะไหล่ถูก  ต้องดูด้วยว่ามันใช้ได้นานมั้ย   พวกอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ บางเจ้าอย่าง ซัมมิต ทำแล้วก็รุ่ง  บางเจ้าอย่าง xxxx (ดูรายชื่อได้ในหุ้น)  ทำแล้วก็ร่วง โดนฟ้องกระจายเรื่อง defect
ผมว่านิสสันแปลกตรง ใช้ผู้ผลิตที่ด้อยกว่าชาวบ้านเขา หวยมันเลยห่วยและพังง่าย แต่ราคาอะไหล่ก็ถูกตาม เพราะบางชิ้นมันมาจากอินเดีย อินโดคับ เช่น โช๊คประตูหลัง
  ค่าดูแลเจ้ามาร์ชหรืออิโคคาร์ระดับนี้ เค้าทำมาูถูกมากนะครับ  ไม่ไ่ด้แพงเลย    ถ้าขนาดนี้ยังรับกันไม่ได้ไม่เข้าศูนย์ หรือมีปัญหากับค่าบริการค่าดูแลรถ    ถ้าถึงขั้นนี้ก็ไม่ควรมีรถแล้วล่ะเพราะว่ายี่ห้ออื่น รุ่นอื่น ๆี่ใหญ่กว่านี้ก็มีค่าดูแลแพงกว่านี้ทั้งนั้นล่ะ       
ใช่คับ ถ้าแบบนี้ไม่ควรมีรถแล้ว

แต่เจอในคลับรถเล็กๆ เช่น celerio และ march บางคนเขาไม่พร้อมจ่ายจริงๆ คับ :'(
เช่น น้ำมันเกียร์ CVT ส่วนมากคู่มือจะบอกแค่ตรวจเช็ค แต่ศูนย์ก็จะเสนอเปลี่ยนตอน 4 หมื่นคับ
บางคนเขาไม่ยอมคับ เพราะช่วง 4 หมื่นรายการซ่อมเยอะ (5 พันขึ้น) เขาก็จะตัดน้ำมันเกียร์ CVT ก่อนอย่างแรกเลย
สงสารรถและรู้ว่าอนาคตต้องพังแน่ๆ ก็เศร้าใจคับ เสียดายรถมาก


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 15, 2017, 17:57:47 โดย รถสีเขียว »

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
บางทีก็คิดนะว่าซื้อรถมาทำไม ใช้จ่ายแต่ละเดือน รวมค่าน้ำมัน เกือบเดือนละ 3 หมื่น นั่งแท๊กซี่ทุกวันยังถูกกว่านี้เลย

ปล. ใช้ซืตี้มา 6 ปี ถือว่าไม่จุกจิกเลยครับ ไม่มีอะไรเสียเลย มีค่าใช้จ่ายแค่เปลี่ยนอุปกรณ์ตามระยะทางที่ศูนย์แนะนำเท่านั้น

ไม่รวมยาง กับ ที่ปัดน้ำฝน เพราะขึ้นอยู่ที่การใช้งานเป้นหลัก

ออฟไลน์ frosty

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 91
คัน CRV gen 3 2.4 AWD
คร่าวๆ ต่อปี
1. ค่าภาษี + พรบ + ประกัน = เตรียมไว้ 25000
2. ค่าซ่อมบำรุง = เฉลี่ย 12000
3. ค่ายาง = 24000
4. ค่าน้ำมัน = 2600 (ต่อเดือน) >>> 31200

รวมแล้ว ปีละ = 92200
ถ้าตัดค่าน้ำมันออกไปเหลือ 61000
ถ้าตัดค่ายางออก = 37000

ออฟไลน์ Tan Int

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,709
    • อีเมล์
ก็ถือว่าไม่เลวเลยนะครับ เท่าที่รถเล็กคันหนึ่งควรเป็น
ใช้งานน้อยดีครับ(แต่ถ้าใช้ในเมืองเป็นหลักก็ถือว่าไม่น้อยเท่าไหร่) รถแม่ผมปีแรกไปแล้ว 65000 km 55555
1994 Civic EH9 (4dr) VTi (Made in Japan)
1998 Civic EK 1.6VTi-E Special Edition
2011 Corolla Altis E CNG (Come back)

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ก็ถือว่าไม่เลวเลยนะครับ เท่าที่รถเล็กคันหนึ่งควรเป็น
ใช้งานน้อยดีครับ(แต่ถ้าใช้ในเมืองเป็นหลักก็ถือว่าไม่น้อยเท่าไหร่) รถแม่ผมปีแรกไปแล้ว 65000 km 55555
คับ วิ่งในชานเมืองเป็นหลักคับ
คัน CRV gen 3 2.4 AWD
คร่าวๆ ต่อปี
1. ค่าภาษี + พรบ + ประกัน = เตรียมไว้ 25000
2. ค่าซ่อมบำรุง = เฉลี่ย 12000
3. ค่ายาง = 24000
4. ค่าน้ำมัน = 2600 (ต่อเดือน) >>> 31200

รวมแล้ว ปีละ = 92200
ถ้าตัดค่าน้ำมันออกไปเหลือ 61000
ถ้าตัดค่ายางออก = 37000
เยอะเหมือนกันนะคับ รถใหญ่แพงกว่ารถเล็กพอควรเลย
บางทีก็คิดนะว่าซื้อรถมาทำไม ใช้จ่ายแต่ละเดือน รวมค่าน้ำมัน เกือบเดือนละ 3 หมื่น นั่งแท๊กซี่ทุกวันยังถูกกว่านี้เลย

ปล. ใช้ซืตี้มา 6 ปี ถือว่าไม่จุกจิกเลยครับ ไม่มีอะไรเสียเลย มีค่าใช้จ่ายแค่เปลี่ยนอุปกรณ์ตามระยะทางที่ศูนย์แนะนำเท่านั้น

ไม่รวมยาง กับ ที่ปัดน้ำฝน เพราะขึ้นอยู่ที่การใช้งานเป้นหลัก
ฮอนด้าไม่จุกจิกคับ

ออฟไลน์ koko86

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,593
    • อีเมล์
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
ชื่นชมว่าเก็บรายละเอียดได้มากจริงๆ

ออฟไลน์ ttcl

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 739
ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลครับ เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะซื้อรถคันแรกในระดับนี้มาใช้ เผื่อมาอ่านจะได้พอจะประมาณค่าใช้จ่ายได้

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลครับ เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะซื้อรถคันแรกในระดับนี้มาใช้ เผื่อมาอ่านจะได้พอจะประมาณค่าใช้จ่ายได้
ตั้งใจให้ผู้ใช้รถหน้าใหม่ คิดได้ว่าตัวเองพร้อมไหมที่จะมีรถคับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
ชื่นชมว่าเก็บรายละเอียดได้มากจริงๆ
ขอบคุณคับ

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
ละเอียดมากครับ สมัยก่อนที่บ้านใช้ Sunny B14 แร็คพวงมาลัยเริ่มซึม ขายรถทั้งคันไปเลย 55555

(แต่ซ่อมอย่างอื่นไปหลายตังก์ก่อนหน้าแล้ว)

ออฟไลน์ Hein9er

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 118
ผม cx5 diesel โดนอัดน่วมอยู่ครับ 55555 วิ่งไป 11x,xxx ก่อนหน้าวิ่งน้อยมากจอดสะส่วนใหญ่ แต่ตั้งแต่ต้นปีก่อนวิ่งเยอะเลย
เฉลี่ยตกเดือนละ 5,500-6,000 โลอย่างต่ำ ปีหนึ่งก็ประมาณ 70,000-80,000 ครับ วิ่งจะเป็นแท็กซี่เลย

ค่าใช้จ่ายผมค่อนข้างหนัก เพราะวิ่งค่อนข้างเยอะ พวกน้ำมันเครื่องเปลี่ยนที 5.1 ลิตร ก็โดนไป 1,500 กว่า
ปีหนึ่งก็เปลี่ยน 7-8 รอบ ทุกๆหมื่นโลเปลี่ยนครับ ก็ประมาณ 10,500
ยางขอบ 19 235/55 ของ yoko g055 โดนไปประมาณ 31,000 ซึ่งถูกที่สุดที่ผมหาได้ ดูเทียบถึงคุณภาพด้วยนะครับ
เปลี่ยนตอน 60,xxx โดยประมาณ ค่อนปลายปีก่อน
(นี้ยังใช้ชุดเดิมอยู่ เพราะมันยังวิ่งได้ไม่มีปัญหา มีหอนบ้าง กับเริ่มไม่เกาะ คาดว่าเร็วๆนี้อาจต้องโดนอีกแล้ว แต่ดอกยังแน่นอยู่รอดูกันไป)
แบตตั้งแต่ใช้มาโดนไป 2 ลูก ของศูนย์ด้วย หัวแตกมาก ลูกละ 8,700 รวม2 ลูกก็ 17,400
เสื่อมง่ายมากขนาดปิด i-stop สะส่วนใหญ่นะครับ
ลูกแรกเปลี่ยน เมษาปีที่แล้ว ลูกสองโดนเดือนมีนาปีนี้เลย
(เลยระยะประกันแล้ว 1 ปี หรือ 20,000 โลนะครับถ้าจำไม่ผิด ผมเลยตรงระยะทางนี้แหละ) รอบหน้าจะเปลี่ยนข้างนอกละ
ซึ่งนี้ยังไม่รวมพวก กรองน้ำมันเครื่อง กรองอากาศ ผ้าเบรคหน้า-หลัง ที่เคยเปลี่ยนไปชุดหนึ่ง รวมไปถึงน้ำมันเกียร์ด้วย เพราะจำราคาไม่ได้

ก็ตั้งแต่ มี.ค. ปีที่แล้วถึงปัจจุบัน  ประมาณ 1 ปี 3 เดือน คาดคร่าวๆแล้วน่าจะมีเสียไปแล้ว 70,000-80,000
รวมประกัน ต่อภาษีต่างๆ ก็คงมีใกล้ๆ 100,000 ละครับ แต่ยอมใจครับ ผมใช้รถวิ่งทุกวัน น้อยมากที่จะมีวันที่รถหยุด แต่รถยังวิ่งดีมาก
เครื่องแน่นอยู่เลยครับ ช่วงล่างยังดีอยู่ แต่ปีกนกน่าจะได้เวลาละครับ ตามเวลาของมันแสนกว่าๆ กับเริ่มมีเสียง

จะสังเกตุได้ว่า การใช้รถมาก-น้อยมีผลอย่างยิ่ง ซึ่งถ้าผมใช้รถน้อยกว่านี้ หรือเยี่ยงคนปกติกว่านี้ ค่าใช้จ่ายก็น่าจะน้อยกว่านี้เยอะมากครับ
ปล.ผมขอไม่นับค่าน้ำมันนะครับ แต่ถ้าให้ตีออกมาคร่าวๆต่ำสุดสูงสุดต่อเดือนคือ 8,700-12,000
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 15, 2017, 22:29:32 โดย Hein9er »

ออฟไลน์ sayuno

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 102
ละเอียดยิบ ถูกใจจัง ชะตากรรมเดียวกันเลือกมาแล้วจ่ายต่อไปครับ

ออฟไลน์ kanomcake

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 46
ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับข้อมูลดีๆ  :-*

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ละเอียดมากครับ สมัยก่อนที่บ้านใช้ Sunny B14 แร็คพวงมาลัยเริ่มซึม ขายรถทั้งคันไปเลย 55555

(แต่ซ่อมอย่างอื่นไปหลายตังก์ก่อนหน้าแล้ว)
ผมก็ขายสามห่วงไปซื้อมาร์ชเพราะแลคเริ่มซึมคับ ขี้เกียจซ่อมแล้ว
กับรถมันกินแบบยุค 90 น้ำมันราคาสูงลำบากเลยชิงขายคับ
ผม cx5 diesel โดนอัดน่วมอยู่ครับ 55555 วิ่งไป 11x,xxx ก่อนหน้าวิ่งน้อยมากจอดสะส่วนใหญ่ แต่ตั้งแต่ต้นปีก่อนวิ่งเยอะเลย
เฉลี่ยตกเดือนละ 5,500-6,000 โลอย่างต่ำ ปีหนึ่งก็ประมาณ 70,000-80,000 ครับ วิ่งจะเป็นแท็กซี่เลย

ค่าใช้จ่ายผมค่อนข้างหนัก เพราะวิ่งค่อนข้างเยอะ พวกน้ำมันเครื่องเปลี่ยนที 5.1 ลิตร ก็โดนไป 1,500 กว่า
ปีหนึ่งก็เปลี่ยน 7-8 รอบ ทุกๆหมื่นโลเปลี่ยนครับ ก็ประมาณ 10,500
ยางขอบ 19 235/55 ของ yoko g055 โดนไปประมาณ 31,000 ซึ่งถูกที่สุดที่ผมหาได้ ดูเทียบถึงคุณภาพด้วยนะครับ
เปลี่ยนตอน 60,xxx โดยประมาณ ค่อนปลายปีก่อน
(นี้ยังใช้ชุดเดิมอยู่ เพราะมันยังวิ่งได้ไม่มีปัญหา มีหอนบ้าง กับเริ่มไม่เกาะ คาดว่าเร็วๆนี้อาจต้องโดนอีกแล้ว แต่ดอกยังแน่นอยู่รอดูกันไป)
แบตตั้งแต่ใช้มาโดนไป 2 ลูก ของศูนย์ด้วย หัวแตกมาก ลูกละ 8,700 รวม2 ลูกก็ 17,400
เสื่อมง่ายมากขนาดปิด i-stop สะส่วนใหญ่นะครับ
ลูกแรกเปลี่ยน เมษาปีที่แล้ว ลูกสองโดนเดือนมีนาปีนี้เลย
(เลยระยะประกันแล้ว 1 ปี หรือ 20,000 โลนะครับถ้าจำไม่ผิด ผมเลยตรงระยะทางนี้แหละ) รอบหน้าจะเปลี่ยนข้างนอกละ
ซึ่งนี้ยังไม่รวมพวก กรองน้ำมันเครื่อง กรองอากาศ ผ้าเบรคหน้า-หลัง ที่เคยเปลี่ยนไปชุดหนึ่ง รวมไปถึงน้ำมันเกียร์ด้วย เพราะจำราคาไม่ได้

ก็ตั้งแต่ มี.ค. ปีที่แล้วถึงปัจจุบัน  ประมาณ 1 ปี 3 เดือน คาดคร่าวๆแล้วน่าจะมีเสียไปแล้ว 70,000-80,000
รวมประกัน ต่อภาษีต่างๆ ก็คงมีใกล้ๆ 100,000 ละครับ แต่ยอมใจครับ ผมใช้รถวิ่งทุกวัน น้อยมากที่จะมีวันที่รถหยุด แต่รถยังวิ่งดีมาก
เครื่องแน่นอยู่เลยครับ ช่วงล่างยังดีอยู่ แต่ปีกนกน่าจะได้เวลาละครับ ตามเวลาของมันแสนกว่าๆ กับเริ่มมีเสียง

จะสังเกตุได้ว่า การใช้รถมาก-น้อยมีผลอย่างยิ่ง ซึ่งถ้าผมใช้รถน้อยกว่านี้ หรือเยี่ยงคนปกติกว่านี้ ค่าใช้จ่ายก็น่าจะน้อยกว่านี้เยอะมากครับ
ปล.ผมขอไม่นับค่าน้ำมันนะครับ แต่ถ้าให้ตีออกมาคร่าวๆต่ำสุดสูงสุดต่อเดือนคือ 8,700-12,000

ค่าดูแลตามราคารถเลยคับ แต่ผมว่าถ้ามันวิ่งงานให้เราได้ก็คุ้มคับ
ละเอียดยิบ ถูกใจจัง ชะตากรรมเดียวกันเลือกมาแล้วจ่ายต่อไปครับ
ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับข้อมูลดีๆ  :-*

ขอบคุณคับ ตอนนี้คงต้องใช่อีก สามปี รอเจ้า Daihatsu คับ